More Related Content Similar to การใช้เหตุผล (20) More from Dowroong Wittaya School More from Dowroong Wittaya School (6) การใช้เหตุผล1. I สมองกับการเรียนรู้ II สมองกับการจัดประสบการณ์กาเรียนรู้ III การพัฒนาร่างกาย 3.1 การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่และกิจกรรมการเคลื่อนไหว 3.2 การพัฒนากล้ามเนื้อเล็กและศิลปะ IV การพัฒนาทางสติปัญญา 4.1 การเรียนรู้ภาษาของเด็กปฐมวัย 4.2 การส่งเสริมทักษะการคิด V พัฒนาทางอารมณ์และสังคม VI การจัดตารางกิจกรรมประจำวัน การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ 3. ความรู้เรื่องสมอง - สมองเติบโตมากที่สุดช่วง 0-6 ปี ใช่หรือไม่ - สมองเรียนรู้ด้วยการสร้างใยประสาท ใช่หรือไม่ - สมองแบ่งเป็นซีกซ้าย ( ภาษา คณิต เหตุผล ) กับซีกขวา ( ดนตรี ศิลปะ มิติสัมพันธ์ ) ใช่หรือไม่ 4. ใบกิจกรรมที่ 1.1 ต่อภาพสมอง ชื่อ .............. หน้าที่ .......... ชื่อ .............. หน้าที่ .......... 5. ใบกิจกรรมที่ 1.1 ต่อภาพสมอง ชื่อ ............... หน้าที่ .......... ชื่อ ............... หน้าที่ .......... ชื่อ ............... หน้าที่ .......... ชื่อ ............... หน้าที่ .......... 6. ใบกิจกรรมที่ 1.1 ต่อภาพสมอง ชื่อ .................. หน้าที่ ............. ชื่อ .................. หน้าที่ ............. ชื่อ .................. หน้าที่ ............. ชื่อ .................. หน้าที่ ............. 14. มนุษย์ปัจจุบันมีสมองขนาดเท่าเดิมแต่... 100,000 ปี 10,000 ปี 5,000 ปี 500 ปี 200 ปี 100 ปี 50 ปี 30 ปี 20 ปี 10 ปี ขวานหิน เพาะปลูก - เลี้ยงสัตว์ อารยธรรมโบราณ เครื่องพิมพ์ เครื่องจักรไอน้ำ รถยนต์ เครื่องบิน วิทยุ คอมพิวเตอร์ ยานอวกาศลงดวงจันทร์ กระสวยอวกาศ โคลนนิ่ง - นาโนเทค 16. แนวโน้มในการจัดการศึกษา (Emerging Tread in Education) จิตวิทยาพัฒนาการ (Cognitive Psychology 1950s) ความรู้เรื่องสมอง (Neuroscience 1990s) การศึกษา ปี 2000 s (Educational Media 2000s) 25. แรกเกิด 3 ปี 14 ปี ตัวอย่าง : การจัดระเบียบใยประสาท บริเวณที่เกี่ยวข้องกับภาษา 26. แรกเกิด 6 เดือน 2 ปี ตัวอย่าง : การจัดระเบียบใยประสาท บริเวณที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น 28. วัยทารก 0 - 2 ปี ปฐมวัย 3 - 5 ปี วัยเรียน 6 - 12 ปี วัยรุ่น / เยาวชน 13-20/25 ปี ปัญญาภายนอก ( ความรู้ความสามารถ ) การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ ประสาทรับรู้พื้นฐาน การใช้กล้ามเนื้อเล็ก ภาษา จินตนาการ คณิตศาสตร์ การใช้เหตุผล ดนตรีและศิลปะ ทักษะวิชาการ , วิชาชีพ , สังคม ปัญญาภายใน ( คุณลักษณะ ) ความผูกพันและ ไว้วางใจ การควบคุมอารมณ์ การรู้ถูกผิด ประหยัด มีวินัย ใฝ่รู้ อัตลักษณ์ทางเพศ อัตลักษณ์ทางสังคม 30. การควบคุมอารมณ์ การรู้ถูกผิด ปัญญาภายใน ( คุณลักษณะ ) ดี การใช้กล้ามเนื้อเล็ก ภาษาจินตนาการ ปัญญาภายนอก ( ความรู้ความสามารถ ) เก่ง ปฐมวัย 3-5 ปี 31. ประหยัด มีวินัย ใฝ่รู้ ปัญญาภายใน ( คุณลักษณะ ) ดี คณิตศาสตร์การใช้เหตุผล ดนตรีและศิลปะ ปัญญาภายนอก ( ความรู้ความสามารถ ) เก่ง วัยเรียน 6 - 12 ปี 39. ใบกิจกรรมที่ 1.2 การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย 1. ปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้จากความรู้เรื่องสมองมีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็นปัจจัยด้านการจัดประสบการณ์ การจัดสิ่งแวดล้อม และครู 2. ปัจจัยที่ยับยั้งการเรียนรู้จากความรู้เรื่องสมองมีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็นปัจจัยด้านการจัดประสบการณ์ การจัดสิ่งแวดล้อม และครู 3. การดู TV และเล่นเกมสอดคล้องกับการทำงานของสมองในการเรียนรู้หรือไม่เพราะเหตุใด 4. จากความรู้เรื่องสมอง ท่านคิดว่าโรงเรียนควรปรับปรุงอะไรบ้าง 5. จากความรู้เรื่องสมอง ท่านคิดว่าครอบครัวควรปรับปรุงอะไรบ้าง 42. อาหารเพิ่มพลังสมอง ผัก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ผลไม้ น้ำ น้ำเปล่า ปลา ไข่ โยเกิร์ต ถั่วเหลือง ผักใบเขียว บรอคโคลี ถั่ว แครอท มะเขือเทศ กล้วย ส้ม blueberries strawberries ข้าวกล้อง ถั่ว ลูกเดือย 46. ได้ฟัง + ได้เห็น , สัมผัส ฯลฯ ตัวอย่าง ออกเสียง เข้าใจและพูดคำว่า “ ช้อน ” ได้ 48. ทำไมสมองเรียนรู้ได้โดยแทบไม่มีขีดจำกัด ABC เชื่อมโยงได้ 3 x 2 x 1 = 6 แบบ ABCD เชื่อมโยงได้ 4 x 3 x 2 x 1 = 24 แบบ ( อักษร 10 ตัว ) สมองเรามี เซลประสาท 1 แสนล้านตัว แต่ละตัวสามารถสร้าง การเชื่อมโดยได้ถึง 3 หมื่นจุด จะเกิดการเชื่อมโยงได้กี่แบบ ! A J เชื่อมโยงได้ 10 x 9 x 8 …x 1 = 3 ,628,800 แบบ 50. ความเครียด , ความกดดัน , น่าเบื่อ ผลของอารมณ์ด้านลบ ต่อการเรียนรู้ สมองหลั่งสารสื่อประสาท Nor epinephrine ยับยั้งการเรียนรู้ 51. ความสุข , สนุก , ภูมิใจ , มั่นใจ ผลของอารมณ์ด้านบวก ต่อการเรียนรู้ สมองหลั่งสารต่อประสาท Dopamine,Serotonine ส่งเสริมการเรียนรู้ 58. วัยทารก 0 - 2 ปี ปฐมวัย 3 - 5 ปี วัยเรียน 6 - 12 ปี วัยรุ่น / เยาวชน 13-20/25 ปี ปัญญา ภายนอก ( ความรู้ ความสามารถ ) การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ ประสาทรับรู้พื้นฐาน การใช้กล้ามเนื้อเล็ก ภาษา จินตนาการ คณิตศาสตร์ การใช้ เหตุผล ดนตรีและศิลปะ ทักษะวิชาการ , วิชาชีพ , สังคม ปัญญาภายใน ( คุณลักษณะ ) ความผูกพันและ ไว้วางใจ การควบคุมอารมณ์ การรู้ถูกผิด ประหยัด มีวินัย ใฝ่รู้ อัตลักษณ์ ทางเพศ อัตลักษณ์ ทางสังคม 61. คำ ( ง่าย ยาก ) ลำดับความง่าย ยาก ของการเรียนรู้ภาษา ประโยค ( เดี่ยว ซับซ้อน ) ข้อความ ( สั้น ยาว ) 63. จำนวน ( น้อย มาก ) ลำดับความยาก ง่าาย ของการเรียนรู้คณิตศาสตร์ บวก ( จำนวน เศษส่วน ทศนิยม ) ลบ ( จำนวน เศษส่วน ทศนิยม ) คูณ ( จำนวน เศษส่วน ทศนิยม ) หาร ( จำนวน เศษส่วน ทศนิยม ) 65. ผูกพัน สัมพันธภาพ ไว้วางใจ ลำดับความยาก ง่ายของการเรียนรู้คุณธรรม สะกดอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ ทำใจได้ รู้ถูกผิดในเรื่อง การใช้ความรุนแรง กรรมสิทธิ์ วาจา ( ศีลข้อ 1) ( ศีลข้อ 2) ( ศีลข้อ 4) 66. ใบกิจกรรมที่ 2.1 แสดงบทบาทสมมุติ การจัดการชั้นเรียนที่มีปัญหา กลุ่มละ 1 กรณีโดยแสดงปฏิสัมพันธ์เชิงบวกและเชิงลบ กรณีที่ 1 “ ห้องเรียนอนุบาลปีที่ 2 เด็กไม่มีระเบียบวินัย เล่นแล้วไม่เก็บ ” กรณีที่ 2 “ ห้องเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ครูจัดกิจกรรม มอบหมายงาน ให้เด็กทำและเด็กทำไม่ได้ตามที่ครูคาดหวัง ” กรณีที่ 3 “ ห้องเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 มีเด็กเล่นกันรุนแรง ใช้บล็อกตีศีรษะกัน ผลักกัน ” กรณีที่ 4 “ ห้องเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีเด็กที่พูดหยาบคาย ” 67. S = State สุขภาวะ ทั้งกายและใจ สอนให้ สมาร์ท สมองได้ฉลาด M = Meaning ทำให้การเรียนรู้มีความหมายจาก ประสบการณ์รอบตัว A = Attention รักษาสมาธิ และความจดจ่อในการเรียนรู้ R = Retention ทำให้จำได้ โดยกิจกรรมที่หลากหลาย T = Transfer ส่งเสริมให้นำไปใช้ 68. ความเครียด , ความกดดัน , น่าเบื่อ ผลของอารมณ์ด้านลบ ต่อการเรียนรู้ สมองหลั่งสารต่อประสาท Nor epinephrine ยับยั้งการเรียนรู้ 69. ความสุข , สนุก , ภูมิใจ , มั่นใจ ผลของอารมณ์ด้านบวก ต่อการเรียนรู้ สมองหลั่งสารต่อประสาท Dopamine,Serotonine ส่งเสริมการเรียนรู้ 72. - สายตา ภาษา ท่าทาง - สีหน้า - น้ำเสียง - สัมผัส - ภาษากาย 78. แบบบันทึกที่ 1 ให้ผู้เข้ารับการอบรม บันทึกหลังการฟังวิทยากรบรรยาย ผลที่มีต่อพัฒนาการ ทางสมอง ลักษณะ การ เคลื่อนไหว ประเภทของการ เคลื่อนไหว 79. แบบบันทึกที่ 2 ให้ผู้เข้ารับการอบรม บันทึกหลังการชมการเคลื่อนไหวของครู ที่ออกไปแสดงการเคลื่อนไหวในห้องประชุม ข้อดีที่ส่งผลต่อ พัฒนาการทางสมอง ลักษณะ การเคลื่อนไหว 82. กล้ามเนื้อเล็กและศิลปะ พัฒนาร่างกาย : กล้ามเนื้อเล็ก ( เพิ่มเติมตามหลักการ BBL ) Why พัฒนาจินตนาการโดย เชื่อมโยงประสบการณ์ ออกมาเป็นภาพ / รูปทรง What การใช้กิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ - วาด , ระบายสี - ปั้น - พับกระดาษ - ประดิษฐ์ How กิจรรมศิลปะเน้นที่จินตนาการและ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่การลอกเรียนแบบ หรือทำให้เหมือนจริงหรือความถูกต้องของแสงเงา 85. แนวคิด กิจกรรมศิลปะ สามารถเชื่อมโยงการทำงาน ของสมองหลายด้าน และอวัยวะบางส่วน อิสระในการ คิดสร้างสรรค์ ผลงาน ศิลปะสร้างสรรค์ กล้ามเนื้อเล็ก สายตา การสังเกต จินตนาการ ความถึงพอใจ ทางอารมณ์ 86. แบ่งกลุ่ม 5-6 คน เพื่อสาธิตการสอนศิลปะสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยง การทำงานของสมองหลายด้านและอวัยวะหลายส่วน - กิจกรรมวาดภาพ - กิจกรรมปั้น - กิจกรรมเล่นสี ( เป่า สี ดึงเชือก ฯลฯ ) - กิจกรรมการพิมพ์ภาพ - กิจกรรมพับ ฉีก ตัด ประ - กิจกรรมประดิษฐ์ ร้อย สาน ออกแบบ ใบกิจกรรมที่ 3.2 ( ศิลปะ ) 101. ความสำคัญของภาษา - สื่อสาร - พื้นฐานการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิต - เป็นเครื่องมือพัฒนาสติปัญญา ฯลฯ 103. การพัฒนาภาษา (What) - กระตุ้นประสาทสัมผัสและภาษาตั้งแต่แรกเกิด - ฟังและเห็นหลากหลาย มีความหมาย - การอ่านหลายลักษณะ - โอกาสในการร่วมกิจกรรมพัฒนาภาษา - สร้างความมั่นใจในการแสดงออกทางภาษา ฯลฯ 104. กิจกรรมพัฒนาภาษา (What) - การฟังนิทาน กลอน เรื่องยาว - การท่องคำคล้องจอง - การใช้คำถาม - การเล่นบทบาทสมมุติ - การจัดมุมหนังสือ - การจัดกิจกรรม ศิลปะสร้างสรรค์ - ศึกษานอกสถานที่ - อ่านหนังสือให้ฟัง - ส่งเสริมการอ่านหลายลักษณะ - การฟังเพลง - การเล่านิทาน - จัดกิจกรรมส่งเสริมการพูด ฯลฯ 105. การพัฒนาการด้านสติปัญญา : ภาษา ( เพิ่มเติมหลักการ BBL ) องค์ความรู้ด้านสมอง Why 1. มนุษย์เรียนรู้เรื่องภาษาตั้งแต่ ทารก ในช่วงปฐมวัย 3-5 ปี และ ต่อเนื่องจนถึงก่อนวัยรุ่น 2. สมองส่วนคิดจะมีการจัดระเบียบใยประสาทด้านภาษา ส่วนที่ไม่ใช้จะหายไปส่วนที่ใช้บ่อย ๆ จะหนาตัวขึ้นจึงเป็น โอกาสแห่งการเรียนรู้ 3. เซลล์สมองเด็กมีการเชื่อม ต่อกัน เมื่อเด็กมีปฎิสัมพันธ์กับ สิ่งแวดล้อมและการรับรู้บ่อย ๆ วาดภาพ และเสียง ทำให้เกิดวงจรและแบบแผนการเรียนรู้ สาระ / ประสบการณ์สำคัญ What 1. การจัดกิจกรรมอ่าน เขียน เด็ก ควรได้รับการกระตุ้นทั้งหู ตา และสัมผัสอื่นให้สอดคล้องกับวงจร ของสมอง 2. พัฒนาให้เด็กมั่นใจที่จะแสดง ความคิดเห็นและความรู้สึก 3. การจัดกิจกรรมส่งเสริมภาษาแก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยวิธีการให้เด็ก ได้เข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ผ่าน การฟัง การอ่านให้ฟังและให้อ่าน เรื่องที่น่าสนใจจะช่วยให้เด็ก ประสบผลสำเร็จสูง 1. ให้เด็กทำกิจกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างการฟัง พูด อ่านและเขียน 2. จัดกิจกรรมส่งเสริมประสบการณ์การอ่านหลายลักษณะ เช่น - อ่านให้ฟัง - อ่านด้วยกัน ( ครูกับเด็ก ) - อ่านเป็นกลุ่ม - อ่านเป็นคู่ - อ่านเดี่ยว วิธีการจัดประสบการณ์ How 109. กระตุ้นให้เด็กมีส่วนร่วมในการมองและได้ยินเสียงครูอ่านตัวหนังสือ ช่วยให้เด็กมีความเข้าในทิศทางของการอ่าน 5. การชี้ตัวหนังสือ (Track Print) ส่งเสริมความรู้สึกสนุกสนานในการอ่านและเสริมสร้างประสบการณ์ในการอ่านที่ดี เด็กแต่ละคนจะมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนเพื่อนและครูเป็นผู้สนับสนุนเด็กทุกคนให้เกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จในการอ่าน 4. การอ่านร่วมกัน (Shared Reading) ภาษาเป็นเรื่องของสังคม สื่อสาร ต้องมีการตั้งคำถาม อธิบาย แสดงความคิดเห็นรับฟัง และสื่อความเข้าใจในการกระทำและการพูดของผู้อื่นเป็นการสร้างกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมใจ 3. การอ่านซ้ำ โดยให้เด็กคิดตั้งคำถาม และคิดวิจารณ์ ขณะที่อ่านครูจะหยุดฟังความคิดเห็นและฟังคำถามของเด็กไปทีละหน้าเปิดโอกาสให้เด็กมีเวลาดูภาพประกอบมากขึ้น ฝึกให้เด็กรับรู้โครงเรื่อง มีสมาธิในการคาดเดาเรื่อง 2. การอ่านออกเสียงรวดเดียวให้จบเรื่องไม่มีการถามสอดแทรกระหว่างการอ่านให้ฟัง กระตุ้นความรู้เบื้องต้นของเด็ก การสังเกตความตื่นเต้น สนุกสนาน สร้างนิสัยของการคาดคะเน 1. การแนะนำหนังสือก่อนที่ครูจะเริ่มอ่านให้เด็กฟัง เช่น ดูปกหนังสือ ชื่อผู้แต่ง ผู้วาดภาพประกอบ และการให้เด็กคิด คาดเดาว่าเรื่องเด็กเห็นจากภาพปกน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เหตุผล / แนวคิดในการทำกิจกรรม กิจกรรม 110. เปิดโอกาสให้เด็กได้อ่านได้โดยลำพัง นำประสบการณ์เดิมในการอ่านหนังสือกับผู้ใหญ่หรือเพื่อนกลุ่มย่อยมาใช้ สร้างความรู้สึกประสบความสำเร็จและมั่นใจในความสามารถของตนเอง 10. การอ่านอิสระ (Independent Reading) สร้างความคุ้นเคย ฝึกออกเสียง ฝึกพูด โดยใช้ภาษาในเรื่อง เข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่านมากขึ้น 9. การอ่านซ้ำกับเพื่อนในกลุ่มย่อย ทำให้เด็กรับรู้ความสัมพันธ์ทางภาษาของสิ่งชี้แนะต่าง ๆ เด็กมีโอกาสเรียนรู้ตัวอักษรรูปร่าง และชื่อของตัวอักษร รู้จักสังเกตเชื่อมโยงชื่อตัวอักษรกับรูปร่างลักษณะของตัวอักษร เชื่อมโยงเสียงอ่านของคำในเนื้อเรื่องกับรูปคำที่เด็กเห็นตีพิมพ์อยู่ในเนื้อเรื่อง 8. การพิจารณาลักษณะของตัวหนังสือในข้อความ ดูข้อความ คำเริ่มต้น คำซ้ำ ๆ ตัวหนังสือ ฝึกหาตัวอักษรที่เหมือนกันในหน้านั้น ใช้นิ้วลากตามรอยตัวหนังสืออ่านคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรที่เหมือนกัน สร้างนิสัยฝึกการอ่าน กล้าทดลองอ่านจนจบประโยค พยายามหาข้อมูล คาดเดาคำที่เห็น และทำความเข้าใจรูปแบบของประโยค 7. การเติมคำที่ขาดหายไปโดยการใช้ภาษาเขียน (Written Cloze) ครูใช้กระดาษ post-it ปิดคำทีต้องการเว้นไว้ 1 คำหรือเขียนประโยคลงบนกระดานดำ และลบออกหึ่งคำให้เด็กนำบัตรคำมาเติมประโยคให้สมบูรณ์ ส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคยกับประโยคที่ถูกต้องฝึกให้เด็กสังเกต และคาดคะเนคำที่อ่านโดยอาศัยสิ่งชี้แนะต่าง ๆ 6. การเติมคำศัพท์ลงในช่องว่าง ( Cloze Activity) ฝึกการเติมคำด้วยปากเปล่า (Oral Cloze) เมื่อครูอ่านถึงตอนใดที่คิดว่าเด็กส่วนมากจำได้คราจะหยุดอ่าน และปล่อยให้เด็กเติมคำในช่องว่างด้วยปากเปล่า เหตุผล / แนวคิดในการทำกิจกรรม กิจกรรม 111. ใบกิจกรรมที่ 4.1 แบ่งกลุ่ม 5-6 คน เพื่ออภิปรายประเด็นต่อไปนี้ กลุ่มละ 1 เรื่อง 1. ท่านจะนำความรู้เรื่องแบบแผนการเรียนรู้ภาษาของเด็กปฐมวัยไปใช้จัดประสบ การณ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา ในชั้นอนุบาล ได้อย่างไร 2. จากแนวคิดเรื่องโอกาสในการเรียนรู้ (Window of Opportunity) ซึ่ง เด็กปฐมวัยสามารถเรียนรู้ภาษาได้ตั้งแต่วัยทารก ท่านจะจัดกิจกรรมการเรียนอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดนี้ 3. ท่านคิดว่า เด็กอนุบาลปีที่ 1-2 สามารถอ่าน - เขียนได้หรือไม่ ลักษณะการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการอ่าน – เขียนของเด็กวัยนี้ที่สอดคล้องกับแบบแผนการเรียนรู้ภาษาควรจัดอย่างไร 4. แบบแผนการเรียนรู้ภาษาและกระบวนการคิดมีความสัมพันธ์กันอย่างไร 5. ท่านจะนำความรู้เรื่องสมองกับการเรียนรู้ ไปใช้ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในเด็กปฐมวัยได้อย่างไร 113. ประสบการณ์ตาง ( โดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ) การสังเกต จำแนก และการเปรียบเทียบ ความคิด ความเข้าใจ 116. ใบกิจกรรมที่ 4.2 การส่งเสริมทักษะการคิด แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมกลุ่มละ 3-4 คน ให้แต่ละกลุ่มคิด วิธีจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะการคิด ทักษะการคิด จำนวน มิติสัมพันธ์ เวลา อื่น ๆ .... วิธีจัดกิจกรรม ........................... ........................... ........................... ........................... เหตุผลของการจัดกิจกรรม ............................ ............................ ............................ ............................ ให้เป็นบันทึกระว่างการสาธิตและนำเสนอผลงานด้วย 125. แบบประเมิน (Checklist) ท่านเห็นด้วยหรือไม่ เด็กปฐมวัยเรียนรู้ว่าควรทำ ไม่ควรทำจากคำพูดมากว่าภาษาท่าทางและการกระทำของผู้ใหญ่ 3 เปิ้ลหยิบตัวต่อกลับบ้านแล้วครูจับได้ จึงนำมาเล่นหน้าห้องเพื่อไม่ได้เด็กอื่นเอาอย่าง 2 นิดและหน่อยเรียนอยู่ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 กำลังเล่นต่อบล็อกอย่างสนุกสนาน ต่อมาเกิดแย่งไม้บล็อกทั้งคู่จึงทะเลาะกัน ครูตัดสินโดยการลงโทษทั้งคู่ เพื่อจะได้ไม่ทำอีก 1 ไม่เห็นด้วย เห็นด้วย รายการ ที่ 126. ใบกิจกรรมที่ 5.1 1. แบ่งกลุ่ม 3-4 คน 2. แต่ละกลุ่มวิเคราะห์การจัดกิจกรรมที่มีผลต่ออารมณ์ทางบวก / ทางลบ ตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้ เกมการศึกษา กลางแจ้ง เสริมประสบการณ์ เล่นตามมุม สร้างสรรค์ เคลื่อนไหว การจัดกิจกรรม ที่ทำให้เกิดอารมณ์ในทางลบ การจัดกิจกรรม ที่ส่งเสริมอารมณ์ทางบวก กิจกรรม 130. ใบกิจกรรมที่ 5.2 แบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน แต่ละกลุ่มให้แต่ละคนเลือกนิทานคนละ 1 เรื่อง นำเสนอกลุ่ม กลุ่มเลือกเพียง 1 เรื่องนำเสนอที่ประชุม ( เป็นนิทานที่ส่งเสริมให้เด็กรู้ถูกผิด ควบคุมอารมณ์ ) 134. - สายตา ภาษา ท่าทาง - สีหน้า - น้ำเสียง - สัมผัส - ภาษากาย 138. ตัวอย่างตารางกิจกรรมประจำวัน ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 8.00-9.00 รับเด็ก เคารพธงชาติ 9.00-9.30 กิจกรรมดนตรีเข้าจังหวะ 9.30-10.30 กิจกรรมเสรี 10.30-10.40 พัก ( รับประทานอาหารว่าง ) 10.40-11.20 กิจกรรมกลางแจ้ง 11.20-11.30 พัก ( ล้างมือ ล้างเท้า ) 11.30-11.50 กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 11.50-13.00 พัก ( รับประทานอาหารกลางวัน ) 13.00-15.00 นอนพักผ่อน 15.00-15.10 เก็บที่นอน ล้างหน้า 15.10-15.30 พัก ( รับประทานอาหารว่าง ) 15.30-15.50 เล่านิทาน 15.50-16.00 เตรียมตัวกลับบ้าน 8.00-8.30 รับเด็ก 8.30-8.45 เคารพธงชาติ สวดมนต์ 8.45-9.00 ตรวจสุขภาพ ไปห้องน้ำ 9.00-9.20 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 9.20-10.20 กิจกรรมสร้างสรรค์และการเล่นตามมุม 10.20-10.30 พัก ( ของว่างเช้า ) 10.30-10.45 กิจกรรมในวงกลม 10.45-11.30 กิจกรรมกลางแจ้ง 11.30-12.00 พัก ( รับประทานอาหารกาลางวัน ) 12.00-14.00 นอกพักผ่อน 14.00-14.20 เก็บที่นอนล้างหน้า 14.20-14.30 พักของว่างบ่าย 14.30-14.50 เกมการศึกษา 14.50-15.00 เตรียมตัวกลับบ้าน ตัวอย่างแบบที่ 2 ตัวอย่างแบบที่ 1 139. ใบกิจกรรมที่ 6 แบ่งกลุ่ม 5-6 คน วิเคราะห์กิจกรรมที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ของสมองว่าจะนำมาใช้ได้กับตารางกิจกรรมประจำวันของเด็กปฐมวัยได้อย่างไร กิจกรรมเกมการศึกษา กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมเล่นตามมุม กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมที่สอดคล้อง กับการเรียนรู้ของสมอง การจัดตารางกิจกรรมประจำวัน 140. - การเล่นในมุมบ้าน มุมบล็อก มุมช่างไม้ - มุมหนังสือ มุมธรรมชาติ มุมศิลปะ 3. กิจกรรมเล่นตามมุม - วาดภาพ ระบายสี ปั้น พับ ตัด ปะ ร้อย สาน - ปั้น พับ ฉีก ตัด ปะ พิมพ์ภาพ ออกแบบ - การพัฒนาระบบกายสัมผัส โดยใช้วัสดุที่มี ผิวสัมผัสหลากหลาย 2. กิจกรรมสร้างสรรค์ - การเคลื่อนไหวสร้างสรรค์ - การฝึกจังหวะสร้างสรรค์ - การบริหารสมอง (Brain Gym) - ดนตรี 1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ตัวอย่างกิจกรรมที่สอดคล้องกับ การทำงานของสมอง กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ( หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ) 141. - การฝึกทักษะการคิด - การฝึกทักษะภาษา 6. เกมการศึกษา - การเล่นเครื่องเล่นสนาม - เกมการละเล่นพื้นบ้าน - การเล่นอิสระ 5. กิจกรรมกลางแจ้ง - การอ่านร่วมกัน – การอ่านคำคล้องจอง - การอ่านกลุ่มย่อย – ฝึกทักษะการคิด - การอ่านอิสระ – การฟังนิทาน 4. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ตัวอย่างกิจกรรมที่สอดคล้องกับ การทำงานของสมอง กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ( หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย )