ประเทศบรูไน
- 2. ภูมิประเทศ ภูมิศาสตร์ เนการาบรูไนดารุสซาลาม
เนการาบรูไนดารุสซาลาม
บรูไน (มาเลย์: Brunei)หรือ เนการาบรูไนดารุสซาลาม (มาเลย์: Negara Brunei
Darussalam) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางด้าน
เหนือจรดทะเลจีนใต้ พรมแดนทางบกที่เหลือจากนั้นถูกล้อมรอบด้วย รัฐซาราวัก มาเลเซียตะวันออก
บรูไนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้้ามันเป็นสินค้าหลัก (ปริมาณการผลิตน้้ามันประมาณ180,000 บาเรล/
วัน)
ที่ตั้ง อาณาเขต
บรูไน (Brunei) หรือ รัฐบรูไนดารุสซาลาม (State of Brunei Darussalam)ตั้งอยู่ทางตะวันตก
เฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ทิศตะวันออก ตะวันตกและทิศใต้ ติดเขตซาราวัก ประเทศมาเลเซีย โดย
พื้นที่ร้อยละ70เป็นป่าไม้
ขนาดพื้นที่
- 3. บรูไนมีขนาดพื้นที่ 5,765ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น4เขต คือBrunei-Muara,
Belait, Temburong และTutong
ลักษณะทางภูมิประเทศ
บรูไนอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ดิน แดนของบรูไนถูกแบ่งเป็น2ส่วน โดย
มีพื้นที่ของรัฐซาราวักของมาเลเซียกั้นไว้เป็นภาคตะวันออก และตะวันตก แม้จะเป็นดินแดนเล็กๆแต่ก็
ร่้ารวยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย เนื่องจากมีทรัพยากรน้้ามันอยู่มาก ลักษณะภูมิประเทศประกอบด้วยที่
ราบชายฝั่งทะเลและที่ราบ หุบเขาซึ่งเป็นดินตะกอนที่แม่น้้าพัดมาทับถม บริเวณที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเข้าไป
ภายในเกาะ ส่วนใหญ่เป็นเนินเขา ดินแดนทางภาคตะวันออกมีลักษณะขรุขระและสูงกว่าตะวันตก
ภูมิอากาศ
ในประเทศบรูไนเป็นภูมิอากาศเขตร้อน มีอุณหภูมิสูง ความชื้นสูง และ ฝนตกเกือบตลอดปี
อุณหภูมิประมาณ24 -32องศาเซลเซียส พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เขตร้อน อุดมด้วยน้้ามันและก๊าซ
ธรรมชาติ
เมืองหลวง
บันดาร์เสรีเบกาวัน (ภาษาอังกฤษ :Bandar Seri Begawan) เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่ส้าคัญ
ของประเทศบรูไนอยู่ในเขตการปกครองบรูไน-เมารา มีประชากรประมาณ60,000คน เดิมชื่อว่า เมืองบรูไน
ภายหลังเมื่อบรูไนพ้นจากการคุ้มครองของอังกฤษแล้ว จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นบันดาร์เสรีเบกาวัน
ประชากร
จ้านวนประชากร300,000คน ความหนาแน่นของประชากร52คนต่อตารางกิโลเมตร ประชาชน
ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์คือร้อยละ68.8ชาวจีนร้อยละ18.3ชนเผ่าต่างๆร้อยละ5.0ชาวอินเดียและอื่นๆ
ร้อยละ7.9
ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสดใส โดยมากมักจะเป็นเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศีรษะ
จรดเท้า ผู้หญิงมุสลิมจะสวมผ้าคุมศีรษะในที่สาธารณะ และในสถานที่ราชการ
ผู้ชายมุสลิม แต่งกายเป็นทางการทั้งในสถานที่ราชการ และที่สาธารณะ คือจะสวมเสื้อแขนยาว ตัว
เสื้อยาวถึงเข่านุ่งกางเกงขายาวแล้วนุ่งโสร่ง
ภาษา
ภาษามาเลย์ (Bahasa Melayu) เป็นภาษาราชการ ภาษาอังกฤษและภาษาจีนเป็นภาษาที่ใช้
สื่อสารแพร่หลาย
ศาสนา
ศาสนาประจ้าชาติ คือ ศาสนาอิสลาม (67%) ศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ ศาสนาพุทธ (13%) ศาสนา
คริสต์ (10%) และฮินดู
หน่วยเงินตรา
- 4. ดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar) ประมาณ1.37ดอลลาร์บรูไน/1ดอลลาร์สหรัฐ (1)หรือ
ประมาณ23.98บาท/1ดอลลาร์บรูไน (2) (บรูไนมีความตกลงแลกเปลี่ยนเงินกับสิงคโปร์ท้าให้เงินดอลลาร์
บรูไนมีมูลค่า เท่ากับเงินดอลลาร์สิงคโปร์และสามารถใช้แทนกันได้ แต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับ
ดอลลาร์สิงคโปร์ ประมาณ23.95บาท/1 ดอลลาร์สิงคโปร์)
เศรษฐกิจและทรัพยากร
บรูไนเป็นประเทศที่ร่้ารวยไปด้วยน้้ามันและก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ท้ารายได้มาสู่ประเทศ
เป็นอันดับหนึ่ง แต่รัฐบาลบรูไนก็เริ่มตระหนักว่าประเทศชาติจะพึ่งพิงรายได้จากทรัพยากรทั้งสองอย่าง
เท่านี้ไม่ได้เสียแล้ว แต่ควรหันมาให้ความสนใจกับทรัพยากรธรรมชาติอี่น ๆ ที่ยังคงมีมากมายเช่น ป่าไม้ แร่
ธาตุ สัตว์น้้า และพื้นที่อันอุดมสมบรูณ์เหมาะแก่การเกษตร เพื่อเป็นการเร่งรัดการพัฒนารูปแบบของการ
ลงทุน สุลตานบรูในได้ทรงตั้งกระทรวงขึ้นมาใหม่คือกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อท้า
หน้าที่ดูแลวางแผนและด้าเนินงานด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนโดยเฉพาะ โครงการอุตสาหกรรมที่ได้รับ
การสนับสนุนและเร่งรัดส่งเสริมเป็นพิเศษ ได้แก่ อุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่สัมพันธ์
กับภาคเกษตร ป่าไม้ และการประมง การด้าเนินการช่วงแรกนั้น รัฐบาลมุ่งสนับสนุนโรงงานและ
อุตสาหกรรมขนาดเล็กในภูมิภาคที่สามารถป้อนผลผลิตให้กับผู้บริโภคในท้องถิ่นก่อนเป็นอันดับแรกแล้วจึง
ขยายไปสู่การผลิตเพื่อการส่งออกในระยะยาว รัฐบาลได้ตั้ง่ความหวังว่าอุตสหกรรมเหล่านี้จะเป็นแหล่งที่
เข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมน้้ามันที่อาจหมดไปในอนาคต โดยที่ประชาชนยังมีหลักประกันว่าจะมีงานท้า
บรูไนเป็นประเทศที่มั่งคั่งด้วยทรัพยากร ขณะนี้ยังมีประชากรน้อยมาก แต่บรูไนก็ไม่ได้หวังพึ่งพารายได้จาก
การขายน้้ามันเพียงอย่างเดียว ได้พยายามที่จะพัฒนาประเทศให้พึ่งพาตัวเองได้ อย่างไรก็ตามบรูไนเป็น
ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมากแห่งหนึ่งของโลก แต่รัฐบาลได้ให้สวัสดิการอย่างดีเลิศแก่ประชาชน อาทิ ไม่
ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลฟรี การศึกษา รัฐให้เปล่าจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา
นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการแก่ข้าราชการของรัฐ อุตสาหกรรมส้าคัญของประเทศ คือ น้้ามัน ส่วนพืชเกษตรที่
ส้าคัญ ได้แก่ ข้าว กล้วย
อุตสาหกรรม
บรูไนมีอุตสาหกรรมอื่น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมน้้ามันอยู่บ้าง อาทิ การผลิตอาหาร และ
เครื่องมือ การผลิตเสื้อผ้า เพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในยุโรป และอเมริกา ทั้งนี้ รัฐบาลบรูไน มุ่งที่จะ
พัฒนาอุตสาหกรรม ด้านการแปรรูปอาหารและผลิตเครื่องดื่ม เสื้อผ้า และสิ่งทอ เครื่องเรือนจากไม้ วัสดุ
ก่อสร้างที่ไม่ใช่โลหะ การผลิตแก้วเพื่อใช้ท้ากระจกรถยนต์ อย่างไรก็ดี บรูไนยังคงประสบกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในการพัฒนาอุตสาหกรรม อาทิ การขาดแคลนช่างฝีมือ และตลาดภายในประเทศที่มีขนาดเล็ก ประกอบ
กับบรูไนไม่มีแรงงานในประเทศเพียงพอ และต้องอาศัยแรงงานจากต่างประเทศเป็นหลัก
- 5. 1. บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์
ดอกไม้ประจาชาติบรูไน ก็คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia)
ดอกไม้ประจาท้องถิ่นบรูไน ที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลือง หากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม
พบเห็นได้ตามแม่นาทั่วไปของบรูไน มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไน จะพบเห็น
ได้จากธนบัตรใบละ 1 ดอลลาร์ ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพืนเมืองอีกด้วย
- 6. การแต่งกายของบรูไน
สำหรับชุดของผู้ชำย เรียกว่ำ บำจู มลำยู (Baju Melayu) ส่วนของชุดผู้หญิงเรียกว่ำ บำจูกุรัง (Baja
Kurung) คล้ำยกับชุดประจำชำติของประเทศมำเลเซีย ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกำยด้วยเสื้อผ้ำที่มีสีสันสดใส
โดยมำกมักจะเป็นเสื้อผ้ำที่คลุมร่ำงกำยตั้งแต่ศรีษะจรดเท้ำ ส่วนผู้ชำยจะแต่งกำยด้วยเสื้อแขนยำว ตัวเสื้อยำว
ถึงหัวเข่ำ นุ่งกำงเกงขำยำวแล้วนุ่งโสร่ง
- 7. ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ภาษาราชการของบรูไนคือภาษามาเลย์ ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวบรูไนใช้กัน มาก
เนื่องจากชาวบรูไนร้อยละ 66 มีเชือสายมาเลย์ อย่างไรก็ตาม ชาวบรูไนส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษ ได้
และสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อธุรกิจได้เช่นกัน รวมไปถึงภาษาจีนซึง เป็นภาษาที่มีการใช้กันมาก
เนื่องจากมีชาวบรูไนเชือสายจีนอยู่ถึงร้อยละ 11 การเรียนรู้ภาษามาเลย์จะช่วยสร้างความประทับใจให้คู่
เจรจา ชาวบรูไนได้
คาศัพท์ คาอ่าน
สวัสดี ซาลามัด ดาตัง
อากาศดีจัง
สบายดีไหม อาปา กาบา
พบกันใหม่ เบอจัมปา ลากิ
ขอบคุณ เตริมา กะชิ
นอนหลับฝันดี มิมปิ๊ มานิส
เชิญ เม็นเจ็มพุด
ไม่เป็นไร ทีแด๊ก อปาอาปา
ยินดีที่ได้รู้จัก เจมบิรา ดาปัด เบอเตมู อันดา
ลาก่อน เซลามัต ติงกัล
ใช่ ยา
ไม่ใช่ ทีแด๊ก
อากาศร้อนมาก ซังกัด พานัส
อากาศหนาวมาก คอค่า ยัง ซังกัด เซจุ๊ค
- 8. มีลักษณะเด่นคือ เหนียวข้นคล้ายข้าวต้มหรือโจ๊ก ไม่มีรสชาติ มีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก
วิธีทาน
จะใช้แท่งไม้ไผ่ 2 ขาซึ่งเรียกว่า chandas ม้วนแป้งรอบ ๆ แล้วจุ่มในซอสผลไม้เปรียวที่
เรียกว่า cacah
หรือซอสที่เรียกว่า cencalu ซึ่งทาจากกะปิทานคู่กับเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด เช่น เนือห่อใบตอง
ย่าง เนือทอด
เป็นต้น การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติต้องทานร้อน ๆ และกลืน โดยไม่ต้องเคียว