2.  โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนที่
นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษา ปัญหาที่ตน
สนใจ โดยนักเรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน
ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
โดยใช้ความรู้ ทางคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์
ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน
 จุดมุ่งหมายสำาคัญของการทำาโครงงานเป็นการเปิด
โอกาสให้นักเรียนได้รับ ประสบการณ์ตรงในการ
ใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา

3.  ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้
คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการ
ศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์
ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอด
จนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียน
เป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ

4.  โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการ
ศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความ
สามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้
เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่
ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และ
ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะ
สม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนา

5.  การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ทำาให้ผู้เรียนเกิด
ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ
ดังนี้
› 1.ความสามารถในการสื่อสารเป็นความสามารถที่
เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้องนา
เสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครง
งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครง
งานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงาน
ด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูป
แบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิด
ในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ

6. › 2.ความสามารถในการคิดซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดใน
ลักษณะต่าง ๆ ดังนี้การคิดวิเคราะห์เกิดจากการที่ผู้
เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด
เนื่องจากอะไร
การคิดสังเคราะห์เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาค
วามรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา การคิดอย่างสร้างสรรค์เกิด
จากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่
ๆการคิดอย่างเป็นระบบเกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้
ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน การคิดอย่างมี
วิจารณญาณเกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิด
ไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควรทาโครง

7.  3.ความสามารถในการแก้ปัญหาเกิดจากการที่ผู้
เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทาง
ด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ
และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข
ปัญหา
 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเกิดจากการที่
ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนา
โครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไป
สู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต

8.  1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า
ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์
และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วย
ตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค
เรียน หรือมากกว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือ
ใหญ่
 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มคัดเลือกโครงงานที่
จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด

9.  4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของ
โครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน
ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้บรรลุตามจุดหมาย
ที่กาหนดไว้
 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความ
สามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้ง
การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย

10.  1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงาน
ที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้าง
เครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ
ซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครง
งานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การจาลองการทดลอง
ของสาขาต่างๆ

11.  4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผล
งานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิตประจาวัน
 5. โครงงานประเภทพัฒนาโปรแกรมประยุกต์(การ
พัฒนาเกม) เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกม
หมารุก

12. โครงงานประเภทโครงงานประเภท
““การพัฒนาสื่อเพื่อการพัฒนาสื่อเพื่อ
”การศึกษา”การศึกษา

13.  เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ
หน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บทหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียน
สามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน
โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบท
เรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย
ตนเองก็ได้ตนเองก็ได้

14.  1.1.โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาโปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษา
อังกฤษอังกฤษ
 2.2.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
 3.3.โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุกโปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก
 4.4.โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีโปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมี
ชีวิตชีวิต
 5.5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุกโปรแกรมสานวนไทยพาสนุก

15.  โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุกโปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก

16. โครงงานประเภทโครงงานประเภท
““การพัฒนาเครื่องการพัฒนาเครื่อง
”มือ”มือ

17.  เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานเป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงาน
ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานจะสร้างขึ้นเป็นสาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานจะสร้างขึ้นเป็น
โปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้โปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้
ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน
ซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็น
ไปได้ โดยง่ายไปได้ โดยง่าย

18.  1.1.โปรแกรมอ่านอักษรไทยโปรแกรมอ่านอักษรไทย
 2.2.โปรแกรมบีบอัดข้อมูลโปรแกรมบีบอัดข้อมูล
 3.3.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบโปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบ
ปฏิบัติการลีนุกซ์ปฏิบัติการลีนุกซ์
 4.4.โปรแกรมวาดภาพสามมิติโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
 5.5.โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทยโปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย

19. โปรแกรมวาดโปรแกรมวาด
ภาพสามมิติภาพสามมิติ

20. โครงงานประเภทโครงงานประเภท
““การทดลองการทดลอง
”ทฤษฎี”ทฤษฎี

21.  เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลอง
การทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่การทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่
สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การสามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การ
จุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้อง
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ
แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา
แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจ
อยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้ง
การจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็น

22.  1.1.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้นโปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
 2.2.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยการทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วย
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
 3.3.ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกันผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
 4.4.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกการทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูก
แก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์แก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
 5.5.ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบินปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน

23. โปรแกรมการทดลองผสมสารเคมีโปรแกรมการทดลองผสมสารเคมี

24. โครงงานประเภทโครงงานประเภท
““การประยุกต์ ใช้การประยุกต์ ใช้
”งาน”งาน

25.  เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงาน
เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่นเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น
ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน
อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์
สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้
จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งอาจจะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งอาจ
เป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ
สูงขึ้นโครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและสูงขึ้นโครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ

26.  1.1.ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ตระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
 2.2.โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการโปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการ
แพทย์เบื้องต้นแพทย์เบื้องต้น
 3.3.โปรแกรมพจนานุกรมไทยโปรแกรมพจนานุกรมไทย--อังกฤษอังกฤษ
 4.4.โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบโปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
 5.5.โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียนโปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน
20012001

27. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ตระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต

28. โครงงานประเภทโครงงานประเภท
““การพัฒนาการพัฒนา
โปรแกรมโปรแกรม
”ประยุกต์”ประยุกต์

29.  โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์
เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่
พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง
เพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมี
การออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้
น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไป
ด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามา
ปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลก

30.  1.1.โปรแกรมประยุกต์พจนานุโปรแกรมประยุกต์พจนานุ
กรมสาหรับโทรศัพท์มือถือบนกรมสาหรับโทรศัพท์มือถือบน
พื้นฐานภาพพื้นฐานภาพ
 2.2.การพัฒนาการพัฒนา softwaresoftwareเพื่อเพื่อ
ใช้ในการอ่านใช้ในการอ่าน
 3.Shader 3D3.Shader 3Dเพื่อ การเพื่อ การ
พัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์พัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์
 4.4.ศึกษาและพัฒนาศึกษาและพัฒนา HandHand
-Written OCR-Written OCR

31. Angry birdsAngry birds

33.  1 ฟังเพลง
› เพื่อแก้ปัญหา : คลายเครียด ,ฟุ้งซ่าน ,ความเงียบ
› ได้ประโยชน์คือ : ผ่อนคลาย ,เกิดความสงบ ,อารมณ์ดี
 2 เรียนหนังสือ
› เพื่อแก้ปัญหา : ความไม่รู้ในสิ่งต่างๆ ในการประกอบกิจ
กรรมนั้นๆ
› ได้ประโยชน์คือ : ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้ และนำาไปใช้
 3 กินนำ้า
› เพื่อแก้ปัญหา : หิว กระหายนำ้า ร้อน
› ได้ประโยชน์คือ : กินแล้วชุ่มชื่น แก้ร้อน และดีต่อ

34.  4 ทานอาหาร
› เพื่อแก้ปัญหา : การขาดสารอาหารและพลังงานของ
ร่างกาย
› ได้ประโยชน์คือ : ได้รับสารอาหารและพลังงานแก่
ร่างกาย
 5 การทำาความสะอาดบ้าน
› เพื่อแก้ปัญหา : ความสกปรก ฝุ่นหรือเชื้อโรคที่ทำาให้
เกิดโรคได้
› ได้ประโยชน์คือ : บ้านสะอาดจากความสกปรกและฝุ่น
สร้างความเป็นระเบียบลดอุบัติเหตุ


35.  7 การตั้งใจเรียน
› เพื่อแก้ปัญหา : เรียนไม่เข้าใจ ได้คะแนนน้อย ไม่ทำาการ
บ้าน
› ประโยชน์ที่ได้คือ : เกรดดี มีความรู้เพิ่ม
 8 เรียนภาษาอังกฤษ
› เพื่อแก้ปัญหา : ไม่สามารถพูดสนทนาหรือเขียนภาษา
อังกฤษได้
› ประโยชน์ที่ได้คือ : สามารถพูดสนทนาและเขียนภาษา
อังกฤษได้ เป็นภาษาที่ 2
 9 เรียนคอมพิวเตอร์
› เพื่อแก้ปัญหา : ไม่มีความรู้วิธีใช้ประโยชน์ และการล้าหลัง

36.  10 การสมัครงาน
› เพื่อแก้ปัญหา : การว่างงาน หรือตกงาน
› ประโยชน์ที่ได้คือ : มีงานทำา มีรายได้

37.  1. การสำารวจสภาพนำ้าที่คูเมือง
ขั้นที่ 1 เตรียมเครื่องมือที่ใช้ในสำารวจ ได้แก่ สาย
ดิ่งวัดความลึก เครื่องวัด ph เครื่องมือวัดความใส
ขั้นที่ 2 เดินทางไปที่คูเมือง ตำาแหน่งที่ 1 ด้านทิศ
เหนือด้วยรถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องมือสำารวจ
ขั้นที่ 3 ดำาเนินการวัดและตรวจสอบสภาพคูเมือง

38.  2. การทำาร่มกระดาษสาที่บ่อสร้าง
ขั้นที่ 1 เตรียมอุปกรณ์ทำาร่ม เช่น กระดาษสา
ไม้ และกาว
ขั้นที่ 2 ดำาเนินการประกอบโครงสร้าง
ขั้นที่ 3 ดำาเนินการตกแต่ง

39.  3. การประกอบคอม
(ให้นักเรียนกำาหนดเอง 1 กิจกรรม)
ขั้นที่ 1 ศึกษาข้อมูลต่างๆ
ขั้นที่ 2 เตรียมอุปกรณ์ในการซ่อม
ขั้นที่ 3 ดำาเนินการซ่อมคอม

40. “ นักเรียนต้องการไป
ตลาดวโรรส “
 1. ตระหนักในปัญหาและ
ความจำาเป็น
คำาอธิบาย …
ต้องการซื้อของฝากเพื่อ
นำาไปให้เพื่อนที่ตนจะไป
เยี่ยม
ต้องตะหนักว่าเพื่อนตน

41.  2. คิดวิเคราะห์วิจารณ์ ( เลือกของที่จะซื้อเพื่อนำา
ไปฝากเพื่อน)
คำาอธิบาย
› 2.1. มีสภาพคงทนหรือไม่
› 2.2. เหมาะสำาหรับการส่งทางไกลหรือไม่
› 2.3 วันหมดอายุ
 3. สร้างทางเลือกอย่างหลากหลาย
คำาอธิบาย - ซื้ออาหาร
- ซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องใช้

42.  4. ประเมินทางเลือกและเลือกทางเลือก (เลือกวิธี
การเดินทาง หลาย ๆ วิธี)
คำาอธิบาย - :ซื้ออาหาร เมื่อเราใช้เวลาเดินทางไม่
นาน
- ซื้อของเครื่องใช้เมื่อต้องใช้เวลาเดิน
ทางนาน
 5. กำาหนดและลำาดับขั้นตอนการปฏิบัติ (กำาหนดวิธี
การเดินทางที่เหมาะสมจากข้อ 4)
คำาอธิบาย
เมื่อเลือกซื้ออาหาร
- เลือกอาหารที่ผู้ได้รับของฝากรับประทานได้

43.  6. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
คำาอธิบาย เลือกซื้อสินค้าที่เหมาะสม
 7. ประเมินระหว่างปฏิบัติ
คำาอธิบาย ดูวันหมดอายุ
 8. ปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
คำาอธิบาย มั่นสอบถามผู้รับของฝากว่ามี
รสนิยมอย่างไร
 9. ประเมินผลรวมเพื่อให้เกิดความภูมิใจ
คำาอธิบาย ดูการตอบรับจากผู้รับของฝสก

44. ชื่อโครงงาน
ประเภทของโครงงาน
การ
พัฒน
าสื่อ
เพื่อ
การ
ศึกษา
การ
พัฒน
า
เครื่อง
มือ
การ
ทดลอ
ง
ทฤษฎี
การ
ประยุก
ต์ ใช้
งาน
การ
พัฒนา
โปรแก
รม
ประยุก
ต์
1. หุ่นยนต์สอนหนังสือ
2. ซียูเท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์
ออกแบบลายผ้าสามมิติ CU
Textile Design
3. การพัฒนาระบบควบคุม
ไฟฟ้าโดยใช้ Zigbee
4. โปรแกรมไบรท์ไซต์
(Bright Sight)
5. Smart Home บ้าน
อัจฉริยะ
6. โปรแกรมให้อาหารสัตว์
เลี้ยง
7. โปรแกรมหาพิกัดสามมิติ

45. ชื่อโครงงาน แหล่งที่ใช้ศึกษาข้อมูล
ระยะ
เวลาใน
การ
ศึกษา
โครงงานที่ 1.
โปรแกรม
เรื่องคลื่น
1. http://www.rsu.ac.th/science/physics/pom/physics_2/wave/wave_1.htm
2. http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/88/wave.html 3
สัปดาห์
โครงงานที่ 2.
.เครื่องวัด
แรงสั่น
สะเทือนนำ้า
1. http://www.atom.rmutphysics.com/charud/oldnews/0/284/6/wave/wave.html
2. http://wara.com/article-792.html
3
สัปดาห์
โครงงานที่ 3.
สื่อการสอน
การต่อเซลล์
ไฟฟ้า
1. http://webhtml.horhook.com/wbi/ec/4parallel-01.htm
2. http://www.thaigoodview.com/library
1
สัปดาห์

46. ลำาดับโครงงานที่นำามาวิเคราะห์/การให้คะแนน
โครงงาน 1
โปรแกรม
เรื่องคลื่น
โครงงาน 2
เครื่องวัด
แรงสั่น
สะเทือน
นำ้า.
โครงงาน
3
สื่อการ
สอน
การต่อ
เซลล์
ไฟฟ้า.
หม
ายเ
หตุ
คะแนน (1-4) คะแนน (1-
4)
คะแนน
(1-4)
1 ความรู้ และประสบการณ์
ในโครงงาน
3 2 4
2 ความตั้งใจ สนใจ และ
จริงใจ
3 3 4
3 เครื่องมือ และวัสดุ
อุปกรณ์
2 2 4
4 ความเหมาะสมของสถาน
ที่ปฏิบัติงาน
3 2 4
5 การใช้จ่ายเงินทำาโครง
งาน
4 1 4
6 ความเห็นชอบของครู
อาจารย์ที่ปรึกษา
2 2 4
7 การสนับสนุนของเพื่อน
ในกลุ่ม
4 2 4
จากคะแนนที่ปรากฏนักเรียนเลือกทำาโครงงาน
เรื่องสื่อการสอนการต่อเซลล์ไฟฟ้า.
เพราะได้รับคะแนนเหมาะสมที่สุด

47.  http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0
%B8%9B
%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%
B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD
%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%
B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84
%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E
%E0%B8%B4%E0%B8%A7/
 http://mangang.wordpress.com/tag/
%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%
B8%AB
%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%
B8%AD
%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%
B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84
%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E/

48.  http://krumewstp.wordpress.com/
%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A
D
%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87
%E0%B8%8A
%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD
%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87
%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84
%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
 http://thanapongkiatsujja.blogspot.com/2012/
07/3.html
 http://blog.eduzones.com/jipatar/85915
 http://toffykz.blogspot.com/2012/08/8.html
 http://www.thaigoodview.com/node/17030?