แนวข้อสอบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุดที่ 1 พร้อมเฉลยครับ ข้อที่ถูกจะมีเครื่องหมายดอกจันข้างหลังนะครับ

1. คำำสั่ง จงเลือกคำำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1.อำำนำจหน้ำที่ของกระทรวงมหำดไทยถูกกำำหนดไว้ในพระ
รำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ.
ก.2534* ข. 2535 ค. 2536 ง.2545
2.ให้จัดระเบียบรำชกำรของกระทรวง ดังนี้
ก.สำำนักงำนปลัดกระทรวง ,กรม
ข.สำำนักงำนรัฐมนตรี ,สำำนักงำนปลัดกระทรวง ,กรม*
ค.สำำนักงำนรัฐมนตรี ,สำำนักงำนปลัดกระทรวง ,กรม
,กอง
ง.กรม ,กอง ,ฝ่ำย ,งำน
3.ถ้ำกฎหมำย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำำสั่ง หรือมติคณะ
รัฐมนตรี ในเรื่องใดมิได้กำำหนดเรื่องกำรมอบอำำนำจไว้เป็น
อย่ำงนั้น รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงจะมอบอำำนำจให้ปลัด
กระทรวง อธิบดี หรือ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดปฏิบัติรำชกำรแทน
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงก็ได้ โดย……….
ก.ทำำเป็นระเบียบ
ข.ทำำเป็นคำำสั่งและประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ*
ค.ทำำเป็นประกำศและประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
ง.ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีก่อน แล้วทำำเป็นคำำสั่ง
4.ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำำรงตำำแหน่งอธิบดี หรือมีแต่ไม่อำจปฏิบัติ
รำชกำรได้ให้รองอธิบดี (ถ้ำมี) เป็นผู้..
ก.ปฏิบัติรำชกำรแทน ข.ทำำกำรแทน
ค.รักษำกำรในตำำแหน่ง ง.รักษำ
รำชกำรแทน*
5.กำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค แบ่งออกเป็นดังนี้
ก.จังหวัด ,อำำเภอ* ข.จังหวัด
,อำำเภอ ,กิ่งอำำเภอ
ค.จังหวัด ,อำำเภอ ,ตำำบล ,หมู่บ้ำน
ง.จังหวัด ,อำำเภอ ,กิ่งอำำเภอ ,ตำำบล ,หมู่บ้ำน
6.ข้อใดไม่ใช่รำชกำรบริหำรส่วนท้องถิ่น
ก.อำำเภอ*
ข.กรุงเทพมหำนคร

2. ค.เมืองพัทยำ ง.องค์กำร
บริหำรส่วนจังหวัด
7.ข้อควำมใดต่อไปนี้ ผิด
ก.ให้รวมท้องที่หลำยๆ อำำเภอตั้งขึ้นเป็นจังหวัด
ข.จังหวัดมีฐำนะเป็นนิติบุคคล
ค.กำรเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดต้องตรำเป็นพระรำช
บัญญัติ
ง.ให้ผู้ช่วยผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดร่วมเป็นคณะกรมกำร
จังหวัดด้วย*
8.ข้อควำมใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด
ก.ปลัดอำำเภอทุกคนเท่ำเทียมกับหัวหน้ำส่วนรำชกำรใน
ฐำนะผู้ช่วยเหลือ
นำยอำำเภอ
ข.ปลัดอำำเภออำวุโสมีฐำนะเทียบเท่ำหัวหน้ำส่วน
รำชกำร*
ค.ปลัดอำำเภอแต่ละคนมีฐำนะไม่เท่ำเทียมกัน เพรำะแบ่ง
เป็นฝ่ำยเป็นงำน
ง.ปลัดอำำเภออำวุโสเป็นหัวหน้ำที่ทำำกำรปกครองอำำเภอ
9.ส่วนรำชกำรใดต่อไปนี้ ไม่มีฐำนะเป็นนิติบุคคล
ก.ทบวงซึ่งไม่สังกัดสำำนักนำยกรัฐมนตรีหรือกระทรวง
ข.จังหวัด
ค.อำำเภอ* ง.เทศบำล
ตำำบล
10.เลขำธิกำรสภำควำมมั่นคงแห่งชำติ เป็น……..
ก.ข้ำรำชกำรทหำร ข.ข้ำรำชกำร
กำรเมือง
ค.ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญฯ * ง.ข้ำรำชกำร
กลำโหม
11.กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิของ ก.พ.มีจำำนวน
ก. 10 คน ถึง 14 คน ข. 5 ถึง 7
คน*
ค. 12 ถึง 16 คน ง. 13 ถึง
17 คน

3. 12.เลขำนุกำร อ.ก.พ.จังหวัด คือ
ก.ใครก็ได้ที่ อ.ก.พ.นั้นตั้ง ข.ปลัดจังหวัด
ค.หัวหน้ำสำำนักงำนจังหวัด* ง.จ่ำจังหวัด
13.ถ้ำตำำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญว่ำงลงหรือผู้ดำำรง
ตำำแหน่งไม่สำมำรถปฏิบัติหน้ำที่รำชกำรได้เป็นครั้งครำว และ
เป็นกรณีที่มิได้บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบบริหำร
รำชกำรแผ่นดิน ให้ผู้มีอำำนำจสั่งบรรจุตำมมำตรำ 52 มี
อำำนำจสั่งให้ข้ำรำชกำรพลเรือนที่เห็นสมควร……
ก.ปฏิบัติรำชกำรแทน ข.ทำำกำรแทน
ค.รักษำกำรในตำำแหน่ง* ง.รักษำรำชกำร
แทน
14.สูตร E= (ผลงำน – ทรัพยำกรบริหำรที่ใช้) + ควำมพึง
พอใจ
ก. E หมำยถึง พลังงำน ข. E หมำยถึง
ประสิทธิภำพ
ค. E หมำยถึง ประสิทธิผล* ง. E หมำยถึง
ควำมประหยัด
15.ในกระบวนกำรบริหำรที่เรียกว่ำ POSDCORB นั้น ตัว D
หมำยถึง
ก. Democracy ข.
Delegating
ค. Developing ง.
Directing*
16.ผู้นำำที่ไม่พยำยำมจัดให้มีประเมินผลงำน เป็นผู้นำำแบบ
ก.อัตนิยม* ข.เสรีนิยม
ค.ประชำธิปไตย ง.อนุรักษ์นิยม
17.สิ่งสำำคัญที่สุดที่ทำำให้องค์กำรมีลักษณะเคลื่อนไหว
(Dynamic) คือ
ก.กำรจัดกำร ข.กำรติดต่อ
สื่อสำร
ค.กำรสั่งกำร* ง.กำรส่งข้อมูล
ย้อนกลับ

4. 18.ตำมปกติหน่วยงำนฝ่ำยอำำนวยกำร (Staff) กับฝ่ำยปฏิบัติ
กำร (Line) มักจะมีพฤติกรรม
ก.ร่วมมือประสำนกันทำำงำน ข.ขัดแย้งโทษกัน
และกัน*
ค.ต่ำงคนต่ำงทำำงำน ง.มุ่งปฏิบัติตำม
คำำสั่ง
19.อะไรต่อไปนี้ ที่ไม่ใช่หลักของระบบคุณธรรม (Merit
System)
ก.หลักควำมสำมำรถ ข.หลักควำม
เสมอภำคในโอกำส
ค.หลักควำมมั่นคงในอำชีพ ง.หลักควำมขยัน
ซื่อสัตย์*
20.ผู้บริหำรที่เชื่อในระบบกำรควบคุมและลงโทษเพื่อให้
บุคคลทำำงำนนั้น เป็นหลักของทฤษฎีบริหำรที่เรียบว่ำ
ก.ทฤษฎีพื้นฐำนของกำรจูงใจ ข.ทฤษฎี X*
ค.ทฤษฎี Y ง.ทฤษฎีรวม
อำำนำจไว้ที่ศูนย์กลำง
21.MBO คือกำรบริหำรงำนโดย
ก.ยึดตัวบุคคล ข.ยึดวิธีกำร
ค.ยึดวัตถุประสงค์ * ง.ยึดผลงำน
22.ปัจจัยในกำรบริหำรตำมหลัก 4M’S คือ
ก.คน ควำมรู้ วัตถุสิ่งของ กำรจัดกำร ข.คน เงิน
ที่ดิน กำรประกอบกำร
ค.แรงงำน ทุน ที่ดิน กำรประกอบกำร ง.คน เงิน วัตถุ
สิ่งของ กำรจัดกำร*
23.ผู้รับสนองพระบรมรำชกำรโองกำรโปรดเกล้ำฯ นำยก
รัฐมนตรีตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ.2540
คือ
ก.ประธำนรัฐสภำ* ข.ประธำนสภำ
ผู้แทนรำษฎร
ค.ประธำนวุฒิสภำ ง.ประธำนองค์
มนตรี

5. 24.พรรคกำรเมืองที่จะได้เสียงข้ำงมำกในสภำผู้แทนรำษฎร
จะต้องมีสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรในสังกัดเป็นจำำนวนอย่ำง
ที่สุด กี่เสียง
25.อัตรำค่ำจ้ำงแรงงำนขั้นตำ่ำตำมประกำศของกระทรวงแร
งงำนฯ มีอัตรำตำ่ำสุดและสูงสุดดังนี้
26.ถ้ำค่ำของเงินดอลลำร์สหรัฐอเมริกำลดลง จะทำำให้
ก.รำคำสินค้ำที่สั่งจำกสหรัฐเข้ำมำภำยในไทยแพงขึ้น
ข.สินค้ำไทยในต่ำงประเทศรำคำถูกลงเมื่อเทียบกับสินค้ำ
สหรัฐ
ค.สินค้ำไทยในต่ำงประเทศรำคำแพงขึ้นเมื่อเทียบกับ
สินค้ำสหรัฐ*
ง.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินไทยเพรำะคนละสกุลกัน
27.กรุงเทพมหำนคร จะมีอำยุครบ 300 ปี ในปี พ.ศ.
……….
ก. 2624 ข. 2625*
ค. 2626 ง. 2627
28.ถ้ำมีหนังสือถึงประธำนสภำจังหวัดใช้คำำลงท้ำยว่ำ
ก.ขอแสดงควำมนับถืออย่ำงสูง ข.ขอแสดงควำม
นับถืออย่ำงยิ่ง
ค.ขอแสดงควำมนับถือ* ง.ด้วยควำม
นับถืออย่ำงสูง
29.ถ้ำมีหนังสือถึงพระรำชำคณะ ใช้คำำลงท้ำยว่ำ
ก.นมัสกำรด้วยควำมเคำรพยิ่ง ข.นมัสกำรด้วย
ควำมเคำรพอย่ำงสูง
ค.นมัสกำรด้วยควำมเคำรพ ง.ขอนมัสกำร
ด้วยควำมเคำรพอย่ำงสูง*
30.ระเบียบสำำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยงำนสำรบรรณ
พ.ศ.2526 กำำหนดให้ใครมีหน้ำที่ในกำรฝึกอบรมเกี่ยวกับ
งำนสำรบรรณ
ก.หัวหน้ำส่วนรำชกำรระดับกรม ข.ปลัด
สำำนักนำยกรัฐมนตรี*
ค.ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเฉพำะจังหวัดนั้น ง.นำย
อำำเภอเฉพำะอำำเภอนั้น

6. 31.หนังสือที่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ซึ่งไม่มีความสำาคัญและ
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำาเมื่อดำาเนินการแล้ว ให้เก็บไว้เป็น
เวลาไม่น้อยกว่า
ก. 1 ปี* ข. 2 ปี
ค. 3 ปี ง. 5 ปี
32.หนังสือประทับตรา ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องตามระเบียบงาน
สารบรรณ
ก.ใช้ประทับตราแทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการ
ระดับกองขึ้นไป
ข.ให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกองลงชื่อเต็มกำากับตรา
ค.ใช้ประทับตราแทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการ
ระดับกรมขึ้นไป*
ง.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
33.ข้อใดถูกต้องตามระเบียบงานสารบรรณ
ก.ระเบียบเป็นหนังสือสั่งการ ข.ข้อบังคับเป็น
หนังสือราชการ
ค.ถูกทั้งข้อ ก.และ ข้อ ข.* ง.แถลงการณ์
ไม่ต้องใช้กระดาษครุฑ
34.คำาว่า หนังสืออื่น ในระเบียบงานสารบรรณ หมายถึง
ก.ฟิล์มที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
เพื่อเป็นหลักฐานทางราชการ*
ข.หนังสือของบุคคลภายนอกที่ยื่นต่อเจ้าหน้าที่และลงรับ
ไว้แล้ว
ค.โฉนด ง.ข้อ ข.
และข้อ ค.
35.การยืมหนังสือระหว่างส่วนราชการ ผู้ยืมต้องเป็น
ก.หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป ข.หัวหน้า
ส่วนราชการระดับกองขึ้นไป*
ค.หัวหน้าส่วนราชการระดับฝ่ายขึ้นไป ง.หัวหน้า
ส่วนราชการระดับแผนกขึ้นไป
36.หนังสือที่เกี่ยวกับการเงินที่มิใช่เอกสารสิทธิ หากเก็บไว้
เพียง 5 ปีแล้ว เห็นว่าไม่จำาเป็นประสงค์จะทำาลาย ควรดำาเนิน
การ……….

7. ก.ทำาลายได้เลย ข.ขอ
ทำาความตกลงกับกรมบัญชีกลาง
ค.ขอทำาความตกลงกับสำานักงานคณะกรรมการตรวจเงิน
แผ่นดิน
ง.ขอทำาความตกลงกับกระทรวงการคลัง*
37.ข้อใดถูกต้อง
ก.ทะเบียนตามระเบียบงานสารบรรณมีทะเบียนหนังสือ
รับ-ทะเบียนหนังสือส่ง-
ทะเบียนหนังสือเก็บ*
ข.ประกาศคือหนังสือสั่งการ
ค.การเก็บหนังสือเมื่อปฏิบัติเสร็จแล้ว ให้ประทับตรา
กำาหนดเก็บหนังสือไว้ที่มุม
ด้านซ้ายของแผ่นกระดาษแผ่นแรก
ง.หนังสือด่วนมาก หมายถึง ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเร็วกว่า
ปกติ
38.กฎหมายต่างกับศีลธรรม เนื่องจาก
ก.กฎหมายและศีลธรรมเป็นเรื่องที่ต้องแยกพิจารณาจาก
กัน
ข.กฎหมายและศีลธรรมต่างก็เป็นข้อกำาหนดความ
ประพฤติของมนุษย์
ค.กฎหมายมีสภาพบังคับ (Sanction) ที่รุนแรงกว่าศีล
ธรรม*
ง.ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.
39.จารีตประเพณีที่ใช้ประกอบในการพิจารณาของกฎหมาย
นั้น
ก.ต้องเป็นจารีตประเพณีที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ข.เป็นที่ยอมรับของสังคมและปฏิบัติกันมาเป็นเวลาช้า
นาน
ค.ต้องเป็นจารีตประเพณีที่ทันสมัยทันเหตุการณ์
ง. ข้อ ก. และ ข. รวมกัน*
40.ผู้มีอำานาจเสนอออกพระราชกำาหนด คือ
ก.รัฐมนตรีผู้รักษาการ* ข.เลขาธิการ
นายกรัฐมนตรี

8. ค.เลขาธิการรัฐสภา ง.ประธาน
รัฐสภา
41.ถ้า ก.ไปขโมยทรัพย์ของเด็กอายุ 6 ขวบ การกระทำาของ
ก.
ก.ไม่มีความผิดเพราะเป็นโทษที่กระทำาต่อเด็กที่อายุน้อย
เกินไป
ข.มีความผิดฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายกำาหนด*
ค. ก.มีความผิด แต่อาจได้รับยกเว้นโทษ เพราะเด็ก 6
ขวบ ย่อมไม่เอาความ
ง.ไม่มีความผิด เพราะ ก.ไม่เจตนา
42.นาย ก.ขับรถเข้าไปจอดในสยามสแควร์ มีคนมาขอเงินค่า
เฝ้ารถ 5 บาท นาย ก.ก็เอาเงินให้ไป เช่นนี้จะมีผลผูกพัน
ก.เป็นสัญญาเช่าที่จอดรถ ข.เป็นสัญญา
ฝากทรัพย์*
ค.เป็นสัญญาแลกเปลี่ยน ง.ไม่เป็นสัญญา
อะไรทั้งสิ้น
43.จำานองต่างกับจำานำาในสาระสำาคัญอย่างไร
ก.จำานองต้องจดทะเบียน จำานำาไม่ต้อง
ข.จำานองใช้กับสังหาริมทรัพย์ แต่จำานำาใช้กับ
อสังหาริมทรัพย์
ค.จำานองใช้กับอสังหาริมทรัพย์ แต่จำานำาใช้กับ
สังหาริมทรัพย์
ง. ข้อ ก. และ ค.*
44.ภูมิลำาเนา หมายถึง
ก.สถานที่บุคคลอยู่มาเป็นเวลาช้านาน
ข.สถานที่อยู่ของ พ่อ-แม่-ลูก
ค.ถิ่นที่บุคคลนั้นมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำาคัญ* ง.ถิ่น
ที่เกิด
45.ข้อใดเป็นหลักกฎหมายไม่มีผลบังคับย้อนหลัง
ก.ไม่มีผลย้อนหลังในทางที่เป็นโทษแก่จำาเลย*
ข.ไม่มีผลย้อนหลังในทางที่เป็นคุณแก่จำาเลย
ค.ถูกทั้ง ก. และ ข.
ง.ไม่มีข้อใดถูก

9. 46.ปัจจุบันนี้มีการกล่าวอ้างหรือวิพากษ์วิจารณ์กันเสมอว่า
กฎหมายบางฉบับมีช่องว่าง คำาว่า ”ช่องว่างแห่งกฎหมาย” นั้น
แท้จริงแล้วคือ
ก.กรณีที่กฎหมายก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและ
คนรวยมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่ง
ที่ไม่พึงปรารถนาในสังคม
ข.กรณีที่บัญญัติกฎหมายขัดกับรัฐธรรมนูญ อันทำาให้
กฎหมายนั้นเป็นโมฆะใช้
บังคับไม่ได้
ค.การที่ผู้ใช้กฎหมายพยายามใช้กฎหมายโดยไม่เป็น
ธรรม มีการให้อภิสิทธิ์กัน
ง.กรณีที่ไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรหรือกฎหมาย
จารีตประเพณี ที่จะนำาไปใช้ปรับแก่ข้อเท็จจริงได้*
47.ตามรัฐธรรมนูญไทยปัจจุบัน กฎหมายใดคือกฎหมายที่
รัฐบาลสามารถประกาศใช้บังคับได้เองในทันที แต่ต้องมาขอ
ความเห็นชอบจากรัฐสภาในภายหลัง
ก. พระราชกฤษฎีกา ข.พระบรม
ราชโองการ
ค.พระราชกำาหนด* ง.พระราช
บัญญัติในภาวะฉุกเฉิน
48.ข้อความเขียนที่สนามว่า “ห้ามเดินลัดสนาม” ดังนั้นการวิ่ง
ลัดสนาม
ก.ไม่ผิด เพราะห้ามเดิน แต่ไม่ได้ห้ามวิ่ง
ข.ผิด เพราะวิ่งหรือเดินก็เหมือนกัน
ค.ไม่ผิด เพราะการวิ่งไม่ใช่การเดิน
ง.ผิด เพราะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์*
49.พระราชบัญญัติจะมีผลบังคับเป็นกฎหมายได้เมื่อ
ก. พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
ข.ได้ประกาศโดยเปิดเผยทางสื่อมวลชนแล้ว
ค.รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
ง.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว*
50.”ผู้ใดบัญญัติกฎหมายไว้ ผู้นั้นต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนั้น
ด้วย” ตรงกับคำาว่า

10. ก. Moral Consiousness ข. The
Rule of Law*
ค. The Rule of Man ง. The
Rule of Reason
51. Put the right man in the right Job คือหลัก
ก.การบรรจุบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งต่างๆ* ข.การมอบ
อำานาจหน้าที่
ค.การพัฒนาตัวบุคคล ง.การ
บริหารงานบุคคลตามระบบอุปถัมภ์
52.การงบประมาณของประเทศไทย ในปัจจุบันเป็นแบบใด
ก.Line – item Budgeting
ข.Performance Budgeting
ค.Function Classification Budgeting
ง.Programme Budgeting*
53.การฝึกฝนความรู้สึกไว (Sensitivity Training) มี
ประโยชน์อย่างไรต่อผู้เข้าฝึกอบรม
ก.ช่วยสร้างภาวะผู้นำา ข.ช่วยให้สมอง
ไว
ค.ช่วยให้รู้จักตนเองดีขึ้น* ง.เพิ่มความ
สามารถในการตัดสินใจ
54.ในเรื่องการฝึกอบรมแล้ว ถ้าสมมติให้ X เป็นเป้าหมายใน
การปฏิบัติงาน Y เป็นผลในการปฏิบัติงาน Z เป็นความ
ต้องการในการฝึกอบรม (Training – needs) ข้อใดแสดง
ความหมายที่ถูกต้อง
ก.X = Y-Z ข.Y = Z-X
ค.Z = X-Y* ง.Z = Y-X
55.ข้อใดเป็นเครื่องมือที่ใช้ละลายพฤติกรรมของบุคคลใน
กลุ่มได้ดีที่สุด
ก.การประชุมปรึกษาหารือ ข.การเดินทางไกล พัก
ค้างคืนและมีกิจกรรมร่วมกัน*
ค.การฟังบรรยายหลักวิชาพฤติกรรมศาสตร์
ง.การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ร่วม
56.กำานัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้อง

11. ก.อายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ข.อายุครบ 60
ปีบริบูรณ์
ค.อยู่ในตำาแหน่งครบ 4 ปี นับจากวันได้รับเลือกตั้ง
ง.อยู่ในตำาแหน่งครบ 5 ปี นับจากวันได้รับเลือกตั้งตาม
กฎหมายใหม่*
57.เมื่อกำานันอยู่ในหมู่บ้านใด หมู่บ้านนั้น
ก.เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านประจำาหมู่บ้านอีก 1 คน
ข.ไม่ต้องมีผู้ใหญ่บ้าน
ค.ให้ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงทำาหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านนั้นอีก
ง.ไม่ต้องเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านขึ้นอีก เพราะกำานันทำาหน้าที่
ผู้ใหญ่บ้านด้วย*
58.ผู้ที่จะเป็นสารวัตรกำานัน
ก.ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในพื้นที่
ข.ได้รับการเลือกตั้งจากสภาตำาบล
ค.ได้รับการแต่งตั้งจากนายอำาเภอ
ง.ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัด*
59.องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีองค์ประกอบที่สำาคัญอยู่ 2
ประการคือ
ก.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัด
ข.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การ
บริหารส่วนจังหวัด*
ค.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด
และปลัดจังหวัด
ง.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และหัวหน้าส่วนจังหวัด
60.สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
โดยประชาชน มีวาระอยู่ในตำาแหน่งคราวละ
ก. 5 ปี ข. 4 ปี*
ค. 6 ปี ง. 3 ปี
61.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทำาหน้าที่
ก.ฝ่ายนิติบัญญัติ* ข.ฝ่ายบริหาร
ค.ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ง.ที่ปรึกษาผู้ว่า
ราชการจังหวัด
62.ตามกฎหมาย เทศบาลไทยแบ่งออกเป็น

12. ก.เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำาบล*
ข.กรุงเทพมหานคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำาบล
ค.เทศบาลเมือง เทศบาลอำาเภอ เทศบาลตำาบล
ง.กรุงเทพมหานคร เทศบาลอำาเภอ เทศบาลตำาบล
63.เทศบาลตำาบลมีสมาชิกสภา จำานวน
ก. 8 คน ข. 12 คน*
ค. 18 คน ง. 24 คน
64.เทศบาลนคร มีสมาชิกสภา จำานวน
ก. 18 คน ข. 20 คน
ค. 24 คน* ง. 30 คน
65.สมาชิกสภาเทศบาล อยู่ในตำาแหน่งคราวละ
ก. 4 ปี* ข. 5 ปี
ค. 6 ปี ง. จน
เกษียณ
66.ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รูปแบบแรกที่สุดของไทย คือ
ก.กรุงเทพมหานคร ข.องค์การ
บริหารส่วนจังหวัด
ค.เทศบาล ง.สุขาภิบาล*
67.ข้อใดมิใช่การปกครองท้องที่
ก.หมู่บ้าน ข.ตำาบล
ค.กิ่งอำาเภอ ง.อำาเภอ*
68.ที่ปรึกษาสภาตำาบล คือใคร
ก.ปลัดอำาเภอ* ข.ครู
ประชาบาล
ค.นายอำาเภอ ง.พัฒนากร
69.หมู่บ้าน อพป. มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อ
ก.การพัฒนาเศรษฐกิจ ข.การพัฒนา
ชนบท
ค.ความมั่นคง* ง.การ
พัฒนาการท่องเที่ยว
70.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน
มาตรา 1 ระบุว่า

13. ก.ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์เป็น
ประมุข
ข.ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักที่มีการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย
ค.ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่ง
แยกมิได้*
ง.ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่ง
แยกมิได้ อำานาจอธิปไตยมาจากปวงชนชาวไทย
71.สมาชิกสภาตำาบลโดยตำาแหน่งคือ
ก.กำานัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน
ข.กำานัน ผู้ใหญ่บ้านและแพทย์ประจำาตำาบล*
ค.กำานัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง
ง.กำานัน สารวัตรกำานัน และผู้ใหญ่บ้าน
72.ข้อใดเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา
ตำาบล
ก.เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
ข.เป็นคนวิกลจริต
ค.เป็นคนจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ง.ถูกทุกข้อ*
73.ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
สมาชิกสภาตำาบล ซึ่งได้รับเลือกตั้ง
ก.มีสัญชาติไทย
ข.อายุไม่ตำ่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
ค.มีภูมิลำาเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำาและมีชื่อในทะเบียน
บ้านในตำาบลนั้นเป็น
เวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือน จนถึงวันสมัครรับ
เลือกตั้ง
ง.ไม่มีข้อใดถูก*
74.องค์การบริหารส่วนตำาบลมีฐานะเป็น
ก.นิติบุคคล ข.นิติบุคคล
และราชการบริหารส่วนภูมิภาค
ค.นิติบุคคล และราชการบริหารส่วนท้องถิ่น*
ง.นิติบุคคล และราชการบริหารส่วนท้องที่

14. 75.การจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำาบล ทำาได้โดย
ก.ตราเป็นพระราชกำาหนด ข.ตรา
เป็นพระราชกฤษฎีกา
ค.ตราเป็นประกาศกระทรวงมหาดไทย* ง.ตราเป็นคำา
สั่งกระทรวงมหาดไทย
76.องค์การบริหารส่วนตำาบล อาจจัดตั้งเป็นราชการส่วนท้อง
ถิ่นในรูปใด
ก.สุขาภิบาล ข.เทศบาล*
ค.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ง.รูปแบบอื่นๆ
เช่น เมืองพัทยา
77.ประธานและรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำาบลมีวาระ
การดำารงตำาแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ข. 3 ปี
ค. 5 ปี ง. ดำารง
ตำาแหน่งจนครบอายุของสภา*
78.ประธานสภาและรองประธานสภาองค์การบริหารส่วน
ตำาบลพ้นจากตำาแหน่งเมื่อ
ก.ลาออกโดยยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ข.ลาออกโดยแถลงต่อที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วน
ตำาบล
ค.ลาออกโดยแจ้งทางวาจาต่อนายอำาเภอ
ง.ยื่นหนังสือลาออกต่อนายอำาเภอ*
79.เมื่อตำาแหน่งประธานหรือรองประธานสภาองค์การบริหาร
ส่วนตำาบลว่างลงเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระให้มีการ
เลือกแทนตำาแหน่งที่ว่างภายในกี่วัน
ก. 15 วัน* ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
80.การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล กำาหนดให้มี
ประชุมสามัญได้กี่สมัย
ก. 2 สมัย แต่ไม่เกิน 3 สมัย ข. ไม่เกิน 3
สมัย
ค. 2 สมัย แต่ไม่เกิน 4 สมัย* ง. ไม่เกิน 4 สมัย

15. 81.การประชุมสามัญสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล สมัยแรก
จะต้องประชุมภายในกี่วัน นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภา
องค์การบริหารส่วนตำาบล
ก. 30 วัน ข. 15 วัน*
ค. 60 วัน ง. 90 วัน
82.การขอขยายเวลา การประชุมสภาองค์การบริหารส่วน
ตำาบลจะต้องดำาเนินการตามข้อใด
ก.ขอมติจากสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ข.ขออนุญาตจากประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ค.ขออนุญาตจากนายอำาเภอ*
ง.ขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
83.การประชุมขององค์การบริหารส่วนตำาบล มีสมาชิกจำานวน
เท่าใดจึงจะครบองค์ประชุม
ก. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 2* ข. ไม่น้อย
กว่า 1 ใน 3
ค. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ง. ไม่น้อย
กว่า 3 ใน 4
84.ผู้ใดสามารถทำาคำาร้องขอให้เปิดประชุมวิสามัญ
ก.ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ข.นายกองค์การบริหารส่วนตำาบล
ค.สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำาบลไม่ตำ่ากว่ากี่งหนึ่ง
ของสมาชิกทั้งหมด
ง.ถูกทุกข้อ*
85.คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำาบลมีจำานวนกี่คน
ก.ไม่เกิน 3 คน* ข. ไม่เกิน 7 คน
ค.ไม่เกิน 9 คน ง.ไม่เกิน 11
คน
86.ผู้ใดเป็นคนแต่งตั้งคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำาบล
ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด ข.ปลัดจังหวัด
ค.นายอำาเภอ* ง.สภาองค์การ
บริหารส่วนตำาบล
87.นายกองค์การบริหารส่วนตำาบลพ้นจากตำาแหน่งเมื่อใด

16. ก. ครบตามวาระ ข.ลาออกโดย
ยื่นหนังสือต่อนายอำาเภอ
ค. ง.ถูกทุกข้อ*
88.กิจการใดที่องค์การบริหารส่วนตำาบลอาจทำาหรือไม่ทำา
ก็ได้
ก.ให้มีนำ้าเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร*
ข.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ค.ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ง.ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและผู้
พิการ
89.ถ้ากระทรวง ทบวงกรมหรือองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ
จะดำาเนินการใดๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในตำาบล
จะต้องดำาเนินการอย่างใด
ก.แจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำาบลทราบ*
ข.ต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การบริหารส่วนตำาบลก่อน
เข้าดำาเนินการ
ค.สามารถดำาเนินการได้เลยถ้าไม่ตรงกับกิจการของ
องค์การบริหารส่วนตำาบล
ง.ไม่สามารถดำาเนินการได้เลย
90.องค์การบริหารส่วนตำาบลออกข้อบัญญัติตำาบล โดย
สามารถกำาหนดโทษปรับผู้ฝ่าฝืนได้เป็นจำานวนเงินเท่าใด
ก.ไม่เกิน 100 บาท ข.ไม่เกิน
500 บาท
ค.ไม่เกิน 1000 บาท* ง.ไม่เกิน
2000 บาท
91.ใครเป็นผู้ลงชื่อในข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำาบล
เพื่อประกาศใช้
ก.นายอำาเภอ ข.ประธาน
สภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ค.นายกองค์การบริหารส่วนตำาบล* ง.เฉพาะข้อ ก
และข้อ ข. ถูก
92.องค์การบริหารส่วนตำาบลแบ่งการบริหารออกเป็นกี่ส่วน

17. ก.2 ส่วน คือ สำานักงานปลัดองค์การบริหารส่วนตำาบล
และส่วนต่างๆ*
ข.2 ส่วน คือ สำานักงานคณะผู้บริหาร และส่วนต่างๆ
ค.2 ส่วน คือ สำานักงานปลัดองค์การบริหารส่วนตำาบล
และสำานักงานคณะผู้บริหาร
ง.2 ส่วน คือ คณะผู้บริหาร และสภาองค์การบริหารส่วน
ตำาบล
93.รายได้จากการจัดเก็บภาษีหรืออากร ประเภทใดที่จัดเก็บ
ในตำาบลให้ส่งมอบเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำาบล
ก.ภาษีบำารุงท้องที่ ข.ภาษีโรง
เรือนและที่ดิน
ค.ภาษีป้าย อากรการฆ่าสัตว์และประโยชน์อื่น อันเกิด
จากการฆ่าสัตว์
ง.ถูกทุกข้อ*
94.รายได้ขององค์การบริหารส่วนตำาบลประเภทใดได้รับ
ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
ก.ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาตและค่าปรับ
ข.เงินและทรัพย์สินอื่นที่มีผู้อุทิศให้
ค.เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ง.รายได้ทุกประเภทได้รับการยกเว้นทั้งหมด*
95.ใครเป็นผู้เสนองบประมาณรายจ่ายประจำาปีขององค์การ
บริหารส่วนตำาบล
ก.สภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ข.นายกองค์การบริหารส่วนตำาบล*
ค.สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำาบลหนึ่งในสาม
ง.เลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
96.สภาองค์การบริหารส่วนตำาบล พิจารณาร่างข้อบัญญัติงบ
ประมาณรายจ่ายประจำาปีให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน*
97.ถ้าข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำาปีออกไม่ทันปีใหม่
จะดำาเนินการอย่างไร

18. ก.ใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำาปีก่อนนั้นไป
พลางก่อน*
ข.ให้นายอำาเภอออกข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ประจำาปีใช้ไปพลางก่อน
ค.ให้สภาองค์การบริหารส่วนตำาบลขยายเวลาการใช้งบ
ประมาณปีก่อนหน้านั้นไปก่อน
ง.ให้คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำาบลขออนุมัติ
สภาองค์การบริหารส่วนตำาบลใช้งบประมาณปีก่อน
หน้านั้นไปพลางก่อน
98.ใครเป็นผู้มีอำานาจหน้าที่กำากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของ
องค์การบริหารส่วนตำาบล
ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด
ข.นายอำาเภอ*
ค.ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ง.นายกองค์การบริหารส่วนตำาบล
99.ใครเป็นผู้สั่งยุบสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล
ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด* ข.ปลัดจังหวัด
ค.นายอำาเภอ ง.หัวหน้ากลุ่มส่ง
เสริมการปกครองท้องถิ่นอำาเภอ