More Related Content
Similar to หน่วยที่ 12 (20)
More from ratiporn555 (8)
หน่วยที่ 12
- 4. การเรียนรู้แบบออนไลน์(E-learning)
การเรียนรู้แบบออนไลน์ หรือ E-learning การเรียนรู้แบบออนไลน์เป็น
การศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต (Internet) หรืออินทราเน็ต
(Intranet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความ
สนใจของตนโดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอและ
มัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Wen Browser) โดย
ผู้เรียน ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคนสามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนคิดเห็น
ระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่
ทันสมัย สาหรับทุกคนที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (Learn for all :
anyone, anywhere and anytime) ซึ่งการให้บริการการเรียนแบบ
ออนไลน์มีองค์ประกอบที่สาคัญ 4 ส่วน โดยแต่ละส่วนจะต้องได้รับการออกแบบเป็นอย่าง
ดีเพราะเมื่อนามาประกอบเข้าด้วยกันแล้วระบบทั้งหมดจะต้องทางานประสานกันได้อย่างลง
ตัว ดังนี้
- 6. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาธุรกิจพาณิชย์และสานักงาน
E-commerce: Electronec Commerce หรือการ
พาณิชย์อเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทาธุรกรรมในเชิงธุรกิจประเภทที่กระทาผ่านสือ
อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งรวมทั้งกิจกรรมการซื้อขายการแลกเปลี่ยนสินค้าและกิจกรรมต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งสินค้า การชาระเงิน และการ
บริการด้านข้อมูล เป็นต้น E-commerce นั้นสามารถให้บริการที่สะดวก
รวดเร็วและไม่มีจากัดขอบเขตของผู้ใช้บริการและระยะเวลาทาการของหน่วยงาน สื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรา ได้แก่ สื่อโทรทัศน์
สื่อเคเบิลทีวี เครื่องโทรสาร โทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่อง ATM
ระบบการชาระเงินและโอนเงินอัตโนมัติ รวมทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
- 7. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาอุตสาหกรรมและการผลิต
โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
(Mamagement Information System-MIS) เข้ามาช่วย
จัดการงานด้านการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุ การเงิน บุคลากร และงานด้านอื่นๆใน
โรงงาน ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรมเช่น อุตสาหกรรม
การพิมพ์ อุตสาหกรรมประเภทนี้ใช้ระบบการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (ฎสาแพนาแ ญิ
สรห้รืเ) ในการจัดเตรียมต้นฉบับ วิดีโอเท็กซ์ วัสดึย่อส่วน และเทเลเท็กซ์ได้รวมทั้ง
การพิมพ์ภาพดดยใช้เทอร์มินัลนาเสนอภาพ (Visual Display
Terminal) ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์มีการใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบ
รถยนต์ ปฎิบัติการผลิต (เช่น การพ่นสี การเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน) การ
ขับเครื่อน การบริการ และการขาย รวมทั้งออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถ
ปฏิบัติงานในโรงงานได้ในรูปแบบหุ่นยนต์
- 9. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการสื่อสารแลโทรคมนาคม
การประยุกต์ใช้ในงานประเภทได้แก่ การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่
วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และ
โครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล (ISDA) เป็นต้น ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึง
เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการสื่อสารข้อมูลและโทรคมนาคมที่น่าสนใจ ได้แก่
เทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้ ดาวเทียม (Satellite) เป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น
แล้วส่งไปโคจรรอบโลก รอบดาวเตราะห์ต่างๆ ดาวฤกษ์ต่างๆ หรือเพื่อให้ท่องเที่ยว
ไปในอวกาศและจักรวาลตามวิถีที่ได้มีการกาหนดไว้ก่อน ดาวเทียม จาแนกได้หลาย
ประเภททึ่งขึ้นกับลักษณะการใช้งานเช่น ดาวเทียมวิทยาศาสตร์ (Scientific
Satellite) ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในงานค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาวเทียม
การทหาร (Military Satellite) แบ่งเป็นประเภทย่อยได้เช่น ดาวเทียมจาร
กรรม ดาวเทียมเตือนภัยล่วงหน้า ดาวเทียมต่อต้านจรวด และดาวเทียมจู่โมหรือ
ระดมยิง เป็นต้น
- 10. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในหน่วยงานราชการต่างๆ
สานักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (Government
InformationTechnology Services-GITS) ลักษณะงานของ
สานักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐจะให้บริการเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐ
(Government Information Network) เพื่อตอบสนองการ
บริหารงานสาหรับหน่วยงานของภาครัฐได้อยางปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง
ส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐให้มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดาเนินงานอัน
นาไปสู่การเป็น E-government และเป็นศูนย์กลางส่งเสริมให้เกิดระบบการ
เชื่อมโยงข่าวสารระหว่างภาครัฐและประชาชน
สานักงานอัตโนมัติ (Office Automation - OA) สานักงาน
อัตโนมัติที่หน่วยงานของรัฐจัดทาขึ้นม็ชื่อว่า IT Model Office เป็นโครงการ
นาร่องที่จัดทาขึ้นเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายพื้นฐานของภาครัฐ ในรูปของสานักงาน
อัตโนมัติ เช่น งานสารบรรณ
- 11. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาด้านความมั่นคงของชาติและทางทหาร
ด้านกฎหมายและการปกครอง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสรุปคดีทุกคดีว่าใครฟ้องใคร
เรื่องอะไร ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ตัดสินว่าอย่างไร เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
หลักจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะช่วยงานได้หลายอย่าง เช่น ต้องการทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับ
ไหนเหมือนหรือแตกต่างกันฉบับๆหนมากน้อยเท่าใด ก็ให้คอมพิวเตอร์ค้นหาและวิเคราะห์
เปรียบเทียบพิมพ์ลงได้หรือต้องการทราบว่าคดีแบบไหนเคยมีฟ้องร้องแล้วศาลตัดสิน
อย่างไร ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยหาให้ก็จะได้คาตอบภายในเวลาไม่กี่นาที
ด้านรัฐสภา เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทสาคัญต่อการสนับสนุนและการ
ดาเนินบทบาทด้านการพัฒนาประชาธิปไตยเป็นอย่างมากต่องานรัฐสภาซึ่งเป็นหน่วยงาน
ด้านนิติบัญญัติ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รัฐสภาได้มีการปรับปรุงระบบงานใหม่
พร้อมดึงเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในกิจการงานสภาศึกษาวิเคราะห์ระบบงานรัฐสภาทั้งหมด
และจัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ขึ้นมากากับดูแลงานด้านคอมพิวเตอร์พร้อมพัฒนาฐานข้อมูล
รัฐสภาขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2535-2540
- 12. ด้านการทหารและกองบัญชาการทหารสูงสุด การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมา
ประยุกต์ใช้ในด้านการทหารแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ด้านการสื่อสาร และภูมิศาสตร์
มีการนาดาวเทียมทหารมาใช้เพื่อกิจการด้านความมั่นคงทางทหารเพราะสามารถส่งข้อมูล
ข่าวสารซึ่งเป็นความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะด้านการทหารซึ่งไม่สามารถ
เปิดเผยข้อมูลได้การถ่ายภาพภูมิศาสตร์จาลองภูมิศาสตร์ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศเพื่อ
ความสะดวกในการจัดทายุทธภูมิและการวางแผนป้องกันประเทศ
ด้านอาวุธและอุปกรณ์การรักษาความมั่นคงของประเทศ การได้นาเทคโนโลยีมาใช้ใน
การประดิษฐ์วุธที่ทันสมัย สามารถกาหนดพิกัดการยิงโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการ
คานวณระยะทางและวิถีการตกของระเบิดได้อย่างถูกต้องและแม่นยาทางด้านการทหารได้
นาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับเครื่องตรวจจับ อาวุธสงคราม รวมถึงเครื่องบินที่รุกล้าเข้า
มาในเขตน่านฟ้าของประเทศไทยมีการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลด้านความ
ปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูลผู้ไม่ประสงค์ดีต่อประเทศไทยมาสร้างเป็นแบบจาลองการป้องกัน
ประเทศ