SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
พลังงานไฟฟ้ า
ไฟฟาสถิต (Statics Electricity)
           ้
ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือ
    ้                    ้
แท่งแก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่
                   ั
แท่งแก้ วจะมีอานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรือไฟฟา
                       ้                                         ้
สถิตที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า
                             ้      ้       ้
ไฟฟากระแส (Current Electricity)
         ้

คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้
                  ้
อย่างมากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่ง
                               ้
ออกเป็ น 2 ชนิดคือไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟา
                     ้                                          ้
กระแสสลับ (Alternation Current)
ไฟฟากระแสตรง(DirectCurrent)
                ้
      ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทิศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย
         ้
กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน
              ้            ้         ้
(Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ เรา
                                                       ้           ้           ้
เรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟากระแสตรง      ้
นันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์
    ้                         ้
             เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่งตาม
                   ้                           ้
ลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ
        1. เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งานจนหมดสภาพแล้ ว
                                                 ้
เราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
2. เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่     ้
นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ
(Charge) เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยม
                          ้
ที่ใช้ กบโทรศัพท์มือถือ
        ั
ไฟฟ้ ากระแสสลับ (Alternation Current)
   เป็ นกระแสไฟฟาที่มีการไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัว
                   ้                                       ั้ ้         ้
ลบ สลับกัน โดยหลักการพื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของ
                                          ้
สนามแม่เหล็กตัดกับขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็ก
และหมุนขดลวดนันแล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็
                 ้                      ้ ้
สามารถบังคับให้ กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้
                          ้
ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการหมุนซึง
                         ้                                            ่
ตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่
                                                                   ้
เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป
เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้ ขดลวดหมุนไป
             ่
ตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้ ตดฟลักซ์แม่เหล็ก
                                                          ิ
แรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยู่ที่ 30 องศา และ 60 องศา
               ้
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ ากาหนดให้ ทิศดังกล่าว
                 ้  ่
เป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อขดลวดมาอยู่ตาแหน่งที่ (b) คือ 90
                               ้ ่
องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดีแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีค่าสูงสุดเมื่อขดลวดหมุน
                      ่                              ้
ไปที่ 120 องศา และ 150 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวด
                                           ้       ่
อยูในตาแหน่ง (c ) คือที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีก
    ่                                                                    ้
แต่มีทิศทางกลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาด
และทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น
                             ้
พลังงานมีหลายชนิด ได้แก่

1.พลังงานศักย์
  เป็ นพลังงานที่สะสมไว้ ในสิ่งต่างๆ เนื่องจากที่ตงของสิงนัน หรื อเพราะสิงนันถูก
                                                  ั้    ่ ้              ่ ้
กระทาโดยสิงอื่น เช่น
             ่
-พลังงานในสิ่งของหนักที่ถกยกขึ ้น
                            ู
-พลังงานใน(ลวดสปริง) ลานนาฬิกา
-พลังงานในคันธนูที่ถกโก่ง
                      ู
-พลังงานในอ่างน ้าที่อยูสง
                        ่ ู
2. พลังงานจลน์
    เป็ นพลังงานของการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น
•พลังงานในขบวนรถไฟด่วน
•พลังงานในลม
•พลังงานในคลื่น
     พลังงานอันเกิดจากการเคลื่อนที่ เรี ยกว่า พลังงานจลน์ (kinetic energy) และ
                         ่
     พลังงานที่มีสะสมอยูในตัว เนื่องมาจากภาวะของวัตถุ เรี ยกว่า พลังงานศักย์ (potenxtial energy)
     ตัวอย่างของพลังงานจลน์และพลังงานศักย์น้ นเราพอจะเห็นได้ง่ายๆ จากสิ่ งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราอยูทุกวัน
                                                 ั                                                 ่
     เช่น
     รถยนต์กาลังวิงด้วยความเร็วปกติบนถนนในที่ราบ ถ้าต้องการให้หยุดเราต้องใชัหามล้อ ซึ่งหมายถึงออก
                  ่                                                                ้
     แรงต้านการเคลื่อนที่ รถยนต์ยงไม่สามารถหยุดได้ทนทีแต่จะเลื่อนต่อไปเป็ นระยะทางหนึ่ง เราต้องทางาน
                                  ั                    ั
     ด้วยแรงต้านทานเพือให้รถหยุด เพราะรถมีพลังงานเนื่องจากกาลังเคลื่อนที่อยู่ นันคือรถมีพลังงานจลน์
                       ่                                                         ่
     สาหรับตัวอย่างของพลังงานศักย์แบบหนึ่งที่น่าจะเห็นได้ ก็คือก้อนหินผูกห้อยที่ปลายเชือก ในภาวะที่ 1
                           ่
     ก้อนหินแขวนห้อยอยูน่ิงๆ แต่ในภาวะที่ 2 ก้อนหิ นถูกยกขึ้นไปสูงกว่าระดับเดิม
จัดทาโดย ชั้นมัธยมศึกษา ปี ที่3
ด.ญ.ชริ นรัตน์   นนท์ศรี     เลขที่ 21
ด.ญ.ญานนท์       อุนเรื อน
                  ่          เลขที่ 22
ด.ญ.ฐิ ติกานต์   นาวา        เลขที่ 23
ด.ญ.ฐิ ติพร      บุญถา       เลขที่ 24

More Related Content

What's hot

พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์nom11
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการเรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการSomporn Laothongsarn
 
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าNang Ka Nangnarak
 
งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11Nang Ka Nangnarak
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าPrasert Boon
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 

What's hot (14)

พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
ไฟฟ้าม3
ไฟฟ้าม3ไฟฟ้าม3
ไฟฟ้าม3
 
Lesson16
Lesson16Lesson16
Lesson16
 
A ccircuit
A ccircuitA ccircuit
A ccircuit
 
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการเรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
 
ไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับ
 
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 

Viewers also liked

Viewers also liked (7)

01 ekman-sap-1
01 ekman-sap-101 ekman-sap-1
01 ekman-sap-1
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
1การวิเคราะห์สถานการณ์
1การวิเคราะห์สถานการณ์1การวิเคราะห์สถานการณ์
1การวิเคราะห์สถานการณ์
 
Cevi
CeviCevi
Cevi
 
Landmines for Entrepreneurs with Olivier Wenker, MD, MBA, DEAA
Landmines for Entrepreneurs with Olivier Wenker, MD, MBA, DEAALandmines for Entrepreneurs with Olivier Wenker, MD, MBA, DEAA
Landmines for Entrepreneurs with Olivier Wenker, MD, MBA, DEAA
 
Proposal ta amir
Proposal ta amirProposal ta amir
Proposal ta amir
 
Crowdfunding Entities Chart
Crowdfunding Entities ChartCrowdfunding Entities Chart
Crowdfunding Entities Chart
 

Similar to งานนำเสนอ กลุ่มที่6

พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpipopsin163
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดpanawan306
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดี
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดีเอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดี
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดีtearchersittikon
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าNapasorn Juiin
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 

Similar to งานนำเสนอ กลุ่มที่6 (20)

พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดี
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดีเอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดี
เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน โดย อ.นาถวดี
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 

งานนำเสนอ กลุ่มที่6

  • 2. ไฟฟาสถิต (Statics Electricity) ้ ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือ ้ ้ แท่งแก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่ ั แท่งแก้ วจะมีอานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรือไฟฟา ้ ้ สถิตที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า ้ ้ ้
  • 3. ไฟฟากระแส (Current Electricity) ้ คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้ ้ อย่างมากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่ง ้ ออกเป็ น 2 ชนิดคือไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟา ้ ้ กระแสสลับ (Alternation Current)
  • 4. ไฟฟากระแสตรง(DirectCurrent) ้ ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทิศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย ้ กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน ้ ้ ้ (Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ เรา ้ ้ ้ เรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟากระแสตรง ้ นันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์ ้ ้ เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่งตาม ้ ้ ลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ 1. เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งานจนหมดสภาพแล้ ว ้ เราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
  • 5. 2. เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่ ้ นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ (Charge) เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยม ้ ที่ใช้ กบโทรศัพท์มือถือ ั
  • 6. ไฟฟ้ ากระแสสลับ (Alternation Current) เป็ นกระแสไฟฟาที่มีการไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัว ้ ั้ ้ ้ ลบ สลับกัน โดยหลักการพื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของ ้ สนามแม่เหล็กตัดกับขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็ก และหมุนขดลวดนันแล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็ ้ ้ ้ สามารถบังคับให้ กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้ ้
  • 7. ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการหมุนซึง ้ ่ ตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่ ้ เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป
  • 8. เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้ ขดลวดหมุนไป ่ ตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้ ตดฟลักซ์แม่เหล็ก ิ แรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยู่ที่ 30 องศา และ 60 องศา ้ แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ ากาหนดให้ ทิศดังกล่าว ้ ่ เป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อขดลวดมาอยู่ตาแหน่งที่ (b) คือ 90 ้ ่ องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดีแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีค่าสูงสุดเมื่อขดลวดหมุน ่ ้ ไปที่ 120 องศา และ 150 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวด ้ ่ อยูในตาแหน่ง (c ) คือที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีก ่ ้ แต่มีทิศทางกลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาด และทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น ้
  • 9. พลังงานมีหลายชนิด ได้แก่ 1.พลังงานศักย์ เป็ นพลังงานที่สะสมไว้ ในสิ่งต่างๆ เนื่องจากที่ตงของสิงนัน หรื อเพราะสิงนันถูก ั้ ่ ้ ่ ้ กระทาโดยสิงอื่น เช่น ่ -พลังงานในสิ่งของหนักที่ถกยกขึ ้น ู -พลังงานใน(ลวดสปริง) ลานนาฬิกา -พลังงานในคันธนูที่ถกโก่ง ู -พลังงานในอ่างน ้าที่อยูสง ่ ู
  • 10. 2. พลังงานจลน์ เป็ นพลังงานของการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น •พลังงานในขบวนรถไฟด่วน •พลังงานในลม •พลังงานในคลื่น พลังงานอันเกิดจากการเคลื่อนที่ เรี ยกว่า พลังงานจลน์ (kinetic energy) และ ่ พลังงานที่มีสะสมอยูในตัว เนื่องมาจากภาวะของวัตถุ เรี ยกว่า พลังงานศักย์ (potenxtial energy) ตัวอย่างของพลังงานจลน์และพลังงานศักย์น้ นเราพอจะเห็นได้ง่ายๆ จากสิ่ งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราอยูทุกวัน ั ่ เช่น รถยนต์กาลังวิงด้วยความเร็วปกติบนถนนในที่ราบ ถ้าต้องการให้หยุดเราต้องใชัหามล้อ ซึ่งหมายถึงออก ่ ้ แรงต้านการเคลื่อนที่ รถยนต์ยงไม่สามารถหยุดได้ทนทีแต่จะเลื่อนต่อไปเป็ นระยะทางหนึ่ง เราต้องทางาน ั ั ด้วยแรงต้านทานเพือให้รถหยุด เพราะรถมีพลังงานเนื่องจากกาลังเคลื่อนที่อยู่ นันคือรถมีพลังงานจลน์ ่ ่ สาหรับตัวอย่างของพลังงานศักย์แบบหนึ่งที่น่าจะเห็นได้ ก็คือก้อนหินผูกห้อยที่ปลายเชือก ในภาวะที่ 1 ่ ก้อนหินแขวนห้อยอยูน่ิงๆ แต่ในภาวะที่ 2 ก้อนหิ นถูกยกขึ้นไปสูงกว่าระดับเดิม
  • 11. จัดทาโดย ชั้นมัธยมศึกษา ปี ที่3 ด.ญ.ชริ นรัตน์ นนท์ศรี เลขที่ 21 ด.ญ.ญานนท์ อุนเรื อน ่ เลขที่ 22 ด.ญ.ฐิ ติกานต์ นาวา เลขที่ 23 ด.ญ.ฐิ ติพร บุญถา เลขที่ 24