More Related Content
Similar to การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานอย่างมีจิตสำนึก
Similar to การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานอย่างมีจิตสำนึก (20)
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานอย่างมีจิตสำนึก
- 20. 2. มูฟวีเมกเกอร์ (Movie Maker) เป็นโปรแกรมที่ตัดต่อไฟล์วีดิโอที่มีขนาดเล็กถูก
ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของบริษัทไมโครซอฟต์ เป็นโปรแกรมที่มี
ความสามารถในการตัดต่อ ไฟล์วีดีโอ ภาพนิ่ง เสียง สามารถนาโปรแกรมนี้มาสร้าง
เสนอชิ้นงานนาเสนอได้อย่างรวดเร็ว และใช้ทรัพยากรน้อยกว่าโปรแกรม อะโดบี
พรีเมียร์ แต่เครื่องมือในการทางานก็น้อยลงเช่นกัน
3. แวกซ์ (Wax) เป็นโปรแกรมที่ตัดต่อไฟล์วีดีโอประเภทที่ให้ดาวน์โหลดมาใช้
งานได้ฟรี และเป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก สามรถแทรกรูป ไฟล์วีดีโอ ไฟล์เสียง
เพื่อสร้างงานนาเสนอ และมีโปรแกรมเสริม (Plug In) ที่เพิ่มความสามรถของ
โปรแกรมที่สามารถสร้างชิ้นงานได้สะดวก รวดเร็ว ตลอดจนมีเทคนิคการนาเสนอ
(Effect) ของโปรแกรมที่แปลกตามากขึ้น
- 22. 4.2 อะโดบีแคปทิเวต (Adobe Captivate) เป็นโปรแกรมสาหรับจัดการ
ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ข้อความ ข้อมูลเสียง รวบรวมจัดการเป็นชิ้นงานเช่น
- 23. 5. การสร้างงานด้านเสียง
โปรแกรมที่ใช้สร้างงานในด้านเสียงมีดังนี้
5.1 ออดาซิตี (Audacity) ใช้เป็นโปรแกรมในการจัดการเกี่ยวกับเสียง
เช่น การอัดเสียงบรรยาย การสนทนาผ่านไมโครโฟน ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ง
เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Freeware) สามารถตัดต่อ
ลบ แทรกเสียง ลดเสียงเพิ่มเสียง เปลี่ยนระดับเสียงให้สูงขึ้นหรือต่าลง
5.2 แอลเอ็มเอ็มเอส (LMMS : Linux Multimedia Studio) เป็น
โปรแกรมฟรีที่สามารถใช้งานได้ดี และมีโปรแกรมเสริม บนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
จานวนมาก แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการอื่นๆได้เหมาะกับการสร้าง
ชิ้นงานที่เกี่ยวกับเสียง เช่นการสร้างเสียง เทคนิคการนาเสนอ การแต่งเพลง การทา
ดนตรีที่วนซ้า ประกอบกับชิ้นงานอื่นๆ
- 24. 6. การเขียนโปรแกรม
6.1 วิชวลเบสิก (Visual Basic) เป็นโปรแกรมสาหรับการพัฒนาโปรแกรม
ประยุกต์ เป็นชุดคาสั่งสาหรับภาษาเบสิกเดิม ที่มีการใช้งานแบบกราฟิก ทาให้
ผู้พัฒนาซอฟแวร์สามารถมองเห็นคุณสมบัติของวัตถุได้ทันที ทาให้เกิดความ
สะดวกสบายในการจัดวาง
- 27. ช่วยทาให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
ระบบ การผลิตสินค้าในปัจจุบันเป็นระบบที่ต้องการผลิตสินค้าจานวนมากมี
คุณภาพ มาตรฐานการผลิตในสมัยปัจจุบัน ใช้เครื่องจักรทางานอย่างอัตโนมัติสามารถ
ทางานได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สินค้าที่ได้คุณภาพและปริมาณพอเพียงกับความต้องการ
ของผู้บริโภค ปัจจุบันมีความพยายามที่จะสร้างหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมการ
ผลิต เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีผลต่อการผลิตมาก
ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่
เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร เช่น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่วยให้
งานค้นคว้าวิจัย ในห้องปฏิบัติการวิจัยต่างๆ มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นคอมพิวเตอร์ช่วยงาน
คานวณที่ซับซ้อน นักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ในการจาลอง
รูปแบบของสิ่ง ที่มองไม่เห็นตัวใช้ในการค้นหาข้อมูลที่มีจานวนมากและแพร่กระจาย
อยู่ทั่ว โลก
- 28. ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ปัจจุบัน เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ล้วนแล้วแต่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ
ดาเนิน การช่วยในการแปลผลเรามีเครื่องมือตรวจหัวใจ ที่ทันสมัยมีเครื่องเอกซเรย์
ภาคตัดขวางที่สามารถตรวจดูอวัยวะต่างๆของร่าง กายได้อย่างละเอียดมีเครื่องมือที่
ใช้ในการตรวจค้นหา โรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่ทันสมัยหรือแม้แต่การผ่าตัดก็มีเครื่องมือ
ช่วยในการ ผ่าตัดที่ทาให้คนไข้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นมีเครื่องมือที่คอยวัดและ
ตรวจสอบสภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างละเอียดระบบการรักษาพยาบาล
จากที่ ห่างไกล
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
คอมพิวเตอร์มีจุดเด่นที่ทาให้การทางานต่างๆทางานได้รวดเร็วและมีความ
แม่นยาสามารถเก็บข้อมูลต่างๆไว้ได้มากการแก้ปัญหา ที่ซับซ้อนบางอย่าง
กระทาได้ดีและรวดเร็วงานบางอย่างถ้าให้มนุษย์ทาอาจต้องเสียเวลาในการคิด
คานวณตลอดชีวิตแต่คอมพิวเตอร์ สามารถทางานเสร็จในเวลาไม่กี่วินาที
ดังนั้นจึงมีการนาคอมพิวเตอร์มาจาลองเหตุการณ์ต่างๆเพื่อให้มนุษย์หาทาง
ศึกษาหรือแก้ไขปัญหา
- 33. หมวด 1 ลิขสิทธิ์
ส่วนที่ 1
งานอันมีลิขสิทธิ์
ส่วนที่ 6
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
มาตรา 32 การกระทาแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ การกระทาอย่างใดอย่าง
หนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทาดังต่อไปนี้
(1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทาเพื่อหากาไร
(2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนาผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(5) ทาซ้า ดัดแปลง นาออกแสดง หรือทาให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมี
อานาจตามกฎหมาย
(6) ทาซ้า ดัดแปลง นาออกแสดง หรือทาให้ปรากฏโดยผู้สอนเพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทา
เพื่อหากาไร
(7) ทาซ้า ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทาบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษาเพื่อแจกจ่าย
- 34. (8) นางานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
มาตรา 33 การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนตาม
สมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถึงความ
เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้
ปฏิบัติตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง
มาตรา 34 การทาซ้าโดยบรรณารักษ์ของห้องสมุดซึ่งงานอันมี
ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หากการ
ทาซ้านั้นมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากาไร และได้ปฏิบัติตามมาตรา 32
วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้
- 35. (9) จัดทาสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้สาหรับการอ้างอิง หรือค้นคว้าเพื่อ
ประโยชน์ของสาธารณชน
มาตรา 36 การนางานนาฏกรรม หรือดนตรีกรรมออกแสดงเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ตามความเหมาะสม โดยมิได้จัดทาขึ้นหรือดาเนินการเพื่อหากาไรเนื่องจากการจัดให้มีการเผยแพร่
ต่อสาธารณชนนั้น และมิได้จัดเก็บค่าเข้าชมไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม และนักแสดงไม่ได้
รับค่าตอบแทนในการแสดงนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากเป็นการดาเนินการโดย
สมาคม มูลนิธิ หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสาธารณกุศล การศึกษา การศาสนา หรือ
การสังคมสงเคราะห์ และได้ปฏิบัติตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง
มาตรา 37 การวาดเขียน การเขียนระบายสี การก่อสร้างการแกะลายเส้น การปั้น การ
แกะสลัก การพิมพ์ภาพ การถ่ายภาพ การถ่ายภาพยนตร์ การแพร่ภาพ หรือการกระทาใด ๆ ทานอง
เดียวกันนี้ซึ่งศิลปกรรมใดอันตั้งเปิดเผยประจาอยู่ในที่สาธารณะ นอกจากงานสถาปัตยกรรม มิให้
ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมนั้น
- 36. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทา
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของ
คอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนดคาสั่ง ชุดคาสั่ง
หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทาหน้าที่
ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
- 37. มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอานาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตาม
พระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน การเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับ
ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทาขึ้นเป็น
การเฉพาะ ถ้านามาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่
ผู้อื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่
เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
- 38. มาตรา ๘ ผู้ใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์
มาตรา ๙ ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่
เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบ
คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ ต้อง
ระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดย
ปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบ
คอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
- 39. มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจาหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคาสั่งที่จัดทาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อ
นาไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทาความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทาความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่
เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทา
ความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตนต้องระวาง
โทษเช่นเดียวกับผู้กระทาความผิดตามมาตรา ๑๔
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้าง
ขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด
มาตรา ๑๗ ผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักร
- 42. สมาชิก
นาย เกริกพล ทรัพย์วโรบล เลขที่ 5
นางสาว กิ่งกาญจน์ กริ่มใจ เลขที่ 21
นางสาว นลิตา ธรรมจง เลขที่ 24
นางสาว บุษยภัทร ตรีกุล เลขที่ 25
นางสาว ปรัศมน ท้าวสัน เลขที่ 26
นางสาว พภัสสรณ์ เซี่ยงเห็น เลขที่27
นางสาว มนัสนันท์ กาเนิดรัตน์ เลขที่28
นางสาว ณัฐธิดา กลิ่นดอกแก้ว เลขที่ 31
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5