More Related Content
Similar to Astronomy 04 (7)
Astronomy 04
- 6. 3.1 แผ่นดินไหว (Earthquake)
• แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ก่อให้เกิด
ความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์
3.1.1 แผ่นดินไหวเกิดได้อย่างไร
- เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ
- เกิดจากการกระทาของมนุษย์
- เกิดจากการเคลื่อนที่ของธรณีภาค
- 11. จากกิจกรรม 3.1 ก
อธิบายได้ว่า
เมื่อออกแรงกระทากับแผ่นไม้อัดอย่างต่อเนื่องจนเกิดความ
เค้น ทาให้แผ่นไม้อัดเกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะเนื่องจากเกิด
ความเครียด ถ้ามีแรงมากระทาต่อแผ่นไม้อัดอย่างต่อเนื่อง แผ่นไม้
อัดจะมีความเครียดมากขึ้น จนถึงจุดหนึ่งที่แผ่นไม้อัดต้านแรงที่มา
กระทาต่อไปไม่ได้ แผ่นไม้อัดจะเกิดการแตกหักและปล่อยพลังงาน
ออกมา ทาให้เกิดการสั่นและเกิดเสียง ซึ่งลักษณะการเปลี่ยนแปลง
ของแผ่นไม้อัดดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้ในลักษณะเดียวกันกับหินใน
เปลือกโลก
- 19. จากกิจกรรมที่ 3.2
• เมื่อออกแรงกระทากับวัตถุใด ๆ วัตถุจะพยายามต้านการ
เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยสะสมพลังงานในรูปของพลังงาน
ศักย์
• จนกระทั่งแรงที่มากระทามีขนาดมากเกินกว่าที่วัตถุจะต้านไว้
ได้ วัตถุนั้นจะเปลี่ยนรูปร่าง และถ่ายโอนพลังงานศักย์ที่
สะสมให้กับอนุภาคของวัตถุที่อยู่ติดกัน
- 20. • จากกิจกรรม 3.2 หลังจากที่ปล่อยยางรัดพลังงานศักย์ที่สะสม
อยู่ในยางรัดจะถูกถ่ายโอนให้กับโมเลกุลของน้าที่อยู่ใกล้กับยาง
รัดมากที่สุด และโมเลกุลของน้าจะถ่ายโอนพลังงานไปยังโมเลกุล
ของน้าที่อยู่ถัดไปในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนที่ของคลื่น โดยที่
โมเลกุลของน้าไม่ได้เคลื่อนที่ ซึ่งสังเกตได้จากชิ้นริบบิ้นจะลอยน้า
อยู่กับที่
• การถ่ายโอนของพลังงานโดยผ่านโมเลกุลของน้า ทาให้เกิดเป็น
คลื่นผิวน้าซึ่งเป็นคลื่นพื้นผิว
• คล้ายคลึงกับการถ่ายโอนพลังงานของคลื่นไหวสะเทือนที่เกิดจาก
แผ่นดินไหวในธรรมชาติ แต่ในการเกิดแผ่นดินไหวจะเกิดทั้ง
คลื่นพื้นผิวและคลื่นในตัวกลาง
- 21. คลื่นไหวสะเทือน มี 2 ชนิด
ได้แก่ คลื่นในตัวกลาง และ คลื่นพื้นผิว
คลื่นในตัวกลาง
เป็นคลื่นที่เคลื่อนที่แผ่กระจายในทุกทิศทุกทางจาก
ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวและเดินทางอยู่ในตัวกลางที่คลื่น
เคลื่อนที่ผ่าน
คลื่นในตัวกลางแบ่งได้ 2 ชนิด
- คลื่นปฐมภูมิ
- คลื่นทุติยภูมิ
- 27. 3.1.3 แนวแผ่นดินไหว
แนวรอยต่อที่สาคัญที่ทาให้เกิดแผ่นดินไหวมีอยู่ 3 แนว
(1)แนวรอยต่อที่เกิดล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก คิดเป็นร้อยละ 80 ของ
การเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลก เรียกกันว่า วงแหวนไฟ(Ring of Fire)
ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ด้านตะวันตกของประเทศแม็กซิโก และด้าน
ตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
(2) แนวรอยต่อภูเขาแอลป์ ในทวีปยุโรปและภูเขาหิมาลัยในทวีปเอเชีย
เป็นแหล่งที่เกิดแผ่นดินไหวประมาณร้อยละ 15 ได้แก่ อัฟกานิสถาน อิหร่าน
ตุรกี และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุโรป
(3) แนวรอยต่อที่เหลืออีกร้อยละ 5 เกิดในบริเวณแนวเทือกสันเขากลาง
มหาสมุทรของโลก เช่น แอตแลนติก อินเดีย และอาร์กติก
- 30. 3.1.4 ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว (ต่อ)
• การคานวณขนาดแผ่นดินไหวตามวิธีมาตรฐานของริกเตอร์
จะทาได้เฉพาะแผ่นดินไหวที่มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้น
และต้องเป็นสถานีที่อยู่ในระยะ 200 – 300 กิโลเมตร
จากศูนย์เกิดแผ่นดินไหวเท่านั้น
• จึงทาให้มาตราริกเตอร์มีขีดจากัดในการใช้ นอกจากนี้
มาตราริกเตอร์ยังวัดคลื่นไหวสะเทือนที่มีความสูงที่สุดที่
บันทึกได้จากสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว จึงทาให้ค่าของริก
เตอร์ไม่ได้เป็นค่าที่บอกขนาดของแผ่นดินไหวอย่างแท้จริง
- 31. 3.1.4 ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว (ต่อ)
• ในปัจจุบันได้มีวิธีการศึกษาเฉพาะด้าน ประกอบกับมี
อุปกรณ์การตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนที่ทันสมัย สามารถวัด
ขนาดของแผ่นดินไหวได้ถูกต้องจากทุกระดับความลึก
• สามารถตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหวที่
ห่างไกลจากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวได้ทั่วโลก
• มาตราบอกขนาดของแผ่นดินไหวที่นิยมศึกษา คือ มาตรา
ขนาดโมเมนต์แผ่นดินไหว (seismic-moment
magnitude scale)
- 32. มาตราขนาดโมเมนต์แผ่นดินไหว
(seismic-moment magnitude scale)
• มาตรานี้ศึกษาได้จากการหาค่าความแข็งเกร็ง
(strength) ของหิน
• พื้นที่ตามแนวรอยเลื่อนที่มีการแตกและการเคลื่อนที่ของหิน
• แต่เนื่องจากมาตราริกเตอร์เป็นมาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวที่
มีคนรู้จักกันมาก ดังนั้นในปัจจุบันการรายงานข่าวแก่
ประชาชนเกี่ยวกับแผ่นดินไหวจึงยังอ้างอิงขนาดของ
แผ่นดินไหวกับมาตราริกเตอร์
- 49. คาบอุบัติซ้า (return period)
• เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวจะมีศูนย์เกิดแผ่นดินไหว
และมักจะมีรอบของการเกิดที่เรียกว่า คาบอุบัติซ้า ซึ่ง
หมายถึง ระยะเวลาครบรอบของแผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้น
ณ ที่นั้นแล้วกลับมาเกิดซ้าในที่เดิมอีก
• เหตุการณ์ธรรมชาติที่มีการเก็บข้อมูลคาบอุบัติซ้า คือ
น้าท่วม พายุ แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด
- 51. คาว่ารอยเลื่อนมีพลัง หมายความว่าอย่างไร
ตอบ รอยเลื่อนมีพลัง เป็นแนวรอยเลื่อนบนเปลือกโลกที่สามารถ
ตรวจสอบได้หรือมีหลักฐานทางธรณีวิทยาว่ายังคงมีการเคลื่อน
ตัวอยู่ในปัจจุบันและอาจมีการเลื่อนตัวอีกในอนาคต
นักเรียนคิดว่าพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของประเทศไทยอยู่
บริเวณใด เพราะเหตุใด
ตอบ พื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดแผ่นดินไหวได้แก่ บริเวณภาคเหนือ
ภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศไทย อันได้แก่ จังหวัด
เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลาพูน ลาปาง แพร่ น่าน
ตาก กาญจนบุรี และระนอง เป็นต้น เพราะอยู่บนแนวรอยเลื่อน
ที่มีพลัง
- 52. จากข้อมูลในภาพ 3.12 นักเรียนคิดว่าจังหวัดใดบ้างที่เสียงภัยต่อการเกิด
แผ่นดินไหว
ตอบ จังหวัดที่เสียงภัยต่อการเกิดแผ่นดินไหว ได้แก่ จังหวัดที่อยู่ในแนวรอย
เลื่อนและใกล้เคียงแนวรอยเลื่อน ได้แก่ จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันตก
และภาคใต้ เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กาแพงเพชร
อุทัยธานี กาญจนบุรี และระนอง เป็นต้น
การกาหนดพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นระดับต่าง ๆ มีความสาคัญและมีประโยชน์
อย่างไร
ตอบ พื้นที่เสียงภัยเป็นที่เคยเกิดแผ่นดินไหวในอดีตและอยู่ใกล้กับจุดเหนือ
ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ทั้งจากภายในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งการแบ่ง
พื้นที่เป็นแนวเขตเสี่ยงภัยระดับต่าง ๆ จะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ต้องมีการเข้มงวดในการออกแบบ และการควบคุมการก่อสร้างอาคาร
บ้านเรือน
- 53. • หลักจากที่กรมทรัพยากรธรณีได้เผยแพร่แผนที่บริเวณเสี่ยงภัย
แผ่นดินไหวของประเทศในปี พ.ศ. 2538
• ต่อมาได้ประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2540 เพื่อใช้
ควบคุมการออกแบบอาคารให้สามารถต้านแรงสั่นสะเทือนต่อ
แผ่นดินไหวได้
• ขณะนี้ใช้บังคับเฉพาะกับอาคารสาธารณะที่มีประโยชน์ใช้สอยมาก เช่น
โรงพยาบาล หอประชุม โรงมหรสพ และโรงแรม เป็นต้น
• นอกจากนั้นยังบังคับใช้กับอาคารที่เก็บวัสดุอันตราย ประเภทวัสดุไวไฟ
วัตถุระเบิด
• ส่วนอาคารทั่วไปจะใช้บังคับกับอาคารที่สูงเกิน 15 เมตร (ประมาณ 5
ชั้น) ขึ้นไป
- 54. 3.2 ภูเขาไฟ (volcano)
• ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ประมาณ 1,500 ลูก แต่มีภูเขา
ไฟที่ดับแล้วมากมายที่กลายเป็นภูเขา และเทือกเขาที่สาคัญ เช่น ภูเขา
ไฟพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์และอุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกี้ประเทศ
สหรัฐอเมริกา
- 57. 3.2.2 การระเบิดของภูเขาไฟ
(volcanic eruption)
• ภูเขาไฟระเบิดเกิดจากการปะทุของแมกมา แก๊ส และเถ้า
จากใต้เปลือกโลก
• ก่อนการระเบิดมักจะมีสัญญาณบอกเหตุให้รู้ล่วงหน้า
เช่น แผ่นดินไหวในบริเวณรอบ ๆ ภูเขาไฟเกิดการ
สั่นสะเทือน มีเสียงคล้ายฟ้ าร้องติดต่อกันเป็นเวลานาน
• เมื่อแมกมาขึ้นมาสู่พื้นผิวโลกเรียกว่า ลาวา (lava)
- 62. • เมื่อปล่อยนิ้วออกจากปากขวดน้าอัดลมหลังจากเขย่าแล้ว จะเกิดฟอง
และน้าอัดลมจะพุ่งขึ้นมาจนล้นปากขวด เปรียบเทียบได้กับการเคลื่อนที่
ของแก๊สออกจากแมกมา ซึ่งจะทาให้เกิดการประทุของภูเขาไฟได้ง่ายขึ้น
• จากการทดลองโดยใช้ของเหลวที่มีความหนืดแตกต่างกัน เช่น น้าและ
น้าเชื่อม จะพบว่าเราสามารถเป่าอากาศลงไปในน้าได้ง่ายและเกิด
ฟองอากาศที่ทาให้น้ากระเพื่อมเล็กน้อย เปรียบเทียบได้กับแมกมาที่
ความหนืดน้อย แก๊สจะเคลื่อนที่ออกจากแมกมาได้ง่าย และเมื่อแมกมา
เคลื่อนที่สู่ผิวโลกจะเกิดการประทุหรือระเบิดไม่รุนแรง ในทางกลับกัน
เมื่อเป่าอากาศลงไปในน้าเชื่อมจะต้องออกแรงเป่าอย่างมาก
เปรียบเทียบได้กับแมกมาที่มีความหนืดมาก แก๊สจะเคลื่อนที่ออกจาก
แมกมาได้ยาก ทาให้ความดันของแมกมาสะสมเพิ่มขึ้น เมื่อเคลื่อนที่สู่ผิว
โลกจะทาให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
- 63. • เมื่อภูเขาไฟระเบิดจะพ่นชิ้นส่วนภูเขาไฟขนาดต่าง ๆ ออกมา ส่วนมาก
เป็นเศษหิน ผลึกแร่ เถ้าภูเขาไฟ และฝุ่นภูเขาไฟ
• เมื่อเย็นตัวและแข็งตัวเป็นหิน เรียกว่า หินชิ้นภูเขาไฟ (pyroclastic
rock)
• หินทัฟฟ์ (tuff) เถ้าภูเขาไฟขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.06 – 2
มิลลิเมตร
• บล็อก (block) ชิ้นส่วนภูเขาไฟที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ใหญ่กว่า
64 มิลลิเมตร เป็นเหลี่ยม
• บอมบ์ (bomb) ชิ้นส่วนที่รูปร่างคล้ายหยดน้า
• กรวดเหลี่ยมภูเขาไฟ คือ หินที่ประกอบด้วยวัสดุภูเขาไฟขนาดใหญ่ทั้ง
บล๊อกและบอมบ์
- 64. • แก้วภูเขาไฟ (volcanic glass) เกิดจากการ
เย็นตัวและแข็งตัวอย่างรวดเร็วของลาวา
• หินพัมมิซ (pumice) จะเป็นแก้วภูเขาไฟที่มีรู
พรุนมาก มีน้าหนักเบา และลอยน้าได้ เกิดจากการ
หนีของฟองอากาศในขณะที่ลาวาถูกพ่นขึ้นไปใน
อากาศ
- 69. 3.2.4 ภูเขาไฟในประเทศไทย
4/16 – 27/06/57
• ประเทศไทยเคยมีการระเบิดของภูเขาไฟมาก่อน โดยมีหลักฐานจาก
หินภูเขาไฟหลากหลายชนิดที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ
• บริเวณที่พบหินภูเขาไฟ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี กาญจนบุรี ตราด
สระบุรี ลาปาง สุรินทร์ และศรีสะเกษ เป็นต้น
• ภูเขาไฟที่สารวจพบในประเทศไทยส่วนใหญ่มีรูปร่างไม่แน่ชัด ที่มี
รูปร่างแน่ชัดมากที่สุด ได้แก่ ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู จังหวัด
ลาปาง ภูเขาไฟภูพระอังคาร และภูเขาไฟพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์
ซึ่งจะมีปากปล่องให้เห็นเป็นร่องรอย
- 73. ประโยชน์จากภูเขาไฟ
เกิดภูเขาและที่ราบสูงรูปร่างต่าง ๆ
ดินมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นอาหารของพืชสะสมอยู่ในดินอย่างมากมาย
ทาให้เราพบอัญมณีในชั้นตะกอน หินบะซอลต์จึงเกี่ยวข้องกับการ
กาเนิดอัญมณี และเป็นแหล่งแร่อัญมณีที่สาคัญ
ดินขาวที่เปลี่ยนจากหินไรโอไลต์ ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสหกรรมเซรามิก
เช่นแหล่งแร่ดินขาว เขาปางค่า ตาบลบ้านสา อาเภอแจ้ห่ม จังหวัดลาปาง
หินภูเขาไฟบางแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น บ้านน้าเดือด เขาหินเหล็กไฟ
อาเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และวัดแสนตุ่ม ในอาเภอเขาสมิง
จังหวัดตราด