SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
ห้ องสมุดและการจัดหมวดหมู่หนังสือ

 ระบบการจัดการศึกษาในปัจจุบนยอมรับกันว่า ห้องสมุดเป็ นองค์ประกอบที่สาคัญ
                                   ั
อย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การจัดการศึกษาบรรลุเป้ าหมายที่ตองการได้ดวยดี เนื่องจากห้องสมุด (Library) คือ
                                                             ้       ้
แหล่งสารสนเทศที่รวบรวมทรัพยากร ข้อมูล ข่าวสารในรู ปแบบต่างๆ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จุล
สาร กฤตภาค หรื อบทความทางวิชาการ ตลอดจนสื่อโสตทัศน์พวก
CD-ROM, DVD, VCD โดยมีบรรณารักษ์เป็ นผูดาเนินงานและบริ หารงานต่างๆ ในห้องสมุดให้จดเก็บอย่าง
                                                  ้                                                      ั
เป็ นระบบหมวดหมู่และเป็ นระเบียบเรี ยบร้อยเพื่อให้ผใช้หองสมุดมีความสะดวก ต่อการใช้งาน
                                                        ู้ ้
 คาว่า ห้องสมุด ในปัจจุบนใช้ศพท์ในภาษาต่างประเทศว่า
                          ั      ั                                              Libraries นั้นหมายถึง แหล่งสะสม
รวบรวมสรรพวิทยาการต่างๆ ที่บนทึกในรู ปของหนังสือ วารสาร จุลสาร ตลอดจนสิ่งพิมพ์ ประเภทอื่นๆ
                                     ั
รวมทั้งโสตทัศนวัสดุ และบริ หารงานโดยบรรณารักษ์ ซึ่งมีความรู้และได้รับการฝึ กฝน                               ทางวิชา
บรรณารักษศาสตร์โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อให้สนองความต้องการของผูใช้ในภารกิจด้านการศึกษา นคว้าวิจย
                                                                       ้                           การค้           ั
การบันเทิง การพักผ่อนหย่อนใจ และจรรโลงใจของคนในชุมชน ในฐานะที่เป็ นสถานที่สาคัญของสังคมเพื่อ
สร้างสมและสืบทอด รวมทั้งเผยแพร่ มรดกทางการศึกษา วัฒนธรรม กิจกรรมการค้นคิด ตลอดจนวิทยาการ
ใหม่ๆ เพื่อเป็ นรากฐานในการสร้างความเป็ นปึ กแผ่นและความเจริ ญก้าวหน้าให้แก่สงคม (ชุติมา สัจจานันท์.
                                                                                             ั
2530 : 79) ความหมายของห้องสมุดในทัศนะของผูเ้ ขียนเวลานี้ หมายถึง สถานที่ที่รวบรวมวัสดุสารสนเทศ
ทุกชนิดอย่างมีระบบและมีการจัดการวัสดุเหล่านั้นให้ผใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้สะดวกและรวดเร็ ว
                                                          ู้
ห้องสมุดยังมีคาเรี ยกต่างๆ อีกมากมาย เช่น ศูนย์ขอมูล ศูนย์วสดุ ศูนย์วสดุการศึกษา สถาบันวิทยบริ การ ศูนย์
                                                    ้              ั     ั
เอกสาร และศูนย์สารสนเทศ เป็ นต้น
 ห้องสมุดมีความสาคัญต่อบุคคลทั้งหลาย เป็ นที่รวมวิทยาการต่างๆ ที่ผใช้สามารถค้นหาข้อมูล
                                                                             ู้
ความรู้ได้ทุกสาขาวิชา เป็ นสถานที่ที่ผใช้สามารถเลือกอ่านหนังสือและค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง
                                        ู้
อย่างอิสระและตามความสนใจของแต่ละบุคคล และยังเป็ นสถานที่ท่ีก่อให้เกิดนิสยรักการอ่าน จนกระทังทา
                                                                                         ั                      ่
ให้ผใช้สามารถมองเห็นความแตกต่างของหนังสือว่าเล่มไหนเขียน ได้ดีและสามารถจดจาแนวทางการเขียนที่
      ู้
ดีเพื่อนามาประยุกต์ใช้ได้ ทั้งยังช่วยให้รู้จกใช้เวลาว่าง ให้เป็ นประโยชน์ บทบาทสาคัญของห้องสมุดต่อ
                                            ั
สังคมในด้านการศึกษา คือ ห้องสมุดเป็ นแหล่งความรู้ที่นกเรี ยน นักศึกษา สามารถค้นหาความรู้ดวยตนเอง
                                                               ั                                           ้
โดยห้องสมุดมีบทบาทในการเสริ มความรู้และสนับสนุนการศึกษาในระบบและให้โอกาสในการเข้าถึง
การศึกษา ได้ใช้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาอาชีพให้ทนกับวิทยาการและเทคโนโลยีให้แก่ผที่ไม่มีโอกาส
                                                                 ั                                    ู้
เข้าศึกษาในโรงเรี ยนหรื อผูที่ได้สาเร็ จการศึกษาแล้ว อีกแง่หนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่า ห้องสมุดยังมีบทบาทในด้าน
                            ้
วัฒนธรรม คือ เป็ นที่บารุ งรักษาวัฒนธรรมของชาติให้สืบทอดให้คงอยูไปยังอนุชนรุ่ นต่อไป เนื่องจากห้องสมุด
                                                                           ่
เป็ นแหล่งที่จดเก็บข้อมูลทางด้านสารสนเทศ ซึ่งส่งเสริ มศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ และสามารถใช้บ่งบอก
               ั
ความเจริ ญก้าวหน้าของประเทศนั้นๆ อีกด้วย
2
 ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด คือ วัสดุสารสนเทศทุกชนิดที่ให้ขอเท็จจริ ง ความรู้ เรื่ องราวที่
                                                                        ้
เป็ นประโยชน์ โดยผูรับอาจจะรับสารสนเทศจากวัสดุน้ นได้ดวยประสาทสัมผัสทั้งหลาย เช่น การอ่าน
                      ้                                    ั   ้
ตัวหนังสือจากสิ่งพิมพ์ต่างๆ การดูจากของจริ ง หุ่นจาลอง รู ปภาพ ภาพนิ่ง แผนที่ การฟังเสียงจากเทป
บันทึกเสียง แผ่นเสียง การดูภาพและฟังเสียงจากภาพยนตร์และวีดิทศน์ การสูดกลินจากหนังสือบางเล่ม
                                                                      ั             ่
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดจึงครอบคลุมไปทั้งวัสดุตีพิมพ์และ ไม่ตีพิมพ์ และปัจจุบนโลกอยูใน     ั             ่
สังคมยุคสารสนเทศ ทุกประเทศสามารถติดต่อถึงกันได้ในเวลาอันรวดเร็ ว เทคโนโลยีสารสนเทศก็เจริ ญ
รุ ดหน้า การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศในยุคปัจจุบนได้ มีการจัดเก็บไว้ในรู ปของอิเล็กทรอนิกส์อีกรู ปแบบ
                                                     ั
หนึ่ง
 ในด้านการสืบค้นสารสนเทศมาใช้งาน ปัจจุบนมีการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถ
                                                  ั                                                          ทาการ
สืบค้นได้รวดเร็ ว มีความถูกต้องสูง และการสืบค้นนั้นไม่เพียงสืบค้นสารสนเทศที่มีในห้องสมุด ๆ ได้เท่านั้น
                                                                                                 นั้น
ยังสามารถค้นคืนสารสนเทศจากแหล่งสารสนเทศที่อยูนอกห้องสมุดไกลๆ ได้อีก
                                                         ่
 อย่างไรก็ดีทรัพยากรสารสนเทศหลักในห้องสมุดในประเทศไทยเรา ส่วนใหญ่ยงคงเป็ นวัสดุ   ั
ประเภทตีพิมพ์ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะหนังสือยังเป็ นวัสดุหลัก                ในห้องสมุด
โดยทัวไป เมื่อห้องสมุดมีหนังสือจานวนมากๆ ก็เกิดปัญหาว่าห้องสมุดจะจัดเก็บหนังสือที่มีอยูน้ นอย่างไรจึง
       ่                                                                                           ่ ั
จะเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ขณะเดียวกันก็สามารถเปิ ดโอกาสให้ผใช้คนหาได้สะดวกรวดเร็ ว ในระยะแรกที่เริ่ มมี
                                                                 ู้ ้
กิจการห้องสมุดขึ้นนั้น การจัดเก็บหนังสือยังไม่มีระบบที่ดีที่จะตอบสนองความต้องการที่กล่าวมาข้างต้นได้
กล่าวคือ บางแห่งจัดเก็บไว้ตามลาดับของ การได้รับหนังสือนั้นเข้ามาในห้องสมุด เล่มใดได้รับมาก่อนก็จด               ั
ไว้ในตูแรก ที่ได้เพิ่มมาภายหลัง ก็จดเรี ยงลาดับกันต่อๆ ไป เมื่อเต็มตูแรกก็จดเก็บในตูถดไป บางแห่งจัดเก็บ
         ้                            ั                                   ้   ั        ้ ั
โดยใช้ขนาดของหนังสือ เป็ นเกณฑ์ หนังสือขนาดใหญ่ไว้ดวยกัน ขนาดเล็กลงมาก็เก็บไว้ดวยกัน วิธีการ
                                                             ้                             ้
จัดเก็บสองวิธีที่กล่าวมาแล้วนั้น พบว่าไม่สะดวกต่อการค้นหาหนังสือ เพราะตามธรรมชาติแล้วผูท่ีจะใช้        ้
หนังสือ ในห้องสมุดย่อมจะไม่รู้ว่าหนังสือที่ตนต้องการนั้นห้องสมุดได้รับเข้ามาเมื่อใด หรื อมีขนาดใด การ
จะค้นหาหนังสือต้องอาศัยความจาของผูจดเก็บเป็ นส่วนใหญ่
                                          ้ั
 ต่อมาได้มีผคิดค้นหาวิธีจดเก็บหนังสือในห้องสมุดขึ้นใหม่ วิธีหลังๆ นี้จะยึดถือเนื้อหาของหนังสือ
             ู้           ั
เป็ นสาคัญ กล่าวคือ หนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกันหรื อคล้ายกันก็จะจัดเก็บไว้ดวยกันหรื อใกล้ๆ กัน เมื่อแนวคิด
                                                                            ้
ดังกล่าวเป็ นที่ยอมรับมากขึ้น ต่อมาจึงได้มผรู้คิดระบบการแบ่งหมวดหมู่หนังสือขึ้นมาเพื่อจะใช้กบการ
                                             ี ู้                                                        ั
จัดเก็บหนังสือในห้องสมุด โดยที่ระบบที่คิดขึ้นมานั้นจะต้องสามารถครอบคลุมวิชาความรู้ท้งหลายที่มีใน
                                                                                               ั
โลกได้ ซึ่งก็มีผคิดค้นระบบการแบ่งหมู่หนังสือขึ้นมาหลายคนด้วยกัน จึงเกิดเป็ นระบบการแบ่งหมวดหมู่
                 ู้
หนังสือระบบต่างๆ ขึ้น ซึ่งแต่ละระบบจะมีหลักการคล้ายๆ กัน อาจจะต่างกันตรงที่มีการใช้สญลักษณ์ต่างกัน
                                                                                                 ั
เท่านั้น
 ระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือที่นิยมกันแพร่ หลายมีดงนี้   ั
           1. ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification) เรียกย่อๆ ว่า D.C. หรือ D.C.C. เป็ นระบบ
การจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดที่นิยมระบบหนึ่ง คิดค้นขึ้นโดยชาวอเมริ กนชื่อ เมลวิล ดิวอี้ โดยเขาได้
                                                                                ั
3
แบ่งหนังสือออกเป็ นหมวดหมู่ต่างๆ จากหมวดหมู่ใหญ่ไปหาหมวดหมู่ยอย การแบ่งหมวดหมู่หนังสือครั้งที่
                                                                        ่
1 ตามประเภทของสรรพวิชาใหญ่ 10 หมวด และแบ่งครั้งที่ 2 แบ่งออกเป็ นอีก 10 หมวดย่อย โดยใช้ตวเลข ั
หลักสิบเป็ นตัวบ่งชี้ รวมเป็ น 100 หมวดย่อย ดังนี้
           000 เบ็ดเตล็ดหรือความรู้ทั่วไป (Generalities) วิชาความรู้ที่ไม่อาจจัดไว้ในหมวดใดๆ
  010 บรรณานุกรมและบัญชีรายการ (แค็ตตาล็อก)
  020 บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
  030 หนังสือรวบรวมความรู้ทวไป สารานุกรม
                                 ั่
  040 (ไม่ได้กาหนดใช้)
  050 สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง วารสาร นิตยสาร
  060 สมาคม องค์การต่างๆ และพิพิธภัณฑวิทยา
  070 วารสารศาสตร์ การพิมพ์
  080 รวมเรื่ องทัวไปที่ไม่อาจจัดลงในหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งได้
                  ่
  090 หนังสือต้นฉบับตัวเขียนและหนังสือหายาก
           100 ปรัชญา (Philosophy) เป็ นวิชาที่มนุษย์ตองการทราบว่า ตนคือใคร เกิดมาทาไม
                                                      ้
  110 อภิปรัชญา
  120 ทฤษฎีแห่งความรู้ ความเป็ นมนุษย์
  130 จิตวิทยานามธรรม
  140 ความคิดทางปรัชญาเฉพาะกลุ่ม
  150 จิตวิทยา
  160 ตรรกวิทยา
  170 จริ ยศาสตร์ จริ ยธรรม ศีลธรรม
  180 ปรัชญาสมัยโบราณ ปรัชญาสมัยกลาง ปรัชญาตะวันออก
  190 ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่
           200 ศาสนา (Religion) วิชาที่มนุษย์ตองการค้นหาความจริ งที่ทาให้เกิดทุกข์และ ความหลุดพ้น
                                               ้
จากความทุกข์
 210 ปรัชญาและทฤษฎีทางศาสนา
 220 คัมภีร์ไบเบิล
 230 เทววิทยาตามแนวคริ สต์ศาสนา
 240 ศีลธรรมของชาวคริ สเตียน
 250 คริ สต์ศาสนาในท้องถินและระเบียบแบบแผนปฏิบติ
                             ่                          ั
 260 องค์กรของชาวคริ สต์ งานสังคมสงเคราะห์ของชาวคริ สต์
 270 ประวัติคริ สต์ศาสนา
4
 280 นิกายต่างๆ ในคริ สต์ศาสนา
 290 ศาสนาเปรี ยบเทียบและศาสนาอื่นๆ
           300 สังคมศาสตร์ (Social Science) วิชาที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ เมื่อมนุษย์ มาอยู่
รวมกันเป็ นสังคมขึ้นมา
 310 สถิติทวไป
            ั่
 320 รัฐศาสตร์ การเมือง
 330 เศรษฐศาสตร์
 340 กฎหมาย
 350 รัฐประศาสนศาสตร์ การบริ หารรัฐกิจ การบริ หารกองทัพ
 360 ปัญหาสังคมและบริ การสังคม
 370 การศึกษา
 380 การพาณิ ชย์ การสื่อสาร การขนส่ง
 390 ขนบธรรมเนียม ประเพณี คติชนวิทยา
           400 ภาษาศาสตร์ (Language) วิชาที่ช่วยในการสื่อสาร ทาให้มนุษย์เข้าใจซึ่งกันและกัน
 410 ภาษาศาสตร์
 420 ภาษาอังกฤษ
 430 ภาษาเยอรมันและภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง
 440 ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง
 450 ภาษาอิตาเลียน ภาษาโรมัน และภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง
 460 ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส
 470 ภาษาละติน
 480 ภาษากรี กเก่าและภาษากรี กใหม่
 490 ภาษาอื่นๆ
           500 วิทยาศาสตร์ (Science) วิชาที่มนุษย์ตองการทราบความจริ งของธรรมชาติ
                                                   ้
 510 คณิ ตศาสตร์
 520 ดาราศาสตร์
 530 ฟิ สิกส์
 540 เคมี
 550 โลกวิทยา (การศึกษาเรื่ องราวเกี่ยวกับโลก)
 560 บรรพชีวินวิทยา ฟอสซิล ชีวิตสมัยโบราณ
 570 วิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต ชีววิทยา
 580 พืช พฤกษศาสตร์
5
 590 สัตว์ สัตววิทยา
            600 วิทยาศาสตร์ ประยุกต์ หรือเทคโนโลยี (Technology) วิชาที่มนุษย์เอาความรู้เกี่ยวกับความจริ ง
ของธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กบตน   ั
 610 แพทยศาสตร์
 620 วิศวกรรมศาสตร์
 630 เกษตรศาสตร์
 640 การจัดการบ้านเรื อนและครอบครัว
 650 การบริ หารจัดการและการประชาสัมพันธ์
 660 วิศวกรรมเคมีและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
 670 โรงงาน ผลิตภัณฑ์จากโรงงาน
 680 โรงงานผลิตสิ่งของเพื่อประโยชน์เฉพาะอย่าง
 690 อาคารและการก่อสร้าง
            700 ศิลปกรรมและการบันเทิง (Arts and Recreation) วิชาที่มนุษย์สร้างสรรค์ข้ ึนมาเพื่อความ
บันเทิงใจของตน
 710 ศิลปะภูมทศน์หรื อภูมิสถาปัตย์ การออกแบบบริ เวณพื้นที่
                 ิ ั
 720 สถาปัตยกรรม
 730 ประติมากรรม เซรามิกส์ และงานโลหะ
 740 การวาดเส้นและศิลปะตกแต่ง
 750 จิตรกรรม การเขียนภาพ
 760 เลขนศิลป์ หรื อศิลปะกราฟิ ก ศิลปะการพิมพ์ภาพ
 770 การถ่ายภาพและศิลปะคอมพิวเตอร์
 780 ดนตรี
 790 นันทนาการ ศิลปะการแสดง การกีฬา
            800 วรรณคดี (Literature) วิชาที่มนุษย์ตองการแสดงความคิด ความประทับใจไว้ดวยสัญลักษณ์
                                                   ้                                         ้
ที่เป็ นตัวอักษร
 810 วรรณคดีอเมริ กนที่เป็ นภาษาอังกฤษ
                     ั
 820 วรรณคดีองกฤษ  ั
 830 วรรณคดีเยอรมันและวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
 840 วรรณคดีฝรั่งเศสและวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
 850 วรรณคดีอิตาเลียน วรรณคดีโรมัน และวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
 860 วรรณคดีสเปน วรรณคดีโปรตุเกส
 870 วรรณคดีละติน
6
 880 วรรณคดีกรี กคลาสิกและวรรณคดีกรี กสมัยใหม่
 890 วรรณคดีอื่นๆ
          900 ประวัตศาสตร์ และภูมศาสตร์ (History and Geography) วิชาที่ได้บนทึกเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น
                      ิ              ิ                                     ั
ในยุคสมัยต่างๆ เพื่อให้อนุชนรุ่ นหลังได้รับทราบ
 910 ภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยว
 920 ชีวประวัติ ประวัติบุคคล
 930 ประวัติศาสตร์โลกโบราณ (ถึงประมาณ ค.ศ. 499)
 940 ประวัติศาสตร์ทวีปยุโรป
 950 ประวัติศาสตร์ทวีปเอเชีย
 960 ประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริ กา
 970 ประวัติศาสตร์ทวีปอเมริ กาเหนือ
 980 ประวัติศาสตร์ทวีปอเมริ กาใต้
 990 ประวัติศาสตร์ส่วนอื่นๆ ของโลกและบริ เวณนอกโลก

             2. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกน (Library of Congress Classification) หรือเรียกย่อว่า ระบบ
                                        ั
L.C. เป็ นระบบที่ใช้ตวอักษรผสมตัวเลขเป็ นสัญลักษณ์ นิยมใช้กบห้องสมุดขนาดใหญ่ มีหนังสือจานวน
                       ั                                     ั
มาก เช่น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ แบ่งออกเป็ น 20 หมวดใหญ่
โดยใช้ตวอักษร A-Z ยกเว้น I, O, W, X และ Y
           ั
             3. ระบบห้ องสมุดแพทย์แห่ งชาติอเมริกน (Nation Library of Medicine Classification : NLM)
                                                 ั
เป็ นการจัดหมู่หนังสือสาหรับห้องสมุดแพทย์โดยตรง สามารถแบ่งออกเป็ น 2 หมวดใหญ่ สัญลักษณ์เป็ น
ตัวอักษร QS-QZ โดย Q นั้นเป็ นการให้เลขหมู่สาหรับหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์พ้ืนฐาน
(Preclinical Sciences) และ W-WZ สาหรับหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
(Medicine and Related Subjects) พร้อมกับใช้ตวเลขประกอบกันโดยแบ่งหนังสือออกเป็ น 41 หมวด
                                              ั
             ความแตกต่างของการจัดหมวดหมู่หนังสือระบบทศนิยมของดิวอี้และระบบหอสมุดรัฐสภา
อเมริ กนสามารถแจงได้เห็นภาพได้ชดเจนคือ
       ั                             ั
         ระบบทศนิยมของดิวอี้                       ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกน
                                                                         ั
1. แบ่งออกเป็ น 10 หมวดใหญ่ 1. แบ่งออกเป็ น 20 หมวดใหญ่
2. ใช้ตวเลขเป็ นสัญลักษณ์ 2. ใช้ตวอักษรผสมกับตัวเลขเป็ นสัญลักษณ์
         ั                         ั
3. เหมาะสาหรับห้องสมุดขนาดเล็ก 3. เหมาะกับห้องสมุดขนาดใหญ่และห้องสมุด
และขนาดกลาง เฉพาะ
7
 โดยทัวไปห้องสมุดแต่ละแห่งจะเลือกใช้ระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือระบบใดระบบ
        ่                                                                                              หนึ่ง
เท่านั้น ขึ้นอยูกบความเหมาะสม ตามวิธีของห้องสมุดแต่ละแห่ง หนังสือบางประเภทไม่กาหนดเลขหมู่หรื อ
                ่ ั
สัญลักษณ์ตามระบบใด แต่ใช้อกษรย่อแทนประเภทของหนังสือ ส่วนมากจะเป็ นหนังสือ ที่มีเนื้อหาประเภท
                                   ั
เดียวกัน หรื อหนังสือที่อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น หนังสือนวนิยาย เรื่ องสั้นและรวมเรื่ องสั้น หนังสือ
สาหรับเด็ก เช่น
 หนังสือนวนิยาย ภาษาไทยใช้                  น หรื อ นว มาจากคาว่า นวนิยาย
               ภาษาอังกฤษใช้ F หรื อ Fic มาจากคาว่า Fiction
             หนังสือสาหรับเด็ก ภาษาไทยใช้ ยว มาจากคาว่า เยาวชน
  ห้องสมุดบางแห่งใช้                  ด ภาษาอังกฤษใช้ J มาจากคาว่า Juvenile
             หนังสืออ้างอิง ภาษาไทยใช้ อ โดยใส่ไว้เหนือเลขหมู่หนังสือ
  ภาษาอังกฤษใช้                   Ref มาจากคาว่า Reference Book
             หนังสือรวมเรื่ องสั้น ภาษาไทยใช้ รส มาจากคาว่า รวมเรื่ องสั้น
  ภาษาอังกฤษใช้                   SC มาจากคาว่า Short Stories Collection
             หนังสือที่มีลกษณะพิเศษที่ใช้ตวย่อแทนเลขหมู่หรื อสัญลักษณ์ของระบบการจัดหมวดหมูเหล่านี้จะ
                          ั               ั                                                         ่
เรี ยงอยูบนชั้นแยกจากหนังสืออื่นๆ ที่ให้หมวดหมู่หรื อสัญลักษณ์ตามระบบการจัดหมวดหมู่ท่ีเป็ นสากล
          ่
8

แหล่งอ้างอิง

ชุติมา สัจจานันท์. ห้ องสมุดและการศึกษาค้นคว้า. กรุ งเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว,
            2530.
น้ าทิพย์ วิภาวิน. การบริหารห้ องสมุดยุคใหม่ = Modern Library Management.
            กรุ งเทพมหานคร : เอสอาร์ พริ้ นติ้ง แมสโปรดักส์, 2548.
_______. ห้ องสมุดมีชีวต = A Living Library. นนทบุรี : รุ่ งโรจน์อินเตอร์กรุ๊ ป, 2548.
                         ิ
พวา พันธุเ์ มฆา. ดีดีซี 22 : การแบ่ งหมู่หนังสือและแผนการแบ่ งหมู่ระบบทศนิยมดิวอี้
 จากต้นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 22           . กรุ งเทพมหานคร : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และ
 สารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรี นคริ นทรวิโรฒ, 2551.
สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย. ห้ องสมุดยุคใหม่ : ผู้นาแห่ งการเรียนรู้ = The New Age
            Library : The Leadership of Learning. กรุ งเทพมหานคร : สมาคมห้องสมุดแห่ง
            ประเทศไทย, 2545.

More Related Content

What's hot

ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ม.2
ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้  ม.2ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้  ม.2
ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ม.2Ploykarn Lamdual
 
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุด
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุดแบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุด
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุดSupaporn Khiewwan
 
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดChuleekorn Rakchart
 
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์krujee
 
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือ
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือLibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือ
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือPloykarn Lamdual
 
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศLibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศPloykarn Lamdual
 
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศ
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศเฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศ
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศSupaporn Khiewwan
 
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560Supaporn Khiewwan
 
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุด
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุดLibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุด
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุดPloykarn Lamdual
 
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classificationPloykarn Lamdual
 
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิง
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิงใบความรู้ เรื่องอ้างอิง
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิงSupaporn Khiewwan
 
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศnok_waraporn
 
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือ
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือเฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือ
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือSupaporn Khiewwan
 
3.3 การจัดเรียงหนังสือ
3.3 การจัดเรียงหนังสือ3.3 การจัดเรียงหนังสือ
3.3 การจัดเรียงหนังสือPloykarn Lamdual
 
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate materialPloykarn Lamdual
 
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุด
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุดLibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุด
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุดPloykarn Lamdual
 
วัสดุสารนิเทศ
วัสดุสารนิเทศวัสดุสารนิเทศ
วัสดุสารนิเทศO Phar O Amm
 
จัดหมู่หนังสือเนื้อหา
จัดหมู่หนังสือเนื้อหาจัดหมู่หนังสือเนื้อหา
จัดหมู่หนังสือเนื้อหาkrujee
 
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library materialPloykarn Lamdual
 

What's hot (20)

ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ม.2
ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้  ม.2ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้  ม.2
ใบความรู้ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ม.2
 
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุด
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุดแบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุด
แบบทดสอบเรื่อง ประวัติห้องสมุด
 
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
 
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์
ส่วนประกอบหนังสือและสิ่งพิมพ์
 
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือ
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือLibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือ
LibJu - 3.1 จัดหมวดหมู่ตู้หนังสือ
 
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศLibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ
LibJu - 2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ
 
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศ
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศเฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศ
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารสนเทศ
 
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560
เฉลยแบบฝึกหัดทรัพยากรสารนิเทศ ม.4 2560
 
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุด
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุดLibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุด
LibJu - 1.4 ระเบียบการใช้งานห้องสมุดและกิจกรรมห้องสมุด
 
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification
3.1 การจัดหมวดหมู่ห้องสมุด classification
 
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิง
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิงใบความรู้ เรื่องอ้างอิง
ใบความรู้ เรื่องอ้างอิง
 
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
 
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือ
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือเฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือ
เฉลยแบบทดสอบหนังสือเลขเรียกหนังสือ
 
3.3 การจัดเรียงหนังสือ
3.3 การจัดเรียงหนังสือ3.3 การจัดเรียงหนังสือ
3.3 การจัดเรียงหนังสือ
 
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material
2.1.2 การประเมินค่าทรัพยกรสารสนเทศ evaluate material
 
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุด
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุดLibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุด
LibJu - 1.1 ประวัติความเป็นมาของห้องสมุด
 
วัสดุสารนิเทศ
วัสดุสารนิเทศวัสดุสารนิเทศ
วัสดุสารนิเทศ
 
จัดหมู่หนังสือเนื้อหา
จัดหมู่หนังสือเนื้อหาจัดหมู่หนังสือเนื้อหา
จัดหมู่หนังสือเนื้อหา
 
G14 เรื่อง วารสาร นิตยสาร
G14 เรื่อง วารสาร นิตยสารG14 เรื่อง วารสาร นิตยสาร
G14 เรื่อง วารสาร นิตยสาร
 
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material
2.1 ทรัพยากรสารสนเทศ Library material
 

Similar to ห้องสมุดและการจัดหมวดหมู่หนังสือ

วิชางานห้องสมุด
วิชางานห้องสมุดวิชางานห้องสมุด
วิชางานห้องสมุด25462554
 
ห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดีห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดีteerasak04
 
ความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดพัน พัน
 
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์ และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์  และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์  และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์ และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์krunumc
 
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern libraryPloykarn Lamdual
 
Introduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionIntroduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionRachabodin Suwannakanthi
 
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์pentanino
 
การเขียนรายงาน58
การเขียนรายงาน58การเขียนรายงาน58
การเขียนรายงาน58Supaporn Khiewwan
 
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษา
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษาแนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษา
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษาBoonlert Aroonpiboon
 
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่น
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่นกลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่น
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่นSilpakorn University
 
ประวัติ2
ประวัติ2ประวัติ2
ประวัติ2sangworn
 
Is บทที่1
Is บทที่1Is บทที่1
Is บทที่1SLBwolf CH
 
สารานุกรม (Encyclopedias)
สารานุกรม  (Encyclopedias)สารานุกรม  (Encyclopedias)
สารานุกรม (Encyclopedias)Srion Janeprapapong
 

Similar to ห้องสมุดและการจัดหมวดหมู่หนังสือ (20)

วิชางานห้องสมุด
วิชางานห้องสมุดวิชางานห้องสมุด
วิชางานห้องสมุด
 
ห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดีห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดี
 
ความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุด
 
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์ และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์  และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์  และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
บทที่ 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์ และการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
 
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library
1.2 พัฒนาการของห้องสมุด modern library
 
03chap1
03chap103chap1
03chap1
 
Introduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionIntroduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media Production
 
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
 
การเขียนรายงาน58
การเขียนรายงาน58การเขียนรายงาน58
การเขียนรายงาน58
 
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษา
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษาแนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษา
แนวโน้มของห้องสมุดอุดมศึกษา
 
V 283
V 283V 283
V 283
 
เอกสารโบราณอีสาน
เอกสารโบราณอีสานเอกสารโบราณอีสาน
เอกสารโบราณอีสาน
 
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่น
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่นกลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่น
กลยุทธ์การส่งเสริมการอ่านสำกรับวัยรุ่น
 
ประวัติ2
ประวัติ2ประวัติ2
ประวัติ2
 
Is บทที่1
Is บทที่1Is บทที่1
Is บทที่1
 
สารานุกรม (Encyclopedias)
สารานุกรม  (Encyclopedias)สารานุกรม  (Encyclopedias)
สารานุกรม (Encyclopedias)
 
7
77
7
 
รายงานประจำปี 2552 2553
รายงานประจำปี 2552 2553รายงานประจำปี 2552 2553
รายงานประจำปี 2552 2553
 
Lesson4 refer11
Lesson4 refer11Lesson4 refer11
Lesson4 refer11
 
By Colorfuls Mk22
By Colorfuls Mk22By Colorfuls Mk22
By Colorfuls Mk22
 

ห้องสมุดและการจัดหมวดหมู่หนังสือ

  • 1. ห้ องสมุดและการจัดหมวดหมู่หนังสือ ระบบการจัดการศึกษาในปัจจุบนยอมรับกันว่า ห้องสมุดเป็ นองค์ประกอบที่สาคัญ ั อย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การจัดการศึกษาบรรลุเป้ าหมายที่ตองการได้ดวยดี เนื่องจากห้องสมุด (Library) คือ ้ ้ แหล่งสารสนเทศที่รวบรวมทรัพยากร ข้อมูล ข่าวสารในรู ปแบบต่างๆ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จุล สาร กฤตภาค หรื อบทความทางวิชาการ ตลอดจนสื่อโสตทัศน์พวก CD-ROM, DVD, VCD โดยมีบรรณารักษ์เป็ นผูดาเนินงานและบริ หารงานต่างๆ ในห้องสมุดให้จดเก็บอย่าง ้ ั เป็ นระบบหมวดหมู่และเป็ นระเบียบเรี ยบร้อยเพื่อให้ผใช้หองสมุดมีความสะดวก ต่อการใช้งาน ู้ ้ คาว่า ห้องสมุด ในปัจจุบนใช้ศพท์ในภาษาต่างประเทศว่า ั ั Libraries นั้นหมายถึง แหล่งสะสม รวบรวมสรรพวิทยาการต่างๆ ที่บนทึกในรู ปของหนังสือ วารสาร จุลสาร ตลอดจนสิ่งพิมพ์ ประเภทอื่นๆ ั รวมทั้งโสตทัศนวัสดุ และบริ หารงานโดยบรรณารักษ์ ซึ่งมีความรู้และได้รับการฝึ กฝน ทางวิชา บรรณารักษศาสตร์โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อให้สนองความต้องการของผูใช้ในภารกิจด้านการศึกษา นคว้าวิจย ้ การค้ ั การบันเทิง การพักผ่อนหย่อนใจ และจรรโลงใจของคนในชุมชน ในฐานะที่เป็ นสถานที่สาคัญของสังคมเพื่อ สร้างสมและสืบทอด รวมทั้งเผยแพร่ มรดกทางการศึกษา วัฒนธรรม กิจกรรมการค้นคิด ตลอดจนวิทยาการ ใหม่ๆ เพื่อเป็ นรากฐานในการสร้างความเป็ นปึ กแผ่นและความเจริ ญก้าวหน้าให้แก่สงคม (ชุติมา สัจจานันท์. ั 2530 : 79) ความหมายของห้องสมุดในทัศนะของผูเ้ ขียนเวลานี้ หมายถึง สถานที่ที่รวบรวมวัสดุสารสนเทศ ทุกชนิดอย่างมีระบบและมีการจัดการวัสดุเหล่านั้นให้ผใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้สะดวกและรวดเร็ ว ู้ ห้องสมุดยังมีคาเรี ยกต่างๆ อีกมากมาย เช่น ศูนย์ขอมูล ศูนย์วสดุ ศูนย์วสดุการศึกษา สถาบันวิทยบริ การ ศูนย์ ้ ั ั เอกสาร และศูนย์สารสนเทศ เป็ นต้น ห้องสมุดมีความสาคัญต่อบุคคลทั้งหลาย เป็ นที่รวมวิทยาการต่างๆ ที่ผใช้สามารถค้นหาข้อมูล ู้ ความรู้ได้ทุกสาขาวิชา เป็ นสถานที่ที่ผใช้สามารถเลือกอ่านหนังสือและค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ู้ อย่างอิสระและตามความสนใจของแต่ละบุคคล และยังเป็ นสถานที่ท่ีก่อให้เกิดนิสยรักการอ่าน จนกระทังทา ั ่ ให้ผใช้สามารถมองเห็นความแตกต่างของหนังสือว่าเล่มไหนเขียน ได้ดีและสามารถจดจาแนวทางการเขียนที่ ู้ ดีเพื่อนามาประยุกต์ใช้ได้ ทั้งยังช่วยให้รู้จกใช้เวลาว่าง ให้เป็ นประโยชน์ บทบาทสาคัญของห้องสมุดต่อ ั สังคมในด้านการศึกษา คือ ห้องสมุดเป็ นแหล่งความรู้ที่นกเรี ยน นักศึกษา สามารถค้นหาความรู้ดวยตนเอง ั ้ โดยห้องสมุดมีบทบาทในการเสริ มความรู้และสนับสนุนการศึกษาในระบบและให้โอกาสในการเข้าถึง การศึกษา ได้ใช้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาอาชีพให้ทนกับวิทยาการและเทคโนโลยีให้แก่ผที่ไม่มีโอกาส ั ู้ เข้าศึกษาในโรงเรี ยนหรื อผูที่ได้สาเร็ จการศึกษาแล้ว อีกแง่หนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่า ห้องสมุดยังมีบทบาทในด้าน ้ วัฒนธรรม คือ เป็ นที่บารุ งรักษาวัฒนธรรมของชาติให้สืบทอดให้คงอยูไปยังอนุชนรุ่ นต่อไป เนื่องจากห้องสมุด ่ เป็ นแหล่งที่จดเก็บข้อมูลทางด้านสารสนเทศ ซึ่งส่งเสริ มศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ และสามารถใช้บ่งบอก ั ความเจริ ญก้าวหน้าของประเทศนั้นๆ อีกด้วย
  • 2. 2 ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด คือ วัสดุสารสนเทศทุกชนิดที่ให้ขอเท็จจริ ง ความรู้ เรื่ องราวที่ ้ เป็ นประโยชน์ โดยผูรับอาจจะรับสารสนเทศจากวัสดุน้ นได้ดวยประสาทสัมผัสทั้งหลาย เช่น การอ่าน ้ ั ้ ตัวหนังสือจากสิ่งพิมพ์ต่างๆ การดูจากของจริ ง หุ่นจาลอง รู ปภาพ ภาพนิ่ง แผนที่ การฟังเสียงจากเทป บันทึกเสียง แผ่นเสียง การดูภาพและฟังเสียงจากภาพยนตร์และวีดิทศน์ การสูดกลินจากหนังสือบางเล่ม ั ่ ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดจึงครอบคลุมไปทั้งวัสดุตีพิมพ์และ ไม่ตีพิมพ์ และปัจจุบนโลกอยูใน ั ่ สังคมยุคสารสนเทศ ทุกประเทศสามารถติดต่อถึงกันได้ในเวลาอันรวดเร็ ว เทคโนโลยีสารสนเทศก็เจริ ญ รุ ดหน้า การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศในยุคปัจจุบนได้ มีการจัดเก็บไว้ในรู ปของอิเล็กทรอนิกส์อีกรู ปแบบ ั หนึ่ง ในด้านการสืบค้นสารสนเทศมาใช้งาน ปัจจุบนมีการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถ ั ทาการ สืบค้นได้รวดเร็ ว มีความถูกต้องสูง และการสืบค้นนั้นไม่เพียงสืบค้นสารสนเทศที่มีในห้องสมุด ๆ ได้เท่านั้น นั้น ยังสามารถค้นคืนสารสนเทศจากแหล่งสารสนเทศที่อยูนอกห้องสมุดไกลๆ ได้อีก ่ อย่างไรก็ดีทรัพยากรสารสนเทศหลักในห้องสมุดในประเทศไทยเรา ส่วนใหญ่ยงคงเป็ นวัสดุ ั ประเภทตีพิมพ์ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะหนังสือยังเป็ นวัสดุหลัก ในห้องสมุด โดยทัวไป เมื่อห้องสมุดมีหนังสือจานวนมากๆ ก็เกิดปัญหาว่าห้องสมุดจะจัดเก็บหนังสือที่มีอยูน้ นอย่างไรจึง ่ ่ ั จะเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ขณะเดียวกันก็สามารถเปิ ดโอกาสให้ผใช้คนหาได้สะดวกรวดเร็ ว ในระยะแรกที่เริ่ มมี ู้ ้ กิจการห้องสมุดขึ้นนั้น การจัดเก็บหนังสือยังไม่มีระบบที่ดีที่จะตอบสนองความต้องการที่กล่าวมาข้างต้นได้ กล่าวคือ บางแห่งจัดเก็บไว้ตามลาดับของ การได้รับหนังสือนั้นเข้ามาในห้องสมุด เล่มใดได้รับมาก่อนก็จด ั ไว้ในตูแรก ที่ได้เพิ่มมาภายหลัง ก็จดเรี ยงลาดับกันต่อๆ ไป เมื่อเต็มตูแรกก็จดเก็บในตูถดไป บางแห่งจัดเก็บ ้ ั ้ ั ้ ั โดยใช้ขนาดของหนังสือ เป็ นเกณฑ์ หนังสือขนาดใหญ่ไว้ดวยกัน ขนาดเล็กลงมาก็เก็บไว้ดวยกัน วิธีการ ้ ้ จัดเก็บสองวิธีที่กล่าวมาแล้วนั้น พบว่าไม่สะดวกต่อการค้นหาหนังสือ เพราะตามธรรมชาติแล้วผูท่ีจะใช้ ้ หนังสือ ในห้องสมุดย่อมจะไม่รู้ว่าหนังสือที่ตนต้องการนั้นห้องสมุดได้รับเข้ามาเมื่อใด หรื อมีขนาดใด การ จะค้นหาหนังสือต้องอาศัยความจาของผูจดเก็บเป็ นส่วนใหญ่ ้ั ต่อมาได้มีผคิดค้นหาวิธีจดเก็บหนังสือในห้องสมุดขึ้นใหม่ วิธีหลังๆ นี้จะยึดถือเนื้อหาของหนังสือ ู้ ั เป็ นสาคัญ กล่าวคือ หนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกันหรื อคล้ายกันก็จะจัดเก็บไว้ดวยกันหรื อใกล้ๆ กัน เมื่อแนวคิด ้ ดังกล่าวเป็ นที่ยอมรับมากขึ้น ต่อมาจึงได้มผรู้คิดระบบการแบ่งหมวดหมู่หนังสือขึ้นมาเพื่อจะใช้กบการ ี ู้ ั จัดเก็บหนังสือในห้องสมุด โดยที่ระบบที่คิดขึ้นมานั้นจะต้องสามารถครอบคลุมวิชาความรู้ท้งหลายที่มีใน ั โลกได้ ซึ่งก็มีผคิดค้นระบบการแบ่งหมู่หนังสือขึ้นมาหลายคนด้วยกัน จึงเกิดเป็ นระบบการแบ่งหมวดหมู่ ู้ หนังสือระบบต่างๆ ขึ้น ซึ่งแต่ละระบบจะมีหลักการคล้ายๆ กัน อาจจะต่างกันตรงที่มีการใช้สญลักษณ์ต่างกัน ั เท่านั้น ระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือที่นิยมกันแพร่ หลายมีดงนี้ ั 1. ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification) เรียกย่อๆ ว่า D.C. หรือ D.C.C. เป็ นระบบ การจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดที่นิยมระบบหนึ่ง คิดค้นขึ้นโดยชาวอเมริ กนชื่อ เมลวิล ดิวอี้ โดยเขาได้ ั
  • 3. 3 แบ่งหนังสือออกเป็ นหมวดหมู่ต่างๆ จากหมวดหมู่ใหญ่ไปหาหมวดหมู่ยอย การแบ่งหมวดหมู่หนังสือครั้งที่ ่ 1 ตามประเภทของสรรพวิชาใหญ่ 10 หมวด และแบ่งครั้งที่ 2 แบ่งออกเป็ นอีก 10 หมวดย่อย โดยใช้ตวเลข ั หลักสิบเป็ นตัวบ่งชี้ รวมเป็ น 100 หมวดย่อย ดังนี้ 000 เบ็ดเตล็ดหรือความรู้ทั่วไป (Generalities) วิชาความรู้ที่ไม่อาจจัดไว้ในหมวดใดๆ 010 บรรณานุกรมและบัญชีรายการ (แค็ตตาล็อก) 020 บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ 030 หนังสือรวบรวมความรู้ทวไป สารานุกรม ั่ 040 (ไม่ได้กาหนดใช้) 050 สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง วารสาร นิตยสาร 060 สมาคม องค์การต่างๆ และพิพิธภัณฑวิทยา 070 วารสารศาสตร์ การพิมพ์ 080 รวมเรื่ องทัวไปที่ไม่อาจจัดลงในหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งได้ ่ 090 หนังสือต้นฉบับตัวเขียนและหนังสือหายาก 100 ปรัชญา (Philosophy) เป็ นวิชาที่มนุษย์ตองการทราบว่า ตนคือใคร เกิดมาทาไม ้ 110 อภิปรัชญา 120 ทฤษฎีแห่งความรู้ ความเป็ นมนุษย์ 130 จิตวิทยานามธรรม 140 ความคิดทางปรัชญาเฉพาะกลุ่ม 150 จิตวิทยา 160 ตรรกวิทยา 170 จริ ยศาสตร์ จริ ยธรรม ศีลธรรม 180 ปรัชญาสมัยโบราณ ปรัชญาสมัยกลาง ปรัชญาตะวันออก 190 ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่ 200 ศาสนา (Religion) วิชาที่มนุษย์ตองการค้นหาความจริ งที่ทาให้เกิดทุกข์และ ความหลุดพ้น ้ จากความทุกข์ 210 ปรัชญาและทฤษฎีทางศาสนา 220 คัมภีร์ไบเบิล 230 เทววิทยาตามแนวคริ สต์ศาสนา 240 ศีลธรรมของชาวคริ สเตียน 250 คริ สต์ศาสนาในท้องถินและระเบียบแบบแผนปฏิบติ ่ ั 260 องค์กรของชาวคริ สต์ งานสังคมสงเคราะห์ของชาวคริ สต์ 270 ประวัติคริ สต์ศาสนา
  • 4. 4 280 นิกายต่างๆ ในคริ สต์ศาสนา 290 ศาสนาเปรี ยบเทียบและศาสนาอื่นๆ 300 สังคมศาสตร์ (Social Science) วิชาที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ เมื่อมนุษย์ มาอยู่ รวมกันเป็ นสังคมขึ้นมา 310 สถิติทวไป ั่ 320 รัฐศาสตร์ การเมือง 330 เศรษฐศาสตร์ 340 กฎหมาย 350 รัฐประศาสนศาสตร์ การบริ หารรัฐกิจ การบริ หารกองทัพ 360 ปัญหาสังคมและบริ การสังคม 370 การศึกษา 380 การพาณิ ชย์ การสื่อสาร การขนส่ง 390 ขนบธรรมเนียม ประเพณี คติชนวิทยา 400 ภาษาศาสตร์ (Language) วิชาที่ช่วยในการสื่อสาร ทาให้มนุษย์เข้าใจซึ่งกันและกัน 410 ภาษาศาสตร์ 420 ภาษาอังกฤษ 430 ภาษาเยอรมันและภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง 440 ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง 450 ภาษาอิตาเลียน ภาษาโรมัน และภาษาอื่นที่เกี่ยวข้อง 460 ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส 470 ภาษาละติน 480 ภาษากรี กเก่าและภาษากรี กใหม่ 490 ภาษาอื่นๆ 500 วิทยาศาสตร์ (Science) วิชาที่มนุษย์ตองการทราบความจริ งของธรรมชาติ ้ 510 คณิ ตศาสตร์ 520 ดาราศาสตร์ 530 ฟิ สิกส์ 540 เคมี 550 โลกวิทยา (การศึกษาเรื่ องราวเกี่ยวกับโลก) 560 บรรพชีวินวิทยา ฟอสซิล ชีวิตสมัยโบราณ 570 วิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต ชีววิทยา 580 พืช พฤกษศาสตร์
  • 5. 5 590 สัตว์ สัตววิทยา 600 วิทยาศาสตร์ ประยุกต์ หรือเทคโนโลยี (Technology) วิชาที่มนุษย์เอาความรู้เกี่ยวกับความจริ ง ของธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กบตน ั 610 แพทยศาสตร์ 620 วิศวกรรมศาสตร์ 630 เกษตรศาสตร์ 640 การจัดการบ้านเรื อนและครอบครัว 650 การบริ หารจัดการและการประชาสัมพันธ์ 660 วิศวกรรมเคมีและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง 670 โรงงาน ผลิตภัณฑ์จากโรงงาน 680 โรงงานผลิตสิ่งของเพื่อประโยชน์เฉพาะอย่าง 690 อาคารและการก่อสร้าง 700 ศิลปกรรมและการบันเทิง (Arts and Recreation) วิชาที่มนุษย์สร้างสรรค์ข้ ึนมาเพื่อความ บันเทิงใจของตน 710 ศิลปะภูมทศน์หรื อภูมิสถาปัตย์ การออกแบบบริ เวณพื้นที่ ิ ั 720 สถาปัตยกรรม 730 ประติมากรรม เซรามิกส์ และงานโลหะ 740 การวาดเส้นและศิลปะตกแต่ง 750 จิตรกรรม การเขียนภาพ 760 เลขนศิลป์ หรื อศิลปะกราฟิ ก ศิลปะการพิมพ์ภาพ 770 การถ่ายภาพและศิลปะคอมพิวเตอร์ 780 ดนตรี 790 นันทนาการ ศิลปะการแสดง การกีฬา 800 วรรณคดี (Literature) วิชาที่มนุษย์ตองการแสดงความคิด ความประทับใจไว้ดวยสัญลักษณ์ ้ ้ ที่เป็ นตัวอักษร 810 วรรณคดีอเมริ กนที่เป็ นภาษาอังกฤษ ั 820 วรรณคดีองกฤษ ั 830 วรรณคดีเยอรมันและวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง 840 วรรณคดีฝรั่งเศสและวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง 850 วรรณคดีอิตาเลียน วรรณคดีโรมัน และวรรณคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง 860 วรรณคดีสเปน วรรณคดีโปรตุเกส 870 วรรณคดีละติน
  • 6. 6 880 วรรณคดีกรี กคลาสิกและวรรณคดีกรี กสมัยใหม่ 890 วรรณคดีอื่นๆ 900 ประวัตศาสตร์ และภูมศาสตร์ (History and Geography) วิชาที่ได้บนทึกเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น ิ ิ ั ในยุคสมัยต่างๆ เพื่อให้อนุชนรุ่ นหลังได้รับทราบ 910 ภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยว 920 ชีวประวัติ ประวัติบุคคล 930 ประวัติศาสตร์โลกโบราณ (ถึงประมาณ ค.ศ. 499) 940 ประวัติศาสตร์ทวีปยุโรป 950 ประวัติศาสตร์ทวีปเอเชีย 960 ประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริ กา 970 ประวัติศาสตร์ทวีปอเมริ กาเหนือ 980 ประวัติศาสตร์ทวีปอเมริ กาใต้ 990 ประวัติศาสตร์ส่วนอื่นๆ ของโลกและบริ เวณนอกโลก 2. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกน (Library of Congress Classification) หรือเรียกย่อว่า ระบบ ั L.C. เป็ นระบบที่ใช้ตวอักษรผสมตัวเลขเป็ นสัญลักษณ์ นิยมใช้กบห้องสมุดขนาดใหญ่ มีหนังสือจานวน ั ั มาก เช่น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ แบ่งออกเป็ น 20 หมวดใหญ่ โดยใช้ตวอักษร A-Z ยกเว้น I, O, W, X และ Y ั 3. ระบบห้ องสมุดแพทย์แห่ งชาติอเมริกน (Nation Library of Medicine Classification : NLM) ั เป็ นการจัดหมู่หนังสือสาหรับห้องสมุดแพทย์โดยตรง สามารถแบ่งออกเป็ น 2 หมวดใหญ่ สัญลักษณ์เป็ น ตัวอักษร QS-QZ โดย Q นั้นเป็ นการให้เลขหมู่สาหรับหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์พ้ืนฐาน (Preclinical Sciences) และ W-WZ สาหรับหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง (Medicine and Related Subjects) พร้อมกับใช้ตวเลขประกอบกันโดยแบ่งหนังสือออกเป็ น 41 หมวด ั ความแตกต่างของการจัดหมวดหมู่หนังสือระบบทศนิยมของดิวอี้และระบบหอสมุดรัฐสภา อเมริ กนสามารถแจงได้เห็นภาพได้ชดเจนคือ ั ั ระบบทศนิยมของดิวอี้ ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกน ั 1. แบ่งออกเป็ น 10 หมวดใหญ่ 1. แบ่งออกเป็ น 20 หมวดใหญ่ 2. ใช้ตวเลขเป็ นสัญลักษณ์ 2. ใช้ตวอักษรผสมกับตัวเลขเป็ นสัญลักษณ์ ั ั 3. เหมาะสาหรับห้องสมุดขนาดเล็ก 3. เหมาะกับห้องสมุดขนาดใหญ่และห้องสมุด และขนาดกลาง เฉพาะ
  • 7. 7 โดยทัวไปห้องสมุดแต่ละแห่งจะเลือกใช้ระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือระบบใดระบบ ่ หนึ่ง เท่านั้น ขึ้นอยูกบความเหมาะสม ตามวิธีของห้องสมุดแต่ละแห่ง หนังสือบางประเภทไม่กาหนดเลขหมู่หรื อ ่ ั สัญลักษณ์ตามระบบใด แต่ใช้อกษรย่อแทนประเภทของหนังสือ ส่วนมากจะเป็ นหนังสือ ที่มีเนื้อหาประเภท ั เดียวกัน หรื อหนังสือที่อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น หนังสือนวนิยาย เรื่ องสั้นและรวมเรื่ องสั้น หนังสือ สาหรับเด็ก เช่น หนังสือนวนิยาย ภาษาไทยใช้ น หรื อ นว มาจากคาว่า นวนิยาย ภาษาอังกฤษใช้ F หรื อ Fic มาจากคาว่า Fiction หนังสือสาหรับเด็ก ภาษาไทยใช้ ยว มาจากคาว่า เยาวชน ห้องสมุดบางแห่งใช้ ด ภาษาอังกฤษใช้ J มาจากคาว่า Juvenile หนังสืออ้างอิง ภาษาไทยใช้ อ โดยใส่ไว้เหนือเลขหมู่หนังสือ ภาษาอังกฤษใช้ Ref มาจากคาว่า Reference Book หนังสือรวมเรื่ องสั้น ภาษาไทยใช้ รส มาจากคาว่า รวมเรื่ องสั้น ภาษาอังกฤษใช้ SC มาจากคาว่า Short Stories Collection หนังสือที่มีลกษณะพิเศษที่ใช้ตวย่อแทนเลขหมู่หรื อสัญลักษณ์ของระบบการจัดหมวดหมูเหล่านี้จะ ั ั ่ เรี ยงอยูบนชั้นแยกจากหนังสืออื่นๆ ที่ให้หมวดหมู่หรื อสัญลักษณ์ตามระบบการจัดหมวดหมู่ท่ีเป็ นสากล ่
  • 8. 8 แหล่งอ้างอิง ชุติมา สัจจานันท์. ห้ องสมุดและการศึกษาค้นคว้า. กรุ งเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2530. น้ าทิพย์ วิภาวิน. การบริหารห้ องสมุดยุคใหม่ = Modern Library Management. กรุ งเทพมหานคร : เอสอาร์ พริ้ นติ้ง แมสโปรดักส์, 2548. _______. ห้ องสมุดมีชีวต = A Living Library. นนทบุรี : รุ่ งโรจน์อินเตอร์กรุ๊ ป, 2548. ิ พวา พันธุเ์ มฆา. ดีดีซี 22 : การแบ่ งหมู่หนังสือและแผนการแบ่ งหมู่ระบบทศนิยมดิวอี้ จากต้นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 22 . กรุ งเทพมหานคร : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรี นคริ นทรวิโรฒ, 2551. สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย. ห้ องสมุดยุคใหม่ : ผู้นาแห่ งการเรียนรู้ = The New Age Library : The Leadership of Learning. กรุ งเทพมหานคร : สมาคมห้องสมุดแห่ง ประเทศไทย, 2545.