นางสาว สุปราณี วังกะชา เลข

1. โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง ขนมจีบ
โดยจัดทา
1. น.ส. สุปราณี วังกชา เลขที่ 14
2. น.ส. วราภร กกสันเทียะ เลขที่ 44
นาเสนอ
อาจารย์ ศิริรัตน์ นาไทย
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียน ตราดสรรเสริญวิทยาคม
อาเภอ เมือง จังหวัด ตราด
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17

2. โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง ขนมจีบ
โดยจัดทา
1. น.ส. สุปราณี วังกชา เลขที่ 14
2. น.ส. วราภร กกสันเทียะ เลขที่ 44
นาเสนอ
อาจารย์ ศิริรัตน์ นาไทย
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียน ตราดสรรเสริญวิทยาคม
อาเภอ เมือง จังหวัด ตราด
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17

3. เกี่ยวกับโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง ขนมจีบ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผู้จัดทา 1. นางสาว สุปราณี วังกชา เลขที่ 14
2. นางสาว วราภร กกสันเทียะ เลขที่ 44
ครูที่ปรึกษา ครูศิริรัตน์ นาไทย
สถานที่ศึกษา โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17
ปีการศึกษา 2557

4. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้จะสาเร็จขึ้นได้ด้วย อาจารย์ ศิริรัตน์ นาไทย อาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งกรุณาสละเวลา ให้
ความรู้และคาแนะนาตลอดการทาโครงงาน
ขอขอบพระคุณ สาขาวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) โรงเรียนตราดสรรเสริญ
วิทยาคม ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ สาหรับทาโครงงาน
ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการทาโครงงาน
“ ท้ายสุดนี้ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและเป็น
ประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจต่อไป”….
คณะผู้จัดทา

5. บทคัดย่อ
โครงงานเรื่อง การทาขนมจีบ มีจุดมุ่งหมาย เพื่ออยากให้ผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง
ขนมจีบได้เข้ามาศึกษาหาโครงงานขนมจบได้รวบรวมวิธีการทาไว้อย่างละเอียดตั้งขั้นตอน แนวคิด
ที่มาในการทา มีวัตถุประสงค์และวิธีการดาเนินงาน มีวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ ขั้นตอนการดาเนินแต่
ละขั้นตอน ผลการดาเนินงาน การคิดเมนุใหม่ๆ การดัดแปลงส่วนผสมให้มาเข้ากัน กานนาไปใช้
ประกอบอาชีพเราจะได้มีธุรกิจที่เพิ่มขึ้น การสรุปโครงงานเรื่องขนมจีบของเราได้สรุปผลการ
ดาเนินงาน ปัญหาและอุปสัคของโครงงานและมีข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาโครงงาน
อีกต่อไป และปัจจุบันเนื้อหมูเป็นที่นิยมนามาประกอบอาหารเป็นอย่างมากเนื่องจากให้คุณค่าทาง
โภชนาการ เมื่อนาเนื้อหมูมาประกอบอาหารเป็นขนมจีบโดยนาเนื้อหมูไปผสมกับวัตถุดิบต่างๆ
เพื่อให้เกิดเป็นขนมจีบไส้หมู ที่มีรสชาติความแปลกใหม่และมีสีสันน่ารับประทาน เป็นวิธีที่ช่วยใน
การทาอาหารว่างไว้รับประทาน และยังสามารถนาไปประกอบอาชีพเสริมระหว่างเรียนได้

6. สารบัญ
เรื่อง หน้า
กิตติกรรมประกาศ ก
บทคัดย่อ ข
บทที่ 1. บทนา
1.1.แนวคิดที่มาของโครงงาน 8-9
1.2.วัตถุประสงค์ของโครงงาน 8-9
1.3.วิธีการดาเนินงาน 8-9
1.4.ประโยชน์ที่ได้รับ 8-9
บทที่ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.1. หนังสือรวมการฝึกทาขนมจีบ 10
2.2 สื่อเทคโนโลยี 10
บทที่ 3. วิธีการดาเนินงานโครงงาน
3.1. วัสดุ อุปกรณ์ 11
3.2. ขั้นตอนการดาเนินงาน 11
บทที่ 4. ผลการดาเนินงาน
4.1. ผลกการดาเนินงาน 12

7. สารบัญ( ต่อ)
เรื่อง หน้า
4.2. การนาไปใช้ 12
บทที่ 5. สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
5.1. สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 13
5.2. ปัญหาและอุปสรรค 13
5.3. ข้อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนา 13
บรรณานุกรม ค
ภาคผนวก ง
ข้อมูลผู้จัดทา จ

8. บทที่ 1
บทนา
1. แนวคิดที่มาของโครงงาน
ปัจจุบันเนื้อหมูเป็นที่นิยมนามาประกอบอาหารเป็นอย่างมากเนื่องจากให้คุณค่าทาง
โภชนาการ เมื่อนาเนื้อหมูมาประกอบอาหารเป็นขนมจีบโดยนาเนื้อหมูไปผสมกับวัตถุดิบต่างๆ
เพื่อให้เกิดเป็นขนมจีบไส้หมู ที่มีรสชาติความแปลกใหม่และมีสีสันน่ารับประทาน เป็นวิธีที่ช่วยใน
การทาอาหารว่างไว้รับประทาน และยังสามารถนาไปประกอบอาชีพเสริมระหว่างเรียนได้
2. วิธีการดาเนินงาน
2.1 ศึกษาและสนใจในการทาโครงงานขนมจีบ
2.2 ชอบและสนุกกับการทาโครงงานเรื่องนี้
2.3 ผู้อ่านให้การตอบรับดีมากกับการจัดทาโครงงานนี้ขึ้นมา
3. ประโยชน์ที่ได้รับ
3.1 สามารถนาไปใช้ในการหารายได้ระหว่างเรียนได้
3.2. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3.3. เพื่อส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
4.1 เพื่อใช้ประกอบการเรียนได้
4.2 เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
4.3 เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจในการทาโครงงาน

9. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ขนมจีบ ผู้จัดทาได้รวบรวมแนวคิดต่างๆจากเอกสารที่
เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1. หนังสือรวมการฝึกทาขนมจีบ
ขนมจีบถือกาเนิดที่เมืองกวางตุ้ง มีตานานเล่ากันว่าสมัยก่อนนั้นมีนักเดินทางเส้นทางสายไหมมักจะหา
สถานที่เพื่อแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทาง ดังนั้นบนเส้นทางสายไหมจึงเต็มไปด้วย “ ร้านน้าชา “ เพื่อ
ต้อนรับอาคันตุกะนักเดินทางแปลกหน้าเป็นประจา ขณะเดียวกันชาวนาตามชนบทเมื่อทางานเหนื่อยล้าก็
แวะพักผ่อนและดื่มน้าชายามบ่ายตามร้านน้าชาเหล่านี้ขณะที่ดื่มน้าชาก็จะต้องมีอาหารกินเล่นเพื่อกินคู่กับ
น้าชา บรรดาเจ้าของร้านจึงเริ่มคิดอาหารกินเล่นต่าง ๆ ขึ้นมา ด้วยความที่เป็นอาหารกินง่ายและรสชาติ
แปลกใหม่ ขนมจีบจึงกลายเป็นอาหารที่นิยมทั่วโลก
2.2. สื่อเทคโนโลยี
การจัดทาโครงงานเล่มนี้ทางเราได้จัดทา วิธีการทา และวัสดุอุปกรณ์ได้จัดเป็นหนังสือเล่มเล็กที่รวบรวมถึง
ตั้งแต่วิธีแรกในการทาขนมจีบ เทคนิคในการทาและเมนูใหม่ๆ โครงงานนี้อาจจะไปประกอบเป็นอาชีพใน
อนาคตได้

10. บทที่ 3.
วิธีการดาเนินงานโครงงาน
3.1. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ
1. เครื่องนึ่งไฟฟ้า
2. มีด
3. เขียง
4. จาน
5. ชาม
6. ช้อน
3.2 ขั้นตอนการดาเนินโครงงาน
1. ขูดแป้ งที่ติดกับแผ่นเกี๊ยวออก
2. นาหมูสับ ผักชีหั่น ถั่วงอกหั่น วุ้นเส้นหั่น ลงในภาชนะที่เตรียมไว้
3. ปรุงรสด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้จากนั้นคนให้เข้ากัน
4. วางเกี๊ยว ตักไส้ขนมจีบใส่ 1ช้อนชา
5 .จีบให้สวยงาม ตัดปลายออกให้เสมอกัน
6. เรียงขนมจีบ ลงในหม้อนึ่ง อย่าให้ติดกัน พรมน้าพอทั่ว นึ่งประมาณ 30-40 นาที
7. ขนมจีบหมู พร้อมเสิร์ฟ

11. บทที่ 4
ผลการดาเนินงาน
4.1. ผลการดาเนินงาน
โครงงานนี้ไม่ได้หลังอะไรมากเพียงแค่อยากลองหาวิธีในการดัดแปลงส่วนผสมต่างๆให้มาเข้าด้วยกันและ
เกิดเป็นเมนูใหม่ๆขึ้นมา หวังเพื่ออยากให้โครงงานนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งและถูกใจคนที่รักในการทานขนมจีบ
4.2. การนาไปใช้
เมื่อเราได้เมนูใหม่มานั่นก็คือขนมจีบ เราก็จะเกิดไอเดียร์ในการต่อยอดสามารถนาไปประกอบอาชีพรึ
นาไปแจกจ่ายกัน ถ้านาไปประกอบอาชีพเราก็จะมีธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

12. บทที่ 5
สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
5.1. สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
เราจะได้ข้อสรุปในการทาโครงงาน เรื่อง ขนมจีบ ดังนี้ เวลานึ่งขนมจีบ อย่าวางขนมจีบชิดกันและต้องพรม
น้าให้ทั่ว เพราะขนมจีบจะไม่ติดกันและแข็งกระด้าง เวลาทานควรรับประทานกับน้าจิ้มและราดหน้าด้วย
กระเทียมเจียว เพราะจะทาให้ขนมจีบมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น ถ้าต้องการสีสันที่น่ารับประทานควรจะ
ตกแต่งด้วยผักสีสันต่างๆ
5.2 ปัญหาและอุปสรรค
การจัดเตรียมอุปกรณ์ไม่ครบ หรือการสื่อสารผิด และที่สาคัญคือ เวลาในการทา ปัญหาเหล่านี้ทางเราจะ
ขอนาไปปรับปรุงและทาการแก้ไข
5.3. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
ควรรับประทานกับน้าจิ้มและราดหน้าด้วยกระเทียมเจียว เพราะจะทาให้ขนมจีบมีรสชาติที่กลมกล่อมมาก
ขึ้น เวลานึ่งขนมจีบ อย่าวางขนมจีบชิดกันและต้องพรมน้าให้ทั่ว เพราะขนมจีบจะไม่ติดกันและแข็ง
กระด้าง ขนมจีบมักเป็นที่นิยมทานคู่กับน้าชา ต่อมาจึงได้คิดค้นทาขนมอื่นขึ้นมากินคู่กันนั่นก็คือ
ซาลาเปา แต่ทางเราได้ยกเรื่องขนมจีบขึ้นมาเพราะเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย

13. บรรณานุกรม
เว็บไซต์
1. http://www.yangtalad.ac.th/worknid/worknid54/worknid50754/chariya/index8.html
( 21/12/2014)
2. http://www.licec.ac.th/download/project/accounting/2553/005.pdf
3. ( 21/12/2014)
4. http://www.licec.ac.th/download/project/accounting/2553/005.pdf
5. ( 21/12/2014)