More Related Content
Similar to ใบความรู้ที่ 1 ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
Similar to ใบความรู้ที่ 1 ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ (20)
More from จุฑารัตน์ ใจบุญ
More from จุฑารัตน์ ใจบุญ (20)
ใบความรู้ที่ 1 ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
- 1. ใบความรู้ที่ 1
เรื่อง ความสาคัญของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คืออะไร
ปัจจุบันจะพบว่าคอมพิวเตอร์มีหลากหลายลักษณะ หลากหลายรูปแบบ ทั้งคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา
คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้ว คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์เมนเฟรม
หรือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม คอมพิวเตอร์ก็มีความหมายที่ชัดเจนในตัวของ
มันเอง คือ เครื่องคานวณ ในรูปของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถรับข้อมูล และคาสั่ง ผ่านอุปกรณ์รับ
ข้อมูล แล้วนาข้อมูลและคาสั่งนั้น ไปประมวลผลด้วยหน่วยประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และ
แสดงผลผ่านอุปกรณ์แสดงผล ตลอดจนสามารถบันทึกรายการต่างๆ ไว้เพื่อใช้งานได้ด้วยอุปกรณ์บันทึก
ข้อมูลสารอง คอมพิวเตอร์จึงสามารถ มีรูปร่างอย่างไรก็ได้ ไม่จาเป็นต้องเป็นรูปร่างอย่างที่เราคุ้นเคย หรือ
พบเห็น ตัวอย่างเช่น เครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ หรือ ATM ก็ถือว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง
เหตุผลที่นาคอมพิวเตอร์มาใช้งาน
1. สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็ว เช่น การใช้เครื่องอ่านรหัสแท่ง (Bar-code) อ่าน
เวลาเข้า-ออก ของพนักงานและคิดราคาสินค้า ในห้างสรรพสินค้า
2. สามารถเก็บข้อมูลจานวนมาก ๆ ไว้ในฐานข้อมูล (Database) เพื่อใช้งานได้ทันที
3. สามารถนาข้อมูลที่เก็บไว้มาคานวณทางสถิติ แยกประเภท จัดกลุ่ม ทารายงานลักษณะ
ต่างๆ ได้ โดยระบบประมวลผลข้อมูล (Data Processing)
4. สามารถส่งข้อมูลจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล
(Data Communication)
5. สามารถจัดทาเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบประมวลผลคา (Word Processing) ซึ่งเป็น
ส่วนหนึ่งของระบบสานักงานอัตโนมัติ (Office Automation)
6. การนามาใช้งานทั้งด้านการศึกษา การวิจัย
7. การใช้งานธุรกิจ งานการเงิน ธนาคาร และงานของภาครัฐต่างๆ เช่น การนาคอมพิวเตอร์มาใช้กับ
งานบัญชี งานบริหารสานักงาน งานเอกสาร งานการเงิน การจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ
8. การควบคุมระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ระบบจราจร, ระบบเปิด/ปิดน้าของเขื่อน
9. การใช้เพื่องานวิเคราะห์ต่างๆ เช่น การวิเคราะห์สภาวะดินฟ้าอากาศ สภาพของดิน น้า เพื่อ
การเกษตร
10. การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อจาลองรูปแบบ เช่น การจาลองในงานวิทยาศาสตร์ จาลองโมเลกุล
จาลองรูปแบบการฝึกขับเครื่องบิน
11. การใช้คอมพิวเตอร์นันทนาการ เช่นการเล่นเกม การดูหนัง ฟังเพลง
- 2. 12. การใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับเทคโนโลยีล้าสมัยอี่นๆ เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล เกิดเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
การทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสาคัญ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล1 จะรับข้อมูล
โดยผู้ใช้เป็นผู้ป้อนคาสั่ง แล้วส่งไปยัง หน่วยประมวลผล2 ซึ่งทาหน้าที่ในการคิดคานวณ หรือประมวลผล
ข้อมูล โดยทาตาม โปรแกรมที่เก็บไว้ในหน่วยความจาหลัก 3 หน่วยความจาหลักซึ่งเป็นหน่วยความจาที่
หน่วยประมวลผลสามารถอ่านเขียนได้รวดเร็วมาก ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่หน่วยความจาหลัก นี้เพื่อให้หน่วย
ประมวลผลนามาตีความและกระทาตามได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหน่วยความจาสารองมีไว้สาหรับเก็บข้อมูล
หรือโปรแกรมที่มีจานวนมาก และหากจะใช้งานก็มี การถ่ายจากหน่วยความจาสารองมายังหน่วยความ
แล้วนาข้อมูลที่เก็บไว้มาประมวลผล หน่วยส่งออกหน่วยแสดงผล 4 เป็นหน่วยที่นาข้อมูลที่ได้รับการ
ประมวลมาแสดงผล
ลักษณะและประเภทของงานคอมพิวเตอร์
ประมาณปี พ.ศ. 2500 คอมพิวเตอร์มีอยู่ในโลกนีไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องในระบบ
้
เมนเฟรม ซึ่งมีขนาดใหญ่และราคาแพง ใช้กับงานทางด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับ
ชีวิตประจาวันมากนัก แต่ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้มีขนาดเล็กลง และราคาก็ไม่แพงนัก คนทั่วไปสามารถ
ซื้อหามาใช้ได้เหมือนกับ เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยทั่วไป งานที่คอมพิวเตอร์ทาตัวอย่างเช่น
งานที่ต้องจัดเก็บข้อมูลเป็นจานวนมาก เช่น เก็บข้อมูลงานทะเบียนราษฏร์ เป็นต้น
งานที่ต้องอาศัยการประมวลผลที่รวดเร็ว มีความแม่นยาและถูกต้องที่สุด เช่นงานด้านวิทยาศาสตร์
งานที่ไม่ตองการหยุดพัก คือทางานได้ตลอดเวลา ในขณะที่ยังต้องมีไฟฟ้าอยู่
้
งานที่คนไม่สามารถเข้าไปทาได้ เช่นในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ที่มี
ก๊าซพิษ กัมมันตภาพรังสี หรือในงานที่มีความเสี่ยงสูงในโรงงานอุตสาหกรรม
งานคอมพิวเตอร์กับงานการศึกษา
ปัจจุบันตามสถานศึกษาต่างๆ ได้มการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนอย่างมากมาย
ี
รวมทั้งใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริหารของโรงเรียน เช่น การจัดทาประวัตินักเรียน ประวัติครูอาจารย์ การคัด
คะแนนสอบ การจัดทาตารางสอน ใช้คอมพิวเตอร์ ในงานห้องสมุด การจัดทาตารางสอน เป็นต้น ตัวอย่าง
ในการประยุกต์ ด้านการศึกษา เช่น โปรแกรมฝ่ายทะเบียนวัดผลโปรแกรมตรวจข้อสอบ