More Related Content Similar to บทที่ 5.หน่วยความจำ
Similar to บทที่ 5.หน่วยความจำ (20) บทที่ 5.หน่วยความจำ1. Introduction to Information Technology
หน่วยเก็บข้อมูลสำำรอง (Secondary storage Unit)
ก่อนที่จะศึกษาว่าคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลได้อย่างไร ผู้อ่าน
จะต้องทราบก่อนว่าสื่อสำา หรับเก็บข้อมูลนั้นมีอะไรบ้าง เนื่องจาก
คอมพิ ว เตอร์ แ ปลงคำา สั่ ง และข้ อ มู ล ต่ า ง ๆ เก็ บ ไว้ ใ นรู ป แบบของ
เลขฐานสองคื อ ٠ และ ١ ทั้ ง สิ้ น โดยที่ ตั ว อั ก ษร ตั ว เลข และ
สั ญ ลั กษณ์ พิเ ศษต่ า ง ๆ จะถู ก แทนด้ ว ยกลุ่ ม ของตั ว เลขเลขฐาน
สอง และเนื่องจากแรมเป็นหน่วยความจำา ที่ไม่ได้เก็บข้อมูลอย่าง
ถาวร ถ้าปิดเครื่องหรือไฟดับข้อมูลก็หายไป ดังนั้นถ้าผู้ใช้มีข้อมูล
อยู่ในแรมก็จะต้องทำา การจัดเก็บข้อมูล โดยย้ายข้อมูลจากหน่วย
ความจำา ไปไว้ ใ นหน่ ว ยเก็ บ ข้ อ มู ล สำา รอง เนื่ อ งจากสามารถเก็ บ
ข้อมูลได้อย่างถาวร ไม่มี การเปลี่ ยนแปลงนอกจากผู้ ใช้ เป็ นผู้ สั่ง
รวมทั้ ง สามารถเก็ บ ข้ อมู ล จำา นวนมากได้ และที่ สำา คั ญ หน่ ว ยเก็ บ
ข้ อ มู ล สำา รองจะมี ร าคาถู ก มากเมื่ อ เที ย บกั บ หน่ ว ยความจำา หลั ก
ทำา ให้ ค อมพิ ว เตอร์ ใ นปั จ จุ บั น จะมี ห น่ ว ยเก็ บ ข้ อ มู ล สำา รองซึ่ ง
สามารถเก็บข้อมูลจำานวนมาก อย่างไรก็ดีความเร็วในการอ่านและ
บั น ทึ ก ข้ อ มู ล ของหน่ ว ยเก็ บ ข้ อ มู ล สำา รองจะตำ่า กว่ า หน่ ว ยความ
จำาหลัก ดังนั้นจึงควรทำางานให้เสร็จก่อน จึงย้ายข้อมูลนั้นไปไว้ใน
หน่วยเก็บข้อมูลสำารอง
ในปัจจุบันมีหน่วยเก็บข้อมูลให้เลือกใช้หลายชนิด ดังต่อไป
นี้
١.เทป (Tape)
เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape)
เป็นหน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้กันมานานตั้งแต่คอมพิวเตอร์
ยุคที่หนึ่งและยุคที่สอง ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง เทป
แม่เหล็กมีหลักการทำา งานคล้ายเทปบันทึกเสียง แต่เปลี่ยน
จากการเล่ น (Play) และบั น ทึ ก (Record) เป็ น การอ่ า น
(Read) และเขียน (Write) แทนในเครื่องเมนเฟรมเทปที่ใช้
จะเป็นแบบม้วนเทป (Reel-to-reel) ซึ่งเป็นวงล้อขนาดใหญ่
ในเครื่ อ งมิ นิ ค อมพิ ว เตอร์ จ ะใช้ ค าร์ ทริ ด จ์ เ ทป (Cartridge
tape) ซึ่ ง มี ลั ก ษณะคล้ า ยวิ ดี โ อเทป ส่ ว นในเครื่ อ งไมโคร
คอมพิวเตอร์จะใช้ตลับเทป (Cassette tape) ซึ่งมีลักษณะ
เหมื อนเทปเพลง เทปทุก ชนิ ดที่ ก ล่ า วมามี ห ลั ก การทำา งาน
คล้ า ยกั บ เทปบั น ทึ ก เสี ย ง คื อ จะอ่ า นข้ อ มู ล ตามลำา ดั บ ก่ อ น
หลังตามที่ไ ด้บั นทึ กไว้ เรียกหลั กการนี้ ว่ า การเข้ าถึ ง ข้ อ มู ล
ตามลำา ดั บ (Sequential access) การทำา งานลั ก ษณะนี้ จึ ง
1
2. Introduction to Information Technology
เป็ น ข้ อเสี ย ของการใช้ เ ทปแม่ เ หล็ ก บั นทึ ก ข้ อ มู ล คื อ ทำา ให้
อ่านข้อมูลได้ช้า เนื่องจากต้องอ่านข้อมูลในม้วนเทปไปเรื่อย
ๆ จนถึงตำา แหน่งที่ ต้อ งการ ผู้ ใช้ จึง นิยมนำา เทปแม่เ หล็ ก มา
สำา รองข้อมูลเท่านั้น ส่วนข้อมูลที่กำา ลังใช้งานจะถูกเก็บอยู่
บนหน่วยเก็บข้อมูลแบบ จานแม่เหล็ก (Magetic Disk) เพื่อ
ให้ เ รี ย กใช้ ไ ด้ ง่ า ย และนำา เฉพาะข้ อ มู ล ที่ สำา คั ญ และไม่ ถู ก
เรี ย กใช้ บ่ อ ยมา เก็ บ สำา รอง (Backup) ไว้ ใ นเทปแม่ เ หล็ ก
เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล
ข้อดีของเทปแม่เหล็กคือสามารถบันทึก อ่าน และลบกี่
ครั้งก็ได้ รวมทั้งมีราคาตำ่า นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูล
จำา นวนมาก ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในสื่อ ที่มี ขนาดไม่ใ หญ่ มาก
นัก ความจุของเทปแม่เหล็กจะมีหน่วยเป็น ไบต์ต่อนิ้ว (Byte
per inch) หรือ บีพีไอ (bpi) ซึ่งหมายถึงจำา นวนตัวอักษรที่
เก็ บ ในเทปยาวหนึ่ ง นิ้ ว หรื อ เรี ย กได้ อี ก อย่ า งว่ า ความหนา
แน่นของเทปแม่เหล็ก เทปแม่เหล็กที่มีความหนาแน่นตำ่า จะ
เก็ บ ข้ อ มู ล ได้ ป ระมาณ 1,600 บี พีไ อ ส่ ว นเทปแม่ เ หล็ ก ที่ มี
ความหนาแน่ น สู ง จะเก็ บ ข้ อ มู ล ได้ ป ระมาณ ٦,٢٥٠ บี พีไ อ
นอกจากนี้ จะมี เ ทปแม่ เ หล็ ก รุ่ น ใหม่ ๆ คื อ DAT (Digital
Audio Tape) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเครดิตการ์ดเล็ กน้ อย แต่
สามารถจุ ข้ อมู ลได้ ٥ -٢ จิ ก ะไบต์ และ R-DAT ซึ่ ง สามารถ
เก็บข้อมูลได้มากกว่า ١٤ จิกะไบต์ บนเทปที่ยาว ٩٠ เมตร
การที่เทปแม่ เหล็ก ยังคงได้รั บความนิ ยมให้เ ป็น
สื่อที่เก็บสำา รองข้อมูล ก็เพราะความเร็ว ความจุข้อมูล และ
ราคานั่นเอง
٢. จำนแม่เหล็ก (Magnetic Disk)
จานแม่ เ หล็ ก สามารถเก็ บ ข้ อ มู ล ได้ เ ป็ น จำา นวนมาก และมี
คุ ณ สมบั ติ ใ นการ เข้ า ถึ ง ข้ อ มู ล โดยตรง (Direct access) ไม่
จำาเป็นต้องอ่านไปตามลำาดับเหมือนเทป จานแม่เหล็กจะต้องใช้คู่
กั บ ตั ว ขั บ จานแม่ เ หล็ ก หรื อ ดิ ส ก์ ไ ดร์ ฟ (Disk drive) ซึ่ ง เป็ น
อุ ป กรณ์ สำา หรั บ อ่ า นเขี ย นจานแม่ เ หล็ ก (มี ห น้ าที่ คล้ า ยกั บ เครื่ อ ง
เล่นเทป) จานแม่เหล็กเป็นสื่อที่ใช้หลักการของการ เข้าถึงข้อมูล
แบบสุ่ม (Random-access) นั่นคือ ถ้าต้องการข้อมูลลำา ดับที่ ٥٢
หัวอ่านก็จะตรงไปที่ข้อมูลนั้นและอ่านข้อมูลนั้นขึ้นมาใช้งานทันที
ทำา ให้มี ความเร็ว ในการอ่ านและบันทึ กที่ สูง กว่า เทปมาก หั ว อ่ า น
ของดิ ส ก์ ไ ดร์ ฟ เรี ย กว่ า หั ว อ่ า นและบั น ทึ ก (read/write head)
2
3. Introduction to Information Technology
เมื่ อ ผู้ ใ ช้ ใ ส่ แ ผ่ น จานแม่ เ หล็ ก เข้ า ไปในดิ ส ก์ ไดร์ ฟ แผ่ น จานแม่
เหล็กก็จะเข้าไปสวมอยู่ในแกนกลม ซึ่งเป็นที่ยึดสำาหรับหมุนแผ่น
จานแม่เหล็ก จากนั้นหัวอ่านและบันทึกก็จะอ่าน อิมพัลส์ของแม่
เหล็ ก (Magnetic impulse) บนแผ่ น จานแม่ เ หล็ ก ขึ้ น มาและ
แปลงเป็ น ข้ อ มู ล ส่ ง เข้ า คอมพิ ว เตอร์ ต่ อ ไป หั ว อ่ า นและบั น ทึ ก
สามารถเคลื่อนย้ายในแนวราบเหนือผิวหน้าของแผ่นจานแม่เหล็ก
ถ้ า ใช้ แ ผ่ น จานแม่ เ หล็ ก ที่ มี ผิ ว หน้ า ต่ า งกั น ก็ ต้ อ งใช้ หั ว อ่ า นและ
บั น ทึ ก ต่ า งชนิ ด กั น ด้ ว ย นอกจากนี้ เนื่ อ งจากดิ ส ก์ ไ ดร์ ฟ นั้ น เป็ น
เพียงอุปกรณ์เครื่องกลชนิดหนึ่งซึ่งอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงจำาเป็น
ต้องมีการเก็บสำารองข้อมูลและโปรแกรมทีใช้อย่างสมำ่าเสมอ ่
ก่อนที่จะใช้แผ่นจานแม่เหล็กเก็บข้อมูล จะต้องผ่านขั้นตอน
ของการ ฟอร์แมต(Format) ก่อน เพื่อเตรียมแผ่นจานแม่เหล็กให้
พร้อมสำาหรับเครื่องรุ่นที่จะใช้งาน (เช่น เครื่อง PC และ Mac จะมี
ฟอร์แมตที่ต่างกันแต่สามารถใช้แผ่นจานแม่เหล็กรุ่นเดียวกันได้)
โดยหัวอ่านและบันทึกจะเขียนรูปแบบของแม่เหล็กลงบนผิวของ
แผ่นจานแม่เหล็ก เพื่อให้การบันทึกข้อมูลลงแผ่นจานแม่เหล็กใน
ภายหลังทำา ตามรูปแบบดังกล่าว การฟอร์แมตแผ่นจานบันทึกจัด
เป็นงานพื้นฐานหนึ่งของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
ข้ อ มู ล จะถู ก บั น ทึ ก ลงบนจานแม่ เ หล็ ก ตามรู ป แบบที่ ไ ด้
ฟอร์แมตไว้แล้ว คือแบ่งในแนววงกลมรอบแกนหมุนเป็นหลาย ๆ
วง เรียกว่า แทร็ก(Track) แต่ละแทร็กจะถูกแบ่งออกในแนวของ
ขนมเค็ ก เรี ย กว่ า เซกเตอร์ (Sector) และถ้ า มี เ ซกเตอร์ ม ากกว่ า
หนึ่ ง เซกเตอร์ ร วมกั น เรี ย กว่ า คลั ส เตอร์ (Cluster) นอกจากนี้ ใ น
ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะมีตารางสำาหรับจัดการข้อมูลในแผ่น
จานแม่ เ หล็ ก ซึ่ ง มี ห น้ า ที่ เ ก็ บ ตำา แหน่ ง แทร็ ก และเซกเตอร์ ข อง
ข้อมูลที่อยู่ภายในจานแม่เหล็ก เรียกตารางนี้ว่า ตารางแฟต (FAT
หรื อ File Allocation Table) ซึ่ ง ตารางนี้ ทำา ให้ ค อมพิ ว เตอร์
สามารถค้นหาและจัดการกับข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ในปัจจุบันมีจานแม่เหล็กที่ได้รับความนิย มอย่างสูง อยู่ส อง
ชนิ ด คื อ ฟลอปปี้ ดิ ส ก์ (Floppy Disk) และ ฮาร์ ด ดิ ส ก์ (Hard
Disk) โดยเครื่ อ งไมโครคอมพิ ว เตอร์ ที่ จำา หน่ า ยในปั จ จุ บั น จะมี
ดิสก์ไดร์ฟและฮาร์ดดิสก์ติดมาด้วยเสมอ
ฟลอปปี้ดิสก์และดิสก์ไดร์ฟ (Floppy Disk and Disk Drive)
ฟลอปปี้ ดิ ส ก์ ห รื อ ที่ บ างครั้ ง นิ ย มเรี ย กว่ า ดิ ส ก์
เกตต์ (Diskette) เป็นแผ่นพลาสติกวงกลม ในปัจจุบันนิยม
3
4. Introduction to Information Technology
ใช้ข นาด ٣.٥ นิ้ว (วัดจากเส้น รอบวงของวงกลม) ซึ่งบรรจุ
อยู่ในพลาสติกแบบแข็งรูปสี่เหลี่ยม และสามารถอ่านได้ด้วย
ดิสก์ไดร์ฟ เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะ
มีดิสก์ไดร์ฟอย่างน้อยครึ่งไดร์ฟเสมอ ดิสก์ไดร์ฟมีหน้าที่สอง
อย่ า งคื อ อ่ า นและบั น ทึ ก โดยการอ่ า นมี ห ลั ก การทำา งาน
คล้ า ยกั บ การเล่ น ซี ดี เ พลง ส่ ว นการบั น ทึ ก นั้ น มี ห ลั ก การ
ทำา งานคล้ายกับการบันทึกเสียงลงในเทปบันทึกเสียง ต่ าง
กันก็ตรงที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อต้องการบันทึกข้อมูล
เพราะโปรแกรมที่ใช้งานจะจัดการให้โดยอัตโนมัติ แผ่นดิกส์
เกตต์ จ ะมี แถบป้ อ งกั น การบั น ทึ ก (Write-protection) อยู่
ด้ ว ย ผู้ ใ ช้ ส ามารถเปิ ดแถบนี้ เ พื่ อ ป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ มี ก ารบั น ทึ ก
ข้อมูลอื่นทับไปหรือลบทิ้งข้อมูล
จำา นวนข้อมูลที่ เก็ บอยู่ในแผ่น ดิส ก์ เ กตต์ จะขึ้ น อยู่ กับ
ความหนาแน่นของสารแม่เหล็กบนผิวของแผ่นโดยสามารถ
แบ่ ง ออกเป็ น สองชนิ ด คื อ ดิ ส ก์ ค วามจุ ส องเท่ า (Double
density) ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ไม่ นิ ย มใช้ แ ล้ ว ส่ ว นอี ก ชนิ ด หนึ่ ง คื อ
ดิสก์ความจุสูง (High density) ซึ่งจะเก็บข้อมูลได้มากกว่า
ดิสก์ที่มีความจุเป็นสองเท่าและเป็นดิสก์ที่นิยมใช้งานกันอยู่
ทัวไป
่
นอกจากนี้ ในปั จ จุ บั น จะมี ดิ ส ก์ เ กตต์ แ บบพิ เ ศษที่ มี
ความจุ สู ง ถึ ง ١٢٠ MB ต่ อ แผ่ น ซึ่ ง ใช้ เ ทคโนโลยี ท างด้ า น
Laser เรียกว่า Laser Servo (LS) ช่วยให้สะดวกในการเก็บ
แฟ้มข้อมูลขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากได้ในแผ่นเพียงแผ่น
เดียว รวมทั้งสามารถอ่านดิสก์เกตต์ ٧٢٠ KB และ ١.٤٤ MB
ได้ โดยมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลเร็วกว่าดิสก์เกตต์ปกติถึง ٥
เท่า
ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
มีหลักการทำา งานคล้ายกับฟอลปปี้ดิสก์ แต่ฮาร์ดดิสก์
ทำา มาจากแผ่นโลหะแข็งเรียกว่า Platters ทำา ให้เก็บข้อมู ล
ได้มากและทำางานได้รวดเร็ว ฮาร์ดดิสก์ส่วนมากจะถูกยึดติด
อยู่ ภ ายในเครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ แต่ ก็ มี บ างรุ่ น ที่ เ ป็ น แบบ
เคลื่ อนย้ายได้ (Removable Disk) โดยจะเป็ นแผ่ นจานแม่
เหล็กเพียงแผ่นเดียวอยู่ในกล่องพลาสติกบาง ๆ มีลักษณะ
คล้ายกับฟอลปปี้ดิสก์ ตัวอย่างเช่น Jaz หรือ Zip Disk จาก
lomega หรือ Syjet จาก Syquest ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้
4
5. Introduction to Information Technology
ตั้ ง แต่ ١ จิ ก ะไบต์ ขึ้ น ไป ในแผ่ น ขนาดประมาณ ٣.٥ นิ้ ว
เท่ า นั้ น และตั ว ไดร์ ฟ จะมี ทั้ ง รุ่ น ที่ ต่ อ กั บ คอมพิ ว เตอร์ ท าง
พอร์ตขนานหรือ SCSI
ฮาร์ ด ดิ ส ก์ ที่ นิ ย มใช้ กั บ เครื่ อ งไมโครคอมพิ ว เตอร์ ใ น
ปั จ จุ บั น จะประกอบด้ ว ยจานแม่ เ หล็ ก หลาย ๆ แผ่ น และ
สามารถบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ได้ ทั้ ง สองหน้ า ของผิ ว จานแม่ เ หล็ ก
โ ด ย ที่ ทุ ก แ ท ร็ ก (Track) แ ล ะ เ ซ ก เ ต อ ร์ (Sector) ที่ มี
ตำาแหน่งตรงกันของฮาร์ดดิสก์ชุดหนึ่งจะเรียกว่า ไซลินเดอร์
(Cylinder)
แผ่นจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสก์นั้นหมุนเร็วมาก โดยที่
หั วอ่า นและบันทึกจะไม่ สัม ผั ส กั บ ผิ ว ของแผ่ น จานแม่ เ หล็ ก
ดังนั้นจึงอาจมีความผิดพลาดหรือเสียหายเกิดขึ้นได้ถ้ามีบาง
สิ่ งอย่างเช่ น ฝุ่ น หรื อ ควั น บุ ห รี่ กี ดขวางหั ว อ่ า นและบั น ทึ ก
เพราะอาจทำาให้หัวอ่านและบันทึกกระแทรกกับผิวของแผ่น
จานแม่เหล็ก
ก า ร ที่ ฮ า ร์ ด ดิ ส ก์ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ค ว า ม จุ ที่ สู ง
เนื่องจากฮาร์ ดดิ สก์ ห นึ่ ง ชุ ดประกอบด้ ว ยแผ่ น จานแม่ เ หล็ ก
จำา นวนหลายแผ่นทำา ให้ เก็ บข้ อมู ลได้ ม ากกว่ าฟลอปปี้ ดิส ก์
โดยฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบันจะมีความจุเริ่มตั้งแต่ ١٠ GB ขึ้นไป
นอกจากนี้ ฮาร์ดดิสก์จะหมุนด้วยความเร็วสูงมาก คือตั้งแต่ ٥
,٤٠٠ รอบต่อนาทีขึ้ นไป ทำา ให้สามารถอ่ า นข้ อ มู ลได้ อ ย่ า ง
รวดเร็ ว ฮาร์ ดดิ ส ก์ รุ่ น ใหม่ ๆ ส่ ว นมากจะมี ความเร็ ว ในการ
อ่านข้อมูลเฉลี่ย (Averge access time) อยู่ตำ่ากว่า ١٠ มิลลิ
วินาที (mis)
การเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์กับแผงวงจรหลักจะต้องมี ส่วน
เชื่ อ มต่ อ ฮาร์ ด ดิ ส ก์ (Hard disk interface) ซึ้ ง จะมี ว งจร
มาตรฐานที่ทั้งแผงวงจรหลักและฮาร์ดดิสก์รู้จัก ทำาให้ข้อมูล
สามารถส่ ง ผ่ า นระหว่ า งแผงวงจรหลั ก และฮาร์ ด ดิ ส ก์ ไ ด้
มาตรฐานส่ ว นเชื่ อ มต่ อ ฮาร์ ด ดิ ส ก์ ที่ นิ ย มใช้ ใ นปั จ จุ บั น คื อ
EIDE (Enhanced Integrated Drive Electronics) แ ล ะ
SCSI (Small Computer System Interface)
3. ออปติคัลดิสก์ (Optical Disk)
มี ห ลั ก การทำา งานคล้ า ยกั บ การเล่ น ซี ดี (CD) เพลง คื อ ใช้
เทคโนโลยี ข องแสงเลเซอร์ ทำา ให้ ส ามารถเก็ บ ข้ อ มู ล ได้ จำา นวน
มหาศาลในราคาไม่แพงนัก
5
6. Introduction to Information Technology
ในปัจจุบันจะมีออปติคอลอยู่หลายแบบซึ่ งใช้ เทคโนโลยีที่
แตกต่างกันไป คือ
ซี ดี ร อ ม (CD-ROM ห รื อ Computer Disk Read Only
Memory)
แผ่นซีดีรอมจะมีลักษณะคล้ายซีดีเพลงมาก สามารถ
เก็บข้อมูลได้สูงถึง ٦٥٠ เมตร เมกะไบต์ต่อแผ่น การใช้งาน
แผ่นซีดีรอมจะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีตัวซีดีรอมไดร์ฟ
(CD-ROM Drive) ซึ่ง จะมี หลายชนิ ดขึ้ นกั บความเร็ วในการ
ทำา งาน ซี ดี ร อมไดร์ ฟ รุ่ น แรกสุ ด นั้ น มี ค วามเร็ ว ในการอ่ า น
ข้ อมู ล ที่ ١٥٠ กิ โลไบต์ ต่อ วิ น าที เรี ย กว่ ามี ความเร็ ว ١ เท่ า
หรื อ ١x ซี ดี ร อมไดร์ ฟ รุ่ น หลั ง ๆ จะอ้ า งอิ ง ความเร็ ว ในการ
อ่านข้อมูลจากรุ่นแรก เช่น ความเร็ว ٢ เท่า (٢x) ความเร็ว ٤
เท่า(4x) ไปจนถึง ٥٠ เท่า (٥٠x) เป็นต้น โดยปัจจุบันนี้ซีดี
รอมไดร์ฟที่มีอยู่ในท้องตลาดจะมีความเร็วตั้งแต่สามสิบเท่า
ขึ้ นไป ข้ อจำา กั ดของซี ดีร อมคื อ สามารถบั น ทึ ก ได้ เ พี ย งครั้ ง
เดี ย วด้ ว ยเครื่ อ งมื อ เฉพาะเท่ า นั้ น จากนั้ น จะไม่ ส ามารถ
เปลียนแปลงข้อมูลเหล่านั้นได้
่
ซีดีรอมได้รับความนิยมใช้เป็นสื่อเก็บข้อมูลสำาหรับอ่าน
อย่างเดียวเป็นอย่างมาก เช่น ซอฟต์แวร์ เกมส์ พจนานุกรม
แผนที่ โ ลก หนั ง สื อ ภาพยนตร์ เป็ น ต้ น ซึ่ ง ในปั จ จุ บั น
ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ จะมาในรูปของซีดีรอมเป็นหลัก เนื่องจาก
สะดวกต่อการติดตั้งลงฮาร์ดดิสก์ ไม่ต้องทำาการเปลี่ยนแผ่น
บ่อย ๆ โอกาสเสียมีน้อยและต้นทุนตำ่า
การบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ลงในแผ่ น ซี ดี ร อม ปกติ แ ล้ ว ต้ อ งใช้
เครื่องซึ่งมีราคาแพงมาก แต่ในปัจจุบันมีแผ่นซีดีรอมที่เรียก
ว่า ซีดีอาร์ (CD-R หรือ CD Recordable) ซึ่งสามารถบันทึก
ข้ อมู ล ลงในแผ่ น ด้ ว ยซี ดีอ าร์ ไ ดร์ ฟ (CD-R drive) ที่ มี ร าคา
ไม่สูงนัก และนำา แผ่นซีดีอาร์ที่มีข้อมูลบันทึกไว้ไปอ่านด้วย
ซีดีรอมไดร์ฟปกติได้ทันที
ซีดีอาร์ไ ดร์ฟ สามารถบั นทึก แผ่ นซี ดีอ าร์ใ ห้เ ป็น ได้ทั้ ง
ซีดีรอมหรือซีดีเพลง (Audio CD) และเก็บบันทึ กข้ อมู ลได้
ประมาณ ٩٠٠-٦٠٠ เมกะไบต์ในหนึ่งแผ่น (ถ้าเก็บข้อมูลนั้น
ในแผ่นดิสก์เกตต์จะต้องใช้หลายร้อยแผ่น) ทำาให้เหมาะกับ
การนำา มาจั ด เก็ บ ข้ อ มู ล ทางด้ า น มั ล ติ มี เ ดี ย (Multimedia)
และยังมีการนำามาใช้บันทึกเป็น แผ่นต้นฉบับ (Master Disk)
เพื่อนำาไปผลิตแผ่นซีดีจำานวนมากต่อไป
6
7. Introduction to Information Technology
ความเร็วของไดร์ฟซีดีอาร์จะระบุโดยใช้ตัวเลขสองตัว
คื อความเร็ วในการเขี ย นแผ่ น และความเร็ ว ในการอ่ า นแผ่ น
คั่ นด้ วยเครื่ องหมาย X ซึ่ งหมายถึ ง ความเร็ ว คิ ดเป็ น จำา นวน
เท่ า ของ ١٥٠ กิ โ ลไบต์ ต่ อ วิ น าที เช่ น ٢٤x ٤٠ หมายถึ ง
ไดร์ฟซีดีอาร์นั้นสามารถเขียนแผ่นด้วยความเร็ว ٢٤ เท่า (١
٥٠x ٣٦٠٠ = ٢٤ กิ โ ลไบต์ ต่ อ วิ น าที ) และอ่ า นแผ่ น ด้ ว ย
ความเร็ว ٤٠ เท่า (150x ٦٠٠٠=٤٠ กิโลไบต์ต่อวินาที)
ในปั จ จุ บั น จะมี ไ ดร์ ฟ แบบ ซี ดี อ าร์ ดั บ เบิ ล ยู (CD-RW
Drive) ทีใช้สำาหรับบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นให้ไดร์ฟและแผ่น
่
CD-RW ซึ่งเป็นแผ่นซีดีพิเศษที่สามารถลบแล้วบันทึกใหม่
ได้ ค ล้ า ยกั บ การบั น ทึ ก บนแผ่ น ดิ ส ก์ เ กตต์ ทำา ให้ ไ ดร์ ฟ และ
แผ่ น CD-RW เริ่ ม ได้ รั บ ความนิ ย มมากขึ้ น เรื่ อ ย ๆ อี ก ทั้ ง
ไดร์ฟ CD-RW ยังสามารถทำาการบันทึกข้อมูลลงแผ่น CD-R
ได้ (เขี ย นได้ ค รั้ ง เดี ย วไม่ ส ามารถลบได้ เ ช่ น เดี ย วกั บ การ
เขี ย นด้ ว ยไดร์ ฟ ซี ดี อ าร์ ) ทำา ให้ ส ะดวกกั บ การเลื อ กบั น ทึ ก
โดยกรณีที่ ต้องการเก็ บ ข้ อ มู ล ที่ ไ ม่ การเปลี่ย นแปลงแล้ ว ก็
สามารถบั น ทึ ก ลงแผ่ น ซี ดี อ าร์ ที่ มี ร าคาถู ก กว่ า และสำา หรั บ
ข้อมูลทียังมีการเปลียนแปลงบ่อย ๆ ก็สามารถบันทึกลงแผ่น
่ ่
CD-RW ได้
ความเร็ ว ของไดร์ ฟ ซี ดี อ าร์ ดั บ เบิ ล ยู จ ะระบุ โ ดยใช้
ตั ว เลขสามตั ว คื อ ความเร็ ว ในการเขี ย นแผ่ น แบบซี ดี อ าร์
ความเร็วในการลบและเขียนซำ้าบนแผ่นซีดีอาร์ดับเบิ้ลยู และ
ความเร็ ว ในการอ่ า นแผ่ น คั่ น ด้ ว ยเครื่ อ งหมาย x เช่ น ٢
٤x10x40 หมายถึงไดร์ฟซีดีอาร์ดับเบิลยูเ ครื่ องนั้น สามารถ
เขียนแผ่นด้วยความเร็ว ٢٤ เท่า (١٥٠x ٣٦٠٠=٢٤ กิโลไบต์
ต่ อ วิ น าที ) ลบและเขี ย นซำ้า ด้ ว ยความเร็ ว ١٠ เท่ า (١
٥ ٠x10=1500 กิ โ ล ไ บ ต์ ต่ อ วิ น า ที ) แ ล ะ อ่ า น แ ผ่ น ด้ ว ย
ความเร็ว ٤٠ เท่า (150x40=6000 กิโลไบต์ต่อวินาที)
วอร์มซีดี (WORM CD หรือ Write Once Read Many CD)
เป็นซีดีที่ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลลงในแผ่นวอร์มซีดี
ได้ ห นึ่ ง ครั้ ง และสามารถอ่ า นข้ อ มู ล ที่ บั น ทึ ก ไว้ ขึ้ น มากี่ ค รั้ ง
ก็ได้ แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนแก้ไขข้อมูลที่เก็บไปแล้วได้อีก
แผ่นวอร์มซีดีสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ ٦٠٠ เมกะไบต์ ไป
จนถึงมากกว่า ٣ จิกะไบต์ ขึ้นกับชนิดของวอร์มซีดีที่ใช้งาน
7
8. Introduction to Information Technology
วอร์ ม ซี ดีจ ะมี จุ ดด้ อ ยกว่ า ซี ดีร อมในเรื่ อ งของการไม่ มี
มาตรฐานที่แน่นอน นั่นคือแผ่นวอร์มซีดีจะต้องใช้กับเครื่อง
อ่ านรุ่ นเดียวกับ ที่ ใ ช้ บั นทึ ก เท่ า นั้น ทำา ให้ มี ก ารใช้ ง านในวง
แคบ โดยมากจะนำามาใช้ในการเก็บสำารองข้อมูลเท่านั้น
เอ็มโอดิสก์ (MO หรือ Magneto Optical disk)
เป็นระบบที่ใ ช้ห ลัก การของสื่ อ ที่ ใ ช้ ส ารแม่ เ หล็ ก เช่ น
ฮาร์ ด ดิ ส ก์ กั บ สื่ อที่ ใ ช้ แ สงเลเซอร์ เช่ น ออปติ คั ล ดิ ส ก์ เ ข้ า
ด้ ว ยกั น โดย เอ็ ม โอไดร์ ฟ จะใช้ แ สงเลเซอร์ ช่ ว ยในการ
บั นทึ กและอ่ านข้ อมู ล ทำา ให้ ส ามารถอ่ า นและบั น ทึ ก แผ่ น กี่
ครั้งก็ได้คล้ายกับฮาร์ดดิสก์ เคลื่อนย้ายแผ่นได้คล้ายฟลอป
ปี้ ดิส ก์ มี ความจุ สู ง มากคื อ ตั้ ง แต่ ٢٠٠ MB ขึ้ น ไป รวมทั้ ง มี
ความเร็วในการใช้งานที่สูงกว่าฟลอปปี้ดิสก์และซีดีรอม แต่
จะช้ากว่าฮาร์ดดิสก์
ข้อดีอีกประการของเอ็มโอดิสก์คือ ข้อมูลที่เก็บอยู่ใน
เอ็มโอดิสก์จะปลอดภัยจากสนามแม่เหล็ก ต่างกับฟลอปปี้
ดิสก์และฮาร์ดิสก์ เพราะสนามแม่เหล็กเพียงอย่างเดียวไม่มี
ความร้อนจากแสงเลเซอร์จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ได้ และการทีใช้แสงเลเซอร์ช่วยในการอ่านและบันทึกข้อมูล
่
นั้ น ทำา ให้ หัวอ่ านบั นทึ ก ข้ อ มู ล ไม่จำา เป็ น ต้ อ งเข้ า ใกล้ กับ ผิ ว
ของแผ่นดิสก์เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ จึงช่วยลดความผิดพลาด
ที่เกิดจาก การล้มเหลว (Crash) ของหัวอ่าน โดยดิสก์แบบ
เอ็มโอสามารถมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า ٣٠ ปีทีเดียว
ข้อเสียที่สำา คัญของเอ็มโอดิสก์ คือราคาเครื่องขับแผ่นเอ็ม
โอจะเกิ ดการทำา งานสองขั้ น ตอน คื อ ลบข้ อ มู ล ออกแล้ ว จึ ง
เขียนข้อมูลใหม่เข้าไป
ดีวีดี(DVD หรือ Digital Versatile Disk)
เป็นเทคโนโลยี ใหม่ล่าสุ ดที่ เริ่ มได้ รับ ความนิย มอย่ าง
มากในปัจจุบัน แผ่นดีวีดีสามารถเก็บข้อมูลได้ตำ่าสุดที่ ٤.٧ จิ
กะไบต์ ซึ่ ง เพี ย งพอสำา หรั บ เก็ บ ภาพยนตร์ เ ต็ ม เรื่ อ งด้ ว ย
คุ ณภาพสูง สุ ดทั้ ง ภาพและเสี ย ง (ในขณะที่ CD-ROM หรื อ
Laser Disk ที่นิยมใช้เก็บภาพยนตร์ในปัจจุบันต้องใช้หลาย
แผ่น) ทำา ให้เป็นที่คาดหมายว่าดีวีดีจะมาแทนที่ทั้ง ซีดีรอม
เลเซอร์ดิสก์หรือแม้กระทั่งวิดีโอเทป
8
9. Introduction to Information Technology
ข้ อกำา หนดของดี วี ดีจ ะสามารถมี ความจุ ไ ด้ ตั้ ง แต่ ٤.٧
GB ถึง ١٧ GB และมีความเร็วในการเข้าถึง (Access time)
อยู่ ที่ ٦٠٠ กิ โ ลไบต์ ต่ อ วิ น าที ถึ ง ١.٣ เมกะไบต์ ต่ อ วิ น าที
รวมทั้งสามารถอ่านแผ่นซีดีรอมแบบเก่าได้ด้วย และยังมีข้อ
กำาหนดสำาหรับเครื่องรุ่นที่สามารถอ่านและเขียนแผ่นดีวีดีได้
ในตั ว เช่ น DVD-R(DVD Recordable) ซึ่ ง สามารถบั น ทึ ก
ข้ อ มู ล ได้ ห นึ่ ง ครั้ ง DVD-ROM ซึ่ ง สามารถบั น ทึ ก และลบ
ข้ อมู ล ได้ เ ช่ น เดี ย วกั บ ดิ ส ก์ เ กต และ DVD-RW ซึ่ ง สามารถ
บันทึกและลบข้อมูลได้หลายครั้ง แต่ต้องทำาทั้งแผ่นในคราว
เดียว เป็นต้น
٤. ส่วนเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Peripheral Interface)
1. ยูเอสบี (USB หรือ Universal Serial Bus)
เป็นส่วนเชื่อมต่อที่ใช้หลักการของบัสแบบอนุกรมที่ได้
รับความนิยม และเป็นมาตรฐานที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน
ส่วนเชื่อมต่อยูเอสบีจะเป็นบัสอเนกประสงค์สำาหรับเชื่อมต่อ
อุ ปกรณ์ ความเร็ว ตำ่า ทั้ง หมดเข้า พอร์ตชนิ ดต่า ง ๆ ด้ า นหลัง
เครื่อง จะเปลี่ยนมาเป็นการเข้ากับพอร์ตยูเอสบีเพียงพอร์ต
เดียว อุปกรณ์ที่ต่อทีหลังจะใช้วิธีต่อเข้ากับพอร์ตยูเอสบีของ
อุ ป กรณ์ ก่ อ นหน้ า แบบ เรี ย งไปเป็ น ทอด ๆ (Daisy chain)
ซึ่ ง สามารถต่ อ ได้ สู ง สุ ด ถึ ง ١٢٧ อุ ป กรณ์ และสายเชื่ อ ม
ระหว่างอุปกรณ์ยาวได้ถึง ٥ เมตร
อุ ป กรณ์ ที่ เ ป็ น แบบยู เ อสบี จ ะสนั บ สนุ น การถอดหรื อ
เปลี่ยนอุปกรณ์โดยไม่ต้องปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน (Hot
Swapping) รวมทั้งสนับสนุนการใช้งานแบบเสียบแล้วใช้ได้
ทันที (Plug and Play) โดยส่วนเชื่อมต่อแบบยูเอสบีที่ใช้ใน
ปัจจุบันจะใช้มาตรฐาน USB 1.1 ที่มีความเร็ว ٢ ระดับ คือ ١
.٥ เมกะบิ ต ต่ อ วิ น าที และ ١٢ เมกะบิ ตต่ อ วิ น าที ในขณะที่
มาตรฐานรุ่นล่าสุดคือ USB 2.0 จะสามารถมีความเร็วได้ถง ٤ ึ
٨٠ Mbps ซึ่ ง ทำา ให้ ส ามารถรั บ ส่ ง ข้ อ มู ล คุ ณ ภาพและเสี ย ง
จำานวนมาก ๆ ได้
٢. อินฟราเรด (IrDa Port)
เ ป็ น ม า ต ร ฐ า น ส่ ว น เ ชื่ อ ม ต่ อ จ า ก Infrared Data
Association(IrDa) ซึ่ ง เ ป็ น ก า ร ร ว ม ตั ว ข อ ง ก ลุ่ ม ผู้ ผ ลิ ต
อุ ปกรณ์ เพื่ อพั ฒนามาตรฐานในการส่ ง ผ่า นข้ อ มู ล ผ่ า นคลื่ น
9
10. Introduction to Information Technology
แสงอินฟราเรด ในปัจจุบัน ส่วนเชื่อมต่อแบบอินฟราเรดได้
รับการติดตั้งในอุปกรณ์จำา นวนมาก เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่อง
คอมพิ ว เตอร์ โ น้ ต บุ ค พี ดี เ อ โทรศั พ ท์ เ คลื่ อ นที่ เป็ น ต้ น
เนื่องจากส่วนเชื่อมต่ออินฟราเรดมีข้อดีคือ ไม่ต้องใช้สายใน
การเชื่อมต่อ ทำา ให้สะดวกกับการใช้งานในอุปกรณ์แบบพก
พา อีกทั้งส่วนเชื่อมต่ออินฟราเรดยังมีค่าใช้จ่ายที่ตำ่ามากเมื่อ
เทียบกับเทคโนโลยีไร้สายแบบอื่น ข้อจำากัดของส่วนเชื่อม
ต่อประเภทนี้คือระยะห่างระหว่างอุปกรณ์จะต้องไม่เกิน ٣-١
เมตร และต้องไม่มีสิ่งกีดขวางในระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้งาน
٣. อุปกรณ์พีซีการ์ด (PC CARD)
เทคโน โลยี พี ซี การ์ ดเป็ น เท คโ นโลยี ซึ่ ง เกิ ดจ าก
ม า ตร ฐา น PCMCIA (The Personal Computer Memory
Card International Association) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการ
ออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สำา หรั บ อุ ป กรณ์ ที่ มี ข นาด
เท่ากับนามบัตร โดยอุปกรณ์ดังกล่าวอาจเป็นได้ทั้งอุปกรณ์
หน่วยความจำา ตลอดจนอุปกรณ์รับหรือแสดงผลต่าง ๆ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพีซีการ์ดจะใช้พลังงานน้อย
ทนทานต่อการใช้ งาน มีข นาดเล็ก และนำ้า หนั กเบา ทำา ให้มี
ความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำางานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้
พลั ง งานจากแบตเตอรี่ และต้ อ งการพกพาไปยั ง ที่ ต่ า ง ๆ
เช่น โน้ตบุค และพีดีเอ เป็นต้น นอกจากนี้ อุปกรณ์พีซีการ์ด
ยังมีการนำาไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางกับอุปกรณ์ประเภท
ต่ า ง ๆ เช่ น กล้ อ งดิ จิ ต อล อุ ป กรณ์ บั น ทึ ก ข้ อ มู ล ตลอดจน
โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
อุปกรณ์พีซีการ์ดสามารถแบ่งได้เป็น ٣ ชนิด โดยทั้ง ٣
ชนิดจะมีขนาดความกว้างและความยาวประมาณเท่ากับบัตร
เครดิ ต รวมทั้ ง ใช้ ก ารเชื่ อ มต่ อ ด้ ว ยคอนเน็ ค เตอร์ แ บบ ٦٨
เข็มเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันที่ความหนา คือ
PC Card Type l จะมีความหนา ٣.٣ มิลลิเมตร นิยมใช้
กับอุปกรณ์หน่วยความจำา เช่ น RAM, Flash Memory
และ SRAM เป็นต้น
PC Card Typd ll จะมีความหนา ٥.٠ มิลลิเมตร นิยม
ใช้ กั บ อุ ป กรณ์ Input/Output เช่ น แฟกซ์ /โมเด็ ม
การ์ด LAN เป็นต้น
10
11. Introduction to Information Technology
PC Card Type lll มีความหนา ١٠.٥ มิลลิเ มตร จะใช้
กับอุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบค่อนข้างหนา เช่นอุปกรณ์
บันทึกข้อมูลประเภทฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
٥. ยูพีเอส (UPS)
ยู พี เ อส หรื อ Uninterruptible Power Supply เป็ น อุ ป กรณ์
สำา หรั บ จ่ า ยกระแสไฟฟ้ า สำา รองจากแบตเตอรี่ เพื่ อ เป็ น แหล่ ง
พลังงานฉุกเฉินในกรณีเกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าหลัก เช่น ไฟดับ
ไฟตก ไฟเกิ น เป็ น ต้ น โดยปกติ แ ล้ ว ยู พี เ อสจะสามารถจ่ า ย
พลังงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำางานได้ต่ออีก
หลายนาทีหลังจากไฟฟ้าดับ ทำาให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูลหรือ
ทำา ขั้นตอนปิ ดระบบ (Shutdown) ให้เรียบร้อย และหากเป็ นยูพี
เอสที่มีกำา ลังไฟฟ้าสูงก็จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ใช้งานได้
หลายชั่วโมง นอกจากนี้ในปัจจุบัน จะมียูพีเอสซึ่งมีซอฟต์แวร์มา
ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลและปิดระบบโดยอัตโนมัติเมื่อระบบไฟฟ้า
มี ปั ญ หา ซึ่ ง จะมี ป ระโยชน์ ใ นกรณี ที่ ผู้ ใ ช้ ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ กล้ เ ครื่ อ ง
คอมพิวเตอร์ในขณะนั้น
ยูพีเอสสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ
Standby Power systems จะเป็ น ระบบยู พี เ อสที่ ใ น
เวลาปกติ จ ะให้ อุ ป กรณ์ ต่า ง ๆ ใช้ พ ลั ง งานจากระบบไฟฟ้ า
โดยตรง แต่ จ ะคอยตรวจสอบพลั ง งานไฟฟ้ า และทำา การ
เปลี่ยนไปใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ทันทีที่ ตรวจพบปั ญ หา
จุดด้อยคือการเปลี่ยนอาจใช้เวลาหลายมิลลิวิ นาที ซึ่งช่ วง
เวลานี้เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ได้รับพลังงานไฟฟ้า ทำา ให้
อาจเกิดปัญหากับอุปกรณ์บางอย่างที่มีความไวสูง มีข้อดีคือ
ราคาตำ่า และสู ญ เสี ย พลั ง งานไฟฟ้ า น้ อ ยมาก บางครั้ ง อาจ
เรียกระบบนีว่า Line-interactive UPS
้
On-line UPS systems เป็ น ระบบยู พี เ อสที่ ค อยจ่ า ย
พลั ง งานไฟฟ้ า ให้ กั บ อุ ป กรณ์ ต่ า ง ๆตลอดเวลาไม่ ว่ า ระบบ
ไฟฟ้ า หลั ก จะมี ปั ญ หาหรื อ ไม่ ทำา ให้ ไ ด้ พ ลั ง งานไฟฟ้ า ที่ มี
คุณภาพสูงอยู่ตลอดเวลา มีข้อเสีย คือ ราคาแพง และมี การ
สูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปกับการแปลงไฟฟ้าตลอดเวลา รวม
ทั้งมีอายุการใช้งานสั้นกว่าด้วย บางครั้งอาจเรียกระบบนี้ว่า
Double Conversion UPS เนื่องจาก UPS ประเภทนี้จะต้อง
ทำา การแปลงไฟฟ้ากระแสสลับจากแหล่งจ่ายไฟไปเป็นกระ
11
12. Introduction to Information Technology
แ สตรง และแป ลงกลั บ มา เป็ นกระแ สสลั บ ใ ห้ อุ ป กร ณ์
คอมพิวเตอร์ใช้อีกครั้งหนึ่ง
٦. แบตเตอรี่แบบเติมประจุ (Rechargeable battery)
แบตเตอรี่ แ บบเติ ม ประจุ ได้ รั บ ความนิ ย มมาใช้ ใ นอุ ป กรณ์
แบบ พกพา เช่ น เครื่ อ ง คอม พิ ว เตอร์ โ น้ ตบุ ค เครื่ อง พี ดี เอ
โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น เนื่องจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ๆ สามารถ
ใช้งานได้อย่างยาวนาน และสามารถเติมประจุซำ้า ๆ ได้หลายร้อย
ครั้ง ทำา ให้ประหยัดกว่าการใช้แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้งเป็นอย่าง
มาก นอกจากนี้ บางรุ่นยังสามารถรายงานระดับพลั งงานที่ เหลือ
อยู่เพื่อให้ผู้ใช้ทราบได้ว่าสามารถใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนั้นได้อีกนาน
เท่ า ใด แบตเตอรี่ แ บบเติ ม ประจุ ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มในปั จ จุ บั น
สามารถแบ่งเป็นสามประเภท คือ
NiCD battery แ บ ต เ ต อ รี่ แ บ บ นิ ก เ กิ ล แ ค ด เ มี ย ม
(Nickel Cadmium) เป็ น แบตเตอรี่ ที่ มี ร าคาถู ก สามารถ
ทำา การประจุซำ้า ได้ประมาณ ١٠٠٠ -٧٠٠ ครั้ง แต่ แบตเตอรี่
ประเภทนี้ จ ะสามารถใช้ ง านได้ ไ ม่ น านนั ก และมี ปั ญ หา
Memory effect ทำา ให้ ต้ อ งทำา การใช้ ง านให้ ป ระจุ ห มดทุ ก
ครั้งก่อนที่จะทำาการเติมประจุใหม่
NiMH battery แบตเตอรี่ แ บบนิ ก เกิ ล เมตั ล ไฮไดร์ ด
(Nichel Metal Hydride) เป็ น แบตเตอรี่ ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย ม
อย่ า งมาก เนื่ อ งจากให้ พ ลั ง งานที่ ย าวนานกว่ า แบบ NicD
ประมาณ ٥٠ -٤٠ เปอร์ เ ซ็ น ต์ อี ก ทั้ ง ไม่ มี ปั ญ หา Memory
effect ทำา สามารถเติมประจุเมื่อใดก็ได้ สามารถทำา การเติม
ประจุได้ประมาณ ٥٠٠ ครั้ง ข้อเสียของแบตเตอรี่ประเภทนี้
คือจะมีการสูญเสียพลังงานประมาณ ٥ เปอร์เซ็นต์ทุกวันไม่
ว่าจะมีการใช้งานหรือไม่ก็ตาม
Lithium-Ion battery แบตเตอรี่ แ บบลิ เ ธี ย มไอออน
(Lithium-Ion) เป็นแบตเตอรี่ที่กำาลังได้รับความนิยมมากขึ้น
เรื่อย ๆ เนื่องจากให้พลังงานที่สูงกว่า แบบ NiMH ประมาณ ٢
เท่า ไม่มีปัญหา memory effect เติมประจุได้ประมาณ ٥٠٠
ครั้ง และมีนำ้าหนักที่เบา ทำาให้มีความเหมาะสมในการนำามา
ใ ช้ กั บ อุ ป กรณ์ พ กพา ต่ า ง ๆ เป็ น อย่ า งยิ่ ง ข้ อเสี ย ข อง
แบตเตอรี่ประเภทนี้คือราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าประเภทอื่น ๆ
พอสมควร
12
13. Introduction to Information Technology
7. Modem (modulation-Demodulation)
จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายนอกผ่าน
สายโทรศัพท์ดั้งเดิม (POTS) ซึ่งปกติใช้ส่งสัญญาณเสียงเท่านั้น
โมเด็มมีหน้าที่ในการแปลงสัญญาณดิจิตอลจากคอมพิวเตอร์ให้
เป็นสัญญาณอนาลอก เพื่อส่งผ่านไปตามสายโทรศัพท์ และเมื่อ
ได้ รั บ ข้ อ มู ล ก็ ทำา การแปลงสั ญ ญาณอนาลอกที่ ไ ด้ รั บ ให้ เ ป็ น
สัญญาณดิจิตอล เพื่อให้คอมพิวเตอร์นำาไปประมวลผล ในปัจจุบัน
นี้ สามารถส่งผ่านโมเด็มได้ด้วยความเร็วสูงสุดตามมาตรฐาน V.90
ของ ITU ที่ ٥٦ kbps
โมเด็มสามารถแบ่งเป็นแบบต่าง ๆ ได้คือ
• โมเด็มภายใน (Internal MODEM) จะเป็นโมเด็มแบบ
เป็ น การ์ ด ใช้ เ สี ย บกั บ ช่ อ งขยายเพิ่ ม เติ ม ในเครื่ อ ง
คอมพิ ว เตอร์ มี ข้ อ ดี คื อ ราคาถู ก และไม่ ต้ อ งเสี ย บไฟ
แยกต่างหาก
• โมเด็ ม แบบภายนอก (External MODEM) จะเป็ น ก
ล่องสำาหรับเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทาง
พอร์ตอนุกรม (serial port) หรือ ยูเอสบี (USB) มีข้อดี
คือเคลื่อนย้ายได้ง่าย และมีไฟแสดงสถานะการทำางาน
• โมเด็ ม แบบกระเป๋ า (Pocket MODEM) จะเป็ น โมเด็ ม
ขนาดเล็กที่สามารถพกใส่กระเป๋าเสื้อได้และเสียบเข้า
กับพอร์ตอนุกรม
• โมเด็มแบบการ์ด (PCMCIA MODEM) จะเป็นโมเด็มที่
มีขนาดเท่ากับบัตรเครดิตเท่านั้น นิยมใช้กับเครื่องโน้ต
บุคโดยเสียบผ่านช่องเสียบแบบ PCMCIA Type ll
8. หน่วยควำมจำำหลัก (Main Memory Unit)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจดจำาข้อมูลและโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่
ระหว่ า งการประมวลผลของคอมพิ ว เตอร์ บางครั้ ง อาจเรี ย กว่ า
หน่วยเก็บข้อมูลหลัก (Primary storage)
หน่วยความจำา หลักที่นิยมใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่ง
อออกได้เป็น ٢ ประเภท
١. หน่วยความจำา หลักแบบอ่านได้อย่างเดียว (Read Only
Memory)
เรี ย กสั้ น ๆ ว่ า รอม (ROM) เป็ น หน่ ว ยความจำา ที่ มี
คุณสมบัติในการเก็บข้อมูลไว้ได้ตลอดโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
หล่อเลี้ยง (Non-Volatile) นั่นคือแม้จะปิดเครื่องไปแล้วเมื่อ
13
14. Introduction to Information Technology
เปิดเครื่องใหม่ข้อมูลในรอมก็ยังอยู่เหมือนเดิม นิยมใช้เป็น
หน่วยความจำา สำา หรับเก็บชุดคำา สั่งในการเริ่มต้นระบบ หรือ
ชุดคำา สั่งที่สำา คัญ ๆ ของคอมพิวเตอร์ คำา สั่งเริ่มต้นระบบจะ
ถู ก เก็ บ ไว้ ใ นชิ ป ชื่ อ ROM BIOS (Basic Input / Output
System) ข้อเสียของรอมคือจะไม่สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติม
ชุดคำา สั่งได้ในภายหลัง รวมทั้งมี ความเร็ วในการทำา งานช้ า
กว่าหน่วยความจำาแบบแรม
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีรอมที่เป็นชิปพิเศษแบบต่าง
ๆ อีก คือ
PROM (Programmable Read-Only Memory)
เป็ น หน่ ว ยความจำา แบบ ROM ที่ ส ามารถบั น ทึ ก ด้ ว ย
เครื่องบันทึกพิเศษได้หนึ่งครั้ง จากนั้นจะลบหรือแก้ไข้ไม่ได้
EPROM(Erasable PROM)
เป็นหน่วยความจำา ROM ที่ใช้แสงอัลตราไวโอเลตใน
การเขียนข้อมูล สามารถนำาออกจากคอมพิวเตอร์ไปลบโดย
ใช้เครื่องมือพิเศษและบันทึกข้อมูลใหม่ได้
EEPROM (Electrically Erasable PROM)
จะเป็นเทคโนโลยีซึ่งรวมเอาข้อดีของรอมและแรมเข้า
ด้ ว ยกั น กล่ า วคื อ จะเป็ น ชิ ป ที่ ใ ช้ ไ ฟฟ้ า ในการหล่ อ เลี้ ย ง
(non-volatile) สามารถเขียน แก้ไข หรือลบข้อมูลที่เก็บไว้
ได้ ด้ ว ยโปรแกรมพิ เ ศษ โดยไม่ ต้ อ งถอดออกจากเครื่ อ ง
คอมพิวเตอร์เลย ทำาให้เปรียบเสมือนหน่วยเก็บข้อมูลสำารอง
ที่ มี ความเร็ว สู ง อย่ า งไรก็ ตาม หน่ ว ยความจำา ชนิ ดนี้ จ ะมี ข้ อ
ด้อยอยู่ ٢ ประการเมื่อเทียบกับหน่วยเก็บข้ อมู ลสำา รอง นั่น
คือราคาที่สูงและมีความจุข้อมูลตำ่ากว่ามาก ทำาให้การใช้งาน
ยังจำา กัดอยู่กับงานที่ต้องการความเร็วสูง และเก็บข้อมูลไม่
มากนัก ตังอย่างของหน่วยความจำาแบบ EEPROM ที่รู้จักกัน
ดี คื อ หน่ ว ยความจำา แบบแฟลช (Flash memory) ซึ่ ง นิ ย ม
นำามาใช้เก็บ BIOS ในเครื่องรุ่นใหม่ ๆ
เสริมศัพท์
ความเร็วในการเข้าถึง (Access time)
คื อ เวลาที่ โ ปรแกรมหรื อ อุ ป กรณ์ ใ ช้ ใ นการหาข้ อ มู ล ให้
คอมพิ ว เตอร์ นำา ไปประมวล นิ ย มใช้ เ ป็ น ค่ า สำา หรั บ บอกความเร็ ว
14
15. Introduction to Information Technology
ของอุ ป กรณ์ เ ก็ บ ข้ อ มู ล เช่ น หน่ ว ยความจำา หลั ก และหน่ ว ยเก็ บ
ความจำา สำา รอง โดยหน่วยความจำา หลักจะมีความเร็วอยู่ในหน่วย
ของ nanoseconds(ns หรือ หนึ่งส่วนพันล้านวินาที)
ความเร็วในการเข้าถึง ของหน่วยความจำา เป็ น ปั จ จั ยสำา คั ญ
อย่างหนึ่งที่ มีผลกระทบกั บประสิ ท ธิ ภาพของซี พียู โดยจะต้ อ งมี
ความเร็ว พอที่จะสามารถส่ งข้ อมู ลให้ ซีพียู ไ ด้ ใ นทั น ที ไม่ เ ช่ น นั้ น
ซีพียูจะต้องมีการกำา หนดว่าใหยุดรอระยะหนึ่งทุกครั้งที่อ่านเขียน
ข้ อ มู ล จากหน่ ว ยความจำา เรี ย กว่ า เวทสเตท (Wait state) ซึ่ ง มี
หน่วยเป็น วงรอบสัญญาณนาฬิกา (Clock cycle)
ส่วนความเร็วในการเข้าถึงของหน่วยเก็บความจำา สำา รอง จะ
เรี ย ก ความเร็ ว ในการเข้ า ถึ ง เฉลี่ ย (Average access time) ซึ่ ง
ประกอบด้ ว ยเวลาที่ ไ ดร์ ฟ ใช้ ใ นการหาแทร็ ก ที่ ถู ก ต้ อ ง กั บ เวลา
เฉลี่ยในการเลื่อนหัวอ่าน (average seek time) ไปยังตำาแหน่งที่
ต้องการ นิยมใช้เป็นหน่วยวัดความเร็วในอุปกรณ์แบบเข้าถึงข้อมูล
โดยตรง (Direct access) เช่น ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
٢. หน่ ว ยความจำา หลั ก แบบแก้ ไ ขได้ (Random Access
Memory)
นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า แรม (RAM) หมายถึงหน่วยความจำา
ความเร็วสูงซึ่งเป็นที่เก็บโปรแกรมและข้อมูลในคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่มีหน่วยความจำาความเร็วสูงนี้ โปรเซสเซอร์ก็จะทำางาน
ไม่ได้เลย เนื่องจากความจำา แรมเป็ นเสมื อนกระดาษทด ที่
เก็บข้อมูลทุกอย่างที่โปรเซสเซอร์ใช้ในขณะกำาลังทำางานอยู่
เพราะอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลอื่น เช่น ดิสก์ไดร์ฟ จะมีความเร็ว
ในการอ่ า นและบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ช้ า มาก ขณะที่ ซี พียู ทำา งานจึ ง
ต้องทำางานกับหน่วยความจำาแรมที่มีความเร็วสูงเสมอ
โดยปกติแล้ว ถ้าคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำามาก ก็จะ
สามารถทำางานได้เร็วขึ้น เพราะมีเนื้อที่สำาหรับเก็บคำาสั่งของ
โปรแกรมต่ าง ๆ ได้ ทั้ ง หมด ไม่ ต้อ งเรี ย กคำา สั่ ง ที่ใ ช้ ม าจาก
หน่ ว ยเก็ บ ข้ อมู ลสำา รอง ซึ่ ง จะทำา ให้ ก ารทำา งานช้ า ลงอย่ า ง
ม า ก แ ผ ง ว ง จ ร ห ลั ก (Main board) ที่ อ ยู่ ใ น เ ค รื่ อ ง
คอมพิวเตอร์ โดยปกติจะถูกออกแบบมาให้สามารถเพิ่ม ชิป
หน่วยความจำา(memory chip) ได้โดยง่าย เนื่องจากถ้าผู้ใช้
ต้องทำา งานกับโปรแกรมที่มีการคำา นวณซับซ้อนหรือทำา งาน
กับภาพกราฟิก ก็อาจจำา เป็น ต้อ งทำา การเพิ่ มหน่วยความจำา
ให้มากขึ้น
15
16. Introduction to Information Technology
คอมพิ ว เตอร์ ข นาดใหญ่ ส่ ว นมากจำา เป็ น ต้ อ งมี ห น่ ว ย
ความจำา จำา นวนมาก เนื่องจากคอมพิวเตอร์นี้จะมีผู้ใช้หลาย
คนทำางานพร้อม ๆ กัน โดยใช้หลักการของ มัลติโปรเซสซิง
(Multiprocessing) ทำาให้ต้องมีการแบ่งเนื้อที่ในหน่วยความ
จำา เพื่อเก็บโปรแกรมของผุ้ใช้แต่ละคนสามารถประมวลผล
ไปในเวลาเดียวกันมากขึ้น
หน่วยความจำา RAM ที่นยมใช้ในปัจจุบัน คือ
ิ
DRAM (Dynamic RAM)
เป็ น หน่ ว ยความจำา ที่ มี ก ารใช้ ง านกั น มากที่ สุ ด ใน
ปัจจุบัน จะมีวงจรคล้ายตัวเก็บประจุเพื่อจัดเก็บแต่ละบิตของ
ข้ อ มู ล ทำา ให้ ต้ อ งมี ก ารยำ้า สั ญ ญาณไฟฟ้ า เข้ า ไปก่ อ นที่ จ ะ
สู ญ หาย เรี ย กว่ า การรี เ ฟรช (Refresh) หน่ ว ยความจำา
DRAM จะมี ข้อดีที่ ราคาตำ่า แต่ ข้ อ เสี ย คื อ มี ความเร็ วในการ
เข้ า ถึ ง (Access time) ประมาณ ١٥٠ – ٥٠ nanoseconds
ซึ่ งไม่ สูง นักเนื่ องจากต้ องมีก ารรี เฟรชข้ อมู ล อยู่ ตลอดเวลา
ทำา ให้มี การนำา เทคนิ ค ต่ า ง ๆ มาช่ ว ยลดเวลาในการเข้า ถึ ง
ข้ อมู ล และเกิ ด DRAM ชนิ ดย่ อ ย ๆ เช่ น FPM (Fast Page
Mode) RAM, EDO (Extended Data Output) RAM,
SDRAM (Synchronous DRAM), DDR (Double Data
Rate) SDRAM และ RDRAM (Rambus DRAM) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมี DRAM แบบพิเศษซึ่งมีการปรับปรุงให้
ทำา งานเร็ ว ขึ้ น เพื่ อใช้ เ ป็ น หน่ ว ยความจำา สำา หรั บ ระบบแสดง
ผลกราฟิ ก ซึ่ ง ต้ อ งการหน่ ว ยความจำา ที่ ส ามารถถ่ า ยโอน
ข้ อ มู ล ด้ ว ยความเร็ ว สู ง เช่ น VRAM(Video RAM), WRAM
(Window RAM), SGRAM (Synchronous Graphics RAM)
และ MDRAM (Multibank RAM) เป็นต้น
16