SlideShare a Scribd company logo
1 of 46
Download to read offline
ั
    ความมั่งคังในสงคมอุดมสุข
              ่

                   สฤณี อาชวานันทกุล
                http://www.fringer.org/
โครงการอบรม “ผู ้นาการเปลียนแปลงในขบวนองค์กรชุมชน”
                          ่
                  28 พฤษภาคม 2554

          งานนี้เผยแพร่ภายใต้สญญาอนุญาต Creative Commons แบบ Attribution Non-commercial Share Alike (by-nc-sa)
                                ั
          โดยผูสร้างอนุญาตให้ทาซา แจกจ่าย แสดง และสร้างงานดัดแปลงจากส่วนใดส่วนหนึ่งของงานนี้ได้โดยเสรี แต่เฉพาะใน
               ้                  ้
           กรณีทให้เครดิตผูสร้าง ไม่นาไปใช้ในทางการค้า และเผยแพร่งานดัดแปลงภายใต้สญญาอนุญาตแบบเดียวกันนี้เท่านัน
                 ่ี        ้                                                      ั                             ้
การพัฒนาทีผานมาไม่ยงยืน
          ่ ่      ั่




                          2
เรากาลังทะลุขดการรองรับของธรรมชาติ
             ี
Planetary Boundaries:




                                                                                                3
         ที่ มา: The Biosphere Economy, http://www.volans.com/lab/projects/biosphere-economy/
เศรษฐกิจขับเคลือนด ้วยพลังงานทีไม่ยงยืน
               ่               ่   ั่




     ทีมา: Carol King, “Will we always be more capable in the future?”;
       ่
          Worldchanging.com -                                             4
           http://www.worldchanging.com/archives/007962.html
ประโยชน์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นั กเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเชอว่า...  ่ื
• การเติบโตทางเศรษฐกิจทาให ้เราผลิตทุกอย่างได ้
                             ิ
    มากขึน โดยเฉพาะสนค ้าอุปโภค
          ้
      ิ
• สนค ้าอุปโภคบริโภคมากขึน  มาตรฐานความ
                                 ้
    เป็ นอยูดกว่าเดิม  คุณภาพชวตดีขน
            ่ ี                       ี ิ   ึ้
• เศรษฐกิจโต  รัฐเก็บภาษี ได ้มาก  โครงสร ้างและ
    สวัสดิการพืนฐานดีขน (ถนน โรงพยาบาล ฯลฯ)
                  ้       ึ้
• ความมั่งคังทีสร ้างนันจะ “ไหลริน” ลงมาสูคนจนโดย
                ่ ่     ้                        ่
                    ่
    อัตโนมัต ิ เชน ผ่านการจ ้างงาน และเมือรัฐบาลเก็บ
                                               ่
                               ้          ่
    ภาษี จากคนรวยได ้มากขึน ก็จะชวยคนจนได ้มากขึน   ้
                                                        5
“ต ้นทุน” ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตัวอย่างต ้นทุนของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• คนรวยรวยขึน คนจนอาจจนลงหรือลาบากกว่าเดิม 
                 ้
   “รวยกระจุก จนกระจาย”
• “ผลไหลริน” ในความเป็ นจริงไม่คอยไหล
                                ่
            ั่ ่
• คอร์รัปชนบันทอนการกระจายรายได ้และลดทอน
   คุณภาพของบริการภาครัฐ
• องค์ประกอบของการเติบโตบางอย่างอาจไม่เป็ นผลดีตอ
                                                ่
                   ่
   ประชาชน เชน เพิมงบประมาณทางทหารเกินจาเป็ น
                     ่
• องค์ประกอบ (composition) สาคัญกว่า ผลรวม (sum)

                                               6
ิ่
ต ้นทุนด ้านสงแวดล ้อม




                         7
ี
ค่าเสยโอกาสของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• เนืองจากทรัพยากรมีจากัด เราจึงมักจะต ้องเลือกว่าจะ
     ่
                                   ่
  เน ้นการผลิตอะไรมากกว่ากัน ณ ชวงเวลาใดเวลาหนึง       ่
  ระหว่าง
           ิ
        สนค ้าทุน (capital goods) กับ
             ิ
        สนค ้าอุปโภคบริโภค (consumer goods)
                                              ั
• การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวต ้องอาศยการลงทุน
       ิ          ่
  ในสนค ้าทุน เชน เครืองจักร ถนนหนทาง ทรัพย์สนทาง
                       ่                         ิ
  ปั ญญา อย่างต่อเนือง เนืองจากเป็ น “ปั จจัยการผลิต” ที่
                     ่     ่
  ผลิตสร ้างการเติบโตในระยะยาว
               ิ
• แต่ก็ละเลยสนค ้าอุปโภคบริโภคไม่ได ้ เพราะรวมปั จจัยส ี่
  + เครืองอานวยความสะดวก + ปรับปรุงคุณภาพชวต 8
         ่                                         ี ิ
ี
ภาวะได ้อย่าง-เสยอย่างของการเติบโต
       ิ
ปริมาณสนค ้าทุน                                 ี
                                        ค่าเสยโอกาสของ
                                          ิ
                                        สนค ้าทุน K2-K1 =
    K2                                      ิ
                                        สนค ้าอุปโภคบริโภค
                                        C1-C2 ทีต ้อง
                                                  ่
                                              ี
                                        “เสยสละ” (ไม่ได ้ผลิต)
         ประโยชน์

    K1

                         ต ้นทุน
                                                         ิ
                                                 ปริมาณสนค ้า
                    C2             C1            อุปโภคบริโภค

                                                                9
ั
การเติบโตและศกยภาพในการผลิต
       ิ
ปริมาณสนค ้าทุน                                ้ ั
                            เมือประเทศยังใชศกยภาพ
                               ่
                            ในการผลิตไม่เต็มที่
                            เศรษฐกิจจะขยายตัวจาก
                                              ้ ิ
                            จุด A ไป B ได ้ ทังสนค ้า
                                    ิ
                            ทุนและสนค ้าอุปโภค
                       B
   K2                       บริโภคเพิมขึน
                                      ่ ้
              A
   K1




                                                ิ
                                        ปริมาณสนค ้า
                  C1   C2               อุปโภคบริโภค

                                                        10
่ ั
 ในระยะยาว ต ้องเพิมศกยภาพในการผลิต
       ิ
ปริมาณสนค ้าทุน
                            เมือประเทศผลิตเต็ม
                                 ่
                               ั
                            ศกยภาพแล ้ว การเติบโต
                                       ั    ่ ั
                            ต ้องอาศยการเพิมศกยภาพ
                       B           ่
                            เชน เพิมทรัพยากร (ค ้นพบ
                                     ่
   K2
                  A         น้ ามัน, แรงงานต่างด ้าว)
   K1                                         ิ
                            หรือปรับปรุงประสทธิภาพ
                            ในการผลิต (เทคโนโลยี,
                                          ึ
                            ปรับปรุงการศกษา)



                                             ิ
                                     ปริมาณสนค ้า
                  C1   C2            อุปโภคบริโภค
                                                    11
่ ั            ั้
การเพิมศกยภาพทีดระยะสนแต่อาจไม่ยงยืน
               ่ ี              ั่
        ิ
 ปริมาณสนค ้าทุน                         ่ ั
                             การเพิมศกยภาพทีเอียง     ่
                                           ิ
                             ไปข ้างสนค ้าอุปโภค
                                             ิ
                             มากกว่าสนค ้าทุน เชน         ่
                             เงินลงทุนจากต่างชาติ
                        B    อาจเน ้นผลิตสนค ้า   ิ
                   A
     K2
     K1
                             อุปโภคบริโภคเพือ       ่
                               ่
                             สงออก ประเทศเติบโตใน
                                      ั้
                             ระยะสน แต่ยงยืนหรือ
                                               ั่
                             เปล่า? (อย่าลืมว่าสนค ้า   ิ
                                   ื่
                             ทุนเสอมตามกาลเวลา)

                                              ิ
                                      ปริมาณสนค ้า
                   C1   C2
                                      อุปโภคบริโภค
                                                      12
วิวฒนาการ (?) ของระบบเศรษฐกิจ
        ั
                          ทุนนิยมเสรีมเพียงบาง
                                      ี
                          ธุรกิจในบางประเทศ ใน                          “ทุนนิยมธรรมชาติ”
ระดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจ




                          ระดับโลกยังเป็ นทุนนิยม      ทุนนิยมเสรี       “ทุนนิยมก ้าวหน ้า”
                          สามานย์อยู่                    (แนวคิด
                                                       กระแสหลัก)
      ของประชาชน




                              ทุนนิยมผูกขาด/        ทุนนิยมในไทยยังเป็ น “ทุนนิยมสามานย์”
                              ทุนนิยมสามานย์/       อยู่ สาเหตุหลักๆ อาจเป็ นเพราะ:
                              ทุนนิยมพวกพ ้อง        • ธนกิจการเมืองยังเฟื่ องฟู
                                                                      ั
                                                     • โครงสร ้างศกดินา/อานาจนิยมยังอยู่
                                                     • กฎหมายป้ องกันการผูกขาดไม่มผล ี
                          เศรษฐกิจผูกขาด                                          ั
                                                     • กฎหมายคุ ้มครองผู ้บริโภค สงคม ฯลฯ
                              โดยรัฐ                          ้
                                                         ยังใชไม่ได ้จริง


                                   ระดับความยังยืนของระบบเศรษฐกิจ
                                              ่                                            13
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (1)
            ่    ้ ิ ู
         มายาคติ                         ข้อเท็จจริง
        ื้
• เงินซอได ้ทุกอย่าง                    ื้
                                 • เงินซอความสุข, ความ
                      ั
• GDP วัด „สุขภาพสงคม‟ ได ้        ปลอดภัย, ฯลฯ ไม่ได ้ ถ ้า
• ประโยชน์จากทุนนิยมเสรี จะ        กลไกต่างๆ ไม่ทางาน
                  ่
  „ไหล‟ ลงมาสูคนทุกระดับชน  ั้   • Human Development
  เอง โดยทีรัฐไม่ต ้อง
                ่                  Index (Amartya Sen) วัด
  แทรกแซงตลาด – “คลืนยก   ่        ระดับ „ความสุข‟ ของ
  เรือทุกลาเท่ากัน”                ประชาชนได ้ดีกว่า GDP
                    ่
• รัฐไม่ควรแตะ “สวนเกิน”         • ความมังคังของคนจานวน
                                           ่ ่
  ของคนรวย เพราะสวนเกิน ่          มากมาจากมรดกหรือการเก็ง
  เหล่านันมาจากการทางาน
              ้                                ่
                                   กาไร ไม่ใชการทางานหนัก
           ึ่
  หนักซงก่อให ้เกิดผลผลิตที่     • “ในระยะยาว เราก็ตายหมด”
  เป็ นประโยชน์                    (John M. Keynes)          14
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (2)
            ่    ้ ิ ู
        มายาคติ                          ข้อเท็จจริง
             ่
• ทุกภาคสวนควรมุงเน ้นการ
                   ่                   ิ
                              • ประสทธิภาพอย่างเดียวอาจไม่ทา
               ิ
  สร ้างประสทธิภาพสูงสุด        ให ้เกิดความเป็ นธรรมในสงคม   ั
                                                      ั
                                (หรืออย่างน ้อยก็สงคมทีม ี  ่
  อย่างเดียว                    มนุษยธรรม) : สถานการณ์ทม ี      ี่
• เนืองจากระบบตลาดเป็ น
     ่                          เศรษฐีไม่กคนในขณะทีคนหลาย
                                             ี่         ่
  ระบบทีดทสดในการสร ้าง
          ่ ี ี่ ุ              ล ้านคนต ้องอดอาหารตายอาจ “มี
        ิ                                ิ
                                ประสทธิภาพสูงสุด” (Pareto
  ประสทธิภาพ รัฐจึงควรปล่อย
                                optimal) แล ้ว หากไม่มทางทีจะ
                                                          ี        ่
  ให ้ระบบตลาดทางานด ้วยตัว       ่               ี ิ
                                ชวยให ้ใครรอดชวตโดยไม่ทาให ้
  ของมันเอง                                ี
                                เศรษฐีเสยประโยชน์
                              • มีแนวโน ้มสูงทีจะเกิด “ทุนนิยม
                                                ่
                                สามานย์” หากรัฐไม่ควบคุมตลาด
                                อย่างแข็งขันและเป็ นอิสระอย่าง
                                แท ้จริงจากภาคธุรกิจ
                                                                   15
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (3)
            ่    ้ ิ ู
        มายาคติ                       ข้อเท็จจริง
                ี ั
• สมองมนุษย์มศกยภาพ                      ิ่
                              • ปั ญหาสงแวดล ้อมหลาย
  พอทีจะเข ้าใจการทางานของ
           ่                                ่
                                ประการ เชน โลกร ้อน กาลัง
  ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์          บ่อนทาลายโลก และชดเจน   ั
• ธรรมชาติเปรียบเสมือนเป็ น     ว่าเกิดจากน้ ามือมนุษย์
  „เครืองจักร‟ ทีเดินอย่าง
       ่         ่            • กฎวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เชน    ่
  เทียงตรงตามกฎเกณฑ์
     ่                          Relativity, Uncertainty,
  แน่นอนตายตัว                  Incompleteness พิสจน์ู
• ดังนัน มนุษย์จงสามารถ
         ้         ึ               ั
                                ชดเจนว่า ความไม่แน่นอน
  เอาชนะและควบคุมธรรมชาติ                      ั
                                และความไม่สมบูรณ์เป็ นสจ    ั
  ได ้                          ธรรมของโลก และพรมแดน
                                ความรู ้ของมนุษย์แปลว่าไม่ม ี
                                วัน „เอาชนะ‟ ธรรมชาติได ้ 16
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (4)
            ่    ้ ิ ู
          มายาคติ                           ข้อเท็จจริง
• ทุกบริษัทควรตังเป้ าหมายที่
                      ้          • ปั ญหาข ้อมูลไม่เท่าเทียมกัน
  “ผลตอบแทนสูงสุดต่อผู ้ถือ        (asymmetric information)
                                   ระหว่างผู ้บริหารบริษัทกับผู ้ถือหุ ้น
  หุ ้น” เพราะผู ้ถือหุ ้นย่อม     และระหว่างบริษัทกับผู ้บริโภค/
  คานึงถึงประโยชน์ของ                 ั
                                   สงคม ทาให ้เกิดการหลอกลวงและ
    ่
  สวนรวมอยูแล ้ว่                  ฉ ้อฉลง่ายและปกปิ ดง่ายด ้วย
• ดังนัน บริษัททีมงเน ้น
        ้            ่ ุ่        • ทุกฝ่ ายมีผลประโยชน์ทับซอน         ้
                        ่
  เป้ าหมายนีจะชวยให ้เกิด
              ้                  • แนวโน ้มทีจะได ้กาไรสูงกว่าจาก
                                                   ่
                           ่                                ั้
                                   การเก็งกาไรระยะสนในตลาดหุ ้น
  ประโยชน์สงสุดต่อสวนรวม
                  ู
                                   เทียบกับเงินปั นผลในระยะยาวทา
  โดยอัตโนมัต ิ                    ให ้ผู ้ถือหุ ้น „มักง่าย‟ กว่าทีควร
                                                                    ่
                                 • ผู ้ถือหุ ้นในตลาดหลักทรัพย์
                                   สมัยใหม่ไม่กระจุกตัวเหมือนใน
                                   อดีต – „ความเป็ นเจ ้าของ‟ ลดลง 17
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (5)
            ่    ้ ิ ู
            มายาคติ                                     ข้อเท็จจริง
• ทุกคนควรทาแต่ในสงที่              ิ่   • นอกเหนือจากเงิน ภาคสงคมยัง             ั
               ี่
  ตัวเองเชยวชาญทีสด ภาค     ่ ุ            ต ้องการระบบ & องค์ความรู ้ในการ
                                           บริหารจัดการ ซงภาคธุรกิจมี ึ่
  ธุรกิจก็ควรทาธุรกิจ ภาค                  ความรู ้ความเชยวชาญดีทสดี่                ี่ ุ
    ั
  สงคมก็ทางานด ้านสงคม            ั      • ระบบราชการของรัฐยังไร ้
  ภาครัฐก็นาเงินภาษี ไปสร ้าง                          ิ
                                           ประสทธิภาพ คอร์รัปชน และไม่       ั่
  ระบบสวัสดิการสงคม     ั                  เหลียวแลผู ้ด ้อยโอกาสทีสด ซงไม่         ่ ุ        ึ่
                          ่                          ิ   ี ี
                                           มีสทธิมเสยงในระบอบการเมือง
• นักธุรกิจทีอยากชวยเหลือ
                  ่
        ั
  ภาคสงคมนอกเหนือจากเงิน                 • „สงคมสงเคราะห์‟ ไม่สามารถใช ้
                                                ั
                                                                 ิ
                                           แก ้ปั ญหาเชงโครงสร ้าง เชน ความ             ่
  ภาษี ทจายรัฐ ก็ทาได ้โดย
          ี่ ่                                    ี่       ี ิ
                                           เสยงในชวตและทรัพย์สน ไม่ม ี          ิ
  ผ่านกิจกรรม „สงคม   ั                    ทีดนทากิน ไร ้การศกษา ฯลฯ
                                               ่ ิ                         ึ
  สงเคราะห์‟ ต่างๆ เชน การ      ่        • ผู ้ทาหน ้าทีบริหารเงินได ้ดีทสดคือ
                                                               ่                          ี่ ุ
  บริจาค เท่านันก็พอแล ้ว
                    ้                                                    ่
                                           นักการเงิน ไม่ใชนักพัฒนาสงคม 18                  ั
„มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (6)
            ่    ้ ิ ู
          มายาคติ                              ข้อเท็จจริง
          ิ ์ ่
• กรรมสทธิสวนบุคคลเป็ น             • คนจานวนมากไม่ได ้สร ้างสรรค์เพือ     ่
  ปั จจัยสาคัญในการผลักดัน            เงิน แต่เพือความสุขใจและแบ่งปั น
                                                  ่
  ความเจริญทางเศรษฐกิจ              • พืนทีสาธารณะมากมายมีสมาชกใน
                                           ้ ่                           ิ
                                      ชุมชนเป็ นผู ้ร่วมกันดูแลอย่างดีโดย
  เพราะคนทีสามารถอ ้าง
              ่                       ไม่เคยต ้องมีเอกสารสทธิ  ิ
  „ความเป็ นเจ ้าของ‟ เท่านัน ที่
                               ้                    ิ ์ ี่
                                    • ระบบลิขสทธิทเข ้มงวดคุ ้มครอง
  จะมีแรงจูงใจในการผลิตงาน            ผู ้สร ้างมากเกินไป และนาไปสูการ ่
• „พืนทีสาธารณะ‟ ทีปราศจาก
      ้ ่              ่              ผูกขาดความรู ้ ต่อยอดไม่ได ้
  เจ ้าของจะไร ้คนดูแล              • ในหลายกรณี ความเห็นแก่ตวของ    ั
                                      นักธุรกิจหน ้าเลือดและความไร ้
• ดังนัน รัฐจึงต ้องตีกรอบและ
        ้                                      ิ
                                      ประสทธิภาพของรัฐ คือสาเหตุท ี่
                ิ ์ ่
  มอบกรรมสทธิสวนบุคคล                 พืนทีสาธารณะทรุดโทรม
                                          ้ ่
  และคุ ้มครองกรรมสทธินันิ ์ ้                             ิ
                                    • ระบบยอมออกสทธิบตรแม ้กระทั่ง
                                                             ั
  อย่างเคร่งครัด                                      ่
                                      ธรรมชาติ เชน DNA, พันธุพช 19
                                                                 ์ ื
GDP เป็ นองค์ประกอบเดียวของ “ความสุข”




    ทีมา: Deutsche Bank Research, 2007
      ่
                                         20
ั
ความสาคัญของ “ความยุตธรรมทางสงคม”
                     ิ
• การเติบโตของเศรษฐกิจทีม ี “ฐานกว ้าง” นั่นคือ เติบโต
                                    ่
                    ่
  ในทางทีคนสวนใหญ่ได ้ประโยชน์ ไม่ใชในทางทีความ
                  ่                                           ่   ่
        ่                 ่           ั้
  มั่งคังกระจุกตัวอยูในมือชนชนนานั น เป็ นการเติบโตที่
                                                ้
                      ี ิ
  ทาให ้คุณภาพชวตของคนดีขน และเอืออานวยต่อ
                                         ้ึ             ้
                             ึ่ ่
  กระแสประชาธิปไตย ซงชวยให ้คนในสงคมรู ้จักอดทน           ั
  อดกลันต่อความคิดเห็นทีแตกต่าง แทนทีจะทะเลาะจน
            ้                     ่                             ่
              ่
  นาไปสูความรุนแรง หรือถูกกดขีโดยผู ้ครองอานาจ่
• การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ “ดี” ทีมฐานกว ้าง จึง        ่ ี
     ่          ั
  ชวยให ้สงคมมีระดับ “คุณธรรม” สูงขึนกว่าเดิม และ   ้
                                                  ั
  ระดับคุณธรรมทีสงขึนนั นก็จะทาให ้สงคมยั่งยืน มีสนติ
                       ่ ู ้ ้                                      ั
                                            ั
  สุขและเสถียรภาพมากกว่าในสงคมทีความเจริญกระจุก       ่
  ตัวอยูในมือคนเพียงไม่กคน
          ่                    ี่
                                                                   21
ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ
     ้             ่       ่
• ตังเป้ าหมายทีการสงเสริมและดารง “ความอยูดมสข”   ่ ี ี ุ
  ของประชาชนในสงคม       ั
       ้
• ใชทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน : “การพัฒนาอย่าง
  ยั่งยืน” (Sustainable Development) หมายความว่า
          ้
  ไม่ใชทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเร็วกว่าความสามารถ
                                        ่
  ของมนุษย์ในการผลิตทรัพยากรทดแทน และไม่ทง              ิ้
  ทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเร็วกว่าอัตราทีธรรมชาติจะ
                                   ่            ่
                 ั
  สามารถดูดซบมันกลับเข ้าไปในระบบ
                               ี
• ประเมินผลดีและผลเสยจากนโยบายอย่างรอบคอบ
               ่             ี
  สาหรับผู ้มีสวนได ้เสยทุกฝ่ าย โดยเฉพาะผู ้ด ้อยโอกาส
• มองทรัพยากรทีมวันหมดต่างๆ รวมทังผลกระทบ
                     ่ ี                  ้
  ภายนอกว่าเป็ น “ต ้นทุน” ทีผู ้ก่อต ้องรับภาระ
                                 ่                         22
ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ (ต่อ)
                                       ั
 • เป้ าหมายควรอยูทการพัฒนา “ศกยภาพ” ของมนุษย์
                          ่ ี่
                ่
   ไม่ใชแค่ “ระดับรายได ้” (Amartya Sen)
     ่                             ั
 • สงเสริม “ความยุตธรรมทางสงคม” โดยรัฐต ้องคุ ้มครอง
                               ิ
         ิ
   สทธิมนุษยชนขันพืนฐานของประชาชน จัดบริการ
                      ้ ้
   สาธารณูปโภคขันพืนฐานทีได ้คุณภาพ ดาเนินนโยบาย
                         ้ ้     ่
   ทีมจดมุงหมายทีการลดความเหลือมล้าทางรายได ้ และ
           ่ ี ุ ่         ่             ่
       ่            ่
   สงเสริมการมีสวนร่วมทางการเมืองของประชาชน
 • สามารถรองรับความหลากหลายของแต่ละวัฒนธรรม
                                           ้
   ท ้องถินในทุกระดับได ้ เพราะการใชชุดนโยบายพัฒนาที่
                  ่
                                             ่
   ยัดเยียดแบบ “สาเร็จรูป” อาจนาไปสูความขัดแย ้งและ
                       ั
   ความรุนแรงในสงคม และดังนั นจึงไม่อาจเรียกว่าเป็ น
                                     ้
   ระบบเศรษฐกิจทียั่งยืนได ้ ่                       23
อนาคต ?                            มุงทาเงินสูงสุด
                                     ่
1000   CO2                           CO2 850 ppm
       ppm                          อุณหภูม ิ +6ºC
900


800
                                             มุงทาเงิน +
                                               ่
                                           พลังงาน“สะอาด”
700
                                               CO2 590 ppm
600                                          อุณหภูม ิ +2.4ºC

500                                              ิ่
                                           เงิน+สงแวดล ้อม
                                            ประสานทังโลก
                                                    ้
400
                                                  CO2 550 ppm
                                                 อุณหภูม ิ +2ºC
         380ppm
300

       2000   2020   2040   2060   2080   2100                    24
มุงทาเงินสูงสุด vs เงิน+สงแวดล ้อม
             ่                      ิ่
          + พลังงานสะอาด ประสานทังโลก  ้



                                  การตลาด
                                 เพือทิงขว ้าง
                                    ่ ้




                                     บริโภค               จากัด
สกัด         ผลิต      จัดจาหน่าย                            ขยะ
วัตถุดบ
      ิ       ิ
             สนค ้า
                                                                25
                                         ทีมา : www.storyofstuff.com
                                           ่
มุงทาเงินสูงสุด vs เงิน+สงแวดล ้อม
             ่                      ิ่
          + พลังงานสะอาด ประสานทังโลก  ้


                             ผลิต
                              ิ
                             สนค ้า




                      ยั่งยืน          จัดจาหน่าย
สกัด
วัตถุดบ
      ิ


                            บริโภค                  26
ั
ข ้อสงเกตเรือง “ทางเลือก” ของชุมชน
            ่
• “ทางเลือก” ต ้องอยูได ้และยังยืน (viable + sustainable) –
                       ่         ่
  ไม่อย่างนันก็ไม่มประโยชน์ทจะเลือก เป็ นเพียง “มายาคติของ
            ้      ี               ี่
  เสรีภาพ”
         ่ ่ ่
• ความมังคังชวยสร ้างความอุดมสุขได ้ แต่ชมชนต ้องรู ้เท่าทัน “ทุน”
                                                ุ
• กรอบและขอบเขตของ “ทางเลือก” เปลียนแปลงอยูตลอดเวลา
                                            ่           ่
                                                    ั
  ตามความเปลียนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สงคม วัฒนธรรม
                ่
                                      ่
  เทคโนโลยี และองค์ความรู ้ เชน เมือต ้นทุนของโลกร ้อนสูงขึน
                                        ่                     ้
  โมเดลการผลิตพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน ก็กลายเป็ น
  ทางเลือกทีน่าสนใจขึนมาได ้
              ่          ้
                              ื่          ึ
• นักวิชาการ นักปฏิบต ิ และสอไทยเน ้นศกษาแต่ “กรณี
                     ั
                                                      ่
  ความสาเร็จ” และ “ความเก่ง” ของปั จเจกบุคคล (เชน ปราชญ์
                            ั
  ชาวบ ้าน) มากเกินไป จนสงเคราะห์กระบวนการ และระบบทีจะเอา   ่
  ไป “ผลิตซ้า” ยากมาก
          ั                                   ่   ั
• โลกาภิวตน์เปิ ดทางให ้กับ “ทางเลือก” ทีอาศยการร่วมมือระหว่าง
  ชุมชนกับ “คนนอก” มากกว่าเดิม                                  27
ระบบจ่ายตรง (Direct Payment)
  (ขอขอบคุณข ้อมูลจาก คุณเพชร มโนปวิตร รอง
                              ั
 ผู ้อานวยการ สมาคมอนุรักษ์ สตว์ป่า (WCS) ประเทศ
                           ี
 ไทย ผู ้เขียนคอลัมน์ “โลกสเขียว” ในโอเพ่นออนไลน์
        : http://www.onopen.com/?cat=81)

                                                28
แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
                                           ิ่
• สมัยก่อน เป้ าหมายหลักด ้านการอนุรักษ์ สงแวดล ้อมคือ “การ
  จัดตังพืนทีอนุรักษ์ ” แต่ในความเป็ นจริงพบว่า พืนทีอนุรักษ์ หลาย
       ้ ้ ่                                      ้ ่
  แห่งมักอยูแค่บนกระดาษ (“Paper Park”) เท่านัน
            ่                                       ้
• แนวทางการอนุรักษ์ จงแตกออกเป็ น 2 แนวทาง ได ้แก่
                         ึ
                                     ิ
   – แนวทางการเสริมสร ้างประสทธิภาพในการจัดการพืนทีอนุรักษ์ของภาครัฐ
                                                         ้ ่
                      ้                   ั
     เน ้นการบังคับใชกฎหมาย สร ้างศกยภาพด ้านงานวิจัยและพัฒนาบุคลากร
     ในพืนทีอนุรักษ์ ปั จจุบน “ล ้าสมัย” แล ้ว เพราะความสาเร็จขึนอยูกบ
          ้ ่               ั                                     ้     ่ ั
     คุณภาพของเจ ้าหน ้าทีเป็ นหลัก และชุมชนขาดแรงจูงใจทีจะมีสวนร่วม
                              ่                                 ่     ่
   – แนวทางการจัดการ “คน” ทีอยูรอบ ๆ พืนทีอนุรักษ์ เน ้นการทางานร่วมกับ
                                    ่ ่        ้ ่
                                        ่                 ี ิ
     ชุมชนท ้องถิน เสริมสร ้างการมีสวนร่วมและพัฒนาชวตความเป็ นอยู่ เชอว่า
                    ่                                                       ่ื
     เมือคนอยูดกนดีและมีจตสานึกในการอนุรักษ์ทดแล ้ว จะไม่เข ้าไปทาลาย
        ่       ่ ี ิ           ิ                   ี่ ี
     ธรรมชาติอก แนวทางนีได ้รับการตอบรับอย่างกว ้างขวางจากทัง World
                  ี               ้                                 ้
                                                 ิ่           ั
     Bank และ UNDP เพราะตอบโจทย์เรืองสงแวดล ้อม สงคม และเศรษฐกิจ
                                            ่
     ไปพร ้อมกัน เป็ น “การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

                                                                            29
แนวทางการอนุรักษ์แบบจัดการ “คน”
• แนวทางจัดการ “คน” เกือบจะกลายเป็ น
  กระแสหลัก โดยการบูรณาการอนุรักษ์เข ้า
  กับการพัฒนา (ICDP- Integrated
  Conservation and Development Project)
  และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดย
  ชุมชน ท ้องถิน (CBNRM- Community-based
               ่
  Natural Resource Management) เป็ นวิธให ้ชุมชนทีพงพาการ
                                              ี          ่ ึ่
  ใชทรัพยากรอยูแล ้ว มาเป็ นผู ้ดูแลอนุรักษ์ ใช ้ และจัดการ
       ้          ่
                             ้                     ึ่
  ทรัพยากรด ้วยตัวเอง โดยใชมาตรการต่าง ๆ ซงมีหวใจสาคัญอยู่
                                                      ั
  ทีการสร ้างจิตสานึกและความพร ้อมของแต่ละชุมชน
     ่

    ่ ่                         ้             ้
  ทีผานมาประสบปั ญหาในหลายพืนที่ เพราะต ้องใชเวลาบ่มเพาะ
               ี ี ิ
  ปรับเปลียนวิถชวต และมีต ้นทุนมหาศาล
          ่
                                                           30
ระบบการจ่ายตรง
         ึ                ิ้ ้   ั
• งานศกษาหลายชนตังข ้อสงเกตว่าแนวทางนีล ้มเหลว ้
  เพราะไม่อาจต ้านทานกระแสทุนนิยมได ้ สุดท ้าย
  ชาวบ ้านยังคงทาลายทรัพยากรต่อไป ดังนัน     ้
  งบประมาณทีทมเทไปก็เหมือน “ตาน้ าพริกละลาย
                 ่ ุ่
  แม่น้ า”
                                           ้
• องค์กรอนุรักษ์ บางแห่งจึงเริมหันกลับใชระบบจ่ายตรง
                                   ่
  (Direct Payment) เพือเป็ นการสร ้างแรงจูงใจให ้ชุมชน
                               ่
           ่            ่
  ท ้องถินเข ้ามามีสวนร่วมกับการอนุรักษ์ แทนทีจะต ้องไป
                                                 ่
  ผ่านกระบวนการสร ้างจิตสานึกหรือเปลียนแปลงวิถชวต
                                         ่         ี ี ิ
  ของชุมชนท ้องถินเสยก่อน
                      ่      ี

                                                      31
ระบบการจ่ายตรง
• การจ่ายตรง เป็ นการสร ้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจให ้
  ชุมชนท ้องถินหันมาอนุรักษ์ธรรมชาติแทนการทาลาย มี
              ่
  หลายรูปแบบและก่อให ้เกิดผลโดยตรงกับการอนุรักษ์
  แตกต่างกันออกไป
                                            ่ ่
  – การจ่ายค่าตอบแทนให ้คนในชุมชนเพือสงเสริมการอนุรักษ์
      ่
    เชน จ ้างพรานให ้มาเป็ นเจ ้าหน ้าทีอนุรักษ์
                                         ่
  – การสนับสนุนงบประมาณให ้หน่วยงานทีดแลรักษา ่ ู
    ทรัพยากรธรรมชาติ
                                   ่
  – การสร ้างรายได ้ให ้ชุมชนผ่านชองทาง “การท่องเทียวเชง
                                                       ่  ิ
    อนุรักษ์ ”
                           ิ ์
  – การครอบครองกรรมสทธิในการบริหารจัดการพืนทีนัน ๆ เชน
                                                    ้ ่ ้   ่
                 ื้ ้ ่
    การระดมทุนซอพืนทีธรรมชาติเพือนามาจัดตังเป็ นเขตอนุรักษ์
                                       ่          ้
                      ึ
    เอกชนหรือศูนย์ศกษาธรรมชาติ                                32
โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา
• Northern Plains เป็ นทุงหญ ้าธรรมชาติผสม
                         ่
                  ้ ่ ุ่
  ป่ าเต็งรังและพืนทีชมน้ าอันอุดมสมบูรณ์
  ขนาดใหญ่อยูในประเทศกัมพูชา และยังเป็ น
             ่
          ั
  แหล่งอาศยและวางไข่ของนกหายากใกล ้
                              ้
  สูญพันธุหลายชนิด โดยเฉพาะนกชอนหอยดา
          ์
                                     ้
  (White-Shouldered Ibis) และนกชอนหอยใหญ่ (Giant Ibis)
  ทีใกล ้สูญพันธ์และมีอยูทนทเดียวเท่านันในโลก
    ่                    ่ ี่ ี่ ี่    ้
• ตังแต่ปลาย 1990 เริมมีการก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ของโครงการ
    ้                ่
  Ecotourism หลายโครงการ หนึงในนันคือโครงการท่องเทียว
                                ่     ้                ่
      ิ
  เชงอนุรักษ์ นกหายาก (Tmatboey Ibis Tourism Site) โดย
  จัดตังคณะกรรมการหมูบ ้านอันประกอบไปด ้วยตัวแทนทีมาจาก
          ้            ่                            ่
  การเลือกตัง 9 คน มีหน ้าทีหลักคือจัดการ “กองทุนพัฒนา
             ้              ่                            33
  หมูบ ้าน” ในนามของชุมชน
        ่
โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา (ต่อ)
• ดาเนินโครงการหลัก 2 โครงการ
                        ่     ิ
  – โครงการท่องเทียวเชงอนุรักษ์ โดยจัดให ้พืนที่
                                             ้
    บริเวณนันเป็ นแหล่งท่องเทียว สาหรับนักดูนก
            ้                   ่
    โดยไกด์ท ้องถินได ้ผลตอบแทนจากการพา
                      ่
    นักท่องเทียวไปดูนก และเก็บค่าบริการจาก
                ่
    ทีพัก (Home stay), อาหารและเครืองดืม
      ่                                 ่  ่
  – โครงการปกป้ องรังนก (Bird Nest Production
    Program) เนืองจากการเก็บไข่นกมาขายเป็ นภัย
                    ่
    คุกคามทีสาคัญทีสดต่อความอยูรอดของนก
              ่           ่ ุ        ่
    ในโครงการนีรัฐจึงให ้เงินตอบแทนแก่ชาวบ ้านที่
                  ้
    พบรังนกและดูแลรักษารังนกไปจนกว่าลูกนกจะ
    ออกจากรัง รวมทังมีเจ ้าหน ้าที่ 2 คนคอยดูแลตรวจสอบและ 34
                           ้
    ติดตามผลงานเต็มเวลา
โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา (ต่อ)
• เมือถึงปี 2004 รัฐจึงออกกฎให ้พืนทีแห่งนี้
       ่                                   ้ ่
                               ั
  เป็ นพืนทีอนุรักษ์ ห ้ามล่าสตว์
           ้ ่
             ิ
• ถ ้าสมาชกคนใดไม่เคารพกฎการรักษารังนก
  หรือฝ่ าฝื นล่านก แผนการท่องเทียวทังหมด่        ้
  จะถูกยกเลิกทันที หรือไม่ผู ้ฝ่ าฝื นจะต ้องถูก
         ิ
  ตัดสทธิจากการได ้รับผลประโยชน์ตาง ๆ           ่
• หลังจากดาเนินการมาระยะหนึง โครงการนี้
                                     ่
  เริมเป็ นทีรู ้จักมากขึนในกลุมนักดูนก
     ่         ่           ้     ่
  นักท่องเทียวเพิมขึน และมีแนวโน ้มว่าจะใช ้
                 ่     ่ ้
  เวลาท่องเทียวนานขึนทุกปี ทาให ้เกิด
                   ่         ้
  รายได ้หมุนเวียนในชุมชนมากขึน        ้
• เฉพาะปี 2006 – 2007 การท่องเทียวสร ้าง      ่
  รายได ้ให ้กับชุมชนกว่า $7,000 ซงเมือ     ึ่ ่
  เทียบกับรายได ้ 50 เซนต์ตอวันของชาว
                                   ่
  กัมพูชาแล ้ว นีถอเป็ นความแตกต่างอย่างมี
                     ่ ื
  นัยสาคัญ                                            35
ผลของโครงการ
• ประชากรนกมีจานวนเพิมขึน ปั ญหาการ
                              ่ ้
  ล่านกลดลงอย่างมีนัยสาคัญ รวมทังยัง     ้
  สร ้างทัศนคติในเรืองการอยูรวมกับนก
                     ่             ่ ่
  ของชาวบ ้านให ้ดีขน เพราะสมาชก
                         ึ้            ิ
                       ั
  ชุมชนรู ้ว่านกและสตว์ป่าอืนๆ เป็ น
                                 ่
  แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเทียว   ่
• รายได ้จากโครงการนีกว่า 80้
           ็
  เปอร์เซนต์ตกอยูกบชาวบ ้านโดยตรง
                   ่ ั
              ่
  เป็ นการสงเสริมการสร ้างรายได ้อย่างถูก
  กฎหมายให ้ชาวบ ้าน แทนทีจะต ้องเสยง
                                    ่      ี่
  หารายได ้จากการล่าหรือขโมยลูกนกซง           ึ่
  ผิดกฎหมาย                                        36
ผลของโครงการ (ต่อ)
• สร ้างความเข ้าใจเกียวกับการจัดสรร
                        ่
  พืนทีเพือการอนุรักษ์ให ้กับชาวบ ้าน
     ้ ่ ่
                       ่ ี
  เป็ นวิธแก ้ปั ญหาทีเสยต ้นทุนน ้อยและ
            ี
              ิ
  มีประสทธิภาพเมือเทียบกับวิธอน ๆ
                     ่           ี ื่
  ปั จจุบนคณะกรรมการหมูบ ้านสามารถ
          ั                   ่
  รับผิดชอบดูแล และจัดการการท่องเทียวได ้ด ้วยตัวเอง
                                              ่
  เกือบทังหมดแล ้ว
                ้
                                      ่ื
• จุดแข็งของโครงการอยูทการเชอมโยงเป้ าหมายการ
                            ่ ี่
  อนุรักษ์ เข ้ากับแนวทางการดาเนินงานโดยตรง และมี
  ระบบการสารวจติดตามประชากรนกทีชดเจน         ่ ั
• ใช ้ “เงิน” สร ้างแรงจูงใจในทางทีเอือต่อการอนุรักษ์
                                         ่ ้
  อย่างยั่งยืน                                        37
กองทุนบูรณาการบ ้านขาม จ.
 ั
ชยภูม ิ และการเงินชุมชนไทย


                             38
กองทุนบูรณาการบ ้านขาม
                  •   ตาบลบ ้านขาม อ.จัตรัส จ.ุ
                          ั
                      ชยภูม ิ มีประชากรประมาณ
                      1,198 คน 250 หลังคาเรือน
                      ก่อตังร ้านค ้าชุมชนขึนในปี
                                 ้          ้
                      พ.ศ. 2533 นาผลกาไรไป
                      จัดตังกลุมออมทรัพย์เพือการ
                               ้     ่            ่
                      ผลิตขึนในปี ตอมา ในปี 2546
                                   ้   ่
                      นาเงินกองทุนทุกกองเข ้ามา
                      รวมกัน
                  •         ิ้
                      ณ สนปี 2552 มีสมาชก 808   ิ
                                         ั
                      คน มีเงินออมสจจะจานวน
                      5,914,207 บาท และเงิน
                        ั
                      สจจะพิเศษ 5,985,578 บาท
Best Practices บ้านขาม
               มิตการเงิน
                  ิ                                               มิตการพ ัฒนา
                                                                     ิ
• การบริหารเงิน                                        • การบูรณาการกลมต่างๆ ในช ุมชน
                                                                      ุ่
     – การ matching เงินจากภายนอกเข้ามาใช้                 – ใช้กองท ุนบูรณาการเปนที่รวมท ุนและมี
                                                                                 ็
       ในหมูบานตามวัตถุประสงค์ สามารถจับคู่
            ่ ้                                              กรรมการ(มาจากท ุกกลม)กาหนดนโยบาย
                                                                                   ุ่
       แหล่งเงินกับการใช้เงินได้ดี มองออกว่าจะเอา          – ใช้กลมออมทรัพย์เปนหน่วยบริหารกลาง
                                                                  ุ่          ็
       ส่วนไหนไปใช้ทาอะไร และสามารถนาเงินจาก                 แบบ holding company
       ภายนอกเข้า ผสมได้โดยไม่สบสน ั                       – ลดหนีสิน้
• แยกชันการให้บริการ
       ้                                               • ความสัมพันธ์ระหว่างวัด และช ุมชน
     – จัดสวัสดิการตามศักยภาพและความ                       – สามารถนาเรื่องศาสนามาสูปฏิบติ เช่น“บาตร
                                                                                     ่ ั
       จาเปนของสมาชิกและแยกกลุมการ
            ็                          ่                     ออมสิน” พระแจกบาตรให้ชาวบ้านเอาไปหยอด
       ให้บริการ: กูไ้ ด้มาก กูไ้ ด้นอย กูไ้ ม่มี
                                     ้                       เงิน พร้อมกับอธิบายหลักธรรมะประกอบ ใน
       ดอกเบี้ย                                              บาตรมีศีล มีหลักธรรมะอธิบาย
                                                           – พระท่านว่า “คนให้พระมาเยอะแล้ว (ทอดผ้าป่ าให้
• การตลาดร้การพ ัฒนา
      มิต ิานค้าช ุมชน                                       พระ) พระอยากช่วยคนบ้าง (ทอดผ้าป่ าให้โยม)”
     – ใช้ระบบคูปอง สร้างแรงจูงใจให้คนมาซื้อของ        • กาหนดเปาหมายการพัฒนาที่เหมาะสม
                                                                    ้
       สร้างยอดให้รานค้า สามารถทาให้ลกค้าเข้าใจ
                      ้                  ู               กับพื้นที่และมองคนเปนศูนย์กลาง
                                                                             ็
       ได้ว่าเงินปั นผลรายปี ต้องมาจากยอดขายของ
       ร้าน หากคนไม่ซื้อ ร้านไม่มียอด ลูกค้าก็ไม่ได้       – แก้ปัญหาอาชีพหลักทาให้มี impact สูง
       ปั นผล และร้านก็เจ๊ง                                – เข้าใจเปาหมายการเพิ่มรายได้ว่าอาจทาได้โดยการ
                                                                     ้
 28/05/54
                                                             ลดรายจ่ายและจัดกิจกรรมที่สอดคล้อง 40
งบการเงินรวม: ความสาคัญของวิสาหกิจชุมชน
งบการเงินรวม: ความสาคัญของวิสาหกิจชุมชน
ข ้อค ้นพบจากภาคสนาม
•   องค์กรการเงินชุมชนไทยยังมีน ้อยรายทีมงทากาไร สวนใหญ่
                                                  ่ ุ่          ่
    เน ้นการรักษาเงิน ให ้ “เงินไม่หาย” มากกว่า
•                           ี่
    ข ้อกังวล/ความเสยงหลายประการเป็ นประเด็นด ้านการบริหาร
                ่
    จัดการ เชน หาผู ้สนใจมาเป็ นกรรมการใหม่ยาก กลุมสวนใหญ่ยง่ ่              ั
    ไม่มความรู ้เพียงพอด ้านบัญช ี สงผลให ้ตัวเลขทางบัญชไม่
            ี                             ่                         ี
    สะท ้อนผลการดาเนินงานทีแท ้จริง กลุมไม่สามารถใชบัญชเป็ น
                                   ่            ่                 ้        ี
                    ่                  ี่
    เครืองมือชวยวิเคราะห์ความเสยง และวางแผนทางการเงิน
          ่
•                                                        ี่
    สาหรับกองทุนทีเน ้นการจัดสวัสดิการ ความเสยงหลักอยูทความ
                        ่                                             ่ ี่
    เพียงพอของเงินทุนในการจัดสวัสดิการ โดยเฉพาะฌาปนกิจ
        ่
    เชน เนืองจากจ่ายเงินปั นผลมากเกินควร เมือเปรียบเทียบกับ
              ่                                        ่
    แนวโน ้มทีผู ้สูงอายุจะมีมากขึน
                  ่                  ้
•                                                   ี่
    สาหรับกองทุนทีเน ้นการปล่อยกู ้ ความเสยงหลักอยูทการไม่
                          ่                                  ่ ี่
                      ้
    สามารถใชเงินกู ้ในการยกฐานะตัวเอง ทาให ้ภาระหนีไม่ลดลง    ้
                               ้ ี
    (ไม่สะท ้อนในอัตราหนีเสยตราบใดทียง „ผลัดผ ้าขาวม ้า‟ ได ้)
                                            ่ ั
ื ่
หนังสอทีเคยเขียน/แปลในเรืองเหล่านี้
                         ่
่ ุ
สูยค “เศรษฐกิจแห่งคุณค่า”?
“ In the 19th century, we were making money
  with money. In the 21st century, I believe and
  hope that we will use values to create value.”
     - Oliver Le Grand , Chairman of the Board of
       Cortal (a subsidiary of BNP Paribas)

“[There is] No Place To Hide for the Irresponsible
 Business”
     - Financial Times headline,
       29 September 2003
                                                     45
“You never change things by fighting the
               existing reality.
  To change something, build a new model
  that makes the existing model obsolete.”

            - R. Buckminster Fuller -

    “คุณไม่มวันเปลียนอะไรก็ตามด ้วยการต่อกรกับ
            ี       ่
                    ความจริงทีเป็ นอยู่
                              ่
ถ ้าคุณอยากเปลียนอะไรก็ตาม จงไปสร ้างโมเดลใหม่
                  ่
              ทีทาให ้โมเดลเดิมล ้าสมัย”
                ่

           - อาร์. บัคมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ -
                                                 46

More Related Content

More from Sarinee Achavanuntakul

Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing?
Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing? Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing?
Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing? Sarinee Achavanuntakul
 
How to make BCG consistent with sustainable development?
How to make BCG consistent with sustainable development?How to make BCG consistent with sustainable development?
How to make BCG consistent with sustainable development?Sarinee Achavanuntakul
 
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion Project
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion ProjectPPP and Questions on Nam Yuam Diversion Project
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion ProjectSarinee Achavanuntakul
 
Future of "digital economy" in Thailand
Future of "digital economy" in ThailandFuture of "digital economy" in Thailand
Future of "digital economy" in ThailandSarinee Achavanuntakul
 
Introduction to CSR and Sustainable Business
Introduction to CSR and Sustainable BusinessIntroduction to CSR and Sustainable Business
Introduction to CSR and Sustainable BusinessSarinee Achavanuntakul
 
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the Talk
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the TalkESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the Talk
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the TalkSarinee Achavanuntakul
 
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้Sarinee Achavanuntakul
 
Thailand Internet Governance: from Monologue to Dialogue
Thailand Internet Governance: from Monologue to DialogueThailand Internet Governance: from Monologue to Dialogue
Thailand Internet Governance: from Monologue to DialogueSarinee Achavanuntakul
 
Pursuing retail banking with social responsibility
Pursuing retail banking with social responsibilityPursuing retail banking with social responsibility
Pursuing retail banking with social responsibilitySarinee Achavanuntakul
 
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์Sarinee Achavanuntakul
 
SDGs and Sustainable Business Trends 2016
SDGs and Sustainable Business Trends 2016SDGs and Sustainable Business Trends 2016
SDGs and Sustainable Business Trends 2016Sarinee Achavanuntakul
 
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทย
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทยจาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทย
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทยSarinee Achavanuntakul
 
The Place of Museum in the Digital Age
The Place of Museum in the Digital AgeThe Place of Museum in the Digital Age
The Place of Museum in the Digital AgeSarinee Achavanuntakul
 
Museum for Whom? Thoughts from A Museum Lover
Museum for Whom? Thoughts from A Museum LoverMuseum for Whom? Thoughts from A Museum Lover
Museum for Whom? Thoughts from A Museum LoverSarinee Achavanuntakul
 
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trends
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trendsIntroducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trends
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trendsSarinee Achavanuntakul
 
Thai banks "green loan" for energy sector
Thai banks "green loan" for energy sectorThai banks "green loan" for energy sector
Thai banks "green loan" for energy sectorSarinee Achavanuntakul
 

More from Sarinee Achavanuntakul (20)

Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing?
Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing? Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing?
Forest carbon credits: can it be fair without greenwashing?
 
How to make BCG consistent with sustainable development?
How to make BCG consistent with sustainable development?How to make BCG consistent with sustainable development?
How to make BCG consistent with sustainable development?
 
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion Project
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion ProjectPPP and Questions on Nam Yuam Diversion Project
PPP and Questions on Nam Yuam Diversion Project
 
2021 Coal Situation & Investor View
2021 Coal Situation & Investor View2021 Coal Situation & Investor View
2021 Coal Situation & Investor View
 
Thai Household Debt & COVID-19
Thai Household Debt & COVID-19Thai Household Debt & COVID-19
Thai Household Debt & COVID-19
 
Future of "digital economy" in Thailand
Future of "digital economy" in ThailandFuture of "digital economy" in Thailand
Future of "digital economy" in Thailand
 
Introduction to CSR and Sustainable Business
Introduction to CSR and Sustainable BusinessIntroduction to CSR and Sustainable Business
Introduction to CSR and Sustainable Business
 
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the Talk
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the TalkESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the Talk
ESG Risks and Thai Banks: Time to Walk the Talk
 
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้
Joseph Stiglitz กับความเหลื่อมล้ำที่เราเลือกได้
 
Thailand Internet Governance: from Monologue to Dialogue
Thailand Internet Governance: from Monologue to DialogueThailand Internet Governance: from Monologue to Dialogue
Thailand Internet Governance: from Monologue to Dialogue
 
Pursuing retail banking with social responsibility
Pursuing retail banking with social responsibilityPursuing retail banking with social responsibility
Pursuing retail banking with social responsibility
 
"Thailand 4.0" : Buzz vs. Reality
"Thailand 4.0" : Buzz vs. Reality"Thailand 4.0" : Buzz vs. Reality
"Thailand 4.0" : Buzz vs. Reality
 
Game & Social Problems
Game & Social ProblemsGame & Social Problems
Game & Social Problems
 
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์
กลไกทางการเงินในการสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าสู่เกษตรอินทรีย์
 
SDGs and Sustainable Business Trends 2016
SDGs and Sustainable Business Trends 2016SDGs and Sustainable Business Trends 2016
SDGs and Sustainable Business Trends 2016
 
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทย
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทยจาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทย
จาก SDGs ถึง COP21: โอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทย
 
The Place of Museum in the Digital Age
The Place of Museum in the Digital AgeThe Place of Museum in the Digital Age
The Place of Museum in the Digital Age
 
Museum for Whom? Thoughts from A Museum Lover
Museum for Whom? Thoughts from A Museum LoverMuseum for Whom? Thoughts from A Museum Lover
Museum for Whom? Thoughts from A Museum Lover
 
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trends
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trendsIntroducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trends
Introducing "Sustainable Banking Network Thailand" and trends
 
Thai banks "green loan" for energy sector
Thai banks "green loan" for energy sectorThai banks "green loan" for energy sector
Thai banks "green loan" for energy sector
 

Wealth in Happy Society

  • 1. ความมั่งคังในสงคมอุดมสุข ่ สฤณี อาชวานันทกุล http://www.fringer.org/ โครงการอบรม “ผู ้นาการเปลียนแปลงในขบวนองค์กรชุมชน” ่ 28 พฤษภาคม 2554 งานนี้เผยแพร่ภายใต้สญญาอนุญาต Creative Commons แบบ Attribution Non-commercial Share Alike (by-nc-sa) ั โดยผูสร้างอนุญาตให้ทาซา แจกจ่าย แสดง และสร้างงานดัดแปลงจากส่วนใดส่วนหนึ่งของงานนี้ได้โดยเสรี แต่เฉพาะใน ้ ้ กรณีทให้เครดิตผูสร้าง ไม่นาไปใช้ในทางการค้า และเผยแพร่งานดัดแปลงภายใต้สญญาอนุญาตแบบเดียวกันนี้เท่านัน ่ี ้ ั ้
  • 3. เรากาลังทะลุขดการรองรับของธรรมชาติ ี Planetary Boundaries: 3 ที่ มา: The Biosphere Economy, http://www.volans.com/lab/projects/biosphere-economy/
  • 4. เศรษฐกิจขับเคลือนด ้วยพลังงานทีไม่ยงยืน ่ ่ ั่ ทีมา: Carol King, “Will we always be more capable in the future?”; ่ Worldchanging.com - 4 http://www.worldchanging.com/archives/007962.html
  • 5. ประโยชน์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ นั กเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเชอว่า... ่ื • การเติบโตทางเศรษฐกิจทาให ้เราผลิตทุกอย่างได ้ ิ มากขึน โดยเฉพาะสนค ้าอุปโภค ้ ิ • สนค ้าอุปโภคบริโภคมากขึน  มาตรฐานความ ้ เป็ นอยูดกว่าเดิม  คุณภาพชวตดีขน ่ ี ี ิ ึ้ • เศรษฐกิจโต  รัฐเก็บภาษี ได ้มาก  โครงสร ้างและ สวัสดิการพืนฐานดีขน (ถนน โรงพยาบาล ฯลฯ) ้ ึ้ • ความมั่งคังทีสร ้างนันจะ “ไหลริน” ลงมาสูคนจนโดย ่ ่ ้ ่ ่ อัตโนมัต ิ เชน ผ่านการจ ้างงาน และเมือรัฐบาลเก็บ ่ ้ ่ ภาษี จากคนรวยได ้มากขึน ก็จะชวยคนจนได ้มากขึน ้ 5
  • 6. “ต ้นทุน” ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างต ้นทุนของการเติบโตทางเศรษฐกิจ • คนรวยรวยขึน คนจนอาจจนลงหรือลาบากกว่าเดิม  ้ “รวยกระจุก จนกระจาย” • “ผลไหลริน” ในความเป็ นจริงไม่คอยไหล ่ ั่ ่ • คอร์รัปชนบันทอนการกระจายรายได ้และลดทอน คุณภาพของบริการภาครัฐ • องค์ประกอบของการเติบโตบางอย่างอาจไม่เป็ นผลดีตอ ่ ่ ประชาชน เชน เพิมงบประมาณทางทหารเกินจาเป็ น ่ • องค์ประกอบ (composition) สาคัญกว่า ผลรวม (sum) 6
  • 8. ี ค่าเสยโอกาสของการเติบโตทางเศรษฐกิจ • เนืองจากทรัพยากรมีจากัด เราจึงมักจะต ้องเลือกว่าจะ ่ ่ เน ้นการผลิตอะไรมากกว่ากัน ณ ชวงเวลาใดเวลาหนึง ่ ระหว่าง ิ  สนค ้าทุน (capital goods) กับ ิ  สนค ้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) ั • การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวต ้องอาศยการลงทุน ิ ่ ในสนค ้าทุน เชน เครืองจักร ถนนหนทาง ทรัพย์สนทาง ่ ิ ปั ญญา อย่างต่อเนือง เนืองจากเป็ น “ปั จจัยการผลิต” ที่ ่ ่ ผลิตสร ้างการเติบโตในระยะยาว ิ • แต่ก็ละเลยสนค ้าอุปโภคบริโภคไม่ได ้ เพราะรวมปั จจัยส ี่ + เครืองอานวยความสะดวก + ปรับปรุงคุณภาพชวต 8 ่ ี ิ
  • 9. ี ภาวะได ้อย่าง-เสยอย่างของการเติบโต ิ ปริมาณสนค ้าทุน ี ค่าเสยโอกาสของ ิ สนค ้าทุน K2-K1 = K2 ิ สนค ้าอุปโภคบริโภค C1-C2 ทีต ้อง ่ ี “เสยสละ” (ไม่ได ้ผลิต) ประโยชน์ K1 ต ้นทุน ิ ปริมาณสนค ้า C2 C1 อุปโภคบริโภค 9
  • 10. ั การเติบโตและศกยภาพในการผลิต ิ ปริมาณสนค ้าทุน ้ ั เมือประเทศยังใชศกยภาพ ่ ในการผลิตไม่เต็มที่ เศรษฐกิจจะขยายตัวจาก ้ ิ จุด A ไป B ได ้ ทังสนค ้า ิ ทุนและสนค ้าอุปโภค B K2 บริโภคเพิมขึน ่ ้ A K1 ิ ปริมาณสนค ้า C1 C2 อุปโภคบริโภค 10
  • 11. ่ ั ในระยะยาว ต ้องเพิมศกยภาพในการผลิต ิ ปริมาณสนค ้าทุน เมือประเทศผลิตเต็ม ่ ั ศกยภาพแล ้ว การเติบโต ั ่ ั ต ้องอาศยการเพิมศกยภาพ B ่ เชน เพิมทรัพยากร (ค ้นพบ ่ K2 A น้ ามัน, แรงงานต่างด ้าว) K1 ิ หรือปรับปรุงประสทธิภาพ ในการผลิต (เทคโนโลยี, ึ ปรับปรุงการศกษา) ิ ปริมาณสนค ้า C1 C2 อุปโภคบริโภค 11
  • 12. ่ ั ั้ การเพิมศกยภาพทีดระยะสนแต่อาจไม่ยงยืน ่ ี ั่ ิ ปริมาณสนค ้าทุน ่ ั การเพิมศกยภาพทีเอียง ่ ิ ไปข ้างสนค ้าอุปโภค ิ มากกว่าสนค ้าทุน เชน ่ เงินลงทุนจากต่างชาติ B อาจเน ้นผลิตสนค ้า ิ A K2 K1 อุปโภคบริโภคเพือ ่ ่ สงออก ประเทศเติบโตใน ั้ ระยะสน แต่ยงยืนหรือ ั่ เปล่า? (อย่าลืมว่าสนค ้า ิ ื่ ทุนเสอมตามกาลเวลา) ิ ปริมาณสนค ้า C1 C2 อุปโภคบริโภค 12
  • 13. วิวฒนาการ (?) ของระบบเศรษฐกิจ ั ทุนนิยมเสรีมเพียงบาง ี ธุรกิจในบางประเทศ ใน “ทุนนิยมธรรมชาติ” ระดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ระดับโลกยังเป็ นทุนนิยม ทุนนิยมเสรี “ทุนนิยมก ้าวหน ้า” สามานย์อยู่ (แนวคิด กระแสหลัก) ของประชาชน ทุนนิยมผูกขาด/ ทุนนิยมในไทยยังเป็ น “ทุนนิยมสามานย์” ทุนนิยมสามานย์/ อยู่ สาเหตุหลักๆ อาจเป็ นเพราะ: ทุนนิยมพวกพ ้อง • ธนกิจการเมืองยังเฟื่ องฟู ั • โครงสร ้างศกดินา/อานาจนิยมยังอยู่ • กฎหมายป้ องกันการผูกขาดไม่มผล ี เศรษฐกิจผูกขาด ั • กฎหมายคุ ้มครองผู ้บริโภค สงคม ฯลฯ โดยรัฐ ้ ยังใชไม่ได ้จริง ระดับความยังยืนของระบบเศรษฐกิจ ่ 13
  • 14. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (1) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง ื้ • เงินซอได ้ทุกอย่าง ื้ • เงินซอความสุข, ความ ั • GDP วัด „สุขภาพสงคม‟ ได ้ ปลอดภัย, ฯลฯ ไม่ได ้ ถ ้า • ประโยชน์จากทุนนิยมเสรี จะ กลไกต่างๆ ไม่ทางาน ่ „ไหล‟ ลงมาสูคนทุกระดับชน ั้ • Human Development เอง โดยทีรัฐไม่ต ้อง ่ Index (Amartya Sen) วัด แทรกแซงตลาด – “คลืนยก ่ ระดับ „ความสุข‟ ของ เรือทุกลาเท่ากัน” ประชาชนได ้ดีกว่า GDP ่ • รัฐไม่ควรแตะ “สวนเกิน” • ความมังคังของคนจานวน ่ ่ ของคนรวย เพราะสวนเกิน ่ มากมาจากมรดกหรือการเก็ง เหล่านันมาจากการทางาน ้ ่ กาไร ไม่ใชการทางานหนัก ึ่ หนักซงก่อให ้เกิดผลผลิตที่ • “ในระยะยาว เราก็ตายหมด” เป็ นประโยชน์ (John M. Keynes) 14
  • 15. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (2) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง ่ • ทุกภาคสวนควรมุงเน ้นการ ่ ิ • ประสทธิภาพอย่างเดียวอาจไม่ทา ิ สร ้างประสทธิภาพสูงสุด ให ้เกิดความเป็ นธรรมในสงคม ั ั (หรืออย่างน ้อยก็สงคมทีม ี ่ อย่างเดียว มนุษยธรรม) : สถานการณ์ทม ี ี่ • เนืองจากระบบตลาดเป็ น ่ เศรษฐีไม่กคนในขณะทีคนหลาย ี่ ่ ระบบทีดทสดในการสร ้าง ่ ี ี่ ุ ล ้านคนต ้องอดอาหารตายอาจ “มี ิ ิ ประสทธิภาพสูงสุด” (Pareto ประสทธิภาพ รัฐจึงควรปล่อย optimal) แล ้ว หากไม่มทางทีจะ ี ่ ให ้ระบบตลาดทางานด ้วยตัว ่ ี ิ ชวยให ้ใครรอดชวตโดยไม่ทาให ้ ของมันเอง ี เศรษฐีเสยประโยชน์ • มีแนวโน ้มสูงทีจะเกิด “ทุนนิยม ่ สามานย์” หากรัฐไม่ควบคุมตลาด อย่างแข็งขันและเป็ นอิสระอย่าง แท ้จริงจากภาคธุรกิจ 15
  • 16. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (3) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง ี ั • สมองมนุษย์มศกยภาพ ิ่ • ปั ญหาสงแวดล ้อมหลาย พอทีจะเข ้าใจการทางานของ ่ ่ ประการ เชน โลกร ้อน กาลัง ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ บ่อนทาลายโลก และชดเจน ั • ธรรมชาติเปรียบเสมือนเป็ น ว่าเกิดจากน้ ามือมนุษย์ „เครืองจักร‟ ทีเดินอย่าง ่ ่ • กฎวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เชน ่ เทียงตรงตามกฎเกณฑ์ ่ Relativity, Uncertainty, แน่นอนตายตัว Incompleteness พิสจน์ู • ดังนัน มนุษย์จงสามารถ ้ ึ ั ชดเจนว่า ความไม่แน่นอน เอาชนะและควบคุมธรรมชาติ ั และความไม่สมบูรณ์เป็ นสจ ั ได ้ ธรรมของโลก และพรมแดน ความรู ้ของมนุษย์แปลว่าไม่ม ี วัน „เอาชนะ‟ ธรรมชาติได ้ 16
  • 17. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (4) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง • ทุกบริษัทควรตังเป้ าหมายที่ ้ • ปั ญหาข ้อมูลไม่เท่าเทียมกัน “ผลตอบแทนสูงสุดต่อผู ้ถือ (asymmetric information) ระหว่างผู ้บริหารบริษัทกับผู ้ถือหุ ้น หุ ้น” เพราะผู ้ถือหุ ้นย่อม และระหว่างบริษัทกับผู ้บริโภค/ คานึงถึงประโยชน์ของ ั สงคม ทาให ้เกิดการหลอกลวงและ ่ สวนรวมอยูแล ้ว่ ฉ ้อฉลง่ายและปกปิ ดง่ายด ้วย • ดังนัน บริษัททีมงเน ้น ้ ่ ุ่ • ทุกฝ่ ายมีผลประโยชน์ทับซอน ้ ่ เป้ าหมายนีจะชวยให ้เกิด ้ • แนวโน ้มทีจะได ้กาไรสูงกว่าจาก ่ ่ ั้ การเก็งกาไรระยะสนในตลาดหุ ้น ประโยชน์สงสุดต่อสวนรวม ู เทียบกับเงินปั นผลในระยะยาวทา โดยอัตโนมัต ิ ให ้ผู ้ถือหุ ้น „มักง่าย‟ กว่าทีควร ่ • ผู ้ถือหุ ้นในตลาดหลักทรัพย์ สมัยใหม่ไม่กระจุกตัวเหมือนใน อดีต – „ความเป็ นเจ ้าของ‟ ลดลง 17
  • 18. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (5) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง • ทุกคนควรทาแต่ในสงที่ ิ่ • นอกเหนือจากเงิน ภาคสงคมยัง ั ี่ ตัวเองเชยวชาญทีสด ภาค ่ ุ ต ้องการระบบ & องค์ความรู ้ในการ บริหารจัดการ ซงภาคธุรกิจมี ึ่ ธุรกิจก็ควรทาธุรกิจ ภาค ความรู ้ความเชยวชาญดีทสดี่ ี่ ุ ั สงคมก็ทางานด ้านสงคม ั • ระบบราชการของรัฐยังไร ้ ภาครัฐก็นาเงินภาษี ไปสร ้าง ิ ประสทธิภาพ คอร์รัปชน และไม่ ั่ ระบบสวัสดิการสงคม ั เหลียวแลผู ้ด ้อยโอกาสทีสด ซงไม่ ่ ุ ึ่ ่ ิ ี ี มีสทธิมเสยงในระบอบการเมือง • นักธุรกิจทีอยากชวยเหลือ ่ ั ภาคสงคมนอกเหนือจากเงิน • „สงคมสงเคราะห์‟ ไม่สามารถใช ้ ั ิ แก ้ปั ญหาเชงโครงสร ้าง เชน ความ ่ ภาษี ทจายรัฐ ก็ทาได ้โดย ี่ ่ ี่ ี ิ เสยงในชวตและทรัพย์สน ไม่ม ี ิ ผ่านกิจกรรม „สงคม ั ทีดนทากิน ไร ้การศกษา ฯลฯ ่ ิ ึ สงเคราะห์‟ ต่างๆ เชน การ ่ • ผู ้ทาหน ้าทีบริหารเงินได ้ดีทสดคือ ่ ี่ ุ บริจาค เท่านันก็พอแล ้ว ้ ่ นักการเงิน ไม่ใชนักพัฒนาสงคม 18 ั
  • 19. „มายาคติ‟ ทีตอนนีพสจน์แล ้วว่าไม่จริง (6) ่ ้ ิ ู มายาคติ ข้อเท็จจริง ิ ์ ่ • กรรมสทธิสวนบุคคลเป็ น • คนจานวนมากไม่ได ้สร ้างสรรค์เพือ ่ ปั จจัยสาคัญในการผลักดัน เงิน แต่เพือความสุขใจและแบ่งปั น ่ ความเจริญทางเศรษฐกิจ • พืนทีสาธารณะมากมายมีสมาชกใน ้ ่ ิ ชุมชนเป็ นผู ้ร่วมกันดูแลอย่างดีโดย เพราะคนทีสามารถอ ้าง ่ ไม่เคยต ้องมีเอกสารสทธิ ิ „ความเป็ นเจ ้าของ‟ เท่านัน ที่ ้ ิ ์ ี่ • ระบบลิขสทธิทเข ้มงวดคุ ้มครอง จะมีแรงจูงใจในการผลิตงาน ผู ้สร ้างมากเกินไป และนาไปสูการ ่ • „พืนทีสาธารณะ‟ ทีปราศจาก ้ ่ ่ ผูกขาดความรู ้ ต่อยอดไม่ได ้ เจ ้าของจะไร ้คนดูแล • ในหลายกรณี ความเห็นแก่ตวของ ั นักธุรกิจหน ้าเลือดและความไร ้ • ดังนัน รัฐจึงต ้องตีกรอบและ ้ ิ ประสทธิภาพของรัฐ คือสาเหตุท ี่ ิ ์ ่ มอบกรรมสทธิสวนบุคคล พืนทีสาธารณะทรุดโทรม ้ ่ และคุ ้มครองกรรมสทธินันิ ์ ้ ิ • ระบบยอมออกสทธิบตรแม ้กระทั่ง ั อย่างเคร่งครัด ่ ธรรมชาติ เชน DNA, พันธุพช 19 ์ ื
  • 20. GDP เป็ นองค์ประกอบเดียวของ “ความสุข” ทีมา: Deutsche Bank Research, 2007 ่ 20
  • 21. ั ความสาคัญของ “ความยุตธรรมทางสงคม” ิ • การเติบโตของเศรษฐกิจทีม ี “ฐานกว ้าง” นั่นคือ เติบโต ่ ่ ในทางทีคนสวนใหญ่ได ้ประโยชน์ ไม่ใชในทางทีความ ่ ่ ่ ่ ่ ั้ มั่งคังกระจุกตัวอยูในมือชนชนนานั น เป็ นการเติบโตที่ ้ ี ิ ทาให ้คุณภาพชวตของคนดีขน และเอืออานวยต่อ ้ึ ้ ึ่ ่ กระแสประชาธิปไตย ซงชวยให ้คนในสงคมรู ้จักอดทน ั อดกลันต่อความคิดเห็นทีแตกต่าง แทนทีจะทะเลาะจน ้ ่ ่ ่ นาไปสูความรุนแรง หรือถูกกดขีโดยผู ้ครองอานาจ่ • การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ “ดี” ทีมฐานกว ้าง จึง ่ ี ่ ั ชวยให ้สงคมมีระดับ “คุณธรรม” สูงขึนกว่าเดิม และ ้ ั ระดับคุณธรรมทีสงขึนนั นก็จะทาให ้สงคมยั่งยืน มีสนติ ่ ู ้ ้ ั ั สุขและเสถียรภาพมากกว่าในสงคมทีความเจริญกระจุก ่ ตัวอยูในมือคนเพียงไม่กคน ่ ี่ 21
  • 22. ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ ้ ่ ่ • ตังเป้ าหมายทีการสงเสริมและดารง “ความอยูดมสข” ่ ี ี ุ ของประชาชนในสงคม ั ้ • ใชทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน : “การพัฒนาอย่าง ยั่งยืน” (Sustainable Development) หมายความว่า ้ ไม่ใชทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเร็วกว่าความสามารถ ่ ของมนุษย์ในการผลิตทรัพยากรทดแทน และไม่ทง ิ้ ทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเร็วกว่าอัตราทีธรรมชาติจะ ่ ่ ั สามารถดูดซบมันกลับเข ้าไปในระบบ ี • ประเมินผลดีและผลเสยจากนโยบายอย่างรอบคอบ ่ ี สาหรับผู ้มีสวนได ้เสยทุกฝ่ าย โดยเฉพาะผู ้ด ้อยโอกาส • มองทรัพยากรทีมวันหมดต่างๆ รวมทังผลกระทบ ่ ี ้ ภายนอกว่าเป็ น “ต ้นทุน” ทีผู ้ก่อต ้องรับภาระ ่ 22
  • 23. ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ (ต่อ) ั • เป้ าหมายควรอยูทการพัฒนา “ศกยภาพ” ของมนุษย์ ่ ี่ ่ ไม่ใชแค่ “ระดับรายได ้” (Amartya Sen) ่ ั • สงเสริม “ความยุตธรรมทางสงคม” โดยรัฐต ้องคุ ้มครอง ิ ิ สทธิมนุษยชนขันพืนฐานของประชาชน จัดบริการ ้ ้ สาธารณูปโภคขันพืนฐานทีได ้คุณภาพ ดาเนินนโยบาย ้ ้ ่ ทีมจดมุงหมายทีการลดความเหลือมล้าทางรายได ้ และ ่ ี ุ ่ ่ ่ ่ ่ สงเสริมการมีสวนร่วมทางการเมืองของประชาชน • สามารถรองรับความหลากหลายของแต่ละวัฒนธรรม ้ ท ้องถินในทุกระดับได ้ เพราะการใชชุดนโยบายพัฒนาที่ ่ ่ ยัดเยียดแบบ “สาเร็จรูป” อาจนาไปสูความขัดแย ้งและ ั ความรุนแรงในสงคม และดังนั นจึงไม่อาจเรียกว่าเป็ น ้ ระบบเศรษฐกิจทียั่งยืนได ้ ่ 23
  • 24. อนาคต ? มุงทาเงินสูงสุด ่ 1000 CO2 CO2 850 ppm ppm อุณหภูม ิ +6ºC 900 800 มุงทาเงิน + ่ พลังงาน“สะอาด” 700 CO2 590 ppm 600 อุณหภูม ิ +2.4ºC 500 ิ่ เงิน+สงแวดล ้อม ประสานทังโลก ้ 400 CO2 550 ppm อุณหภูม ิ +2ºC 380ppm 300 2000 2020 2040 2060 2080 2100 24
  • 25. มุงทาเงินสูงสุด vs เงิน+สงแวดล ้อม ่ ิ่ + พลังงานสะอาด ประสานทังโลก ้ การตลาด เพือทิงขว ้าง ่ ้ บริโภค จากัด สกัด ผลิต จัดจาหน่าย ขยะ วัตถุดบ ิ ิ สนค ้า 25 ทีมา : www.storyofstuff.com ่
  • 26. มุงทาเงินสูงสุด vs เงิน+สงแวดล ้อม ่ ิ่ + พลังงานสะอาด ประสานทังโลก ้ ผลิต ิ สนค ้า ยั่งยืน จัดจาหน่าย สกัด วัตถุดบ ิ บริโภค 26
  • 27. ั ข ้อสงเกตเรือง “ทางเลือก” ของชุมชน ่ • “ทางเลือก” ต ้องอยูได ้และยังยืน (viable + sustainable) – ่ ่ ไม่อย่างนันก็ไม่มประโยชน์ทจะเลือก เป็ นเพียง “มายาคติของ ้ ี ี่ เสรีภาพ” ่ ่ ่ • ความมังคังชวยสร ้างความอุดมสุขได ้ แต่ชมชนต ้องรู ้เท่าทัน “ทุน” ุ • กรอบและขอบเขตของ “ทางเลือก” เปลียนแปลงอยูตลอดเวลา ่ ่ ั ตามความเปลียนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สงคม วัฒนธรรม ่ ่ เทคโนโลยี และองค์ความรู ้ เชน เมือต ้นทุนของโลกร ้อนสูงขึน ่ ้ โมเดลการผลิตพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน ก็กลายเป็ น ทางเลือกทีน่าสนใจขึนมาได ้ ่ ้ ื่ ึ • นักวิชาการ นักปฏิบต ิ และสอไทยเน ้นศกษาแต่ “กรณี ั ่ ความสาเร็จ” และ “ความเก่ง” ของปั จเจกบุคคล (เชน ปราชญ์ ั ชาวบ ้าน) มากเกินไป จนสงเคราะห์กระบวนการ และระบบทีจะเอา ่ ไป “ผลิตซ้า” ยากมาก ั ่ ั • โลกาภิวตน์เปิ ดทางให ้กับ “ทางเลือก” ทีอาศยการร่วมมือระหว่าง ชุมชนกับ “คนนอก” มากกว่าเดิม 27
  • 28. ระบบจ่ายตรง (Direct Payment) (ขอขอบคุณข ้อมูลจาก คุณเพชร มโนปวิตร รอง ั ผู ้อานวยการ สมาคมอนุรักษ์ สตว์ป่า (WCS) ประเทศ ี ไทย ผู ้เขียนคอลัมน์ “โลกสเขียว” ในโอเพ่นออนไลน์ : http://www.onopen.com/?cat=81) 28
  • 29. แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ิ่ • สมัยก่อน เป้ าหมายหลักด ้านการอนุรักษ์ สงแวดล ้อมคือ “การ จัดตังพืนทีอนุรักษ์ ” แต่ในความเป็ นจริงพบว่า พืนทีอนุรักษ์ หลาย ้ ้ ่ ้ ่ แห่งมักอยูแค่บนกระดาษ (“Paper Park”) เท่านัน ่ ้ • แนวทางการอนุรักษ์ จงแตกออกเป็ น 2 แนวทาง ได ้แก่ ึ ิ – แนวทางการเสริมสร ้างประสทธิภาพในการจัดการพืนทีอนุรักษ์ของภาครัฐ ้ ่ ้ ั เน ้นการบังคับใชกฎหมาย สร ้างศกยภาพด ้านงานวิจัยและพัฒนาบุคลากร ในพืนทีอนุรักษ์ ปั จจุบน “ล ้าสมัย” แล ้ว เพราะความสาเร็จขึนอยูกบ ้ ่ ั ้ ่ ั คุณภาพของเจ ้าหน ้าทีเป็ นหลัก และชุมชนขาดแรงจูงใจทีจะมีสวนร่วม ่ ่ ่ – แนวทางการจัดการ “คน” ทีอยูรอบ ๆ พืนทีอนุรักษ์ เน ้นการทางานร่วมกับ ่ ่ ้ ่ ่ ี ิ ชุมชนท ้องถิน เสริมสร ้างการมีสวนร่วมและพัฒนาชวตความเป็ นอยู่ เชอว่า ่ ่ื เมือคนอยูดกนดีและมีจตสานึกในการอนุรักษ์ทดแล ้ว จะไม่เข ้าไปทาลาย ่ ่ ี ิ ิ ี่ ี ธรรมชาติอก แนวทางนีได ้รับการตอบรับอย่างกว ้างขวางจากทัง World ี ้ ้ ิ่ ั Bank และ UNDP เพราะตอบโจทย์เรืองสงแวดล ้อม สงคม และเศรษฐกิจ ่ ไปพร ้อมกัน เป็ น “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” 29
  • 30. แนวทางการอนุรักษ์แบบจัดการ “คน” • แนวทางจัดการ “คน” เกือบจะกลายเป็ น กระแสหลัก โดยการบูรณาการอนุรักษ์เข ้า กับการพัฒนา (ICDP- Integrated Conservation and Development Project) และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดย ชุมชน ท ้องถิน (CBNRM- Community-based ่ Natural Resource Management) เป็ นวิธให ้ชุมชนทีพงพาการ ี ่ ึ่ ใชทรัพยากรอยูแล ้ว มาเป็ นผู ้ดูแลอนุรักษ์ ใช ้ และจัดการ ้ ่ ้ ึ่ ทรัพยากรด ้วยตัวเอง โดยใชมาตรการต่าง ๆ ซงมีหวใจสาคัญอยู่ ั ทีการสร ้างจิตสานึกและความพร ้อมของแต่ละชุมชน ่ ่ ่ ้ ้ ทีผานมาประสบปั ญหาในหลายพืนที่ เพราะต ้องใชเวลาบ่มเพาะ ี ี ิ ปรับเปลียนวิถชวต และมีต ้นทุนมหาศาล ่ 30
  • 31. ระบบการจ่ายตรง ึ ิ้ ้ ั • งานศกษาหลายชนตังข ้อสงเกตว่าแนวทางนีล ้มเหลว ้ เพราะไม่อาจต ้านทานกระแสทุนนิยมได ้ สุดท ้าย ชาวบ ้านยังคงทาลายทรัพยากรต่อไป ดังนัน ้ งบประมาณทีทมเทไปก็เหมือน “ตาน้ าพริกละลาย ่ ุ่ แม่น้ า” ้ • องค์กรอนุรักษ์ บางแห่งจึงเริมหันกลับใชระบบจ่ายตรง ่ (Direct Payment) เพือเป็ นการสร ้างแรงจูงใจให ้ชุมชน ่ ่ ่ ท ้องถินเข ้ามามีสวนร่วมกับการอนุรักษ์ แทนทีจะต ้องไป ่ ผ่านกระบวนการสร ้างจิตสานึกหรือเปลียนแปลงวิถชวต ่ ี ี ิ ของชุมชนท ้องถินเสยก่อน ่ ี 31
  • 32. ระบบการจ่ายตรง • การจ่ายตรง เป็ นการสร ้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจให ้ ชุมชนท ้องถินหันมาอนุรักษ์ธรรมชาติแทนการทาลาย มี ่ หลายรูปแบบและก่อให ้เกิดผลโดยตรงกับการอนุรักษ์ แตกต่างกันออกไป ่ ่ – การจ่ายค่าตอบแทนให ้คนในชุมชนเพือสงเสริมการอนุรักษ์ ่ เชน จ ้างพรานให ้มาเป็ นเจ ้าหน ้าทีอนุรักษ์ ่ – การสนับสนุนงบประมาณให ้หน่วยงานทีดแลรักษา ่ ู ทรัพยากรธรรมชาติ ่ – การสร ้างรายได ้ให ้ชุมชนผ่านชองทาง “การท่องเทียวเชง ่ ิ อนุรักษ์ ” ิ ์ – การครอบครองกรรมสทธิในการบริหารจัดการพืนทีนัน ๆ เชน ้ ่ ้ ่ ื้ ้ ่ การระดมทุนซอพืนทีธรรมชาติเพือนามาจัดตังเป็ นเขตอนุรักษ์ ่ ้ ึ เอกชนหรือศูนย์ศกษาธรรมชาติ 32
  • 33. โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา • Northern Plains เป็ นทุงหญ ้าธรรมชาติผสม ่ ้ ่ ุ่ ป่ าเต็งรังและพืนทีชมน้ าอันอุดมสมบูรณ์ ขนาดใหญ่อยูในประเทศกัมพูชา และยังเป็ น ่ ั แหล่งอาศยและวางไข่ของนกหายากใกล ้ ้ สูญพันธุหลายชนิด โดยเฉพาะนกชอนหอยดา ์ ้ (White-Shouldered Ibis) และนกชอนหอยใหญ่ (Giant Ibis) ทีใกล ้สูญพันธ์และมีอยูทนทเดียวเท่านันในโลก ่ ่ ี่ ี่ ี่ ้ • ตังแต่ปลาย 1990 เริมมีการก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ของโครงการ ้ ่ Ecotourism หลายโครงการ หนึงในนันคือโครงการท่องเทียว ่ ้ ่ ิ เชงอนุรักษ์ นกหายาก (Tmatboey Ibis Tourism Site) โดย จัดตังคณะกรรมการหมูบ ้านอันประกอบไปด ้วยตัวแทนทีมาจาก ้ ่ ่ การเลือกตัง 9 คน มีหน ้าทีหลักคือจัดการ “กองทุนพัฒนา ้ ่ 33 หมูบ ้าน” ในนามของชุมชน ่
  • 34. โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา (ต่อ) • ดาเนินโครงการหลัก 2 โครงการ ่ ิ – โครงการท่องเทียวเชงอนุรักษ์ โดยจัดให ้พืนที่ ้ บริเวณนันเป็ นแหล่งท่องเทียว สาหรับนักดูนก ้ ่ โดยไกด์ท ้องถินได ้ผลตอบแทนจากการพา ่ นักท่องเทียวไปดูนก และเก็บค่าบริการจาก ่ ทีพัก (Home stay), อาหารและเครืองดืม ่ ่ ่ – โครงการปกป้ องรังนก (Bird Nest Production Program) เนืองจากการเก็บไข่นกมาขายเป็ นภัย ่ คุกคามทีสาคัญทีสดต่อความอยูรอดของนก ่ ่ ุ ่ ในโครงการนีรัฐจึงให ้เงินตอบแทนแก่ชาวบ ้านที่ ้ พบรังนกและดูแลรักษารังนกไปจนกว่าลูกนกจะ ออกจากรัง รวมทังมีเจ ้าหน ้าที่ 2 คนคอยดูแลตรวจสอบและ 34 ้ ติดตามผลงานเต็มเวลา
  • 35. โครงการอนุรักษ์นกน้ าหายากในกัมพูชา (ต่อ) • เมือถึงปี 2004 รัฐจึงออกกฎให ้พืนทีแห่งนี้ ่ ้ ่ ั เป็ นพืนทีอนุรักษ์ ห ้ามล่าสตว์ ้ ่ ิ • ถ ้าสมาชกคนใดไม่เคารพกฎการรักษารังนก หรือฝ่ าฝื นล่านก แผนการท่องเทียวทังหมด่ ้ จะถูกยกเลิกทันที หรือไม่ผู ้ฝ่ าฝื นจะต ้องถูก ิ ตัดสทธิจากการได ้รับผลประโยชน์ตาง ๆ ่ • หลังจากดาเนินการมาระยะหนึง โครงการนี้ ่ เริมเป็ นทีรู ้จักมากขึนในกลุมนักดูนก ่ ่ ้ ่ นักท่องเทียวเพิมขึน และมีแนวโน ้มว่าจะใช ้ ่ ่ ้ เวลาท่องเทียวนานขึนทุกปี ทาให ้เกิด ่ ้ รายได ้หมุนเวียนในชุมชนมากขึน ้ • เฉพาะปี 2006 – 2007 การท่องเทียวสร ้าง ่ รายได ้ให ้กับชุมชนกว่า $7,000 ซงเมือ ึ่ ่ เทียบกับรายได ้ 50 เซนต์ตอวันของชาว ่ กัมพูชาแล ้ว นีถอเป็ นความแตกต่างอย่างมี ่ ื นัยสาคัญ 35
  • 36. ผลของโครงการ • ประชากรนกมีจานวนเพิมขึน ปั ญหาการ ่ ้ ล่านกลดลงอย่างมีนัยสาคัญ รวมทังยัง ้ สร ้างทัศนคติในเรืองการอยูรวมกับนก ่ ่ ่ ของชาวบ ้านให ้ดีขน เพราะสมาชก ึ้ ิ ั ชุมชนรู ้ว่านกและสตว์ป่าอืนๆ เป็ น ่ แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเทียว ่ • รายได ้จากโครงการนีกว่า 80้ ็ เปอร์เซนต์ตกอยูกบชาวบ ้านโดยตรง ่ ั ่ เป็ นการสงเสริมการสร ้างรายได ้อย่างถูก กฎหมายให ้ชาวบ ้าน แทนทีจะต ้องเสยง ่ ี่ หารายได ้จากการล่าหรือขโมยลูกนกซง ึ่ ผิดกฎหมาย 36
  • 37. ผลของโครงการ (ต่อ) • สร ้างความเข ้าใจเกียวกับการจัดสรร ่ พืนทีเพือการอนุรักษ์ให ้กับชาวบ ้าน ้ ่ ่ ่ ี เป็ นวิธแก ้ปั ญหาทีเสยต ้นทุนน ้อยและ ี ิ มีประสทธิภาพเมือเทียบกับวิธอน ๆ ่ ี ื่ ปั จจุบนคณะกรรมการหมูบ ้านสามารถ ั ่ รับผิดชอบดูแล และจัดการการท่องเทียวได ้ด ้วยตัวเอง ่ เกือบทังหมดแล ้ว ้ ่ื • จุดแข็งของโครงการอยูทการเชอมโยงเป้ าหมายการ ่ ี่ อนุรักษ์ เข ้ากับแนวทางการดาเนินงานโดยตรง และมี ระบบการสารวจติดตามประชากรนกทีชดเจน ่ ั • ใช ้ “เงิน” สร ้างแรงจูงใจในทางทีเอือต่อการอนุรักษ์ ่ ้ อย่างยั่งยืน 37
  • 38. กองทุนบูรณาการบ ้านขาม จ. ั ชยภูม ิ และการเงินชุมชนไทย 38
  • 39. กองทุนบูรณาการบ ้านขาม • ตาบลบ ้านขาม อ.จัตรัส จ.ุ ั ชยภูม ิ มีประชากรประมาณ 1,198 คน 250 หลังคาเรือน ก่อตังร ้านค ้าชุมชนขึนในปี ้ ้ พ.ศ. 2533 นาผลกาไรไป จัดตังกลุมออมทรัพย์เพือการ ้ ่ ่ ผลิตขึนในปี ตอมา ในปี 2546 ้ ่ นาเงินกองทุนทุกกองเข ้ามา รวมกัน • ิ้ ณ สนปี 2552 มีสมาชก 808 ิ ั คน มีเงินออมสจจะจานวน 5,914,207 บาท และเงิน ั สจจะพิเศษ 5,985,578 บาท
  • 40. Best Practices บ้านขาม มิตการเงิน ิ มิตการพ ัฒนา ิ • การบริหารเงิน • การบูรณาการกลมต่างๆ ในช ุมชน ุ่ – การ matching เงินจากภายนอกเข้ามาใช้ – ใช้กองท ุนบูรณาการเปนที่รวมท ุนและมี ็ ในหมูบานตามวัตถุประสงค์ สามารถจับคู่ ่ ้ กรรมการ(มาจากท ุกกลม)กาหนดนโยบาย ุ่ แหล่งเงินกับการใช้เงินได้ดี มองออกว่าจะเอา – ใช้กลมออมทรัพย์เปนหน่วยบริหารกลาง ุ่ ็ ส่วนไหนไปใช้ทาอะไร และสามารถนาเงินจาก แบบ holding company ภายนอกเข้า ผสมได้โดยไม่สบสน ั – ลดหนีสิน้ • แยกชันการให้บริการ ้ • ความสัมพันธ์ระหว่างวัด และช ุมชน – จัดสวัสดิการตามศักยภาพและความ – สามารถนาเรื่องศาสนามาสูปฏิบติ เช่น“บาตร ่ ั จาเปนของสมาชิกและแยกกลุมการ ็ ่ ออมสิน” พระแจกบาตรให้ชาวบ้านเอาไปหยอด ให้บริการ: กูไ้ ด้มาก กูไ้ ด้นอย กูไ้ ม่มี ้ เงิน พร้อมกับอธิบายหลักธรรมะประกอบ ใน ดอกเบี้ย บาตรมีศีล มีหลักธรรมะอธิบาย – พระท่านว่า “คนให้พระมาเยอะแล้ว (ทอดผ้าป่ าให้ • การตลาดร้การพ ัฒนา มิต ิานค้าช ุมชน พระ) พระอยากช่วยคนบ้าง (ทอดผ้าป่ าให้โยม)” – ใช้ระบบคูปอง สร้างแรงจูงใจให้คนมาซื้อของ • กาหนดเปาหมายการพัฒนาที่เหมาะสม ้ สร้างยอดให้รานค้า สามารถทาให้ลกค้าเข้าใจ ้ ู กับพื้นที่และมองคนเปนศูนย์กลาง ็ ได้ว่าเงินปั นผลรายปี ต้องมาจากยอดขายของ ร้าน หากคนไม่ซื้อ ร้านไม่มียอด ลูกค้าก็ไม่ได้ – แก้ปัญหาอาชีพหลักทาให้มี impact สูง ปั นผล และร้านก็เจ๊ง – เข้าใจเปาหมายการเพิ่มรายได้ว่าอาจทาได้โดยการ ้ 28/05/54 ลดรายจ่ายและจัดกิจกรรมที่สอดคล้อง 40
  • 43. ข ้อค ้นพบจากภาคสนาม • องค์กรการเงินชุมชนไทยยังมีน ้อยรายทีมงทากาไร สวนใหญ่ ่ ุ่ ่ เน ้นการรักษาเงิน ให ้ “เงินไม่หาย” มากกว่า • ี่ ข ้อกังวล/ความเสยงหลายประการเป็ นประเด็นด ้านการบริหาร ่ จัดการ เชน หาผู ้สนใจมาเป็ นกรรมการใหม่ยาก กลุมสวนใหญ่ยง่ ่ ั ไม่มความรู ้เพียงพอด ้านบัญช ี สงผลให ้ตัวเลขทางบัญชไม่ ี ่ ี สะท ้อนผลการดาเนินงานทีแท ้จริง กลุมไม่สามารถใชบัญชเป็ น ่ ่ ้ ี ่ ี่ เครืองมือชวยวิเคราะห์ความเสยง และวางแผนทางการเงิน ่ • ี่ สาหรับกองทุนทีเน ้นการจัดสวัสดิการ ความเสยงหลักอยูทความ ่ ่ ี่ เพียงพอของเงินทุนในการจัดสวัสดิการ โดยเฉพาะฌาปนกิจ ่ เชน เนืองจากจ่ายเงินปั นผลมากเกินควร เมือเปรียบเทียบกับ ่ ่ แนวโน ้มทีผู ้สูงอายุจะมีมากขึน ่ ้ • ี่ สาหรับกองทุนทีเน ้นการปล่อยกู ้ ความเสยงหลักอยูทการไม่ ่ ่ ี่ ้ สามารถใชเงินกู ้ในการยกฐานะตัวเอง ทาให ้ภาระหนีไม่ลดลง ้ ้ ี (ไม่สะท ้อนในอัตราหนีเสยตราบใดทียง „ผลัดผ ้าขาวม ้า‟ ได ้) ่ ั
  • 45. ่ ุ สูยค “เศรษฐกิจแห่งคุณค่า”? “ In the 19th century, we were making money with money. In the 21st century, I believe and hope that we will use values to create value.” - Oliver Le Grand , Chairman of the Board of Cortal (a subsidiary of BNP Paribas) “[There is] No Place To Hide for the Irresponsible Business” - Financial Times headline, 29 September 2003 45
  • 46. “You never change things by fighting the existing reality. To change something, build a new model that makes the existing model obsolete.” - R. Buckminster Fuller - “คุณไม่มวันเปลียนอะไรก็ตามด ้วยการต่อกรกับ ี ่ ความจริงทีเป็ นอยู่ ่ ถ ้าคุณอยากเปลียนอะไรก็ตาม จงไปสร ้างโมเดลใหม่ ่ ทีทาให ้โมเดลเดิมล ้าสมัย” ่ - อาร์. บัคมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ - 46