Cost code manual

ธันวาคม 2561
รหัสต้นทุน และฐานข้อมูลราคา
Cost Code and Cost Database
เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

คํานํา

รหัสต้นทุนและฐานข้อมูลราคา
เอกสารรหัสต้นทุน และฐานข้อมูลราคา (Cost Code and Cost Database) ฉบับนี้ จัดทําขึ้นเพื่อเป็น
แนวทางในการกําหนดรหัสต้นทุน ในโครงการต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมต้นทุน จัดการ
ต้นทุนโครงการ ตลอดจนจัดทําเป็นฐานข้อมูลราคา เพื่อใช้สําหรับงานด้านการตลาด จัดทําแผน
งบประมาณโครงการเบื้องต้น สามารถนําไปวิเคราะห์เปรียบเทียบ ตรวจสอบการประมาณราคาโครงการ
ต่าง ๆ เนื้อหาเป็นการแนะนํา ประเภทของโครงสร้างพื้นฐาน ประเภทของอาคาร รหัสต้นทุน ตัวอย่าง
การวิเคราะห์ราคาต่อพื้นที่ ฯลฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เพื่อเป็นฐานความรู้ และ
นําไปประยุกต์ใช้กับงานโครงการต่อไป
เอกสารเล่มนี้ จําเป็นต้องมีการปรับปรุง เพิ่มเติม อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานอย่าง
สูงสุด หากผู้ใช้งานมีคําแนะนํา ข้อคิดเห็นประการใด กรุณาแจ้งให้ทราบ จักเป็นพระคุณยิ่ง
ด้วยความนับถือ
เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช
Jadenarong.c@pps.co.th
Jadenarong@outlook.com
Facebook and Line ID: jadenarong
===============

สารบัญ

ก
คํานํา
1. บทนํา
2. ประเภทของโครงสร้างและอาคาร
3. รหัสต้นทุน (Cost Code)
3.1 รหัสต้นทุน UNIFORMAT II Cost Code
3.2 รหัสต้นทุน CSI MasterFormat Cost Code
3.3 รหัสต้นทุน วสท.
4. การรวบรวมและวิเคราะห์ตต้นทุน/ราคา (Data Collection and Cost Analysis)
5. ฐานข้อมูลราคา (Cost Database)
6. ข้อมูลราคาค่าก่อสร้าง (Construction Cost Data)
7. แหล่งข้อมูลราคา (Sources of Cost Data)
ภาคผนวก 1 รหัสต้นทุน CSI MasterFormat Cost Code ที่แนะนํา
===============

1. บทนํา

รหัสต้นทุนและฐานข้อมูลราคา 1-1
ในแต่ละโครงการจะมีเอกสารบัญชีแสดงปริมาณงานและราคา (Bill of Quantity: BOQ) ซึ่งมีรูปแบบ
หลากหลายจากเจ้าของโครงการ การบริหารโครงการ การควบคุมต้นทุน การบริหารต้นทุน การติดตาม
ความก้าวหน้าของโครงการ การเบิกจ่ายเงินระหว่างกาล (Interim Payment) จําเป็นต้องใช้เอกสาร
BOQ นี้ เพื่อให้การดําเนินการข้างต้นเป็นไปได้โดยสะดวก เป็นระเบียบ แบบแผน การกําหนดรหัส
ต้นทุนในแต่ละรายการงานจึงมีความสําคัญ และอํานวยความสะดวกในการดําเนินงานข้างต้น
ดังนั้น รหัสต้นทุน จึงเป็นจุดเริ่มต้นสําหรับการบริหารต้นทุนดังได้กล่าวข้างต้น รหัสต้นทุนได้มีการ
กําหนดโดยหลายสถาบัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับการใช้งานแตกต่างกันออกไป ได้แก่ รหัสต้นทุนแบบ
Standard Form of Cost Analysis โดย RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors)
รหัสต้นทุน แบบ UNIFORMAT ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันขององค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องคือ The
Construction Specification Institute ( CSI) , Construction Specifications Canada ( CSC) ,
National Institute of Science and Technology (NIST), American Society for Testing Material
(ASTM), General Services Administration (GSA), National Institute of Building Sciences
(NIBS), National Building Information Model Standard (NBIMS), Naval Facilities Engineering
Command (NAVFAC) รหัสต้นทุนแบบ MASTER FORMAT1 โดยสถาบันข้อกําหนดของสหรัฐอเมริกา
(CSI: Construction Specifications Institute) รหัสต้นทุนของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศ
ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.: EIT Cost Code) สําหรับงานอาคาร และงานชลประทาน เป็นต้น
การเลือกใช้รหัสต้นทุน แบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่ามีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร ตัวอย่างเช่น รหัส
ต้นทุนของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นั้น น่าจะเหมาะกับการใช้งานราชการเป็นหลัก โดย
วสท. ได้จัดให้มีการอบรมและเผยแพร่แก่ผู้สนใจอยู่เป็นระยะ และพยายามที่ทําให้เป็นมาตรฐาน
แห่งชาติ อย่างไรก็ตามในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ โปรแกรมช่วยการออกแบบระบบ BIM (Building
Information Model System) ได้เข้ามามีบทบาทในการออกแบบ และช่วยงานประมาณราคา มี
Module การประมาณราคา ผนวกเข้ามาด้วย รหัสต้นทุนที่ใช้ในโปรแกรม จะเป็น รหัสต้นทุนของ RICS
และ CSI Masterformat เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รหัสต้นทุนของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศ
ไทย ก็สามารถประยุกต์ใช้ใน BIM2 ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ความเข้าใจในรหัสต้นทุนดังกล่าวจึงมีความ
จําเป็น และเป็นประโยชน์สําหรับการใช้งานในระบบ BIM ตัวอย่างเช่น Elemental Standard Form

1
https://www.edmca.com/media/35207/masterformat-2016.pdf
2
https://eit.or.th/paperseminar/EITcostCodeMap.pdf

1.บทนํา

1-2 รหัสต้นทุนและฐานข้อมูลราคา
of Cost Analysis Principles, Instructions, Elements and Definitions 4th (NRM) Edition3, BIM
for Cost Managers: Requirements from the BIM Model4, Classification Systems and Their
Use in Autodesk Revit®5
ในบทต่อ ๆ ไป จะได้กล่าวถึงรายละเอียดของรหัสต้นทุน แบบต่าง ๆ และตัวอย่างการใช้งานเป็นลําดับ
ถัดไป
===============

3
https://www.rics.org/globalassets/rics-website/media/products/data-products/bcis-construction/bcis-
elemental-standard-form-cost-analysis-4th-nrm-edition-2012.pdf
4
https://www.rics.org/north-america/upholding-professional-standards/sector-standards/construction/bim-
for-cost-managers-requirements-from-the-bim-model/

5
https://www.biminteroperabilitytools.com/classificationmanager/downloads/Autodesk%20Whitepaper%20
-%20Classification%20Systems.pdf

2. การจําแนกประเภทของอาคาร
(Type of Buildings)

ประเภทของอาคารสามารถจําแนกตามลักษณะการใช้งานและประเภทของการครอบครองอาคาร
ลักษณะของโครงสร้างต่าง ๆ ดังตารางต่อไปนี้
Type of Structure/Building
01 อาคารธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade Buildings)
01 A LOTUS
01 B HOMEPRO
01 C MAKRO
02 อาคารประเภทค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า
(Retails/Department Store)
02 A Central
02 B The MALL
03
อาคารที่พักอาศัย/อาคารชุด (Residential/Condominium)
03 A Condominium: Low Rise
03 B Condominium: Middle Rise
03 C Condominium: High Rise
03 G Government
04 อาคารสํานักงาน (Office Building)
04 A
อาคารสํานักงาน ประเภทอาคาร สูงไม่เกิน 4 ชั้น ต่ํากว่า
15 เมตร Office: Low rise
04 B อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูงปานกลาง สูงระหว่าง 5
ชั้น ถึง 10 ชั้น ไม่เกินกว่า 23 เมตร Office: Middle rise
04 C
อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูง สูงกว่า 10 ชั้น ขึ้นไป
(มากกว่า 23 ม.)
Office: High Rise
04 D อาคารสํานักงานราชการ Office: Government

Type of Structure/Building
05 Factory
06 Transport Infrastructure
06 T Airport Terminal
06 A Airport Runway and Others
06 R Road/Highway/Toll Way
06 E Exprepressway
06 S Subway
06 R Railroad
06 I Industrial Estate
07 G Hospital: Government
07 O Hospital: Associated Buildings
08 A Housing
08 B Townhouse
08 C Shop House
08 G Government housing
09 A Hotel: Low rise, Boutique
09 B Hotel: Middle Rise
09 C Hotel: High Rise
10 A Renovation & Fit Out
11 A Mixed Use
12 A Warehouse
13 A Car Parking Building
13 U Underground Car Parking Building
14 A Education
14 G Government


ประเภทของโครงสร้างและอาคาร
1. อาคารธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade Buildings)
รูปแบบอาคารเป็นอาคารที่มีการจัดพื้นที่ใช้สอยเพื่อการค้าปลีกที่มีกระบวนการจัดจําหน่าย มีการ
นําเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย มีระบบการจัดการ โดยใช้เทคโนโลยีช่วยในการตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้า เพื่อเชื่อมโยงกันระหว่าง ผู้ผลิต ผู้ค้าปลีกและลูกค้า
อาคารเหล่านี้ได้แก่
TESCO LOTUS, HOMEPRO, MAKRO เป็นต้น
01 A LOTUS
01 B HOMEPRO
01 C MAKRO
2. อาคารประเภทค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า (Retails/Department Store)
ห้างสรรพสินค้า คือร้านค้าขายปลีกขนาดใหญ่ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทแยกตามแผนก
ห้างสรรพสินค้ามักจําหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวม
ไปถึงสายผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างเช่น ฮาร์ดแวร์ สุขภัณฑ์ เครื่องสําอาง เครื่องเพชรพลอย เครื่องเขียน ของ
เล่น อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น
อาคารเหล่านี้ได้แก่
CENTRAL Department Store, The MALL เป็นต้น
02 อาคารประเภทค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า (Retails/Department Store)
02 A Central
02 B The MALL
3. อาคารที่พักอาศัย/อาคารชุด (Residential/Condominium)
อาคารชุดหรือ คอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยรูปแบบหนึ่งที่เจ้าของห้องชุดจะต้องแบ่งปันกรรมสิทธิ์หรือ
ความเป็นเจ้าของร่วมกับเจ้าของห้องชุดอื่น ๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ทางเดิน บริเวณห้องโถง บันได
ลิฟต์ โรงจอดรถ สระว่ายน้ํา สนามเด็กเล่น ซึ่งเจ้าของห้องทุกคนจะเป็นเจ้าของร่วมตามกฎหมาย
ลักษณะของห้องในอาคารชุดจะเหมือนกับห้องอยู่อาศัย เพียงแต่เราเป็นเจ้าของห้อง ไม่ใช่ผู้เช่า
03 อาคารที่พักอาศัย/อาคารชุด (Residential/Condominium)

03 B Condominium: Middle Rise
03 G Government
4. อาคารสํานักงาน (Office Building)
วัตถุประสงค์หลักของอาคารสํานักงานคือการจัดหาสถานที่ทํางานและสภาพแวดล้อมการทํางานที่
สําคัญสําหรับผู้บริหารและบุคลากรเหล่านี้จะครอบครองพื้นที่ภายในอาคารสํานักงานและโดยทั่วไปจะมี
โต๊ะทํางานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จําเป็นในการทํางาน
04 A อาคารสํานักงาน1 ประเภทอาคาร สูงไม่เกิน 4 ชั้น ต่ํากว่า 15 เมตร Office: Low rise
04 B อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูงปานกลาง สูงระหว่าง 5 ชั้น ถึง 10 ชั้น ไม่เกินกว่า
23 เมตร Office: Middle rise
04 C อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูง สูงกว่า 10 ชั้น ขึ้นไป (มากกว่า 23 ม.)
Office: High Rise
5. โรงงาน (Industrial/Factory)
โรงงาน เป็นสถานอุตสาหกรรม ปกติประกอบด้วยอาคารและเครื่องจักร หรือเป็นกลุ่มอาคารซึ่งบุคลากร
จะผลิตสินค้าหรือปฏิบัติการเดินเครื่องจักรเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์หนึ่งเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง
05 Factory
06 E Exprepressway
06 S Subway
06 R Railroad

1
https://www.quora.com/What-is-a-Low-rise-Medium-rise-and-High-rise-building
https://www.home.co.th/hometips/decoration/detail/54037-ลักษณะของ-“อาคาร”-แต่ละประเภท


08 A Housing
08 B Townhouse
08 C Shop House
11 A Mixed Use
12 A Warehouse
14 A Education
14 G Government
===============

3. รหัสต้นทุน (Cost Codes)

1. รหัสต้นทุน (Cost Code)
รหัสต้นทุนคือ มาตรฐานการจัดหมวดหมู่รายการงานให้เป็นหมวดหมู่ เป็นลําดับ เพื่อให้เข้าใจและนําไป
พัฒนา ใช้ประโยชน์ได้โดยสะดวกสําหรับงานด้านราคา จัดทําฐานข้อมูลราคา ใช้เป็นเครื่องมือในการ
จัดทํางบประมาณ วางแผน บริหาร ติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ และควบคุมต้นทุนงาน
2. ชนิดของรหัสต้นทุนประเภทต่าง ๆ
2.1 รหัสต้นทุนแบบ Standard Form of Cost Analysis โดย RICS1
2.1.1 การจัดเรียงข้อมูลเป็นการจัดเรียงตามรูปแบบของ New Rules Measurement 1
(NRM 1) Order of cost estimate and cost planning for capital building works
เป็นการจัดเรียงข้อมูลรายการงานโดยแยกแต่ละส่วนของอาคาร (Element of
Building) เพื่อการวิเคราะห์์ราคา จัดพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 และปรับปรุงครั้งล่าสุดในปี
ค.ศ. 2013
NRM 1 provides guidance on the quantification of building works for the
purpose of preparing cost estimates and cost plans. It is the ‘cornerstone’
of good cost management of construction projects – enabling more effective
and accurate cost advice to be given to clients and other project team
members, as well as facilitating better cost control.
NRM 1 ให้คําแนะนําในการหาปริมาณงานก่อสร้างเพื่อวัตถุประสงค์ในการเตรียม
ประมาณการค่าใช้จ่ายและแผนค่าใช้จ่าย เป็นรากฐานสําคัญของการบริหารต้นทุนที่ดี
สําหรับโครงการก่อสร้าง ทําให้สามารถให้คําแนะนําด้านค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและ
ถูกต้องแก่ลูกค้าและสมาชิกในทีมโครงการต่าง ๆ รวมถึงอํานวยความสะดวกในการ
ควบคุมต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
เป็นการจัดหมวดหมู่ เพื่อกําหนดราคาเบื้องต้นตามส่วนของอาคาร (Elemental of
building) แบ่งเป็น 15 Group elements ดังนี้
Group element 1: Substructure
Group element 2: Superstructure

1
Royal Institution of Chartered Surveyors


Group element 3: Internal finishes
Group element 4: Fittings, furnishings and equipment
Group element 5: Services
Group element 6: Complete buildings and building units
Group element 7: Work to existing buildings
Group element 8: External works
Group element 9: Facilitating works
Group element 10: Main contractor’s preliminaries
Group element 11: Main contractor’s overheads and profit
Group element 12: Project/design team fees
Group element 13: Other development/project costs
Group element 14: Risks
Group element 15: Inflation
รายละเอียดสามารถ Download ได้จาก
http://www.rics.org/Global/NRM_1_Order_of_cost_estimating_and_cost_pla
nning_2nd_edition_PGguidance_2012.pdf
(NRM 2) Detail of measurement for building works
เป็นจัดหมวดหมู่ เพื่อใช้ในขั้นตอนการก่อสร้าง แบ่งตามวัสดุ และผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 41
Work Sections
NRM 2 is written mainly for the preparation of bills of quantities and
quantified schedules of works, although the rules will be invaluable for
designing and developing standard or bespoke schedules of rates.
NRM 2 ถูกเขียนขึ้นเพื่อการจัดเตรียมบัญชีแสดงปริมาณงานที่กําหนดไว้ จะเป็นประโยชน์
สําหรับการออกแบบ และพัฒนาราคามาตรฐานหรือตามความต้องการ
เป็นจัดหมวดหมู่ เพื่อใช้ในขั้นตอนการก่อสร้าง แบ่งตามวัสดุ และผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น
41 Work Sections ดังนี้


Tabulated work sections:
1. Preliminaries
2. Off-site manufactured materials, components and buildings
3. Demolitions
4. Alterations, repairs and conservation
5. Excavating and filling
6. Ground remediation and soil stabilisation
7. Piling
8. Underpinning
9. Diaphragm walls and embedded retaining walls
10. Crib walls, gabions and reinforced earth
11. In-situ concrete works
12. Precast/composite concrete
13. Precast concrete
14. Masonry
15. Structural metalwork
16. Carpentry
17. Sheet roof coverings
18. Tile and slate roof and wall coverings
19. Waterproofing
20. Proprietary linings and partitions
21. Cladding and covering
22. General joinery
23. Windows, screens and lights
24. Doors, shutters and hatches
25. Stairs, walkways and balustrades
26. Metalwork
27. Glazing
28. Floor, wall, ceiling and roof finishings
29. Decoration
30. Suspended ceilings


31. Insulation, fire stopping and fire protection
32. Furniture, fittings and equipment
33. Drainage above ground
34. Drainage below ground
36. Fencing
37. Soft landscaping
38. Mechanical services
39. Electrical services
40. Transportation
41. Builder’s work in connection with mechanical, electrical and
transportation installations
http://www.rics.org/Global/NRM_2_Detailed_measurement_for_building_wo
rks_1st_edition_PGguidance_2013.pdf
(NRM 3) Order of cost estimating for building works
NRM 3 gives guidance on the quantification and description of maintenance
works for the purpose of preparing initial order of cost estimates. The rules
also aid the procurement and cost control of maintenance works.
NRM 3 ใช้เป็นแนวทางเกี่ยวกับปริมาณและรายละเอียดของงานบํารุงรักษาเพื่อการ
จัดการจัดเตรียมการประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการสั่งซื้อ และช่วยในการจัดหาและ
ควบคุมค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษา
เป็นจัดหมวดหมู่ สําหรับงานอาคาร แบ่งเป็น 3 รูปแบบ
• Elemental
• Work section
• Work package


http://www.rics.org/Global/NRM_3_Building_Maintenance_Works_1
st_edition_PGguidance_2013.pdf
2.2 รหัสต้นทุนแบบ UNIFORMAT
UNIFORMAT เป็นมาตรฐานการจัดข้อมูลตามส่วนอาคาร (Element of Building)
ตามระบบอเมริกัน ฉบับแรกถูกจัดพิมพ์โดย Construction Specification Institute (CSI) ในปี ค.ศ.
1992
UNIFORMAT ชุดที่จัดพิมพ์ในปี ค.ศ. 2010 เป็นการพัฒนาร่วมกันขององค์กรต่างๆที่
เกี่ยวข้องคือ The Construction Specification Institute (CSI), Construction Specifications
Canada (CSC) , National Institute of Science and Technology (NIST), American Society for
Testing Material (ASTM), General Services Administration (GSA), National Institute of
Building Sciences (NIBS), National Building Information Model Standard (NBIMS), Naval
Facilities Engineering Command (NAVFAC) มี 4 ระดับ
โดยใช้รายละเอียดโครงการ (Project Description) กํากับด้วยตัวเลข 10-40 และมีลักษณะคล้ายกับ
UNIFORMAT II/ASTM E-1557-05
รหัสต้นทุนแบบ UNIFORMAT มีการจัดเรียงข้อมูลในสองระดับแรก ดังนี้
A. SUBSTRUCTURE
A10 FOUNDATION
A20 SUBGRADE ENCLOSURES
A40 SLAB ON GRADE
A60 WATER AND GAS MITIGATION
A90 SUBSTRUCTURE RELATED ACTIVITIES
B. SHELL
B10 SUPERSTRUCTURE
B20 EXTERIOR VERTICAL ENCLOSURES
B30 EXTERIOR HORIZONTAL ENCLOSURES
C. INTERIOR


C10 INTERIOR CONSTRUCTION
C20 INTERIOR FINISHES
D. SERVICES
D10 CONVEYING
D20 PLUMBING
D30 HEATING, VENTILATION, AND AIR CONDITIONING (HVAC)
D40 FIRE PROTECTION
D50 ELECTRICAL
D60 COMMUNICATIONS
D70 ELECTRONIC SAFETY AND SECURITY
D80 INTEGRATED AUTOMATION
E. EQUIPMENT AND FURNISHINGS
E10 EQUIPMENT
E20 FURNISHING
F. SPECIAL CONSTRUCTION AND DEMOLITION
F10 SPECIAL CONSTRUCTION
F20 FACILITY REMEDIATION
F30 DEMOLITION
G. BUILDING SITEWORK
G10 SITE PREPARATION
G20 SITE IMPROVEMENTS
G30 LIQUID AND GAS SITE UTILITIES
G40 ELECTRICAL SITE IMPROVEMENT
G50 SITE COMMUNICATION
G90 MISCELANEOUS SITE CONSTRUCTION
Z. GENERAL
Z10 GENERAL REQUIREMENT
Z70 TAX, PERMITS, INSURANCE AND BOND
Z90 FEES AND CONTINGENCY


2.3 UNIFORMAT II/ASTME-1557-05
UNIFORMAT II เป็นการพัฒนาต่อจาก UNIFORMAT โดย American Society for
Testing Material (ASTM) ซึ่งเริ่มในปี ค.ศ. 1998 และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
UNIFORMAT II/ASTM-E1557-05 ปี ค.ศ. 2005 จัดหมวดหมู่ ในรูปแบบ Work
Breakdown Structure (WBS) มีการจัดเรียงข้อมูลในสองระดับแรกดังนี้
PROJECT DESCRIPTION (ใช้เฉพาะตัวเลขกํากับ 10-40)
A. SUBSTRUCTURE
A10 Foundations
A20 Basement Construction
B. SHELL
B10 Superstructure
B20 Exterior Enclosure
B30 Roofing
C. INTERIORS
C10 Interior Construction
C20 Stairs
C30 Interior Finishes
D. SERVICES
D10 Conveying
D20 Plumbing
D30 HVAC
D40 Fire Protection
D50 Electrical
E10 Equipment
E20 Furnishing
F10 Special Construction
F20 Selective Building Demolition
G10 Site Preparation


G20 Site Improvement
G30 Site Mechanical Utilities
G40 Site Electrical Utilities
G90 Other Site Construction
รายละเอียดได้แสดงไว้ในบทที่ 3.1
2.4 รหัสต้นทุนแบบ MASTER FORMAT
MASTER FORMAT เป็นมาตรฐานการจัดเก็บข้อมูลตามผลสัมฤทธิ์ของงาน (Work
Result) ซึ่ง เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Construction Specifications Institute (CSI) และ
Construction Specifications Canada (CSC) โดยแบ่งงานก่อสร้างเป็น Division ในครั้งแรกกําหนด
16 Divisions ต่อมา ในปี ค.ศ. 2004 ได้เพิ่มจํานวนเป็น 49 Divisions
CSI-MASTER LIST OF NUMBERS and TITLES: 2016
PROCUREMENT AND CONTRACTING REQUIREMENTS GROUP
Division 00 - Procurement and Contracting Requirements
SPECIFICATIONS GROUP
GENERAL REQUIREMENTS SUBGROUP
Division 01 - General Requirements
FACILITY CONSTRUCTION SUBGROUP
Division 02 - Existing Conditions
Division 03 - Concrete
Division 04 - Masonry
Division 05 - Metals
Division 06 - Woods, Plastics, and Composites
Division 07 - Thermal and Moisture Protection
Division 08 - Openings
Division 09 - Finishes
Division 10 - Specialties
Division 11 - Equipment
Division 12 - Furnishings


Division 13 - Special Construction
Division 14 - Conveying Equipment
FACILITY SERVICES SUBGROUP
Division 21 - Fire Suppression
Division 22 - Plumbing
Division 23 - Heating, Ventilating, and Air-Conditioning (HVAC)
Division 25 - Integrated Automation
Division 26 - Electrical
Division 27 - Communications
Division 28 - Electronic Safety and Security
SITE AND INFRASTRUCTURE SUBGROUP
Division 31 - Earthwork
Division 32 - Exterior Improvements
Division 33 - Utilities
Division 34 - Transportation
Division 35 - Waterway and Marine Construction
PROCESS EQUIPMENT SUBGROUP
Division 40 - Process Interconnections
Division 41 - Material Processing and Handling Equipment
Division 42 - Process Heating, Cooling, and Drying Equipment
Division 43 - Process Gas and Liquid Handling, Purification, and Storage
Equipment
Division 44 - Pollution and Waste Control Equipment
Division 45 - Industry-Specific Manufacturing Equipment
Division 46 - Water and Wastewater Equipment
Division 48 - Electrical Power Generation
2.4.1 MasterFormat รุ่นปี ค.ศ. 1995 ก่อนการปรับปรุงในรุ่นปี ค.ศ. 2004 มีทั้งหมด
16 หมวด ดังนี้
1) หมวด 01 - General Requirements – ข้อกําหนด ความต้องการทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับ
สิ่งก่อสร้างโดยตรง เช่น การสร้างสํานักงาน หรือบ้านพักคนงานชั่วคราว การสร้างรั้ว


รอบบริเวณสถานที่ก่อสร้าง
2) หมวด 02 - Site Construction - สภาพสถานที่ก่อสร้าง เช่น งานถม งานขุดดิน รื้อ
ถอนสิ่งก่อสร้างเดิม
3) หมวด 03 - Concrete - งานคอนกรีต รวมถึง เสา คาน พื้น ฐานราก และ
สิ่งก่อสร้างคอนกรีต
4) หมวด 04 - Masonry - งานวัสดุก่อ รวมถึง งานก่ออิฐ อิฐบล็อก อิฐแก้ว
5) หมวด 05 - Metals – งานโลหะ
6) หมวด 06 - Wood and Plastics – งานไม้และพลาสติก
7) หมวด 07 - Thermal and Moisture Protection – งานฉนวนป้องกันความร้อน
และความชื้น
8) หมวด 08 - Doors and Windows – งานประตูและหน้าต่าง
9) หมวด 09 - Finishes – งานผิวสําเร็จ รวมถึง งานผนังยิปซั่มภายใน งานฝ้าเพดาน
งานกระเบื้อง วัสดุปูทับ ติดตั้งระบบอะคูสติกกันเสียง และงานทาสี
10) หมวด 10 – Specialties - งานเฉพาะทาง เช่น การติดตั้งพาร์ทิชัน ติดตั้ง
กระดานดํา
11) หมวด 11 - Equipment – อุปกรณ์ เช่น อุปกรณ์กําจัดขยะ
12) หมวด 12 - Furnishings - อุปกรณ์ตกแต่ง เช่น มู่ลี่ ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์
13) หมวด 13 - Special Construction - งานก่อสร้างพิเศษ เช่น ห้องซาวน่า สระว่าย
น้ํา
14) หมวด 14 - Conveying Systems - ระบบขนส่งภายในอาคาร เช่น ลิฟท์ บันได
เลื่อน คอนเวเยอร์
15) หมวด 15 - Mechanical – งานเครื่องกล
16) หมวด 16 - Electrical – งานไฟฟ้า
2.4.2 MasterFormat รุ่นปี ค.ศ. 2004 จากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทั้ง
ทางด้าน การก่อสร้าง ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้ฐานข้อมูล ระบบการ
ประกวด ราคาออนไลน์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ CSI จึงได้ทําการ ปรับปรุงแก้ไข
ขยาย เพิ่มเติมรายละเอียดการจัดหมวดหมู่มาตรฐาน ตั้งแต่ เดือน เมษายน ปี ค.ศ. 2001 จนแล้วเสร็จ
ในปี ค.ศ. 2003 และประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2004 โดยได้จัดแบ่งหมวดหมู่ใหม่ ดังนี้


กลุ่มที่ 1: การจัดซื้อจัดหาและสัญญา
หมวด 00 ข้อกําหนด ความต้องการของการจัดจ้างและการทําสัญญาจ้าง (Procurement
and Contracting Requirements)
กลุ่มที่ 2: ข้อกําหนด ประกอบด้วย กลุ่มย่อย 5 กลุ่ม คือ
1. ข้อกําหนดทั่วไป
หมวด 01 ข้อกําหนด ความต้องการทั่วไป (General Requirements) ขอบเขตการ
แสดงความ ต้องการที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถเขียนแสดงความ
ต้องการในแต่ละรายการ ที่ไปมีส่วนคาบเกี่ยวกับหมวดงานอื่น ๆ (เช่น การ
ก่อสร้างพื้นผิว งานด้านโครงสร้าง เป็นต้น) ซึ่งทําให้สามารถผสมผสาน
คุณลักษณะจําเพาะได้กว้าง และช่วยให้สามารถกําหนดข้อกําหนดในคู่มือ
โครงการได้
2. การก่อสร้างสิ่งอํานวยความสะดวก
หมวด 02 สภาพสถานที่ก่อสร้างที่เป็นอยู่ (Existing Conditions) โดยหมวดนี้จะ
จํากัดไว้ เฉพาะ ‘สภาพที่มีอยู่’ การก่อสร้างที่มีความสัมพันธ์กับรายการ
ต่าง ๆ ของบริเวณก่อสร้าง ตั้งแต่ เริ่มต้นการทํางาน ซึ่งได้แก่ สิ่งที่ต้อง
เลือกเพื่อทําการรื้อออก และทําลาย การดูแลพื้นผิว งานด้านการ สืบเสาะ
อื่น ๆ การสํารวจ การตรวจสอบการปนเปื้อนในบริเวณก่อสร้าง สิ่งที่ต้อง
ทําเพื่อปรับสภาพ พื้นที่ รวมทั้งสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ หัวข้อ
เรื่องการดําเนินการก่อสร้างในบริเวณก่อสร้าง ทั้งหมด เช่น เรื่องของ
ประชาชน และเรื่องของพื้นที่ใต้อาคาร รวมทั้งสาธารณูปโภคและ งานด้าน
ทางเดินเท้า ได้ถูกย้ายไปไว้ที่ กลุ่มของบริเวณก่อสร้างและพื้นที่ใต้อาคาร
หมวด 03 งานคอนกรีต (Concrete)
หมวด 04 งานก่ออิฐ (Masonry)
หมวด 05 งานโลหะ (Metals)
หมวด 06 งานไม้ พลาสติก และ ส่วนประกอบอื่น ๆ (Wood, Plastics, and
Composites)
หมวด 07 งานฉนวน การป้องกันความร้อน และความชื้น (Thermal and Moisture
Protection)
หมวด 08 งานช่องเปิด (Openings) บานประตูและหน้าต่าง บานเกล็ด
หมวด 09 งานผิวสําเร็จ (Finishes)
หมวด 10 งานลักษณะพิเศษ (Specialties)


หมวด 11 อุปกรณ์ (Equipment)
หมวด 12 เครื่องตกแต่ง (Furnishings)
หมวด 13 การก่อสร้างพิเศษ (Special Construction)
หมวด 14 เครื่องมือ/ยานพาหนะในการขนส่ง (Conveying Equipment)
หมวด 15 สํารองไว้สําหรับอนาคต
3. งานสิ่งอํานวยความสะดวกในด้านบริการ
หมวด 21 การควบคุมเพลิง
หมวด 22 การเดินท่อ
หมวด 23 การให้ความร้อน การไหลเวียนของอากาศ และการติดเครื่องปรับอากาศ
หมวด 25 การควบคุมระบบอัตโนมัติ
หมวด 26 ไฟฟ้า
หมวด 27 การสื่อสาร
หมวด 28 ความปลอดภัยและการป้องกันในการใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
4. งานสนามและโครงสร้างพื้นฐาน
หมวด 31 งานดิน
หมวด 32 การปรับปรุงภายนอก
หมวด 33 สาธารณูปโภค
หมวด 34 การขนส่ง
หมวด 35 การก่อสร้างทางน้ําและทะเล


5. งานอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการ
หมวด 40 การรวบรวมปฏิบัติการต่าง ๆ
หมวด 41 การปฏิบัติการทางวัสดุและการใช้งานเครื่องมือ
หมวด 42 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ให้ความร้อน การทําความเย็น และ
หมวด 43 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ใช้แก๊ส และของเหลว การทําให้บริสุทธิ์ และ
เครื่องมือที่ใช้จัดเก็บ
หมวด 44 เครื่องมือที่ใช้ควบคุมมลพิษ
หมวด 45 เครื่องมือทางการผลิตด้านงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง
หมวด 46 อุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพน้ํา และบําบัดน้ําเสีย
หมวด 48 การจ่ายไฟฟ้า
หมวดต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงรายละเอียดไว้ข้างต้นคือกลุ่มที่สํารองไว้เป็นพื้นที่ว่าง สําหรับ
การพัฒนาและการขยายขอบข่ายในอนาคต
รายละเอียด CSI MasterFormat ฉบับปี ค.ศ. 2016 สามารถ Download ได้ที่
https://www.edmca.com/media/35207/masterformat-2016.pdf
3. ความสัมพันธ์ของ UNIFORMAT และ MasterFormat
MasterFormat เป็นการกําหนดตําแหน่งในการระบุข้อมูลโครงการตามองค์ประกอบ
ภายในข้อกําหนด (Specifications/Project Manuals)
MasterFormat จะอ้างอิงถึง UniFormat ในการจัดลําดับของแต่ละองค์ประกอบ เอกสาร
ทั้งสองนี้มีมุมมองที่หลากหลายของข้อมูลในโครงการ ตามที่ระบุในข้อกําหนด
(Specifications/Project Manual) และการประมาณต้นทุน/ราคา ซึ่งจะอ้างอิงถึง
ผลิตภัณฑ์และองค์ประกอบของประโยชน์ใช้สอย (Function Element) ในงาน


ข้อมูลใน UniFormat ตามข้อกําหนดในการจัดหา 30 รายการ และข้อกําหนดด้านสัญญา 40
รายการ จะอ้างอิงตามโครงสร้างของ MasterFormat รวมถึงข้อมูล Z10 ใน UniFormat
ข้อกําหนดทั่วไป จะอ้างอิงตาม MasterFormat เช่นกัน
4. ข้อแตกต่างของ UniFormat จาก MasterFormat (DIFFERENCES FROM
MASTERFORMAT)
ข้อแตกต่างหลักระหว่าง UniFormat และ MasterFormat คือมุมมองในการพิจารณาข้อมูล
การก่อสร้าง UniFormat จะระบุองค์ประกอบแต่ละส่วนที่มีลักษณะการใช้งานอย่างน้อยหนึ่ง
หรือมากกว่า เช่น งานฐานรากจะพิจารณาถึงเสถียรภาพและการค้ํายัน ระดับ ลําดับหมายเลข
การจําแนกของ UniFormat ที่มีเลขทะเบียนจะหยุดอยู่เหนือระดับของการกําหนดทางเทคนิค
ที่ใช้เพื่อให้บรรลุประโยชน์ใช้สอย (Function) ที่อธิบายไว้
โดยการเปรียบเทียบข้อมูลใน MasterFormat จะจัดเรียงตามผลงานซึ่งกําหนดไว้ใน
MasterFormat ว่าเป็น "ลักษณะถาวรหรือชั่วคราวของโครงการก่อสร้างที่แล้วเสร็จในขั้นตอน
การผลิตหรือตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงการบํารุงรักษาหรือการรื้อถอนโดยการใช้ทักษะ
เฉพาะหรือ แหล่งข้อมูลการก่อสร้าง การจัดเรียงนี้ช่วยให้สามารถอธิบายรายละเอียดของข้อมูล
ได้มากขึ้น แต่การใช้งานในบางลักษณะที่ UniFormat ทําหน้าที่ เช่นคําอธิบายโครงการ
เบื้องต้นการเปรียบเทียบตัวเลือกการออกแบบหรือการประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
MasterFormat ไม่สามารถทําได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้
MasterFormat จะเน้นรายละเอียดในด้านวัสดุและการทํางานตามรายการละเอียดใน
ข้อกําหนด (Specifications)
ในทางกลับกัน UniFormat จะเน้นไปที่โครงสร้างที่ใช้งาน ซึ่งจะช่วยในการประมาณการ
ค่าใช้จ่ายในแต่ละช่วง แต่ละขั้นตอนของการออกแบบและประเมินโครงการในแต่ละขั้นตอน
ข้อสรุปนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้ UniFormat ในการจัดทํารายละเอียดโครงการเบื้องต้น
รายละเอียดค่าใช้จ่ายและข้อกําหนดด้านประสิทธิภาพขององค์ประกอบทั้งหมดเช่นระบบ
HVAC และชุดประกอบผนังด้านนอกและใช้ MasterFormat เพื่อจัดเตรียมการประมาณ


ค่าใช้จ่ายและการวิเคราะห์รายละเอียดข้อกําหนดเชิงอธิบายและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ทางเลือกในการออกแบบ
UniFormat และ MasterFormat แสดงถึงมุมมองที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและ
ความสัมฤทธิ์ผลของงาน โดย UniFormat กําหนดชื่อองค์ประกอบที่มีประโยชน์ใช้สอยที่
สามารถกําหนดได้ ส่วน MasterFormat จะมีรายการตามองค์ประกอบวัสดุที่มีลักษณะเฉพาะ
5. รหัสต้นทุนของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
(วสท: EIT Cost Code) สําหรับงานอาคาร และงานชลประทาน
รหัสต้นทุนของ วสท. นี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อนําไปใช้กับงานประมาณราคาของงานราชการ
ในปี พ.ศ.2555 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ร่วมกับสมาคมที่
ปรึกษาแห่งประเทศไทย (วปท.) สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (อาษา) สมาคม
อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (TCA) สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย
(TEMCA) สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA) นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง
ด้านราคาและการควบคุมต้นทุน รวมถึงผู้คุ้นเคยกับเรื่องรหัสต้นทุนก่อสร้าง ได้ร่วมกันพิจารณา
จัดทํามาตรฐานรหัสต้นทุนก่อสร้างงานอาคาร พ.ศ.2555 (Standard Elemental
Construction Cost Code for Building – 2012 ) ขึ้น เพื่อเป็นมาตรฐานอ้างอิงใน งาน
ก่อสร้างอาคาร ของประเทศไทย
และในปี พ.ศ.2560 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ร่วมกับ
กรมชลประทาน สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (TCA) และหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง จัดทํามาตรฐานรหัสต้นทุนก่อสร้างงานชลประทาน พ.ศ.2560 (Standard
elemental construction cost code for irrigation – 2017) ขึ้น เพื่อเป็นมาตรฐานในงาน
ก่อสร้างงานชลประทาน ที่มีลักษณะเฉพาะด้าน มีการจัดหมวดหมู่รหัสต้นทุนก่อสร้าง จําแนก
ตามงาน สอดคล้องกับการทํางานในประเทศไทย โดยกําหนดเป็นมาตรฐาน จนถึงระดับ 3
เพื่อให้เพียงพอกับการพิจารณาภาพรวมของรายการงานที่จะก่อสร้าง สําหรับประมาณราคา
ก่อสร้างเบื้องต้น และพัฒนาจนถึงการสร้างราคาต่อหน่วยต่อไปได้


6. การกําหนดรหัสโครงการและประเภทโครงการ
6.1 รหัสประเภทโครงการ
TYPE OF STRUCTURE/BUILDING
AND BUILDING No/BUILDING NAME
Type Bldg Code Description
01 A LOTUS
01 B HOMEPRO
01 C MAKRO
02 อาคารประเภทค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า (Retails/Department
Store)
02 A Central
02 B The MALL
03
อาคารที่พักอาศัย/อาคารชุด
(Residential/Condominium)


03 G Government
04 อาคารสํานักงาน (Office Building)
04 A
อาคารสํานักงาน ประเภทอาคาร สูงไม่เกิน 4 ชั้น ต่ํากว่า
15 เมตร Office: Low rise
04 B
อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูงปานกลาง สูงระหว่าง 5
ชั้น ถึง 10 ชั้น ไม่เกินกว่า 23 เมตร Office: Middle rise
04 C
อาคารสํานักงาน ประเภทอาคารสูง สูงกว่า 10 ชั้น ขึ้นไป
(มากกว่า 23 ม.)
Office: High Rise
05 Factory
06 E Exprepressway
06 S Subway
06 R Railroad
08 A Housing
08 B Townhouse
08 C Shop House


11 A Mixed Use
12 A Warehouse
14 A Education
14 G Government
6.2 ตัวอย่างรหัสหมายเลขอาคาร
Bldg. No. Building Name
01 Main Building
02 Building Renovation
03 Car Parking Bidg.
04 Guard House
05 External Work
===============


UNIFORMAT เป็นมาตรฐานการจัดข้อมูลตามส่วนอาคาร (Element of Building) ตามระบบ
อเมริกัน ฉบับแรกถูกจัดพิมพ์โดย Construction Specification Institute (CSI) ในปี ค.ศ. 1992
UNIFORMAT ชุดที่จัดพิมพ์ในปี ค.ศ. 2010 เป็นการพัฒนาร่วมกันขององค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องคือ
The Construction Specification Institute (CSI), Construction Specifications Canada (CSC),
National Institute of Science and Technology (NIST), American Society for Testing
Material (ASTM), General Services Administration (GSA), National Institute of Building
Sciences (NIBS), National Building Information Model Standard (NBIMS), Naval Facilities
Engineering Command (NAVFAC) มี 4 ระดับ
โดยใช้รายละเอียดโครงการ (Project Description) กํากับด้วยตัวเลข 10-40 และมีลักษณะคล้ายกับ
UNIFORMAT II/ASTM E-1557-05
รหัสต้นทุนแบบ UNIFORMAT มีการจัดเรียงข้อมูลในสองระดับแรก ดังนี้
A. SUBSTRUCTURE
A10 FOUNDATION
A40 SLAB ON GRADE
B. SHELL
B10 SUPERSTRUCTURE
C. INTERIOR
D. SERVICES
D10 CONVEYING
D20 PLUMBING
D40 FIRE PROTECTION


D50 ELECTRICAL
D60 COMMUNICATIONS
E10 EQUIPMENT
E20 FURNISHING
F30 DEMOLITION
G40 ELECTRICAL SITE IMPROVEMENT
G50 SITE COMMUNICATION
G90 MISCELANEOUS SITE CONSTRUCTION
Z. GENERAL
Z10 GENERAL REQUIREMENT
Z70 TAX, PERMITS, INSURANCE AND BOND
Z90 FEES AND CONTINGENCY
UNIFORMAT II/ASTME-1557-05
UNIFORMAT II เป็นการพัฒนาต่อจาก UNIFORMAT โดย American Society for Testing
Material (ASTM) ซึ่งเริ่มในปี ค.ศ. 1998 และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
UNIFORMAT II/ASTM-E1557-05 ปี ค.ศ. 2005 จัดหมวดหมู่ ในรูปแบบ Work Breakdown
Structure (WBS) มีการจัดเรียงข้อมูลในสองระดับแรกดังนี้


PROJECT DESCRIPTION (ใช้เฉพาะตัวเลขกํากับ 10-40)
A. SUBSTRUCTURE
A10 Foundations
A20 Basement Construction
B. SHELL
B10 Superstructure
B20 Exterior Enclosure
B30 Roofing
C. INTERIORS
C10 Interior Construction
C20 Stairs
C30 Interior Finishes
D. SERVICES
D10 Conveying
D20 Plumbing
D30 HVAC
D40 Fire Protection
D50 Electrical
E10 Equipment
E20 Furnishing
F10 Special Construction
F20 Selective Building Demolition
G10 Site Preparation
G20 Site Improvement
G30 Site Mechanical Utilities
G40 Site Electrical Utilities
G90 Other Site Construction


UNIFORMAT II
10 PROJECT DESCRIPTION
1010 Project Summary
1020 Project Program
1030 Project Criteria
1040 Existing Conditions
1050 Owner’s Work
1090 Funding
20 OWNER DEVELOPMENT
2010 Site Acquisition
2020 Permits
2030 Professional Services
2050 Other Activities
2080
Budget Project
Contingencies
2090 Budget Financing
30 PROCUREMENT REQUIREMENTS
3010 Project Delivery
3020 Solicitation
3030
Instructions for
Procurement
3040
Available Project
Information
3050
Procurement Forms and
Supplements
40 CONTRACTING REQUIREMENTS
4010 Contracting Forms and Supplements


4020 Project Forms
4030 Conditions of the Contract
4040
Revisions, Clarifications, and
Modifications
A SUBSTRUCTURE
A10 FOUNDATIONS
A1010 Standard Foundations
A1020
Special
Foundations
A2010
Walls for Subgrade
Enclosures
A40 SLABS-ON-GRADE
A4010 Standard Slabs-on-Grade
A4020 Structural Slabs-on-Grade
A4030 Slab Trenches
A4040 Pits and Bases
A4090
Slab-On-Grade Supplementary
Components
A6010 Building Subdrainage
A6020 Off-Gassing Mitigation
A9010 Substructure Excavation
A9020 Construction Dewatering


A9030
Excavation
Support
A9040 Soil Treatment
B SHELL
B10 SUPERSTRUCTURE
B1010 Floor Construction
B1020 Roof Construction
B1080 Stairs
B2010 Exterior Walls
B2020 Exterior Windows
B2050 Exterior Doors and Grilles
B2070 Exterior Louvers and Vents
B2080
Exterior Wall
Appurtenances
B2090 Exterior Wall Specialties
B3010 Roofing
B3020
Roof
Appurtenances
B3040 Traffic Bearing Horizontal Enclosures
B3060
Horizontal
Openings
B3080
Overhead Exterior
Enclosures


C INTERIORS
C1010 Interior Partitions
C1020 Interior Windows
C1030 Interior Doors
C1040 Interior Grilles and Gates
C1060 Raised Floor Construction
C1070 Suspended Ceiling Construction
C1090 Interior Specialties
C2010 Wall Finishes
C2020
Interior
Fabrications
C2030 Flooring
C2040 Stair Finishes
C2050 Ceiling Finishes
C2090 Interior Finish Schedules
D SERVICES
D10 CONVEYING
D1010 Vertical Conveying Systems
D1030 Horizontal Conveying
D1050 Material Handling
D1080 Operable Access Systems
D20 PLUMBING
D2010 Domestic Water Distribution
D2020 Sanitary Drainage
D2030 Building Support Plumbing Systems
D2050 General Service Compressed-Air


D2060 Process Support Plumbing Systems
D3010 Facility Fuel Systems
D3020 Heating Systems
D3030 Cooling Systems
D3050 Facility HVAC Distribution Systems
D3060 Ventilation
D3070 Special Purpose HVAC Systems
D40 FIRE PROTECTION
D4010 Fire Suppression
D4030 Fire Protection Specialties
D50 ELECTRICAL
D5010 Facility Power Generation
D5020 Electrical Service and Distribution
D5030 General Purpose Electrical Power
D5040 Lighting
D5080 Miscellaneous Electrical Systems
D60 COMMUNICATIONS
D6010 Data Communications
D6020 Voice Communications
D6030
Audio-Video
Communication
D6060
Distributed Communications and
Monitoring
D6090
Communications Supplementary
Components


D7010
Access Control and Intrusion
Detection
D7030 Electronic Surveillance
D7050
Detection and
Alarm
D7070 Electronic Monitoring and Control
D7090 Electronic Safety
and Security Supplementary
Components
D8010
Integrated Automation Facility
Controls
E EQUIPMENT AND FURNISHINGS
E10 EQUIPMENT
E1010 Vehicle and Pedestrian Equipment
E1030 Commercial Equipment
E1040 Institutional Equipment
E1060 Residential Equipment
E1070
Entertainment and Recreational
Equipment
E1090 Other Equipment
E20 FURNISHINGS
E2010 Fixed Furnishings
E2050
Movable
Furnishings


F SPECIAL CONSTRUCTION AND DEMOLITION
F1010 Integrated Construction
F1020 Special Structures
F1030
Special Function
Construction
F1050
Special Facility
Components
F1060
Athletic and Recreational Special
Construction
F1080 Special Instrumentation
F2010 Hazardous Materials Remediation
F30 DEMOLITION
F3010
Structure
Demolition
F3030
Selective
Demolition
F3050 Structure Moving
G SITEWORK
G1010 Site Clearing
G1020 Site Elements Demolition
G1030 Site Element Relocations
G1050 Site Remediation
G1070 Site Earthwork


G2010 Roadways
G2020 Parking Lots
G2030 Pedestrian Plazas and Walkways
G2040 Airfields
G2050
Athletic, Recreational, and Playfield
Areas
G2060 Site Development
G2080 Landscaping
G3010 Water Utilities
G3020 Sanitary Sewerage Utilities
G3030 Storm Drainage Utilities
G3050 Site Energy Distribution
G3060
Site Fuel
Distribution
G3090
Liquid and Gas Site Utilities
Supplementary Components
G40 ELECTRICAL SITE IMPROVEMENTS
G4010 Site Electric Distribution Systems
G4050 Site Lighting
G50 SITE COMMUNICATIONS
G5010
Site Communications
Systems
G90 MISCELLANEOUS SITE CONSTRUCTION
G9010 Tunnels


Z GENERAL
Z10 GENERAL REQUIREMENTS
Z1010
Price and Payment
Procedures
Z1020
Administrative
Requirements
Z1040 Quality Requirements
Z1050 Temporary Facilities and Controls
Z1060 Product Requirements
Z1070
Execution and Closeout
Requirements
Z1090
Life Cycle
Activities
Z70 TAXES, PERMITS, INSURANCE AND BONDS
Z7010 Taxes
Z7030 License Fees
Z7050 Permit Costs
Z7070 Bond Fees
Z90 FEES AND CONTINGENCIES
Z9010
Overhea
d
Z9030 Profit
Z9050 Construction Contingencies
Z9090 Financing Costs
P PRELIMINARY
10 รายละเอียดโครงการ
1010 สรุปรายละเอียดโครงการ
1020 โครงการโครงการ


1030 เกณฑ์กําหนดของโครงการ
1040 สภาพที่เป็นอยู่
1050 งานของเจ้าของ
1090 เงินทุน
20 การพัฒนาจากฝ่ายเจ้าของ
2010 การครอบครองสถานที่
2020 ใบอนุญาต
2030 ค่าบริการวิชาชีพ
2050 กิจกรรมอื่น ๆ
2080 การเผื่องบประมาณโครงการที่อาจเกิดขึ้น
2090 งบประมาณทางการเงิน
30 ข้อกําหนดการจัดซื้อจัดจ้าง
3010 การส่งมอบโครงการ
3020 ประกาศเชิญชวน
3030 คําแนะนําสําหรับการจัดซื้อจัดจ้าง
3040 ข้อมูลโครงการ
3050 แบบฟอร์มจัดซื้อและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
40 ข้อกําหนดด้านสัญญา
4010 แบบฟอร์มการทําสัญญาและอาหารเสริม
4020 แบบฟอร์มโครงการ
4030 เงื่อนไขของสัญญา
4040 การแก้ไขคําชี้แจงและการปรับเปลี่ยน
A โครงสร้างใต้ดิน
A10 ฐานราก
A1010 ฐานรากมาตรฐาน
A1020 ฐานรากพิเศษ


A20 ส่วนปกคลุมชั้นฐานราก คันทาง
A2010 ผนังส่วนชั้นฐานราก
A40 พื้นบนดิน
A4010 พื้นบนดินมาตรฐาน
A4020 โครงสร้างพื้นบนดิน
A4030 ร่องพื้นคอนกรีต
A4040 หลุมและฐาน
A4090 ส่วนประกอบอื่น ๆ ของพื้นบนดิน
การควบคุมน้ํา และก๊าซ
A6010 การระบายน้ําใต้อาคาร
A6020 การควบคุมก๊าซ
กิจกรรมส่วนที่เกี่ยวกับงานใด้ดิน
A9010 งานขุดโครงสร้างใต้ดิน
A9020 การควบคุมน้ํา
A9030 การค้ํายันงานขุด
A9040 การปรับปรุงดิน
B เปลือกอาคาร
B10 โครงสร้างเหนือดิน
B1010 การก่อสร้างพื้น
B1020 การก่อสร้างหลังคา
B1080 บันได
B20 ส่วนหุ้มห่อแนวตั้งภายนอก
B2010 ผนังภายนอก
B2020 หน้าต่างภายนอก
B2050 ประตูและลูกกรงภายนอก
B2070 เกล็ดระบายอากาศภายนอก


B2080 อุปกรณ์ภายนอกอื่น ๆ
B2090 งานพิเศษภายนอกอื่น ๆ
B30 วัสดุปกคลุมภายนอกแนวนอน
B3010 หลังคา
B3020 อุปกรณหลังคาอื่น ๆ
B3040 วัสดุปกคลุมภายนอกด้านการจราจร
B3060 ช่องเปิดแนวนอน
B3080 วัสดปกคลุมภายนอกเหนือศีรษะ
C ภายใน
C10 การก่อสร้างภายใน
C1010 ผนังกั้นภายใน
C1020 หน้าต่างภายใน
C1030 ประตูภายใน
C1040 ประตูและแผงลูกกรงภายใน
C1060 การก่อสร้างพื้นยก
C1070 การก่อสร้างเพดานแบบแขวน
C1090 สิ่งก่อสร้างพิเศษภายใน
C20 วัสดุผิวสําเร็จภายใน
C2010 ผิวสําเร็จงานผนัง
C2020 การผลิตภายใน
C2030 วัสดุปูพื้น
C2040 ผิวสําเร็จบันได
C2050 ฝ้าเพดาน
C2090 รายการงานตกแต่งภายใน
D งานบริการ
D10 ระบบขนส่ง
D1010 ระบบลําเลียงแนวตั้ง


D1030 การลําเลียงแนวนอน
D1050 การจัดการวัสดุ
D1080 ระบบการเข้าถึงที่สามารถเข้าถึงได้
D20 สุขาภิบาล สุขภัณฑ์
D2010 การกระจายน้ําในประเทศ
D2020 สุขาภิบาลการระบายน้ํา
D2030 ระบบประปาสนับสนุนอาคาร
D2050 บริการทั่วไปอัดอากาศ
D2060 กระบวนการผลิตระบบประปา
D30 ระบบความร้อน ระบายอากาศ และระบบปรับอากาศ
D3010 ระบบเชื้อเพลิงสิ่งอํานวยความสะดวก
D3020 ระบบทําความร้อน
D3030 ระบบทําความเย็น
D3050 สิ่งอํานวยความสะดวกระบบจําหน่าย HVAC
D3060 การระบายอากาศ
D3070 ระบบ HVAC วัตถุประสงค์พิเศษ
D40 ระบบป้องกันอัคคีภัย
D4010 ระบบป้องกันเพลิง
D4030 การป้องกันอัคคีภัยพิเศษ
D50 ระบบไฟฟ้า
D5010 สิ่งอํานวยความสะดวกด้านการผลิตไฟฟ้า
D5020 การจ่ายและบริการไฟฟ้า
D5030 วัตถุประสงค์ทั่วไปด้านไฟฟ้ากําลัง
D5040 โคมไฟ
D5080 ระบบไฟฟ้าอื่น ๆ


D60 การสื่อสาร
D6010 การสื่อสารข้อมูล
D6020 การสื่อสารด้วยเสียง
D6030 การสื่อสารด้วยเสียงและวิดีโอ
D6060 การสื่อสารและการตรวจสอบ
D6090 องค์ประกอบเพิ่มเติมด้านการสื่อสาร
D70 ระบบรักษาความปลอดภัย และความปลอดภัยอิเล็คทรอนิกส์
D7010 การควบคุมการเข้าและการตรวจจับการบุกรุก
D7030 การเฝ้าระวังด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
D7050 การเตือนและตรวจจับ
D7070 การตรวจสอบและควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
D7090 องค์ประกอบเพิ่มเติมสําหรับการรักษาความปลอดภัย
และความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์
D80 ระบบควบคุมอัตโนมัติแบบบูรณาการ
D8010 ระบบควบคุมอัตโนมัติแบบบูรณาการ
E อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์
EQUIPMEN
T อุปกรณ์
E1010 อุปกรณ์สําหรับยานพาหนะและทางเท้า
E1030 อุปกรณ์เชิงพาณิชย์
E1040 อุปกรณ์ด้านสถาบัน
E1060 อุปกรณ์ที่อยู่อาศัย
E1070 อุปกรณ์สําหรับความบันเทิงและสันทนาการ
E1090 อุปกรณ์อื่น ๆ
E20 เฟอร์นิเจอร์
E2010 เฟอร์นิเจอร์ตติดตาย
E2050 เฟอร์นิเจอร์ชนิดเคลื่อนย้ายได้


F การก่อสร้างพิเศษและงานรื้อถอน
F10 การก่อสร้างพิเศษ
F1010 การก่อสร้างแบบบูรณาการ
F1020 โครงสร้างพิเศษ
F1030 การก่อสร้างพื้นที่ใช้สอยพิเศษ
F1050 ส่วนประกอบของสิ่งอํานวยความสะดวกพิเศษ
F1060 การก่อสร้างพิเศษสําหรับการกีฬาและนันทนาการ
F1080 เครื่องมือพิเศษ
F20 การฟื้นฟู ปรับปรุง สิ่งอํานวยความสะดวก
F2010 การฟื้นฟู ปรับปรุง สภาพจากวัสดุอันตราย
F30 การรื้อถอน
F3010 การรื้อถอนโครงสร้าง
F3030 การรื้อถอนส่วนของคัดเลือก
F3050 การย้ายโครงสร้าง
G งานสนาม
G10 งานเตรียมพื้นที่
G1010 การปรับพื้นที่
G1020 การรื้อถอนองค์ประกอบในสถานที่ก่อสร้าง
G1030 การย้ายองค์ประกอบ ส่วนของโครงสร้าง
G1050 การฟื้นฟู ปรับปรุงพื้นที่
G1070 งานดิน
G20 การปรับปรุง พัฒนาพื้นที่
G2010 ถนน ทางรถวิ่ง
G2020 ลานจอดรถ
G2030 พื้นที่บริเวณคนเดิน และทางเดินเท้า
G2040 สนามบิน


G2050 สนามกีฬา พื้นที่สันทนาการ และสนามเด็กเล่น
G2060 การพัฒนาพื้นที่
G2080 ภูมิทัศน์
G30 ระบบสาธารณูปโภคด้านน้ําและก๊าซ
G3010 ระบบสาธารณูปโภคด้านน้ํา
G3020 ระบบสาธารณูปโภคด้านสุขาภิบาล ระบายน้ําเสีย
G3030 ระบบสาธารณูปโภคการระบายน้ําฝน
G3050 การจ่ายพลังงานในสถานที่ก่อสร้าง
G3060 การจ่ายเชื้อเพลิงในสถานที่ก่อสร้าง
G3090 ส่วนประกอบของอุปกรณ์เสริมของเหลวและแก๊ส
G40 การปรับปรุงระบบไฟฟ้า
G4010 ระบบจําหน่ายไฟฟ้าของเว็บไซต์
G4050 แสงสว่าง
G50 การสื่อสาร
G5010 ระบบสื่อสารในบริเวณโครงการ
G90 การก่อสร้างอื่น ๆ
G9010 อุโมงค์
Z ทั่วไป
Z10 ข้อกําหนดทั่วไป
Z1010 ราคาและวิธีการชําระเงิน
Z1020 ข้อกําหนด/ความต้องการด้านการจัดการ
Z1040 ข้อกําหนดด้านคุณภาพ
Z1050 สิ่งอํานวยความสะดวกชั่วคราว และการควบคุม
Z1060 ข้อกําหนดด้านผลิตภัณฑ์
Z1070 ข้อกําหนดในการดําเนินการและการปิดบัญชี
Z1090 กิจกรรมวงจรของโครงการ


Z70 ภาษี ใบอนุญาต ประกัน และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
Z7010 ภาษี
Z7030 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
Z7050 ค่าใช้จ่ายสําหรับการขออนุญาต
Z7070 ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ําประกัน
Z90 ค่าบริการและเผื่อขาด
Z9010 ค่าดําเนินการ
Z9030 กําไร
Z9050 ค่าเผื่อการก่อสร้าง
Z9090 ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการเงิน
===============


สรุปรหัสต้นทุนแบบ CSI MasterFormat ที่ใช้งาน
กลุ่มที่ 1: การจัดซื้อจัดหาและสัญญา
หมวด 00 ข้อกําหนด ความต้องการของการจัดจ้างและการทําสัญญาจ้าง (Procurement
and Contracting Requirements)
กลุ่มที่ 2: ข้อกําหนด ประกอบด้วย กลุ่มย่อย 5 กลุ่ม คือ
1. ข้อกําหนดทั่วไป
หมวด 01 ข้อกําหนด ความต้องการทั่วไป (General Requirements) ขอบเขตการ
แสดงความ ต้องการที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถเขียนแสดงความ
ต้องการในแต่ละรายการ ที่ไปมีส่วนคาบเกี่ยวกับหมวดงานอื่น ๆ (เช่น การ
ก่อสร้างพื้นผิว งานด้านโครงสร้าง เป็นต้น) ซึ่งทําให้สามารถผสมผสาน
คุณลักษณะจําเพาะได้กว้าง และช่วยให้สามารถกําหนดข้อกําหนดในคู่มือ
โครงการได้
2. การก่อสร้างสิ่งอํานวยความสะดวก
หมวด 02 สภาพสถานที่ก่อสร้างที่เป็นอยู่ (Existing Conditions) โดยหมวดนี้จะ
จํากัดไว้ เฉพาะ ‘สภาพที่มีอยู่’ การก่อสร้างที่มีความสัมพันธ์กับรายการ
ต่าง ๆ ของบริเวณก่อสร้าง ตั้งแต่ เริ่มต้นการทํางาน ซึ่งได้แก่ สิ่งที่ต้อง
เลือกเพื่อทําการรื้อออก และทําลาย การดูแลพื้นผิว งานด้านการ สืบเสาะ
อื่น ๆ การสํารวจ การตรวจสอบการปนเปื้อนในบริเวณก่อสร้าง สิ่งที่ต้อง
ทําเพื่อปรับสภาพ พื้นที่ รวมทั้งสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ หัวข้อ
เรื่องการดําเนินการก่อสร้างในบริเวณก่อสร้าง ทั้งหมด เช่น เรื่องของ
ประชาชน และเรื่องของพื้นที่ใต้อาคาร รวมทั้งสาธารณูปโภคและ งานด้าน
ทางเดินเท้า ได้ถูกย้ายไปไว้ที่ กลุ่มของบริเวณก่อสร้างและพื้นที่ใต้อาคาร
หมวด 03 งานคอนกรีต (Concrete)
หมวด 04 งานก่ออิฐ (Masonry)
หมวด 05 งานโลหะ (Metals)
หมวด 06 งานไม้ พลาสติก และ ส่วนประกอบอื่น ๆ (Wood, Plastics, and
Composites)
หมวด 07 งานฉนวน การป้องกันความร้อน และความชื้น (Thermal and Moisture
Protection)
หมวด 08 งานช่องเปิด (Openings) บานประตูและหน้าต่าง บานเกล็ด


หมวด 09 งานผิวสําเร็จ (Finishes)
หมวด 10 งานลักษณะพิเศษ (Specialties)
หมวด 11 อุปกรณ์ (Equipment)
หมวด 12 เครื่องตกแต่ง (Furnishings)
หมวด 13 การก่อสร้างพิเศษ (Special Construction)
หมวด 14 เครื่องมือ/ยานพาหนะในการขนส่ง (Conveying Equipment)
3. งานสิ่งอํานวยความสะดวกในด้านบริการ
หมวด 21 การควบคุมเพลิง
หมวด 22 การเดินท่อ
หมวด 23 การให้ความร้อน การไหลเวียนของอากาศ และการติดเครื่องปรับอากาศ
หมวด 25 การควบคุมระบบอัตโนมัติ
หมวด 26 ไฟฟ้า
หมวด 27 การสื่อสาร
หมวด 28 ความปลอดภัยและการป้องกันในการใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
4. งานสนามและโครงสร้างพื้นฐาน
หมวด 31 งานดิน
หมวด 32 การปรับปรุงภายนอก
หมวด 33 สาธารณูปโภค
หมวด 34 การขนส่ง
หมวด 35 การก่อสร้างทางน้ําและทะเล

5. งานอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการ
หมวด 40 การรวบรวมปฏิบัติการต่าง ๆ
หมวด 41 การปฏิบัติการทางวัสดุและการใช้งานเครื่องมือ
หมวด 42 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ให้ความร้อน การทําความเย็น และ
หมวด 43 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ใช้แก๊ส และของเหลว การทําให้บริสุทธิ์ และ
เครื่องมือที่ใช้จัดเก็บ
หมวด 44 เครื่องมือที่ใช้ควบคุมมลพิษ
หมวด 45 เครื่องมือทางการผลิตด้านงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง
หมวด 46 อุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพน้ํา และบําบัดน้ําเสีย
หมวด 48 การจ่ายไฟฟ้า
หมวดต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงรายละเอียดไว้ข้างต้นคือกลุ่มที่สํารองไว้เป็นพื้นที่ว่าง สําหรับ
การพัฒนาและการขยายขอบข่ายในอนาคต
รายละเอียดรหัสต้นทุน CSI MasterFormat Cost Code แสดงไว้ในภาคผนวก 1


ตัวอย่าง BOQ งานเขื่อน


===============

Cost code manual

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

Similar to Cost code manual

Similar to Cost code manual (16)

More from Jadenarong Chaochudetch

More from Jadenarong Chaochudetch (10)

Cost code manual