Principal of How to create attractive contents.

1. HOW TO “สร้าง FACEBOOK CONTENT
เพื่อธุรกิจประกันชีวิตที่ประสบความสําเร็จ"
ณ ห้องประชุม Co-Working Space
@SME Bank BTS อารีย์
วันอังคารที่ 6 กันยายน 2559 เวลา 14.00-16.30 น.

2. สิ่งที่ผู้เข้าสัมมนาจะได้รับ
 ตัวอย่าง Content ที่ประสบความสําเร็จในปี 2559
 แนวทาง วิธีคิด/ ผลิตผลงาน Content Marketing for Beginner
 หลักการตลาด และ หลักการให้บริการ เพื่อความสําเร็จในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าออนไลน์
 ทิศทาง Content Marketing ปี 2560
 ถาม/ตอบ คําถามข้อสงสัย
2
Chayaporn Poolpokar

3. แบบสํารวจการใช้
งานอินเตอร์เน็ต
ของประเทศไทย
ครึ่งปีแรกของ
ปี 2559
3
Chayaporn Poolpokar

4. Chayaporn Poolpokar 4
WHY DO WE HAVETO FOCUS IN
FACEBOOK FOR CONTENT MARKETING?

5. WHICHTYPE OF CONTENTS ARETHE MOST INTERESTED
FROMTHAILAND INTERNET USERS IN JAN – JUNE 2016
5
No.1
Chayaporn Poolpokar

6. แนวทาง วิธีคิด/ ผลิต Content Marketing for Beginner
6
To Advertise
To Inform
To Persuade
Visual
Content
Infographic
Chayaporn Poolpokar

7. Chayaporn Poolpokar 7
 TO BE ATTRACTIVETO RECEIVER
 TURNTHEMTO BE OURTARGET
 MAKETARGETTO BE OUR CLIENT
“OUTSTANDING”
BecauseTons of them reach us everyday…
then… Our Goals are…..

8. CONTENT (s)
COULD BE
8
Chayaporn Poolpokar
TEXT Format
Graphic/ Photograph
Video
i.e. บทความ (Advertorial), Quote, Tips, E-Book
i.e. Infographic, Banner, Billboard
i.e. Animation, Clip, Movie, Motion Graphic, Documentary
Or Mixed as a “Multi Media”
Visual Content
Audio Content
i.e. Music,Voice mail, Podcast, Audio Book

9. Chayaporn Poolpokar 9
PIECE OF CONTENT (S) COULD BE
Short Form i.e. Quote,Tips, Banner
Middle Form i.e. บทความ (Advertorial), Short film, Infographic
Long Form i.e. Movie, Documentary, Drama Series

10. WHATTO KNOW,
BEFORE CREATEYOUR CONTENT ?
Chayaporn Poolpokar 10

11. CONTENT ที่ดี
คือ
การนําเสนอคุณค่าของสินค้า/ บริการเพื่อการแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเป้าหมาย
 Give audience what they want.
 Make them aware of what they have to do for their future/ their love (s).
 MoreValue = More interests
 Give better than take : Promotion, Discount, free item/ demonstration still attractive for audiences.
 Be verification to give them a Reliable/Trust in your Integrity > offer better solution (s) to make
audiences believe in us.
 Explicit (ชัดเจน) to make audience clear understand of complicate information (s)
> for easiest understand > for the easiest attractive > Interest > Decision.
11
Tactics สําคัญ สําหรับการผลิต Facebook Content เพื่อธุรกิจประกันชีวิต
Chayaporn Poolpokar

12. Chayaporn Poolpokar 12
Creativity The Key to Success
How to create?
Successful Facebook Content

13. Create your own Strategy,
before crafting a piece (s) of work
 What’s your Marketing Strategy?
Chayaporn Poolpokar 13
What’s your Communication Strategy?
 What’s your Content Strategy?

14. การเข้ามาของ Social Media การที่เรามี Wireless Connection ที่ดี การที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์
มีระบบ Search ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Google หรือการจัดเก็บฐานข้อมูลที่ทันสมัย และการวิเคราะห์ข้อมูล หรือ Data Intelligence ที่ดีขึ้น
สิ่งเหล่านี้ทําให้พฤติกรรมในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินใจของเราเปลี่ยนแปลงไป และซับซ้อนมากขึ้น กล่าวคือ มันกลายเป็นขั้นตอนถึง 7 ขั้นตอน
Chayaporn Poolpokar 14
คําอธิบายอยู่ในหน้าที่ 45
DIGITAL CUSTOMER JOURNEY

15. 15
Objective
Goal
Audience
Target
Strategy
Timeline
Period of Distribution
Chayaporn Poolpokar
HOWTO?
STEP BY STEP
1. Know who are our receivers?
(Audience/Target)
2. Know what our receivers want?
3. Research & Development
(Both Ourselves & Competitors)
4. SWOT > Compare to find the right
point (s) for your goal
5. Create your Communication Strategy
6. Create concept idea
(by period, piece by piece)
7. Planning your communication
Period/ Budget/ Improvement
8. Design by 6 + 7
9. Produce
TO CREATE OUTSTANDING FACEBOOK CONTENT
THINGSTO
CONSIDERATION
UNIVERSE
OF
ANALYTICAL
TO BE
IMPROVEMENT

16. 16
we have to be the
“Truly trusted”
Chayaporn Poolpokar
The most important is
“Make target believe
in what our contents communicate to them”
THUS

17. Successful Content must be recognized by
Chayaporn Poolpokar 17
How to know???
What’re your successful???
1. Measurement
2. Analytic
3.ROI

18. Facebook
is a Digital Channel
which could be
Viral (share)/ changed real time
18
How to measurement?
Which contents are the right interests for target?
1. Try
2. Test
3. Measure
4.Analytic > ROI?
5. Improve
Start at the Beginning again
Chayaporn Poolpokar
Process

19. HOW TO ??
STRUCTUREYOUR CONTENT (S)
แบ่งความสําคัญได้เป็น 3 ส่วน คือ บทนํา เนื้อเรื่อง และสรุป
1. บทนํา เป็นการเกริ่นหรือบอกกล่าวให้รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไร การขึ้นคํานํามีอยู่ 2 แบบ คือ การกล่าวทั่ว ๆ ไปก่อนที่จะวกเข้าเรื่องที่จะ
เขียนและการกล่าวเจาะจงไปตรงกับหัวข้อเรื่อง ที่จะเขียนเลยทีเดียว
2. เนื้อเรื่อง แบ่งเป็น 2 ตอน ส่วนแรก คือ การขยายความเมื่อเกริ่นแล้วในคํานํา ผู้อ่านยังติดตามความคิดได้ไม่ดีพอ ก็ต้องขยายความ
ออกไปเพื่อช่วยให้เข้าใจได้มากขึ้น ส่วนที่สองเป็น รายละเอียด มีการให้สถิติ รวบรวมข้อมูลการเปรียบเทียบหรือการยกตัวอย่างประกอบ แต่ต้อง
ระวังอย่าให้มากเกินไปจนน่าเบื่อ
3. สรุป เป็นส่วนที่เปิดเผยความสําคัญของเนื้อหา รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาที่มีด้วย
หมายเหตุ : สําหรับแนวทางการผลิต Content แบบ Medium Form & Long Form
Chayaporn Poolpokar 19
ปรับแต่งและเรียบเรียงจาก เรื่อง “การเขียนบทความ” โดย ประเทือง สุขแสวง เผยแพร่ไว้ที่ : https://www.gotoknow.org/posts/313793

20. ค้นหาไอเดียใหม่ๆ ได้ที่ไหน มาดูกัน : โดย Jon Burgerman นักออกแบบมีชื่อคนหนึ่งกล่าวเอาไว้
คุณควรพกสมุดสเก็ตภาพหรือสมุดโน๊ตติดตัวไปทุกที่เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเจอสิ่งที่เป็น
แรงบรรดาใจเมื่อไหร่
คุณควรหมั่นเปิดหูเปิดตาและเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งสื่อต่างๆ
ปรึกษาพูดคุยกับคนที่เก่งเรื่องดีไซน์หรือคนเกี่ยวข้องกับงานที่คุณกําลังจะสร้างสรรค์
อย่าให้สิ่งใดหรือเรื่องใดๆ มากวนใจคุณเวลาทํางาน
หมายเหตุ : บทความฉบับเต็มอยู่ท้ายสไลด์ Credit : http://allideastudio.co.th/tips/tips-16.php
20
HOW TO INSPIREYOURSELF ??
Chayaporn Poolpokar
To be a good content Creator

21. 21
Sample
Of Contents which offer
“What our Audience want?”
Chayaporn Poolpokar

22. เป้าหมายเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง
ตัวอย่าง สร้างวินัยการออมที่ได้รับผลตอบแทนสูง
สร้างเงินออมไว้ใช้อย่างสบายหลังเกษียณ คุ้มครองเสาหลักของครอบครัว
เป้าหมายเพื่อประโยชน์ให้คนในครอบครัว
ตัวอย่าง หมดภาระหนี้สิน สร้างมรดกให้ลูกหลาน
สร้างทุนการศึกษาให้ลูก
WWW.AOMMONEY.COM
22
1. Make them aware
2. Make easily understand and the
useful for them.
3. Useful & clear for easily decision making
Chayaporn Poolpokar

23. 23
4. Giving them an instruction
5.Tell what they want
Chayaporn Poolpokar

24. PANEL OF DISCUSSION
ตัวอย่าง CONTENT MARKETING
ที่ไม่จําเป็นต้องนําเสนอแบบตรงไป ตรงมา เพื่องานขายเสมอไป
Chayaporn Poolpokar 24

25. Chayaporn Poolpokar 25

26. Chayaporn Poolpokar 26

27. ตัวอย่างข้อมูลประกอบที่ควรนํามาศึกษา
เพื่อวางแผนการทําบทความคุณภาพ
Chayaporn Poolpokar 27

28. บทความที่สามารถนําเสนอสินค้า/ บริการแบบ Tie In ได้
แล้วส่วนใหญ่ประกันมักจะเกิดปัญหาตอนไหน
https://moneyhub.in.th/article/insurance-problem/
ส่วนใหญ่แล้วกรณีที่เกิดเป็นปัญหาข้อร้องเรียนของประกันมีหลายกรณี เริ่มแรกคือการโฆษณาเกินจริง หรือ บอกรายละเอียดข้อมูลกับผู้ซื้อประกันไม่
ครบถ้วนนั่นเอง เช่น ประกันของผู้สูงอายุที่ในปัจจุบันมักจะโฆษณาว่าไม่ถามปัญหาสุขภาพซักคํา หรือประกันภัยผู้สูงอายุที่นําเสนอกรมธรรม์แบบวงเงินเอา
ประกันอุบัติเหตุที่ดูเหมือนวงเงินผลตอบแทนสูง แต่ในความเป็นจริงนั้นผู้สูงอายุมีอัตราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตํ่ามาก ในขณะที่กรณีเสียชีวิตจากเจ็บป่วยก็
อาจให้ผลตอบแทนตํ่ากว่าหรืออาจให้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เงื่อนไขเชิงเทคนิคแบบนี้ทําให้ผู้เอาประกันเข้าใจคลาดเคลื่อนได้นอกจากนี้ยังมี
ปัญหาฮอทฮิตนั้นคือปัญหาการร้องเรียนว่าตัวแทนขายประกันไม่ชี้แจงเงื่อนไขและค่าเบี้ยกรณีต่างๆ ให้ครบถ้วนหรือมีการโฆษณาเกินจริง พอมีปัญหา
เกิดขึ้นก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ ดังนั้น ประชาชนผู้ที่จะเอาประกันจึงควรบันทึกรายละเอียดข้อมูลตัวแทนและเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ที่
ตกลงกันไว้อย่างละเอียดและให้ตัวแทนลงนามไว้เป็นหลักฐาน เลือกตัวแทนที่ไว้ใจได้จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มากทีเดียว
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการทําประกันภัยไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลและความละเอียดในการเซ็น ศึกษา เอกสาร เงื่อนไขต่าง
ที่มีในกรมธรรม์เพื่อรักษาสิทธิที่พึงได้จากการทําประกัน นอกจากนี้หากมีกรณีข้อพิพาท ข้อร้องเรียน ก็ยังคงมีหน่วยงานของรัฐที่คอยดูแลผลประโยชน์
คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนอีกด้วย ขณะในอีกแง่หนึ่งการทําประกันก็ถือเป็นการสร้างความมั่นคงอย่างหนึ่งให้กับชีวิต ทั้งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต
อย่างประกันแบบสะสม หรือหลักประกันทางสุขภาพอย่างประกันสุขภาพ ทั้งนี้ผู้บริโภคควรพิจารณาตัวแทนประกันที่เชื่อถือได้หลีกเลี่ยงการนําเสนอขาย
ประกันที่มีลักษณะเกินจริง และต้องตรวจสอบเอกสารสัญญาต่างๆ ให้ถูกต้องครบถ้วน หากมีข้อสงสัยใดๆ อย่ารีรอให้สอบถามโดยทันที เพื่อความสบายใจ
ของผู้เอาประกันและป้องกันการถูกโกง
28
Chayaporn Poolpokar

29.  ค้นหาไอเดียใหม่ๆ ได้ที่ไหน มาดูกัน : ปัญหาของคนทํางานออกแบบก็คือ บางวันที่คุณก็รู้สึกว่าตัวเองขาดไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ในการทํางานซึ่งปัญหานี้ถือเป็น “วิกฤต”
ของบรรดานักออกแบบที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดวิธีที่จะทําอย่างไรไม่ให้คุณถึงทางตันด้านไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ต่างๆนั้น มีคําตอบเดียวค่ะคือคุณต้องสร้างแรงบันดาล
ใจให้กับตัวเองเราจึงมีคําแนะนําวิธีการสร้างแรงบันดาลใจและไอเดียให้พุ่งตลอดเวลา สไตล์ของJon Burgermanนักออกแบบมีชื่อคนหนึ่งกล่าวเอาไว้
 คุณควรพกสมุดสเก็ตภาพหรือสมุดโน๊ตติดตัวไปทุกที่เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเจอสิ่งที่เป็นแรงบรรดาใจเมื่อไหร่ จะได้สามารถบันทึกลงไปได้ทันทีเวลาที่คุณพบเจอ
อะไรที่น่าสนใจหรือนึกไอเดียขึ้นได้ในเวลาไหนก็สามารถบันทึกมันลงไปได้และพยายาม Bookmark เว็บไซท์ที่คุณชื่นชอบในอินเทอร์เน็ต ซึ่งหากตอนใดที่คุณกําลังขาดไอเดียขั้น
รุนแรงหรืออยากได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ สามารถนําสิ่งที่คุณได้เขียนลงไปในสมุดสเก็ตและบนอินเทอร์เน็ต มาเปิดดูเพื่อช่วยเพิ่มไอเดียให้คุณได้อย่างเช่น Google อาจจะเป็น
แหล่งข้อมูลและไอเดียของคุณได้เป็นอย่างดี
 คุณควรหมั่นเปิดหูเปิดตาและเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร หนังสือต่าง ๆ โทรทัศน์และ อินเทอร์เน็ต เพราะเหล่านี้คือขุมทองแห่งไอ
เดียรวมทั้งดูสื่อต่าง ๆ รอบตัวเสมอ ไม่ก็ออกไปดูงานนิทรรศการต่าง ๆหรืองานโชว์ภาพแกลเลอรี่ ศึกษาองค์ประกอบ ภาพประกอบต่าง ๆ จากสื่อโฆษณาก็ดีงานศิลปะก็ดีรวมทั้ง
ลองนําตัวของคุณไปสร้างสื่ออื่น ๆ บ้าง นอกเหนือจากสิ่งที่คุณกําลังทําเพราะจะเป็นการฝึนฝนคุณไปในตัว
 ปรึกษาพูดคุยกับคนที่เก่งเรื่องดีไซน์หรือคนเกี่ยวข้องกับงานที่คุณกําลังจะสร้างสรรค์ เพื่อระดมความคิดบางทีการบอกจุดประสงค์หรือความต้องการให้ชัด ก็อาจจะช่วย
ให้คุณมองเห็นไอเดียที่อยู่ตรงหน้าก็ได้
 อย่าให้สิ่งใดหรือเรื่องใดๆ มากวนใจคุณเวลาทํางาน ลองปิดมือถือ ปิดคอมพิวเตอร์เคลียร์โต๊ะทํางานให้ว่างแล้วนั่งลงพร้อมกับหยิบกระดาษ ดินสอ ออกมา แล้วละเลงลง
ไปตามที่สมองจะบังคับบัญชาหรือไม่ก็ทําใจให้ว่าง แล้วออกไปเดินเล่นตามสถานที่ต่าง ๆโดยไม่ต้องคํานึงว่ามันจะดีหรือจะแย่ แล้วลองใช้สมองค้นหาสิ่งที่ จะนําพาคุณไปให้
บรรลุอุปกรณ์การทํางานใหม่ๆที่แตกต่างจากชีวิตประจําวันของคุณ อาจช่วยให้คุณได้ความรู้สึกและไอเดียใหม่ ๆ หนทางที่ดีที่สุดในการออกแบบก็คือทําอะไรให้ง่ายเข้าไว้ จําไว้
ว่าบางครั้งงานที่ดีไม่จําเป็นต้องเป็นงานที่ หรูเริดอลังการก็ได้และลองทดลองออกแบบดูหลาย ๆ แบบก็ได้เผื่อจะมีบางชิ้นที่โดนใจคุณ
 Credit : http://allideastudio.co.th/tips/tips-16.php
29
HOWTO INSPIREYOURSELFTO BE A GOOD CONTENT CREATOR
Chayaporn Poolpokar

30. ตัวอย่าง Content ที่ประสบความสําเร็จในปี 2559
บทวิเคราะห์ และ ข่าว เกี่ยวกับคอนเท้นท์น่าสนใจในปี 2016
แนวทางผลิต Content in Trend in 2016 - 2017
Chayaporn Poolpokar 30
กรณีศึกษา

31. ประเภทเนื้อหาที่จะแชร์
– บันเทิง 48% (ตลก, สนุกและน่าสนใจ)
-คําเตือนหรือข่าวสารข้อมูลสําคัญหรือเร่งด่วน 17% (อยากให้
คนอื่นใส่ใจเหมือนที่ตัวเองใส่ใจ)
-ความรู้สึก 13 % (ซึ้ง,เศร้า,ฯลฯ)
-สาระประโยชน์ 11% (มีประโยชน์แต่อาจจะไม่เร่งด่วน)
-อื่นๆ 11%
Chayaporn Poolpokar 31
Credit - http://www.brandbuffet.in.th/2016/08/facebook-sharing-motivations/
บริษัทวิจัยด้านสื่อดิจิตอลที่ชื่อ Frac.tl (แฟรคตัล) ได้สํารวจกลุ่มผู้ใช้เฟซสบุ้ค
เป็นประจํา 2,000 คนในหลากหลายเพศและอายุ พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง
ดังนี้ …

32. Chayaporn Poolpokar 32
ที่น่าสนใจอีกข้อคือ
คน 90% จะไม่เอาเรื่องการเมือง
คือจะไม่แชร์ประเด็นการเมืองบนเฟซบุ๊ก
ส่วน 43% จะเลี่ยงเรื่องอื้อฉาวหรือหมิ่นเหม่ต่อ
ศีลธรรม

33. 33
Chayaporn Poolpokar
http://positioningmag.com/1101184

34. 34
Chayaporn Poolpokar
ประเด็นสําคัญที่นํามาเล่นได้อย่างน่าสนใจทุกครั้ง
สัตว์, เด็ก, ครอบครัว,
เรื่องจริงของบุคคลในความสนใจ
อารมณ์ แนว Drama
(แสดงออกอย่างชัดเจน)
ทันสมัย ทันเหตุการณ์
แปลก ลึกลับ ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน,
การรับรองจากเรื่องจริง (รีวิว),
การแสดงหลักฐานรับรองที่เชื่อถือได้
และเป็นที่ยอมรับในมาตรฐาน

35. 35
Chayaporn Poolpokar

36. GOOGLE ประเทศไทย ประกาศผลสุดยอดวิดีโอโฆษณา
บน YOUTUBE ของครึ่งแรกปี 2559
HTTPS://WWW.MARKETINGOOPS.COM/NEWS/BRAND-MOVE/GOOGLE-THAILAND-LEADERBOARD-2016/
ส่วนหนึ่งจากบทวิเคราะห์ความนิยมของคลิปโฆษณาที่มีผู้ค้นหาเพื่อชมสูงสุดทางช่อง Youtube
สิ่งหนึ่งที่แบรนด์เหล่านี้มีและนําเสนอคือการตอบสนองทางอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่: เสียงหัวเราะ หรือร้องไห้ แบรนด์ต่างๆ ณ ที่นี้มีความตั้งใจสร้างให้
เกิดการตอบรับจากผู้ชมในวงกว้างก่อนที่จะขายสินค้าหรือบริการในลําดับต่อไป — ซึ่งผลลัพธ์ก็คือการที่ผู้ชมเลือกที่จะดูและรับข้อมูลต่างๆ
หลายๆ ครั้ง ในบางกรณีก็นับล้านครั้ง แบรนด์อย่าง BarBQPlaza และธนาคารธนชาติเล่นเรื่องราวที่สร้างเสียงหัวเราะ ในขณะที่ Haier ประเทศ
ไทย ธนาคารกรุงไทย และห้างสรรพสินค้า Big C ใช้เรื่องราวที่สื่อสารด้านอารมณ์ของบ้าน ครอบครัว และสัตว์เลี้ยง — โดยเฉพาะลิงแสนซนใน
วิดีโอของ Haier ประเทศไทย
ในปีนี้ ซันซิลค์ครองตําแหน่งผู้นําของ Ads Leaderboard ขึ้นมาจากอันดับที่สองของ 2015 Leaderboard — และได้เรียนรู้ถึงแนวทางที่จะตรึง
ผู้ชมให้นั่งชมโฆษณาด้วยการสร้างเรื่องราวที่สนุกสนานมีสีสันของตัวละครที่กําลังผจญภัยสุดหรรษาในฮาวาย โดยเนื้อหาทําให้ผู้ชมมีส่วนร่วม
ในรูปแบบใหม่ๆ แทนที่จะใช้การบอกสรรพคุณของแชมพูตามรูปแบบการนําเสนอทั่วๆ ไป แน่นอนว่าในบางเวลา บางสถานการณ์การณ์รูปแบบ
การเสนอสินค้าแบบดังกล่าวก็ยังมีใช้อยู่ แต่ซันซิลค์ใช้วิธีสื่อสารผ่านการเล่าเรื่องแทนที่จะเป็นการขายสินค้าตรงๆ ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้จะเป็น
การสร้างการรับรู้ได้ในทันทีต่อผู้ชมในวงที่กว้างกว่า
Chayaporn Poolpokar 36

37. ถึงแม้ดิจิทัลจะมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงกฎต่างๆ มากมาย แต่ยังมีกฎเดิมๆ อีกหลายอย่างที่ใช้ได้ ซันซิลค์ธนาคารกรุงไทย BigC และ
ใกล้ชิดใช้คนที่มีชื่อเสียงมาเป็นบุคคลแสดงนําในโฆษณา และกรณีของใกล้ชิด (ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เคยติด Top 10 Ads leaderboard เมื่อครั้งที่
ใช้นักแสดงคู่เดิมนี้ในปี 2014 ในลักษณะหนังสั้นเช่นเดียวกัน) สามารถตรึงสายตาผู้ชมไว้ได้ด้วยโฆษณาความยาวถึง 16 นาทีครึ่ง
นําเสนอในรูปแบบประหนึ่งเรียลลิตี้โชว์เป็นตอนๆ ของดาราสองคนที่กําลังจีบกันอยู่ อย่างไรก็ตามความยาวของวิดีโอแสดงให้เห็นว่า
ระยะเวลาและเงินไม่ใช่ปัจจัยที่จํากัดการนําเสนอของสื่อดิจิทัลในแบบเดียวกับการนําเสนอผ่านสื่อโทรทัศน์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าวิดีโอ
สั้นที่มีเนื้อหาดีๆ จะไม่สามารถประสบความสําเร็จได้ Leaderbords ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าวิดีโอไม่ว่าจะสั้นหรือยาวแต่ถ้ามีเนื้อหาที่ดีแล้วก็
ประสบความสําเร็จบนแพลทฟอร์มนี้ได้เหมือนกัน
วิธีหนึ่งที่จะทําให้เรื่องราวเป็นที่จดจําคือการใช้ใบหน้าของคนที่มีชื่อเสียงเป็นการเพิ่มแรงดึงดูดให้กับโฆษณาที่ไม่ใช่ของใหม่แต่ให้ผลลัพธ์เป็น
ความสําเร็จในปี 2016 ดังเช่นที่เคยประสบความสําเร็จมาตลอด
ท้ายที่สุดโฆษณาต่างๆ ทําให้มีการตอบสนองอย่างน่าสนใจจากผู้ชมในรูปแบบของการแสดงความคิดเห็นที่อยู่ด้านล่างโฆษณา ซึ่งแสดงให้
เห็นมุมที่มีพลังของ YouTube: ที่เป็นมากกว่าที่ที่ให้ผู้คนมาชมวิดีโอ: มันเป็นชุมชนที่แบรนด์ต่างๆ ที่มีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังสามารถ
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
Chayaporn Poolpokar 37

38. YOUTUBE แนะ 5 คอนเท้นต์ที่เหมาะกับการทํา VIDEO 360 และ VR
HTTPS://WWW.MARKETINGOOPS.COM/NEWS/SEMINAR-AND-FORUM/WORKSHOP-VDO360-IN-BKK/
AUG 27, 2016
ทีม Youtube จะพาสื่อได้ชมห้องสตูดิโอต่างๆ แล้ว ยังได้ให้คําแนะนําที่ดีเกี่ยวกับการถ่ายทําวิดีโอแบบ 360 องศา และ VR อีกด้วย โดย ปริญญา สินเกื้อกูล Partner
Solutions Manager จาก YouTube
สําหรับเทคโนโลยีวิดีโอ 360 องศา หรือ VR ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่ามันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วมาก บริษัทใหญ่ๆ
มากมายก็มีการลงทุนในเทคโนโลยีนี้สูงมาก ทั้งวิธีการซื้อบริษัทอื่นที่ทําเทคโนโลยีด้านนี้หรือการลงทุนภายในบริษัทเอง ดังนั้น สิ่งที่เราพูดกันในวันนี้อาจจะไม่ทันสมัยแล้ว เมื่อ
เมื่อผ่านไป 2-3 เดือน
นอกจากนี้ ผู้คนยังสามารถเข้าถึงการรับชมแบบ 360 องศาและ VR ได้มากขึ้น เนื่องด้วยราคาของอุปกรณ์ Google Card Board ราคาไม่แพงเพียงแค่หลักร้อยบาท ซื้อหาได้
ง่าย ใช้กับสมาร์ทโฟนได้เกือบทุกรุ่น
วิดีโอ 360 องศา และ VR แตกต่างกันอย่างไร
กล้อง 360 ก็คือเลนส์กล้องที่มีความกว้างมากที่สุด สามารถจับทิศทางได้ 360 องศา เป็นรูปทรงกลม การจะทําอย่างนี้ได้ต้องมีมากกว่า 1 เลนส์ขึ้นไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือจะมี
จํานวนฟุตเทจมากขึ้นตามจํานวนเลนส์ ซึ่งจะต้องนําฟุตเทจเหล่านี้นํามาปะติดปะต่อกัน โดยศัพท์ที่รู้จักกันโดยทั่วไปเรียกว่า “สติทช์”
ทั้งนี้ข้อแตกต่างที่สําคัญระหว่างวิดีโอ 360 องศา และ VR วิดีโอ 360 องศา เรายังเห็นโลกแห่งความเป็นจริงอยู่ เราเห็นโลกเสมือนจริงก็เพราะว่ามันอยู่ตรงหน้าจอมือถือ แต่พอ
เราใส่ Google Card Board กลายเป็นว่าเรามองไมเห็นโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
อีกหนึ่งข้อที่สําคัญคือ VR จะต้องมีความลึก เพราะทําให้เราเห็นภาพเหมือนในชีวิตจริง คือจากการเห็นภาพเดี่ยว ไปเป็นการเห็นแบบภาพคู่ เหมือนการมองเห็นภาพแบบ 3 มิติ
Chayaporn Poolpokar 38

39. คอนเท้นต์ประเภทไหนที่เหมาะสมกับการทําวิดีโอ 360 องศา และ VR
 กีฬาและแอ็คชั่น สปอร์ต หลักการคือนําเสนอสิ่งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้น เพื่อให้ผู้ชมอยากจะชมได้รอบทิศทาง เช่น
วินเซิร์ฟ การบินของเครื่องบินไอพ่น
 สารคดีและข่าว เช่น การถ่ายทํารายการท่องเที่ยวสําหรับพื้นที่ใหม่ๆ หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก และจะยิ่งดีหากสามารถ
ถ่ายทอดสดข่าวในแบบ 360 องศาได้ก็จะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้มากขึ้นไปอีก
 คอนเท้นต์ที่ทําให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมได้มากขึ้น เช่น การนําเสนอภาพอุบัติภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พายุถล่ม หรือนํ้าท่วม
ถ้าเราอยากจะให้ผู้ชมมีความรู้สึกร่วมเห็นอกเห็นใจผู้ประสบเหตุการณ์นําเสนอภาพแบบรอบทิศทางก็จะสร้าง
อารมณ์ร่วมจากผู้ชมได้ดีทีเดียว
 การศึกษา ในอดีตเราเรียนผ่านตําราและตัวหนังสือ มันจะดีแค่ไหนที่เราสามารถเรียนผ่านการรับชมแบบเสมือนจริง
ได้เลย ทําให้มันเป็นเครื่องมือประกอบการเรียนก็จะทําให้นักเรียนสนใจเนื้อหาในการเรียนมากยิ่งขึ้น
 มิวสิควิดีโอ เป็นเทคนิคใหม่ที่ศิลปินหลายคนเริ่มทดลองใช้กันมากขึ้นแล้ว
Chayaporn Poolpokar 39

40. สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนว่า การถ่ายทําด้วยเทคนิค VR หรือ 360 องศานั้น
เหมาะสมหรือไม่
 เนื่องด้วยการถ่ายทําด้วยเทคนิค VR หรือ 360 องศานั้นใช้ทั้งเวลา งบประมาณ และทักษะต่างๆ สูงมาก ดังนั้น การที่จะตัดสินใจทํา
จะต้องพิจารณาด้วยว่าคุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงหรือไม่ หากไม่จําเป็นก็ไม่ควรทํา
 มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ที่เราจะเอาผู้ชมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของฉากนั้น
 การบันทึกแบบ 360 องศา จะเป็นการมอบประสบการณ์ในแบบที่ผู้ชมไม่สามารถหาได้ง่ายๆ หรือไม่ เช่น การพาเที่ยวชมเกาหลีเหนือ
หรือเหตุการณ์รบ เป็นต้น
 สภาพแวดล้อมที่เราบันทึกมีสิ่งต่างๆ ให้เราได้เก็บภาพบันทึกโดยรอบหรือไม่
 เราต้องการให้ผู้ชมได้ดูอะไรรอบๆ แทนที่จะมองไปเพียงแค่จุดๆ เดียวหรือไม่
 นอกเหนือจากความน่าตื่นตาตื่นใจในส่วนของเทคโนโลยี 360 องศาแล้ว สคริปต์หรือเนื้อหาคอนเท้นต์เรามีความน่าสนใจด้วยเหรือไม่
เพื่อให้คนดูดูต่อไปจนจบ
Chayaporn Poolpokar 40

41. ข้อควรระวัง
 สิ่งแวดล้อมของฉากจะต้องน่าสนใจเพียงพอ
 ระวังเรื่องการเคลื่อนที่บนแนวราบ เช่น การเดิน หรือการวิ่ง เราต้องพาไปอาจจะด้วยยานพาหนะก็ได้
 ระวังเรื่องการวางตําแหน่งของกล้อง เช่น ไม่ควรวางกล้องไว้ตรงกลางโต๊ะทานข้าวของตัวละคร
เพราะจะทําให้คนดูรู้สึกเหมือนเป็นอาหาร หรือการถือกล้องเอาไว้ในมือก็จะทําให้เขารู้สึกเหมือนถูก
ยักษ์อุ้ม หรือไม่ควรหมุนกล้องไปมา เพราะจะทําให้ผู้ชมเวียนหัวได้
 ให้เวลาคนดูในการชมแต่ละซีนพอสมควร ไม่ควรตัดไปตัดมามากจนเกินไป
Chayaporn Poolpokar 41

42. เทคนิคการสร้างคอนเทนท์ให้ปัง!
Posted on April 29, 2016
https://startyourcontent.wordpress.com/2016/04/29/how-to-make-yourcontent/
42
การเลือกรูปแบบการนําเสนอ “คอนเทนท์ มาร์เก็ตติ้ง” เป็นส่วนสําคัญที่ทําให้คอนเทนท์ปัง! เลือกรูปแบบที่เราถนัด และกลุ่มเป้าหมายของเราชอบ
อาจจะทดลองนําเสนอหลายรูปแบบแล้ววัดผลว่ากลุ่มเป้าหมายของเราชอบรูปแบบคอนเทนท์ใดบ้าง
อินโฟกราฟฟิก กราฟฟิกผสมข้อความ ช่วยลดข้อความยาว ๆ ให้อ่านเข้าใจง่ายและสวยงาม เหมาะสําหรับสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ใครทํา
ได้ดี ดึงดูดใจ อาจจะได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น เพิ่มจํานวนคนเข้าเว็บ เพิ่มยอดขาย เพิ่มผลกําไร
วีดิโอ คอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ผลิตง่ายใช้ทุนน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก ใคร ๆ ก็ผลิตคลิปวีดิโอได้เหมือนมีช่องทีวีเป็นของตนเอง นําเสนอ
คลิปวีดิโอได้หลากหลายหัวข้อ หลากหลายเรื่องราวตามความสนใจ เช่น คลิปทําอาหาร คลิปท่องเที่ยว คลิปสอนแต่งหน้าทําผม คลิปสอนทําโน่นทํานี่
สารพัด
คลิปเสียง หรือรายการวิทยุ (Podcast) อัดคลิปเสียงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ หรือจัดรายการคล้ายรายการวิทยุ หรือผลิตหนังสือเสียง (Audio
book) เผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ฟังอาจจะดาวน์โหลดไปฟังในเวลาที่สะดวกไม่ต้องรอออนแอร์ อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตคลิปเสียง เช่น คอมพิวเตอร์
ไมโครโฟน และโปรแกรมแจกฟรี
สิ่งสําคัญอีกอย่างที่ทําให้คอนเทนท์ปัง! คือ การฝึกฝน การลงมือทําซํ้าๆ จนเกิดความชํานาญค่ะ
Credit Author
การนําเสนอเนื้อหาให้ผู้รับสารรับรู้ตามจุดประสงค์ของเรานั่นคือหัวใจสําคัญของการสร้างคอนเทนท์ให้ปัง
Chayaporn Poolpokar

43. TRADITIONAL MEDIA FOR CUSTOMER JOURNEY
Chayaporn Poolpokar 43
Credit - บทความโดย : สโรจ เลาหศิริ – Rabbit’sTale/ Moonshot Digital http://positioningmag.com/1097459
1.Awareness : ขั้นตอนการ สร้างการรับรู้ ของสินค้า
หรือบริการ ผ่านทางการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งคือ ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์
ข่าว การเปิดตีวอีเวนต์ และอื่นๆ
2.Consideration : เมื่อเกิดการรับรู้สินค้าแล้วจึงนํา
สินค้ามาพิจารณาเปรียบเทียบกับตัวเลือกที่อยู่ในมือ หรือพิจารณาความ
เหมาะสมทางด้านสิ่งที่ได้รับ + สิ่งที่จ่าย
3.Purchase : ขั้นตอนการซื้อสินค้า โดยอาจจะมีการ
ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเลือก ณ จุดขาย หากพบความยุ่งยากในการซื้อ
หรือ ข้อเสนอที่ดีกว่า ณ จุดขาย เช่น โปรโมชั่น สินค้าไม่มีสต็อก หรือเจอ
สินค้าใหม่ที่ดีกว่า
4.Loyalty Building : สร้างการซื้อซํ้า ด้วย
Loyalty Campaign ต่างๆ เช่น Club Card,
Loyalty Card หรือ การทํา Direct
Marketing เช่นการขอฐานข้อมูลเพื่อส่งเอกสาร โบรชัวร์ไปที่ที่อยู่
ที่ให้ไว้หรือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนําเสนอสินค้าใหม่ๆ

44. ในความเป็นจริงผู้บริโภคมี Journey ในการรู้จักสินค้าหรือแบรนด์ เป็น Flight map กล่าวคือ ไม่มีการเรียงอย่างชัดเจนเป็นลําดับขั้น
บางคนอาจเจอรีวิวก่อน บางคนอาจเห็นเพื่อนแชร์มา บางคนอาจตัดสินใจซื้อเลย ณ จุดขายโดยยังไม่มีการไตร่ตรอง หรือการมีส่วนร่วมเลยก็ได้ดังนั้น เรา
ควรทําให้ทุกๆ ช่องทางการสื่อสาร ในทุกๆ จุดของ Journey มอบประสบการณ์และคุณค่าแบบเดียวกันแต่ส่งอิทธิพลในแต่ละจุดได้อย่างชัดเจน
และสําคัญที่สุด คือ
เรามักหมดเงินไปการส่วนแรก หรือการสร้าง Awareness หมดไปกับการลงโฆษณา ทําไวรอล ทําการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ที่ชอบใช้
ศัพท์นี้กัน แต่เป็นการใช้สื่อ ทีวี สิ่งพิมพ์ บิลบอร์ด แล้วมาทําวิดีโอ อัดเม็ดเงินโฆษณาให้คนเห็น หมดเงินไปโดยลืมไปซะสนิทว่า
ในโลกดิจิทัล ผู้บริโภคไม่ได้มีแค่ รับรู้พิจารณา และซื้อ แต่มันมีมากกว่านั้นเยอะอย่างที่ผมได้กล่าวไป ดังนั้น การวางแผนการตลาด 360 องศา ในยุค
ดิจิทัล คือการวางแผนสื่อได้อย่างครบ Digital Consumer’s Journey นั่นเอง
Chayaporn Poolpokar 44
มีข้อสําคัญที่เราควรพิจารณาเป็นอย่างมาก 2 ข้อ คือ
DIGITAL เปลี่ยนเส้นทางเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง

45. 1. Awareness : การรับรู้ของคนเรามีสื่อใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Social Media Advertising, OnlineVideo, Display Ad หรือแม้กระทั่งจะเห็นจาก
Content Marketing หรือการแชร์ต่อมาจากเพื่อนของเราใน Social Media
2. Involvement : การมีส่วนร่วมต่อการรับรู้หรือการสื่อสารทางการตลาด ด้วยการที่ดิจิทัลได้มอบอํานาจในการมีส่วนร่วมให้กับลูกค้าที่มีต่อการสื่อสาร หรือการสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้าเพิ่ม
มากไม่ว่าจะเป็น ชอบกดไลค์ อยากบอกต่อก็กดแชร์ หรือสามารถ Subscribe เพื่อติดตามต่อ นี่รวมไปถึงการคลิกอ่านต่อ การ Search ข้อมูลเดี๋ยวนั้น หรือ Bookmark เพื่อเก็บไว้อ่าน
ต่อ
3. Active Consideration : จากเดิมที่เราเทียบสินค้าจากแหล่งไม่กี่แหล่ง ทุกวันนี้เราสามารถดูเรตติ้่ง ดูรีวิว เทียบสินค้าได้จากเว็บเปรียบเทียบราคา หรือแม้กระทั่งเปรียบเทียบสินค้าเดียวกัน
กับผู้ขายคนอื่นได้เลยทีเดียว
4. Purchase : ช่วงเวลาการซื้อที่สามารถทําได้หลากหลายช่องทางมากขึ้นเช่น e-commerce, M-Commerce และการจ่ายเงินที่เปลี่ยนแปลงไปเช่น Cashless payment,
Mobile Payment,Virtual Currency หรือแม้กระทั่งสิ่งใหม่มาแรงอย่าง Bitcoin
5. Consumption : วันนี้ในการใช้บริการ หรือใช้สินค้า เราอาจจะสามารถสร้างประสบการณ์ร่วมที่เหนือกว่าได้ด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี เช่น การใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ในการ
รับชมภาพยนตร์ที่เราเพิ่งซื้อมาใหม่ หรือการใช้งานสมาร์ททีวี ที่ปัจจุบัน Sync กับ internet และ Devices อื่นๆ ในบ้านแล้ว
6. Relationship Building : จาก Loyalty Card หรือ การทํา Direct Marketing แบบสมัยเก่า เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวได้ด้วยระบบการจัดเก็บข้อมูลของ
ลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ และการสื่อสารตรงกับลูกค้าแต่ละคนผ่านช่องทางใหม่ๆ เช่น LINE, facebook, Fanpage, E-Services, Application และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งเรา
สามารถนําข้อมูลของลูกค้าประจํามาออกแบบโปรแกรมเพื่อรักษาความสัมพันธ์ต่อเนื่องได้อย่างถูกใจและตรงใจมากขึ้น
7. Advocacy : สิ่งสําคัญอีกอย่างหนึ่งในโลกที่ Social Media และ Online Community เข้ามามีอิทธิพลอย่างสูง คือการบอกต่อถึงประสบการณ์กับสินค้าหรือบริการโดยตรง เช่น
การให้รีวิว การเรตสินค้าที่ Application ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการตั้งกระทู้ต่อว่าในพันทิป สําหรับเจ้าของสินค้าเองก็ต้องจับตาดูและมีการบริหารจุดนี้อย่างดี Chayaporn Poolpokar 45
จะเห็นได้ว่า ในทุกช่วงดิจิทัล เทคโนโลยี ได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลอย่างมาก ที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของคนยุคนี้
ผู้ที่วางแผนได้ครบ Journey และใช้เครื่องมือในแต่ละจุดพร้อมสื่อสารและสร้างประสบการณ์แบบเดียวกัน
คือผู้ที่ทําแคมเปญ ดิจิทัลอย่าง Effective
Credit - บทความโดย : สโรจ เลาหศิริ – Rabbit’sTale/ Moonshot Digital http://positioningmag.com/1097459

46. แม้เราจะทํานายอนาคตไม่ได้ว่าเทรนด์ไหนจะไป เทรนด์ไหนจะมา แต่เราเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ โดยดูจากพฤติกรรมของ
ผู้บริโภค และแนวโน้มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการใช้ “Social Media” ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สําคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ
ได้ในปีหน้า ก่อนอื่นเรามาเรียนรู้5 ขั้นตอนสําหรับการใช้ Social Media ให้ประสบความสําเร็จ ดังนี้
1. กําหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
ไม่มีคําว่าเร็วเกินไปสําหรับการวางแผนงานในปีหน้า ตอนนี้เหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น การกําหนดเป้าหมายตั้งแต่ตอนนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิด
แปลกอะไร การกําหนดเป้าหมายของการใช้ Social Media เองก็เช่นกัน ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram ฯลฯ ซึ่งความสําเร็จเหล่านี้จะ
เกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าคุณไม่ลงมือทํา
ในขั้นตอนแรกคุณต้องทําความเข้าใจถึงเป้าหมายเสียก่อน พิจารณาดูให้ดีว่าจะทําได้จริงหรือไม่ เช่น
• เพิ่มทราฟฟิกเข้าเว็บให้ได้ 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน
• เพิ่ม Engagement ให้ได้60%
• ต้องการใช้ Social Media ผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น 20%
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจจะช่วยให้คุณทํางานและจัดการสิ่งที่ต้องทําได้ง่ายขึ้น
5 ขั้นตอน ปูทางสร้างคอนเท้นต์ให้ประสบความสําเร็จสู่ปี 2017
Founded from : https://www.marketingoops.com/exclusive/how-to/5-steps-creating-successful-social-media-strategy-2017/
Original from : http://www.socialmediatoday.com/marketing/5-steps-creating-successful-social-media-strategy-2017
46
Chayaporn Poolpokar

47. 2. กําหนดกลุ่มเป้าหมาย
ถ้าแบรนด์ของคุณมีสินค้าหลายประเภที่เจาะกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม การกําหนดกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้การทํางานง่ายขึ้น เพราะคนแต่ละ
กลุ่มจะมีวิธีที่จะเข้าถึงแตกต่างกัน เริ่มแรกคุณต้องดูจากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ ว่าพวกเขามีความต้องการอย่างไร แล้วพยายามตอบโจทย์ให้
ได้หรือหากต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ก็ควรเริ่มรีเสิร์จหาข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Social Media ได้เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งการกําหนดเพศ อายุ สถานะ ภูมิลําเนา เป็นต้น แต่
เหนือสิ่งอื่นใด แบรนด์ต้องกําหนดกลุ่มเป้าหมายใช้ชัดเจนเสียก่อน
3. มีคอนเท้นต์ที่หลากหลาย
ปัจจุบันคอนเท้นต์ที่อยู่ใน Social Media นั้นมีปริมาณมากกว่าที่เราคิด และทุกอย่างก็ไหลไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการถือกําเนิดของ
แพลตฟอร์มใหม่ๆ ในปี 2017 สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจากคอนเท้นต์ใน Social Media คือ
อ่าน ในปี 2017 (รวมถึงตอนนี้ด้วย) ผู้บริโภคไม่ต้องการอ่านอะไรยาวๆ แต่ต้องการข้อมูลที่เข้าใจง่าย และรวดเร็ว Social Media จึง
ค่อนข้างตอบโจทย์
ดู การมองภาพจะสื่อสารได้เร็วกว่าข้อความหรือบทความ ในปี 2017 แบรนด์ต้องเลือกใช้ภาพที่น่าสนใจ และถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี
รับชมการรับชมในที่นี้หมายถึงวิดีโอ ตอนนี้เกือบทุกแบรนด์ต่างหันมาผลิตวิดีโอคอนเท้นต์ของตัวเอง ซึ่งไม่จําเป็นต้องลงทุนสูง จะถ่าย
จากสมาร์โฟน หรือกล้องถ่ายรูปโหมดวิดีโอทั่วไปก็ได้ แค่ใส่ใจและให้เวลาอย่างเต็มที่ 47
Chayaporn Poolpokar

48. 4. จัดสรรงบประมาณสําหรับ Social Media โดยเฉพาะ
การจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง แบรนด์ต้องมีการจัดสรรงบประมาณสําหรับโฆษณาบน Social Media โดยเฉพาะ ในอีก 5 ปี
ข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า Social Media จะมีสัดส่วนงบโฆษณาถึง 20% จากงบการตลาดทั้งหมด ในปีหน้าถ้าคุณคิดจะใช้Social
Media อย่างจริงจัง ควรเริ่มคิดได้แล้วว่าจะแบ่งงบการตลาดแต่ละส่วนอย่างไร
5. คอนเท้นต์บนสมาร์ทโฟน
ทราบหรือไม่คนส่วนใหญ่จะเช็คสมาร์ทโฟน 150 ครั้งต่อวัน และ 68% ของผู้ใช้รู้สึกว่าสมาร์ทโฟนสั่นทั้งๆ ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ เข้ามา
แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไม่ว่าจะทําอะไรยังมีความกังวลอยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา ซึ่งในปี 2017 ที่กําลังจะมาถึงนี้คุณควรสํารวจดูว่า
เว็บไซต์ของคุณรองรับกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนแล้วหรือยัง
เพราะ 33% ของผู้ซื้อจะค้นหาข้อมูลสินค้าที่ตนเองสนใจผ่านสมาร์ทโฟน และ 49% บอกว่าการซื้อสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนเป็นขั้นที่ง่าย
และสะดวก อีกทั้ง 80% ของเวลาที่ใช้ Social Media ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะใช้บนสมาร์ทโฟน ด้วยเหตุนี้แบรนด์จึงต้องให้ความสําคัญ
คอนเท้นต์และการโฆษณาบนสมาร์ทโฟน
48
Chayaporn Poolpokar