More Related Content
Similar to น กศ กษาว_ชาทหาร
Similar to น กศ กษาว_ชาทหาร (20)
น กศ กษาว_ชาทหาร
- 2. สมาชิกในกลุ่ม
1.นำงสำวสำยฝน ถำนโอภำส 54450110245
2.นำงสำวซ่อนกลิ่น เหง่ำศรีลำ 54450110249
3.นำงสำวดวงเธียร สรรพอำษำ54450110266
4.นำงสำววิภำรัตน์ มุ่งงำม 54450110274
คณะครุศำสตร์สำขำสังคมศึกษำ 4/2
- 4. ประวัติ
นักศึกษำวิชำทหำร (นศท.) หรือนิยมเรียกว่ำ รด. (ย่อจำก "รักษำ ดินแดน") เป็นกำลังสำรองของกองทัพไทยที่ฝึกหัดจำกเยำวชนที่มีอำยุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป ภำยใต้กำรควบคุมของหน่วยบัญชำกำรรักษำดินแดน (นรด.)
ภำยหลังจำกกำรยกเลิกกำรฝึกยุวชนทหำรในปีพ.ศ. 2490ในปีถัดมำ พล โทหลวงชำตินักรบรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกลำโหมในสมัยนั้น ได้พิจำรณำเห็นว่ำ กำรสงครำมในอนำคตนั้น พลเมืองทุกคนไม่จำกัดเพศและวัย ย่อมจะต้องมีส่วนร่วม ในสงครำมด้วยกันทั้งสิ้น จึงมีควำมจำเป็นต้องขยำยโครงสร้ำงของกองทัพ พร้อมกับ พัฒนำระบบกำลังสำรองควบคู่กันไป
- 5. ประวัติ (ต่อ)
กระทรวงกลำโหมจึงจัดตั้งกรมกำรรักษำดินแดนขึ้น ตำมพระรำชบัญญัติ จัดระเบียบป้องกันรำชอำณำจักร พุทธศักรำช 2491และคำสั่งทหำรที่ 54/2477 ลงวันที่ 13กุมภำพันธ์ 2491เพื่อดำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์ ดังกล่ำว กิจกำรนักศึกษำวิชำทหำรจึงเริ่มมีขึ้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมำ
ในปีกำรศึกษำ 2492 ได้เริ่มมีกำรฝึก นักศึกษำวิชำทหำรเป็นปี แรก โดยเริ่มในกรุงเทพมหำนคร แล้วจึงกระจำยไปตำมหัวเมืองใน ต่ำงจังหวัด
หลังดำเนินกำรฝึกเป็นเวลำ 5 ปี (2492 -2496) ในปี 2497 ได้ มีพิธีประดับยศว่ำที่ร้อยตรีเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่18พ.ค. 2497
- 6. ประวัติ (ต่อ)
ในปีกำรศึกษำ 2528 ได้เริ่มมีกำรฝึกนักศึกษำวิชำทหำรหญิงเป็นครั้งแรก พร้อมกับ กำรฝึกนักศึกษำวิชำทหำรชั้นปีที่ 4 ในส่วนของกองทัพเรือ ส่วนกำรเริ่มเปิดฝึก นักศึกษำวิชำ ทหำรชั้นปีที่ 1 ในส่วนของกองทัพเรือเป็นครั้งแรกเกิดขึ้นในปีกำรศึกษำ 2552 ซึ่งจะขยำยกำร ฝึกจนครบชั้นปีที่ 3 เช่นเดียวกับนักศึกษำวิชำทหำรในส่วนของกองทัพบกในปีกำรศึกษำ 2554 แต่ยังคงรับ นศท.ที่สำเร็จกำรฝึกชั้นปีที่ 3 ในส่วนของกองทัพบกที่มีควำมประสงค์โอนย้ำยมำ ฝึก นศท.ชั้นปีที่ 4 ในส่วนของกองทัพเรือไปจนถึงปีกำรศึกษำ 2554 หลังจำกนั้นเป็นกำรรับ นศท. ในส่วนของกองทัพเรือ โดยในปีกำรศึกษำ 2556 จะเป็น นศท.ในส่วนของกองทัพเรือ ที่มำจำกกำรฝึก นศท.ในส่วนของทหำรเรือทั้งสิ้น จึงกล่ำวได้ว่ำ นศท. ชั้นปีที่ 5 ที่ฝึกในปี กำรศึกษำ 2556 ในส่วนของกองทัพเรือเป็นลูกหม้อที่มำจำกกำรฝึก นศท. ของกองทัพเรือแต่ เพียงผู้เดียวปี 2544 กองทัพบกปรับเปลี่ยนโครงสร้ำงใหม่ โดยให้รวมกรมกำรรักษำดินแดน กับกรมกำรกำลังสำรองทหำรบก ใช้ชื่อว่ำ หน่วยบัญชำกำรกำลังสำรอง (นสร.)
- 7. ประวัติ (ต่อ)
ในปีกำรศึกษำ 2549 ทำงกรมกำลังพลทหำรอำกำศได้รับอนุมัติจำก กองทัพอำกำศ เปิดกำรฝึกนักศึกษำวิชำทหำรชั้นปีที่ 1และจะเปิดกำรฝึก ครบทั้ง 5ชั้นปี ในปีกำรศึกษำ 2553
ในเดือนเมษำยน 2552 หน่วยบัญชำกำรกำลังสำรอง เปลี่ยนชื่อ เป็นหน่วยบัญชำกำรรักษำดินแดน
- 9. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2556 เวลา 09.30 น. ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนา นรด.ครบ 65 ปี ว่า หลักสูตรการฝึกนักศึกษาวิชาทหารต้องปรับปรุงให้ทันต่อ สถานการณ์ ทันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ปัญหาของนักศึกษาวิชาทหารคือสัดส่วน ในการเกณฑ์ทหารในแต่ละปี เราต้องการทหาร 8 หมื่น มีคนเข้ามาเกณฑ์ในระบบ มากกว่า 3เท่า ถ้ามีคนเรียนเป็นนักศึกษาวิชาทหารมากขึ้นเรื่อยๆ จะทาให้สัดส่วนคน เข้ามาเกณฑ์ลดลง และอาจทาให้เกิดความไม่เป็นธรรม "ต่อไปอาจเสนอว่าถ้าคนอยากเรียนนักศึกษาวิชาทหารจริงๆ ก็เรียนได้ แต่ เมื่อถึงเวลาตรวจเลือกทหารจะต้องมาตรวจเลือกด้วย อยากจะดูว่าคนจะมาเรียน รด.มากเหมือนเดิมหรือไม่”
- 10. พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 15.00น.
พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ ผบ.นรด.กล่าวถึงข้อเสนอของผบ.ทบ.ให้ผู้ที่เรียนรด. จบจะต้องเข้ามาเกณฑ์ทหารด้วย ว่า เป็นแนวคิดที่ดี หากเรียนจบ รด.ปี 3 เมื่ออายุครบ เกณฑ์ก็ต้องมาเกณฑ์เหมือนกัน หากติดทหารมาอาจเป็นเพียง 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งทุก วันนี้กองทัพมีแนวคิดอย่างนี้มานานแล้ว คือทุกคนควรจะเข้ามาฝึกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเพิ่มพูนจิตวิญญาณการรักชาติ ให้รู้จักคาว่าเพื่อน แต่นี่เป็นเพียงการขยาย แนวความคิด หากดาเนินการจริงก็ต้องไปศึกษากันว่าจะทากันอย่างไรต่อ
- 11. หลักสูตรการเรียน
หลักสูตร กำรเรียนกำรสอนเป้ำหมำยของกำรฝึกนักศึกษำวิชำทหำรใน แต่ละชั้นปีชั้นปีที่ 1 และ 2 ให้นักศึกษำวิชำทหำร ให้มีควำมรู้วิชำทหำร เบื้องต้น เพื่อให้บังเกิดระเบียบวินัย ลักษณะทหำร กำรเชื่อฟังและกำร ปฏิบัติตำมคำสั่งผู้บังคับบัญชำโดยเคร่งครัด สำมำรถใช้อำวุธประจำกำย และทำกำรยิงปืนอย่ำงได้ผลชั้นปีที่ 3 ให้นักศึกษำวิชำทหำร ให้มีควำมรู้ วิชำทหำรทั้งทำงเทคนิคและยุทธวิธี ให้สำมำรถทำหน้ำที่ในตำแหน่งผู้ บังคับหมู่ได้ชั้นปีที่ 4 ให้นักศึกษำวิชำทหำร
- 12. หลักสูตรการเรียน(ต่อ)
ให้มีควำมรู้วิชำทหำรทั้งทำงเทคนิคและยุทธวิธี ให้สำมำรถทำหน้ำที่ใน ตำแหน่งรองผู้บังคับหมวดได้ชั้นปีที่ 5 ให้นักศึกษำวิชำทหำร ให้มีควำมรู้ วิชำทหำรทั้งทำงเทคนิคและยุทธวิธี ให้สำมำรถทำหน้ำที่ในตำแหน่งผู้ บังคับหมวดได้กำรฝึกวิชำทหำรดังกล่ำว ถ้ำมีกำรละเว้นกำรเรียน 1 ปี โดยไม่แจ้งลำพักเข้ำรับกำรฝึก จะถือว่ำสิ้นสุดสภำพควำมเป็นนักศึกษำ วิชำทหำรไม่สำมำรถเข้ำรับกำรฝึกในชั้นปีต่อไปได้นักศึกษำวิชำทหำรใน ส่วนของกองทัพบกสำมำรถแบ่งออกได้ 5 เหล่ำคือเหล่ำทหำรรำบเหล่ำ ทหำรม้ำเหล่ำทหำรปืนใหญ่เหล่ำทหำรสื่อสำรเหล่ำทหำรช่ำงกำรเรียนกำร สอนนักศึกษำวิชำทหำรแบ่งออกเป็นภำคที่ตั้งและภำคสนำม
- 13. การคัดเลือก
ช่วงเดือนพฤษภำคมของทุกปี จะมีกำรคัดเลือกนักเรียนนักศึกษำในสถำบันกำรศึกษำต่ำง ๆ เพื่อเข้ำเป็นนักศึกษำวิชำทหำร โดยผู้เข้ำรับกำรคัดเลือกจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้
สำเร็จกำรศึกษำตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 หรือเทียบเท่ำขึ้นไป และมีผลกำรศึกษำไม่น้อย กว่ำ 2.00 สำหรับผู้เคยเป็นลูกเสือสำมัญรุ่นใหญ่และสอบได้วิชำพิเศษไม่น้อยกว่ำ 8วิชำ ต้องมีผลกำรศึกษำไม่น้อยกว่ำ 1.5(หน้ำ 71หนังสือคู่มือนักศึกษำวิชำทหำรชั้นปีที่ 3)
กำลังศึกษำอยู่ในสถำนศึกษำที่หน่วยบัญชำกำรรักษำดินแดนเปิดทำกำรฝึกวิชำทหำร
เป็นบุคคลชำยหรือหญิงและมีสัญชำติไทย
เป็นบุคคลผู้มีอำยุไม่เกิน 22 ปี นับตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรรับรำชกำรทหำรและต้อง ได้รับคำยินยอมจำก บิดำ มำรดำ หรือผู้ปกครอง (กรณีที่ยังไม่บรรลุนิติภำวะ) (ดูกำร เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้ำนล่ำงประกอบ สำหรับผู้มีอำยุต่ำกว่ำ 17ปี)
เป็นบุคคลที่ไม่พิกำร ทุพพลภำพ หรือมีโรคซึ่งไม่สำมำรถจะรับรำชกำรทหำรได้ ตำม กฎหมำย ว่ำด้วยกำรรับรำชกำรทหำร พ.ศ. 2497
- 14. การคัดเลือก(ต่อ)
เป็นบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้ำมกำรเป็นทหำรในเฉพำะบำงท้องที่ตำมกฎหมำย ที่ออกตำม ควำมในมำตรำ 13(3) แห่งพระรำชบัญญัติรับรำชกำรทหำร พ.ศ. 2497
เป็นบุคคลผู้มีน้ำหนัก ขนำดรอบตัว ขนำดส่วนสูง ตำมเกณฑ์ที่กำหนดไว้โดยผู้สมัครต้อง ผ่ำนกำรทดสอบร่ำงกำย ตำมเกณฑ์ที่กำหนด
มีใบรับรองของสถำนศึกษำว่ำมีควำมประพฤติเรียบร้อย สมควรเข้ำรับกำรฝึกวิชำทหำร
นอกจำกนี้ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
เป็นบุคคลผู้มีค่ำดัชนีมวลกำย(BMI: Body Mass Index) อยู่ในเกณฑ์ ปกติ และต้องไม่อยู่ในภำวะ โรคอ้วน ซึ่งมีดัชนีควำมหนำของร่ำงกำย ตั้งแต่30 กิโลกรัมต่อ ตำรำงเมตรขึ้นไป (BMI = น้ำหนักตัว (กก.) / ส่วนสูง² (ม.²) )
ผ่ำนเกณฑ์ทดสอบสมรรถภำพกำรคัดเลือกนักศึกษำในปี พ.ศ. 2553 คือ วิ่ง 800 เมตร ใน 3 นำที 15 วินำที, ลุกนั่ง (ซิดอัป) 34ครั้ง ใน 2นำที , ดันพื้น (วิดพื้น) 22ครั้ง ใน 2นำที
- 16. เรียน รด. สอบนายสิบ + คะแนน เท่าไร
จบ รด. ไม่มีให้คะแนนมั่งครับไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ส่วนอื่นมีดังนี้ครับ
-หนังสือรับรอง แสดงว่ำเป็นบุตรของทหำร ข้ำรำชกำร หรือลูกจ้ำง ซึ่งได้กระทำหน้ำที่ ในระหว่ำงเวลำที่มีกำรรบหรือกำรสงครำมหรือมีกำรปรำบปรำมจลำจลหรือใน ระหว่ำงประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีสิทธิได้นับเวลำรำชกำรเป็นทวีคูณตำม กฎหมำยว่ำด้วยบำเหน็จบำนำญข้ำรำชกำรเพิ่ม ให้ร้อยละ 5 ของคะแนนรวมภาค วิชาการ -หนังสือรับรอง แสดงว่ำเป็นบุตรของทหำร ข้ำรำชกำร หรือลูกจ้ำง ซึ่งต้องประสบ อันตรำยถึงทุพพลภำพ ในขณะที่ปฏิบัติรำชกำรในหน้ำที่หรือถูกประทุษร้ำยเพรำะเหตุ กระทำกำรตำมหน้ำที่หรือต้องบำดเจ็บถึงตำยเพรำะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนำญ พิเศษ หรือได้รับเงินค่ำทำขวัญ หรือบำเหน็จพิเศษตำมข้อบังคับ หรือระเบียบของทำง รำชกำร หรือบุตรของผู้ได้รับพระรำชทำนเหรียญดุษฎีมำลำ เข็มกล้ำหำญ หรือเหรียญ กล้ำหำญเพิ่ม ให้ร้อยละ 10 ของคะแนนรวมภาควิชาการ
- 17. เรียน รด. สอบนายสิบ + คะแนน เท่าไร (ต่อ)
1.6 กำรเพิ่มคะแนนพิเศษ นศท. ที่สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรตั้งแต่ชั้นปีที่1 ขึ้นไปมีสิทธิใน กำรเพิ่มคะแนนตำมชั้นปี ที่สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำร เมื่อสอบคัดเข้ำต่อโรงเรียน ตำมข้อบังคับ กห.ว่ำด้วย โรงเรียน ทหำร พ.ศ.2492คือ 1.6.1 สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรชั้นปีที่ 1 เพิ่มให้ 3 ใน 100 คะแนนรวมทั้งสิ้น 1.6.2 สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรชั้นปีที่ 2 เพิ่มให้ 4 ใน 100 คะแนนรวมทั้งสิ้น 1.6.3 สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรชั้นปีที่ 3 เพิ่มให้ 5 ใน 100 คะแนนรวมทั้งสิ้น 1.6.4 สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรชั้นปีที่ 4 เพิ่มให้ 6 ใน 100 คะแนนรวมทั้งสิ้น 1.6.5 สำเร็จกำรฝึกวิชำทหำรชั้นปีที่ 5 เพิ่มให้ 7 ใน 100 คะแนนรวมทั้งสิ้น