More Related Content Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์444
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์444 (20) More from Pattanachai Jai
More from Pattanachai Jai (20) โครงงานคอมพิวเตอร์4442. ใบงานที่ 2เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
1. ความหมาย และความสาคัญของโครงงาน
2. โครงงาน หมายถึงกิจกรรมการศึกษาวิชาการงานที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้เลือก
ขึ้นมาศึกษา ค้นคว้า ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานตามที่ตนเองมีความถนัด มีความพร้อมและสนใจ
แล้วลงมือปฏิบัติให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้โดยมีรายละเอียดของงานที่จะทาไว้
ล่วงหน้า เป็นขั้นตอน พร้อมทั้ง คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้โดยได้รับคาแนะนาปรึกษาจาก
ครูในโรงเรียนของตน
3. ใบงานที่ 2เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
3. ความสาคัญของโครงงานในแง่ของการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมเสริม ตาม
หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2533 มีดังนี้ คือ
1.)ด้านนักเรียน
2.) ด้านโรงเรียนและครูอาจารย์
3.) ด้านท้องถิ่น ความสาคัญ ของโครงงาน
4. ใบงานที่ 2เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้ คือ 1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงานที่
จะนาไปสู่งานอาชีพ และการศึกษาต่อที่ตนเองมี ความถนัด และสนใจ 1.2 สร้างเสริม
ประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอย่าง ซาบซึ้งใน
โครงงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมา 1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง และกาแก้ปัญหา
ในงานที่ตนเองสนใจและมี ความพร้อม ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการดาเนินงานต่อไป
1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ ได้ริเริ่มสร้างสรรค์ 1.5
ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามต่อกันในระหว่างเพื่อนนักเรียนที่
ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม 1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ได้รับความสาเร็จใน การศึกษาตามหลักสูตรและตรงกับจุดหมายที่กาหนดไว้
6. ใบงานที่ 3เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการ
ทางทฤษฎีตามเนื้ อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็น
มากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ
เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วย
ตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
7. ใบงานที่ 3เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล
รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา
รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
8. ใบงานที่ 3เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ประเภทของโครงงาน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ใน
รูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
10. ใบงานที่ 4เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา”
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ ผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่ง อาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียน สามารถเรียนแบบรายบุคคล
หรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ ออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้ สามารถ พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา ต่างๆ
11. ใบงานที่ 4เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา”
โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้ อหาที่ เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น
การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตท์ ระบบสุริยะจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ
ประเทศ ไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรี
ไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวน ไทยพาสนุก
โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้ คณิตศาสตร์
13. ใบงานที่ 5เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น
ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น
สาหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือให้เราใช้ ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป
พัฒนาขึ้นเพื่ออานวย ความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย
สาหรับซอฟต์แวร์ช่วย การมองวัตถุในมุมต่างๆ
14. ใบงานที่ 5เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่า
ด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะ เป็นมาให้ เพื่อ
พิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็นต้น
16. ใบงานที่ 6เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ จาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย สถานการณ์จริงได้เช่น การจุด
ระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้อง ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ
แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง
หลักการ ซึ่งอาจอยู่ ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการทดลองทฤษฏีด้วย
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็น
17. ใบงานที่ 6เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการ นั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดี
ยิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้ มี จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่างโครงงาน จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลาฉลาม และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
18. ใบงานที่ 6เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ตัวอย่าง - วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท - เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test
Lamp) - การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่าง การ
สารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้ าหลังเกิดการ ลัดวงจร - สัญญาณกันขโมย -
ประตูรีโมท - นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของเมนเดล กฎของชาร์ กาฟฟ์
20. ใบงานที่ 7เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
โครงงานประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ
ประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบ และตกแต่ง
ภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการ ระบุคนร้าย เป็นต้น
โครงงานประเภทนี้ จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจ
เป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น
21. ใบงานที่ 7เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่
ได้มาใช้ใน การ ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางาน
หรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภท
นี้ ผู้เรียน ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา โปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่
เกี่ยวข้อง
22. ใบงานที่ 7เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
ตัวอย่างโครงงาน -โครงงานคอมพิวเตอร์โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี -โครงงานการ
ออกแบบรถยนต์ -โครงงานซอฟแวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาหาร -โครงงาน
ระบบสุริยะจักรวาล -โครงงานซอฟแวร์สาหรับผสมสี
24. ใบงานที่ 8เรื่อง โครงงานประเภท “พัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
การที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะการที่มีคอมพิวเตอร์
ขนาดเล็ก ทาให้มีการใช้งานคล่องตัวขึ้น จนในปัจจุบันสามารถนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กติด
ตัวไป ใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้สะดวก การใช้งานคอมพิวเตอร์ต้องมีซอฟต์แวร์ประยุกต์ซึ่งอาจ
เป็นซอฟต์แวร์สาเร็จที่มีผู้พัฒนาเพื่อใช้ งานทั่วไป ทาให้ทางาน ได้สะดวกขึ้น หรืออาจเป็น
ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้เป็นผู้พัฒนาขึ้น เองเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการทางานของ
ตน ซอฟต์แวร์สาเร็จ ในบรรดาซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่มีใช้กันทั่วไปซอฟต์แวร์สาเร็จ
(package) เป็นซอฟต์แวร์ที่มี
25. ใบงานที่ 8เรื่อง โครงงานประเภท “พัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ความนิยมใช้กันสูงมากซอฟต์แวร์สาเร็จเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้น แล้วนาออกมาจา
หน่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรงไม่ต้องเสียเวลา ในการพัฒนาซอฟต์แวร์อีก
ซอฟต์แวร์สาเร็จที่ มีจาหน่ายในท้องตลาดทั่วไป และเป็นที่นิยมของผู้ใช้มี 5 กลุ่ม ใหญ่
ได้แก่ ซอฟต์แวร์ประมวลคา (word processing software) ซอฟต์แวร์
ตารางทางาน (spread sheet software) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
(data base management software) ซอฟต์แวร์นาเสนอ
(presentation software ) และซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูล (data
communication software)
26. ใบงานที่ 8เรื่อง โครงงานประเภท “พัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ การประยุกต์ใช้งานด้วยซอฟต์แวร์สาเร็จมักจะเน้นการใช้งานทั่วไป
แต่อาจจะนามาประยุกต์ โดยตรงกับงานทางธุรกิจบาง อย่าง ไม่ได้เช่นในกิจการธนาคาร มี
การฝากถอนเงิน งาน ทางด้านบัญชี หรือในห้างสรรพสินค้าก็มีงานการขายสินค้า การ ออก
ใบเสร็จ รับเงิน การ ควบคุมสินค้าคงคลัง ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ
สาหรับงานแต่ละ ประเภทให้ ตรงกับความ ต้องการของผู้ใช้แต่ละราย
27. ใบงานที่ 8เรื่อง โครงงานประเภท “พัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะมักเป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้พัฒนาต้องเข้าไปศึกษารูปแบบการทางานหรือ
ความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ แล้วจัดทาขึ้น โดยทั่วไปจะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีหลายส่วนรวมกัน
เพื่อร่วมกันทางาน ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะที่ใช้กันในทาง ธุรกิจ เช่น ระบบงานทางด้าน
บัญชี ระบบงานจัดจาหน่าย ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม บริหารการเงิน และการเช่า
ซื้อ ความ ต้องการของการใช้คอมพิวเตอร์ในงานทางธุรกิจยังมีอีกมาก ดังนั้นจึงต้องมีความ
ต้องการ ผู้พัฒนา ซอฟต์แวร์เพื่อ พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะต่าง ๆ อีกมากมาย
28. ใบงานที่ 8เรื่อง โครงงานประเภท “พัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ตัวอย่าง รายชื่อโปรแกรมประยุกต์ โดยตัวอย่างได้แก่ โปรแกรมสาหรับการใช้งาน
อินเทอร์เน็ต เช่น อินเทอร์เน็ต เอ็กซ์โพลเรอร์, ไฟร์ฟอกซ์, ไฟล์ซิลลา ซอฟต์แวร์ประมวลคา
เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สาหรับการพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และ
จัดรูปแบบ เอกสารได้อย่างดี โปรแกรมสานักงาน เช่น ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ
ไมโครซอฟท์เอ็กเซล