E-commerce
ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์  (  นิยามโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ) การทำการค้าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยคำว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะครอบคลุมตั้งแต่ระดับเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ ไปจนถึงเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน  (  นิยามโดยศูนย์พัฒนาอิเล็กทรอนิกส์  ) สรุป พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบ (  การซื้อขายสินค้า บริการ การชำระเงิน การโฆษณา และการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ )  ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ และ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การทำธุรกิจสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และพีดีเอ  mobile e-commerce  หรือ  m-commerce   เป็นประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เช่น การจองตั๋วหนังและหักเงินจากบัญชีอัตโนมัติ การสั่งซื้อสินค้าและบริการ การดาวน์โหลดเกม เป็นต้น ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์  e-bussiness  มีความหมายที่กว้างกว่า   e-commerce  โดยจะหมายถึงการทำธุรกรรมทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งในส่วนหน้าร้าน  ( front office)   และ หลังร้าน   (back office)  แต่  e-commerce  จะเน้นที่การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
ความสำคัญและประโยชน์ ความสำคัญ การค้าเสรีแข่งกันที่ ความเร็ว ของการนำเสนอสินค้าและการให้บริการ การใช้ต้นทุนที่ต่ำ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า ประโยชน์ ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าพิมพ์เอกสาร ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่มีข้อจัดด้านเวลา ทำธุรกรรมผ่านระบบอัตโนมัติได้ตลอด
ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ เลือกสินค้าและบริการได้อิสระ มีแหล่งให้เลือกมากมาย เปรียบเทียบราคาได้ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการผ่านทางเว็บบอร์ด ทำให้มีข้อมูลพื้นฐานก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกชมสินค้าได้ตลอดเวลา ได้รับความสะดวก ประหยัดเวลาและค่าเดินทางไปยังร้านค้า ได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและราคายุติธรรม เพราะซื้อตรงจากร้านค้า ไม่ผ่านคนกลาง ได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าที่สามารถส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น เพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและทั่วโลก ขยายตลาดของสินค้าและบริการออกไปอย่างกว้างขวาง เพิ่มช่องทางการตลาด ทำธุรกิจระหว่างกันได้ง่าย เปิดขายได้ตลอดเวลา ลดภาระสินค้าคงคลัง ปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้รวดเร็วตลอดเวลา ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่จำหน่ายสินค้า ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ ทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำลง และยอดจำหน่ายมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร สามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อมาทำวิจัยทางการตลาด สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นตัวกระตุ้นในยุคดิจิตัล สามารถทำงานที่บ้านได้ เดินทางลดลง ทำให้จราจรไม่ติดขัดและลดมลพิษทางอากาศ สินค้าบางอย่างสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงทำให้คนที่ไม่ร่ำรวยสามารถซื้อของมีคุณภาพแต่ราคาถูกได้ คนในประเทศกำลังพัฒนาหรือในชนบทสามารถซื้อสินค้าและบริการได้เหมือนคนอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการศึกษาและบริการทางการแพทย์
ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม รูปแบบปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็น   3  แบบได้แก่ แบบบริคและมอร์ต้า มีสถานที่จำหน่าย แต่ไม่มีการทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ แบบคลิกและมอร์ต้า มีสถานที่จำหน่ายและมีร้านค้าออนไลน์ที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ บางธุรกิจของแบบคลิกและมอร์ต้ามีเพียงเว็บไซต์ในการนำเสนอสินค้า และระบุสถานที่จัดจำหน่าย แต่บางธุรกิจก็มีเวบไซต์ที่สามารถซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้ เช่น ศูนย์หนังสือจุฬา ภัตตาคารเอสแอนด์พี แบบคลิกและคลิก ไม่มีสถานที่จำหน่ายสินค้า ร้านค้ามีเฉพาะบนเว็บ การดำเนินการติดต่อธุรกิจจะทำผ่านเว็บไซต์เท่านั้น เช่น  amazon.com misslily.com
ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม หมวดหมู่ของสินค้าและการให้บริการ ธุรกิจสื่อสาร  ประยุกต์ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต เช่น โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต การประชุมทางไกล ธุรกิจโฆษณา  ใช้เว็บเพจบนอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ระหว่างธุรกิจ ธุรกิจการซื้อและจัดส่งสินค้า  จำหน่ายสินค้าในลักษณะที่เป็นดิจิทัลและไม่ใช่อยู่ในรูปของดิจิตัล การจัดส่งสินค้าที่เป็นดิจิตัลสามารถจัดส่งผ่านอินเทอร์เน็ตให้ผู้ซื้อดาวน์โหลดได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ธุรกิจการศึกษาทางไกล  เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา  เช่น การฝึกอบรมพนักงาน การเรียนภาษา ธุรกิจฐานข้อมูลออนไลน์  ให้บริการด้านข้อมูลและสารสนเทศผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น ข่าวสาร บทความ งานวิจัย ข้อมูลการสมัครงาน
ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม หมวดหมู่ของสินค้าและการให้บริการ  ( ต่อ ) ธุรกิจประมูลสินค้า  ให้ผู้ซื้อกำหนดและแข่งขันราคาสินค้าด้วยตนเอง เช่น   ebay mweb ธุรกิจศูนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์  ซื้อขายสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยรวบรวมสินค้าต่างๆ จากผู้ที่ต้องการขายให้ผู้ซื้อได้เลือกสินค้าที่หลากหลาย ธุรกิจด้านการเงิน  บริการเกี่ยวกับการติดต่อและทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน เช่น บัตรเครดิต สมาร์ทการ์ด ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว  ให้ข้อมูลและทำธุรกรรมต่างๆ เช่น จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และรถยนต์ ธุรกิจซื้อขายหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์  ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ ข้อคิดเห็นและคำแนะนำด้านการลงทุน
ข้อมูลจากการสำรวจ สินค้าและบริการ  3  อันดับแรกที่นิยมซื้อบนเว็บไซต์เดือน ก . ย . - ต . ค .  45  ได้แก่ หนังสือ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำหรับประเทศไทย ปี  2543   ธุรกิจออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและทำยอดขายได้ในอันดับต้นๆ ได้แก่ ท่องเที่ยว อัญมณี เสื้อผ้า ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่ได้รับความนิยมได้แก่ ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ บริการอินเทอร์เน็ต และการท่องเที่ยว
รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร ธุรกิจกับธุรกิจ  B2B   ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า การชำระเงินกระทำผ่านธนาคาร  เช่น  www.foodmarketexchange.com   ที่ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ของอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจกับลูกค้า   B2C   ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า อาจเป็นการค้าปลีกแบบย่อยหรือล็อตใหญ่ก็ได้ การชำระเงินส่วนใหญ่ทำผ่านบัตรเครดิต และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็น   B2B  ในอนาคต  โดยสินค้าที่จำหน่ายแบ่งเป็นสินค้าจับต้องได้ เช่นหนังสือ ดอกไม้ และจับต้องไม่ได้ เช่น เพลง ซอฟต์แวร์  บริการที่ได้รับความนิยม คือ การจองตั๋วเครื่องบิน การซื้อขายหุ้น ธนาคารออนไลน์เช่น  www.chulabook.com  ,  www.pizza.co.th
รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร  ( ต่อ ) ธุรกิจกับภาครัฐ  B2G  ระหว่างธุรกิจเอกชนกับภาครัฐ เช่น การประมูลออนไลน์   e-auction  การจัดซื้อจัดจ้าง   e-   procument  การจดทะเบียนการค้าและนำสินค้าเข้าออกโดยใช้  EDI   (Electronic Data Interchange)  ผ่านกรมศุลกากรเช่น  www.customs.go.th ลูกค้ากับลูกค้า  C2C   ระหว่างผู้บริโภคด้วยการเอง  การแลกเปลี่ยนและซื้อขายจะทำผ่านเว็บ เช่น การนำสินค้ามาฝากไว้กับเว็บไซจ์เพื่อเปิดประมูล เช่น  www.ebay.com ภารรัฐกับประชาชน  G2C  เน้นการให้บริการประชาชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์  เช่น การคำนวณภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากร  www.rd.go.th   บริการด้านทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทย  www.mahadthai.com
รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร  ( ต่อ ) นอกเหนือจากที่กล่าวมายังมีแบบธุรกิจกับพนักงาน   B2E   (business to employee)   คือเป็น   e-commerce  ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินทราเน็ตในการดำเนินธุรกรรมเพื่อเพิ่มผลกำไรด้วยการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท เช่น การติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานแบบไร้กระดาษ
ประเภทของสินค้าแบ่งตามลักษณะของสินค้า สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิตัล จับต้องไม่ได้ การจัดส่งทำโดยการให้ผู้ซื้อดาวน์โหลดผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น เพลง หนังสือ ภาพยนตร์ ซอฟแวร์ บทเรียนออนไลน์ สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิตัล จับต้องได้ การจัดส่งทำโดยการส่งพัสดุ หรือจัดส่งให้ลูกค้าโดยตรง เชน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครื่องแต่งกาย หนังสือ เครื่องประดับ สินค้าบริการ  ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม บริการรถเช่า บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์
การสร้างเวบไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาด้วยตนเอง ที่เรียกว่า  in-house เหมาะกับธุรกิจที่มีทีมงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตลอดเวลา แต่จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง พัฒนาโดยจ้างทีมงานด้านไอทีมืออาชีพ   ที่เรียกว่า   out-sourcing  เหมาะกับธุรกิจที่ไม่มีทีมงานด้านไอที แต่ต้องการรายละเอียดตามเว็บไซต์ตามความต้องการแต่จะยุงยากเมื่อมีการปรับปรุงเว็บไซต์ภายหลัง
การสร้างเวบไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  ( ต่อ ) ใช้โปรแกรมสร้างเว็บเพจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป สร้างจากเว็บไซต์ต้นแบบหรือ  template   ที่บริษัทต่างๆ ผลิตขึ้นมา เช่น  www.tarad.com   เพียงแต่ไปลงทะเบียนเพื่อใช้งาน เสียค่าใช้จ่ายน้อยและไม่ยุ่งยากในการหาเครื่องคอมพิวเตอร์แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถปรับแต่งรายละเอียดหน้าร้านได้มากนัก
โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หน้าร้าน  storefront เป็นหน้าที่สำคัญใช้สำหรับแสดงข้อมูลสินค้าทั้งหมดของร้านค้า รวมถึงระบบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ระบบตระกร้ารับคำสั่งซื้อ  shopping cart system ต่อเนื่องจากส่วนหน้าร้าน   เมื่อต้องการสั่งซื้อให้คลิกที่ข้อความ สั่งซื้อ หรือ รูปตระกร้า หรือ รถเข็น ก็จะปรากฏสินค้าที่ต้องการในหน้าตระกร้าพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  ( ต่อ ) การชำระเงิน  payment system มีหลายวิธีให้ลูกค้าเลือก เช่น โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต  การชำระด้วยบัตรเครดิตเป็นที่นิยมในหมู่คนต่างชาติ ซึ่งต้องมีการติดต่อธนาคารเพื่อขอเป็นร้านรับบัตรเครดิต  หมายเลขบัตรเครดิตที่ถูกส่งออกเพื่อตรวจสอบกับทางธนาคารต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส เช่น  secure socket layer (SSL) ระบบสมัครสมาชิก  member system บันทึกข้อมูลลูกค้าที่ต้องการเป็นสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร สั่งซื้อสินค้า และประโยชน์ในระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์  (customer relationship management : CRM)
โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  ( ต่อ ) ระบบขนส่ง  transportation system  การจัดส่งสินค้ามีหลายทางให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า โดยแต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน มีการใช้บริษัทขนส่งสินค้า เช่น  DHL , FedEx , UPS   , EMS  แทนการส่งสินค้าเองเพื่อสะดวกในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ระบบติดตามคำสั่งซื้อ  order tracking system ลูกค้าจะได้หมายเลขคำสั่งซื้อเมื่อเสร็จสิ้นการสั่งซื้อ ซึ่งสามารถนำหมายเลขนี้ไปตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ เช่น อยู่ระหว่างผลิต จัดส่ง ณ สถานที่ใด
กระบวนการทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การค้นหาข้อมูล ขั้นตอนแรกของการซื้อสินค้า คือการค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการเพื่อมาวิเคราะห์เปรียบเทียบแต่ละร้านค้า เครื่องมือที่นิยมใช้ คือ เครื่องมือค้นหา ที่เรียกว่า  search engine  เช่น  www.google.com ต้องประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ใช้แบนเนอร์ แลกเปลี่ยนลิงค์ ลงทะเบียนกับ   search engine  การสั่งซื้อสินค้า ลูกค้าเลือกสินค้าที่ต้องการลงตระกร้า ซึ่งสามารถปรับปลี่ยนรายการและปริมาณที่สั่งซื้อได้ โดยจะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด
กระบวนการทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( ต่อ ) การชำระเงิน เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อ ถัดมาคือการกำหนดวิธีการชำระเงินตามความสะดวกของลูกค้า การส่งมอบสินค้า เมื่อกำหนดวิธีการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะต้องเข้าสู่การเลือกวิธีขนส่งสินค้า เช่น จัดส่งโดยตรง จัดส่งผ่านบริษัทขนส่งสินค้า ให้ดาวน์โหลด ให้หมายเลขเพื่อไปรับสินค้าปลายทาง การให้บริการหลังการขาย เมื่อเสร็จสิ้นการสั่งซื้อแต่ละครั้ง ต้องมีบริการหลังการขายให้กับลูกค้า ซึ่งอาจติดต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล เว็บบอร์ด

E-Commerce

  • 1.
  • 2.
    ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ( นิยามโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ) การทำการค้าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยคำว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะครอบคลุมตั้งแต่ระดับเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ ไปจนถึงเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน ( นิยามโดยศูนย์พัฒนาอิเล็กทรอนิกส์ ) สรุป พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบ ( การซื้อขายสินค้า บริการ การชำระเงิน การโฆษณา และการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ ) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ และ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  • 3.
    การทำธุรกิจสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และพีดีเอ mobile e-commerce หรือ m-commerce เป็นประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การจองตั๋วหนังและหักเงินจากบัญชีอัตโนมัติ การสั่งซื้อสินค้าและบริการ การดาวน์โหลดเกม เป็นต้น ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ e-bussiness มีความหมายที่กว้างกว่า e-commerce โดยจะหมายถึงการทำธุรกรรมทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งในส่วนหน้าร้าน ( front office) และ หลังร้าน (back office) แต่ e-commerce จะเน้นที่การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
  • 4.
    ความสำคัญและประโยชน์ ความสำคัญ การค้าเสรีแข่งกันที่ความเร็ว ของการนำเสนอสินค้าและการให้บริการ การใช้ต้นทุนที่ต่ำ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า ประโยชน์ ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าพิมพ์เอกสาร ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่มีข้อจัดด้านเวลา ทำธุรกรรมผ่านระบบอัตโนมัติได้ตลอด
  • 5.
    ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ เลือกสินค้าและบริการได้อิสระ มีแหล่งให้เลือกมากมายเปรียบเทียบราคาได้ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการผ่านทางเว็บบอร์ด ทำให้มีข้อมูลพื้นฐานก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกชมสินค้าได้ตลอดเวลา ได้รับความสะดวก ประหยัดเวลาและค่าเดินทางไปยังร้านค้า ได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและราคายุติธรรม เพราะซื้อตรงจากร้านค้า ไม่ผ่านคนกลาง ได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าที่สามารถส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น เพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์
  • 6.
    ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและทั่วโลก ขยายตลาดของสินค้าและบริการออกไปอย่างกว้างขวางเพิ่มช่องทางการตลาด ทำธุรกิจระหว่างกันได้ง่าย เปิดขายได้ตลอดเวลา ลดภาระสินค้าคงคลัง ปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้รวดเร็วตลอดเวลา ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่จำหน่ายสินค้า ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ ทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำลง และยอดจำหน่ายมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร สามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อมาทำวิจัยทางการตลาด สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
  • 7.
    ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นตัวกระตุ้นในยุคดิจิตัล สามารถทำงานที่บ้านได้เดินทางลดลง ทำให้จราจรไม่ติดขัดและลดมลพิษทางอากาศ สินค้าบางอย่างสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงทำให้คนที่ไม่ร่ำรวยสามารถซื้อของมีคุณภาพแต่ราคาถูกได้ คนในประเทศกำลังพัฒนาหรือในชนบทสามารถซื้อสินค้าและบริการได้เหมือนคนอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการศึกษาและบริการทางการแพทย์
  • 8.
    ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม รูปแบบปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็น 3 แบบได้แก่ แบบบริคและมอร์ต้า มีสถานที่จำหน่าย แต่ไม่มีการทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ แบบคลิกและมอร์ต้า มีสถานที่จำหน่ายและมีร้านค้าออนไลน์ที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ บางธุรกิจของแบบคลิกและมอร์ต้ามีเพียงเว็บไซต์ในการนำเสนอสินค้า และระบุสถานที่จัดจำหน่าย แต่บางธุรกิจก็มีเวบไซต์ที่สามารถซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้ เช่น ศูนย์หนังสือจุฬา ภัตตาคารเอสแอนด์พี แบบคลิกและคลิก ไม่มีสถานที่จำหน่ายสินค้า ร้านค้ามีเฉพาะบนเว็บ การดำเนินการติดต่อธุรกิจจะทำผ่านเว็บไซต์เท่านั้น เช่น amazon.com misslily.com
  • 9.
    ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม หมวดหมู่ของสินค้าและการให้บริการ ธุรกิจสื่อสาร ประยุกต์ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต เช่น โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต การประชุมทางไกล ธุรกิจโฆษณา ใช้เว็บเพจบนอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ระหว่างธุรกิจ ธุรกิจการซื้อและจัดส่งสินค้า จำหน่ายสินค้าในลักษณะที่เป็นดิจิทัลและไม่ใช่อยู่ในรูปของดิจิตัล การจัดส่งสินค้าที่เป็นดิจิตัลสามารถจัดส่งผ่านอินเทอร์เน็ตให้ผู้ซื้อดาวน์โหลดได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ธุรกิจการศึกษาทางไกล เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น การฝึกอบรมพนักงาน การเรียนภาษา ธุรกิจฐานข้อมูลออนไลน์ ให้บริการด้านข้อมูลและสารสนเทศผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น ข่าวสาร บทความ งานวิจัย ข้อมูลการสมัครงาน
  • 10.
    ประเภทของธุรกิจแบ่งตาม หมวดหมู่ของสินค้าและการให้บริการ ( ต่อ ) ธุรกิจประมูลสินค้า ให้ผู้ซื้อกำหนดและแข่งขันราคาสินค้าด้วยตนเอง เช่น ebay mweb ธุรกิจศูนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อขายสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยรวบรวมสินค้าต่างๆ จากผู้ที่ต้องการขายให้ผู้ซื้อได้เลือกสินค้าที่หลากหลาย ธุรกิจด้านการเงิน บริการเกี่ยวกับการติดต่อและทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน เช่น บัตรเครดิต สมาร์ทการ์ด ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ให้ข้อมูลและทำธุรกรรมต่างๆ เช่น จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และรถยนต์ ธุรกิจซื้อขายหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ ข้อคิดเห็นและคำแนะนำด้านการลงทุน
  • 11.
    ข้อมูลจากการสำรวจ สินค้าและบริการ 3 อันดับแรกที่นิยมซื้อบนเว็บไซต์เดือน ก . ย . - ต . ค . 45 ได้แก่ หนังสือ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำหรับประเทศไทย ปี 2543 ธุรกิจออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและทำยอดขายได้ในอันดับต้นๆ ได้แก่ ท่องเที่ยว อัญมณี เสื้อผ้า ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่ได้รับความนิยมได้แก่ ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ บริการอินเทอร์เน็ต และการท่องเที่ยว
  • 12.
    รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร ธุรกิจกับธุรกิจ B2B ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า การชำระเงินกระทำผ่านธนาคาร เช่น www.foodmarketexchange.com ที่ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ของอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจกับลูกค้า B2C ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า อาจเป็นการค้าปลีกแบบย่อยหรือล็อตใหญ่ก็ได้ การชำระเงินส่วนใหญ่ทำผ่านบัตรเครดิต และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็น B2B ในอนาคต โดยสินค้าที่จำหน่ายแบ่งเป็นสินค้าจับต้องได้ เช่นหนังสือ ดอกไม้ และจับต้องไม่ได้ เช่น เพลง ซอฟต์แวร์ บริการที่ได้รับความนิยม คือ การจองตั๋วเครื่องบิน การซื้อขายหุ้น ธนาคารออนไลน์เช่น www.chulabook.com , www.pizza.co.th
  • 13.
    รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร ( ต่อ ) ธุรกิจกับภาครัฐ B2G ระหว่างธุรกิจเอกชนกับภาครัฐ เช่น การประมูลออนไลน์ e-auction การจัดซื้อจัดจ้าง e- procument การจดทะเบียนการค้าและนำสินค้าเข้าออกโดยใช้ EDI (Electronic Data Interchange) ผ่านกรมศุลกากรเช่น www.customs.go.th ลูกค้ากับลูกค้า C2C ระหว่างผู้บริโภคด้วยการเอง การแลกเปลี่ยนและซื้อขายจะทำผ่านเว็บ เช่น การนำสินค้ามาฝากไว้กับเว็บไซจ์เพื่อเปิดประมูล เช่น www.ebay.com ภารรัฐกับประชาชน G2C เน้นการให้บริการประชาชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การคำนวณภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th บริการด้านทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทย www.mahadthai.com
  • 14.
    รูปแบบของ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แยกตามการดำเนินการระหว่างบุคคลและองค์กร ( ต่อ ) นอกเหนือจากที่กล่าวมายังมีแบบธุรกิจกับพนักงาน B2E (business to employee) คือเป็น e-commerce ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินทราเน็ตในการดำเนินธุรกรรมเพื่อเพิ่มผลกำไรด้วยการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท เช่น การติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานแบบไร้กระดาษ
  • 15.
    ประเภทของสินค้าแบ่งตามลักษณะของสินค้า สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิตัล จับต้องไม่ได้การจัดส่งทำโดยการให้ผู้ซื้อดาวน์โหลดผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น เพลง หนังสือ ภาพยนตร์ ซอฟแวร์ บทเรียนออนไลน์ สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิตัล จับต้องได้ การจัดส่งทำโดยการส่งพัสดุ หรือจัดส่งให้ลูกค้าโดยตรง เชน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครื่องแต่งกาย หนังสือ เครื่องประดับ สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม บริการรถเช่า บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์
  • 16.
    การสร้างเวบไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาด้วยตนเอง ที่เรียกว่า in-house เหมาะกับธุรกิจที่มีทีมงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตลอดเวลา แต่จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง พัฒนาโดยจ้างทีมงานด้านไอทีมืออาชีพ ที่เรียกว่า out-sourcing เหมาะกับธุรกิจที่ไม่มีทีมงานด้านไอที แต่ต้องการรายละเอียดตามเว็บไซต์ตามความต้องการแต่จะยุงยากเมื่อมีการปรับปรุงเว็บไซต์ภายหลัง
  • 17.
    การสร้างเวบไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ต่อ ) ใช้โปรแกรมสร้างเว็บเพจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป สร้างจากเว็บไซต์ต้นแบบหรือ template ที่บริษัทต่างๆ ผลิตขึ้นมา เช่น www.tarad.com เพียงแต่ไปลงทะเบียนเพื่อใช้งาน เสียค่าใช้จ่ายน้อยและไม่ยุ่งยากในการหาเครื่องคอมพิวเตอร์แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถปรับแต่งรายละเอียดหน้าร้านได้มากนัก
  • 18.
    โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หน้าร้าน storefront เป็นหน้าที่สำคัญใช้สำหรับแสดงข้อมูลสินค้าทั้งหมดของร้านค้า รวมถึงระบบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ระบบตระกร้ารับคำสั่งซื้อ shopping cart system ต่อเนื่องจากส่วนหน้าร้าน เมื่อต้องการสั่งซื้อให้คลิกที่ข้อความ สั่งซื้อ หรือ รูปตระกร้า หรือ รถเข็น ก็จะปรากฏสินค้าที่ต้องการในหน้าตระกร้าพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • 19.
    โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ต่อ ) การชำระเงิน payment system มีหลายวิธีให้ลูกค้าเลือก เช่น โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต การชำระด้วยบัตรเครดิตเป็นที่นิยมในหมู่คนต่างชาติ ซึ่งต้องมีการติดต่อธนาคารเพื่อขอเป็นร้านรับบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเครดิตที่ถูกส่งออกเพื่อตรวจสอบกับทางธนาคารต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส เช่น secure socket layer (SSL) ระบบสมัครสมาชิก member system บันทึกข้อมูลลูกค้าที่ต้องการเป็นสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร สั่งซื้อสินค้า และประโยชน์ในระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (customer relationship management : CRM)
  • 20.
    โครงสร้างของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ต่อ ) ระบบขนส่ง transportation system การจัดส่งสินค้ามีหลายทางให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า โดยแต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน มีการใช้บริษัทขนส่งสินค้า เช่น DHL , FedEx , UPS , EMS แทนการส่งสินค้าเองเพื่อสะดวกในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ระบบติดตามคำสั่งซื้อ order tracking system ลูกค้าจะได้หมายเลขคำสั่งซื้อเมื่อเสร็จสิ้นการสั่งซื้อ ซึ่งสามารถนำหมายเลขนี้ไปตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ เช่น อยู่ระหว่างผลิต จัดส่ง ณ สถานที่ใด
  • 21.
    กระบวนการทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การค้นหาข้อมูล ขั้นตอนแรกของการซื้อสินค้าคือการค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการเพื่อมาวิเคราะห์เปรียบเทียบแต่ละร้านค้า เครื่องมือที่นิยมใช้ คือ เครื่องมือค้นหา ที่เรียกว่า search engine เช่น www.google.com ต้องประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ใช้แบนเนอร์ แลกเปลี่ยนลิงค์ ลงทะเบียนกับ search engine การสั่งซื้อสินค้า ลูกค้าเลือกสินค้าที่ต้องการลงตระกร้า ซึ่งสามารถปรับปลี่ยนรายการและปริมาณที่สั่งซื้อได้ โดยจะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • 22.
    กระบวนการทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( ต่อ) การชำระเงิน เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อ ถัดมาคือการกำหนดวิธีการชำระเงินตามความสะดวกของลูกค้า การส่งมอบสินค้า เมื่อกำหนดวิธีการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะต้องเข้าสู่การเลือกวิธีขนส่งสินค้า เช่น จัดส่งโดยตรง จัดส่งผ่านบริษัทขนส่งสินค้า ให้ดาวน์โหลด ให้หมายเลขเพื่อไปรับสินค้าปลายทาง การให้บริการหลังการขาย เมื่อเสร็จสิ้นการสั่งซื้อแต่ละครั้ง ต้องมีบริการหลังการขายให้กับลูกค้า ซึ่งอาจติดต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล เว็บบอร์ด