SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
โครงงานคอมพิวเตอร์
จัดทาโดย
นายพัสกร ก้ อนแก้ ว ม.6/2 เลขที่ 12
ความหมายและความสาคาของโครงงาน
•

โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง เป็ นงานวิจยในระดับนักเรี ยน เป็ น
ั
การใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ที่มีอยูในการศึกษา ทดลอง
่
แก้ ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนาผลที่ได้ มาประยุกต์ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่วย
สร้ างสื่อเพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ ้น โครงงาน
คอมพิวเตอร์ จงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นกเรี ยนได้ เรี ยนรู้
ึ
ั
และฝึ กฝนการใช้ ทกษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ พร้ อม
ั
ทังเครื่ องมือต่าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทังการพัฒนาการสร้ างผลงาน
้
้
จริ งอีกด้ วย
• ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็ นความสามารถที่เกิดจากการที่นกเรี ยนเป็ นผู้ทาโครงงานต้ อง
ั
นาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรี ยนให้ เข้ าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้ อย่างชัดเจน ดังนัน ผู้ทา
้
โครงงานต้ องสื่อสารความคิดในการสร้ างสรรค์โครงงานด้ วยการเขียน หรือด้ วยปากเปล่า รวมทังเลือกใช้
้
รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ ผ้ อื่นได้ เข้ าใจ
ู
2.ความสามารถในการคิด ซึงผู้เรี ยนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี ้
่
• การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนต้ องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุวาเกิดเนื่องจากอะไร
่
• การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนต้ องนาความรู้ตาง ๆ ที่เรี ยนมา รวมทังความรู้จากการค้ นหา
่
้
ข้ อมูล เพื่อใช้ ในการแก้ ปัญหาหรื อการสร้ างสรรค์โครงงาน
• การคิดอย่ างสร้ างสรรค์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนนาความรู้มาสร้ างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
• การคิดอย่ างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนได้ มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควร
ทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้ างขึ ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบ
คานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อ
สังคม ทาให้ คนในสังคมเกิดความหมกมุนในกับการใช้ เงินเล่นหวยมากขึ ้น
่
• การคิดอย่ างเป็ นระบบ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนคิดแก้ ปัญหาอย่างเป็ นขันตอน โดยใช้ ขนตอนในการ
้
ั้
พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรี ยนเป็ นผู้วางแผนในการศึกษา ค้ นคว้ า เก็บรวบรวมข้ อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์
คิดค้ นผลงาน รวมทังการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้ นคว้ าด้ วยตนเอง โดยมีผ้ สอนและ
้
ู
ผู้ทรงคุณวุฒิเป็ นผู้ให้ คาปรึกษา
• 3.ความสามารถในการแก้ ปัญหา เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนวิเคราะห์ปัญหา เข้ าใจ
และอธิบายปั ญหาทางด้ านคอมพิวเตอร์ รวมทังประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้
้
เครื่ องมือที่เหมาะสมกับการแก้ ไขปั ญหา
4.ความสามารถในการใช้ ทกษะชีวิต เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนได้ นาความรู้และ
ั
กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ ใน
ชีวิตประจาวันได้ อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้ เกิดการเรี ยนรู้
ด้ วยตนเอง อันนาไปสูการเรี ยนรู้ตลอดชีวิต
่
5.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนสามารถเลือกใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ ปัญหาได้ อย่างถูกต้ องเหมาะสม และมีคณธรรม
ุ
ขอบข่ ายโครงงาน
• 1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้ นกเรี ยนศึกษา ค้ นคว้ า ปฏิบติดวยตนเองโดยอาศัยหลัก
ั
ั ั
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื ้อหาโครงงานนันๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง
้
ๆ ที่ได้ พบเห็นมากแล้ ว
• 2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้ วยตนเอง หรื อเป็ นกลุมโดยใช้ ระยะเวลา
่
สันๆ เป็ นภาคเรี ยน หรื อมากว่าก็ได้ แล้ วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่
้
• 3. นักเรี ยนเป็ นผู้พิจารณาริ เริ่ มสร้ างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้ นคว้ าปฏิบติ
ั
ด้ วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้ อม
• 4. นักเรี ยนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบติงานและการ
ั
แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตามจุดหมาย
ที่กาหนดไว้
• 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและ
สติปัญญา รวมทังการใช้ จ่ายเงินดาเนินงานด้ วย
้
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
• 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี ้
คือ เป็ นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้ าง
โปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บท
่
ทบทวน และคาถามคาตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อ
รายกลุมการสอน โดยใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี ้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็ น
่
อุปกรณ์การสอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ ผ้ เู รี ยนเข้ า
่
มาศึกษาด้ วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี ้สามารถพัฒนาขึ ้นเพื่อใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรี ยนอาจคัดเลือกเนื ้อหาที่เข้ าใจยาก มา
เป็ นหัวข้ อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ
เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชา
กิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้ น
• 2.โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน โครงงานประยุกต์ใช้ งานเป็ น
โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการ สร้ างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริ งใน
ชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่ง
ภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการ
ระบุคนร้ าย เป็ นต้ น โครงงานประเภทนี ้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้ สอยต่างๆ ซึงอาจเป็ นการคิดสร้ างสิ่งของขึ ้น
่
ใหม่ หรื อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้ วให้ มีประสิทธิภาพ
่
สูงขึ ้น โครงงานลักษณะนี ้จะต้ องศึกษาและวิเคราะห์ความต้ องการของ
ผู้ใช้ ก่อน แล้ วนาข้ อมูลที่ได้ มาใช้ ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ
นันๆ ต่อจากนันต้ องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของ
้
้
สิ่งประดิษฐ์ แล้ วปรับ ปรุงแก้ ไขให้ มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี ้
ผู้เรี ยนต้ องใช้ ความรู้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ
เครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้ อง
• 3.โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี ้เป็ นโครงงานพัฒนา
ซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะ
ั
เป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้ นการใช้ สมองเพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ประเภทนี ้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้
น่าสนใจแก่ผ้ เู ล่น พร้ อมทังให้ ความรู้สอดแทรกไปด้ วย ผู้พฒนาควรจะ
้
ั
ได้ ทาการสารวจและรวบรวมข้ อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และ
่ ั่
นามาปรับปรุงหรื อพัฒนาขึ ้นใหม่ เพื่อให้ เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และ
น่าสนใจแก่ผ้ เู ล่นกลุมต่างๆ
่
• 4.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี ้เป็ นโครงงานเพื่อ
พัฒนาเครื่ องมือช่วย สร้ างงานประยุกต์ตางๆ โดยส่วนใหญ่จะอยูในรูป
่
่
ซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์
ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้ น สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์
งานนันสร้ างขึ ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคา ซึงจะเป็ นเครื่ องมือให้ เราใช้ ใน
้
่
การพิมพ์งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์ การวาดรูป
พัฒนาขึ ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้ การวาดรูปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์
ให้ เป็ นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้
สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้ านหน้ า และ
ต้ องการจะดูว่าด้ านบนและด้ านข้ างเป็ นอย่างไร ก็ให้ ซอฟต์แวร์ คานวณ
ค่าและภาพที่ควรจะเป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ ไขภาพแจกันที่
ออกแบบไว้ ได้ อย่างสะดวก
• 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี ้เป็ น
โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
ซึงเป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้ วยสถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุด
่
ระเบิด เป็ นต้ น และเป็ นโครงงานที่ผ้ ทาต้ องศึกษารวบรวมความรู้
ู
หลักการ ข้ อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ ้งในเรื่ องที่ต้องการ
ศึกษาแล้ วเสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของ
่
สูตร สมการ หรื อคาอธิบาย พร้ อมทังารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์
้
ให้ ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรื อสมการนัน ซึง
้ ่
จะทาให้ ผ้ เู รี ยนมีความเข้ าใจได้ ดียิ่งขึ ้น การทาโครงงานประเภทนี ้มี
จุดสาคัญอยู่ที่ผ้ ทาต้ องมีความรู้ในเรื่ องนันๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่าง
ู
้
โครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของของเหลว การ
ทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการมองเห็น
วัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้ น
แหล่งที่มา
• http://namkwanmay.wordpress.com
• http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/elearning/project/unit1/01_2.html
จบการนาเสนอ

More Related Content

What's hot

ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Moomy Momay
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Net'Net Zii
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
Rattana Wongphu-nga
 
กิจกรรมที่ 2-1
กิจกรรมที่ 2-1กิจกรรมที่ 2-1
กิจกรรมที่ 2-1
Nuttida Meepo
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
siratanap
 

What's hot (15)

ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
E2
E2E2
E2
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
 
Com.2
Com.2Com.2
Com.2
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Com2
 Com2 Com2
Com2
 
กิจกรรมที่ 2-1
กิจกรรมที่ 2-1กิจกรรมที่ 2-1
กิจกรรมที่ 2-1
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Com3
Com3Com3
Com3
 
Workk2
Workk2Workk2
Workk2
 
Presentation
PresentationPresentation
Presentation
 
Commmm2
Commmm2Commmm2
Commmm2
 
Presentation
PresentationPresentation
Presentation
 
Presentation
PresentationPresentation
Presentation
 

Viewers also liked (7)

Unit c biotechnology
Unit c biotechnologyUnit c biotechnology
Unit c biotechnology
 
A lesson on statistics
A lesson on statisticsA lesson on statistics
A lesson on statistics
 
Java ppts unit1
Java ppts unit1Java ppts unit1
Java ppts unit1
 
Biologia oso y planta
Biologia oso y plantaBiologia oso y planta
Biologia oso y planta
 
K9
K9K9
K9
 
Management of late preterm babies
Management of late preterm babiesManagement of late preterm babies
Management of late preterm babies
 
Malaria - Pathophysiology, Life-cycle
Malaria - Pathophysiology, Life-cycleMalaria - Pathophysiology, Life-cycle
Malaria - Pathophysiology, Life-cycle
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์

ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
kanatakenta
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
Jid Supharada
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
Chorpaka Sarawat
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
Aratchaporn Julla
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
melody_fai
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
Noot Ting Tong
 
ใบงานที่2 3
ใบงานที่2 3ใบงานที่2 3
ใบงานที่2 3
Arisara Yawichai
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
siratanap
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
minimalistknont
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
Nontt' Panich
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)

K3
K3K3
K3
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
ใบงานท 3
ใบงานท   3ใบงานท   3
ใบงานท 3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
ใบงานที่2 3
ใบงานที่2 3ใบงานที่2 3
ใบงานที่2 3
 
K02
K02K02
K02
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 

โครงงานคอมพิวเตอร์

  • 2. ความหมายและความสาคาของโครงงาน • โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง เป็ นงานวิจยในระดับนักเรี ยน เป็ น ั การใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ที่มีอยูในการศึกษา ทดลอง ่ แก้ ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนาผลที่ได้ มาประยุกต์ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่วย สร้ างสื่อเพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ ้น โครงงาน คอมพิวเตอร์ จงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นกเรี ยนได้ เรี ยนรู้ ึ ั และฝึ กฝนการใช้ ทกษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ พร้ อม ั ทังเครื่ องมือต่าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทังการพัฒนาการสร้ างผลงาน ้ ้ จริ งอีกด้ วย
  • 3. • ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ 1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็ นความสามารถที่เกิดจากการที่นกเรี ยนเป็ นผู้ทาโครงงานต้ อง ั นาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรี ยนให้ เข้ าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้ อย่างชัดเจน ดังนัน ผู้ทา ้ โครงงานต้ องสื่อสารความคิดในการสร้ างสรรค์โครงงานด้ วยการเขียน หรือด้ วยปากเปล่า รวมทังเลือกใช้ ้ รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ ผ้ อื่นได้ เข้ าใจ ู 2.ความสามารถในการคิด ซึงผู้เรี ยนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี ้ ่ • การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนต้ องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุวาเกิดเนื่องจากอะไร ่ • การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนต้ องนาความรู้ตาง ๆ ที่เรี ยนมา รวมทังความรู้จากการค้ นหา ่ ้ ข้ อมูล เพื่อใช้ ในการแก้ ปัญหาหรื อการสร้ างสรรค์โครงงาน • การคิดอย่ างสร้ างสรรค์ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนนาความรู้มาสร้ างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ • การคิดอย่ างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนได้ มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควร ทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้ างขึ ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบ คานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อ สังคม ทาให้ คนในสังคมเกิดความหมกมุนในกับการใช้ เงินเล่นหวยมากขึ ้น ่ • การคิดอย่ างเป็ นระบบ เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนคิดแก้ ปัญหาอย่างเป็ นขันตอน โดยใช้ ขนตอนในการ ้ ั้ พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรี ยนเป็ นผู้วางแผนในการศึกษา ค้ นคว้ า เก็บรวบรวมข้ อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์ คิดค้ นผลงาน รวมทังการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้ นคว้ าด้ วยตนเอง โดยมีผ้ สอนและ ้ ู ผู้ทรงคุณวุฒิเป็ นผู้ให้ คาปรึกษา
  • 4. • 3.ความสามารถในการแก้ ปัญหา เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนวิเคราะห์ปัญหา เข้ าใจ และอธิบายปั ญหาทางด้ านคอมพิวเตอร์ รวมทังประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ ้ เครื่ องมือที่เหมาะสมกับการแก้ ไขปั ญหา 4.ความสามารถในการใช้ ทกษะชีวิต เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนได้ นาความรู้และ ั กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ ใน ชีวิตประจาวันได้ อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้ เกิดการเรี ยนรู้ ด้ วยตนเอง อันนาไปสูการเรี ยนรู้ตลอดชีวิต ่ 5.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผ้ เู รี ยนสามารถเลือกใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ ปัญหาได้ อย่างถูกต้ องเหมาะสม และมีคณธรรม ุ
  • 5. ขอบข่ ายโครงงาน • 1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้ นกเรี ยนศึกษา ค้ นคว้ า ปฏิบติดวยตนเองโดยอาศัยหลัก ั ั ั วิชาการทางทฤษฎีตามเนื ้อหาโครงงานนันๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ้ ๆ ที่ได้ พบเห็นมากแล้ ว • 2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้ วยตนเอง หรื อเป็ นกลุมโดยใช้ ระยะเวลา ่ สันๆ เป็ นภาคเรี ยน หรื อมากว่าก็ได้ แล้ วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่ ้ • 3. นักเรี ยนเป็ นผู้พิจารณาริ เริ่ มสร้ างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้ นคว้ าปฏิบติ ั ด้ วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้ อม • 4. นักเรี ยนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบติงานและการ ั แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตามจุดหมาย ที่กาหนดไว้ • 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและ สติปัญญา รวมทังการใช้ จ่ายเงินดาเนินงานด้ วย ้
  • 6. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ • 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี ้ คือ เป็ นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้ าง โปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บท ่ ทบทวน และคาถามคาตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อ รายกลุมการสอน โดยใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี ้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็ น ่ อุปกรณ์การสอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ ผ้ เู รี ยนเข้ า ่ มาศึกษาด้ วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี ้สามารถพัฒนาขึ ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรี ยนอาจคัดเลือกเนื ้อหาที่เข้ าใจยาก มา เป็ นหัวข้ อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชา กิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้ น
  • 7. • 2.โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน โครงงานประยุกต์ใช้ งานเป็ น โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการ สร้ างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริ งใน ชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่ง ภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการ ระบุคนร้ าย เป็ นต้ น โครงงานประเภทนี ้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้ สอยต่างๆ ซึงอาจเป็ นการคิดสร้ างสิ่งของขึ ้น ่ ใหม่ หรื อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้ วให้ มีประสิทธิภาพ ่ สูงขึ ้น โครงงานลักษณะนี ้จะต้ องศึกษาและวิเคราะห์ความต้ องการของ ผู้ใช้ ก่อน แล้ วนาข้ อมูลที่ได้ มาใช้ ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ นันๆ ต่อจากนันต้ องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของ ้ ้ สิ่งประดิษฐ์ แล้ วปรับ ปรุงแก้ ไขให้ มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี ้ ผู้เรี ยนต้ องใช้ ความรู้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ เครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้ อง
  • 8. • 3.โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี ้เป็ นโครงงานพัฒนา ซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พฒนาควรจะ ั เป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้ นการใช้ สมองเพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน ประเภทนี ้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ น่าสนใจแก่ผ้ เู ล่น พร้ อมทังให้ ความรู้สอดแทรกไปด้ วย ผู้พฒนาควรจะ ้ ั ได้ ทาการสารวจและรวบรวมข้ อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และ ่ ั่ นามาปรับปรุงหรื อพัฒนาขึ ้นใหม่ เพื่อให้ เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และ น่าสนใจแก่ผ้ เู ล่นกลุมต่างๆ ่
  • 9. • 4.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี ้เป็ นโครงงานเพื่อ พัฒนาเครื่ องมือช่วย สร้ างงานประยุกต์ตางๆ โดยส่วนใหญ่จะอยูในรูป ่ ่ ซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้ น สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์ งานนันสร้ างขึ ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคา ซึงจะเป็ นเครื่ องมือให้ เราใช้ ใน ้ ่ การพิมพ์งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์ การวาดรูป พัฒนาขึ ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้ การวาดรูปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ให้ เป็ นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้ สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้ านหน้ า และ ต้ องการจะดูว่าด้ านบนและด้ านข้ างเป็ นอย่างไร ก็ให้ ซอฟต์แวร์ คานวณ ค่าและภาพที่ควรจะเป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ ไขภาพแจกันที่ ออกแบบไว้ ได้ อย่างสะดวก
  • 10. • 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี ้เป็ น โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึงเป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้ วยสถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุด ่ ระเบิด เป็ นต้ น และเป็ นโครงงานที่ผ้ ทาต้ องศึกษารวบรวมความรู้ ู หลักการ ข้ อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ ้งในเรื่ องที่ต้องการ ศึกษาแล้ วเสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของ ่ สูตร สมการ หรื อคาอธิบาย พร้ อมทังารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ ้ ให้ ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรื อสมการนัน ซึง ้ ่ จะทาให้ ผ้ เู รี ยนมีความเข้ าใจได้ ดียิ่งขึ ้น การทาโครงงานประเภทนี ้มี จุดสาคัญอยู่ที่ผ้ ทาต้ องมีความรู้ในเรื่ องนันๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่าง ู ้ โครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของของเหลว การ ทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการมองเห็น วัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้ น