More Related Content
Similar to ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต กศน.ม.ต้น (20)
More from peter dontoom (20)
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต กศน.ม.ต้น
- 1. ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต –ด้านการศึกษา
เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้าน การแพทย์ และอื่นๆที่เราสนใจ เป็นต้น
ทาหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ หรือคลังหนังสือมหาศาล
นักเรียน และนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับโรงเรียน และมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กาลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ ข้อมูลที่เป็นข้อความ เสียง และภาพเคลื่อนไหวต่างๆ
ทาการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
- 2. ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต –ด้านธุรกิจและเชิงพาณิชย์
เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
สามารถซื้อ –ขายสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
บริษัทหรือองค์กรต่างๆสามารถให้บริการและสนับสนุนลูกค้าผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา ตอบปัญหาต่างๆให้แก่ ลูกค้า เป็นต้น
ทาการตลาด การโฆษณาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต –ด้านความบันเทิง
ค้นหา Magazine online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆได้
ฟังวิทยุผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
สามารถดึงดาวน์โหลด (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ ใหม่และเก่ามาดูได้
- 3. นอกจากนี้ยังมีประโยชน์มีความสาคัญในรูปแบบอื่นๆอีก
1. ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่ง เหมือนกับการส่งจดหมายแบบเดิมๆ แต่การส่งอีเมล์จะรวดเร็วกว่ามาก 2. โอนถ่ายข้อมูล ค้นหา และเรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาเก็บไว้ใน เครื่องของเราได้ ทั้งข้อมูลประเภทตัวหนังสือ รูปภาพ และเสียง 3. ค้นข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายจากแหล่งข้อมูลต่างๆทั่วโลกได้ ผ่านWorld wide Web4,สื่อสารด้วยข้อความ Chat เป็นการพูดคุยโดยพิมพ์ข้อความตอบ กัน การสนทนากันผ่านอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเรานั่งอยู่ในห้อง สนทนาเดียวกัน แม้อยู่คนละประเทศหรือคนละซีกโลกก็ตาม
- 5. E-Mail หมายถึงการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
*ISP ทาหน้าที่ใดในระบบอินเทอร์เน็ตให้บริการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตแก่หน่วยงานและบุคคลทั่วไป
*เว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการWWW.MOE.go.th
*เว็บไซต์ที่คนใช้มากที่สุดGoogle
ภาษาใดที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจเพื่อให้สามารถแสดงผลได้ในระบบ อินเทอร์เน็ตHTML
- 6. พื้นฐานการทางานของระบบอินเตอร์เน็ต
TCP/IP ก็คือ การต่อเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ อุปกรณ์ใดเข้าสู่ระบบเครือข่ายที่เป็น TCP/IP นั้นทุก เครื่องจะต้องมีหมายเลขกากับเสมอ
IP หมายเลขนี้จะเป็นเลขฐาน 2 ขนาด 32 บิต2 จานวน 4 ชุด192.150.249.11, 64.4.43.7
- 7. Start / Run / winipcfgแล้วกด ok จะมี หน้าต่างแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลข IP
- 8. “network etiquette” หมายถึง จรรยมารยาท ของการอยู่ร่วมกันในสังคมอินเตอร์เน็ต หรือ cyberspace
กฏข้อที่ 1ต้องไม่ลืมว่าปลายทางอีกด้านหนึ่งของการสื่อสารนั้นที่จริง แล้วก็คือ “มนุษย์” กฎข้อที่ 2มารยาทที่เราถือปฏิบัติในสังคมมาเป็น บรรทัดฐานของการอยู่ร่วมกันแบบออนไลน์กฎข้อที่ 3ใช้งานอย่างมีสติ รู้ตัวว่าเรากาลังอยู่ ณ ที่ใดกฎข้อที่ 4“คิดสักนิดก่อน submitกฎข้อที่ 5ถ้าจะให้ “ดูดี” ก็ควรใช้ถ้อยคาที่เหมาะสมกฎข้อที่ 6การแลกเปลี่ยน ” ความรู้” กฎข้อที่ 7อย่าการใช้คาที่หยาบคายกฎข้อที่ 8รู้จักจักเคารพใน ความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นกฎข้อที่ 9คาเตือนสาหรับผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษ กฎข้อที่ 10ให้คาแนะนาอย่างสุภาพ
- 9. หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
1. รับข้อมูล และชุดคาสั่ง (หน้าที่ของ Input Unit)
2. ประมวลผลข้อมูลที่ได้ ตามคาสั่งหรือชุดคาสั่ง (หน้าที่ของ CPU)
3. แสดงผลข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว (หน้าที่ของ Output Unit)
4. บันทึกข้อมูลลงสื่อข้อมูล เพื่อเรียกกลับมาใช้อีกครั้ง (หน้าที่ ของ Memory Unit)
•
- 10. หน่วยรับข้อมูลแบบธรรมดา
- เครื่องอ่านบัตรเจาะรู (Card Reader)
- เครื่องอ่านเทปกระดาษ (Paper Tape Reader)
- เครื่องอ่านเทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape Reader)
- เครื่องอ่านแผ่นดิสก์แบบอ่อน (Diskette Drive หรือ Floppy Disk Drive)
- เครื่องอ่านแผ่นดิสก์แบบแข็ง (Hard Disk Drive)
- เครื่องอ่านแผ่นซี-ดี (CD-ROM Drive)
- 11. “คอมพิวเตอร์” ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้ว “คอมพิวเตอร์” เข้ามามีบทบาทในงานต่าง ๆเกือบทุกด้านใน สังคมมนุษย์
อัลวิน ทอฟเลอร์ นักวิชาการชาวอเมริกัน (ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Third Wave) ได้ทานายไว้ว่า
บรรยากาศของการทางานในสานักงานสาหรับอนาคตนั้น จะไม่รกรุงรัง ด้วยกระดาษ จะไม่มีการนาข้อมูลเข้าแฟ้มผิด ๆ อีกแล้ว ข้อมูลสถิติ ทางการตลาด การขาย การบัญชี ทุกอย่างจะทันสมัย
ทันเวลา การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทุกรูปแบบจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีขีดความสามารถสูง
- 12. *สามารถจัดเก็บข้อมูลจากจุดเกิดได้อย่างรวดเร็ว เช่น การ ใช้รหัสแท่ง * สามารถบันทึกข้อมูลจานวนมาก ๆ เอาไว้ใช้งาน หรือ อ้างอิงได้ * สามารถคานวณหาผลลัพธ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว * สามารถสร้างผลลัพธ์ได้หลากหลายรูปแบบ * สามารถส่งสารสนเทศ ข้อมูล หรือผลลัพธ์ที่ได้จากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็วเทคโนโลยีสารสนเทศ (InformationTechnology)
- 13. คอมพิวเตอร์คืออะไร
คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถทางานได้เอนกประสงค์
ขึ้นอยู่กับคาสั่งหรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่มนุษย์กาหนดให้ คอมพิวเตอร์ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ การคานวณค่าต่าง ๆ แทน มนุษย์ แต่การคานวณนั้นจะต้องมีขั้นตอนที่สามารถพิสูจน์ได้
“มนุษย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความเป็นเลิศในด้านการคิด”
- 15. หน่วยรับข้อมูลแบบพิเศษ
*เครื่องอ่านตัวอักษรที่เขียนด้วยหมึกแม่เหล็ก (Magnetic Ink Character
Recognition : MICR) คือหน่วยรับข้อมูลที่ใช้สาหรับอ่านข้อมูลจาก เอกสารที่
พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ชนิดพิเศษที่ผสมด้วยสารแม่เหล็ก เช่น รหัสต่าง ๆ บนเช็ค
ของธนาคารต่าง ๆ
* เครื่องรับข้อมูลจากเอกสารโดยตรง เป็นเครื่องมืออ่านข้อมูลที่บันทึกอยู่ใน
เอกสาร ในรูปของตัวพิมพ์ ลายมือ หรือเกิดจากการฝนด้วยดินสอ และอาจจะ
อยู่ในรูปของรหัสที่ออกแบบไว้เฉพาะ อุปกรณ์ของหน่วยรับข้อมูลประเภทนี้
- 16. เครื่องรับข้อมูลจากเอกสารโดยตรง
เครื่อง OCR : Optical Character Reader คืออ่านเอกสาร
ต่าง ๆ แล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เช่น Scanner
เครื่อง OMR : Optical Mark Reader เป็นหน่วยรับข้อมูล
ที่ใช้สาหรับอ่านข้อมูลที่ได้จากการฝนดินสอขนาด 2B เช่น
การสอบ,การลงทะเบียนของสถาบันการศึกษา
เครื่องอ่านแถบสี (Bar Code Reader) เป็นหน่วยรับ
ข้อมูลที่ใช้สาหรับอ่านข้อมูลที่อยู่ในรูปรหัสแถบสีขาว
สลับดา (Bar Code) เช่น เครื่องอ่านตาม
ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ
- 17. Central Processing Unit หรือหน่วย ประมวลผลกลาง ทาหน้าที่เป็นสมองคอมพิวเตอร์
◊ALU : Arithmetic and Logical Unit เป็นหน่วยที่ทาหน้าที่ด้านการคานวณค่าต่าง ๆ ตามคาสั่งที่ป้อนเข้ามา เช่น บวก ลบ คูณ หาร และการทางานในรูปแบบของฟังก์ชันต่าง ๆ ทาง คณิตศาสตร์นอกจากนี้ยังทาหน้าที่เปรียบเทียบข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางด้านตรรกวิทยา (Logical) อีกด้วย
◊Control Unit (CU) หรือหน่วยควบคุม ทาหน้าที่ดูแลและประสานงานในการทางานของ หน่วยต่าง ๆในคอมพิวเตอร์ ได้แก่การรับ-ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์รอบข้างต่าง ๆ ซึ่งการปฏิบัติงานของ หน่วยควบคุมนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ขั้นตอนคือ การอ่านและแปลคาสั่ง (Instruction Cycle) ใน ขั้นนี้ CUจะทาการแปลคาสั่งเป็นรหัสในการทางาน เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถรับรู้ได รหัสการ ทางานดังกล่าวนี้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของ CPU
- 18. Output Unit หรือหน่วยแสดงผล
ที่นาเอาผลหลังจากที่คอมพิวเตอร์ประมวลผล
เสร็จแล้วออกมาแสดงในงานลักษณะต่าง ๆ เช่น พิมพ์เป็น ตัวอักษรและตัวเลขหรือตารางต่าง ๆนอกจากนี้ผลที่ได้ยัง สามารถเก็บไว้ในรูปที่อาจจะนามาใช้ประมวลผลต่อไปได้อีก เช่น เจาะลงบัตรหรือบันทึกลงเทปและแผ่นดิสก์ หน่วย แสดงผลสามารถจาแนกออกได้เป็น 2 ประเภท
- 21. Memory Unit เป็นหน่วยที่ทาหน้าที่เก็บข้อมูลและคาสั่งต่าง ๆ
หน่วยความจาหลัก (Main Memory) เป็นหน่วยความจาที่ต้อง ติดต่อRAM (Random Access Memory) เป็น หน่วยความจาที่จดจาข้อมูลไว้ได้ชั่วคราวข้อมูลที่เก็บใน
RAM นั้นผู้ใช้สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแต่เมื่อไฟดับ ข้อมูลเหล่านั้นจะหายหมด
ROM (Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาที่เก็บข้อมูล ไว้ค่อนข้างถาวร ข้อมูลเหล่านี้จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อ่านมาใช้ได้ อย่างเดียวเท่านั้น ส่วนมากจะเก็บคาสั่งที่
เป็นโปรแกรมควบคุมระบบ เช่น ROM BIOS (Basic Input/OutputSystem)กับ CPU อยู่ตลอดเวลา
- 22. หน่วยความจารอง (Secondary Memory)
เป็นหน่วยความจาที่เป็นที่เก็บข้อมูลเอาไว้เพื่อ ประโยชน์ในการเรียกลับมาใช้อีกครั้งในอนาคต เช่น Hard Disk , แผ่นFloppy Disk , แผ่น ซีดีรอม เป็นต้น
- 23. ประเภทของคอมพิวเตอร์
ส่วนใหญ่เป็นDigital Computer
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer)
- มีสมรรถนะสูงที่สุด (High Performance Computer)
- สามารถคานวณจุดทศนิยมได้หลายร้อยล้านจุด
- เหมาะสาหรับงานวิจัยที่มีการคานวณมาก ๆ เช่น วิเคราะห์ ภาพถ่ายทางอากาศ งานจาลองแบบโมเลกุล ปัจจุบันมีอยู่ใน ประเทศไทยคือรุ่นCray YMP ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
- 24. เมนเฟรม (Mainframe)
- มีสมรรถนะสูงมาก แต่ยังต่ากว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์
- เหมาะสาหรับงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจานวนมาก ๆ เช่น ธนาคาร
- ราคาแพง ใช้งานยาก สามารถพ่วงต่อกับPeripheral ได้ มากมาย
- 25. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
- มีสมรรถนะสูง แต่ยังต่ากว่าเมนเฟรม
- ควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่า ราคาถูกกว่า
- เช่น เครื่อง AS/400 และ RISC/6000 ของ IBM
- 26. ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)
- มีขนาดเล็ก มีการพัฒนารวดเร็วที่สุด ราคาถูก
- บางเครื่องอาจจะมีสมรรถนะสูงพอ ๆ กับเครื่อง
Mini ก็ได้
- บางครั้งเรียกว่า เครื่อง PC : PersonalComputer
- 27. ระบบไมโครคอมพิวเตอร์ (Computer System)
ความหมายกว้างกว่าคาว่า ไมโครคอมพิวเตอร์เพราะต้องการให้ หมายถึงส่วนทุกส่วนที่รวมกันแล้ว ทาให้เราสามารถใช้เครื่อง ไมโครคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด การพิจารณาระบบ โดยรวมนั้น จะช่วยให้เรามีทัศนคติที่กว้างขึ้น และเข้าใจการ ประยุกต์ใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ดีขึ้น ซึ่งระบบ ไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้ ประกอบด้วยส่วนประกอบ หลักที่สาคัญหลายส่วน คือ
- 28. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็นส่วนที่สามารถมองเห็น สัมผัส จับต้องได้ เช่น ตัวเครื่อง,จอภาพ,เครื่องพิมพ์,แผงวงจรเสียง หรือ (Sound Cardคือ ซอฟต์แวร์ (Software) ชุดคาสั่งที่เรามีไว้สาหรับสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทางานต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ ซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้)
- 29. บุคลากร (PEOPLE WARE) คือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต่าง ๆ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่มเช่น ผู้บริหารนักวิชาการ และผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งบุคลากรทางด้าน คอมพิวเตอร์ นั้น มีความสาคัญเป็นอย่างมาก
ข้อมูล (Data) ที่เรานามาให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล คานวณ
หรือการกระทาอย่างใดอย่างหนึ่งให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่เรา ต้องการเช่น ข้อมูลบุคลากร ได้แก่ ประวัติส่วนตัว ประวัติ การศึกษา
- 30. ระเบียบ , คู่มือ และมาตรฐาน (Procedure) สัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติจานวนมาก บุคคลเหล่านี้บางคนก็เรียนรู้ได้เร็วบางคนก็เรียนได้ช้า ระบบสื่อสารข้อมูล (DataCommunication) ระบบการสื่อสาร และอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถส่งผ่านข้อมูลจาก คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังอีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป