SlideShare a Scribd company logo
1 of 14
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน...เศรษฐศาสตร์
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว มธุรดา กันทาหลี เลขที่ 42 ม.6/3
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม … นางสาว มธุรดา กันทาหลี เลขที่ 42 ม.6/3
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เศรษฐศาสตร์
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Economic
ประเภทโครงงานโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อนการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว มธุรดา กันทาหลี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน26 มกราคม – 31 มกราคม 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เศรษฐศาสตร์ หมายถึง วิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์และสังคมในการตัดสินใจเลือกใช้
ทรัพยากรการผลิตที่มีอยู่อย่างจํากัดเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆ สนองความต้องการของมนุษย์ที่มี
ไม่จํากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รากศัพท์มาจาก คําว่า "Oikonomikos" แปลว่า "การบริหาร
จัดการของครัวเรือน"
เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวสําหรับเราทุกคน เพียงแต่ทุกวันนี้เราเลือกที่จะมองข้ามมันไป
และปล่อยมันไปตามกลไกราคาโดยไม่สังเกตหรือขัดข้องใจกับผลที่เกิดขึ้นต่างๆในเศรษฐกิจปัจจุบัน
ดังนั้นผู้จัดทําจึงได้สนใจนําหัวข้อนี้มาเป็นสื่อเพื่อการศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้และประโยชน์
ที่จะได้จากการศึกษาสื่อนี้และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจําวัน
3
วัตถุประสงค์
1.เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสาตร์แก่ผู้ศึกษา
2.เพื่อให้ผู้ศึกษานําความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินชีวิตได้
3.เพื่อสามารถนําสื่อนี้ไปใช้เป็นการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ได้
ขอบเขตโครงงาน
1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์
2.ขอบข่ายของวิชาเศรษฐศาสตร์
3.กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
4.รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ
5.การเงิน การคลัง การธนาคาร
6.การธนาคารเบื้องต้น
7.การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
หลักการและทฤษฎี
1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาตร์ (Economic) = วิชาการแขนงหนึ่งในสาขาสังคมศาสตร์ ที่มุ่งศึกษาพฤติกรรมของ
คนในสังคมเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
รากศัพท์มาจาก คําว่า "Oikonomikos" แปลว่า "การบริหารจัดการของครัวเรือน"
เศรษฐศาสตร์ หมายถึง วิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์และสังคมในการตัดสินใจเลือกใช้
ทรัพยากรการผลิตที่มีอยู่อย่างจากัดเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆ สนองความต้องการของมนุษย์ที่มี
ไม่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ขอบข่ายของวิชาเศรษฐศาสตร์
1) เศรษฐศาสตร์บริสุทธิ์
เป็นการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่มุ่งอธิบายถึงปรากฏการณ์ทาง เศรษฐกิจและแสดงให้เห็นถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล หรือ ระหว่างปัจจัยหรือสาเหตุกับผลลัพธ์ เช่น ถ้าสินค้าชนิดหนึ่ง
มีราคาสูง ผู้ซื้อจะตัดสินใจอย่างไร โดยไม่คํานึงถึงว่าการตัดสิน ใจอย่างไร โดยไม่คํานึงว่าการ
ตัดสินใจนั้นเป็นที่น่า พึงพอใจของสังคมหรือไม่ เป็นต้น
2 ) เศรษฐศาสตร์นโยบาย
4
เป็นการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่ให้ความสําคัญกับความพึงพอใจ ของสังคมว่า การดําเนิน
กิจกรรมหรือการตัดสินใจหนึ่งๆ เป็นสิ่งที่ควรกระทําหรือไม่ เช่น ถ้าสินค้าชนิดหนึ่งมีราคาสูง ผู้ซื้อ
ควรจะตัดสินใจอย่างไร หรือรัฐบาลควรจะดําเนินการอย่างไร เป็นต้น ดังนั้น สามารถจําแนก
ขอบข่ายออกได้เป็น ๒ แนวทาง ดังนี้
1. เศรษฐศาสตร์จุลภาค เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจของบุคคล ครัวเรือน เป็นการศึกษา
เฉพาะส่วนย่อย ๆ ในระยะเวลาหนึ่ง ๆ
2. เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับรวมหรือในระดับประเทศ
เช่น รายได้ประชาชาติ อัตราการจ้างงาน การธนาคาร การคลัง
3. กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
1. การผลิต (Production) เป็นการสร้างสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์โดยให้
เกิด ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ เช่น ประโยชน์จากรูปร่าง ประโยชน์จากสถานที่ ประโยชน์จากเวลา
ประโยชน์จากกรรมสิทธิ์
ปัจจัยการผลิต
* ที่ดิน หมายถึง ที่ดินและทรัพยากรที่อยู่ในดินและเหนือพื้นดิน ค่าตอบแทนคือ ค่าเช่า
* แรงงาน หมายถึง แรงงานที่เกิดจากกําลังกายและสติปัญญาของมนุษย์ค่าตอบแทนคือ ค่าจ้าง หรือ
เงินเดือน
* ทุน หมายถึง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ร่วมกับแรงงาน เช่น เครื่องจักร ค่าตอบแทนคือ ดอกเบี้ย
* ผู้ประกอบการ หมายถึง ผู้ที่นําเอาปัจจัยการผลิต มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ ค่าตอบแทนคือ
กาไร
ขั้นการผลิต
* การผลิตขั้นปฐมภูมิ เป็นการผลิตขั้นแรกโดยนําทรัพยากรธรรมชาติ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยใช้
แรงงาน เช่น การประมง การเกษตร
5
* การผลิตชั้นทุติยภูมิ เป็นการนําเอาผลผลิตขั้นต้น มาแปรสภาพเป็นสินค้าได้แก่ หัตถกรรม และ
อุตสาหกรรม
* การผลิตชั้นตติยภูมิ เป็นการผลิตในรูปบริการ เช่น การขนส่ง การท่องเที่ยว การประกันภัย
การกําหนดราคาและปริมาณการผลิต ผู้ผลิต อาจคาดคะเนผลผลิตจากการคาดคะเนอุปสงค์และ
อุปทานของสินค้าในตลาด
อุปสงค์ (Demand) เป็นความต้องการซื้อสินค้าและบริการ ขึ้นกับราคาสินค้า
กฎทั่วไปของอุปสงค์คือ อุปสงค์แปรผันโดยอ้อมหรือผูกพันกับราคาสินค้าและบริการ (สินค้าที่มี
ความจําเป็นต่อการดํารงชีวิต เป็นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นของอุปสงค์น้อย)
อุปทาน (Supply) เป็นปริมาณความต้องการที่จะขายสินค้าและบริการ ซึ่งจะขึ้นกับราคาของสินค้าและ
บริการ
กฎทั่วไปของอุปทาน คือ อุปทานจะแปรผันโดยตรงกับราคาสินค้าและบริการ
ราคาดุลยภาพและปริมาณ ดุลยภาพ
ราคาสินค้าแพงนั้น เกิดขึ้นเมื่อ อุปสงค์มากกว่าอุปทาน (ภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน)
ราคาสินค้าถูกลง เกิดขึ้นเมื่อ อุปทานมากกว่าอุปสงค์ (ภาวะอุปทานส่วนเกิน)
รูปเส้นของอุปสงค์และอุปทาน
2. การบริโภค (Consumption) หมายถึงการใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการ
ชนิด ของการบริโภค
2.1
2.2
สินค้าคงทน ได้แก่ สินค้าที่เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี เข่น ปากกา นาฬิกา กระเป๋ า
สินค้า ไม่คงทน ได้แก่ สินค้าที่ใช้แล้วหมดสิ้นไปภายใน 1 ปี เช่น อาหาร นํ้ามัน
เชื้อเพลิง กระดาษ ถ้ารายได้ตํ่า ความสามารถในการบริโภคจะถูกจํากัดลง และถ้ามี
รายได้สูง ความสามารถในการบริโภคจะสูงขึ้น
3. การกระจาย (Distribution) หมายถึงการจํานวนจ่ายแจกสินค้าและบริการ แบ่งเป็น
3.1
3.2
การกระจายสินค้าและบริการ ไปสู่ผู้บริโภค
การกระจายรายได้เป็นการกระจายผลตอบแทนไปสู่ปัจจัยการผลิต
6
4. การแลกเปลี่ยน (Exchange) หมายถึง การนําสินค้าและบริการไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการ
อื่น หรือแลกเปลี่ยนกับสื่อกลาง จึงแบ่งออกเป็น
4.1
4.2
4.3
การแลกเปลี่ยนสินค้าต่อ สินค้า
การแลกเปลี่ยนสินค้าต่อเงินตราหรือใช้สื่อกลาง
การแลกเปลี่ยน แบบใช้สินเชื่อ เช่น เช็ค ตั๋วแลกเงิน ดราฟท์
4.รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม
 เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ทรัพย์สินและเป็นผู้ดําเนินการผลิต
 มีการแข่งขันกันในด้านคุณภาพ ราคา การให้บริการ
 กิจกรรมทางเศรษฐกิจดําเนินผ่านกลไกราคา
ข้อดี 1. เอกชนมีสิทธิ์เสรีภาพในทางเศรษฐกิจ
2. สินค้ามีการพัฒนา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดี
ข้อเสีย 1. การกระจายรายได้ไม่เท่าเทียมกัน
2. ทรัพยากรถูกนํามาใช้ฟุ่มเฟือย
2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
 รัฐมีบทบาทในการวางแผนและดําเนิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
 เอกชนยังเป็นเจ้าของปัจจัยบางประเภท
 มีการวางแผนด้านเศรษฐกิจจากส่วนกลาง
ข้อดี 1. ความยุติธรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น
2. ฐานะของประชาชนไม่แตกต่างกัน
ข้อเสีย 1. รัฐรับภาระทางด้านสวัสดิการ
2. เอกชนถูกจํากัดสิทธิเสรีภาพในการดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
3. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์
 รัฐเป็นเจ้าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและปัจจัยการผลิต
 เอกชนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกอาชีพ
 รัฐควบคุมการผลิตอย่างสมบูรณ์ มีการวางแผนจากผลิตจากส่วนกลาง
ข้อดี 1. ควบคุมการใช้ทรัพยากรได้ดี
2. เอกชนถูกจํากัดสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ
7
4. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม
 กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นของเอกชน
 รัฐคงจัดสรรสวัสดิการให้ประชาชน
 มีการแข่งขันด้านคุณภาพ ราคา บริการ
 รัฐเข้าดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อส่วนรวม
 ใช้กลไกราคาร่วมกับการวางแผนจากส่วนกลาง
ข้อดี 1. เอกชนมีเสรีภาพ
2. รัฐเข้าคุ้มครองผลประโยชน์ไว้กับประเทศและสังคม
ข้อเสีย 1. รัฐรับภาระสวัสดิการต่าง ๆ
5.การเงิน การคลัง การธนาคาร
เงิน คือ สิ่งใด ๆ ก็ตามที่สังคมยอมรับใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
หน้าที่ของเงิน
1.
2.
3.
4.
เป็นเครื่องวัดมูลค่า
เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ****** เป็นหน้าที่ที่สําคัญที่สุด
เป็นมาตรฐานในการชําระหนี้ในอนาคต
เป็นเครื่องรักษามูลค่า
ชนิดของเงิน
1.
2.
3.
เงินเหรียญกษาปณ์
เงินธนบัตร
เงินฝากกระแสรายวันหรือเผื่อเรียก
ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ (รวมทั้งประเทศไทย) หันมาใช้มาตรฐานเงินตราที่เรียกว่ามาตราผสมภายใต้
กองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ โดยกําหนดค่าเสมอภาค เทียบกับทองคํา และเงินดอลลาร์
ค่าของเงิน
1.
2.
ค่าภายนอก เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น เช่น 42 บาทเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าภายใน เป็นอํานาจในการซื้อสินค้าของเงิน 1 หน่วย ถ้า 1 หน่วย ซื้อสินค้าได้มาก แสดงว่ามีค่ามาก
(ค่าของเงินจะแปรผกผันกับราคาสินค้า)
***** ภาวะการเงินที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ ได้แก่
8
1. ภาวะเงินเฟ้ อ คือ ภาวะที่เงินมีอํานาจการซื้อลดลง ปริมาณเงินเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น
ผลกระทบ - ผู้เสียเปรียบคือ เจ้าหนี้ และผู้มีรายได้แน่นอน
- ผู้ได้เปรียบคือ ลูกหนี้ และนักธุรกิจ
วิธีแก้ปัญหา - ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และขายพันธบัตรรัฐบาล
- ใช้นโยบายงบประมาณเกินดุล ด้วยการเพิ่มภาษีอากร
2. ภาวะเงินฝืด คือ ภาวะที่มีเงินมีอํานาจซื้อเพิ่มขึ้น ปริมาณเงินลดลง ราคาสินค้าและบริการถูกลง แต่ไม่มี
คนมาซื้อ
ผลกระทบ - ผู้เสียเปรียบคือ ลูกหนี้ และนักธุรกิจ
- ผู้ได้เปรียบคือ เจ้าหนี้ และผู้มีรายได้แน่นอน
วิธี แก้ปัญหา- ลดอัตราดอกเบี้ย และซื้อพันธบัตรรัฐบาล
- ใช้นโยบายงบประมาณขาดดุล ด้วยการลดหนี้ และเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐ
3. ภาวะเงินตึง คือ ภาวะที่กระแสการเงินชะงักชะงัน มีความต้องการเงินเพื่อลงทุนเพิ่มแต่ปริมาณเงิน
น้อย
การแก้ปัญหา คือ เพิ่มปริมาณเงินหรือกู้เงินมาหมุนเวียนเพิ่มอาจนําไปสู่ภาวะเงินเฟ้อหรือเงิน ฝืดก็
ได้
6. การธนาคารเบื้องต้น
เป็นการศึกษาบทบาทของธนาคาร เช่น
1. ธนาคารกลาง คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ทําหน้าที่ควบคุมนโยบายและปริมาณเงิน
ภายในประเทศ เป็นนายธนาคารกลางของธนาคารพาณิชย์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
รักษาทุนสํารองระหว่างประเทศ และออกพันธบัตร
2. ธนาคารพาณิชย์ ทําหน้าที่รับฝากเงิน ให้บริการโอนเงิน ให้เช่าตู้นิรภัย
3. ธนาคารพิเศษ เช่น
- ธนาคารออมสิน เช่น ส่งเสริมการออกทรัพย์รับฝากเงินจากประชาชน ให้รัฐกู้ไปใช้
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส่งเสริมการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมการพัฒนาการเกษตร ให้เกษตรกู้ยืม
9
4. สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
และบริษัทหลักทรัพย์, บริษัทเครดิตฟองซ์เอร์, สหกรณ์การเกษตร, สหกรณ์ออมทรัพย์, โรงรับจํานํา
การคลัง เป็นการศึกษา เรื่องรายรับรายจ่ายของรัฐบาล
ขอบเขตของการศึกษาการคลัง
1. รายรับรายจ่ายของรัฐบาล
2. งบประมาณแผ่นดิน
3. นโยบายการคลังและระบบภาษี
4. หนี้สาธารณะ
รายรับและรายจ่ายของรัฐบาล
1. รายรับรัฐบาล มาจากรายได้ในรูปภาษีอากร โดยเก็บจากผู้มีเงินได้(ภาษีทางตรง) เก็บจากสินค้า
และบริการ (ภาษีทางอ้อม), การขายสิ่งของและบริการ รายได้จากรัฐพาณิชย์เงินกู้(หนี้สาธารณะ)
และเงินคงคลัง
2. รายจ่ายรัฐบาล รัฐใช้เงินในรูปของเงิน งบประมาณ แจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ
***** งบประมาณแผ่นดิน
เป็นแผนการใช้จ่ายของรัฐในแต่ละปี ปีงบประมาณเริ่มเมื่อ 1 ต.ค. จนถึง 30 ก.ย. ของปีถัดไป
เศรษฐกิจระหว่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศ เป็นการนําสินค้าและบริการไปแลกเปลี่ยนกับอีกประเทศหนึ่ง เนื่องจาก
ความแตกต่างกันทางทรัพยากรและความสามารถในการผลิต
นโยบายการค้า
1. การค้าแบบเสรี ไม่มีการเก็บภาษีคุ้มกัน, ไม่ให้สิทธิพิเศษ ไม่มีข้อจํากัดทางการค้า
2. การค้าแบบคุ้มกัน มีการตั้งกําแพงภาษี, ไม่ให้สิทธิพิเศษ, ห้ามนําเข้า ห้ามส่งสินค้าบางชนิดออกให้
อุดหนุนเพื่อผลิตแข่งกับต่างประเทศ
10
ดุลการค้า คือ การเปรียบเทียบมูลค่าสินค้าขาออกและมูลค่าสินค้าขาเข้า ในรอบ 1 ปี แบ่งเป็น
ดุลการค้าขาดดุล, ดุลการค้าเกินดุล และดุลการค้าสมดุล
ลักษณะ การค้าระหว่างประเทศของไทย
1. ใช้นโยบายการค้าแบบคุ้มกัน
2. ใช้ระบบภาษีศุลกากรพิกัดอัตราเดียว
3. ประเทศคู่ค้าสําคัญคือ ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, ซาอุดิอาระเบีย
4. สินค้าออก ส่วนใหญ่คือ สินค้าจากภาคเกษตรกรรม
5. สินค้าเข้า เป็นสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร และเชื้อเพลิง
การแก้ไขดุลการชาระเงินขาดดุล
1. ลดการส่งสินค้าเข้า
2. ชักชวนชาวต่างชาติมาท่องเที่ยว
3. ส่งเสริมการส่งออกมากขึ้น
4. ลดบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย
บัญชีดุลการค้าชาระเงินระหว่างประเทศ
1. บัญชีเดินสะพัด เป็นบัญชีรวมดุลการค้าและดุลบริการ
2. บัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นการเคลื่อนย้ายทุนระหว่างประเทศรวมถึงเงินกู้
3. บัญชีเงินโอนและเงินบริจาค เป็นเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ
4. บัญชีทุนสํารองระหว่างประเทศ เป็นบัญชีบอกจํานวนเงินสํารองระหว่างประเทศ และชี้ให้เห็น
ฐานะของดุลการชําระเงินของประเทศ
ข้อเปรียบเทียบระหว่างดุลการค้ากับดุลการชาระเงิน
1. ดุลการชําระเงินนั้นรวมรายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับประเทศทั้งหมดทั้งที่เป็นรายรับ รายจ่ายจากสินค้า
และบริการ เงินลงทุน เงินกู้เงินบริจาค
2. ดุลการค้า หมายถึง ส่วนต่างของสินค้าเข้าและสินค้าออก โดยดุลการค้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ
ดุลการชําระเงิน
3. บางประเทศอาจมีการค้าขาดดุล แต่มีดุลการชําระเงินเกินดุลก็ได้
11
ทุนสารองระหว่างประเทศ คือ ทรัพย์สินของประเทศที่เป็นทองคําและเงินตราต่างประเทศสกุลสําคัญ
เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ หรือปอนด์สเตอริง เงินสํารองระหว่างประเทศมีประโยชน์คือ
1. ใช้เป็นทุนสํารองเงินตราส่วนหนึ่ง
2. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนสําหรับชําระเงินให้กับต่างประเทศ
3. ใช้เป็นทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราประเทศส่วนหนึ่ง เพื่อให้มีเสถียรภาพมั่นคง
การลงทุนระหว่างประเทศ
เป็นการที่รัฐบาลหรือเอกชนของประเทศหนึ่งนําเงินไปลงทุนดําเนินธุรกิจ เพื่อแสวงหาผลกําไร
สาเหตุของการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อต้องการขยายการผลิตและการลดต้นทุน
ผลที่เกิด
1. ประเทศกําลังพัฒนา ได้เรียนรู้วิทยาการ เทคโนโลยีใหม่ ๆ
2. ประเทศกําลังพัฒนา มีการว่าจ้างงานมากขึ้น
3. เกิดการเอาเปรียบประเทศที่รับการลงทุน
4. อาจก่อความขัดแย้งระหว่างประเทศได้
7.การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
1. สหภาพยุโรป (Economic Union)
สมาชิก 15 ประเทศ คือ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน อิตาลี ลักแซมเบอร์ก เนเธอ
แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก สาธารณรัฐไอร์แลนด์ กรีซ สเปน โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และ
แคนาดา จุดประสงค์การก่อตั้ง เพื่อพัฒนาและยกมาตรฐานการครองชีพ ยกข้อจํากัดทางการค้าในกลุ่ม
สมาชิกและป้องกันประเทศนอกกลุ่ม
2. สมาคมประชาชาติเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Association Southeast Asean Nations)
ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม พม่า และลาว
จุดประสงค์เพื่อการร่วมมือกันด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม มีการคัดเลือกอุตสาหกรรมตามความ
ถนัดและวัตถุดิบที่ประเทศสมาชิก มีการประกาศเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เพื่อลดหย่อนภาษีให้
เหลือ 0-5%
3. กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ามัน (OPEC)
ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2502 ประกอบด้วย อิหร่าน คูเวต ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ ลิเบีย สหรัฐอะมิเรต แอลวี
12
เรีย กาบอง เวเนซูเอลา เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย อิรัก โอมาน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างอํานาจการต่อรอง
ราคานํ้ามัน โดยการกําหนดราคาและปริมาณการผลิต
4. ธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD)
หรือธนาคารโลก เป็นแหล่งให้กู้เงินสําหรับประเทศต่าง ๆ
5. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ตั้งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในด้านการเงินระหว่างประเทศ รักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน
เงินตราระหว่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดดุลการชําระเงินแก่ประเทศสมาชิก
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทย
มีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.
2503 มี 8 ฉบับคือ
แผน ฉบับที่ 1 (2504-2509) เน้นการลงทุนด้านปัจจัยโดยสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น
ไฟฟ้า ประปา ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
แผนฉบับที่ 2 (2510-2514) เน้นการลงทุนด้านปัจจัยพื้นฐานต่อเนื่องจากแผนที่ 1การ
สํารวจและนําทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในการผลิต
แผนฉบับที่ 3 (2515-2519) เน้นพัฒนาท้องถิ่นชนบทและกระจายความเจริญไปสู่
ชนบท การออก พรบ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (พ.ศ. 2518)
แผนฉบับที่ 4 (2525-2529) เน้นส่งเสริมการลงทุน ขยายการผลิต รักษาเสถียรภาพทาง
เศรษฐกิจของประเทศ
แผนฉบับที่ 5 (2525-2529) เน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชากรในชนบท
ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตและสังคม
แผนฉบับที่ 6 (2530-2534) เน้นโครงการอุตสาหกรรม การขยายตัวให้มีแผนรองรับ
เพื่อการขยายตัว 10 แผน
แผนฉบับที่ 7 (2535-2539) เน้นการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากแผน
ที่ 6 เน้นการรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
แผนฉบับที่ 8 (2540-2544) เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการขยายการศึกษา ขึ้น
พื้นฐานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ใน ปี 2544 เสริมสร้างเศรษฐกิจและลดการเหลื่อมลํ้าของ
รายได้
13
การ วัดระดับเศรษฐกิจ
1. รายได้ประชาชาติ หมายถึง รายได้รวมของทุกคนในเวลา 1 ปี ทําได้2 รูปแบบ
1.1 รายได้รวมของทุกคนในประเทศในรูปของ ค่าเช่า ค่าจ้าง เงินเดือน และกําไร เป็นการคํานวณ
จากรายได้ที่เป็นตัวเงิน (อุตสาหกรรม)
1.2 มูลค่ารวม ของสินค้า และบริการขั้นสุดท้าย ที่ผลิตได้ในประเทศ ในเวลา 1 ปี
2. ราย ได้เฉลี่ยต่อบุคคล หาได้จาก รายได้ประชาชาติ หารด้วยจํานวนประชากร
3. ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) หมายถึงมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิต
ทั้งหมด โดยใช้ทรัพยากรของประเทศ (อาจผลิตในหรือนอกประเทศก็ได้)
4. ผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศ (GDP) หมายถึงมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมด
ที่ผลิตขายในประเทศ ในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าคนผลิตจะมีสัญชาติใด
GDP + รายได้สุทธิต่างประเทศ = GNP
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อโครงงาน
2. เลือกหัวข้อโครงงาน
3. รวบรวมรายละเอียดและหัวข้อโครงงาน
4. ค้นคว้าข้อมูลความรู้ต่างๆเพิ่มเติม
5. สรุปและจัดทาโครงงาน
6. ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด
7. นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ท/หนังสือ
งบประมาณ
150 บาท
14
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน / มธุรดา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / มธุรดา
3 จัดทําโครงร่างงาน / มธุรดา
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
/ มธุรดา
5 ปรับปรุงทดสอบ / มธุรดา
6 การทําเอกสารรายงาน / มธุรดา
7 ประเมินผลงาน / มธุรดา
8 นําเสนอโครงงาน / มธุรดา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.เพิ่มความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสาตร์แก่ผู้ศึกษา
2.สามารถให้ผู้ศึกษานําความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินชีวิตได้
3.สามารถนําสื่อนี้ไปใช้เป็นการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ได้
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
แหล่งอ้างอิง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://writer.dek-d.com/r-
kimono/story/viewlongc.php?id=578140&chapter=5
(วันที่ค้นข้อมูล: 25 มกราคม 2559)

More Related Content

What's hot

2562 final-project ntthawat saipanya
2562 final-project ntthawat saipanya2562 final-project ntthawat saipanya
2562 final-project ntthawat saipanyassuserd582b31
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Siwaporn Singkhrut
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันOporfunJubJub
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาJirarat Cherntongchai
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกselenagomezz
 
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรีโครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรีPanichaya Charoenphol
 
2562 final-project -golf-1
2562 final-project -golf-12562 final-project -golf-1
2562 final-project -golf-1guntjetnipat
 
Project thatsanee ladawan
Project thatsanee ladawanProject thatsanee ladawan
Project thatsanee ladawanLadawan Inta
 
0230project finish
0230project finish0230project finish
0230project finishmidori_xoxo
 
อาหารขยะ
อาหารขยะอาหารขยะ
อาหารขยะKittikhun Ieie
 

What's hot (20)

comm
commcomm
comm
 
2562 final-project ntthawat saipanya
2562 final-project ntthawat saipanya2562 final-project ntthawat saipanya
2562 final-project ntthawat saipanya
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Tense
TenseTense
Tense
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project2
2562 final-project2 2562 final-project2
2562 final-project2
 
Pimonwan2
Pimonwan2Pimonwan2
Pimonwan2
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
 
Project Yoga
Project YogaProject Yoga
Project Yoga
 
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรีโครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
 
2562 final-project-21
2562 final-project-212562 final-project-21
2562 final-project-21
 
2562 final-project 07
2562 final-project 072562 final-project 07
2562 final-project 07
 
2562 final-project -golf-1
2562 final-project -golf-12562 final-project -golf-1
2562 final-project -golf-1
 
Project thatsanee ladawan
Project thatsanee ladawanProject thatsanee ladawan
Project thatsanee ladawan
 
0230project finish
0230project finish0230project finish
0230project finish
 
อาหารขยะ
อาหารขยะอาหารขยะ
อาหารขยะ
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 

Similar to ขิมคนสวย งานคอมจ๊ะ

โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผมโครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผมsoonthareeluck tunthong
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์greatzaza007
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)immsswm
 
Random 150924050309 lva1 app6891
Random 150924050309 lva1 app6891Random 150924050309 lva1 app6891
Random 150924050309 lva1 app6891greatzaza007
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Hathaichanok Pintamong
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมaomchowder
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมaomchowder
 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์nuttanansaiutpu
 
Thai Unemployed
Thai UnemployedThai Unemployed
Thai Unemployedsiradamew
 

Similar to ขิมคนสวย งานคอมจ๊ะ (20)

โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผมโครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
 
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
 
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)2558 project  (บันทึกอัตโนมัติ)
2558 project (บันทึกอัตโนมัติ)
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานเดี่ยว)
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Random 150924050309 lva1 app6891
Random 150924050309 lva1 app6891Random 150924050309 lva1 app6891
Random 150924050309 lva1 app6891
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
อาหารคลีน
อาหารคลีนอาหารคลีน
อาหารคลีน
 
2561 project (1)
2561 project  (1)2561 project  (1)
2561 project (1)
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
 
Thai Unemployed
Thai UnemployedThai Unemployed
Thai Unemployed
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
2562 final-project 1
2562 final-project 12562 final-project 1
2562 final-project 1
 
Supachat
SupachatSupachat
Supachat
 
Suppachat Panpintar
Suppachat PanpintarSuppachat Panpintar
Suppachat Panpintar
 

ขิมคนสวย งานคอมจ๊ะ

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน...เศรษฐศาสตร์ ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว มธุรดา กันทาหลี เลขที่ 42 ม.6/3 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม … นางสาว มธุรดา กันทาหลี เลขที่ 42 ม.6/3 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) เศรษฐศาสตร์ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Economic ประเภทโครงงานโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อนการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว มธุรดา กันทาหลี ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน26 มกราคม – 31 มกราคม 2559 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เศรษฐศาสตร์ หมายถึง วิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์และสังคมในการตัดสินใจเลือกใช้ ทรัพยากรการผลิตที่มีอยู่อย่างจํากัดเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆ สนองความต้องการของมนุษย์ที่มี ไม่จํากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รากศัพท์มาจาก คําว่า "Oikonomikos" แปลว่า "การบริหาร จัดการของครัวเรือน" เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวสําหรับเราทุกคน เพียงแต่ทุกวันนี้เราเลือกที่จะมองข้ามมันไป และปล่อยมันไปตามกลไกราคาโดยไม่สังเกตหรือขัดข้องใจกับผลที่เกิดขึ้นต่างๆในเศรษฐกิจปัจจุบัน ดังนั้นผู้จัดทําจึงได้สนใจนําหัวข้อนี้มาเป็นสื่อเพื่อการศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้และประโยชน์ ที่จะได้จากการศึกษาสื่อนี้และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจําวัน
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสาตร์แก่ผู้ศึกษา 2.เพื่อให้ผู้ศึกษานําความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินชีวิตได้ 3.เพื่อสามารถนําสื่อนี้ไปใช้เป็นการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ได้ ขอบเขตโครงงาน 1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์ 2.ขอบข่ายของวิชาเศรษฐศาสตร์ 3.กิจกรรมทางเศรษฐกิจ 4.รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ 5.การเงิน การคลัง การธนาคาร 6.การธนาคารเบื้องต้น 7.การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ หลักการและทฤษฎี 1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาตร์ (Economic) = วิชาการแขนงหนึ่งในสาขาสังคมศาสตร์ ที่มุ่งศึกษาพฤติกรรมของ คนในสังคมเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รากศัพท์มาจาก คําว่า "Oikonomikos" แปลว่า "การบริหารจัดการของครัวเรือน" เศรษฐศาสตร์ หมายถึง วิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์และสังคมในการตัดสินใจเลือกใช้ ทรัพยากรการผลิตที่มีอยู่อย่างจากัดเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆ สนองความต้องการของมนุษย์ที่มี ไม่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ขอบข่ายของวิชาเศรษฐศาสตร์ 1) เศรษฐศาสตร์บริสุทธิ์ เป็นการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่มุ่งอธิบายถึงปรากฏการณ์ทาง เศรษฐกิจและแสดงให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล หรือ ระหว่างปัจจัยหรือสาเหตุกับผลลัพธ์ เช่น ถ้าสินค้าชนิดหนึ่ง มีราคาสูง ผู้ซื้อจะตัดสินใจอย่างไร โดยไม่คํานึงถึงว่าการตัดสิน ใจอย่างไร โดยไม่คํานึงว่าการ ตัดสินใจนั้นเป็นที่น่า พึงพอใจของสังคมหรือไม่ เป็นต้น 2 ) เศรษฐศาสตร์นโยบาย
  • 4. 4 เป็นการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่ให้ความสําคัญกับความพึงพอใจ ของสังคมว่า การดําเนิน กิจกรรมหรือการตัดสินใจหนึ่งๆ เป็นสิ่งที่ควรกระทําหรือไม่ เช่น ถ้าสินค้าชนิดหนึ่งมีราคาสูง ผู้ซื้อ ควรจะตัดสินใจอย่างไร หรือรัฐบาลควรจะดําเนินการอย่างไร เป็นต้น ดังนั้น สามารถจําแนก ขอบข่ายออกได้เป็น ๒ แนวทาง ดังนี้ 1. เศรษฐศาสตร์จุลภาค เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจของบุคคล ครัวเรือน เป็นการศึกษา เฉพาะส่วนย่อย ๆ ในระยะเวลาหนึ่ง ๆ 2. เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับรวมหรือในระดับประเทศ เช่น รายได้ประชาชาติ อัตราการจ้างงาน การธนาคาร การคลัง 3. กิจกรรมทางเศรษฐกิจ 1. การผลิต (Production) เป็นการสร้างสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์โดยให้ เกิด ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ เช่น ประโยชน์จากรูปร่าง ประโยชน์จากสถานที่ ประโยชน์จากเวลา ประโยชน์จากกรรมสิทธิ์ ปัจจัยการผลิต * ที่ดิน หมายถึง ที่ดินและทรัพยากรที่อยู่ในดินและเหนือพื้นดิน ค่าตอบแทนคือ ค่าเช่า * แรงงาน หมายถึง แรงงานที่เกิดจากกําลังกายและสติปัญญาของมนุษย์ค่าตอบแทนคือ ค่าจ้าง หรือ เงินเดือน * ทุน หมายถึง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ร่วมกับแรงงาน เช่น เครื่องจักร ค่าตอบแทนคือ ดอกเบี้ย * ผู้ประกอบการ หมายถึง ผู้ที่นําเอาปัจจัยการผลิต มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ ค่าตอบแทนคือ กาไร ขั้นการผลิต * การผลิตขั้นปฐมภูมิ เป็นการผลิตขั้นแรกโดยนําทรัพยากรธรรมชาติ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยใช้ แรงงาน เช่น การประมง การเกษตร
  • 5. 5 * การผลิตชั้นทุติยภูมิ เป็นการนําเอาผลผลิตขั้นต้น มาแปรสภาพเป็นสินค้าได้แก่ หัตถกรรม และ อุตสาหกรรม * การผลิตชั้นตติยภูมิ เป็นการผลิตในรูปบริการ เช่น การขนส่ง การท่องเที่ยว การประกันภัย การกําหนดราคาและปริมาณการผลิต ผู้ผลิต อาจคาดคะเนผลผลิตจากการคาดคะเนอุปสงค์และ อุปทานของสินค้าในตลาด อุปสงค์ (Demand) เป็นความต้องการซื้อสินค้าและบริการ ขึ้นกับราคาสินค้า กฎทั่วไปของอุปสงค์คือ อุปสงค์แปรผันโดยอ้อมหรือผูกพันกับราคาสินค้าและบริการ (สินค้าที่มี ความจําเป็นต่อการดํารงชีวิต เป็นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นของอุปสงค์น้อย) อุปทาน (Supply) เป็นปริมาณความต้องการที่จะขายสินค้าและบริการ ซึ่งจะขึ้นกับราคาของสินค้าและ บริการ กฎทั่วไปของอุปทาน คือ อุปทานจะแปรผันโดยตรงกับราคาสินค้าและบริการ ราคาดุลยภาพและปริมาณ ดุลยภาพ ราคาสินค้าแพงนั้น เกิดขึ้นเมื่อ อุปสงค์มากกว่าอุปทาน (ภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน) ราคาสินค้าถูกลง เกิดขึ้นเมื่อ อุปทานมากกว่าอุปสงค์ (ภาวะอุปทานส่วนเกิน) รูปเส้นของอุปสงค์และอุปทาน 2. การบริโภค (Consumption) หมายถึงการใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการ ชนิด ของการบริโภค 2.1 2.2 สินค้าคงทน ได้แก่ สินค้าที่เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี เข่น ปากกา นาฬิกา กระเป๋ า สินค้า ไม่คงทน ได้แก่ สินค้าที่ใช้แล้วหมดสิ้นไปภายใน 1 ปี เช่น อาหาร นํ้ามัน เชื้อเพลิง กระดาษ ถ้ารายได้ตํ่า ความสามารถในการบริโภคจะถูกจํากัดลง และถ้ามี รายได้สูง ความสามารถในการบริโภคจะสูงขึ้น 3. การกระจาย (Distribution) หมายถึงการจํานวนจ่ายแจกสินค้าและบริการ แบ่งเป็น 3.1 3.2 การกระจายสินค้าและบริการ ไปสู่ผู้บริโภค การกระจายรายได้เป็นการกระจายผลตอบแทนไปสู่ปัจจัยการผลิต
  • 6. 6 4. การแลกเปลี่ยน (Exchange) หมายถึง การนําสินค้าและบริการไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการ อื่น หรือแลกเปลี่ยนกับสื่อกลาง จึงแบ่งออกเป็น 4.1 4.2 4.3 การแลกเปลี่ยนสินค้าต่อ สินค้า การแลกเปลี่ยนสินค้าต่อเงินตราหรือใช้สื่อกลาง การแลกเปลี่ยน แบบใช้สินเชื่อ เช่น เช็ค ตั๋วแลกเงิน ดราฟท์ 4.รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ 1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม  เอกชนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ทรัพย์สินและเป็นผู้ดําเนินการผลิต  มีการแข่งขันกันในด้านคุณภาพ ราคา การให้บริการ  กิจกรรมทางเศรษฐกิจดําเนินผ่านกลไกราคา ข้อดี 1. เอกชนมีสิทธิ์เสรีภาพในทางเศรษฐกิจ 2. สินค้ามีการพัฒนา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดี ข้อเสีย 1. การกระจายรายได้ไม่เท่าเทียมกัน 2. ทรัพยากรถูกนํามาใช้ฟุ่มเฟือย 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม  รัฐมีบทบาทในการวางแผนและดําเนิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ  เอกชนยังเป็นเจ้าของปัจจัยบางประเภท  มีการวางแผนด้านเศรษฐกิจจากส่วนกลาง ข้อดี 1. ความยุติธรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น 2. ฐานะของประชาชนไม่แตกต่างกัน ข้อเสีย 1. รัฐรับภาระทางด้านสวัสดิการ 2. เอกชนถูกจํากัดสิทธิเสรีภาพในการดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 3. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์  รัฐเป็นเจ้าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและปัจจัยการผลิต  เอกชนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกอาชีพ  รัฐควบคุมการผลิตอย่างสมบูรณ์ มีการวางแผนจากผลิตจากส่วนกลาง ข้อดี 1. ควบคุมการใช้ทรัพยากรได้ดี 2. เอกชนถูกจํากัดสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ
  • 7. 7 4. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม  กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นของเอกชน  รัฐคงจัดสรรสวัสดิการให้ประชาชน  มีการแข่งขันด้านคุณภาพ ราคา บริการ  รัฐเข้าดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อส่วนรวม  ใช้กลไกราคาร่วมกับการวางแผนจากส่วนกลาง ข้อดี 1. เอกชนมีเสรีภาพ 2. รัฐเข้าคุ้มครองผลประโยชน์ไว้กับประเทศและสังคม ข้อเสีย 1. รัฐรับภาระสวัสดิการต่าง ๆ 5.การเงิน การคลัง การธนาคาร เงิน คือ สิ่งใด ๆ ก็ตามที่สังคมยอมรับใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หน้าที่ของเงิน 1. 2. 3. 4. เป็นเครื่องวัดมูลค่า เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ****** เป็นหน้าที่ที่สําคัญที่สุด เป็นมาตรฐานในการชําระหนี้ในอนาคต เป็นเครื่องรักษามูลค่า ชนิดของเงิน 1. 2. 3. เงินเหรียญกษาปณ์ เงินธนบัตร เงินฝากกระแสรายวันหรือเผื่อเรียก ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ (รวมทั้งประเทศไทย) หันมาใช้มาตรฐานเงินตราที่เรียกว่ามาตราผสมภายใต้ กองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ โดยกําหนดค่าเสมอภาค เทียบกับทองคํา และเงินดอลลาร์ ค่าของเงิน 1. 2. ค่าภายนอก เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น เช่น 42 บาทเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าภายใน เป็นอํานาจในการซื้อสินค้าของเงิน 1 หน่วย ถ้า 1 หน่วย ซื้อสินค้าได้มาก แสดงว่ามีค่ามาก (ค่าของเงินจะแปรผกผันกับราคาสินค้า) ***** ภาวะการเงินที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ ได้แก่
  • 8. 8 1. ภาวะเงินเฟ้ อ คือ ภาวะที่เงินมีอํานาจการซื้อลดลง ปริมาณเงินเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ผลกระทบ - ผู้เสียเปรียบคือ เจ้าหนี้ และผู้มีรายได้แน่นอน - ผู้ได้เปรียบคือ ลูกหนี้ และนักธุรกิจ วิธีแก้ปัญหา - ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และขายพันธบัตรรัฐบาล - ใช้นโยบายงบประมาณเกินดุล ด้วยการเพิ่มภาษีอากร 2. ภาวะเงินฝืด คือ ภาวะที่มีเงินมีอํานาจซื้อเพิ่มขึ้น ปริมาณเงินลดลง ราคาสินค้าและบริการถูกลง แต่ไม่มี คนมาซื้อ ผลกระทบ - ผู้เสียเปรียบคือ ลูกหนี้ และนักธุรกิจ - ผู้ได้เปรียบคือ เจ้าหนี้ และผู้มีรายได้แน่นอน วิธี แก้ปัญหา- ลดอัตราดอกเบี้ย และซื้อพันธบัตรรัฐบาล - ใช้นโยบายงบประมาณขาดดุล ด้วยการลดหนี้ และเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐ 3. ภาวะเงินตึง คือ ภาวะที่กระแสการเงินชะงักชะงัน มีความต้องการเงินเพื่อลงทุนเพิ่มแต่ปริมาณเงิน น้อย การแก้ปัญหา คือ เพิ่มปริมาณเงินหรือกู้เงินมาหมุนเวียนเพิ่มอาจนําไปสู่ภาวะเงินเฟ้อหรือเงิน ฝืดก็ ได้ 6. การธนาคารเบื้องต้น เป็นการศึกษาบทบาทของธนาคาร เช่น 1. ธนาคารกลาง คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ทําหน้าที่ควบคุมนโยบายและปริมาณเงิน ภายในประเทศ เป็นนายธนาคารกลางของธนาคารพาณิชย์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รักษาทุนสํารองระหว่างประเทศ และออกพันธบัตร 2. ธนาคารพาณิชย์ ทําหน้าที่รับฝากเงิน ให้บริการโอนเงิน ให้เช่าตู้นิรภัย 3. ธนาคารพิเศษ เช่น - ธนาคารออมสิน เช่น ส่งเสริมการออกทรัพย์รับฝากเงินจากประชาชน ให้รัฐกู้ไปใช้ - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส่งเสริมการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมการพัฒนาการเกษตร ให้เกษตรกู้ยืม
  • 9. 9 4. สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน และบริษัทหลักทรัพย์, บริษัทเครดิตฟองซ์เอร์, สหกรณ์การเกษตร, สหกรณ์ออมทรัพย์, โรงรับจํานํา การคลัง เป็นการศึกษา เรื่องรายรับรายจ่ายของรัฐบาล ขอบเขตของการศึกษาการคลัง 1. รายรับรายจ่ายของรัฐบาล 2. งบประมาณแผ่นดิน 3. นโยบายการคลังและระบบภาษี 4. หนี้สาธารณะ รายรับและรายจ่ายของรัฐบาล 1. รายรับรัฐบาล มาจากรายได้ในรูปภาษีอากร โดยเก็บจากผู้มีเงินได้(ภาษีทางตรง) เก็บจากสินค้า และบริการ (ภาษีทางอ้อม), การขายสิ่งของและบริการ รายได้จากรัฐพาณิชย์เงินกู้(หนี้สาธารณะ) และเงินคงคลัง 2. รายจ่ายรัฐบาล รัฐใช้เงินในรูปของเงิน งบประมาณ แจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ***** งบประมาณแผ่นดิน เป็นแผนการใช้จ่ายของรัฐในแต่ละปี ปีงบประมาณเริ่มเมื่อ 1 ต.ค. จนถึง 30 ก.ย. ของปีถัดไป เศรษฐกิจระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ เป็นการนําสินค้าและบริการไปแลกเปลี่ยนกับอีกประเทศหนึ่ง เนื่องจาก ความแตกต่างกันทางทรัพยากรและความสามารถในการผลิต นโยบายการค้า 1. การค้าแบบเสรี ไม่มีการเก็บภาษีคุ้มกัน, ไม่ให้สิทธิพิเศษ ไม่มีข้อจํากัดทางการค้า 2. การค้าแบบคุ้มกัน มีการตั้งกําแพงภาษี, ไม่ให้สิทธิพิเศษ, ห้ามนําเข้า ห้ามส่งสินค้าบางชนิดออกให้ อุดหนุนเพื่อผลิตแข่งกับต่างประเทศ
  • 10. 10 ดุลการค้า คือ การเปรียบเทียบมูลค่าสินค้าขาออกและมูลค่าสินค้าขาเข้า ในรอบ 1 ปี แบ่งเป็น ดุลการค้าขาดดุล, ดุลการค้าเกินดุล และดุลการค้าสมดุล ลักษณะ การค้าระหว่างประเทศของไทย 1. ใช้นโยบายการค้าแบบคุ้มกัน 2. ใช้ระบบภาษีศุลกากรพิกัดอัตราเดียว 3. ประเทศคู่ค้าสําคัญคือ ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, ซาอุดิอาระเบีย 4. สินค้าออก ส่วนใหญ่คือ สินค้าจากภาคเกษตรกรรม 5. สินค้าเข้า เป็นสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร และเชื้อเพลิง การแก้ไขดุลการชาระเงินขาดดุล 1. ลดการส่งสินค้าเข้า 2. ชักชวนชาวต่างชาติมาท่องเที่ยว 3. ส่งเสริมการส่งออกมากขึ้น 4. ลดบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย บัญชีดุลการค้าชาระเงินระหว่างประเทศ 1. บัญชีเดินสะพัด เป็นบัญชีรวมดุลการค้าและดุลบริการ 2. บัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นการเคลื่อนย้ายทุนระหว่างประเทศรวมถึงเงินกู้ 3. บัญชีเงินโอนและเงินบริจาค เป็นเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ 4. บัญชีทุนสํารองระหว่างประเทศ เป็นบัญชีบอกจํานวนเงินสํารองระหว่างประเทศ และชี้ให้เห็น ฐานะของดุลการชําระเงินของประเทศ ข้อเปรียบเทียบระหว่างดุลการค้ากับดุลการชาระเงิน 1. ดุลการชําระเงินนั้นรวมรายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับประเทศทั้งหมดทั้งที่เป็นรายรับ รายจ่ายจากสินค้า และบริการ เงินลงทุน เงินกู้เงินบริจาค 2. ดุลการค้า หมายถึง ส่วนต่างของสินค้าเข้าและสินค้าออก โดยดุลการค้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ดุลการชําระเงิน 3. บางประเทศอาจมีการค้าขาดดุล แต่มีดุลการชําระเงินเกินดุลก็ได้
  • 11. 11 ทุนสารองระหว่างประเทศ คือ ทรัพย์สินของประเทศที่เป็นทองคําและเงินตราต่างประเทศสกุลสําคัญ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ หรือปอนด์สเตอริง เงินสํารองระหว่างประเทศมีประโยชน์คือ 1. ใช้เป็นทุนสํารองเงินตราส่วนหนึ่ง 2. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนสําหรับชําระเงินให้กับต่างประเทศ 3. ใช้เป็นทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราประเทศส่วนหนึ่ง เพื่อให้มีเสถียรภาพมั่นคง การลงทุนระหว่างประเทศ เป็นการที่รัฐบาลหรือเอกชนของประเทศหนึ่งนําเงินไปลงทุนดําเนินธุรกิจ เพื่อแสวงหาผลกําไร สาเหตุของการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อต้องการขยายการผลิตและการลดต้นทุน ผลที่เกิด 1. ประเทศกําลังพัฒนา ได้เรียนรู้วิทยาการ เทคโนโลยีใหม่ ๆ 2. ประเทศกําลังพัฒนา มีการว่าจ้างงานมากขึ้น 3. เกิดการเอาเปรียบประเทศที่รับการลงทุน 4. อาจก่อความขัดแย้งระหว่างประเทศได้ 7.การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ 1. สหภาพยุโรป (Economic Union) สมาชิก 15 ประเทศ คือ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน อิตาลี ลักแซมเบอร์ก เนเธอ แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก สาธารณรัฐไอร์แลนด์ กรีซ สเปน โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และ แคนาดา จุดประสงค์การก่อตั้ง เพื่อพัฒนาและยกมาตรฐานการครองชีพ ยกข้อจํากัดทางการค้าในกลุ่ม สมาชิกและป้องกันประเทศนอกกลุ่ม 2. สมาคมประชาชาติเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Association Southeast Asean Nations) ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม พม่า และลาว จุดประสงค์เพื่อการร่วมมือกันด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม มีการคัดเลือกอุตสาหกรรมตามความ ถนัดและวัตถุดิบที่ประเทศสมาชิก มีการประกาศเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เพื่อลดหย่อนภาษีให้ เหลือ 0-5% 3. กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ามัน (OPEC) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2502 ประกอบด้วย อิหร่าน คูเวต ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ ลิเบีย สหรัฐอะมิเรต แอลวี
  • 12. 12 เรีย กาบอง เวเนซูเอลา เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย อิรัก โอมาน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างอํานาจการต่อรอง ราคานํ้ามัน โดยการกําหนดราคาและปริมาณการผลิต 4. ธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD) หรือธนาคารโลก เป็นแหล่งให้กู้เงินสําหรับประเทศต่าง ๆ 5. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตั้งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในด้านการเงินระหว่างประเทศ รักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราระหว่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดดุลการชําระเงินแก่ประเทศสมาชิก แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทย มีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2503 มี 8 ฉบับคือ แผน ฉบับที่ 1 (2504-2509) เน้นการลงทุนด้านปัจจัยโดยสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น ไฟฟ้า ประปา ระบบสื่อสารโทรคมนาคม แผนฉบับที่ 2 (2510-2514) เน้นการลงทุนด้านปัจจัยพื้นฐานต่อเนื่องจากแผนที่ 1การ สํารวจและนําทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในการผลิต แผนฉบับที่ 3 (2515-2519) เน้นพัฒนาท้องถิ่นชนบทและกระจายความเจริญไปสู่ ชนบท การออก พรบ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (พ.ศ. 2518) แผนฉบับที่ 4 (2525-2529) เน้นส่งเสริมการลงทุน ขยายการผลิต รักษาเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจของประเทศ แผนฉบับที่ 5 (2525-2529) เน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชากรในชนบท ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตและสังคม แผนฉบับที่ 6 (2530-2534) เน้นโครงการอุตสาหกรรม การขยายตัวให้มีแผนรองรับ เพื่อการขยายตัว 10 แผน แผนฉบับที่ 7 (2535-2539) เน้นการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากแผน ที่ 6 เน้นการรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม แผนฉบับที่ 8 (2540-2544) เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการขยายการศึกษา ขึ้น พื้นฐานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ใน ปี 2544 เสริมสร้างเศรษฐกิจและลดการเหลื่อมลํ้าของ รายได้
  • 13. 13 การ วัดระดับเศรษฐกิจ 1. รายได้ประชาชาติ หมายถึง รายได้รวมของทุกคนในเวลา 1 ปี ทําได้2 รูปแบบ 1.1 รายได้รวมของทุกคนในประเทศในรูปของ ค่าเช่า ค่าจ้าง เงินเดือน และกําไร เป็นการคํานวณ จากรายได้ที่เป็นตัวเงิน (อุตสาหกรรม) 1.2 มูลค่ารวม ของสินค้า และบริการขั้นสุดท้าย ที่ผลิตได้ในประเทศ ในเวลา 1 ปี 2. ราย ได้เฉลี่ยต่อบุคคล หาได้จาก รายได้ประชาชาติ หารด้วยจํานวนประชากร 3. ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) หมายถึงมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิต ทั้งหมด โดยใช้ทรัพยากรของประเทศ (อาจผลิตในหรือนอกประเทศก็ได้) 4. ผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศ (GDP) หมายถึงมูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมด ที่ผลิตขายในประเทศ ในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าคนผลิตจะมีสัญชาติใด GDP + รายได้สุทธิต่างประเทศ = GNP วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. กาหนดหัวข้อโครงงาน 2. เลือกหัวข้อโครงงาน 3. รวบรวมรายละเอียดและหัวข้อโครงงาน 4. ค้นคว้าข้อมูลความรู้ต่างๆเพิ่มเติม 5. สรุปและจัดทาโครงงาน 6. ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด 7. นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ท/หนังสือ งบประมาณ 150 บาท
  • 14. 14 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน / มธุรดา 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / มธุรดา 3 จัดทําโครงร่างงาน / มธุรดา 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน / มธุรดา 5 ปรับปรุงทดสอบ / มธุรดา 6 การทําเอกสารรายงาน / มธุรดา 7 ประเมินผลงาน / มธุรดา 8 นําเสนอโครงงาน / มธุรดา ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.เพิ่มความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสาตร์แก่ผู้ศึกษา 2.สามารถให้ผู้ศึกษานําความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินชีวิตได้ 3.สามารถนําสื่อนี้ไปใช้เป็นการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ได้ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา แหล่งอ้างอิง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://writer.dek-d.com/r- kimono/story/viewlongc.php?id=578140&chapter=5 (วันที่ค้นข้อมูล: 25 มกราคม 2559)