SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์          เป็ นงานวิจัยในระดับนักเรี ยน เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่น ที่ มีอยู่
ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ าง ๆ เพื่อนาผลที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่ วยสร้ างสื่ อ
เพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทาง
                                                   ้
วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นักเรี ยนได้ เรี ยนรู้ และฝึ กฝนการใช้ ทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และ
ซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้ างผลงานจริ งอีกด้ วย


ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์

          โครงงานคอมพิวเตอร์          เป็ นงานวิจัยในระดับนักเรี ยน เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่น
ที่ มีอยู่ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ าง ๆ เพื่อนาผลที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่ วย
สร้ างสื่ อเพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทาง
                                                              ้
วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นักเรี ยนได้ เรี ยนรู้ และฝึ กฝนการใช้ ทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และ
ซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้ างผลงานจริ งอีกด้ วย

     โครงงานคอมพิวเตอร์          เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นกเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตน
                                                          ั
สนใจ ซึ่ งอาจเป็ นปัญหาที่ตองใช้ความรู ้ ทางคอมพิวเตอร์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา
                           ้
โครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ งนักเรี ยนจะต้องคิด
ออกแบบสร้างขึ้น หรื อดัดแปลงเพื่อใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครง
                ่
คอมพิวเตอร์จะอยูภายใต้การดูแลและให้คาปรึ กษาของครู ในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรื อต่างสาขาวิชา
รวมทั้งผูทรงคุณวุฒิดานต่าง ๆ ด้วย
         ้          ้
รูปภาพ http://board.palungjit.com                รู ปภาพ http://www.thaigoodview.com/node/34514?page=0%2C2


1.   การคัดเลือกหั วข้ อโครงงานที่ สนใจทา

         โดยทั่วไปเรื่ องที่ จะนามาพัฒนาเป็ นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้ มาจากปั ญหา คาถาม หรื อ
ความสนใจในเรื่ องต่ าง ๆ จากการสั งเกตสิ่ งต่ าง ๆ รอบตัว นักเรี ยนสามารถจะศึกษาการได้ มาของ
เรื่ องที่ จะทาโครงงาน การอ่ านค้ นคว้ า การไปเยี่ยมชมสถานที่ ต่าง ๆ การฟั งบรรยาย รายการวิทยุ
โทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรมการเรี ยนการสอน งานอดิเรก การเข้ าชมงานนิทรรศการหรื องาน
ประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสิ นใจเลือกหั วข้ อที่ จะนามาพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ ประกอบสาคัญดังนี ้

                  -   จะต้ องมีความรู้ และทักษะพืนฐานอย่ างเพียงพอในหั วข้ อเรื่ องที่ จะศึกษา
                                                 ้
                  -   สามารถจัดหาเครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์ แวร์ ที่เกี่ยวข้ องได้
                  -   มีแหล่ งความรู้ เพียงพอที่ จะค้ นคว้ าหรื อขอคาปรึ กษา
                  -   มีเวลาเพียงพอ
                  -   มีงบประมาณเพียงพอ
                  -   มีความปลอดภัย

         2.   ศึกษาค้ นคว้ าจากเอกสารและแหล่ งข้ อมูล
         รวมถึงการขอคาปรึ กษาจากผู้ทรงคุณวุฒิช่วยจะช่ วยให้ นักเรี ยนได้ แนวคิ ดที่ ใช้ ในการกาหนด
ของเขตของเรื่ องที่ จะศึกษาได้ เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึน รวมทั้งความรู้ เพิ่มเติมในเรื่ งที่ จะศึกษาจน
                                                   ้
สามารถใช้ ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้ อย่ างเหมาะสมใน                               การศึกษาค้ นคว้ า
ดังกล่ าว นักเรี ยนจะต้ องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ ด้วย
จะต้ องพิจารณาดังนี ้ มูลเหตุจูงใจและเป้ าหมายในการทา วัสดุอุปกรณ์ ความต้ องการของ
ผู้ใช้ งานและคุณลักษณะของผลงาน (           Requirement and Specification)                   วิธีการประเมินผล
วิธีการพัฒนา ข้ อสรุ ปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิ ดสร้ างสรรค์ แนวทางในการปรั บปรุ ง
หรื อขยายการทดลองจากงานเดิม

         3.   การจัดทาเค้ าโครงของโครงงานที่ จะทา          จาเป็ นต้ องกาหนดกรอบแนวคิ ดและวงแผนการ
พัฒนาล่ วงหน้ าเพื่อคาดการณ์ ความเป็ นไปได้ ของโครงงาน ขั้นตอนที่ สาคัญคื อ ศึกษาค้ นคว้ าเอกสาร
วิเคราะห์ ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้ าโครงของโครงงานต่ ออาจารย์ ที่ปรึ กษา เพื่อขอ
คาแนะนาและปรั บปรุ งแก้ ไข

         4.   การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้ าโครงได้ รับความเห็นชอบจากอาจารย์ ที่ปรึ กษาแล้ ว ขั้นตอน
ต่ อไปจะเป็ นการพัฒนาตามขั้นตอนที่ ได้ วางแผนไว้ ดังนี ้ เตรี ยมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงาน
และแกไข อภิปรายผลและข้ อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต

         5.   การเขียนรายงาน เป็ นสื่ อความหมายเพื่อให้ ผ้ ูอื่นได้ เข้ าใจแนวความคิ ด วิธีดาเนินการศึกษา
ค้ นคว้ า ข้ อมูลที่ ได้ ตลอดจนข้ อสรุ ปและข้ อเสนอแนะต่ าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้
ภาษาที่ อ่านเข้ าใจได้ ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ ครอบคลุมหั วข้ อต่ าง ๆ

         6.   การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน                     เป็ นการนาเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผล
ของความคิ ด ความพยายามในการทางานที่ ผ้ ูทาโครงงานได้ ท่ ุมเท และเป็ นวิธีที่ให้ ผ้ ูอื่นได้ รับรู้ และ
เข้ าใจในโครงงานนั้น ในการเสนออาจทาได้ หลายรู ปแบบ เช่ น ติดโปสเตอร์ การรายงานตัวในที่
ประชุม การแสดงผลงานด้ วยสื่ อต่ าง การจัดนิทรรศการ การอธิ บายด้ วยคาพูดอ



วันที่สืบค้น 24/07/55 จาก         http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html
ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์


เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีผลกระทบต่ อความเจริ ญก้ าวหน้ าของสังคม ปั จจุบันเทคโนโลยีด้านนี ้
มีการ เปลี่ยนแปลงอย่ างรวดเร็ ว จึงเป็ นเรื่ องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้ าวหน้ าอยู่
ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้ องศึกษาหลักการและเนือหา
                                                                           ้
พืนฐานเป็ นสาคัญ การศึกษาด้ านวิทยาการคอมพิวเตอร์
  ้                                                                      เป็ นสิ่ งจาเป็ นเสมือนกับการศึกษา
วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ ได้ เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้ านต่ างๆ มากมาย ได้ แก่

1.   สั งคมโดยส่ วนใหญ่ เปลี่ยนจากสั งคมอุตสาหกรรมเป็ นสั งคมสารสนเทศ

2.   การตัดสิ นใจในเรื่ องต่ างๆ มักขึนอยู่กับข้ อมูลซึ่ งได้ จากระบบคอมพิวเตอร์
                                      ้

3.   คอมพิวเตอร์ กลายเป็ นเครื่ องมือที่ สาคัญแทนเครื่ องมืออื่นๆ ในอดีต เช่ น เครื่ องพิมพ์ ดีด เครื่ องคิ ด
เลข เป็ นต้ น

4.   คอมพิวเตอร์ ถกใช้ ในการออกแบบสถานการณ์ หรื อปั ญหาที่ ซับซ้ อนต่ างๆ
                  ู

5.   คอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ หลักที่ ใช้ ในงานติดต่ อสื่ อสารของโลกปั จจุบัน


การศึกษาด้ านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีขึน เพื่อพัฒนาให้ ผ้ ูเรี ยนมีความรู้ ความเข้ าใจในวิทยาการ
                                      ้
คอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะเป็ น
สิ่ งที่ ทาให้ ผ้ ูเรี ยน สามารถบรรลุเป้ าหมายนีได้ อย่ างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่ สาคัญประการหนึ่งของการ
                                                ้
เรี ยน

การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยน คื อ การที่ ผ้ ูเรี ยนได้ มีโอกาสนาความรู้ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไปใช้
ในการแก้ ปัญหา ประดิษฐ์ คิดค้ น หรื อค้ นคว้ าหาความรู้ ต่างๆ                 ด้ วยตนเอง      ซึ่ งวิธีการที่ มี
ประสิ ทธิ ภาพมากวิธีหนึ่งคื อการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ างๆ
เพื่อนาผลงานที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อเพื่อใช้ ช่วยสร้ างสื่ อเสริ มการเรี ยนการสอนให้
มี ประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ ผ้ ูเรี ยนได้
                      ้
เรี ยนรู้ และฝึ กทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ างๆในการ
แก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้ างผลงาน


โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมหนึ่งที่ ผ้ ูเรี ยนสามารถศึกษาปั ญหาที่ ตนสนใจ ซึ่ งอาจเป็ นปั ญหาที่
ต้ องใช้ ความรู้ ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาผสมผสานกัน ซึ่ งบางโครงงานอาจต้ องใช้ ความรู้ อื่นๆ มาร่ วม



ด้ วย โดยผู้เรี ยนจะต้ องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรื ออุปกรณ์ ที่
เกี่ยวข้ อง ตลอดจนทักษะพืนฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้ องการวัสดุ
                         ้
อุปกรณ์ นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ งผู้เรี ยนจะต้ องพัฒนาขึน หรื อดัดแปลงเพื่อให้ ใช้ งานได้ ตรงกับ
                                                         ้
ความต้ องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะอยู่ภายใต้ การดูแลและให้ คาปรึ กษา
ของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่ างๆ


การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์ จะมีคุณค่ าต่ อการฝึ กฝนให้ ผ้ เู รี ยนมี
ความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ ไปใช้ ในการแก้ ปัญหา ประดิษฐ์
คิดค้ น หรื อค้ นคว้ าหาความรู้ ต่างๆ ด้ วยตนเองดังที่ได้ กล่ าวมาแล้ ว และยังมีคุณค่ าอื่นๆ อีก
ดังต่ อไปนี ้

· เปิ ดโอกาสให้ ผ้ เู รี ยนได้ พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง

· เปิ ดโอกาสให้ ผ้ เู รี ยนได้ ศึกษา ค้ นคว้ า และเรี ยนรู้ ในเรื่ องที่ ผ้ เู รี ยนสนใจได้ ลึกซึ ้งกว่ าการเรี ยน
ในห้ องตามปกติ

· ส่ งเสริ มและพัฒนากระบวนการคิ ด การแก้ ปัญหา การตัดสิ นใจ รวมทั้งการสื่ อสารระหว่ างกัน
· กระตุ้นให้ ผ้ เู รี ยนมีความสนใจในการศึกษาด้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่ จะ
ประกอบอาชี พทางด้ านนี ้

· ส่ งเสริ มให้ ผ้ เู รี ยนได้ ใช้ เวลาให้ เป็ นประโยชน์ ในทางสร้ างสรรค์

· สร้ างความสั มพันธ์ ระหว่ างผู้เรี ยนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่ งเสริ มให้ ชุมชนสนใจ
คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้ องมากขึน
                                           ้

· สร้ างสานึกและความรั บผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้ วยตนเอง



สื บค้ นเมื่อวันที่ 24/7/55 จาก
http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html



คว ามหมายโครงงานคอมพิวเตอร์

   โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นักเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปั ญหาที่ตน
สนใจ โดยนักเรี ยนจะต้ องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรื ออุปกรณ์ ที่
เกี่ยวข้ อง โดยใช้ ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์ แวร์ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และวัสดุ
อุปกรณ์ ตลอดจนทักษะพืนฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่ องที่นักเรี ยนสนใจและคิดจะทา
                     ้
โครงงาน ซึ่ งอาจมีผ้ ศึกษามาก่ อน หรื อเป็ นเรื่ องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้ เคยค้ นคว้ าและพัฒนา
                     ู
แล้ ว



สื บค้ นเมื่อวันที่ 24/7/55 จาก
http://www.thaigoodview.com/node/94346
ใบงานที่3 ขอบข่ ายของโครงงาน
มีองค์ประกอบดังนี ้

1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้ นกเรี ยนศึกษา ค้ นคว้ า ปฏิบตดวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม
                             ั                          ัิ ั
เนื ้อหาโครงงานนันๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ พบเห็นมากแล้ ว
                 ้

2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้ วยตนเอง หรื อเป็ นกลุมโดยใช้ ระยะเวลาสันๆ เป็ นภาคเรี ยน
                                                            ่                 ้
หรื อมากว่าก็ได้ แล้ วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่

3. นักเรี ยนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่มสร้ างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้ นคว้ าปฏิบตด้วยตนเองตามความ
                                                                                    ัิ
ถนัด สนใจ และความพร้ อม

4. นักเรี ยนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบตงานและการแปลผล รายงานผลต่อ
                                                              ัิ
อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้

5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและสติปัญญา รวมทังการใช้
                                                                                 ้
จ่ายเงินดาเนินงานด้ วย



ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
          คอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ องมือที่ใช้ ในงานวิจยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนันโครงงานคอมพิวเตอร์ จงมี
                                                     ั                      ้                    ึ
ความหลากหลายเป็ นอย่างมาก ทังในลักษณะของเนื ้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรื อผลงาที่
                            ้
ได้ ซึงอาจแบ่งเป็ นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational
      ่
Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
(Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้ งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม
(Game Development)
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา(Educational Media)
            เป็ น โครงงานทีใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้ างโปรแกรมบทเรี ยน หรื อ
หน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวนและคาถามคาตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถ
                 ่
เรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุม การสอนโดยใช้ คอมพิวเตอร์ ชวยนี ้ ถือว่าเครื่ องคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์
                            ่                           ่

การสอน ไม่ใช่เป็ นครูผ้ สอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบ Online ให้ นกเรี ยนเข้ ามาศึกษาด้ วยตนเอง
                        ู     ่                                        ั
ก็ได้
        โครงงานประเภทนี ้สามารถพัฒนาขึ ้นเพื่อใช้ ประกอบการ สอนในวิชาต่าง ๆ ไม่วาจะเป็ นสาขา
                                                                                ่
คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรี ยนอาจคัดเลือก
หัวข้ อที่นกเรี ยนทัวไปที่ทาความเข้ าใจยาก มาเป็ นหัวข้ อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรี ยน ตัวอย่าง เช่น
           ั        ่
โปรแกรมสอนวิธีการใช้ งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ




         2. โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ(Tools Development)
         เป็ น โครงงานเพื่อพัฒนาเรื่ องมือมาใช้ ชวยสร้ างงานประยุกต์ตาง ๆ ซึงโดยส่วนใหญ่จะเป็ นในรูป
                                                 ่                   ่      ่
ซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่ องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ ชวยการ
                                                                                            ่
มองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็ นต้ น สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์งานนันสร้ างขึ ้นเป็ นโปรแกรมประมวลผล
                                                                ้
ภาษา ซึงจะเป็ นเครื่ องมือให้ เราใช้ งานในงานพิมพ์ตาง ๆ บนเครื่ องคอมพิวเตอร์ เป็ นไปได้ โดยง่าย ซึงรูปที่
       ่                                           ่                                               ่
ได้ สามารถนาไปใช้ งานต่าง ๆ ได้ มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ ชวยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้ สาหรับช่วย
                                                        ่
ในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D




      3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment)


      เป็ น โครงงานใช้ คอมพิวเตอร์ ในการจาองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็ นโครงงานที่ผ้ ทาต้ องศึกษา
                                                                                    ู
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้ อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ ้งในเรื่ องที่ต้องการศึกษา แล้ วเสนอ
เป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึงอาจอยูในรูปของสมการ สูตร หรื อคาอธิบายก็ได้ พร้ อมทังนาเสนอ
                               ่      ่                                             ้
วิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี ้มีจดสาคัญอยูที่ผ้ ทาต้ องมีความรู้เรื่ องนัน
                                                          ุ        ่ ู                            ้
ๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า
ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็ นต้ น
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน(Application)


      เป็ น โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการสร้ างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริงในชีวิต ประจาวัน เช่น
ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุ
คนร้ าย เป็ นต้ น โครงงานงานประเภทนี ้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้ สอยต่าง ๆ ซึง
                                                                                                       ่
อาจจะสร้ างใหม่หรื อปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยูแล้ วให้ มี ประสิทธิภาพสูงขึ ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี ้
                                                  ่
จะต้ องศึกษาและวิเคราะห์ความต้ องการของผู้ใช้ ก่อนแล้ วนา ข้ อมูลที่ได้ มาใช้ ในการออกแบบ และพัฒนา
สิ่งของนัน ๆ ต่อจากนันต้ องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ แล้ วปรับ ปรุง
         ้           ้
แก้ ไขให้ มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี ้นักเรี ยนต้ องใช้ ความรู้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่ องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้ อง รวมทังอาจใช้ วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ในการ
                                                 ้
พัฒนาด้ วย




      5. โครงงานพัฒนาเกม(Game Development)
      เป็ น โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู้ และ/หรื อ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกม
หมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึงเกมที่พฒนาขึ ้นนี ้น่าจะเน้ นให้ เป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้ นการใช้ สมองเพื่อ
                         ่       ั
ฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี ้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ นาสนใจ
                                                                                      ่
เก่ผ้ เู ล่น พร้ อมทังให้ ความรู้สอดแทรกไปด้ วย ผู้พฒนาควรจะได้ ทาการสารวจและรวบรวมข้ อมูลเกี่ยวกับ
                     ้                              ั
เกมต่าง ๆ ที่มีอยูทวไปและนามาปรับปรุงหรื อพัฒนาขึ ้นใหม่เพื่อให้ ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผ้ ู
                  ่ ั่
เล่นกล่มต่าง ๆ




ที่มา
     http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://4.bp.blogspot.com/-8rOEQ5Ajg-
        w/UAObEXjtbFI/AAAAAAAAAAk/cfpD4JIOQfE/s1600/miracle.jpg&imgrefurl=http://minenat.blogspot.
        com/2012/07/blog-
        post_8881.html&usg=__6jLIOakjxYkIBJldw_N1FosqM50=&h=461&w=642&sz=269&hl=th&start=1&z
        oom=1&tbnid=UK_muv7V-
        22yrM:&tbnh=98&tbnw=137&ei=tksOUIGrJMPLrQfhoIC4Dg&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9
        %2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2587%25E0
        %25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2592
        %25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9
        %2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B7%25E0
        %25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3
        %25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8
        %25B2%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DN%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&um=1&itbs=1
        สืบค้ นวันที่ 24 กรกฎาคม 2555
     http://blog.eduzones.com/jipatar/85915 สืบค้ นวันที่   24 กรกฎาคม 2555
       http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm สืบค้ นวันที่    24 กรกฎาคม 2555
ใบงานที่2 3

More Related Content

What's hot

ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์Net'Net Zii
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4Winwin Nim
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)Noot Ting Tong
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Mind Kyn
 

What's hot (8)

K2
K2K2
K2
 
ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
 
K02
K02K02
K02
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
 
K02
K02K02
K02
 

Viewers also liked

ความเป็นธรรมในสังคม
ความเป็นธรรมในสังคมความเป็นธรรมในสังคม
ความเป็นธรรมในสังคมPayupoom Yodharn
 
เรียงความ
เรียงความเรียงความ
เรียงความKruBowbaro
 
เร ยงความ
เร ยงความเร ยงความ
เร ยงความpapontee
 
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1page
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1pageเสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1page
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1Chinnakorn Pawannay
 
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกัน
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกันเรียงความ การพึ่งพาอาศัยกัน
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกันpapontee
 
ศิลาจารึกหลักที่ ๑
ศิลาจารึกหลักที่ ๑ศิลาจารึกหลักที่ ๑
ศิลาจารึกหลักที่ ๑krunoree.wordpress.com
 
เรียงความ Is1
เรียงความ Is1เรียงความ Is1
เรียงความ Is1panisra
 
งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2F'Fhon Kanokrat
 
ศิลาจารึก
ศิลาจารึก ศิลาจารึก
ศิลาจารึก KruBowbaro
 
พระพุทธศาสนากับป่าไม้
พระพุทธศาสนากับป่าไม้พระพุทธศาสนากับป่าไม้
พระพุทธศาสนากับป่าไม้Kasetsart University
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2teerachon
 
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานRawinnipha Joy
 
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙Nongkran Jarurnphong
 

Viewers also liked (18)

ความเป็นธรรมในสังคม
ความเป็นธรรมในสังคมความเป็นธรรมในสังคม
ความเป็นธรรมในสังคม
 
เรียงความ
เรียงความเรียงความ
เรียงความ
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
เร ยงความ
เร ยงความเร ยงความ
เร ยงความ
 
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1page
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1pageเสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1page
เสริมทักษะพัฒนาการอาณาจักรสุโขทัย+568+55t2his p04 f03-1page
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1
ใครสร้างศิลาจารึกหลักที่ 1
 
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกัน
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกันเรียงความ การพึ่งพาอาศัยกัน
เรียงความ การพึ่งพาอาศัยกัน
 
ศิลาจารึกหลักที่ ๑
ศิลาจารึกหลักที่ ๑ศิลาจารึกหลักที่ ๑
ศิลาจารึกหลักที่ ๑
 
เรียงความ Is1
เรียงความ Is1เรียงความ Is1
เรียงความ Is1
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2
 
ศิลาจารึก
ศิลาจารึก ศิลาจารึก
ศิลาจารึก
 
พระพุทธศาสนากับป่าไม้
พระพุทธศาสนากับป่าไม้พระพุทธศาสนากับป่าไม้
พระพุทธศาสนากับป่าไม้
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2
แบบทดสอบ ภาษาไทย ม.2
 
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
 
กลุ่มที่ ๒
กลุ่มที่ ๒กลุ่มที่ ๒
กลุ่มที่ ๒
 
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙
ชนิดของประโยคแบ่งตามเจตนา ๕ ๙
 

Similar to ใบงานที่2 3

เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)Noot Ting Tong
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานPompao
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานPoom Jotikasthira
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)Noot Ting Tong
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)Noot Ting Tong
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมJid Supharada
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมChorpaka Sarawat
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมChorpaka Sarawat
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมAratchaporn Julla
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์Rattana Wongphu-nga
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4kanatakenta
 

Similar to ใบงานที่2 3 (20)

เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (1)
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
 
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
เธ‡เธฒเธ™เธ„เธญเธก (2)
 
K02
K02K02
K02
 
K02
K02K02
K02
 
K02
K02K02
K02
 
K02
K02K02
K02
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
K2
K2K2
K2
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 

ใบงานที่2 3

  • 1. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นงานวิจัยในระดับนักเรี ยน เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่น ที่ มีอยู่ ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ าง ๆ เพื่อนาผลที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่ วยสร้ างสื่ อ เพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทาง ้ วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นักเรี ยนได้ เรี ยนรู้ และฝึ กฝนการใช้ ทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และ ซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้ างผลงานจริ งอีกด้ วย ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นงานวิจัยในระดับนักเรี ยน เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่น ที่ มีอยู่ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ าง ๆ เพื่อนาผลที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อใช้ เพื่อช่ วย สร้ างสื่ อเพื่อเสริ มการเรี ยนให้ ได้ ดีมีประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทาง ้ วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ นักเรี ยนได้ เรี ยนรู้ และฝึ กฝนการใช้ ทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และ ซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ าง ๆ ในการแก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้ างผลงานจริ งอีกด้ วย โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นกเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตน ั สนใจ ซึ่ งอาจเป็ นปัญหาที่ตองใช้ความรู ้ ทางคอมพิวเตอร์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา ้ โครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ งนักเรี ยนจะต้องคิด ออกแบบสร้างขึ้น หรื อดัดแปลงเพื่อใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครง ่ คอมพิวเตอร์จะอยูภายใต้การดูแลและให้คาปรึ กษาของครู ในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรื อต่างสาขาวิชา รวมทั้งผูทรงคุณวุฒิดานต่าง ๆ ด้วย ้ ้
  • 2. รูปภาพ http://board.palungjit.com รู ปภาพ http://www.thaigoodview.com/node/34514?page=0%2C2 1. การคัดเลือกหั วข้ อโครงงานที่ สนใจทา โดยทั่วไปเรื่ องที่ จะนามาพัฒนาเป็ นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้ มาจากปั ญหา คาถาม หรื อ ความสนใจในเรื่ องต่ าง ๆ จากการสั งเกตสิ่ งต่ าง ๆ รอบตัว นักเรี ยนสามารถจะศึกษาการได้ มาของ เรื่ องที่ จะทาโครงงาน การอ่ านค้ นคว้ า การไปเยี่ยมชมสถานที่ ต่าง ๆ การฟั งบรรยาย รายการวิทยุ โทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรมการเรี ยนการสอน งานอดิเรก การเข้ าชมงานนิทรรศการหรื องาน ประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสิ นใจเลือกหั วข้ อที่ จะนามาพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ ประกอบสาคัญดังนี ้ - จะต้ องมีความรู้ และทักษะพืนฐานอย่ างเพียงพอในหั วข้ อเรื่ องที่ จะศึกษา ้ - สามารถจัดหาเครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์ แวร์ ที่เกี่ยวข้ องได้ - มีแหล่ งความรู้ เพียงพอที่ จะค้ นคว้ าหรื อขอคาปรึ กษา - มีเวลาเพียงพอ - มีงบประมาณเพียงพอ - มีความปลอดภัย 2. ศึกษาค้ นคว้ าจากเอกสารและแหล่ งข้ อมูล รวมถึงการขอคาปรึ กษาจากผู้ทรงคุณวุฒิช่วยจะช่ วยให้ นักเรี ยนได้ แนวคิ ดที่ ใช้ ในการกาหนด ของเขตของเรื่ องที่ จะศึกษาได้ เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึน รวมทั้งความรู้ เพิ่มเติมในเรื่ งที่ จะศึกษาจน ้ สามารถใช้ ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้ อย่ างเหมาะสมใน การศึกษาค้ นคว้ า ดังกล่ าว นักเรี ยนจะต้ องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ ด้วย
  • 3. จะต้ องพิจารณาดังนี ้ มูลเหตุจูงใจและเป้ าหมายในการทา วัสดุอุปกรณ์ ความต้ องการของ ผู้ใช้ งานและคุณลักษณะของผลงาน ( Requirement and Specification) วิธีการประเมินผล วิธีการพัฒนา ข้ อสรุ ปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิ ดสร้ างสรรค์ แนวทางในการปรั บปรุ ง หรื อขยายการทดลองจากงานเดิม 3. การจัดทาเค้ าโครงของโครงงานที่ จะทา จาเป็ นต้ องกาหนดกรอบแนวคิ ดและวงแผนการ พัฒนาล่ วงหน้ าเพื่อคาดการณ์ ความเป็ นไปได้ ของโครงงาน ขั้นตอนที่ สาคัญคื อ ศึกษาค้ นคว้ าเอกสาร วิเคราะห์ ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้ าโครงของโครงงานต่ ออาจารย์ ที่ปรึ กษา เพื่อขอ คาแนะนาและปรั บปรุ งแก้ ไข 4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้ าโครงได้ รับความเห็นชอบจากอาจารย์ ที่ปรึ กษาแล้ ว ขั้นตอน ต่ อไปจะเป็ นการพัฒนาตามขั้นตอนที่ ได้ วางแผนไว้ ดังนี ้ เตรี ยมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงาน และแกไข อภิปรายผลและข้ อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต 5. การเขียนรายงาน เป็ นสื่ อความหมายเพื่อให้ ผ้ ูอื่นได้ เข้ าใจแนวความคิ ด วิธีดาเนินการศึกษา ค้ นคว้ า ข้ อมูลที่ ได้ ตลอดจนข้ อสรุ ปและข้ อเสนอแนะต่ าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้ ภาษาที่ อ่านเข้ าใจได้ ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ ครอบคลุมหั วข้ อต่ าง ๆ 6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน เป็ นการนาเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผล ของความคิ ด ความพยายามในการทางานที่ ผ้ ูทาโครงงานได้ ท่ ุมเท และเป็ นวิธีที่ให้ ผ้ ูอื่นได้ รับรู้ และ เข้ าใจในโครงงานนั้น ในการเสนออาจทาได้ หลายรู ปแบบ เช่ น ติดโปสเตอร์ การรายงานตัวในที่ ประชุม การแสดงผลงานด้ วยสื่ อต่ าง การจัดนิทรรศการ การอธิ บายด้ วยคาพูดอ วันที่สืบค้น 24/07/55 จาก http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html
  • 4. ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีผลกระทบต่ อความเจริ ญก้ าวหน้ าของสังคม ปั จจุบันเทคโนโลยีด้านนี ้ มีการ เปลี่ยนแปลงอย่ างรวดเร็ ว จึงเป็ นเรื่ องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้ าวหน้ าอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้ องศึกษาหลักการและเนือหา ้ พืนฐานเป็ นสาคัญ การศึกษาด้ านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ้ เป็ นสิ่ งจาเป็ นเสมือนกับการศึกษา วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ ได้ เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้ านต่ างๆ มากมาย ได้ แก่ 1. สั งคมโดยส่ วนใหญ่ เปลี่ยนจากสั งคมอุตสาหกรรมเป็ นสั งคมสารสนเทศ 2. การตัดสิ นใจในเรื่ องต่ างๆ มักขึนอยู่กับข้ อมูลซึ่ งได้ จากระบบคอมพิวเตอร์ ้ 3. คอมพิวเตอร์ กลายเป็ นเครื่ องมือที่ สาคัญแทนเครื่ องมืออื่นๆ ในอดีต เช่ น เครื่ องพิมพ์ ดีด เครื่ องคิ ด เลข เป็ นต้ น 4. คอมพิวเตอร์ ถกใช้ ในการออกแบบสถานการณ์ หรื อปั ญหาที่ ซับซ้ อนต่ างๆ ู 5. คอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ หลักที่ ใช้ ในงานติดต่ อสื่ อสารของโลกปั จจุบัน การศึกษาด้ านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีขึน เพื่อพัฒนาให้ ผ้ ูเรี ยนมีความรู้ ความเข้ าใจในวิทยาการ ้ คอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะเป็ น สิ่ งที่ ทาให้ ผ้ ูเรี ยน สามารถบรรลุเป้ าหมายนีได้ อย่ างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่ สาคัญประการหนึ่งของการ ้ เรี ยน การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยน คื อ การที่ ผ้ ูเรี ยนได้ มีโอกาสนาความรู้ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไปใช้ ในการแก้ ปัญหา ประดิษฐ์ คิดค้ น หรื อค้ นคว้ าหาความรู้ ต่างๆ ด้ วยตนเอง ซึ่ งวิธีการที่ มี ประสิ ทธิ ภาพมากวิธีหนึ่งคื อการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 5. โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ ปัญหาต่ างๆ เพื่อนาผลงานที่ ได้ มาประยุกต์ ใช้ งานจริ ง หรื อเพื่อใช้ ช่วยสร้ างสื่ อเสริ มการเรี ยนการสอนให้ มี ประสิ ทธิ ภาพยิ่งขึน โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ ผ้ ูเรี ยนได้ ้ เรี ยนรู้ และฝึ กทักษะการใช้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์ แวร์ พร้ อมทั้งเครื่ องมือต่ างๆในการ แก้ ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้ างผลงาน โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมหนึ่งที่ ผ้ ูเรี ยนสามารถศึกษาปั ญหาที่ ตนสนใจ ซึ่ งอาจเป็ นปั ญหาที่ ต้ องใช้ ความรู้ ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาผสมผสานกัน ซึ่ งบางโครงงานอาจต้ องใช้ ความรู้ อื่นๆ มาร่ วม ด้ วย โดยผู้เรี ยนจะต้ องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรื ออุปกรณ์ ที่ เกี่ยวข้ อง ตลอดจนทักษะพืนฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้ องการวัสดุ ้ อุปกรณ์ นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ งผู้เรี ยนจะต้ องพัฒนาขึน หรื อดัดแปลงเพื่อให้ ใช้ งานได้ ตรงกับ ้ ความต้ องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะอยู่ภายใต้ การดูแลและให้ คาปรึ กษา ของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่ างๆ การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์ จะมีคุณค่ าต่ อการฝึ กฝนให้ ผ้ เู รี ยนมี ความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ ไปใช้ ในการแก้ ปัญหา ประดิษฐ์ คิดค้ น หรื อค้ นคว้ าหาความรู้ ต่างๆ ด้ วยตนเองดังที่ได้ กล่ าวมาแล้ ว และยังมีคุณค่ าอื่นๆ อีก ดังต่ อไปนี ้ · เปิ ดโอกาสให้ ผ้ เู รี ยนได้ พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง · เปิ ดโอกาสให้ ผ้ เู รี ยนได้ ศึกษา ค้ นคว้ า และเรี ยนรู้ ในเรื่ องที่ ผ้ เู รี ยนสนใจได้ ลึกซึ ้งกว่ าการเรี ยน ในห้ องตามปกติ · ส่ งเสริ มและพัฒนากระบวนการคิ ด การแก้ ปัญหา การตัดสิ นใจ รวมทั้งการสื่ อสารระหว่ างกัน
  • 6. · กระตุ้นให้ ผ้ เู รี ยนมีความสนใจในการศึกษาด้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่ จะ ประกอบอาชี พทางด้ านนี ้ · ส่ งเสริ มให้ ผ้ เู รี ยนได้ ใช้ เวลาให้ เป็ นประโยชน์ ในทางสร้ างสรรค์ · สร้ างความสั มพันธ์ ระหว่ างผู้เรี ยนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่ งเสริ มให้ ชุมชนสนใจ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้ องมากขึน ้ · สร้ างสานึกและความรั บผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้ วยตนเอง สื บค้ นเมื่อวันที่ 24/7/55 จาก http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html คว ามหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นักเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปั ญหาที่ตน สนใจ โดยนักเรี ยนจะต้ องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรื ออุปกรณ์ ที่ เกี่ยวข้ อง โดยใช้ ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์ แวร์ เครื่ องคอมพิวเตอร์ และวัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนทักษะพืนฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่ องที่นักเรี ยนสนใจและคิดจะทา ้ โครงงาน ซึ่ งอาจมีผ้ ศึกษามาก่ อน หรื อเป็ นเรื่ องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้ เคยค้ นคว้ าและพัฒนา ู แล้ ว สื บค้ นเมื่อวันที่ 24/7/55 จาก http://www.thaigoodview.com/node/94346
  • 7. ใบงานที่3 ขอบข่ ายของโครงงาน มีองค์ประกอบดังนี ้ 1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้ นกเรี ยนศึกษา ค้ นคว้ า ปฏิบตดวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม ั ัิ ั เนื ้อหาโครงงานนันๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ พบเห็นมากแล้ ว ้ 2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้ วยตนเอง หรื อเป็ นกลุมโดยใช้ ระยะเวลาสันๆ เป็ นภาคเรี ยน ่ ้ หรื อมากว่าก็ได้ แล้ วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่ 3. นักเรี ยนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่มสร้ างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้ นคว้ าปฏิบตด้วยตนเองตามความ ัิ ถนัด สนใจ และความพร้ อม 4. นักเรี ยนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบตงานและการแปลผล รายงานผลต่อ ัิ อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและสติปัญญา รวมทังการใช้ ้ จ่ายเงินดาเนินงานด้ วย ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ องมือที่ใช้ ในงานวิจยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนันโครงงานคอมพิวเตอร์ จงมี ั ้ ึ ความหลากหลายเป็ นอย่างมาก ทังในลักษณะของเนื ้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรื อผลงาที่ ้ ได้ ซึงอาจแบ่งเป็ นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational ่ Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้ งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
  • 8. 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา(Educational Media) เป็ น โครงงานทีใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้ างโปรแกรมบทเรี ยน หรื อ หน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวนและคาถามคาตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถ ่ เรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุม การสอนโดยใช้ คอมพิวเตอร์ ชวยนี ้ ถือว่าเครื่ องคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ ่ ่ การสอน ไม่ใช่เป็ นครูผ้ สอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบ Online ให้ นกเรี ยนเข้ ามาศึกษาด้ วยตนเอง ู ่ ั ก็ได้ โครงงานประเภทนี ้สามารถพัฒนาขึ ้นเพื่อใช้ ประกอบการ สอนในวิชาต่าง ๆ ไม่วาจะเป็ นสาขา ่ คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรี ยนอาจคัดเลือก หัวข้ อที่นกเรี ยนทัวไปที่ทาความเข้ าใจยาก มาเป็ นหัวข้ อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรี ยน ตัวอย่าง เช่น ั ่ โปรแกรมสอนวิธีการใช้ งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ 2. โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ(Tools Development) เป็ น โครงงานเพื่อพัฒนาเรื่ องมือมาใช้ ชวยสร้ างงานประยุกต์ตาง ๆ ซึงโดยส่วนใหญ่จะเป็ นในรูป ่ ่ ่ ซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่ องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ ชวยการ ่ มองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็ นต้ น สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์งานนันสร้ างขึ ้นเป็ นโปรแกรมประมวลผล ้ ภาษา ซึงจะเป็ นเครื่ องมือให้ เราใช้ งานในงานพิมพ์ตาง ๆ บนเครื่ องคอมพิวเตอร์ เป็ นไปได้ โดยง่าย ซึงรูปที่ ่ ่ ่
  • 9. ได้ สามารถนาไปใช้ งานต่าง ๆ ได้ มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ ชวยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้ สาหรับช่วย ่ ในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) เป็ น โครงงานใช้ คอมพิวเตอร์ ในการจาองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็ นโครงงานที่ผ้ ทาต้ องศึกษา ู รวบรวมความรู้ หลักการ ข้ อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ ้งในเรื่ องที่ต้องการศึกษา แล้ วเสนอ เป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึงอาจอยูในรูปของสมการ สูตร หรื อคาอธิบายก็ได้ พร้ อมทังนาเสนอ ่ ่ ้ วิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี ้มีจดสาคัญอยูที่ผ้ ทาต้ องมีความรู้เรื่ องนัน ุ ่ ู ้ ๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็ นต้ น
  • 10. 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน(Application) เป็ น โครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ ในการสร้ างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริงในชีวิต ประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุ คนร้ าย เป็ นต้ น โครงงานงานประเภทนี ้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้ สอยต่าง ๆ ซึง ่ อาจจะสร้ างใหม่หรื อปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยูแล้ วให้ มี ประสิทธิภาพสูงขึ ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี ้ ่ จะต้ องศึกษาและวิเคราะห์ความต้ องการของผู้ใช้ ก่อนแล้ วนา ข้ อมูลที่ได้ มาใช้ ในการออกแบบ และพัฒนา สิ่งของนัน ๆ ต่อจากนันต้ องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ แล้ วปรับ ปรุง ้ ้ แก้ ไขให้ มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี ้นักเรี ยนต้ องใช้ ความรู้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษา โปรแกรม และเครื่ องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้ อง รวมทังอาจใช้ วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ในการ ้ พัฒนาด้ วย 5. โครงงานพัฒนาเกม(Game Development) เป็ น โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู้ และ/หรื อ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกม หมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึงเกมที่พฒนาขึ ้นนี ้น่าจะเน้ นให้ เป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้ นการใช้ สมองเพื่อ ่ ั ฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี ้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้ นาสนใจ ่ เก่ผ้ เู ล่น พร้ อมทังให้ ความรู้สอดแทรกไปด้ วย ผู้พฒนาควรจะได้ ทาการสารวจและรวบรวมข้ อมูลเกี่ยวกับ ้ ั
  • 11. เกมต่าง ๆ ที่มีอยูทวไปและนามาปรับปรุงหรื อพัฒนาขึ ้นใหม่เพื่อให้ ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผ้ ู ่ ั่ เล่นกล่มต่าง ๆ ที่มา  http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://4.bp.blogspot.com/-8rOEQ5Ajg- w/UAObEXjtbFI/AAAAAAAAAAk/cfpD4JIOQfE/s1600/miracle.jpg&imgrefurl=http://minenat.blogspot. com/2012/07/blog- post_8881.html&usg=__6jLIOakjxYkIBJldw_N1FosqM50=&h=461&w=642&sz=269&hl=th&start=1&z oom=1&tbnid=UK_muv7V- 22yrM:&tbnh=98&tbnw=137&ei=tksOUIGrJMPLrQfhoIC4Dg&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9 %2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2587%25E0 %25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2592 %25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9 %2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B7%25E0 %25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3 %25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8 %25B2%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DN%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&um=1&itbs=1 สืบค้ นวันที่ 24 กรกฎาคม 2555  http://blog.eduzones.com/jipatar/85915 สืบค้ นวันที่ 24 กรกฎาคม 2555  http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm สืบค้ นวันที่ 24 กรกฎาคม 2555