การปฏิรูปด้านสื่อที่อยากเห็น

1. การปฏิรูปด้านสื่อที่อยากเห็น
 อยากเห็นสื่อรวมตัวกันเป็น “สื่อพูล” คล้ายๆ “ทีวีพูล” ที่ทาเรื่องประโยชน์สาธารณะ โดยไม่มี
ค่าใช้จ่าย
 ปฏิรูปกฏระเบียบในการออกสื่อว่าถ้าเป็นกรณีที่ยังไม่มีการตรวจสอบ ว่าเป็นข้อมูลที่มีพื้นฐาน
ความถูกต้อง เพียงพอไม่ควรนาเสนอ 2 ด้าน
 ควรมีรูปแบบการลงโทษหรือการเอาผิด (บทลงโทษ)
 ร่างกรอบของมาตรฐานของสื่อให้สูงกว่าที่เป็นอยู่
 ที่ผ่านมาไม่เห็นบทบาทของสภาของสื่อ ควรมีหน่วยงานนี้เพื่อเป็นผู้กากับสื่อต่างๆ ไม่ให้ออกนอก
ลู่ หรือเพื่อการลงโทษ และตรวจสอบ
 สื่อมีจริยธรรมและจรรยาบรรณ ไม่เป็นเครื่องมือของบุคคลและองค์กร
 สื่อมีความเป็นกลาง/ยุติธรรม มีความรอบครอบและนาเสนอข้อมูลที่ตรงกับความจริง
 จัดทากฏหมายหรือ พ.รบ. เกี่ยวกับการควบคุมสื่อ
 สื่อหลุดพ้น จากการครอบงาทางการเมือง และนายทุน
 สื่อมีความรับผิดชอบทางสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อชุมชน และสื่อออนไลน์
 เสนอข้อมูลข่าวสารตรงไปตรงมา ไม่เลือกข้าง เป็นกลาง
 ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
 ต้องมีจรรยาบรรณในการนาเสนอ
 Freedom of press – Free from politics interveners & big corporations.
 การปฏิรูปที่อยากเห็น ได้แก่ ธรรมภิบาลในสื่อ / จริยธรรม / มีกฏหมายทั้งในเชิงคุ้มครองและ
ลงโทษ ที่เข้มแข็ง
 องค์กรสื่อต่างๆ ดูแลสมาชิกของตัวเอง
 จัดการสัมมนาสื่อรวบรวมความคิดเห็น
 กาหนด agenda ในเนื่องที่สาคัญของประเทศ
 ต้องมีหน่วยงานกลางที่เป็นผู้ควบคุมสื่ออย่างจริงจัง
 เลิกใช้วิทยุชุมชนปลุกปั่น

2. สิ่งที่เห็นในวันนี้
 การลงข่าวยังต้องมีการเสียค่าใช้จ่าย
 สื่อขาดจริยธรรม คุณธรรมในการถ่ายทอด ใช้ทุนนิยมมากเกินไป
 รับสิ่งตอบแทนจากบุคคลและองค์กรต่างๆ
 นาเสนอข่าวสารโดยไม่มีการหาข้อเท็จจริง ขาดความรอบคอบ
 สื่อเลือกข้าง
 สื่อขาดจริยธรรม
 สื่อทาตัวยิ่งใหญ่
 สื่อถูกจากัด เสรีภาพ ในการนาเสนอ
 สื่อเน้น บุคคล ครอบครัย ใช้วิจารณญาณ ในการเสพข้อมูลข่าวสาร
 สื่อมีอิทธิพลมากเกินไป
 ต้องมีกฏหมายเข้ามาควบคุม
บันทึกจากการพูดคุยในวงคาราวาน
ประเด็นสิ่งที่เห็นในปัจจุบัน
ด้านทัศนคติ ผู้ร่วมเสวนารู้สึกว่าสื่อมีความจองหองคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อสาธารณชนมาก และไม่ยอมให้
ใครตรวจสอบ อีกทั้งยังไม่มีความรับผิดชอบในการนาเสนอข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการเร่งออก
ข่าว จนกระทั่งบางครั้งก่อให้เกิดปัญหาในการเสนอข่าวที่ทาให้สังคมเสพติดความรุนแรงและการล่วงละเมิด
ทางเพศต่างๆ
ด้านจริยธรรมและความเป็นมืออาชีพ ผู้ร่วมเสวนาแสดงความคิดเห็นว่า สื่อลดความน่าเชื่อถือเพราะสื่อ
ไม่ได้แสดงออกถึงการมีคุณธรรมและจริยธรรม และทาตนให้เป็นกลางอย่างมืออาชีพ มีการลอกเนื้อหา มี
การยกตัวอย่างกรณีนักข่าวภูมิภาคซึ่งเป็นระบบที่ทาข่าวท้องถิ่นด้วยตนเอง ซึ่งได้รับค่าตอบแทนเป็นชิ้นๆ
ไม่มีเงินเดือนหรือสวัสดิการใดๆ นอกจากนั้นแม้กระทั่งระบบการบริหารจัดการภายในสานักข่าวต่างๆ ก็
เป็นระบบผู้อาวุโสชี้นา คนที่เป็นนักข่าวรุ่นใหม่ไม่สามารถนาเสนอความคิดเห็น หรือ แง่มุมการทาข่าว
ใหม่ๆ ได้ส่วนใหญ่เป็นระบบที่ทาตามความต้องการของนายทุน หรือรัฐบาล

3. สิ่งที่อยากเห็น
ด้านสิทธิเสรีภาพ อยากให้สื่อมีสิทธิเสรีภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม และปราศจากการ
ครอบงาจากรัฐบาล ผลประโยชน์ทับซ้อน และนายทุน
ด้านการลดการชี้นาสังคม อยากให้เลิกใช้ถ้อยคาสับสน กากวม บิดเบือน ปลุกปั่น ควรใช้ภาษา
ตรงไปตรงมา
ด้านการควบคุมการออกพรบ. ควบคุมหรือคุ้มครองสื่อ นอกจากนั้นจึงควรมีองค์กรกลาง หรือ Regulator ที่
สามารถควบคุมดูแลคุณภาพของผู้สื่อข่าว นายทุนและสานักข่าว ทั้งในเชิงจริยธรรมและเชิงกฏหมาย
ด้านการส่งเสริมจริยธรรมและความเป็นมืออาชีพ ควรมีองค์กรที่เป็นสภาผู้สื่อข่าว ที่ทาหน้าที่เหมือน
วิชาชีพอื่นๆ เช่น แพทย์สภา หรือสภาวิศวกรรม เพื่อจัดให้มีขึ้นทะเบียนวิชาชีพ อนุมัติใบประกอบวิชาชีพ
ประเภทผู้บริหาร ผู้จัดการระดับกลางและผู้สื่อข่าวระดับปฏิบัติการ และทาการส่งเสริมศักยภาพพัฒนา
บุคคลากรต่อไป โดยควรมีการส่งเสริมศักยภาพในเชิงจริยธรรมในทุกๆ 5 ปีของการทางาน
ด้านการส่งเสริมด้านการศึกษา ควรมีการนาเสนอข่าวสารต่างๆ เป็นการบรรยายภาษาที่ 2 ไว้ด้วยเพื่อเป็น
โอกาสให้เยาวชน และประชาชนได้ศึกษาและเพื่อเป็นการต้อนรับประชาคมอาเซียน นอกจากนั้นควรมี
ลักษณะโครงการที่ช่วยทาให้ผู้บริโภครู้เท่าทันสื่อ เพื่อให้ได้รับสื่อและข่าวสารอย่างมีสติ
ด้านการส่งเสริมจากภาครัฐ ควรให้มีกองทุนสื่อโดยมีลักษณะคล้ายสสส . เพื่อช่วยให้สื่อขนาดเล็กสามารถ
อยู่รอดได้เหมือนกับการรูปแบบการบริหารจัดการแบบ ThaiPBSหรือให้มีองค์กรแบบ BOI เพื่อส่งเสริมใน
ธุรกิจสื่อ อย่างไรก็ตามควรมีข้อกาหนดด้านจริยธรรมของสื่อเป็นเกณฑ์การพิจารณาที่สาคัญที่จะได้รับการ
ช่วยเหลือด้านเงินทุน องค์กรอิสระในปัจจุบันควรได้รับการทบทวนบทบาทในการควบคุมและสนับสนุน
กิจกรรมของสื่อ เพราะมีอยู่หลายองค์กรฯ แต่ยังไม่สามารถที่จะทาหน้าที่ของตนเองได้เต็มที่
ด้านกระบวนการทางานทุกสานักข่าวควรสร้างระบบและกระบวนการตรวจสอบอย่างชัดเจน และนาเสนอ
ข่าว 2 ด้าน เปิดรับแหล่งข่าวจากหลากหลายที่ รวมไปถึงการระบุสัดส่วนของการลงข่าวด้านบวก และข่าว
ด้านลบ หรือข่าวอาชญากรรม อันจะส่งผลให้เกิดผลกระทบในสังคม สื่อควรมีระบบสื่อพูลในการที่จะให้
พื้นที่ในการนาเสนอข่าวหรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ในระหว่างอุตสาหกรรมสื่อด้วยกันเอง
ควรลดความเหลื่อมล้าระหว่างสื่อใหญ่และสื่อเล็ก รวมไปถึงให้ผู้สื่อข่าวภูมิภาคควรได้รับการบรรจุเป็น
พนักงานประจา เพื่อลดการรับเงินสนับสนุนในการนาเสนอข่าวเนื่องจากต้องลงทุนค่าใช้จ่ายในการทาข่าว
เอง