Submit Search
Upload
ศิลปวัฒนธรรมตำบลเชื้อเพลิง
•
2 likes
•
6,034 views
โรงเรียนบ้านต? ตรึมวิทยานุเค?
Follow
เป็นงานสำรวจศิลปวัฒนธรรมที่ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อนานมาแล้ว
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 68
Download now
Download to read offline
Recommended
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
Manoonpong Srivirat
ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มาตรา ๖ มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาและวิจัย มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคมและทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งสำหรับการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมนั้น การทำบุญทอดกฐินเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในทางศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่เป็นเมืองพุทธ กล่าวสำหรับการทอดกฐิน นั้น จากคำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวว่า “อานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "โภ ปุริสะ ดูก่อนท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐิน ไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้น จะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า ๕๐๐ ชาติ" ดังนั้น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงได้จัดทำโครงการ “กฐินร่วมใจ” อันเป็นกฐินสามัคคี ทอดถวาย ณ วัดป่าเกษตร (สาขา ๔๖ ของวัดหนองป่าพง) บ้านเกษตรพัฒนา ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ ๒—๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์ หัวหน้าโครงการ
หน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมือง
จุ๊ จุฑาทิพย์
ok
รายงานการประเมินตนเองประจำปีการศึกษา 2555
รายงานการประเมินตนเองประจำปีการศึกษา 2555
pentanino
รายงานการวิจัยประเพณีแห่หลวงพ่อโสธร
รายงานการวิจัยประเพณีแห่หลวงพ่อโสธร
nungruthai2513
นายวชิรพงศ์ มณีนันทิวัฒน์ ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรมและท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา 2563
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
mahaoath พระมหาโอ๊ท
โครงการ "ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด สร้างสามัคคี สู่น้องพี่ชาวอีสาน" ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน ม.เทคโนโลยีมหานคร ขอทุนมายัง "สายลมแห่งอาสา" http://fund4volunteer.blogspot.com
ภูมิปัญญาท้องถิ่นตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ภูมิปัญญาท้องถิ่นตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
nungruthai2513
เจ้าของ : ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรมและท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ คณะกรรมการผู้จัดทำ : อาจารย์ ดร.จินดา เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการ อาจารย์อารียา บุญทวี รองประธานกรรมการ/ฝ่ายภาคสนาม และผู้เรียบเรียงข้อมูลเนื้อหา อาจารย์โยธิน จี้กังวาฬ รองประธานกรรมการ และฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ อาจารย์วชิรพงศ์ มณีนันทิวัฒน์ รองประธานกรรมการ และฝ่ายเอกสาร นายณัฐปนนท์ สิงห์ยศ องประธานกรรมการฝ่ายตรวจสอบข้อมูล ฝ่ายพิสูจน์อักษร และฝ่ายภาคสนาม นางสาวนวลลออ อนุสิทธิ์ กรรมการฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ นางสาวฐิติรัตน์ เอนกสุวรรณกุล กรรมการฝ่ายเอกสาร นายสุรพล โต๊ะสีดา กรรมการฝ่ายภาคสนาม และผู้ช่วยเลขานุการ นางสาวอรวรรณ เล็กชะอุ่ม กรรมการและเลขานุการ/ฝ่ายการเงิน และฝ่ายจัดทำรูปเล่ม
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
oraneehussem
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
หนองลาดควาย๕๓
หนองลาดควาย๕๓
weskaew yodmongkol
นำเสนอคณะกรรมการจากสพท.นครพนม เขต๑
Recommended
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
Manoonpong Srivirat
ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มาตรา ๖ มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาและวิจัย มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคมและทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งสำหรับการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมนั้น การทำบุญทอดกฐินเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในทางศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่เป็นเมืองพุทธ กล่าวสำหรับการทอดกฐิน นั้น จากคำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวว่า “อานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "โภ ปุริสะ ดูก่อนท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐิน ไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้น จะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า ๕๐๐ ชาติ" ดังนั้น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงได้จัดทำโครงการ “กฐินร่วมใจ” อันเป็นกฐินสามัคคี ทอดถวาย ณ วัดป่าเกษตร (สาขา ๔๖ ของวัดหนองป่าพง) บ้านเกษตรพัฒนา ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ ๒—๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์ หัวหน้าโครงการ
หน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมือง
จุ๊ จุฑาทิพย์
ok
รายงานการประเมินตนเองประจำปีการศึกษา 2555
รายงานการประเมินตนเองประจำปีการศึกษา 2555
pentanino
รายงานการวิจัยประเพณีแห่หลวงพ่อโสธร
รายงานการวิจัยประเพณีแห่หลวงพ่อโสธร
nungruthai2513
นายวชิรพงศ์ มณีนันทิวัฒน์ ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรมและท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา 2563
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
mahaoath พระมหาโอ๊ท
โครงการ "ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด สร้างสามัคคี สู่น้องพี่ชาวอีสาน" ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน ม.เทคโนโลยีมหานคร ขอทุนมายัง "สายลมแห่งอาสา" http://fund4volunteer.blogspot.com
ภูมิปัญญาท้องถิ่นตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ภูมิปัญญาท้องถิ่นตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
nungruthai2513
เจ้าของ : ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรมและท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ คณะกรรมการผู้จัดทำ : อาจารย์ ดร.จินดา เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการ อาจารย์อารียา บุญทวี รองประธานกรรมการ/ฝ่ายภาคสนาม และผู้เรียบเรียงข้อมูลเนื้อหา อาจารย์โยธิน จี้กังวาฬ รองประธานกรรมการ และฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ อาจารย์วชิรพงศ์ มณีนันทิวัฒน์ รองประธานกรรมการ และฝ่ายเอกสาร นายณัฐปนนท์ สิงห์ยศ องประธานกรรมการฝ่ายตรวจสอบข้อมูล ฝ่ายพิสูจน์อักษร และฝ่ายภาคสนาม นางสาวนวลลออ อนุสิทธิ์ กรรมการฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ นางสาวฐิติรัตน์ เอนกสุวรรณกุล กรรมการฝ่ายเอกสาร นายสุรพล โต๊ะสีดา กรรมการฝ่ายภาคสนาม และผู้ช่วยเลขานุการ นางสาวอรวรรณ เล็กชะอุ่ม กรรมการและเลขานุการ/ฝ่ายการเงิน และฝ่ายจัดทำรูปเล่ม
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
oraneehussem
สารสนเทศ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม ปีการศึกษา 2557
หนองลาดควาย๕๓
หนองลาดควาย๕๓
weskaew yodmongkol
นำเสนอคณะกรรมการจากสพท.นครพนม เขต๑
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
mahaoath พระมหาโอ๊ท
สายลมแห่งอาสา http://fund4volunteer.blogspot.com ให้ทุนค่ายเปิดแสงแต้มสี ม.รังสิต
V 300
V 300
KKU Library
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
อบต. เหล่าโพนค้อ
ข้อเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการ แบบแสดงสมรรถนะหลักทางการบริหารและผลงานที่ประสบความสำเร็จในอดีต
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
อบต. เหล่าโพนค้อ
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
jeabjeabloei
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
Thanawat Krajaejun
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
KKU Library
V 263
V 263
KKU Library
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
mahaoath พระมหาโอ๊ท
ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒ โดยกลุ่มนิสิตโครงการจุฬา - ชนบท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ขอทุนค่ายอาสามายัง "สายลมแห่งอาสา" http://fund4volunteer.blogspot.com
996 File
996 File
kamisama42
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
Tor Jt
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
Niran Kultanan
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
dnavaroj
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์) โดยครูเดชมณี เนาวโรจน์
Traveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaen
riikiki96
โครงงานรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น.
Project paper
Project paper
riikiki96
Traveling In Khonkaen 412132 (web technology) โครงงานรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น.
Present QA for kbu draft1
Present QA for kbu draft1
Pises Tantimala
ร่างสื่อนำเสนอ การบริหารงานระบบประกันคุณภาพคณะนิเทศศาสตร์ / ใช้เวลาในการผลิต 2 วัน - สื่อตัวนี้ยังมีจุดที่ต้องปรับคือ หมวดงานวิจัย แต่เนื่องจากความอ่อนไหวเรื่องการไม่ใส่ชื่อคนและผลงาน และข้อมูลทำให้ไม่สามารถทำได้ สนใจว่าจ้างผลิตสื่อนำเสนอติดต่อได้ที่ aj.pises@gmail.com
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
พัน พัน
เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง จัดทำโดย 1.ด.ญ.เจนจิรา นุชนิ่ม เลขที่ 17 2.ด.ญ.ชลัญธร สืบกลัด เลขที่ 18 3.ด.ญ.ฐิติภา โพธิ์เงิน เลขที่ 19 4.ด.ญ.ดารุณี โพธิ์ด้วง เลขที่ 21 5.ด.ญ.ศกลวรรณ ปิ่นแก้ว เลขที่ 30 6.ด.ญ.สุภัทนาพร สิทธิคุณ เลขที่ 33 มัธยมศึกษาปีที่ 2/4 เสนอ นายทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม รายวิชา IS2 รหัส ว20292 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มะยมศึกษา เขต 8
โครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจ
พัน พัน
คำนำ
คำนำ
Paweena Kittitongchaikul
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
Ministry of Agriculture and Cooperatives
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
sudarat248
www.wordpress.com
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
Benz_benz2534
More Related Content
What's hot
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
mahaoath พระมหาโอ๊ท
สายลมแห่งอาสา http://fund4volunteer.blogspot.com ให้ทุนค่ายเปิดแสงแต้มสี ม.รังสิต
V 300
V 300
KKU Library
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
อบต. เหล่าโพนค้อ
ข้อเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการ แบบแสดงสมรรถนะหลักทางการบริหารและผลงานที่ประสบความสำเร็จในอดีต
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
อบต. เหล่าโพนค้อ
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
jeabjeabloei
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
Thanawat Krajaejun
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
KKU Library
V 263
V 263
KKU Library
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
mahaoath พระมหาโอ๊ท
ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒ โดยกลุ่มนิสิตโครงการจุฬา - ชนบท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ขอทุนค่ายอาสามายัง "สายลมแห่งอาสา" http://fund4volunteer.blogspot.com
996 File
996 File
kamisama42
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
Tor Jt
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
Niran Kultanan
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
dnavaroj
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์) โดยครูเดชมณี เนาวโรจน์
Traveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaen
riikiki96
โครงงานรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น.
Project paper
Project paper
riikiki96
Traveling In Khonkaen 412132 (web technology) โครงงานรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น.
Present QA for kbu draft1
Present QA for kbu draft1
Pises Tantimala
ร่างสื่อนำเสนอ การบริหารงานระบบประกันคุณภาพคณะนิเทศศาสตร์ / ใช้เวลาในการผลิต 2 วัน - สื่อตัวนี้ยังมีจุดที่ต้องปรับคือ หมวดงานวิจัย แต่เนื่องจากความอ่อนไหวเรื่องการไม่ใส่ชื่อคนและผลงาน และข้อมูลทำให้ไม่สามารถทำได้ สนใจว่าจ้างผลิตสื่อนำเสนอติดต่อได้ที่ aj.pises@gmail.com
What's hot
(16)
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
V 300
V 300
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
งานนำเสนอวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติราชการเพื่อแต่งตั้งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำ...
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
รายงานอ่าวคุ้งกระเบน.Docx
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
พอร์ตฟิวส์Portfolio2
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
ปัก1 มิ.ย.53ฉ 243
V 263
V 263
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
2554 ค่ายอาสาพัฒนาจุฬา - ชนบท ครั้งที่ ๒๒
996 File
996 File
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
The role of higher education in the arts and cultural dimensions.
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
หนังสือ 60 ปี ดร.นิรันดร์ กุลฑานันท์
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
Traveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaen
Project paper
Project paper
Present QA for kbu draft1
Present QA for kbu draft1
Viewers also liked
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
พัน พัน
เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง จัดทำโดย 1.ด.ญ.เจนจิรา นุชนิ่ม เลขที่ 17 2.ด.ญ.ชลัญธร สืบกลัด เลขที่ 18 3.ด.ญ.ฐิติภา โพธิ์เงิน เลขที่ 19 4.ด.ญ.ดารุณี โพธิ์ด้วง เลขที่ 21 5.ด.ญ.ศกลวรรณ ปิ่นแก้ว เลขที่ 30 6.ด.ญ.สุภัทนาพร สิทธิคุณ เลขที่ 33 มัธยมศึกษาปีที่ 2/4 เสนอ นายทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม รายวิชา IS2 รหัส ว20292 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มะยมศึกษา เขต 8
โครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจ
พัน พัน
คำนำ
คำนำ
Paweena Kittitongchaikul
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
Ministry of Agriculture and Cooperatives
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
sudarat248
www.wordpress.com
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
Benz_benz2534
โครงการปันน้ำใจให้น้องชายแดน
โครงการปันน้ำใจให้น้องชายแดน
พัน พัน
สรุปผลเครือข่าย 3 July 2013
สรุปผลเครือข่าย 3 July 2013
KKU Library
รายงานสรุปผลการดำเนินงานการสัมมนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างห้องสมุด แหล่งเรียนรู้ และศูนย์บริการข้อมูล จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00-16.00 น. ณ ห้องประชุมดอกคูน สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับแก้ไข
โครงงานมัทนะพาธา
โครงงานมัทนะพาธา
Wirika Samee
.. Up news_139c3c_computer_safty
.. Up news_139c3c_computer_safty
ntc thailand
.. Up news_139c3c_computer_safty
ชื่อ หลักสูตร สาขา และปริญญา ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
ชื่อ หลักสูตร สาขา และปริญญา ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
Totsaporn Inthanin
ประมวลชื่อหลักสูตร สาขา และปริญญา ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
คำนำ
คำนำ
intira
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
krupornpana55
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
Iam Champooh
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
คู่มือดำเนินการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 2003
คู่มือดำเนินการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 2003
charinruarn
การปลูกพืชไร้ดินจากสถาบันวิทยาศาสตร์
การปลูกพืชไร้ดินจากสถาบันวิทยาศาสตร์
kasetpcc
รายงานการพัฒนาองค์กร กรณีศึกษาธุรกิจน้ำมัน
รายงานการพัฒนาองค์กร กรณีศึกษาธุรกิจน้ำมัน
DrDanai Thienphut
รายงานของ นศ. MBA ที่เรียนวิชา การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์กร
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
sornblog2u
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
sombat nirund
แผน10 นวัตกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
แผน10 นวัตกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
Jirathorn Buenglee
แผน10 นวัตกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
Viewers also liked
(20)
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
โครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจ
คำนำ
คำนำ
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
รายงานผลการปฏิบัติราชการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
โครงการปันน้ำใจให้น้องชายแดน
โครงการปันน้ำใจให้น้องชายแดน
สรุปผลเครือข่าย 3 July 2013
สรุปผลเครือข่าย 3 July 2013
โครงงานมัทนะพาธา
โครงงานมัทนะพาธา
.. Up news_139c3c_computer_safty
.. Up news_139c3c_computer_safty
ชื่อ หลักสูตร สาขา และปริญญา ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
ชื่อ หลักสูตร สาขา และปริญญา ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
คำนำ
คำนำ
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
คู่มือดำเนินการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 2003
คู่มือดำเนินการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 2003
การปลูกพืชไร้ดินจากสถาบันวิทยาศาสตร์
การปลูกพืชไร้ดินจากสถาบันวิทยาศาสตร์
รายงานการพัฒนาองค์กร กรณีศึกษาธุรกิจน้ำมัน
รายงานการพัฒนาองค์กร กรณีศึกษาธุรกิจน้ำมัน
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
แผน10 นวัตกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
แผน10 นวัตกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
Similar to ศิลปวัฒนธรรมตำบลเชื้อเพลิง
2561 project
2561 project
nunjrn
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
หลักการและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
Somyot Ongkhluap
Ecotourism
112547
112547
Toeykhanittha
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
อาภัสรา ยิ่งคำแหง
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
aj_moo
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
1รายงานโครงการดอนปู่ตาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าชุมชน2556ศพว
1รายงานโครงการดอนปู่ตาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าชุมชน2556ศพว
Sircom Smarnbua
1รายงานโครงการดอนปู่ตาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าชุมชน2556ศพว
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๗
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๗
Boonlert Aroonpiboon
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๗
2553 โครงการห้องสมุดพี่ให้น้องครั้งที่ 1 กลุ่มจิตอาสา ม.มหิดล
2553 โครงการห้องสมุดพี่ให้น้องครั้งที่ 1 กลุ่มจิตอาสา ม.มหิดล
mahaoath พระมหาโอ๊ท
สายลมแห่งอาสา http://fund4volunteer.blogspot.com ให้ทุนสนับสนุนค่ายอาสาพัฒนา "ค่ายห้องสมุดพี่ให้น้องครั้งที่ ๑" กลุ่มจิตอาสา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๑ หมื่นบาท
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๒
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๒
Boonlert Aroonpiboon
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๒
Com
Com
jungkookjin
computer
การบริหารการท่องเที่ยว อบจ.ราชบุรี
การบริหารการท่องเที่ยว อบจ.ราชบุรี
สถาบันราชบุรีศึกษา
บรรยายเมื่อ 16 ก.พ.2554
อปท.ดีเด่น
อปท.ดีเด่น
Comniwat Jaya
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรัลกาลที่9
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรัลกาลที่9
Pai Chensuriyakun
เผยแพร่เพื่อการศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
Pornpimon Gormsang
นางสาวพรพิมล กรมแสง 54010911080
1
1
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
งานการท่องเที่ยว
งานการท่องเที่ยว
Tharapat
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
Sompop Petkleang
ค่ายสิ่งแวดล้อมศึกษาสำหรับนักเรียน หลักสูตร สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น ระยะเวลาอบรม 3 วัน 2 คืน สถานที่ อุทยานธรรมชาติวิทยาตามพระราชดำริ
โครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อน
Cook-butter
2554 รายงานผลค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด ม.เทคโนโลยีมหานคร
2554 รายงานผลค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด ม.เทคโนโลยีมหานคร
mahaoath พระมหาโอ๊ท
ผลงานค่ายที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก "สายลมแห่งอาสา" http://fund4volunteer.blogspot.com
ประเพณีไทย
ประเพณีไทย
babyoam
Similar to ศิลปวัฒนธรรมตำบลเชื้อเพลิง
(20)
2561 project
2561 project
หลักการและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
หลักการและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
112547
112547
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
1รายงานโครงการดอนปู่ตาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าชุมชน2556ศพว
1รายงานโครงการดอนปู่ตาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าชุมชน2556ศพว
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๗
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๗
2553 โครงการห้องสมุดพี่ให้น้องครั้งที่ 1 กลุ่มจิตอาสา ม.มหิดล
2553 โครงการห้องสมุดพี่ให้น้องครั้งที่ 1 กลุ่มจิตอาสา ม.มหิดล
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๒
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๒๕๕๒
Com
Com
การบริหารการท่องเที่ยว อบจ.ราชบุรี
การบริหารการท่องเที่ยว อบจ.ราชบุรี
อปท.ดีเด่น
อปท.ดีเด่น
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรัลกาลที่9
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรัลกาลที่9
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
1
1
งานการท่องเที่ยว
งานการท่องเที่ยว
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
โครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อน
2554 รายงานผลค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด ม.เทคโนโลยีมหานคร
2554 รายงานผลค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิด ม.เทคโนโลยีมหานคร
ประเพณีไทย
ประเพณีไทย
Recently uploaded
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
ssuser0ffe4b
แนะนำแอป HelloChinese เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน (ให้เลือกเรียนจาก Old Course ซึ่งฟรีตลอด ... ถ้าเลือกแบบ Main Course ทำไปถึงจุดหนึ่งจะมีค่าใช้จ่าย) มีทั้งบน Android & iOS เรียนรู้ได้ง่ายเพราะ Learning Curve ไม่ชัน
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
Pattie Pattie
ความสุจริตทางวิชาการ เชื่อมไทยเชื่อมโลก Connect Thailand, Connect the World in The “Academic Honesty” With Five Tools to Drive The Universities to Build The Smart Graduates With Integrity
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
ภาษาอังกฤษสำหรับทำวิปัสสนา
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
CholapruekSangkamane1
สอวนชีววิทยา
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ArnonTonsaipet
ff
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Prachyanun Nilsook
AI in Education สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และ D-Tech วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2567
Recently uploaded
(6)
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdf
ศิลปวัฒนธรรมตำบลเชื้อเพลิง
1.
คํานํา
รายงานเลมนี้เกี่ยวของกับกิจกรรมดานศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่นในการ ปฏิบัติงานของนิสิตนักศึกษาโครงการเรียนรูรวมกัน สรางสรรคชุมชน ทบวงมหาวิทยาลัยโดย หนวยแกนนําประสานงานสถาบันราชภัฏสุรินทร พื้นที่รับผิดชอบ คือ ตําบลเชื้อเพลิง อําเภอ ปราสาท จังหวั ดสุรินทร จัด ทํ าขึ้ นเพื่อ สํารวจเก็บขอมูล รับทราบปญหาและความต องการ เบื้องตนของชุมชน มีการสรางเครือขายความรวมมือของชุมชนในการอนุรักษศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีทองถิ่น นอกจากนี้ไดจัดทําขอเสนอแนะ ขอคิดเห็น ที่ไดรับจาก การศึกษา มาเสนอตอชุมชน เพื่อกอประโยชนและตระหนักถึงความสําคัญในคุณคาของมรดก ทางดานศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปญญาทองถิ่น และมีสวนรวมในการจรรโลง และรักษาไวสืบตอไป การจัดทํารายงานของกลุมศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่นในการปฏิบัติงานของ นิสิตนักศึกษาโครงการเรียนรูรวมกัน สรรคสรางชุมชน ทบวงมหาวิทยาลัย โดยหนวยแกนนํา ประสานงานสถาบันราชภัฏสุรินทร ซึ่งไดรับความรวมมือจากคณาจารย ผูแทนหนวยราชการ องคกร และประชาชนในทองถิ่นที่ใหความอนุเคราะหขอมูลจนสําเร็จลุลวงไปดวยดี กลุมกิจกรรม ดานศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ คณะผูจัดทํา กลุมกิจกรรมศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น โครงการเรียนรูรวมกัน สรรคสรางชุมชน สถาบันราชภัฏสุรินทร
2.
บทที่ 1
บทนํา ความเปนมาและความสําคัญของโครงการ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2544 วันที่ 8, 15, และ 29 มกราคม 2545 ไดมีมติซึ่งสรุปสาระสําคัญไดวา ในชวงปดภาคการศึกษาประจําปการศึกษาควรจะไดจัดให มีโครงการเพื่อใหนิสิตนักศึกษา รวมถึงอาจารยไดกระทํากิจกรรมที่สรางสรรคและใชเวลาวางให เป น ประโยชน ก อ เกิ ด รายได ห รื อ เพิ่ ม ทั ก ษะด า นอาชี พ มี ก ารฝ ก ฝนและดํ า เนิ น การในฐานะ ผูประกอบการรายใหม (Young Entrepreneur) ในอนาคต ซึ่งเบื้องตนนี้ เกิดขึ้นจากดําริของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร) เพื่ อ สนองต อ นโยบายของรั ฐ บาลและมติ ค ณะรั ฐ มนตรี ดั ง กล า วข า งต น กลุ ม ศิ ล ปะ วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น จึงไดเล็งเห็นถึงความสําคัญของโครงการนี้ที่ใหนิสิตนักศึกษาได เรียนรูวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมและประเพณีทองถิ่น โดยใชภูมิปญญารวมกับชุมชนในการ พั ฒ นาท อ งถิ่ น สร า งความคิ ด ในเชิ ง สร า งสรรค มี น วั ฒ กรรมสิ่ ง ประดิ ษ ฐ ใ หม ๆ ที่ ส ามารถ เชื่อมโยงจากการใชงานไดจริงในชุมชน ตลอดจนสงเสริมอนุรักษ สืบสานและสรางเครือขายรวม ในการอนุรักษมรดกวัฒนธรรมของชาติทั้งทางดานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมและ ภูมิปญญาทองถิ่นใหคงอยูตอไป วัตถุประสงคของโครงการ 1. เพื่อใหนักศึกษาสํารวจเก็บขอมูลงานดานศิลปะ ขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่นในแตละตําบลที่ไดเขาไปปฏิบัติงาน 2. เพื่อทราบปญหาและความตองการเบื้องตนของชุมชนที่มีตองานดานศิลปะวัฒนธรรม และภูมมิปญญาทองถิ่นที่มีตอการอนุรักษมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ 3. เพื่ อ สร า งเครื อ ข า ยความร ว มมื อ ของชุ ม ชนในการอนุ รั ก ษ ม รดกทางด า นศิ ล ปะ วัฒนธรรมตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของทองถิ่น 4. เพื่ อ ให นั ก ศึก ษาได เ รีย นรูแ ละตระหนัก ถึงความสําคัญและคุ ณ คาของมรดกศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปญญาทองถิ่นและมีสวนรวมในการจรรโลง และรักษาไว พื้นที่เปาหมาย ตําบลเชื้อเพลิง อําเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร
3.
การดําเนินงาน
1. นักศึกษาที่ออกปฏิบัติงานมีกิจกรรมที่ตองดําเนินการประกอบดวย กิจกรรมที่ 1 นักศึกษาสํารวจเก็บขอมูลในดานแหลงโบราณสถาน แหลงโบราณคดี โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ แหลงวัฒนธรรมตามรูปแบบการจัดเก็บขอมูลที่ กรมศิลปากรกําหนด กิจกรรมที่ 2 นักศึกษาสํารวจเก็บขอมูลในดานมรดกวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี การละเลนพื้นบานและภูมิปญญาทองถิ่นโดยการสอบถาม สังเกตการณ สืบคน การสัมภาษณ ถายภาพ หรือวาดภาพลายเสน ตามรู ป แบบการจั ด เก็ บ ข อ มู ล ที่ ก รมศิ ล ปากรกํ า หนดหรื อ อื่ น ๆที่ เหมาะสม กิจกรรมที่ 3 นักศึกษาจัดกิจกรรมหรือโครงการสืบสานอนุรักษมรดกไทยหรือ ภูมิปญญาทองถิ่นรวมกับชุมชนหรือตําบล 2. นําผลการจัดกิจกรรมที่ไดศกษาและจัดทํา ประมวล สรุป วิเคราะห และเสนอปญหา ึ ขอคิดเห็น นิยามศัพทเฉพาะ “มรดกทางศิลปวัฒนธรรม” หมายถึง ผลงานที่เกิดจากการคิดคนประดิษฐสรางสรรคส่ิง ที่ ถือ กัน มาเป น สิ่ ง ที่ดี ง าม แล ว เรี ย นรูสืบ ทอดตอ ๆ กั น บางสิ่งยั ง คงเหลือเปน หลัก ฐานจนถึ ง ปจจุบัน มรดกทางศิลปวัฒนธรรม จึงรวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา และวรรณกรรม การแสดง โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปหัตถกรรมตาง ๆ เปนตน “โบราณสถาน” หมายถึง มรดกทางศิลปวัฒนธรรมประเภทสิ่งกอสราง อาคาร สถานที่ และสวนประกอบที่เคลื่อนยายไมได เปนที่ดินเนิน ที่มีหลักฐานเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร เปนถ้ํา เพิงผาที่คนโบราณเคยพักอาศัยแลวทิ้งรองรอยภาพศิลปะ หรือฝงศพ หรือบางแหงอาจยังถูกใช ประโยชนอยูในปจจุบัน เชน วัด เจดีย ปราสาท แหลงประวัติศาสตร เปนตน “โบราณวัตถุ” หมายถึง มรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่เปนวัตถุขนาดตาง ๆ สามารถ เคลื่อนยายไดยากตามขนาดตาง ๆ และน้ําหนักหรือชนิดของโบราณวัตถุ เชน เครื่องปนดินเผา พระพิมพ อาวุธ เครื่องประดับ เปนตน “ภูมิปญญาทองถิ่น” หมายถึง งาน/ผลงาน หรือการประดิษฐอยูในดานตาง ๆ เชน ดาน ศิลปวัฒนธรรม ดานหัตถกรรม/เทคโนโลยีพื้นบาน หรือในดานอื่น ๆ
4.
ระยะเวลาการดําเนินโครงการ
วันที่ 1 – 30 เมษายน 2546 ปฏิบัติงานภาคสนามในพื้นที่ วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม 2546 ประโยชนที่คาดวาจะไดรบ ั 1. ไดฐานขอมูลดานโบราณสถาน แหลงโบราณคดี โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและแหลง วัฒนธรรมในแตละตําบล 2. ไดฐานขอมูลมรดกวัฒนธรรมดานขนบธรรมเนียมประเพณี การละเลนพื้นบานและ ภูมิปญญาทองถิ่น ในแตละตําบล 3. มีก ารเก็บ รวบรวมข อ มู ล ในดา นตา ง ๆ และรายงานผลที่ จ ะนํา ไปขยายผลในการ ดําเนินการและพัฒนาตอไปในอนาคต 4. มีการสรางเครือขายชุมชนและรับทราบปญหาและความตองการของชุมชนที่มีตองาน ดานอนุรักษมรดกวัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น เพื่อหนวยงานที่เกี่ยวของนําไป ดําเนินการแกไขและพัฒนาตอไป 5. ทําใหนักศึกษามีความเขาใจและเห็นความสําคัญและเห็นคุณคาตอการอนุรักษมรดก ทางวัฒนธรรมในดานตาง ๆ
5.
บทที่ 2
สภาพทั่วไปของชุมชน ประวัติชุมชน ตําบลเชื้อเพลิงแตเดิมอยูในเขตการปกครองตําบลไพล ตอมาเมื่อป พ.ศ. 2524 ไดแยก เปนตําบลเชื้อเพลิงโดยเริ่มแรกมี 9 หมูบาน และเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ 2540 ไดมีประกาศ จัดตั้งจากกระทรวงมหาดไทยใหเปนองคการบริหารสวนตําบล ตามพระราชบัญญัติสภาตําบล และ สภาองคการบริหารสวนตําบล พ.ศ. 2537 ปจจุบันองคการบริหารสวนตําบลเชื้อเพลิงมีที่ทําการอยู ที่บานรําเบอะหมูที่ 2 ตําบลเชื้อเพลิง คําวา “เชื้อเพลิง” มาจากภาษาทองถิ่น เปนชื่อของตนไมชนิดหนึ่งซึ่งชาวบานถือวาเปนยา สมุนไพรใชสําหรับสตรีที่คลอดบุตรชวยขับเลือดหลังจากอยูไฟ ปจจุบันตําบลเชื้อเพลิงแบงเขตการปกครองตามลักษณะทองที่มีหมูบานจํานวน 12 หมูบาน ประกอบดวย หมูที่ 1 บานเชื้อเพลิง หมูที่ 2 บานรําเบอะ หมูที่ 3 บานโพธิ์กอง หมูที่ 4 บานแสรโบราณ หมูที่ 5 บานขยอง หมูที่ 6 บานปราสาท หมูที่ 7 บานเสม็ด หมูที่ 8 บานขนาดปริง หมูที่ 9 บานหนองซูง หมูที่ 10 บานปรือรูง หมูที่ 11 บานโสนกพัฒนา หมูที่ 12 บานเชื้อเพลิงสามัคคี สภาพชุมชน 2.1 ระยะทางชุมชน หางจากที่วาการอําเภอปราสาท 6.50 กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือ ระยะทางหางจากศาลากลางจังหวัดสุรินทรไปทางทิศใต 23 กิโลเมตร 2.2 ขนาดพื้นที่ของตําบล/ชุมชนที่ดําเนินงาน 32.6256 ตารางกิโลเมตร - ที่ดินสาธารณะประโยชน 150 ไร
6.
-
ที่ดินราชพัสดุ - ไร - ที่ดินที่อยูอาศัย 1,072 ไร - ที่ดินทํากิน 14,821 ไร - พื้นที่ปา 3,150 ไร - พื้นที่แหลงน้ํา 1,200 ไร รวม 20,392 ไร 2.3 จํานวนประชากรทั้งหมดในตําบล/ชุมชน ชาย 3,687 คน หญิง 3,822 คน รวม 7,509 คน จํานวนหมูบาน 12 หมูบาน จํานวน จํานวนประชากร (คน) ชวงอายุ(ป) ครัวเรือ 60 ป หมู ต่ํา น ชาย หญิง รวม 1- 2 3-5 6 - 11 12- 14 15 - 17 18 - 49 50 - 59 ขึ้น อื่น ๆ กวา 1 ไป 1 167 330 331 661 5 16 31 65 30 31 346 63 71 3 2 239 462 469 931 2 23 35 82 43 59 484 74 124 5 3 129 287 330 617 2 18 22 51 23 22 334 57 84 4 4 147 227 224 451 3 11 21 36 12 18 254 52 42 2 5 74 187 196 383 3 11 20 39 15 21 198 34 38 4 6 142 353 348 701 3 11 30 64 24 20 383 74 87 5 7 92 230 233 463 1 10 19 55 28 9 246 41 54 - 8 147 350 321 671 6 13 27 63 35 42 344 55 81 5 9 204 455 474 929 2 35 57 121 51 50 477 74 60 2 10 145 289 333 622 6 23 24 70 34 39 293 65 69 1 11 746 169 161 330 1 8 9 26 8 18 185 42 31 2 12 137 348 402 750 4 24 29 87 46 36 369 65 89 1 รวม 1769 3687 3822 7509 38 203 324 759 349 374 3913 696 830 35 อื่น ๆ หมายถึง ประชากรที่เปนชาวตางชาติในชุมชนนั้น ไมระบุเพศ * รวม หมายถึง จํานวนประชากรรวมถึงอื่น ๆ ในแตละชุมชนดวย หมายเหตุ ขอมูลประชากรจากสํานักงานสถิติ อ.ปราสาท จ.สุรินทร ประจําเดือนมีนาคม 2546 รวบรวมวันที่ 11 เมษายน 2546โดยนักศึกษาโครงการเรียนรูรวมกัน สรรคสรางชุมชน
7.
สภาพทางเศรษฐกิจ 3.1
อาชีพ - อาชีพหลักของประชากรในตําบล/ชุมชน 1. ทํานา 2. เลี้ยงสัตว 3. ปลูกหมอน เลี้ยงไหม 4. ทอผา 5. ปลูกพืชฤดูแลง 3.2 รายไดของประชากรตอครัวเรือน 1. หมูที่ 1 บานเชื้อเพลิง 27,806 บาท/ครัวเรือน/ป 2. หมูที่ 2 บานรําเบอะ 52,086 บาท/ครัวเรือน/ป 3. หมูที่ 3 บานโพธิ์กอง 70,000 บาท/ครัวเรือน/ป 4. หมูที่ 4 บานแสรโบราณ 20,000 บาท/ครัวเรือน/ป 5. หมูที่ 5 บานขยอง 126,000 บาท/ครัวเรือน/ป 6. หมูที่ 6 บานปราสาท 45,000 บาท/ครัวเรือน/ป 7. หมูที่ 7 บานเสม็ด 25,000 บาท/ครัวเรือน/ป 8. หมูที่ 8 บานขนาดปริง 23,000 บาท/ครัวเรือน/ป 9. หมูที่ 9 บานหนองซูง 15,000 บาท/ครัวเรือน/ป 10. หมูที่ 10 บานปรือรูง 89,522 บาท/ครัวเรือน/ป 11. หมูที่ 11 บานโสนกพัฒนา 70,000 บาท/ครัวเรือน/ป 12. หมูที่ 12 บานเชื้อเพลิงสามัคคี 85,777 บาท/ครัวเรือน/ป 3.3 สถานประกอบการในตําบล/ชุมชน - ปมน้ํามัน 1 แหง - โรงสีขนาดยอม 32 แหง - ตลาดนัด 2 แหง
8.
สภาพทางสังคม
4.1 การศึกษา สถานศึกษา จํานวนนักเรียน (คน) จํานวนครู (คน) 1. โรงเรียนประถมศึกษา 3 แหง 1.1 โรงเรียนบานโพธิ์กอง 263 10 1.2 โรงเรียนบานเชื้อเพลิง 372 13 1.3 โรงเรียนรัฐประชาสามัคคี 256 11 2. โรงเรียนมัธยมศึกษา 1 แหง 2.1 โรงเรียนเชื้อเพลิงวิทยา 500 23 3. อื่นๆ 1 แหง 3.1 โรงเรียนศึกษาพิเศษ 336 51 3.2 ศูนยพัฒนาเด็กเล็ก หมู 2 90 4 หมู 3 60 3 4.2 สถาบันและองคกรทางศาสนา - วัด 4 แหง - สํานักสงฆ 1 แหง - โบสถ ( คริสตจักร) 1 แหง มีสมาชิก 163 คน อาจารย 3 คน 4.3 สาธารณสุข - สถานีอนามัย 1 แหง - สถานที่ผลิตยาสมุนไพร / อาหารเสริม 1 แหง - กลุม ผสส. / อสม. 12 กลุม 4.4 หนวยงานที่ดูแลดานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน(เชน ทสปช./อปพร./อื่นๆ) 1 กลุม 4.5 การรวมกลุมของคนในชุมชน (เชน กลุมแมบานเกษตรกร / อื่นๆ) 1. กลุมผูจดทําแปลงขยายพันธุขาว ั 2. กลุมศูนยผลิตเมล็ดพันธุขาวชุมชน 3. กลุมทอผาไหม 4. กลุมธนาคารผัก
9.
5. กลุมกองทุนฟนฟูอาชีพเกษตรกร หลังการพักชําระหนี้
6. กลุมเกษตรเกื้อกูล 7. กลุมเกษตรอินทรีย การบริการขั้นพื้นฐาน 5.1 การคมนาคม - ทางบก มีถนนสายที่สําคัญ 1 สาย ไดแก สุรินทร – ปราสาท สภาพการใชงาน - ภายในชุมชน ใชงานทางบก - ระหวางชุมชน ใชงานทางบก 5.2 การโทรคมนาคม - ที่ทําการไปรษณียโทรเลข 1 แหง - สถานบริการโทรศัพท 21 แหง สภาพการใชงาน 15 แหง 5.3 การไฟฟา - จํานวนหมูบานที่มีไฟฟาเขาถึง 12 หมูบาน 5.4 การประปา - จํานวนหมูบานที่มีประปาตําบล / ชุมชน หรือประปาหมูบาน 8 แหง 5.5 แหลงน้ําธรรมชาติ 1. หวยโยน 2. หนองน้ํา 2.1 หนองระกา 2.2 หนองมะเมียง 2.3 หนองบันคลา 2.4 หนองกะทม 1 2.5 หนองกะทม 2 2.6 หนองขยอง 2.7 หนองจลีก 2.8 หนองปราสาท 2.9 หนองโดนเสาะ 2.10 หนองตากวง 2.11 หนองตาเมียง 2.12 หนองตามุน
10.
2.13 หนองพลวง
2.14 หนองขนาดปริง 2.15 หนองเปรอะ 2.16 หนองตะเกียด 2.17 หนองซูง 2.18 หนองปรือรูง 2.20 หนองรูง 2.21 หนองนาสาม 2.22 หนองเชื้อเพลิง 5.6 แหลงน้ําที่สรางขึ้นเพื่ออุปโภค/บริโภค - ฝาย 3 แหง ขนาด 100, 60 และ 40 ไร - บอน้ําตื้น (บอขุด) 10 แหง มีน้ําใชตลอดป 3 แหง มีน้ําใชไมตลอดป 7 แหง - บอโยก 23 แหง มีน้ําใชตลอดป 20 แหง มีน้ําใชไมตลอดป 3 แหง - อื่น ๆ (ระบุ)…………………… 5.7 แหลงน้ําเพื่อการเกษตร 1. หนอง หมู 2, 6, 3, 5, 7, 8 และ 9 ปริมาณ a เพียงพอ ขาดแคลน 2. อางเก็บน้ํา หมู 3 ปริมาณ เพียงพอ a ขาดแคลน 3. คลองชลประทาน หมู 7 และ 6 ปริมาณ เพียงพอ a ขาดแคลน 4. หวย หมู 7 ปริมาณ a เพียงพอ ขาดแคลน 5. คลอง หมู 6, 10, 12, 11 และ 9 ปริมาณ เพียงพอ a ขาดแคลน 6. สระ ปริมาณ เพียงพอ a ขาดแคลน 5.8 สวนสาธารณะ/สนามกีฬา 1. สนามกีฬาหมูบานหมูที่ 1,2, 4,5,6,8,9,10,11,12 5.9 สถานที่พักผอนหยอนใจ 1. ปราสาทบานไพล บานปราสาท 2. หนองปราสาท บานปราสาท 3. สวนสมุนไพร บานปราสาท 4. อางเก็บน้ําบานโพธิ์กอง บานโพธิ์กอง
11.
5. สวนผักปลอดสารพิษ
บานเสม็ด 6. หวยเสม็ด บานเสม็ด 7. หวยยวน บานแสรโบราณ สภาพทางสังคมและวัฒนธรรม 1. เขมร เขมร เปนกลุมชนพื้นเมืองที่สําคัญกลุมหนึ่งในบริเวณภาคอิสานตอนลางของประเทศไทย และเปนกลุมที่มีบทบาทเดนชัด ในการควบคุมอิทธิพลทางการเมืองของดินแดนอิสานระหวาง พุทธศตวรรษที่ 12-18 พวกเขมรหรือขอม อาจจะอพยพมาจากทางเหนือของแมนํ้าโขง โดยตาม ชาวมอญลงมาตอนลางแตไปตั้งหลักแหลงอยูทางทิศตะวันออกในดินแดนที่เปนประเทศลาวใน ปจจุบัน และในที่ราบสูงโคราช รวมทั้งคงมีบางสวนที่อพยพไปตามลําน้ําโขง ตั้งถิ่นฐานปะปน กับกลุมดั้งเดิมอื่นๆ กลุมชนชาวเขมรไดมีการเคลื่อนยายถิ่นฐานดวยเหตุผลทางการเมืองและอิทธิพลความเชื่อ ทางศาสนาพราหมณฮินดูอยูเปนระยะ ซึ่งเปนชวงที่อิทธิพลทั้งทางการเมืองและวัฒนธรรมเขมรได แพรเขาสูอิสานตอนลางอยางมากมาย ในชวงเวลานี้ไดมีการกอสรางศาสนสถานไวเปนจํานวนมาก และนาจะเป น ชว งสําคั ญช ว งหนึ่งที่มีการอพยพของชาวเขมรจากประเทศกัมพู ชา โดยเฉพาะ ชางฝมือและแรงงานเขมรเขาสูประเทศไทย ซึ่งในเขตของตําบลเชื้อเพลิงนั้นนาจะเปนที่อยูเกาของ ชาวเขมรโบราณ โดยทราบจากหลักฐานที่มีการสรางปราสาทบานไพล ซึ่งเปนสถาปตยกรรมแบบ เขมร ชาวเขมรเหลานี้คงไดตั้งบานเรือนอยูบริเวณเดียวกันกับชาวกูยในเขตปาดงทั่วไปในสมัยนั้น ชาวเขมรที่เขามานี้ไดนําเอาวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมตางๆ เขามาใชและเขาไปมี อิ ท ธิ พ ลต อ กลุ ม อื่ น ก อ ให เ กิ ด การผสมกลมกลื น ทางเชื้ อ ชาติ ภาษาและวั ฒ นธรรม จนเกิ ด เอกลักษณเฉพาะถิ่น โดยไดมีการกําหนดชื่อเรียกของภาษาเขมรและคนที่พูดภาษาเขมรในประเทศ ไทยวา “เขมรถิ่นไทย” โดยทั่วๆ ไปแลวชาวเขมรถิ่นไทยจะเรียกตัวเองวา “คแมร” และเรียกภาษาของตัวเองวา “คแมร-ลือ” ซึ่งมีความหมายวา “เขมรสูง” เรียกภาษาเขมรและชาวเขมรที่อาศัยอยูในประเทศ กัมพูชาวา “คแมร-กรอม” แปลวา “เขมรต่ํา” และเรียกคนไทยหรือคนที่พูดไทยวา “ซีม” ซึ่งตรงกับ คําวา สยาม ในภาษาไทย กลาวโดยทั่วไปเขมรและไทยคลายกันมาก ผิดแตคนไทยเขมรมักจะมีผิวสีคล้ํากวาไทย และมักนิยมไวหนวดเครา สวนความเปนอยู การนับถือศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณีและ วัฒนธรรมจะมีสวนคลายคลึงกับวัฒนธรรมของไทยหรือของไทยลาวมาก เพราะวาตางก็อยูใน
12.
วัฒ นธรรมแบบพระพุท ธศาสนาและสั
ง คมชาวนาเหมื อนกั น แตค วามเชื่อ บางอย า งที่มี ค วาม แตกตางกันออกไปเขมรยังรักษาของตนไวอยางดี 2. ภาษาเขมร ได มี ก ารขุ ด พบศิ ล าจารึ ก อั ก ษรขอม ภาษาเขมรโบราณ ที่ มี อ ายุ เ ก า แก ตั้ ง แต ร าว พุทธศตวรรษที่ 12 ที่วัดจุมพลสุทธาวาส นอกจากนี้ยังไดมีการขุดพบอีกหลายที่ในจังหวัดสุรินทร ซึ่งเปนหลักฐานที่แสดงวามีกลุมชนที่ใชภาษาเขมรเปนภาษาพูดและภาษาเขียนมาตั้งแตโบราณแลว ในบริเวณจังหวัดสุรินทร โดยในบริเวณพื้นที่ตําบลเชื้อเพลิงนั้นมีหลักฐานที่บงบอกวามีการใช ภาษาเขมรตั้งแตโบราณจนถึงในปจจุบัน โดยพบวามีการจารึกคัมภีรพระไตรปฎกเปนภาษาเขมร โดยมีหลักฐานที่ วัดมุนีนิรมิต และชาวบานในตําบลสวนมากจะพูดภาษาเขมร คนที่พูดภาษาอื่น มักจะเปนคนที่มาจากตางถิ่น ภาษาที่นอกเหนือจากภาษาเขมร เชน ไทยลาว สวย ภาษาเขมรเปนภาษากลุมยอยของกลุม ภาษามอญเขมร นักภาษาศาสตรไดแบงภาษาออกเปน 3 กลุม ตามเขตการปกครอง คือ 1. ภาษาเขมรเหนือ หรือเขมรสูง หรือเขมรถิ่นไทย เปนภาษาของคนไทยเชื้อสายเขมรที่ อาศัยอยูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย 2. ภาษาเขมรกลาง เปนภาษาของผูที่พดภาษาเขมรในประเทศกัมพูชา ( ชาวกัมพูชาจะเรียก ู คนที่พูดภาษาเขมรในตอนใตของเวียดนามวา เขมรต่ํา และเรียกตนเองวา เขมรกลาง ) 3.ภาษาเขมรใต เป น ภาษาของคนเวี ย ดนามเชื้ อ สายเขมรที่ อ าศั ย อยู ท างตอนใต ข อง เวียดนาม สําหรับกลุมชนในจังหวัดสุรินทรและในเขตตําบลเชื้อเพลิงที่พูดภาษาเขมรนั้น ภาษาที่พูด มีความแตกตางจากภาษาเขมรในประเทศกัมพูชา จนบางครั้งพูดและฟงแตกตางกัน ปจจุบันภาษา เขมรที่ประชาชนในจังหวัดสุรินทรใชพูดกันมีลีลาของเสียงเรียบเสมอ นุมนวล ออนโยน ไม กระโชกโฮกฮาก ไมกระแทกกระทั้น ไมมีอักษรสูง คําที่ออกมาจะเปนอักษรกลางถึงอักษรต่ํา ทั้งสิ้น เปนภาษาที่ใชเขียนดวยอักษรขอมหรือเขมรโบราณ ซึ่งปรากฎเปนตัวอักษรในคัมภีรใบ ลานและบทสวดตางๆที่จารึกเปนตัวหนังสือไทยโบราณและอักษรขอม ภาษาเขมรนับเปนภาษา เขียนภาษาหนึ่งที่ผูบวชเรียนในสมัยกอน จําเปนตองเรียนควบคูกับภาษาไทย ทั้งนี้เพราะคัมภีรใบ ลานตามวัดเกาแกจะมีบทสวดหรือคําสอนเปนภาษาเมรเสียสวนใหญ ภาษาเขมรหรือเขมรถิ่นไทย เปนภาษาที่ไมมีระบบเสียงวรรณยุกต และไมมีระบบเสียง หนัก - เบาของสระ มีการแบงแยกความหมายของคําแตมีระบบทํานองเสียง คลายกับภาษาอังกฤษ เชน ซี บาย (ทํานองเสียงกลาง) แปลวา “กินขาว” ซี บาย(ทํานองเสียงสูง) แปลวา “กินขาวไหม”
13.
ภาษาเขมรถิ่นไทยมีสระทั้งหมด 24 เสียง
แบงเปนสระเดี่ยว 28 เสียง สระผสม 6 เสียง และมีพยัญชนะ 21 เสียง ซึ่งเกิดเปนพยัญชนะตนได 21 เสียง พยัญชนะทาย 14 เสียง ภาษาเขมรจํานวนมากมีรากศัพทมาจากภาษาบาลีสันสกฤต เชน การนับเดือนทั้งสิบสอง เดือน โดยการเริ่มนับตั้งแตเดือนหาเปนตนไป ดังนี้ ภาษาไทย ภาษาเขมร ภาษาสันสกฤต เดือนหา แคแจด แจตรมาศ เดือนหก แคประสะ ไพศาขมาศ เดือนเจ็ด แคเจษ เชษฐมาศ เดือนแปด แคอาสาต อาสาฒามาศ เดือนเกา แคสราบ ศราวณะมาศ เดือนสิบ แคพ็อดระบ็อด พัทธรปทมาศ เดือนสิบเอ็ด แคอาโสจน อาศวยธมาศ เดือนสิบสอง แคกระเดอะ กรรติกมาศ เดือนอาย(หนึ่ง) แคเมียะตูจ(เอียะเสียงยาว) มามตศิรมาศ เดือนยี(สอง) ่ แคเบาะฮ(เสียงกระแทก) ยุศยมาศ(เขมรเรียกวาเมียะตูจ) เดือนสาม แคเมียะทม(เอียะเสียงยาว) มาฆมาศ(เขมรเรียกวาเมียะทม) เดือนสี่ แคปะกุน ยวลคุณมาศ ภาษาเขมรเปนภาษาที่มีความคลายคลึงกับภาษาไทยมากกวาความแตกตาง เพราะภาษา เขมรมี ลั ก ษณะคํ า โดด เช น เดี ย วกั บ ภาษาไทย แต ใ นขณะเดี ย วกั น ก็ มี ลั ก ษณะของภาษาคํ า ที่ ติดตอกันซึ่งมีลักษณะดังนี้ 1. ความคลายคลึงกับภาษาไทย 1.1 คําในภาษาเขมรสวนมากเปนคําพยางคเดียว ไมมีการเปลี่ยนแปลงรูปเพื่อแสดง หนาที่ในประโยค เชนเดียวกับภาษาไทย เชน คํานาม ไมมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสดงเพศ พจน แตใชคําอื่นประกอบเพื่อแสดง เพศ พจน ตัวอยางเชน สรีสวยเนียะ(แสร็ย) ผูหญิง 1 คน โกนสรี - ลูกสาว คํากริยาไมมีการเปลี่ยนรูปเพื่อบอกกาล มาลา วาจก แตใชคําอื่นๆ ประกอบเชน ขฒกพุงซีบาย - ฉันกําลังกินขาว กนปรุสนึงโตวรีน - ลูกชายจะไปเรียน เนียงแดงเโตวตลาด - นางสาวแดงไปตลาด 1.2 คําในภาษาเขมรคําเดียวมีความหมายและหนาที่ในประโยคไดหลายอยางเชน นึง – จะ,กับ เนา – อยู,ยัง ผดัจ(เผด็จ) – ตัด
14.
1.3 ภาษาเขมรมีลกษณะนามใชเชนเดียวกับภาษาไทย เชน
ผกาปรโตง - ดอกไม 2 ั ชอ เปราะฮปรําเนียะ – ผูชาย 5 คน ปรํามูยดม 6 บาท 1.4 คําขยายไวหลังคําถูกขยาย เชน ผกาลออ - ดอกไมสวย บายจะเอิน - ขาวสุก อังกัวรธม - เมืองใหญ ลออจณัป – งามเดน 1.5 ภาษาเขมรใชในการสรางคําแบบคําประสม เชน ผกายพรึก-ดาวรุงดาวประจําเมือง ตาราเหาะ - ดาวเทียม 1.6 ภาษาเขมรเปนภาษาซอนคําแบบคําซอนภาษาไทย เชน เลมียดไลม - (พูก) ชา ๆ ผดวจเผดิม - แรกเริ่ม โรยเรียบ - เรียบรอย ราบเรียบ 1.7 การเรียงคําเขาประโยคในภาษาเขมรเปนภาษาไทย เชน อัปรีร สี กบาล - อัปรีย กินหัว โลก กรู ฟนเรียน ขญมดมปะเตียะ ยูรเฮย - คุณครูสอนฉันมานานแลว จะแก ขเมา เนา กรอม ปะเตียะ - หมาดําอยูใตถุนบาน 1.8 เขมรยืมคําภาษาตางประเทศ เชน คําบาลี สันสกฤต เขาไปในภาษาของตนมาก พอๆ กับภาษาไทย ทั้งนี้เพราะวาเปนภาษาเกี่ยวกับศาสนาและพิธีกรรม 2. ความแตกตางกับภาษาไทย 2.1 การสรางคําในภาษาเขมร มีการสรางคําที่แตกตางจากภาษาไทยตรงที่ภาษาไทยใช วิธีการสรางคําแบบประสมคําเปนหลัก แตเขมรโบราณใชวิธีในการสรางคําโดยการเติมหนาคําและ กลางคํา แตไมมีการเติมทายคํา ลักษณะเชนนี้คลายกับการสรางคําในภาษาคําติดตอ 2.2 เขมรไมใช ว รรณยุกต ขอนี้เปนความแตกต างที่เห็นไดชัดมาก คือ ถอยคํา ใน ภาษาไทยของเราใชวรรณยุกตกําหนดความหมายของคํา จึงตองคิดเครื่องหมายวรรณยุกตข้ึนใช สวนในภาษาเขมร การบงบอกความหมายของคําขึ้นอยูกับการเนนคํา ฉะนั้นการเขียนภาษาเขมร จึงไมมีเครื่องหมายวรรณยุกต 2.3 วิธีการหยิบยืมคําในภาษาตางประเทศไปใชในภาษาของตนทั้งภาษาไทยและเขมร ไดหยิบยืมภาษาตางประเทศใชในภาษาของตนมากพอๆ กัน ตางกันเพียงแตวา ไทยมักยืมคํามาใช มากกวาจะยืมระบบเสียง และระบบไวยกรณมาปรับปรุงในภาษาของตน สวนเขมรนั้นรับภาษา บาลี สันสกฤตเขาไปใชโดยการหยิบยืมคํา ระบบเสียงไวยกรณที่สําคัญ กล า วถึ ง ลั ก ษณะคํ า กริ ย าประการหนึ่ ง ซึ่ ง เกิ ด ขึ้ น ในประโยคแล ว ลั ก ษณะ โครงสรางของประโยคจะแตกตางไปจากโครงสรางของประโยคปกติ กลาวคือ ลักษณะเปนกริยา ตามดวยประธาน ลักษณะของประโยคโครงสรางแบบนี้จะพบมากกับคํากริยาที่ใชแสดงลักษณะ รางกาย ตัวอยางเชน - ภาษาไทยใช ขาหัก ภาษาเขมรใช หักขา(บักเจิง) - ภาษาไทยใช หัวแตก ภาษาเขมรใช แตก หัว (แบก- กบาล)
15.
โครงสรางทางสังคม วิถีชีวต วัฒนธรรมความเปนอยู
ิ ชาวเขมรถิ่นไทยในจังหวัดสุรินทรและชาวตําบลเชื้อเพลิงมีวิถีชีวิตเรียบงาย รักความสงบ ใหความเคารพผูท่อาวุโสกวา สวนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม เชน ทํานา ทําไร หนุมสาวรุน ี ใหมที่วางจากการทํานาทําไร จะเดินทางไปทํางานรับจางในตัวเมืองหรือในเมืองหลวง และเมื่อถึง ฤดูทําการเพาะปลูกก็เดินทางกลับสูภูมิลําเนาเพื่อประกอบอาชีพหลักของตน เด็กชายจะไดรับการ ฝกใหทํางานนอกบาน เชน งานในทองไรทองนา สวนเด็กหญิงจะไดรับการสั่งสอนอบรมให ทํางานภายในบาน เชน การทําอาหาร การเย็บปกถักรอย และงานทอผา โดยทั่วไปลักษณะของครอบครัวของชาวบานในตําบลเชื้อเพลิง จะเปนครอบครัวใหญ และมีบางครอบครัวที่มีการแยกออกมาอยู เปนครอบครัวยอยๆ ครอบครัวหนึ่งอาจจะประกอบดวย ตา ยาย (หรือ ปู ยา) ลุง ปา นา อา พี่ นอง ลูกหลานเปนจํานวนมาก ลักษณะครอบครัว เหมือนกับชาวไทยโดยทั่วไป คือ มีพอบานเปนหัวหนาครอบครัว พอครัวเปนผูทํางานเพื่อหาเลี้ยง สมาชิกในครอบครัว แตวาในสภาพปจจุบันนั้น ทั้งพอบานและแมบานตองชวยกันทํางานหาเลี้ยง ครอบครัว โดยทั่วไปชาวเขมรถิ่นไทยจะใหความสําคัญหรือใหเกียรติแกเพศชายในการดําเนิน กิจกรรมหรือตัดสินใจในเรื่องตางๆ แมวาวิถีชีวิตของชาวเขมรถิ่นไทยในสุรินทรและในเขตตําบลเชื้อเพลิงมีลักษณะคลายกับ คนไทยในทองถิ่นทั่วไป ถาเปรียบเทียบกับชาวเขมรในประเทศกัมพูชาแลว ความเปนอยู ประเพณี และความเชื่อตางๆ ของชาวเขมรถิ่นไทยจะมีสวนคลายกับชาวเขมรในประเทศกัมพูชามาก เชน ลักษณะของบานชั้นเดียวใตถุนสูง พิธีกรรมเกี่ยวกับการเกิด การตาย การแตงงาน การนับเวลา วัน เดือน ป การเชื่อเรื่องโชคลางของขลัง ฤกษยาม การรักษาโรคแบบพื้นบาน การประกอบ อาชีพ การละเลนตางๆ ตลอดจนอุปนิสัยสวนบุคคล เปนตน 1. อาหาร อาหารหลักของชาวบานในตําบลเชื้อเพลิง และชาวเขมรถิ่นไทย คือ ขาวเจา(ซึ่งไม เหมือนกับชาวอิสานทั่วไปทีกินขาวเหนียว) สวนอาหารพื้นบานที่เปนที่รูจกคือ “ปราเฮาะคแม” ่ ั (ปลาราเขมร) ปลาจอม ปลาแหง ปลายาง ปลาตม น้ําพริกจิ้มผัก เนื้อสัตว ผัก อาหารดังกลาว จัดเปนอาหารที่นิยมบริโภคในชีวิตประจําวัน นอกจากนี้ยังมีการนําวัตถุดบที่หาไดตามธรรมชาติ ิ มาประกอบอาหารที่จัดเปนเอกลักษณของตัวเอง เชน แกงปูใสเผือก(ละแวกะดาม) แกงกลวย (ซันลอรเจก) แกงหอย(ซันลอรกะเจา) แกงมะละกอ(ซันลอรละฮอง) ยําปลาจอม (เยือมแตร็ยป- รัย) ยําไขมดแดง(เยือมปวงอันกรอง) ยําดักแด เปนตน อาหารที่นยมบริโภคควบคูไปกับอาหาร ิ คาวไดแกอาหารหวานตางๆ หรือที่เรียกวา ปงแอม เชน ขาวตมใบมะพราว(อันซอมซาเลาะโดง)
16.
ขนมกนตาราง(นมกันตางราง) ขนมมุก(นมมุ) ขนมกันเตรือม
ขนมสะบันงา ขนมนางเล็ด ขนม ไสมะพราว(นมโกร็จ) เปนตน สําหรับอาหารที่ใชในประเพณี พิธกรรมตางๆ ของชาวบานในตําบลเชื้อเพลิงและชาว ี เขมรถิ่นไทยในจังหวัดสุรินทร จัดวาเปนอาหารที่ตองใชฝมอในการปรุงเปนพิเศษ อาหารที่เปน ื เอกลักษณในพิธีแตงงาน ประกอบดวย เนื้อหมู เสนหมี่ วุนเสน ฟกเขียว ฟกทอง วัตถุดบ ิ เหลานี้สามารถนําไปประกอบอาหารไดหลายอยาง เชน แกงหนอไม ตมจืดกระดูกหมู เนื้อหมู ทอดหรือยาง แกงหมูฟกทอง แกงจืดวุนเสน ผัดหมี่ แกงเผ็ดฟกเขียว อาหารเหลานี้ลวนเปน อาหารมงคลสําหรับเลี้ยงแขกเหรื่อที่มารวมงาน สาเหตุที่เลือกอาหารเหลานี้ในพิธีแตงงานมาจาก ความเชื่อที่วาหมูเปนอาหารในโอกาสพิเศษ เพราะในสมัยกอนนั้นเนื้อหมูหายากไมอาจ รับประทานไดทุกวัน ดังนัน การประกอบอาหารเนื้อหมูจึงเปนการแสดงถึงฐานะของผูจัดงานดวย ้ และเชื่อวาเสนหมี่ วุนเสนเปนสายใยเชื่อมโยงไมตรีของผูครองเรือนใหรักกันยิ่งยืนนาน และมีอายุ ยืน ฟกเขียวคือความร่ํารวย เพราะฟกเขียวหมายถึงเงิน ฟกทองหมายถึงทอง ฟกเขียวและฟกทอง จึงแทนความเชื่อของชาวเขมรวาจะร่ํารวยเงินทอง สวนในงานศพนั้นนิยมแกงกลวย ซึ่งเปน เอกลักษณเฉพาะ โดยเมื่อมีคนตายเจาภาพจะนํากลวยดิบ ซึ่งใชไดทกชนิด ยกเวนกลวยตานี ใส ุ เนื้อไก เนื้อหมู หรือเนื้อวัว ชนิดใดชนิดหนึ่งแตนิยมใชเนื้อไกเพราะเปนสัตวเลี้ยงประจําบานทีหา ่ ไดงาย แกงกลวยนี้ถือวาเปนอาหารสําหรับเลี้ยงแขกในงานศพโดยเฉพาะ เพราะมีความเชื่อวาเปน การตัดสายสัมพันธระหวางผูตายกับญาติมตรที่ยังมีชวิตอยู สําหรับอาหารในประเพณีวนสารท(วัน ิ ี ั แซนโดน-ตา) นิยมใชปลายาง หมูยาง ไกยาง หมูตม และขาวตมใบมะพราว เปนตน สวนเครื่องดื่มนั้น คนผูชายสวนมากนิยมดื่มสุรา (เหลาโรง)มาก และในพิธีการตางๆใน วัฒนธรรมของชาวเขมรถิ่นไทยจะตองใชสุราเปนเครื่องประกอบพิธีดวย คือใชสุราเพื่อการสื่อสาร ระหวางลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยูกับบรรพบุรุษที่ลวงลับไปแลว 2. การแตงกาย การแตงกาย จะคอนขางเรียบงาย ถามีงานออกนอกบานผูชายจะสวมเสื้อคอกลม แขนสั้น ยาวแลวแตโอกาส นุงโสรงไหม มีผาขาวมาคาดเอว สําหรับหญิงสาวจะสวมเสื้อคอยะวา นุงผาถุง ไหมซึ่งทําไวใชในครอบครัว ถาอยูบานจะนุงผางายๆสบายๆ ถาไปในงานตางๆจึงจะใชผาที่ สวยงาม เชน ผาโฮล ปะกาปะกุน ปะกาจันทน ผูทสูงอายุนิยมหมผาสไบ โดยเฉพาะเวลาไป ี่ ทําบุญที่วัด ผาไหมของชาวตําบลเชื้อเพลิงเปนผาที่มีลวดลายและสีสันที่เปนเอกลักษณประจํากลุม ซึ่งสวยงามมาก ผาไหมพืนเมืองที่มีชื่อคือ ผาโฮล ผาอําปรุม ผาซิ่น ้ เครื่องประดับสวนมากจะเปนเครื่องเงิน ซึ่งเรียกในภาษาพื้นเมืองวา ปะเกือม(ประคํา) โดยมีการนําเม็ดประเกือมมาทําเปนสรอยคอ สรอยแขนเปนเครื่องประดับ สวนที่หูนั้นใสตุมหูที่ เรียกวา “กระจอน” หรือเรียกอีกอยางหนึงวา “ตะเกา” มีกานงอนหอยลงมา ่
17.
ปจจุบันนีการแตงกายดวยผาไหม และเครื่องประดับเงิน กําลังเปนทีนิยม
ซึ่งเราจะเห็นได ้ ่ จากการที่สตรีสวมใสไปรวมงานตางๆ
18.
บทที่ 3
ผลการดําเนินงาน ความเชื่อ 1. โบล-หมอโบล โบล-หมอโบล (ทํานายโรค-เขมร) มีพิธีกรรมทํานายโรคภัยไขเจ็บแบบหนึ่งเรียกวา “โบล” ซึ่งแปลวา หาจุดที่ตรงดิ่ง เชน การดิ่งเสาเรือนตอนสรางบานเรือน การทํานายโรคภัยไขเจ็บ มีอุปกรณเสี่ยงทาย 4 ชนิด 1. ใชฝาเตาปูนที่มีหวงบนยอดฝาปด ใชเชือกผูกหวงบนยอดฝาปด มือหนึ่งจับเชือกใหเตา ปูนหอยหมอโบลจะบริกรรม หรือตั้งจิตเสี่ยงทาย หาสมมุติฐานไปเรื่อยๆหากวาคําใด เชน ผิดผีปูยา เตาปูนเริ่มกวัดแกวง ก็วาซ้ําๆ ถาเตาปูนกวัดแกวงเร็วขึ้น ก็ทํานายวาปวยเพราะผิดผีปูยา 2. ใชมีดยับ หรือมีดสะนากหรือตะไกรหนีบหมาก ใชเชือกดายผูกดานดามและดานหัว ตะไกรหนีบหมาก มือหนึ่งถือเชือก หมอโบลจะบริกรรมหรือตั้งจิตเสี่ยงทาย หาสมมุติฐานของ การเจ็บไขไดปวยโดยเรียกชื่อคํานั้นซ้ําๆกัน เชน ถูกคุณไสย หากตะไกรหนีบหมากกวัดแกวง และ คอยๆกวัดแกวงเร็วขึ้นๆก็เชื่อวา คนปวยนั้นถูกคุณไสย 3. ใชมีดจักตอกปกบนถวยคือใชถวยกระเบื้องเปลาๆแลวนํามีดจักรตอกปกในถวยใชไมไผ คีบมีด ใหไมไผวางบนจานพอดี ปากหมอโบลก็บริกรรมเสี่ยงทายหาสมมติฐานการอาเพศของคน ใชกลาวคําซ้ําๆไปเรื่อยๆหากกลาวคําใด เชน ผีตายโหงๆ ๆ มีดปกตั้งอยูบนถวยเปลาได เชื่อวา ปวยเพราะผีตายโหงกระทํา 4. ตั้งไขในจาน ใชไขไก 1 ฟองตั้งในจาน ขณะที่ตั้งหมอโบลก็บริกรรม เสี่ยงทายไป เรื่อยๆ เพื่อหาวาปวยสาเหตุใดหากกลาวคําวา “ผิดคําบนบาน” ๆๆ ไขไกตั้งได ก็ทํานายวาปวย เพราะผิดคําสาบาน ใหคนปวยไปแกบนตามที่เคยบนบานไว หลังจากนั้นผลของการวินิจฉัยสาเหตุ ของโรคภัยไขเจ็บก็ประจักษ ซึ่งสวนใหญจะเปนการวินิจฉัยโรคภัยที่เกี่ยวเนื่องดวยไสยศาสตร คือ เกิดอาเพศของบานเรือน สัตวเลี้ยง หรือถูกผีกระทําตางๆ เชน ผิดครูผิดผี ผีทัก พรายอะกาแสทํา ผีตายโหงทํา ผีบรรพบุรุษฝายพอหรือฝายแมทํา มีตอไมอยูใตถุนบาน(ปลูกบานครอมตอ) แนวรั้ว พุงเขาหาเรือนอาศัย ผีปาทํา เทวดาขออยูดวย (บ็องบ็อด) ผิดมะมวด ผิดคําบนบานไว ผีปูตา โกรธ ถูกคุณไสยของผี หรือของคน เสาเรือนมีไมคาบเปลือก ก็มีอยูในความเชื่อรวมกันเหลานี้ ถาบริกรรมไปหมดคําเหลานี้แลวโบลไมสําเร็จก็มาทายวาเปนโรคที่ตองไปหาหมอ แนะใหไป โรงพยาบาลเทานั้น
19.
หมอโบลนี้ไมบริการรักษาโรค ทําหนาที่เพียงวินิจฉัยโรคเทานั้น การไปทําพีธีเซนสรวง หรือพิธีกรรมอื่นใดญาติคนปวยตองไปจัดการเอง
และที่พบมาโดยมากเปนสตรีเพศเทานั้นที่เปน หมอโบล รูปที่ 1 การโบล 2. จวม จวมเปนความเชื่อในแงของการนับถือครูของการรักษาโรค การทําจวมนี้เพื่อใหผที่มารับ ู การรักษาใชในการกราบไหวบูชาประกอบกับการรักษาเพื่อใหผลการรักษาดีขึ้นกวาเดิม และ ชาวบานยังมีความเชื่อวาในบางคนแคเพียงทําจวมไวบูชาโดยไมตองใชยาแผนโบราณของหมอยาก็ สามารถหายจากโรคได ซึ่งการทําจวมนั้นของแตละคนจะทําไมเหมือนกัน ขึ้นกับ วัน เดือน ป เกิด และธาตุของแตละคน จวมนั้นทํามาจากใบตาลเปนหลัก และจวมของผูชายกับผูหญิงจะแตกตาง กัน โดยของผูชายจะทําเปน 4 แฉก สวนผูหญิงจะเปน 3 แฉก โดยการทําจวมนั้นเปนหนาที่ของ หมอยาผูใหการรักษา รูปที่ 2 จวมของผูชายและผูหญิง
20.
3. การเขาทรง(โจลมะม็วด)
มะม็วด เปนพีธีกรรมพื้นบานที่ทําเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บปวย ครูเขาทรง (กรู มะม็วด) สวนมากจะเปนผูหญิง การเขาทรงนั้นผูเขาทรงจะเตรียมขันใสขาวสาร และปกเทียนซึ่งจุดไฟแลว เมื่อทําพิธีเขาทรงผูจะใชมือสองขางหนา แลวนั่งทําสมาธิเพื่อใหวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สทธิ์เขาทรง ิ ราง เมื่อวิญญาณเขารางทรงแลวจะมีผูคอยซักถามวา เหตุใดคนไข ถึงไดปวย ผูเขาทรงก็แจงให ทราบ และบอกวิธแกดวย ภายใตเงื่อนไขการเสี่ยงทายที่ไดจากการโบล ซึ่งหมายถึงวิธการหา ี ี สาเหตุความเจ็บปวยของผูปวย หากการโบลบอกวาตองประกอบพิธีกรรมการโจลมะม็วด จึงจะ ทราบสาเหตุการเจ็บปวยที่แทจริงและโดยละเอียด ผูปวยหรือญาตินองของผูปวยก็จะประกอบพิธี ตามวันและเวลาที่ผูเสี่ยงทายระบุ แตตองไมตรงกับวันพระ ระยะเวลาการประกอบพิธีการโจลมะม็วด อยูในชวงเดือนกุมภาพันธ(แคเมียกทม) เดือน มีนาคม (แคประกุล) และเดือนเมษายน (แคแจด) กรูมะม็วด หรือ รางทรงจะทําหนาที่ตดตอหรือเปนสื่อกลางระหวางมนุษยกับวิญญาณ ิ บรรพบุรุษ รวมกันแสวงหาวิธการรักษาผูปวย ซึ่งอาจไดรับคําตอบใหรักษาดวยสมุนไพร การเสก ี เปาดวยลมปาก น้ําหมาก น้ามนต การบีบนวดตามรางกาย หรือการทิมแทงรางกายดวยรากไม การ ํ ่ ฟอนรําหรือการเซนไหวผีบรรพบุรุษ เปนตน ในบางครั้งวิญญาณที่เขาทรงตองการจะรํา ในกรณีนี้ผูเขาทรงซึ่งอยูในรางจะตองแตงกาย ใหม ผูจัดจะนําเครื่องแตงกายมาใหเลือกจนพอใจ และเมื่อรางทรงแตงกายแตงกายเสร็จแลววงป พาทยกจะบรรเลงเพลงสับเปลี่ยนจังหวะและทํานองเพลงไปเรื่อยๆจนกวารางทรงจะพอใจ หาก ็ วิญญาณในรางทรงพอใจเพลงอะไรก็จะรายรําไปตามจังหวะเพลงไปเรือยๆ และเมื่อรางทรงรายรํา ่ จนพอใจแลววิญญาณจะออกจากรางผูเขาทรงจะกัดเทียนที่จุดอยูใหดับ ในกรณีที่วิญญาณภูติผีเขารางทรง ผูเขาทรงจะรําและมีการ “กาบเป”(ฟนเป)ดวย คือเครื่อง ประกอบการเขาทรงทําจากตนกลวย และมีเครื่องเคียเป ซึ่งประกอบดวยขนม ขาวตมกลวย ขาวตอก ดอกไม การรําเชนนี้เปนการรําเพือขับไลเสนียดจัญไรไมใหเขามาขัดขวางการประกอบ ่ พิธกรรม หากเจาภาพใดหรือเครือญาติไมสามารถเขาทรงไดดวยตนเอง ครูมะม็วดจะตองเขาทรง ี ในพิธกรรมโจลมะม็วดครั้งนั้นดวย นอกเหนือจากการทําหนาที่เขาทรงครั้งสุดทายเพื่อยุติพิธีการ ี โจลมะม็วด ซึงเรียกวา ซาปาดาน ่ หากคนปวยมีอาการออนเพลีย ยกแขนขาไมขึ้น กินไมได นอนไมหลับ ฯลฯ แมครู มะม็วดจะแนะนําใหทําพิธี “เฮาปลึง” หรือเรียกขวัญ เพราะเชื่อวาขวัญของคนปวยไมอยูในรูป ตองทําพิธีเรียกขวัญใหกลับมา ชาวไทยเขมรเชื่อวา ขวัญมีลักษณะคลายดวงแกว มีสีรุง 7 สี ลักษณะกลมและโตเทากํามือคน
21.
ในกระบวนการเรียกขวัญ (เฮาปลึง)นั้นแมครูมะม็วดจะเชิญเทพมาเขาราง ซึ่งมักจะอางอิง พระโพธิสัตว(เทพแหงการแพทยและพยาบาล
ในพุทธศตวรรษ 17-18 ) ชวงระยะเวลาของการเขา ประทับรางทรง( 2-3 ชั่วโมง) โดยครูมะม็วดจะรองเพลงเชิญชวนใหดวงแกว(ขวัญ)ที่หายไปกลับมา ตอจากการพรรณนาหาแกว(ขวัญ) เรียกขวัญมาแลว แมครูมะม็วดก็รายรําดาบเพื่อไลภูติผี ปศาจ หรือสิที่ไมดีตางๆออกจากผูปวย สุดทายก็ใชดาบไปฟนเป(อุปกรณใสเครื่องเซนผีสางระดับ ่ ต่ําที่ไลออกจากรางของคนปวย รวมทังเปนอุปกรณรองรับสิ่งไมดีหรือโรครายทั้งหลาบจากราง ้ ของผูปวย ทําจากกานกลวย) เปนอันเสร็จพิธี 4. การเฮาปลึง ปลึง เปนภาษาเขมรแปลวา ขวัญ อาศัยอยูกับจิตของคน ชาวเขมร เชื่อวาจิตใจของคนจะ มีปลึงอยูทั้งหมด 19 ดวง ทําใหจิตใจปกติ มีความสุขสดใส หากเกิดเหตุการณที่ทําใหคนนันตกใจ ้ หวาดกลัว หรือหวาดผวา ก็จะทําให “ละลัวะปลึง” (ขวัญขาดพรองจํานวนไป) หรือ “บัดปลึง” (ขวัญหายหรือขวัญไมอยูกับเนื้อกับตัว) จําตองทําพิธี “เฮาปลึง”(เรียกขวัญ) หรือหากวาปลึงนั้นถูก ผูที่มีเวทมนตสวดสูบเอาปลึงไปทําคุณไสย หรือภูติผีมาจับเอาปลึงไปทําราย กักขัง ก็ตองทําพิธี “ยัวปลึง” (เอาขวัญคืนมา) ปลึงนอกจากจะมีในมนุษยแลวในสิ่งอื่นๆก็อาจจะมีเชน ในขาวเปลือก จึงเกิดพิธี “เฮาปลึง สะเริว”(เรียกขวัญขาว) เปนตน คนที่ “ละลัวะปลึง” หรือ “บัดปลึง” มักจะมีอาการอิดโรย ซูบซีด ไมมีแรง กินไมอรอย นอนไมหลับ ไมมีชีวิตชีวา แมวากายมิไดแตกดับ แตวาจิตใจกลับสลายแลว เพราะวาปลึงไดออก จากรางไปแลว เสมือนยามหลับที่เราฝนไป ชาวเขมรก็เรียกวา ปลึงไดไปเที่ยว โดยออกจากรางไป แตวาปลึงก็กลับมาเมื่อตื่น แตคนที่ละลัวะปลึงหรือวาบัดปลึง จะตองทําพิธีเฮาปลึง(เรียกขวัญหรือ สูขวัญ) ในพิธีเฮาปลึง ก็จะมีสํารับประกอบพิธี เรียกวา “บายปลึง”(ขาวขวัญ) ประกอบดวยขาว สวย ไขไกตม น้ําตาลปก(น้ําออย) น้ํามะพราวออน และเนื้อมะพราวออน และมีดายสําหรับผูก ขอมือเจาของปลึง ดายนี้ชุบน้ําขมิ้นใหเหลือง เปรียบเสมือนเปนเสนลวดทองคํา จากนั้นก็จะนําดายทั้ง 19 เสน รวบเขาดวยกัน แลวคลึงเรียกขวัญ(เฮาปลึง) ที่ขอมือของ คนไข ครั้งที่ 1 ก็นับหนึ่ง ครั้งที่ 2 ก็นับสอง จนกระทั่งถึงครั้งที่ 19 แลวรองวา “ปรําบูน ตะนอบ สอบ กรบ โมเวย ปลึง ปเลียะ โมเวย ปลึง เปลียะ ๆ” ( 19 ครั้งครบถวน มาเถิดขวัญเอยๆ) แลวผูก แขนดวยดายเหลานี้ เปนเสร็จพิธี
22.
5. พิธีมงก็วลจองได
คําวา มงก็วลจองได เปนคําในภาษาเขมร แปลวา ดายมงคลผูกขอมือ นิยมจัดขึ้นในงาน มงคลทั่วไป อาทิ งานมงคลสมรส งานเรียก ขวัญนาค งานเรียกขวัญโกนจุก งานเรียกขวัญวันแรก เกิด งานขึ้นบานใหม งานยกเสาเอก งานครบรอบวันเกิด งานวันเกษียณอายุราชการ งานตอนรับ แขกบานแขกเมือง ฯลฯ นอกจากนียังมีพิธเี รียกขวัญในโอกาสอื่นๆ เชน เรียกขวัญเมือหายปวยแลว ้ ่ เปนตน ลําดับพิธมงก็วลจองได เริมจากการเตรียมอุปกรณเพื่อประกอบพิธีใหครบถวน และเมื่อ ี ่ ไดฤกษดแลวจะมีผูใหญทําพิธีกลาวเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษใหมารวมทําขวัญใหตามดวย ี อัญเชิญเทวดา และการสูขวัญของพอครูเชิญขวัญ (อาจมีการรําเชิญขวัญดวยถาหากเปนพิธีในงาน สําคัญ) ลําดับสุดทายผูใหญจะนําดายมงคลมาผูกขอมือสูขวัญใหผูเขาพิธี การผูกขอมือดวยดายมงคลมี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นแรกขับไลสิ่งที่เปนอวมงคลออกจากรางกาย โดยผูทาพิธีจะเอาดายมากวาดสิ่งที่ไมดีออกจากมือพรอมกับนับ 1 ถึง 7 เปนภาษาเขมร และกลาวคํา ํ ขับไล ขั้นที่สองเปนการอันเชิญสิ่งที่เปนมงคลเขาสูรางกาย จะนับ 1 ถึง 19 ตามดวยการอัญเชิญ ขวัญ เมื่อขับไลสิ่งไมดีและอันเชิญสิ่งดีเสร็จแลว จึงมีการผูกขอมือพรอมกับกลาวคําอวยพร ในพิธีการขับไลสิ่งที่เปนอวมงคลผูรับการสูขวัญตองคว่ํามือใหผูใหญนําดายมากวาดสิ่งไม ดีออกจากรางกายผานทางมือ ซึ่งดายที่ใชกวาดสิ่งชัวรายนี้เมื่อใชเสร็จแลวจะโยนทิ้ง แลวผูใหญจะ ่ นําดายมงคลเสนใหมมาทําพิธีเรียกสิ่งมงคลเขาสูรางกาย ซึ่งผูรับการสูขวัญจะตองแบฝามือทั้งสอง ขาง เมื่อเสรจการเรียกขวัญแลวผูใหญจะใหศีลใหพรและผูกขอมือใหดวยดายทีใชทาพิธีเรียกสิ่งที่ ่ ํ เปนมงคลนั้น 6. พิธีจัดงานศพ การตายเป น วาระสุ ด ทายของชีวิ ต การจั ด งานศพใหแ กผูต ายนับ เป น ประเพณีสุด ทา ย เกี่ยวกับชีวิต จัดขึ้นตามพิธีกรรมที่เกิดจากความเชื่อในศาสนาที่ตนนับถือ กลุมคนไทยเขมรที่นับ ถือศาสนาพุทธก็จะจัดพิธีศพตามหลักการของศาสนาพุทธซึ่งผสมผสานอยูระหวางคตินิยมเชิงพุทธ กับพราหมณ การทําโลงศพหรือหีบศพ ตามชนบทไมนิยมซื้อโลงสําเร็จรูป แตจะชวยกันตอโลงเองโดย นําไมประการฝาบานและกระดานพื้นบานของผูตายมาตอเปนโลงแลวประดับดวยกระดาษแกว หลากสี นํามาตัดเปนลวดลายตางๆ การตั้งศพนิยมตั้งที่บานผูตาย ถาเปนศพของญาติผูใหญจะตั้ง ไวหลายวันตั้งแต 3 –7 วัน ศพเด็กหรือศพคนที่มีฐานะยากจนจะตั้งไว 1-3 วัน ก็จะทําพิธีฌาปนกิจ ในชวงที่ตั้งศพสวดอภิธรรมที่บานจะมีประเพณีการเลนอยางหนึ่งเรียกวา “ลึงกาฮ” หมายถึงการ เลนทายเหรียญวาจะออกหัวหรือกอย โดยใชเงินเหรียญหมุนแลวครอบดวยขัน สวนการแทงหรือ การทายจะใชเสื้อผา สิ่งของ ตลอดจนเครื่องประดับเทาที่มีอยูขณะนั้น ไมไดเลนไดเสียกันอยาง
Download now