More Related Content
Similar to งานนำเสนอ กลุ่มที่6
Similar to งานนำเสนอ กลุ่มที่6 (20)
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
- 2. ไฟฟาสถิต (Statics Electricity)
้
ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือ
้ ้
แท่งแก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่
ั
แท่งแก้ วจะมีอานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรือไฟฟา
้ ้
สถิตที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า
้ ้ ้
- 3. ไฟฟากระแส (Current Electricity)
้
คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้
้
อย่างมากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่ง
้
ออกเป็ น 2 ชนิดคือไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟา
้ ้
กระแสสลับ (Alternation Current)
- 4. ไฟฟากระแสตรง(DirectCurrent)
้
ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทิศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย
้
กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน
้ ้ ้
(Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ เรา
้ ้ ้
เรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟากระแสตรง ้
นันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์
้ ้
เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่งตาม
้ ้
ลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ
1. เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งานจนหมดสภาพแล้ ว
้
เราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
- 5. 2. เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่ ้
นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ
(Charge) เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยม
้
ที่ใช้ กบโทรศัพท์มือถือ
ั
- 6. ไฟฟ้ ากระแสสลับ (Alternation Current)
เป็ นกระแสไฟฟาที่มีการไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัว
้ ั้ ้ ้
ลบ สลับกัน โดยหลักการพื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของ
้
สนามแม่เหล็กตัดกับขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็ก
และหมุนขดลวดนันแล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็
้ ้ ้
สามารถบังคับให้ กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้
้
- 8. เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้ ขดลวดหมุนไป
่
ตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้ ตดฟลักซ์แม่เหล็ก
ิ
แรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยู่ที่ 30 องศา และ 60 องศา
้
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ ากาหนดให้ ทิศดังกล่าว
้ ่
เป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อขดลวดมาอยู่ตาแหน่งที่ (b) คือ 90
้ ่
องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดีแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีค่าสูงสุดเมื่อขดลวดหมุน
่ ้
ไปที่ 120 องศา และ 150 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวด
้ ่
อยูในตาแหน่ง (c ) คือที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีก
่ ้
แต่มีทิศทางกลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาด
และทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น
้
- 9. พลังงานมีหลายชนิด ได้แก่
1.พลังงานศักย์
เป็ นพลังงานที่สะสมไว้ ในสิ่งต่างๆ เนื่องจากที่ตงของสิงนัน หรื อเพราะสิงนันถูก
ั้ ่ ้ ่ ้
กระทาโดยสิงอื่น เช่น
่
-พลังงานในสิ่งของหนักที่ถกยกขึ ้น
ู
-พลังงานใน(ลวดสปริง) ลานนาฬิกา
-พลังงานในคันธนูที่ถกโก่ง
ู
-พลังงานในอ่างน ้าที่อยูสง
่ ู
- 10. 2. พลังงานจลน์
เป็ นพลังงานของการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น
•พลังงานในขบวนรถไฟด่วน
•พลังงานในลม
•พลังงานในคลื่น
พลังงานอันเกิดจากการเคลื่อนที่ เรี ยกว่า พลังงานจลน์ (kinetic energy) และ
่
พลังงานที่มีสะสมอยูในตัว เนื่องมาจากภาวะของวัตถุ เรี ยกว่า พลังงานศักย์ (potenxtial energy)
ตัวอย่างของพลังงานจลน์และพลังงานศักย์น้ นเราพอจะเห็นได้ง่ายๆ จากสิ่ งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราอยูทุกวัน
ั ่
เช่น
รถยนต์กาลังวิงด้วยความเร็วปกติบนถนนในที่ราบ ถ้าต้องการให้หยุดเราต้องใชัหามล้อ ซึ่งหมายถึงออก
่ ้
แรงต้านการเคลื่อนที่ รถยนต์ยงไม่สามารถหยุดได้ทนทีแต่จะเลื่อนต่อไปเป็ นระยะทางหนึ่ง เราต้องทางาน
ั ั
ด้วยแรงต้านทานเพือให้รถหยุด เพราะรถมีพลังงานเนื่องจากกาลังเคลื่อนที่อยู่ นันคือรถมีพลังงานจลน์
่ ่
สาหรับตัวอย่างของพลังงานศักย์แบบหนึ่งที่น่าจะเห็นได้ ก็คือก้อนหินผูกห้อยที่ปลายเชือก ในภาวะที่ 1
่
ก้อนหินแขวนห้อยอยูน่ิงๆ แต่ในภาวะที่ 2 ก้อนหิ นถูกยกขึ้นไปสูงกว่าระดับเดิม
- 11. จัดทาโดย ชั้นมัธยมศึกษา ปี ที่3
ด.ญ.ชริ นรัตน์ นนท์ศรี เลขที่ 21
ด.ญ.ญานนท์ อุนเรื อน
่ เลขที่ 22
ด.ญ.ฐิ ติกานต์ นาวา เลขที่ 23
ด.ญ.ฐิ ติพร บุญถา เลขที่ 24