1. นักจินตวิศวองค์กร
ตั้งแต่ที่ผู้เขียนเปิดเรื่อง จินตวิศวกร (Imagineer) ซึ่งได้เรียนรู้มาจากการไปศึกษาดูงานที่
ดีสนีย์แลนด์และยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (ในประเทศสหรัฐอเมริกา)
“จินตวิศวกร (Imagineer --> Imagine + Engineer) คือเหล่าวิศวกรที่มีจินตนาการ ซึ่ง
ได้ออกแบบบรรดาเครื่องเล่นๆ ของธีมปาร์คด้วยจินตนาการเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเที่ยวสวนสนุก ตื่นเต้นสุดขีด
กลัวอย่างมากที่สุดและสนุกที่สุดในดินแดนแห่งจินตนาการเหล่านี้”
ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วสําหรับยุคดิจิตอล
ทําให้มีการทําธุรกิจในแนวทางใหม่ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และบริการใหม่ที่ตอบสนองตลาดได้อย่าง
รวดเร็วและจากการศึกษาของหลายๆ สํานักพบบริษัทที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม เช่น Apple, Samsung,
Google, Nike, IBM, Microsoft ต่างมีความสําเร็จอันเกิดจากการพัฒนานวัตกรรมแบบเปิด (Open
Innovation) (การให้ลูกค้า ซัพพลายเออร์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาเสนอแนะนวัตกรรม) และโดดเด่นกว่าคู่
แข่งขัน
ถ้าพิจารณาในระดับโลกประเทศที่มีความสามารถด้านนวัตกรรม 10 อันดับ มีใครเป็น
ใครบ้าง
1) การจัดอันดับนวัตกรรมของประเทศ โดย INSEAD ด้วยการจัดทํา “Global Innovation
Index ในปี 2014 พบ 10 อันดับประเทศนวัตกรรมยอดเยี่ยมคือ Switzerland UK Sweden Finland
Netherlands USA Singapore Denmark Luxembourg และ Hong Kong ตามลําดับโดยมีมาเลเซีย
(อันดับ 33) และประเทศไทย (อันดับ 48)
2) การจัดอันดับนวัตกรรมของประเทศโดย World Economic Forum ในรายงาน The
Global Competitiveness Report 2014-2015 มี 10 ประเทศนวัตกรรมระดับท็อปคือ Finland
Switzerland Israel Japan USA Germany Sweden Netherlands Singaporeและ Taiwan ตามลําดับ
โดยมีมาเลเซีย (อันดับ 17) และประเทศไทย (อันดับ 54)
รายละเอียดทั้งหมดดังตารางที่ 1
2. ตารางที่ 1 ดัชนีนวัตกรรมระดับโลก
INSEAD (www.globalinnovationindex.org) *The Global competitiveness Report 2014-2015 (weforum.org)
สิ่งที่เป็นประเด็นน่าสนใจคือ ประเทศชั้นนําด้านนวัตกรรมส่วนใหญ่จะเป็นประเทศ
เดียวกันในการจัดอันดับของทั้ง 2 สํานัก (INSEAD และ Weforum) เช่น Switzerland, Finland, Sweden
ส่วน Singapore อยู่ใน 10 ประเทศชั้นนํามาตลอด
มีที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นอีกคือ Bloomberg ได้ออกรายงาน The Global Innovation Index
2015 สําหรับ The World’s 50 Most Innovative Countries มีประเทศเกาหลีใต้เป็นอันดับหนึ่งทุกอันดับ
(South Korea Japan Germany Finland Israel USA Sweden Singapore และ France ตามลําดับ) โดย
ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 48
Global Innovation Index 2014 Rank Innovation Top 10
Global
Rank
Switzerland 1 Finland 1
United Kingdom 2 Switzerland 2
Sweden 3 Israel 3
Finland 4 Japan 4
Netherlands 5 United States of American 5
United States of America 6 Germany 6
Singapore 7 Sweden 7
Denmark 8 Netherlands 8
Luxembourg 9 Singapore 9
Hong Kong (China) 10 Taiwan, China 10
Malaysia 33 Malaysia 17
Thailand 48 Thailand 54
3. ปัจจัยอะไรบ้างที่บอกว่าประเทศยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรม
World Economic Forum จะพิจารณาการจัดอันดับนวัตกรรมจาก สิ่งต่อไปนี้สมรรถภาพ
คุณภาพของสถาบันวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ การใช้จ่ายด้าน R&D ของบริษัท ความร่วมมือระหว่าง
มหาวิทยาลัย-อุตสาหกรรมในด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) การจัดซื้อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูงของภาครัฐ
จํานวนนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร สุดท้ายสัญญาข้อตกลงด้านสิทธิบัตรและแอพพลิเคชั่นต่อประชากร 1
ล้านคน
ส่วน Bloomberg พิจารณาจากตัววัดใน 5 ด้านคือ การวิจัยและพัฒนา (%ค่าใช้จ่ายต่อ
GDP) อุตสาหกรรม (มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมต่อหัวของประชากรในประเทศ) จํานวนบริษัท High-
Tech ภายในประเทศที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน การศึกษาหลังมัธยมศึกษา (มีการ
มาเรียนต่อและแรงงานที่มีด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม) นักวิจัย (อาชีพและนศ.ปริญญาเอกที่ทํา R&D
ต่อประชากร 1 ล้านคน) และสิทธิบัตร
ถ้าเจาะลึกในประเทศไทยปี 2014 ตามเกณฑ์หรือตัววัดด้านมูลค่า (Value) ตาม World
Economic Forum ประเทศไทยอยู่ตรงไหน ผลคือมีมูลค่าตํ่าถึงปานกลาง ดังตารางที่ 2
ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงการที่ภาครัฐ สถาบันการศึกษา อุตสาหกรรมหรือธุรกิจของประเทศ
ไทย มีความจําเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาด้านนวัตกรรม...”นักจินตวิศวองค์กร (Corporate Imagineer)”
เป็นบุคคลสําคัญยิ่งขององค์กรธุรกิจ
ตารางที่ 2 Value Innovation’s Thailand
Value
(1-7 scale)
Rank
1. Capacity for Innovation
2. Quality of scientific research institutions
3. Company spending on R&D
4. University-Industry Collaboration in R&D
5. Government procurement of advanced tech products
6. Availability of scientists and engineers
7. PCT patents, applications/million pop*
*PCT=Patent cooperation treaty
3.7
3.9
3.2
4.0
2.9
4.3
1.2
70
61
56
46
114
54
67
*weforum.org
4. ลองมาดูที่มาของ “Imagineering”
วอล์ท ดีสนีย์ บอกว่า....เราเรียก จินตวิศวกรรม (Imagineering) ว่า เป็นการรวมเข้า
ด้วยกันของจินตนาการสร้างสรรค์และโนว์-ฮาว์ด้านเทคนิค..........
จินตนาการ =การรวบรวม การเก็บและการรวมสารสนเทศเข้าด้วยกัน
“ทุกคนจะต้องผ่านขั้นตอนของการรวบรวมสารสนเทศจัดเก็บและรวมแล้วรวมอีกกับ
ความคิดของคนอื่นๆ เพื่อผลิตบางสิ่งที่ใหม่” (Tony Baxter SVP, Creative Development, Walt Disney
Imagineering)
*Prosperi, J.L.(2014). “The Imagineering Model”
http://www.slideshare.net/louprosperi1/the-imagineeringmodel
สําหรับ Walt Disney Imagineering (WDI) บอกว่า จินตวิศวกรรมเป็น “โนว์-ฮาวด้าน
เทคนิค” อ้างถึง วินัยในการใช้สําหรับการสร้างธีมปาร์คที่ดึงดูด
หลักการและการปฏิบัติของจินตวิศวกรรม สามารถประยุกต์ใช้เพื่อความพยายาม
สร้างสรรค์สิ่งอื่นๆ และการมีวินัย ซึ่งจะรวมในสิ่งต่อไปนี้
การตลาด/การโฆษณา
การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์
การออกแบบเกม
What is Imagineering?
Imagineering = Imagination + Engineering
We call it Imagineering‐the blending of
creative imagination and technical know‐how
Just as the first Imagineers adopted technics
and principles from film‐making when they
developed the craft of Imagineering
designing Disneyland, we can adopt the
technics and principles of Imgineering in
instructional design.
5. การพัฒนาสารสนเทศ
การเขียนด้านเทคนิค
สถาปัตยกรรมและการออกแบบสารสนเทศ
การออกแบบการเรียนการสอน
สิ่งที่ Disney สร้างจินตวิศวกรคือ การใช้ iBL-IMAGINE Based Leaning (ผู้เขียนปรับมา
จาก PBL-Project based learning ของดีสนีย์แลนด์ให้เฉพาะเจาะจงและพัฒนามากขึ้นกับธุรกิจ เพราะใน
เมืองไทยใช้ PBL เป็นแค่การเรียนรู้แบบโครงงาน ) ในการออกแบบและสร้างธีมปาร์คอันเลื่องลือใน
Disney World Resort Park
“iBL หรือการเรียนรู้ด้วยโครงการจิตนาการ” มีหลักการสําคัญในรูปแบบที่เข้มข้นทาง
วิชาการของธีม(ปาร์ค) ซึ่งใช้จินตนาการที่สูง มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการทํางาน เรียนรู้จากการลงมือ
ทําและร่วมมือกับหลายๆ สาขาวิชาชีพ โดยผ่านวิธีวิทยาการในการสอน ไม่ได้เรียนเพียงได้รับสารสนเทศ
แต่ได้เรียนรู้ทักษะที่จําเป็นสําหรับในระหว่างการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
ในอีกนัยหนึ่ง ทุกคนได้เรียนรู้ทักษะที่จําเป็นด้านจินตนาการสําหรับการวิจัยใน
ภาคปฏิบัติ ทักษะในการนําเพื่อพัฒนาคําตอบที่เฉพาะโดดเด่นและช่วยการแสวงหาความรู้ที่เหมาะสม
อย่างยาวนาน”
ท่านผู้อ่านคงเริ่มเห็นคําตอบของความสําคัญของนักจินตวิศวองค์กร ซึ่งผู้เขียนจะได้มา
เล่าให้ท่านฟังในคราวต่อๆ ไปครับ!