SlideShare a Scribd company logo
การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
                   รหัสคนงาน                                          วันที่ที่เริ่ มทางาน

       ชื่อคนงาน                             อัตราค่าแรง/ช.ม.
                                                                                                    จ.น.ช.ม.ทั้งหมดที่ทา

                                             1                          N
     ชานาญด้าน
                       N     คนงาน                           ได้รับ                 การทางาน
                                                           มอบหมาย
                                     N                                                     N

         1

                               ชานาญด้าน                                           ชานาญด้าน

                                     1                                                     1

                            ความชานาญ                                             สถานที่ก่อสร้าง


       ประเภทความชานาญ                              อัตราโบนัส          ที่อยู่                               ประเภท

                        จานวนชัวโมงขั้นต่า
                               ่                                                   รหัสสถานที่ก่อสร้าง
BC326 Database Management                                                                                Numtip Trakulmaykee
ขั้นตอนการแปลง
           โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
      1.      แปลงเอนติต้ ีปกติและแอททริ บิวท์ของเอนติต้ ี
              เป็ นขั้นตอนการแปลงอย่างตรงไปตรงมา โดยจะทาการแปลง Entity ปกติที่ไม่ใช่
                                  ่
              Weak Entity ให้อยูในรู ปของ Relation ซึ่งชื่อของ Entity คือ ชื่อของ Relation และ
              attribute ของ Entity จะเป็ น attribute ของ Relation และ ทาการขีดเส้นใต้ attribute ที่
              เป็ นคียหลัก
                       ์
              คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
              ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า)
              สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง)

      หมายเหตุ ในกรณี ที่ attribute มีค่าได้มากกว่า 1 ค่า(Multivalue) หรื อมีกลุ่มซ้ า (Repeating
           Group) จะใช้วงเล็บครอบกลุ่ม attribute นั้น ๆ

BC326 Database Management                                                                  Numtip Trakulmaykee
ขั้นตอนการแปลง
      โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
การแปลง Weak Entity
                                                                                       ่
          เช่น Entity การทางาน จะเป็ นเอนติต้ ีแบบอ่อนเนื่องจากจะมีเอนติต้ ีการทางานอยูใน
    ฐานข้อมูลนี้ได้จะต้องมีเอนติต้ ีคนงานและเอนติต้ ีสถานที่ก่อสร้างปรากฎอยูดวย
                                                                              ่ ้

            การทางาน(วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา)

           Entity ใดมีคุณสมบัติเป็ น Weak Entity และมีการขึ้นต่อกันเชิงระบุ จาเป็ นที่จะต้องนา
                         ์              ั       ่ ้
    attribute ที่เป็ นคียของ Entity ที่มนขึ้นอยูดวยมาร่ วมเป็ นคียของ Relation แทน
                                                                  ์

    การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา)

BC326 Database Management                                                             Numtip Trakulmaykee
ขั้นตอนการแปลง
         โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
      2. แปลงความสัมพันธ์ระหว่างเอนติต้ ี
                 การแทนความสั มพันธ์ แบบหนึ่งต่ อหนึ่ง (1:1)
           เช่น ถ้าบริ ษทแห่งหนึ่งกาหนดว่าลูกค้าคนหนึ่งจะซื้อรถยนต์ได้เพียง 1 คันเท่านั้นและรถยนต์ 1
                        ั
               คันเป็ นของลูกค้าได้เพียงคนเดียวเท่านั้น จะได้ความสัมพันธ์ดงนี้
                                                                          ั

                           ที่อยู่                                        หมายเลขเครื่ อง



          ชื่อลูกค้า                 ลูกค้ า          1
                                                          มีการซื้อ
                                                                      1
                                                                          รถยนต์                รุ่ น


              รหัสลูกค้า
                                      เบอร์โทรศัพท์                           สี รถ

BC326 Database Management                                                                   Numtip Trakulmaykee
 การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (1:1)
   1.      แปลง Entity แต่ ละ Entity ให้ เป็ น relation โดยชื่อ Entity คือชื่อ relation และกาหนดคีย์
           หลักของแต่ ละรีเลชัน ดังนี้
              ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์)
              รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ)

   2.      เพิมคีย์ของ relation หนึ่งลงไปเป็ น attribute หนึ่งของอีก relation
               ่
           รู ปแบบที่ 1 ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์)
                         รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ,รหัสลูกค้า)
           รู ปแบบที่ 2 ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์,หมายเลขเครื่ อง)
                         รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ)

           ***              คียนอก (Foreign Key) นั้น จะแทนด้วยการขีดเส้นใต้ดวยเส้นประ
                               ์                                             ้
BC326 Database Management                                                                      Numtip Trakulmaykee
 การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (1:N)
   1.      แปลง entity ปกติแต่ ละ entity ให้ เป็ น relation โดยชื่อ entity ก็คอชื่อ relation
                                                                              ื
           และกาหนดคีย์หลักของแต่ ละ relation
             คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
             ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า)

   2.      นาคีย์หลักของ entity ทีอยู่ด้านความสั มพันธ์ เป็ น 1 ไปเก็บเป็ น attribute ของ
                                  ่
           relation ด้ านทีมีความสั มพันธ์ เป็ น N
                           ่
              คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
              ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า)

BC326 Database Management                                                        Numtip Trakulmaykee
การแทนความสัมพันธ์แบบ Recursive
                                           ่ ้
         ให้เพิ่มคียหลักของ relation ที่อยูดานความสัมพันธ์เป็ นหนึ่งไปเป็ น attribute
                    ์
         ของรี เลชันด้านที่มีความสัมพันธ์เป็ นกลุ่ม โดยเปลี่ยนชื่อของแอททริ บิวท์
         ใหม่


                คนงาน                              เป็ นหัวหน้างาน



    คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.,หัวหน้างาน)



BC326 Database Management                                                     Numtip Trakulmaykee
 การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (M:N)
         ในกรณี ที่เอนติต้ ีมีความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (M:N) เราสามารถเขียนแผนภาพ
            ได้ 2 แบบ แบบแรกคือการเชื่อมเอนติต้ ีน้ นด้วยความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม
                                                     ั
                                           วันที่ทางาน           จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา


                                   M                                       N
                       คนงาน                        มีการทางาน                   สถานทีก่อสร้ าง
                                                                                       ่

          แบบที่สองคือยอมให้ความสัมพันธ์น้ นสามารถมีแอททริ บิวท์ในตัวมันเองได้
                                           ั
          โดยการแปลงความสัมพันธ์ที่เชื่อมระหว่างเอนติต้ ีน้ นให้เป็ นแอนติต้ ีใหม่
                                                            ั
          ขึ้นมาและเปลี่ยนรู ปแบบความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (1:N)
                                 วันที่ทางาน             จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา

  คนงาน     1
                      ทางานที่
                                    N
                                           การทางาน
                                                          N
                                                                       ทางานที่
                                                                                         1
                                                                                                   สถานที่ก่อสร้าง

BC326 Database Management                                                                            Numtip Trakulmaykee
การแปลงความสัมพันธ์แบบ M:N ให้เป็ น relation จะไม่ใช้หลักการเดียวกับ
      ความสัมพันธ์แบบ 1:1 หรื อ 1:N โดยการเอาคียของ relation หนึ่งไปเก็บเป็ น
                                                     ์
      attribute ในอีก relation หนึ่ง เหมือนดังรู ปแบบดังนี้

       คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
       สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง,รหัสคนงาน)

       เพราะเป็ นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากจะทาให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติที่
       เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลไม่วาจะเป็ นการเพิ่ม ลบ หรื อปรับปรุ งข้อมูล เช่น
                                     ่
       คนงานรหัส 1411 ได้ลาออกไป การลบข้อมูลใน relation สถานที่ก่อสร้างในแถวที่มี
       คนงานรหัส 1411 นั้นอยูจะทาให้เราต้องสูญเสี ยข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างรหัส 450 ไป
                                ่
       ด้วย หรื อถ้าบริ ษทรับก่อสร้างสถานที่แห่งใหม่แต่ยงไม่ได้กาหนดว่าใครเป็ นผูไปทาการ
                         ั                              ั                          ้
       ก่อสร้างที่นนบ้าง จะทาให้เราไม่สามารถเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างแห่งใหม่เข้าไป
                    ั่
       ยัง relation สถานที่ก่อสร้างได้

BC326 Database Management                                                              Numtip Trakulmaykee
ดังนั้นจึงไม่สามารถแปลงความสัมพันธ์ M:N โดยวิธีแบบ 1:1 หรื อ 1:N ได้ แต่ให้
        แปลงความสัมพันธ์โดยมีข้นตอนต่อไปนี้
                                     ั
                                                 ั
    ขั้นตอนที่ 1. แปลงเอนติต้ ีที่มีความสัมพันธ์กนนี้นให้เป็ นรี เลชัน โดยชื่เอนติต้ ี คือ
        ชื่อของรี เลชัน และแอททริ บิวต์ของเอนติต้ ี คือ แอททริ บิวต์ของรี เลชัน ดังนี้
        คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
        สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง)


    ขั้นตอนที่ 2. สร้างรี เลชันขึ้นมาใหม่หนึ่งรี เลชัน โดยรี เลชันที่สร้างขึ้นใหม่จะ
        ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ของความสัมพันธ์แบบ N:M และจะมีการสร้างคียหลัก          ์
                                                                              ่
        ของรี เลชันที่มีความสัมพันธ์แบบ N:M นั้นมาสร้างเป็ นคียหลักอยูในรี เลชันใหม่
                                                                     ์
        นี้ดวย
            ้
      การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา)

BC326 Database Management                                                         Numtip Trakulmaykee
ขั้นตอนที่ 3. จะได้ ความสั มพันธ์ ระหว่ างรีเลชันเดิมกับรีเลชันใหม่ เปลียนไปเป็ นแบบ
                                                                            ่
        1:N ดังนี้
    คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.)
    สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง)
    การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา)


    สุ ดท้ าย คือ การพิจารณาเค้ าร่ างข้ อมูลแต่ ละรีเลชันทีได้ 2
                                                            ่
        ขั้นตอนแรก คือการเขียนรีเลชันทั้งหมดที่ได้ จากการแปลง
        ใหม่ และพิจารณาในเรื่องความซ้าซ้ อนของข้ อมูลด้ วย


BC326 Database Management                                                        Numtip Trakulmaykee
Ex จากระบบฐานข้ อมูลภาระงานสอนของอาจารย์ ให้ เขียน E-R Diagram และแปลง
   เป็ นโมเดลเชิงสั มพันธ์ (Relational Model) โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ
         ฐานข้อมูลประกอบด้วย 4 เอนติต้ ี คือ
       1.       เอนติต้ ีคณะ ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสคณะและชื่อคณะ
       2.       เอนติต้ ีภาควิชา ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสภาควิชา,ชื่อภาควิชา,ที่ทาการ
       3.       เอนติต้ ีอาจารย์ ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสอาจารย์,ชื่ออาจารย์,วันที่เริ่ มทางาน
                ,เงินเดือน
       4.       เอนติต้ ีชุดวิชา ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสชุดวิชา,ชื่อชุดวิชา,จานวนหน่วยกิต
           และฐานข้อมูลมีความสัมพันธ์ระหว่างเอนติต้ ี 5 ความสัมพันธ์ คือ
       1.       ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีคณะ และ เอนติต้ ีภาควิชา
       2.       ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีภาควิชา และ เอนติต้ ีอาจารย์
       3.       ความสัมพันธ์แบบ Recursive ระหว่าง เอนติต้ ีอาจารย์
       4.       ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีภาควิชา และ เอนติต้ ีชุดวิชา
       5.       ความสัมพันธ์แบบ N:M ระหว่าง เอนติต้ ีชุดวิชา และ เอนติต้ ีอาจารย์
BC326 Database Management                                                                 Numtip Trakulmaykee

More Related Content

What's hot

บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลครูสม ฟาร์มมะนาว
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลครูสม ฟาร์มมะนาว
 
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูลบทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูลRungnapa Rungnapa
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรSanyawadee
 
ความหมายของสตอรี่บอร์ด
ความหมายของสตอรี่บอร์ดความหมายของสตอรี่บอร์ด
ความหมายของสตอรี่บอร์ดrungtip boontiengtam
 
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตบทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตOrnkapat Bualom
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานAjBenny Pong
 
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ผังทางเดินเอกสาร
ผังทางเดินเอกสารผังทางเดินเอกสาร
ผังทางเดินเอกสารAttachoke Putththai
 
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิ
ใบงานที่ 10  การสร้างแผนภูมิใบงานที่ 10  การสร้างแผนภูมิ
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิMeaw Sukee
 
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศคำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศPhatthira Thongdonmuean
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)tumetr
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทAekapoj Poosathan
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558peter dontoom
 
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานบทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานChamp Wachwittayakhang
 

What's hot (20)

บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
 
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูลบทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
บทที่ 2 สถาปัตยกรรมและแบบจำลองฐานข้อมูล
 
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูลบทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
 
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กรบทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
บทที่5 ระบบข้อมูลข่าวสารในยุคไอทีและผลกระทบต่อองค์กร
 
ความหมายของสตอรี่บอร์ด
ความหมายของสตอรี่บอร์ดความหมายของสตอรี่บอร์ด
ความหมายของสตอรี่บอร์ด
 
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตบทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
 
รายงาน การสื่อสารข้อมูล
รายงาน การสื่อสารข้อมูล รายงาน การสื่อสารข้อมูล
รายงาน การสื่อสารข้อมูล
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
 
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)
การปฏิสัมพันธ์และโมเดลปฏิสัมพันธ์ (Interaction and Interactive Model)
 
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interaction)
 
ผังทางเดินเอกสาร
ผังทางเดินเอกสารผังทางเดินเอกสาร
ผังทางเดินเอกสาร
 
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิ
ใบงานที่ 10  การสร้างแผนภูมิใบงานที่ 10  การสร้างแผนภูมิ
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิ
 
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศคำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ
คำศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)
การวิเคราะห์อัลกอริทึม(algorithm analysis)
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
 
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
Week 3 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
Chapter1
Chapter1Chapter1
Chapter1
 
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานบทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
 

More from skiats

การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนการ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนskiats
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาskiats
 
รูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการskiats
 
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeskiats
 
4 - statement
4  - statement4  - statement
4 - statementskiats
 
การใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminการใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminskiats
 
แบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลแบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลskiats
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลskiats
 
การรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการการรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการskiats
 
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้skiats
 
รวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการรวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการskiats
 
DFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษDFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษskiats
 
การเขียนแผนภาพ DFD
การเขียนแผนภาพ DFDการเขียนแผนภาพ DFD
การเขียนแผนภาพ DFDskiats
 
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCวงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCskiats
 
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบskiats
 
อุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลอุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลskiats
 
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์skiats
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลskiats
 
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์skiats
 
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ skiats
 

More from skiats (20)

การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคนการ Setup disk quota กับ user ทุกคน
การ Setup disk quota กับ user ทุกคน
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
 
รูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการ
 
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data typeตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
ตัวแปรและค่าคงที่ basic data type
 
4 - statement
4  - statement4  - statement
4 - statement
 
การใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadminการใช้งาน phpMyadmin
การใช้งาน phpMyadmin
 
แบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูลแบบจำลองข้อมูล
แบบจำลองข้อมูล
 
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลสถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูล
 
การรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการการรวบรวมความต้องการ
การรวบรวมความต้องการ
 
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
การกำหนดปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้
 
รวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการรวบรวมความต้องการ
รวบรวมความต้องการ
 
DFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษDFD ภาษาอังกฤษ
DFD ภาษาอังกฤษ
 
การเขียนแผนภาพ DFD
การเขียนแผนภาพ DFDการเขียนแผนภาพ DFD
การเขียนแผนภาพ DFD
 
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLCวงจรพัฒนาระบบ SDLC
วงจรพัฒนาระบบ SDLC
 
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบความหมายการวิเคราะห์ระบบ
ความหมายการวิเคราะห์ระบบ
 
อุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผลอุปกรณ์รับและแสดงผล
อุปกรณ์รับและแสดงผล
 
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
 
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
Lecture5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
 

Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์

  • 1. การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์ รหัสคนงาน วันที่ที่เริ่ มทางาน ชื่อคนงาน อัตราค่าแรง/ช.ม. จ.น.ช.ม.ทั้งหมดที่ทา 1 N ชานาญด้าน N คนงาน ได้รับ การทางาน มอบหมาย N N 1 ชานาญด้าน ชานาญด้าน 1 1 ความชานาญ สถานที่ก่อสร้าง ประเภทความชานาญ อัตราโบนัส ที่อยู่ ประเภท จานวนชัวโมงขั้นต่า ่ รหัสสถานที่ก่อสร้าง BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 2. ขั้นตอนการแปลง โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์ 1. แปลงเอนติต้ ีปกติและแอททริ บิวท์ของเอนติต้ ี เป็ นขั้นตอนการแปลงอย่างตรงไปตรงมา โดยจะทาการแปลง Entity ปกติที่ไม่ใช่ ่ Weak Entity ให้อยูในรู ปของ Relation ซึ่งชื่อของ Entity คือ ชื่อของ Relation และ attribute ของ Entity จะเป็ น attribute ของ Relation และ ทาการขีดเส้นใต้ attribute ที่ เป็ นคียหลัก ์ คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,อัตราค่าแรง/ช.ม.) ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า) สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง) หมายเหตุ ในกรณี ที่ attribute มีค่าได้มากกว่า 1 ค่า(Multivalue) หรื อมีกลุ่มซ้ า (Repeating Group) จะใช้วงเล็บครอบกลุ่ม attribute นั้น ๆ BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 3. ขั้นตอนการแปลง โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์ การแปลง Weak Entity ่ เช่น Entity การทางาน จะเป็ นเอนติต้ ีแบบอ่อนเนื่องจากจะมีเอนติต้ ีการทางานอยูใน ฐานข้อมูลนี้ได้จะต้องมีเอนติต้ ีคนงานและเอนติต้ ีสถานที่ก่อสร้างปรากฎอยูดวย ่ ้ การทางาน(วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา) Entity ใดมีคุณสมบัติเป็ น Weak Entity และมีการขึ้นต่อกันเชิงระบุ จาเป็ นที่จะต้องนา ์ ั ่ ้ attribute ที่เป็ นคียของ Entity ที่มนขึ้นอยูดวยมาร่ วมเป็ นคียของ Relation แทน ์ การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา) BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 4. ขั้นตอนการแปลง โมเดลแบบ E-R เป็ นรู ปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์ 2. แปลงความสัมพันธ์ระหว่างเอนติต้ ี  การแทนความสั มพันธ์ แบบหนึ่งต่ อหนึ่ง (1:1) เช่น ถ้าบริ ษทแห่งหนึ่งกาหนดว่าลูกค้าคนหนึ่งจะซื้อรถยนต์ได้เพียง 1 คันเท่านั้นและรถยนต์ 1 ั คันเป็ นของลูกค้าได้เพียงคนเดียวเท่านั้น จะได้ความสัมพันธ์ดงนี้ ั ที่อยู่ หมายเลขเครื่ อง ชื่อลูกค้า ลูกค้ า 1 มีการซื้อ 1 รถยนต์ รุ่ น รหัสลูกค้า เบอร์โทรศัพท์ สี รถ BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 5.  การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (1:1) 1. แปลง Entity แต่ ละ Entity ให้ เป็ น relation โดยชื่อ Entity คือชื่อ relation และกาหนดคีย์ หลักของแต่ ละรีเลชัน ดังนี้ ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์) รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ) 2. เพิมคีย์ของ relation หนึ่งลงไปเป็ น attribute หนึ่งของอีก relation ่ รู ปแบบที่ 1 ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์) รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ,รหัสลูกค้า) รู ปแบบที่ 2 ลูกค้า(รหัสลูกค้า,ชื่อลูกค้า,ที่อยู,่ เบอร์โทรศัพท์,หมายเลขเครื่ อง) รถยนต์(หมายเลขเครื่ อง,รุ่ น,สี รถ) *** คียนอก (Foreign Key) นั้น จะแทนด้วยการขีดเส้นใต้ดวยเส้นประ ์ ้ BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 6.  การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (1:N) 1. แปลง entity ปกติแต่ ละ entity ให้ เป็ น relation โดยชื่อ entity ก็คอชื่อ relation ื และกาหนดคีย์หลักของแต่ ละ relation คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,อัตราค่าแรง/ช.ม.) ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า) 2. นาคีย์หลักของ entity ทีอยู่ด้านความสั มพันธ์ เป็ น 1 ไปเก็บเป็ น attribute ของ ่ relation ด้ านทีมีความสั มพันธ์ เป็ น N ่ คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.) ความชานาญ(ประเภทความชานาญ,อัตราโบนัส,จานวนช.ม.ขั้นต่า) BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 7. การแทนความสัมพันธ์แบบ Recursive ่ ้ ให้เพิ่มคียหลักของ relation ที่อยูดานความสัมพันธ์เป็ นหนึ่งไปเป็ น attribute ์ ของรี เลชันด้านที่มีความสัมพันธ์เป็ นกลุ่ม โดยเปลี่ยนชื่อของแอททริ บิวท์ ใหม่ คนงาน เป็ นหัวหน้างาน คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.,หัวหน้างาน) BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 8.  การแทนความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (M:N) ในกรณี ที่เอนติต้ ีมีความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (M:N) เราสามารถเขียนแผนภาพ ได้ 2 แบบ แบบแรกคือการเชื่อมเอนติต้ ีน้ นด้วยความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม ั วันที่ทางาน จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา M N คนงาน มีการทางาน สถานทีก่อสร้ าง ่ แบบที่สองคือยอมให้ความสัมพันธ์น้ นสามารถมีแอททริ บิวท์ในตัวมันเองได้ ั โดยการแปลงความสัมพันธ์ที่เชื่อมระหว่างเอนติต้ ีน้ นให้เป็ นแอนติต้ ีใหม่ ั ขึ้นมาและเปลี่ยนรู ปแบบความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (1:N) วันที่ทางาน จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา คนงาน 1 ทางานที่ N การทางาน N ทางานที่ 1 สถานที่ก่อสร้าง BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 9. การแปลงความสัมพันธ์แบบ M:N ให้เป็ น relation จะไม่ใช้หลักการเดียวกับ ความสัมพันธ์แบบ 1:1 หรื อ 1:N โดยการเอาคียของ relation หนึ่งไปเก็บเป็ น ์ attribute ในอีก relation หนึ่ง เหมือนดังรู ปแบบดังนี้ คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.) สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง,รหัสคนงาน) เพราะเป็ นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากจะทาให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติที่ เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลไม่วาจะเป็ นการเพิ่ม ลบ หรื อปรับปรุ งข้อมูล เช่น ่ คนงานรหัส 1411 ได้ลาออกไป การลบข้อมูลใน relation สถานที่ก่อสร้างในแถวที่มี คนงานรหัส 1411 นั้นอยูจะทาให้เราต้องสูญเสี ยข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างรหัส 450 ไป ่ ด้วย หรื อถ้าบริ ษทรับก่อสร้างสถานที่แห่งใหม่แต่ยงไม่ได้กาหนดว่าใครเป็ นผูไปทาการ ั ั ้ ก่อสร้างที่นนบ้าง จะทาให้เราไม่สามารถเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างแห่งใหม่เข้าไป ั่ ยัง relation สถานที่ก่อสร้างได้ BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 10. ดังนั้นจึงไม่สามารถแปลงความสัมพันธ์ M:N โดยวิธีแบบ 1:1 หรื อ 1:N ได้ แต่ให้ แปลงความสัมพันธ์โดยมีข้นตอนต่อไปนี้ ั ั ขั้นตอนที่ 1. แปลงเอนติต้ ีที่มีความสัมพันธ์กนนี้นให้เป็ นรี เลชัน โดยชื่เอนติต้ ี คือ ชื่อของรี เลชัน และแอททริ บิวต์ของเอนติต้ ี คือ แอททริ บิวต์ของรี เลชัน ดังนี้ คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.) สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง) ขั้นตอนที่ 2. สร้างรี เลชันขึ้นมาใหม่หนึ่งรี เลชัน โดยรี เลชันที่สร้างขึ้นใหม่จะ ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ของความสัมพันธ์แบบ N:M และจะมีการสร้างคียหลัก ์ ่ ของรี เลชันที่มีความสัมพันธ์แบบ N:M นั้นมาสร้างเป็ นคียหลักอยูในรี เลชันใหม่ ์ นี้ดวย ้ การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา) BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 11. ขั้นตอนที่ 3. จะได้ ความสั มพันธ์ ระหว่ างรีเลชันเดิมกับรีเลชันใหม่ เปลียนไปเป็ นแบบ ่ 1:N ดังนี้ คนงาน(รหัสคนงาน,ชื่อคนงาน,ประเภทความชานาญ,อัตราค่าแรง/ช.ม.) สถานที่ก่อสร้าง(รหัสสถานที่ก่อสร้าง,ที่อยู,่ ประเภทสถานที่ก่อสร้าง) การทางาน(รหัสคนงาน,รหัสสถานที่ก่อสร้าง,วันที่เริ่ มทางาน,จานวนช.ม.ทั้งหมดที่ทา) สุ ดท้ าย คือ การพิจารณาเค้ าร่ างข้ อมูลแต่ ละรีเลชันทีได้ 2 ่ ขั้นตอนแรก คือการเขียนรีเลชันทั้งหมดที่ได้ จากการแปลง ใหม่ และพิจารณาในเรื่องความซ้าซ้ อนของข้ อมูลด้ วย BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee
  • 12. Ex จากระบบฐานข้ อมูลภาระงานสอนของอาจารย์ ให้ เขียน E-R Diagram และแปลง เป็ นโมเดลเชิงสั มพันธ์ (Relational Model) โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ  ฐานข้อมูลประกอบด้วย 4 เอนติต้ ี คือ 1. เอนติต้ ีคณะ ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสคณะและชื่อคณะ 2. เอนติต้ ีภาควิชา ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสภาควิชา,ชื่อภาควิชา,ที่ทาการ 3. เอนติต้ ีอาจารย์ ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสอาจารย์,ชื่ออาจารย์,วันที่เริ่ มทางาน ,เงินเดือน 4. เอนติต้ ีชุดวิชา ประกอบด้วยแอททริ บิวต์ รหัสชุดวิชา,ชื่อชุดวิชา,จานวนหน่วยกิต  และฐานข้อมูลมีความสัมพันธ์ระหว่างเอนติต้ ี 5 ความสัมพันธ์ คือ 1. ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีคณะ และ เอนติต้ ีภาควิชา 2. ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีภาควิชา และ เอนติต้ ีอาจารย์ 3. ความสัมพันธ์แบบ Recursive ระหว่าง เอนติต้ ีอาจารย์ 4. ความสัมพันธ์แบบ 1:N ระหว่าง เอนติต้ ีภาควิชา และ เอนติต้ ีชุดวิชา 5. ความสัมพันธ์แบบ N:M ระหว่าง เอนติต้ ีชุดวิชา และ เอนติต้ ีอาจารย์ BC326 Database Management Numtip Trakulmaykee