แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน วิธีแก้อาการปวดท้องประจาเดือน (Treatment of Period cramps)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นาย พงศกร ไชยมงคล เลขที่ 22 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2
2. นางสาว ชนันภรณ์ หนูทองแก้ว เลขที่ 24 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นาย พงศกร ไชยมงคล เลขที่ 22 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2
2 นางสาว ชนันภรณ์ หนูทองแก้ว เลขที่ 24 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน
วิธีแก้อาการปวดท้องประจาเดือน
ชื่อโครงงาน
Treatment of Period cramps
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย พงศกร ไชยมงคล และ นางสาว ชนันภรณ์ หนูทองแก้ว
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม นาง พงษ์ลัดดา ณ เชียงใหม่
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1 – 2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
การมีประจาเดือนเป็นธรรมชาติของสตรีเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จากการศึกษาของ รศ.พญ.มานี ปิยะ
อนันต์ ภาควิชาสูติศาสตร์ – นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าอายุเฉลี่ยของการมี
ประจาเดือนครั้งแรก ของเด็กผู้หญิงไทยประมาณ 12 ปี7 เดือน เมื่อเริ่มมีประจาเดือนผู้หญิงส่วนใหญ่จะมี
อาการปวดท้องขณะมีประจาเดือน เพราะ ผนังมดลูกจะสร้างสารชนิดหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า พรอสตาแกลนดิน
(Prostaglandin)ซึ่งสารตัวนี้จะทาให้ มดลูกมีการหดตัว ก่อให้เกิดอาการปวดท้องเบาๆ แต่ถ้าหากสารพรอส
ตาแกลนดินมีปริมาณมากกว่าปกติ ก็จะก่อให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลุ่มคนส่วนใหญ่คิดว่าอาการ
ปวดประจาเดือนนั้นเป็นสิ่งธรรมดาที่ เกิดขึ้นระหว่างการมีประจาเดือน อย่างกระนั้นความคิดแบบนี้ก็คงจะ
ใช้ได้กับคนที่มีอาการปวดประจาเดือนที่ไม่มากนัก คือ ปวดพอรู้สึกราคาญใจ ไม่ถึงกับต้องรับประทานยา
อาการก็สามารถหายไปเอง โดยอาการปวดประจาเดือนนี้ ส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-2 ของการมี

3. 3
ประจาเดือน และจะหายไปภายใน 1-2 วัน แต่มีจานวนผู้หญิงบางรายที่มี อาการปวดท้องมากขณะมี
ประจาเดือนทุกครั้ง จึงจะต้องรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) อาการจึงทุเลา
ซึ่งลักษณะการปวดประจาเดือนทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมาแล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดได้ในผู้หญิง ถึงอย่างนั้น
อาการปวด ประจาเดือนก็ได้สร้างความไม่สะดวกในหลายๆด้านและส่งผลกระทบกับชีวิตประจาวันของ
ผู้หญิงทุกช่วงวัย ยกตัวอย่างเช่น การปวดประจาเดือนเป็นสาเหตุสาคัญของการขาดเรียน ประมาณร้อยละ
10 – 21.1 ของสตรีที่มี อาการปวดประจาเดือนจะมีอาการรุนแรงมากส่งผลให้ต้องขาดเรียนเพื่อไปพบแพทย์
โดยมีจานวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของพวกที่มีอาการปวดประจาเดือน ต้องขาดเรียนทุกเดือน ทั้งยังส่งผลให้ไม่
อยากเข้าร่วมในการทากิจกรรมต่างๆ ความ สนใจ ในการเรียนน้อยลง ทาให้ระดับผลการเรียนลดต่าลง ใน
ประเทศไทยพบว่ามี การขาดเรียนในระหว่างการมีรอบ ประจาเดือนสูงถึงร้อยละ 21.1 ความสนใจในการ
เรียนลดลงร้อยละ 63.6 และ มีผลการเรียนลดต่าลงร้อยละ 1.8 นอกเหนือไปกว่านั้นการปวดประจาเดือน
ส่งผลเสียต่อ ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการขาดงาน รวมถึงคุณภาพของการทางาน
ที่ลดลงมูลค่าการสูญเสียจากการขาดงานถือได้ว่ามีมูลค่าที่สูง จากตัวอย่างที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าอาการปวด
ท้องประจาเดือนนั้นส่งผลเสียต่อสุภาพสตรีได้ในทุกๆช่วงวัยและยังส่งผลเสียต่อระบบ เศรษฐกิจในด้าน
คุณภาพการทางานที่ลดลงอีกด้วย ดังนั้นทางคณะผู้จัดทาจึงเห็นความสาคัญที่จะต้องมีวิธีที่ช่วยแก้ไข อาการ
ปวดประจาเดือนที่สามารถนามาใช้ได้จริงในชีวิตประจาวันและวิธีเหล่านั้นต้องมีทฤษฎีที่น่าเชื่อถือมารองรับ
เพื่อความปลอดภัยโดยจะเป็นวิธีแก้อาการปวดประจาเดือน ชนิดปฐมภูมิ ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยจะเริ่มมี
อาการปวดท้องน้อยก่อนมีประจาเดือนไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เลือดประจาเดือนจะหลั่งออกมาหรือปวดพร้อมกับ
การมีประจาเดือนออกมา และการปวดเป็นอยู่ตลอดช่วง 2-3 วันแรกของประจาเดือน โดย จะมีอาการปวด
บิดเป็นพัก ๆ ที่บริเวณท้องน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ใจคอ หงุดหงิด
หรือมีอาการปวดหลังร่วมด้วย ถ้ามีอาการปวดรุนแรงอาจทาให้มีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น มือเท้าเย็นได้ เพื่อ
เป็นการบรรเทาอาการให้ทุเลาลง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอาการปวดท้องประจาเดือนในระยะต้นที่ปลอดภัยน่าเชื่อถือ
2. เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับอาการปวดประจาเดือนเพื่อสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
3. เพื่อนาสิ่งที่สืบค้นมาได้เป็นวิทยาทานให้แก่ผู้ที่มีความสนใจในโครงงาน
ขอบเขตโครงงาน
กาหนดให้ศึกษาในเรื่องวิธีแก้อาการปวดประจาเดือนในชนิดปฐมภูมิ

4. 4
หลักการและทฤษฎี
ความรู้ด้านชีววิทยา ในเรื่องระบบสืบพันธุ์เพศหญิงซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการตกไข่ และ ระบบต่อมไร้ท่อ ที่
เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนของเพศหญิงฮอร์โมน เอสโตรเจน(estrogen) และ โพรเจสเทอโรน (progesterone) ซึ่งเป็น
สเตรอยด์ ระดับของฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ของรอบประจาเดือน โดยเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่
หลุด ลอกออกจากเยื่อบุโพรงมดลูก หรือเยื่อบุมดลูก โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดย
สัมพันธ์กับการตกไข่ ซึ่งการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเกิดประมาณเดือนละครั้ง ภาวะที่เกิดขึ้นนี้ จึงถูกเรียกว่า
ประจาเดือน ในช่วงครึ่งแรกของรอบเดือนปกติ (รอบเดือนปกติ จะประมาณ 28 วัน) เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญหนา
ตัวขึ้นจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน (Estrogen) จากรังไข่ ประมาณกึ่งกลางของรอบเดือน (ประมาณ
วันที่ 14 ของรอบเดือน) จะมีการตกไข่จากรังไข่ข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อรอการปฏิสนธิกับอสุจิ จากนั้นไข่ที่ผสมแล้ว หรือ
ตัวอ่อนจะมีการฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือน หลังตกไข่ จะมีการเปลี่ยนแปลงของหลอด
เลือดและต่อมต่างๆในเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนเพศหญิงอีกชนิดจากรังไข่เช่นกัน ซึ่งสร้างมากขึ้นหลัง
ตกไข่ คือ ฮอร์โมนโปรเจสเตโรน (Progesterone) เพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนเพื่อเจริญเป็นการตั้งครรภ์แต่ใน
รอบเดือนที่ไม่มีการปฏิสนธิ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตโรนจากรังไข่จะลดระดับลง ส่งผลให้มีการหลุดลอกของเยื่อบุ
โพรงมดลูก (ประมาณวันที่ 28 ของรอบเดือน) กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ประจาเดือนหลังจากมีประจาเดือนแล้ว รังไข่จะ
เริ่มสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น เริ่มต้นวงจรของการเกิดประจาเดือนใหม่ เกิดเป็นรอบเดือน หรือ ประจาเดือน
วนเวียนไปเรื่อยๆตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ส่วนในด้านวิธีแก้อาการปวดประจาเดือนมีหลักการและทฤษฎีดังนี้ วิธีการ
แรก คือประคบด้วยกระเป๋าน้าร้อนมีหลักการรองรับ ได้แก่ ความร้อนจากกระเป๋าน้าร้อนจะส่งผ่านความร้อนโดยการ
ส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวหนังจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการขยายหลอดเลือดทาให้การไหลเวียนของเลือดภายใน
สะดวกขึ้น และช่วยลดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก อาการปวดท้องจึงค่อยๆ บรรเทาลง วิธีการที่สองหมั่นดื่ม
น้าอุ่นเพราะเมื่อร่างกายได้รับน้าอย่างเพียงพอ จะส่งผลให้ตับทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถ
ควบคุมปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ให้อยู่ในระดับที่ปกติได้ จึงทาให้อาการปวดท้องทุเลาลง วิธีที่สาม
การออกกาลังกายเบาๆอย่างการเดินเพราะการเดินจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเบต้า-เอนดอร์ฟิน (Beta endorphin)
ซึ่งเป็นสารระงับความเจ็บปวดออกมา วิธีที่สี่รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมเพราะแมกนีเซียมสามารถ
ช่วยลดสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ที่ถูกหลั่งออกมาในช่วงมีประจาเดือนได้ จึงมีผลช่วยลดอาการปวด
ประจาเดือน นอกจากนี้แมกนีเซียมยังช่วยบรรเทาอาการปวดก่อนมีประจาเดือน (PMS) ได้อีกด้วย วิธีที่ห้าการ
รับประทานใบสะระแหน่โดยปัจจุบันแนวทางรักษาของแพทย์แผนอายุรเวทนั้น ใบสะระแหน่มักจะถูกนามาใช้รักษา
อาการภาวะประจาเดือนมาผิดปกติ และบรรเทาอาการปวดประจาเดือน เนื่องจากใบสะระแหน่มีน้ามันหอมระเหยที่
จะออกฤทธิ์ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกาย ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดให้ทางานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีผลการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยชาเฮดของอิหร่านและมหาวิทยาลัย
วิทยาศาสตร์การแพทย์ เตหะราน ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร DARU Journal of Pharmaceutical Sciences
โดยระบุว่าสตรีที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะประจาเดือนผิดปกติ ทั้งปัญหาประจาเดือนขาด และมามากหรือน้อยกว่าปกติ
เมื่อได้รับประทานน้าเชื่อมใบสะระแหน่ปริมาณ 45 มิลลิกรัม/วัน ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ อาการประจาเดือน
กลับดีขึ้นสูงถึง 68.3% เมื่อนามาเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ที่สาคัญยังปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีผลข้างเคียง

5. 5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
สืบค้นข้อมูลและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับวิธีแก้อาการปวดท้องประจาเดือนจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ทั้ง
ห้องสมุดกลางโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งความรู้จากSocial Network
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน คณะผู้จัดทา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล คณะผู้จัดทา
3 จัดทาโครงร่างงาน คณะผู้จัดทา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน คณะผู้จัดทา
5 ปรับปรุงทดสอบ คณะผู้จัดทา
6 การทาเอกสารรายงาน คณะผู้จัดทา
7 ประเมินผลงาน คณะผู้จัดทา
8 นาเสนอโครงงาน คณะผู้จัดทา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้รับวิธีแก้ปัญหาอาการปวดท้องประจาเดือนที่น่าเชื่อถือ มีหลักการและทฤษฎีที่ถูกต้องมารองรับ
สามารถนามาใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน
2. สามารถนาความรู้ที่ได้มาดูแลตนเองในการสังเกตอาการผิดปกติและเฝ้าระวังอาการผิดปกติที่อาจจะ
เกิดขึ้นได้
สถานที่ดาเนินการ
1. ห้องสมุดกลางโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
2. โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
3. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านต้นเปา

6. 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา
2. กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สาขาการเกษตร
แหล่งอ้างอิง
หนังสือตาราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2. “ปวดประจาเดือน (Dysmenorrhea)”. (นพ.สุรเกียรติ อาชา
นานุภาพ). หน้า 882-883.
มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 377 คอลัมน์ : สารานุกรมทันโรค. “ปวด
ประจาเดือน”. (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th. [26 ม.ค.
2018].
หาหมอดอทคอม. “ปวดประจาเดือน (Dysmenorrhea)”. (รองศาสตราจารย์ พญ.ประนอม
บุพศิริ). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : haamor.com. [26 ม.ค. 2018].
Honestdocs. “ปวดท้องประจาเดือน สาเหตุ และวิธีแก้อาการปวด”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก :
https://www.honestdocs.co/menstruation-abdominal-pain-cause-and-treatment. [3 ก.พ.
2018]