กิจกรรมที่ 1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5-
6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน ช็อกโกแลตคลายเครียด
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายนพกร ลาภเกิด เลขที่ 48 ชั้น ม.6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปี การศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
นาย นพกร ลาภเกิด เลขที่ 48 ชั้น ม.6 ห้อง 8
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ช็อกโกแลตคลายเครียด
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Chocolate clam you dawn
ประเภทโครงงาน ศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย นพกร ลาภเกิด
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันผู้คนทั่วโลกมีความตึงเครียดเนื่องจากสาเหตุต่างๆมากขึ้น
ความเครียดถือเป็นโรคอย่างนึงทางจิต ความเครียดส่งผลเสียต่อผู้คนมากในหลายๆด้าน
ทั้งส่งผลเสียต่อร่างกาย ทาให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยต่อโรคได้ง่ายขึ้น และส่งผลถึงจิตใจ
ทาให้คนที่มีความเครียดต้องการระบายความเครียดเหล่านั้นออกไป
ซึ่งนับเป็นกลไกการทางานของร่างกายมนุษย์ที่ปกป้องตัวเองต่อโรค
ผลเสียจากความเครียดอาจจะทาให้เป็นโรคอื่นๆมากขึ้น เช่นโรคซึมเศร้า ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อชีวิต
อย่างเลวร้ายคือการฆ่าตัวตาย การคลายเครียดมีมากมายหลายวิธีแตกต่างกันตามแต่บุคคล
เราสามารถลดความเครียดได้จากการทางานอดิเรกที่ชอบ หรือ การนอนหลับพักผ่อน และการกิน
ดังนั้นโครงงานนี้ ต้องการศึกษาเกี่ยวกับการกินเพื่อลดความเครียดจากภาระหน้าที่ต่าง
ๆในชีวิต ช็อกโกเเลตคือตัวเลือกที่ดีอย่างนึงในการกิน
เนื่องจากผลการวิจัยจากหลากหลายสถาบันที่น่าเชื่อถือ
ให้การเปิดเผยถึงประโยชน์ขอการกินช็อกโกเเลตในปริมาณที่พอเหมาะที่สามารถลดความเครียดได้

3. วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อศึกษาประวัติและที่มาของช็อคโกแลต
2. เพื่อรู้ถึงประโยชน์และโทษของช็อคโกแลต
3. สามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้
4. เพื่อหาช่องทางในการลดความเครียด
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. ผู้บริโภคช็อคโกแลตทุกวัย
2. ผู้ที่มีปญหาภาวะความเครียด
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ช็อกโกแลตถือเป็นอาหารยอดนิยมที่มีงานวิจัยสนับสนุนจานวนมาก เรื่องการช่วย
"คลายเครียด" ได้ ช็อกโกแลตมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ
1) โกโก้เมส ได้จากการบดเนื้ อ เมล็ดโกโก้ให้ละเอียด
2) เนยโกโก้ ได้จากการนาโกโก้แมสไปเข้าเครื่องปีบอัดไฮโดรลิกความดันสูง ซึ่งก็จะได้เนยโกโก้
ถือเป็นไขมันจากพืชที่มีคุณภาพดีที่สุด และมีราคาแพงที่สุด
ทาหน้าที่ให้ความมันเงาและให้เนื้ อสัมผัสที่ดีเวลากินช็อกโกแลต
3) น้าตาล ซึ่งจะช่วยเสริมรสชาติของช็อกโกแลต
จากรายงานการวิจัยจานวนมากได้ข้อสรุปว่า ช็อกโกแลตปริมาณที่เหมาะสม ระหว่าง 40-100
กรัมจะช่วยลดความเครียด และทาให้มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใสขึ้นได้
เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารที่ช่วยกระตุ้นประสาท หรือ นิวโรทรานซ์มิตเตอร์ เช่น
 โดปามีน ส่งผลให้มีความตื่นตัว รู้สึกกระฉับกระเฉง
 ซีโรโทนิน ทาให้อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลาย
 เอ็นดอร์ฟิน ช่วยให้มีสมาธิ รู้สึกดี หรือที่เรียกว่าฟินนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีสารสาคัญอีกหลายตัวที่ช่วยส่งผลต่อภาวะอารมณ์ เช่น เอมีน กาเฟอีน
สารประกอบกลุ่มอัลคาลอยด์ และ แมกนีเซียม
โดยสารเหล่านี้ จะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนและสารสื่อประสาทในสมองได้
จากการวิจัยในผู้หญิงพบว่า ช็อกโกแลตยังช่วยลดอารมณ์แปรปรวน (mood swing)
ได้เป็นอย่างดีในช่วงก่อนแหละหลังมีประจาเดือน นอกจากเรื่องอารมณ์แล้ว
ช็อกโกแลตมีสารกลุ่มโฟลวานอยด์ ซึ่งช่วยชะลอความแก่และป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การกินช็อกโกแลตที่ดี ให้ได้ประโยชน์ควรทานเป็นดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate)
ซึ่งมีโกโก้แมส 60% ขึ้นไปครับ และควรมีส่วนผสมของน้าตาลที่น้อย อาจจะทาให้รสชาติไม่อร่อย
ออกขมๆ แต่ก็ได้รับประโยชน์มากกว่าครับ

4. ดาร์กช็อกโกแลต คือ ช็อคโกแลต ที่มีสีเข้ม จะดีกว่าช็อกโกแลตผสมนม เพราะมีความเข้มข้น
และมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ที่ช่วยป้องกันเส้นเลือดตีบ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีชื่อว่า
ฟลาโวนอยด์ (Flavanols) ซึ่งหากเป็น ช็อคโกแลต ประเภทอื่นๆ ที่ผสมนม
นมอาจทาให้สารเหล่านี้ ลดลงได้ นักวิจัยในสวิตเซอร์แลนด์รายงานว่าการกินดาร์กช็อกโกแลต 40
ออนซ์ ทุกวันเป็นเวลาสองสัปดาห์ ช่วยทาให้ฮอร์โมนความเครียดลดลง
แต่ก็ไม่ได้หมายถึงกินมากแล้วจะเครียดน้อยลง ยังไงก็ควรกินในปริมาณที่พอดี
ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต
 ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ดี
ทาให้เม็ดเลือดไม่จับตัวกันเป็นก้อนไปอุดเส้นเลือดเนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์สูง
 ช่วยขยายหลอดเลือด ทาให้หัวใจไม่ต้องทางานหนัก
 ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
 ลดความเสี่ยงหลอดเลือดสมองแตก
 ช่วยคลายเครียด ผ่อนคลายอารมณ์ ทาให้อารมณ์ดีขึ้น
 แก้ไอเรื้อรัง
 ในอนาคตอาจทาเป็นยาแก้โรคตับแข็งได้ เพราะมีผลวิจัยออกมายืนยันแล้ว
 ช่วยลดการกินของหวาน เมื่อเรากินดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปก็คือเราได้กินของหวานเข้าไปแล้ว
ซึ่งเราจะได้ไม่ต้องไปกินของหวานชนิดอื่นอีก นอกจากจะช่วยเพิ่มน้าหนักแล้ว
ยังไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไร เป็นสูตรช่วยลดความอยากของหวานได้เป็นอย่างดี
ปริมาณการกินดาร์กช็อกโกแลตที่เหมาะสม
ดาร์กช็อกโกแลตนี้ ถึงแม้จะช่วยลดอ้วนได้ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม
เพราะยังไงในดาร์กช็อกโกแลตก็ยังคงมีน้าตาลและนมผสมอยู่บ้าง ซึ่งปริมาณที่แนะนาต่อวันก็คือ 100
กรัมกาลังดี เพราะถ้ากินมากกว่านี้ อาจจะทาให้อ้วนได้เหมือนกันนะ
สาหรับการเลือกซื้อดาร์กช็อกโกแลตให้ดูเปอร์เซ็นต์ของโกโก้ที่ผสมในช็อกโกแลต ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี
แต่สาหรับคนที่เพิ่งทดลองกินอาจยังไม่คุ้นเคยกับรสชาติที่ขมมากกว่าช็อกโกแลตนม
ก็ให้ลองกัดชิ้นเล็กๆ แล้วปล่อยให้ละลายช้าๆ ในปาก เพื่อให้รสขมซึมออกมาอย่างช้าๆ
แล้วจะเริ่มรู้สึกถึงรสชาติของความหวานที่ธรรมชาติสร้างมา

5. วิธีดาเนินงาน
1.เลือกหัวข้อที่จะทาโครงงาน
2.รวบรวมข้อมูล
3.จัดทาโครงงาน
4.การสร้างเว็บบล็อก
5.นาเสนอโครงงานให้ครูที่ปรึกษา
6.สรุปประเมินผลโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ
บ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงาน นพกร
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล นพกร
3 จัดทาโครงร่างงาน นพกร
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน นพกร
5 ปรับปรุงทดสอบ นพกร
6 การทาเอกสารรายงาน นพกร
7 ประเมินผลงาน นพกร
8 นาเสนอโครงงาน นพกร

6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้ นสุดการทาโครงงาน)
1. ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจมากขึ้น
2. สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้
3. รู้ถึงประโยชน์และโทษของช็อคโกแลต
4. สามารถเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.playbuzz.com/daansg10/10-delicious-facts-about-chocolate