More Related Content
More from wanichaya kingchaikerd
More from wanichaya kingchaikerd (20)
บทที่ 1
- 1. บทที่ 1
การศึกษา การพัฒนามนุษย์ กับหลักสูตร
มโนทัศน์(Concept)
การศึกษาเป็ น การพัฒ น ามนุ ษย์ ผ่าน กระ บวน การสั่งสอน กระ บวน การฝึ กอบรม
หรือกระบวน การถ่ายทอดความรู้ ความช าน าญ และ ทัศน คติที่รวมเรี ยกว่าป ระ สบการณ์
ซึ่ ง ม นุ ษ ย์ เ ป็ น ผู้ จั ด แ ล ะ ถ่ า ย ท อ ด ใ ห้ แ ก่ กั น
หมายรวมถึงวัฒนธรรมหรือวิธีทางแห่งการดารงชีวิตของมนุษย์ทั้งที่มองเห็นได้ชัดเจนและไม่มองเห็น
ผลการเรียนรู้(Learning Outcome)
1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษากับหลักสูตร
2. อธิบายและนิยาม /ความหมาย : การพัฒนาหลักสูตร
สาระเนื้อหา(Content)
1. การศึกษาในฐานะเครื่องมือการพัฒนา
ก า ร ศึ ก ษ า เ ป็ น เ ค รื่ อ ง มื อ ใ น ก า ร พั ฒ น า ท รั พ ย า ก ร ม นุ ษ ย์
เ ป็ น พื้ น ฐ า น ส า คั ญ ข อ ง ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ชี้ น า สั ง ค ม
ผู้ได้รับการศึกษาจึงเป็ น บุคลากรที่มีคุณ ภ าพ และ เป็ น กาลัง สาคัญ ใน การพัฒ น า ประ เท ศ
การเรียนการสอนเป็นการพัฒนาคน ซึ่งไม่ใช่สิ่งทดลองหรือลองผิดลองถูก กระบวนการพัฒนาคนนั้นครู
ผู้ บ ริ ห า ร บุ ค ล า ก ร ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า
และ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะร่วมกัน จัดการเรียน รู้เพื่อ พัฒน าผู้เรี ยน ให้มีคุณลักษณ ะอัน พึง ประ สง ค์
การออกแบบการสอนเป็ นส่วนสาคัญที่สุดของการสอน เพื่อให้การสอนบรรลุเป้าหมายที่กาหน ด
โดยอาศัยระบบที่มีขั้นตอนพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก า ร ศึ ก ษ า (Education) เ ป็ น ก า ร เ พิ่ ม ศั ก ย ภ า พ ข อ ง ม นุ ษ ย์
ให้สามารถปฏิบัติงานที่มีความแตกต่างจากงานเดิมได้ การศึกษาเป็นกระบวนการในการพัฒนามนุษย์
ทั้ ง ใ น ฐ าน ะ ที่ เป็ น ม นุ ษ ย์ โ ด ย ตั ว ข อ ง มัน เ อ ง แ ล ะ ใ น ฐ าน ะ ที่ เป็ น ท รั พ ย า ก ร
- 2. การศึกษาเป็นการพัฒนาคนที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ (knowledge-based) วิจิตรศรีสะอ้าน (2539:232 - 233)
กล่าวว่า การศึกษามีลักษณะสาคัญ 3ประการ คือ
1) การศึกษาเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลให้เป็นไปในแนวทางที่ปรารถนา
2) ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง พ ฤ ติ ก ร ร ม นี้ เ ป็ น ไ ป โ ด ย จ ง ใ จ
โดยมีการกาหนดจุดมุ่งหมายซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดไว้
3) ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง พ ฤ ติ ก ร ร ม นี้ ก ร ะ ท า เ ป็ น ร ะ บ บ
มีกระบวนการอันเหมาะสมและผ่านสถาบันทางสังคมที่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าที่ด้านกา
รศึกษา
2.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต,2539:2 - 4) กล่าวไว้ว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็นคาที่เกิดมาไม่นานนัก
(เ กิ ด ใ น ช่ ว ง ค .ศ . 1965 – 1970 คื อ พ .ศ . 2508 – 2513)
เป็ นแนวคิดที่เกิดขึ้นในช่วงที่เน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และต่อมาก็ขยายไปถึงการพัฒนาสังคม
เ ป็ น ก า ร ม อ ง ค น อ ย่ า ง เ ป็ น ทุ น
เป็ น เครื่ อง มือเป็ น ปั จจัยห รือเป็ น อง ค์ประกอบที่จะ ใช้ใ น การพัฒ น าเศรษฐกิจและสัง คม
ต่อมาเราเห็นว่าการที่จะพัฒนาโดยมุ่งเน้นแต่ในด้านเศรษฐกิจนั้นไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่สาคัญคือ คนเรานี่เอง
ซึ่งควรจะให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เราจึงหันมาเน้นในเรื่องการพัฒนาคน แต่ก็ยังมีการใช้ศัพท์ที่ปะปนกัน
บางทีใช้คาว่าทรัพยากรมนุษย์ บางที่ใช้คาว่าพัฒนามนุษย์
ก า ร พั ฒ น า ม นุ ษ ย์ ใ น ฐ า น ะ ที่ เ ป็ น ม นุ ษ ย์
กับ ก าร พั ฒ น ามนุ ษ ย์ใ น ฐ าน ะ ที่ เป็ น ท รัพ ยาก รมนุ ษ ย์ นี้ มีคว ามห มาย ต่อ ก ารศึ ก ษ า
เพ ราะการศึกษาเป็ น กระบวน การใน การพัฒน าคน ทั้งในฐานะที่เป็ นมนุษย์โดยตัวของมัน เอง
และใน ฐานะที่เป็ นทรัพ ยากร ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันคือ การศึกษาเพื่อพัฒน าตัวมนุ ษย์นั้ น
เป็ น ก าร ศึ ก ษ า ที่ เรี ย ก ไ ด้ ว่า เ ป็ น ก า ร ศึ ก ษ า ขั้ น พื้ น ฐ า น (ก า ร ศึ ก ษ าร ะ ย ะ ย า ว )
ส่วน การศึกษาเพื่อพัฒน าทรัพยากรมนุ ษย์ มีความหมายขึ้น กับกาลเทศะ หรือยุคสมัยมากกว่า
คือเป็ น การศึกษาที่ สัมพัน ธ์ กับสภ าพ แวดล้อมของ ยุคสมัยนั้ น (การศึกษาระยะ สั้ น ) เช่น
เพื่ อส น อ ง คว าม ต้อง ก ารขอ ง สั ง ค มใ น ด้าน ก าลัง ค น ใ น ส าขาง าน แล ะ กิจก าร ต่าง ๆ
ฉ ะ นั้ น เ ร า จึ ง ค ว ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ทั้ ง ส อ ง อ ย่ า ง นี้ ใ ห้ สั ม พั น ธ์ กั น
เพราะถ้าเราสามารถพัฒนาทั้งสองส่วนนี้ให้สัมพันธ์กันจนเกิดดุลยภาพขึ้นก็จะเป็นผลดีต่อชีวิตและสังคมมาก
- 3. พ ระ ธรรมปิ ฎ ก (ป ระ ยุท ธ์ ป ยุต โต 2540 : 1) ก ล่าวว่า ชีวิต จะ ดีง ามมีความสุ ข
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองมั่นคง และสังคมจะร่มเย็นเกษมศานต์ ด้วยปัจจัยสาคัญที่สุดคือ การพัฒนาคน
ซึ่งจะทาให้คนเป็นคนดีมีความสุข และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณ ภาพ การพัฒนาคนก็คือ การศึกษา
คน ที่มีการศึกษา ตลอดจนจบการศึกษาแล้วเรียกว่า บัณฑิต เมื่อว่าโดยเนื้อหาสาระ บัณฑิต ก็คือ
ค น ที่ ด า เ นิ น ชี วิ ต ด้ ว ย ปั ญ ญ า เ ป็ น อ ยู่ ด้ ว ย ค ว า ม ไ ม่ ป ร ะ ม า ท
พัฒนาชีวิตของตนจนลุถึงประโยชน์ที่เป็นจุดหมายของชีวิต
การพัฒนา(Development) เป็นการฝึกอบรมคนให้มีความสามารถใหม่เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่
มุมมองใหม่เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสร้างสรรค์งานได้ผลดียิ่งขึ้น มีบริการที่รวดเร็วกว่า
มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร แ ข่ ง ขั น เ พิ่ ม ขึ้ น
เป็ น ก าร เรี ย น รู้เพื่ อ พั ฒ น าราย บุ ค ค ล แ ต่ไม่เกี่ย วข้อ ง กับ ง าน ปั จ จุบั น ห รื อ อ น าค ต
บุคลากรในองค์กรทาให้องค์กรได้เปรียบในการแข่งขัน ทาให้อยู่ในแนวหน้า ปัจจุบันเราเรียกองค์กรนี้ว่า
อง ค์ ก รแ ห่ง ก ารเรี ยน รู้ ก ารพัฒ น ามีผ ล ต่อ ก ารเป ลี่ย น แ ป ล ง ใ น อง ค์ ก รที่ เป็ น ระ บ บ
ทาให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพและต่อเนื่อง มีการปรับบทบาทหน้าที่ การคงอยู่ขององค์กร
กล่าวโดยสรุปการศึกษาในฐานะเครื่องมือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มุ่งการจัดระบบประสบการณ์การเ
รี ย น รู้ ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ภ า ย ใ น เ ว ล า ที่ จ า กั ด
เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ประสบความสาเร็จ และการเจริญเติบโตของงาน
การพัฒ น ามนุ ษ ย์ (Human Development) ตามพ ระ ราช บัญ ญั ติการศึกษ าแห่ง ช าติ พ .ศ. 2542
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2545 และ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓ ) พ.ศ. 2553
มีเจตนารมณ์ที่ต้องการเน้นย้าว่าการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็ นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทั้ ง ร่ า ง ก า ย จิ ต ใ จ ส ติ ปั ญ ญ า ค ว า ม รู้ แ ล ะ คุ ณ ธ ร ร ม
มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การจัดการศึกษามี 3
รูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอก และการศึกษาตามอัธยาศัย หลักสูตรการศึกษาระดับต่าง ๆ
ต้อ ง มี ลัก ษ ณ ะ ห ล าก ห ล า ย ทั้ ง นี้ ใ ห้ จัด ต าม ค ว า ม เ ห ม าะ ส ม ข อ ง แ ต่ ล ะ ร ะ ดั บ
โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลให้เหมาะสมแก่วัยและศักยภาพ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติทั้งสามฉบับนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือสาคัญในการจัดการศึกษ
า อาจสรุปหลักการด้านหลักสูตร ปรากฏตามมาตราต่าง ๆดังนี้
มาตรา 8(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
มาตรา 27 ให้คณะ กรรมการการศึกษาขั้น พื้น ฐาน กาห น ดห ลักสู ตรภ าคบังคับ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดารงชีวิต และการประกอบอาชีพ
- 4. ต ล อ ด จ น เ พื่ อ ก า ร ศึ ก ษ า ต่ อ
ให้สถาน ศึกษาขั้น พื้น ฐาน มีหน้าที่จัดทาสาระของหลักสู ตรตามวัตถุประสงค์ใน วรรคหนึ่ ง
ใ น ส่ ว น ที่ เ กี่ ย ว กั บ ส ภ า พ ปั ญ ห า ใ น ชุ ม ช น แ ล ะ สั ง ค ม ภู มิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่ น
คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
มาตรา 28 หลักสูตรสถานศึกษาต่าง ๆ รวมทั้งหลักสูตรสถานศึกษาสาหรับบุคคลพิการ
ต้อ ง มี ลัก ษ ณ ะ ห ล าก ห ล า ย ทั้ ง นี้ ใ ห้ จัด ต าม ค ว า ม เ ห ม าะ ส ม ข อ ง แ ต่ล ะ ร ะ ดั บ
โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลให้เหมาะสมแก่วัยและศักยภาพ
สาระของหลักสูตรทั้งที่เป็นวิชาการและวิชาชีพ ต้องมุ่งพัฒนาคนให้มีความสมดุลทั้งด้านความรู้
ความคิด ความสามารถ ความดีงาม และความรับผิดชอบต่อสังคม
สาหรับหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษานอกจากคุณลักษณะในวรรคหนึ่งและวรรคสองแล้ว
ยัง มีความมุ่ง ห มายเฉพ าะ ที่ จะ พัฒ น าวิช าการ วิช าชี พ ชั้ น สู ง และ ด้าน การค้น คว้า วิจัย
เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และพัฒนาทางสังคม
3. หลักสูตร
2.1 ความหมายของหลักสูตร
คาว่า “หลักสูตร” แปลมาจากคาในภาษาอังกฤษว่า “curriculum”ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า
“currere”หมายถึง “runningcourse”หรือเส้นทางที่ใช้วิ่งแข่ง ต่อได้นาศัพท์นี้มาใช้ในทางการศึกษาว่า “running
sequence or learning experience” (Armstrong,1986:2) ก า ร ที่ เ ป รี ย บ เที ย บ ห ลั ก สู ต ร กั บ ส น า ม
หรือเส้นทางที่ใช้วิ่งแข่งอาจเนื่องมาจากการที่ผู้เรียนจะสาเร็จการศึกษาในระดับใดหรือหลักสูตรใดก็ตาม
ผู้เรียนจะต้องฟันฝ่าความยากของวิชาหรือประสบการณ์การเรียนรู้ตามลาดับขั้นที่กาหนดไว้ในหลักสูตร
เช่นเดียวกับนักวิ่งที่ต้องวิ่งแข่งและฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่ชัยชนะและความสาเร็จให้ได้ในสมัยก่อนในประเทศไท
ย ใ ช้ ค า ว่ า “ ห ลั ก สู ต ร ” กั บ ค า ศั พ ท์ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ว่ า “ syllabus”
ปรากฏในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายพุทธศักราช 2503ฉบับภาษาอังกฤษ เรียกว่า “Syllabus
for Lower secondary Educationm B.E. 2503” แ ล ะ “ Syllabus for Upper secondary Educationm B.E. 2503”
แต่ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้คาว่า “curriculum” แทน เช่น หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
(ฉบับปรุง 2533) ฉบับภ าษาอัง กฤษเรียกว่า “Lower Secondary School Curriculum B.E.2521 (Revised
- 5. EducationB.E.2533)” เพื่อต้องการแยกความหมายให้ชัดเจน เพ ราะคาว่า syllabus และ curriculum
มีความหมายที่แตกต่างกันดังที่ English Language Dictionary ให้ความหมายของคาทั้งสองดังนี้
“curriculum”หมายถึง 1. รายวิชาต่างๆ ทั้งหมดที่จัดสอนในโรงเรียน วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย (all
the different courses of study that are taught in a school, college, or university e.g. the school curriculum) แล ะ
2. รายวิชาหนึ่งๆ ที่จัดสอนในโรงเรียน วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย (one particular courseof study istaught in a
school, college, or university e.g. theEnglish curriculum )
“syllabus”หมายถึง หัวข้อเรื่องที่จะศึกษาในรายวิชาหนึ่งๆ (the subjectsto be studiedina particular
course) จากความหมายข้างต้นนี้จะเห็นว่าคาว่า “curriculum”ซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันจะเหมาะกว่าคาว่า “syllabus”
ส่ ว น ค า ว่ า “syllabus”
จะใช้เมื่อหมายถึงประมวลการสอนในแต่ละรายวิชาซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับจุดมุ่งหมาย
เนื้ อ ห าส าร ะ กิ จก ร รม ก าร เรี ย น ก า ร ส อ น ก าร วัด แ ล ะ ป ร ะ เมิน ผ ล “ห ลัก สู ต ร ”
เ ป็ น ค า ศั พ ท์ ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ค า ห นึ่ ง ที่ ค น ส่ ว น ใ ห ญ่ คุ้ น เ ค ย
และมีผู้ให้ความหมายไว้มากมายและแตกต่างกันไปบางความหมายมีขอบเขตกว้างบางความหมายมีขอบเขตแค
บทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นและประสบการณ์ที่แตกต่างกันของบุคคลนั้นๆ ที่มีต่อหลักสูตร เช่น
กู๊ด (Good,1973:157) ได้ให้ความหมายของคาศัพท์ไว้ในพจนานุกรมทางการศึกษา (Dictionary of
Education) ว่ า ห ลั ก สู ต ร คื อ
กลุ่มรายวิชาที่จัดไว้อย่างมีระบบหรือลาดับวิชาที่บังคับสาหรับการจบการศึกษาหรือเพื่อรับประกาศนียบัตรใบส
าขาวิชาหลักต่างๆ เช่น หลักสูตรสังคมศึกษา หลักสูตรพลศึกษา
บ๊อบบิท (Bobbit,1918:42)ได้ให้ความหมายไว้ว่า หลักสูตร คือรายการของสิ่งต่างๆ ที่เด็กและเยาวชน
ต้องทาและมีประ สบการณ์ ด้วยวิธี การพัฒน าความสามารถใน การทาสิ่งต่างๆ ดังกล่าวให้ดี
เพื่อให้สามารถดารงชีวิตในวัยผู้ใหญ่ได้
นักลีย์และ อีแวน ส์ (Neagley and Evans,1967:2) ได้ใ ห้ความหมายของห ลักสู ตรว่า คือ
ประสบการณ์ที่โรงเรียนจัดเพื่อช่วยให้นักเรียนได้บรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ตามความสามารถของนักเรียน
โ อ ลิ ว า ( Oliva,1982:10) ก ล่ า ว ว่ า ห ลั ก สู ต ร คื อ
แผนหรือโปรแกรมสาหรับประสบการณ์ทั้งหลายที่ผู้เรียนจะต้องประสบปัญหาภายใต้การอานวยการของโรงเรี
ยน
วี ล เ ล อ ร์ ( Wheenler,1974:11) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ว่ า
มวลประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งโรงเรียนหรือสถานการศึกษาจัดให้แก่ผู้เรียน
- 6. โครว์ (Crow,1980:250) ได้ให้ความหมายของหลักสูตรคล้ายกับของวิลเลอร์ เขากล่าวว่า
หลักสูตรเป็นประสบการณ์ที่นักเรียนได้รับทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เพื่อนักเรียนมีการพัฒนาด้านร่างกาย
สังคม ปัญญา และจิตใจ
แ ค ส เ ว น แ ล ะ แ ค ม ป์ เ บ ล ล์ ( Caswell &Campbell,1935:69)
ได้เสน อความคิดเกี่ยวกับห ลักสู ตรใน หนัง สื อ Curriculum Development ซึ่ ง ตีพิ มพ์ใ น ปี 1935
โ ด ย ใ ห้ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ใ น โ ร ง เ รี ย น ว่ า
“หลักสูตรประกอบด้วยประสบการณ์ทุกอย่างที่จัดให้แก่เด็กโดยอยู่ในความดูแลการสอนของครู ”
แค ส เวน แ ล ะ แค มป์ เบ ล ล์ ไม่ได้มอ ง ห ลัก สู ตร ว่าเป็ น ก ลุ่มข อ ง ร ายวิช าแ ต่ห มาย ถึ ง
“ประสบการณ์ทุกชนิดที่เด็กมีภายใต้การแนะนาของครู”
เซย์เลอร์และอเล็กซานเดอร์ (Saylor&Alexander,1974:6)ได้กล่าวถึงความหมายของหลักสูตรว่า
“ เ ป็ น แ ผ น ส า ห รั บ จั ด โ อ ก า ส ก า ร เ รี ย น รู้ ใ ห้ แ ก่บุ ค ค ล ก ลุ่ ม ใ ด ก ลุ่ ม ห นึ่ ง
เพื่อบรรลุเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิดของทาบา
( Taba,1962:10) ที่ ก ล่ า ว ไ ว้ ว่ า “ ห ลั ก สู ต ร คื อ
แผนการเรียนรู้ที่ประกอบด้วยจุดประสงค์และจุดมุ่ง หมายเฉพาะการเลือกและการจัดเนื้ อหา
วิธีการจัดการเรียนการสอน และการประเมินผล”
เช ฟ เว อ ร์ แ ล ะ เ บ อ ร์ เ ล ค ( Shaver and berlak,1968:9) ก ล่า ว ว่า ห ลั ก สู ต ร คื อ
กิจกรรมที่ครูจัดให้นักเรียนได้เล่นเพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้
ท รั ม พ์ แ ล ะ มิ ล เ ล อ ร์ ( Trump and Miller,1973:11-12) ก ล่ า ว ว่ า
หลักสูตรคือกิจกรรมการเรียนการสอนชนิดต่างๆ ที่เตรียมการไว้และจัดให้แก่เด็กนักเรียนหรือระบบโรงเรียน
นั ก ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ไ ท ย ห ล า ย ท่ า น ไ ด้ แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น
และความหมายของคาว่าหลักสูตรไว้หลายประการเช่น
สุ มิตร คุณ านุ ก ร ( 2520,2-3) ได้ใ ห้ ค วามห มาย ขอ ง ห ลั ก สู ต รไ ว้ใ น ส อ ง ระ ดับ
คือห ลักสู ตรใน ระ ดับช าติและ ห ลักสู ตรใน ระ ดับโรงเรียน ห ลักสู ตรระ ดับช าติหมายถึง
“โครง การใ ห้ การศึ กษาเพื่ อพัฒ น าผู้เรียน ใ ห้ มีค วามรู้ ความสามารถ และ คุณ ลักษ ณ ะ
สอดคล้องกับความมุ่งหมายทางการศึกษาที่กาหนดไว้” ส่วนหลักสูตรในระดับโรงเรียนหมายถึง
“โครง การที่ ป ระ มวลความรู้และ ประ สบ การณ์ ทั้ งห ลายที่ โรงเรี ยน จัดใ ห้ กับ นั กเรี ยน
ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกโรงเรียนก็ตาม เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาไปตามความมุ่งหมายที่กาหนดไว้”
ธ า ร ง บั ว ศ รี ( 2532:6) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ว่ า คื อ
แผน ซึ่ งได้ออกแบ บจัดทาขึ้ น เพื่อได้แส ดงถึง จุดมุ่งห มาย การจัดเนื้ อห าสาระ กิจกรรม
- 7. แ ล ะ ป ร ะ ม ว ล ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ใ น แ ต่ ล ะ โ ป ร แ ก ร ม ก า ร ศึ ก ษ า
เพื่อให้ผู้เรียนมีพัฒนาการในด้านต่างๆตามจุดหมายที่ได้กาหนดไว้
เอกวิทย์ ณ ถลาง (2521:108) เขียนในบทความเรื่อง “ข้อคิดเรื่องหลักสูตร” ได้ให้ความหมายว่า
หลักสูตร หมายถึง มวลประสบการณ์ทั้งหลายที่จัดให้เด็กได้เรียน เนื้อหาวิชาและทัศนคติ แบบพฤติกรรม
กิ จ วั ต ร สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ฯ ล ฯ
เมื่อประมวลเข้ากันแล้วก็เป็นประสบการณ์ที่ผ่านเข้าไปในการรับรู้ของเด็กถือว่าเป็นหลักสูตรทั้งสิ้น
จากความหมายของหลักสูตรในลักษณะต่างๆ ที่ได้ยกตัวอย่างของระดับความคิดของ
นั ก ก า ร ศึ ก ษ า ทั้ ง ช า ว ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ แ ล ะ ช า ว ไ ท ย
สามารถนามาสรุปแนวความคิดเกี่ยวกับความหมายของหลักสูตรเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้ดังนี้
3.1.1. หลักสูตรในฐานะที่เป็นวิชาและเนื้อหาสาระที่จัดให้แก่ผู้เรียน
หลักสูตรในฐานะที่เป็นวิชาและเนื้อหาสาระนั้นหมายถึงวิชาและเนื้อหาสาระที่กาหนดให้ผู้เรียนต้องเ
รียน ในชั้นและระดับต่างๆ หรือกลุ่มวิชาที่จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ ง เช่น
หลักสูตรเตรียมแพทย์ หลักสูตรวิทยาศาสตร์ หลักสูตรธุรกิจ หลักสูตรตัดเสื้อและหลักสูตรการเลี้ยงสุกร
จ า ก อ ดี ต ตั้ ง แ ต่ เ ริ่ ม มี ห ลั ก สู ต ร จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น นี้
แน วคิดที่สาคัญ ของความห มายของหลักสู ตรก็ยังคงเป็ น วิช าและเนื้ อห าวิช าที่ครู สอน ใ ห้
แ ล ะ นั ก เ รี ย น ใ ช้ เ รี ย น ใ น ส ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ
แม้จะได้มีความพยายามที่จะทาให้หลักสูตรมีความหมายที่กว้างและแตกต่างไปจากเดิมแต่แนวความคิดเกี่ยวกับ
ห ลั ก สู ต ร ใ น ฐ า น ะ ที่ เ ป็ น วิ ช า
และเนื้อหาที่จัดให้แก่ผู้เรียนก็ยังคงฝังแน่นและเป็นพื้นฐานสาคัญในการจัดหลักสูตร
3.1.2. หลักสูตรในฐานะที่เป็นเอกสารหลักสูตร
กลุ่มหนึ่ งจัดให้จัดให้อีกกลุ่มหนึ่ ง ประกอบด้วยจุดหมาย หลักการ โครงสร้าง เนื้อหาสาระ
อัตราเวลาเรียน กิจกรรมประสบการณ์ และการประเมินผลการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีรู้ความสามารถ
มีเจตคติที่ดีใ น การอยู่ร่วมกัน มีพ ฤติกรรมตามที่ กาหน ดไว้ใน จุดมุ่ง หมายของห ลักสู ตร
แนวคิดนี้จะเน้นหลักสูตรในฐานะที่เป็นเอกสารเป็นรูปเล่ม ซึ่งจาแนกเป็น 2ประเภท คือ เอกสารหลักสูตร
และเอกสารประกอบหลักสูตร
เอกสารหลักสูตรเป็นเอกสารที่กล่าวถึงสาระของหลักสูตรโดยตรง คือกล่าวถึงจุดมุ่งหมายหลักการ
โครงสร้าง และเนื้อหาที่จัดไว้ในหลักสูตรนั้นๆ เช่น หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
- 8. (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2533) หลักสู ตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
หลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต เป็นต้น
ส่วนเอกสารประกอบห ลักสูตร เป็ นเอกสารที่อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ
ของหลักสูตรเพื่อให้การนาหลักสูตรไปใช้ได้ผลตามความมุ่งหมาย ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรได้แก่
คู่มือหลักสูตร คู่มือครูเกี่ยวกับหลักสูตร แผนการสอนกลุ่มวิชาต่างๆ หรือคู่มือการประเมินผลการเรียน
3.1.3. หลักสูตรในฐานะที่เป็นกิจกรรมต่าง ๆที่จะให้แก่ผู้เรียน
แ น ว คิ ด ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ใ น ฐ า น ะ ที่ เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ
ที่จัดให้แก่ผู้เรียนนี้ เป็ น การมองห ลักสูตรในลักษณะของกิจกรรมต่างๆ ที่ครูและนักเรียนจัดขึ้น
หรือกิจกรรมการเรียนการสอนชนิดต่างๆ ที่เตรียมไว้และจัดให้แก่ผู้เรียนโดยโรงเรียนทั้งในและนอกโรงเรียน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ประสบการณ์ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามที่กาหนด กิจกรรมต่างๆ
ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สาคัญ เพราะจะนาไปสู่ประสบการณ์ทางด้านความรู้ ความเข้าใจ เจตคติ ทักษะต่างๆ
อันแสดงถึงการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ กิจกรรมที่ควรจัดให้แก่ผู้เรียนจะต้องปรากฏอยู่ในหลักสูตรอย่างชัดเจน
หลักสูตรหมายถึงกิจกรรมต่างๆที่จัดให้ผู้เรียน
3.1.4. หลักสูตรในฐานะแผนสาหรับจัดโอกาสการเรียนรู้หรือประสบการณ์ที่คาดหวังแก่นักเรียน
แนวคิดของหลักสูตรในฐานะแผนสาหรับจัดโอกาสการเรียนรู้หรือประสบการณ์ที่คาดหวังแก่นักเรีย
นนี้ จะเป็นแผนในการจัดการศึกษาเพื่อแนวทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ
แ ล ะ พ ฤ ติ ก ร ร ม ต า ม ที่ ก า ห น ด
แผนสาหรับจัดโอกาสทางการศึกษาจะแสดงเกี่ยวกับจุดหมายหรือจุดประสงค์ของการออกแบบหลักสูตร
ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล
แผนนี้สร้างขึ้นตามประเภทสถานการณ์หรือกลุ่มบุคคลในระดับการศึกษาต่างๆ เช่น หลักสูตรก่อนวัยเรียน
หลักสู ตรป ระ ถมศึกษา หลักสู ตรอุดมศึกษา หรื ออาจห มายถึง กลุ่มของแผน ย่อยต่าง ๆ
ที่ทาให้ผู้เรียนมีโอกาสพัฒนาการเรียนรู้หรือประสบการณ์ที่คาดหวัง
3.1.5. หลักสูตรในฐานะที่เป็นมวลประสบการณ์
แนวคิดของหลักสูตรในฐานะที่เป็ นประสบการณ์ของผู้เรียนนั้น หมายถึงประสบการณ์
ทุกอย่างของนักเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียน รวมถึงเนื้อหาวิชาที่โรงเรียนจัดให้แก่ผู้เรียนด้วย
แ น ว คิ ด นี้ เ กิ ด จ า ก ส า เ ห ตุ 2 ป ร ะ ก า ร คื อ ป ร ะ ก า ร ห นึ่ ง
การไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของหลักสูตรในความหมายแคบที่ไม่ส่งเสริมให้เกิดพัฒนาการรอบด้านขึ้นในตัวผู้เรีย
น ป ร ะ ก า ร ที่ ส อ ง
การสอนของครูที่ยึดหนังสือเรียนและเนื้ อหาสาระมากเกิน ไปทาให้การสอนจืดชืดไม่มีชีวิตชีวา
- 9. โรงเรียนจึงควรจัดกิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์ต่างๆ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด ได้กระทา
ได้แก้ปั ญ หา และ ค้น พ บ ด้วยตน เอง การจัด ห ลักสู ตรจึงควรพิจารณ าถึง ประ สบ การณ์
ทุกด้านที่พึ่งมีของผู้เรียน
ความหมายของหลักสูตรตามแนวคิดนี้ครอบคลุมความรู้และประสบการณ์ทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิด
ชอบโรง เรียน ที่จัดให้แก่ผู้เรียน เพื่อพัฒ น าผู้เรียน ให้เป็ น ไปตามจุดมุ่ง หมายที่กาหน ดไว้
แนวคิดในความหมายของหลักสู ตรดังกล่าวนี้ เป็ น ความหมายใน แน วกว้างและ สมบูรณ์ที่สุ ด
เพราะครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียน
3.1.6. หลักสูตรในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทาง
แ น ว คิ ด เ กี่ ย ว กั บ ห ลั ก สู ต ร ใ น ฐ า น ะ ที่ เป็ น จุ ด ห ม า ย ป ล า ย ท า ง นั้ น
เ ป็ น สิ่ ง ที่ สั ง ค ม มุ่ ง ห วั ง ห รื อ ค า ด ห วั ง ใ ห้ เ ด็ ก ไ ด้ รั บ ก ล่ า ว คื อ
ผู้ที่ศึกษาจนจบหลักสูตรไปแล้วจะมีคุณลักษณะอย่างไรบ้างจะเกิดผลอย่างไรในตัวผู้เรียน บ้าง
แนวคิดนี้มองหลักสูตรในฐานะที่ทาให้เกิดผลการเรียนรู้ตามที่มุ่งหวังที่จะเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ ดังนั้น
การจัดการหลักสูตร การกาหนดจุดมุ่งหมาย เนื้อหาสาระกระบวนการเรียนการสอนและการประเมินผล
จาต้องศึกษาและวางแผนให้สอดคล้องสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วย
3.1.7. หลักสูตรในฐานะที่เป็นระบบการเรียนการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน
แ น ว คิ ด ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ใ น ฐ า น ะ ที่ เ ป็ น ร ะ บ บ ก า ร เรี ย น ก า ร ส อ น นั้ น
เป็นการมองหลักสูตรในฐานะที่เป็นแผนการเตรียมโอกาสของการเรียนรู้สาหรับผู้เรียนที่จัดขึ้นโดยโรงเรียน
ห รื อ ส ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษ า ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ เ พื่ อ ใ ห้ บ ร ร ลุ เ ป้ า ห ม า ย ที่ ก า ห น ด ไ ว้
เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าโดยรวมเอาแผนย่อยๆ ที่เป็นโอกาสของการเรียนรู้ที่คาดหวังเข้าไว้ด้วยกัน
แผนงานนั้นมิได้เกิดขึ้นอย่างลอยๆแต่จะมีการวางแผนสาหรับสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้น
แผนงานจึงถูกกาหนดขึ้นเพื่อผู้เรียนโดยโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่รับผิดชอบในการจัดโอกาสทางการศึก
ษาให้แก่ผู้เรียน
จ า ก ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ข้ า ง ต้ น จ ะ เ ห็ น ว่ า
ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร มี ก า ร ข ย า ย ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ไ ป
ซึ่งสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ยุ ค ส มั ย ห รื อ ก า ล เ ว ล า จ ะ เ ห็ น ไ ด้ ว่า แ ต่ ล ะ ยุ ค แ ต่ ล ะ ส มั ย
มนุษย์เล็งเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์จากการศึกษาต่างๆ กัน
2. ค ว า ม เ ชื่ อ ใ น ป รั ช ญ า แ ล ะ จิ ต วิ ท ย า ก า ร ศึ ก ษ า
ความเชื่อปรัชญาที่เปลี่ยนไปทาให้ความหมายของหลักสูตรเปลี่ยนไป เช่น ถ้าเชื่อในปรัชญาจิตนิยม
- 10. และช่วงที่จิตวิทยายังไม่เข้ามามีบทบาททางการศึกษาความหมายของหลักสูตรก็คือเนื้อหาวิชาที่ให้เด็กเรียน
ต่อมาเมื่อมีความเชื่อในปรัชญาพิพัฒนาการนิ ยม และมีจิตวิทยาเข้ามามีบทบาททางการศึกษา
ความหมายของหลักสูตรก็เปลี่ยนเป็นกิจกรรมหรือมวลประสบการณ์ทั้งหลายที่จัดให้แก่เด็ก
3. ส ภ า พ ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต สั ง ค ม แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม
ตลอดจนลัทธิการปกครองก็เป็นตัวกาหนดความหมายของหลักสูตรด้วยส่วนหนึ่ง
3.2 คุณสมบัติของหลักสูตร
คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ห ม า ย ถึ ง
ธรรมชาติหรือลักษณะของหลักสูตรว่าเป็นอย่างไรซึ่งอาจหมายรวมถึงข้อตกลงหรือข้อยอมรับเกี่ยวกับกฎเกณฑ์
ของหลักสูตร คุณสมบัติหรือกฎเกณฑ์ของหลักสูตรมีดังนี้
3.2.1. ห ลั ก สู ต ร มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น พ ล วั ต ( Dynamis)
แ ล ะ เป ลี่ ย น ไ ป ต า ม ค ว าม ต้ อ ง ก า ร แ ล ะ ค ว าม เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง สั ง ค ม อ ยู่เส ม อ
คุณสมบัติข้อนี้แสดงว่าประสบการณ์และกิจกรรมการเรียนการสอนที่จัดให้แก่ผู้เรียนจะไม่ซ้าเหมือนเดิม
แต่จะเปลี่ยนแปลงและเพิ่มอยู่เสมอ โดยจะเปลี่ยนแปลงในลักษณะค่อยเป็ นค่อยไปตามความจาเป็ น
เนื้ อห าส าระ และ กิจกรรมใ ดยัง เส น อเป้ าห มายและ จาเป็ น ต่อผู้เรี ยน และ สัง คมก็คง ไว้
ในบางครั้งอาจจะคงเนื้อหาสาระไว้อย่างเดิม แต่การจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆ
อ า จ จ ะ ต้ อ ง ป รั บ ป รุ ง เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง เ สี ย ใ ห ม่ ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม
เพราะกิจกรรมหรือประสบการณ์ที่จัดให้แก่ผู้เรียนซึ่งเคยเหมาะสมเพียงพอในระยะเวลาหนึ่งและสถานการณ์ห
นึ่ ง อาจจะ ไม่เห มาะ ส มและ เพี ยง พ อ ใ น อีกระ ยะ เวลาห นึ่ ง แล ะ อีกส ถาน การณ์ ห นึ่ ง
เพราะฉะนั้นหลักสูตรจึงมีการเปลี่ยนแปลงอันเป็นคุณสมบัติที่เด่นชัดประการณ์หนึ่ง
3.2.2. ก า ร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ก า ร พั ฒ น า ต่ อ เ นื่ อ ง
คุ ณ ส ม บั ติ ข้ อ นี้ มี ลั ก ษ ณ ะ ใ ก ล้ เ คี ย ง แ ล ะ เ ส ริ ม ข้ อ แ ร ก คื อ
หลักสูตรมีการเปลี่ยนต่อเนื่ องกันไปตามความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
เพราะฉะนั้นกระบวนการพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องเป็นวัฏจักรในกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่มี
การเป ลี่ยน แปลง รวมอยู่ด้วย ห ลัก สู ตรเป็ น สิ่ ง ที่ ควรได้รับก ารปรับป รุ งแก้ไขอ ยู่เสม อ
เพ ราะ หลักสู ตรที่ ดี ควรตอบ สน องต่อสั งคม และ เมื่อสั งคมเปลี่ยน แปลง อยู่ตลอดเวล า
ห ลั ก สู ต ร จึ ง จ า เ ป็ น ต้ อ ง เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ต า ม ไ ป ด้ ว ย
- 11. เพื่อที่จะ ให้กระบวน การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรเป็ น กระบวน การต่อเนื่องอย่างแท้จริง
จึงจาเป็นต้องมีองค์ประกอบหรือหน่วยงานเฉพาะรับผิดชอบงานดังกล่าวต่อเนื่องกันไปการเปลี่ยนแปลงหลักสู
ตรแต่ละ ครั้ ง ไม่จาเป็ น ต้องเปลี่ยน กิจกรรมและป ระ สบการณ์ ทุกช นิ ดใ น คราวเดียวกัน
ถ้ า ห า ก สั ง ค ม เ อ ง มิ ไ ด้ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ร ว ด เ ร็ ว อ ย่า ง ห น้ า มื อ เ ป็ น ห ลั ง มื อ
ข้ อ สั ง เ ก ต จ า ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ห ลั ก สู ต ร แ ต่ ล ะ ค รั้ ง จ ะ พ บ ว่ า
เนื้ อห าสาระ และ กิจกรรมทั้ง ห ล ายของ การเรี ยน กา รส อน จะ ซ้ าข อง เดิม เกิน กว่า 80%
เพ ราะ ใน การปรับปรุงตัวหลักสู ตรแต่ละ ครั้งเราอาจจะ เปลี่ยน จุดมุ่งห มายบางประการให ม่
และปรับปรุงโครงสร้างของหลักสูตรซึ่งได้แก่การให้น้าหนักความสาคัญของกิจกรรมหรือเนื้อหาสาระเสียใหม่
แต่กิจกรรมและเนื้อหาสาระของวิชาต่างๆ หรือตาราที่มีอยู่เดิมก็อาจสามารถสนองจุดมุ่งหมายใหม่ได้
ถ้ากิจกรรมหรือเนื้อหาใดไม่สนองจุดมุ่งหมายดังกล่าวก็ปรับปรุงสิ่งเหล่านั้นเสียใหม่เป็นกรณีๆ ไป
3.2.3. ห ลั ก สู ต ร ไ ม่ ส า ม า ร ถ แ ส ด ง กิ จ ก ร ร ม ห รื อ ก ร ะ ท ากิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ
ตั ว ข อ งมั น เอ งได้ จึง จ าเป็ น ต้ อ งใช้ กิ จ ก รรม ห รื อ ก าร ก ระท าอย่ างอื่ น ม าช่ ว ย เช่น
การพัฒ น าห ลัก สู ตร การจัด ท าห ลัก สู ตร การป รับ ป รุ ง ห ลักสู ต ร ก ารส ร้ าง ห ลัก สู ต ร
เพราะฉะนั้นหลักสูตรจึงทาหน้าที่เป็นผู้กระทาอยู่ตลอดเวลา
3.3 ความสาคัญของหลักสูตร
ห ลัก สู ต รเป็ น อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ อัน ส าคัญ ยิ่ ง อ ย่าง ห นึ่ ง ข อ ง ก ารจัด ก าร ศึ ก ษ า
ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ป ร ะ เ ภ ท แ ล ะ ร ะ ดั บ ใ ด ก็ ดี จ ะ ข า ด ห ลั ก สู ต ร ไ ป มิ ไ ด้
เพราะหลักสูตรจะเป็นโครงร่างกาหนดไว้ว่าจะให้เด็กได้รับประสบการณ์อะไรบ้างจึงจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กแ
ล ะ สั ง ค ม ห ลั ก สู ต ร เป็ น แ น ว ท าง ที่ จ ะ ส ร้ า ง ค ว าม เ จ ริ ญ เติ บ โ ต ใ ห้ แ ก่ผู้ เ รี ย น
นอกจากนี้หลักสูตรยังเป็นเครื่องชี้ให้เห็นโฉมหน้าของสังคมในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรอีกด้วย
นั ก ก าร ศึ ก ษ าช าว อ เม ริ กัน ไ ด้ ก ล่า ว เน้ น ค ว าม ส า คัญ ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ว่า
“หลักสูตรเสมือนเครื่องนาทางให้เด็กไปสู่จุดมุ่งหมาย หลักสูตรไม่ใช่เป็นแต่เพียงแนวทางการเรียนเท่านั้น
ยั ง ร ว บ ร ว ม ร า ย ก า ร แ ล ะ ปั ญ ห า ต่ า ง ๆ ไ ว้ อี ก ด้ ว ย
หลักสูตรไม่ใช่เนื้อหาวิชาแต่เป็นกิจกรรมทั้งหมดที่นาเข้ามาในโรงเรียน”
ในการจัดการศึกษาที่จะบรรลุเป้าหมายได้นั้นต้องอาศัยหลักสูตรเป็นเครื่องมือนาไปสู่การบรรลุเป้าห
ม า ย ดั ง ก ล่ า ว ถ้ า ป ร า ศ จ า ก ห ลั ก สู ต ร เ สี ย แ ล้ ว
การจัดการศึกษาจะไม่มีวันสาเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมายของการจัดการศึกษาที่กาหน ดไว้ได้เลย
- 12. หลักสูตรจึงเปรียบเสมือนหัวใจสาคัญของการจัดการศึกษาทีเดียว ซึ่ง ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์ ( 2539: 11)
ไ ด้ ก ล่ า ว ถึ ง เ รื่ อ ง นี้ ไ ว้ ว่า ก า ร ที่ จ ะ ท ร า บ ว่า ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ
จ ะ ดี ห รื อ ไ ม่ดี ส าม า ร ถ ดู จ า ก ห ลัก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ าใ น ร ะ ดั บ นั้ น ๆ ข อ ง ป ร ะ เท ศ
เพราะหลักสูตรเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงจุดมุ่งหมายและนโยบายทางการศึกษาของชาติเข้าสู่การปฏิบัติในส
ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษ า ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ
หลักสูตรจะเป็นเสมือนกับหางเสือที่จะคอยกาหนดทิศทางให้การเรียนการสอนเป็นไปตามความมุ่งหมายของกา
ร ศึ ก ษ า ห รื อ ก ล่ า ว อี ก นั ย ห นึ่ ง คื อ
หลักสูตรเป็นเครื่องชี้นาทางในการจัดความรู้และประสบการณ์แก่ผู้เรียนซึ่งครูจะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้ผู้เรียนไ
ด้รับ ก ารศึก ษ าที่ มุ่ง สู่จุดห มายเดี ยวกัน ห ลัก สู ตรจึ ง เป็ น หั วใ จส าคัญ ข อ ง การศึ กษ า
แ ล ะ เ ป็ น เค รื่ อ ง ชี้ ถึ ง ค ว ามเจ ริ ญ ข อ ง ช าติ ถ้าป ร ะ เท ศ ใ ด มี ห ลัก สู ต ร ที่ เ ห มาะ ส ม
ทั น ส มั ย แ ล ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ค น ใ น ป ร ะ เ ท ศ นั้ น ก็ ย่ อ ม มี ค ว า ม รู้
มีคุณภาพและศักยภาพในการพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มที่
จากความสาคัญของหลักสูตรดังกล่าว พอสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. หลักสูตรเป็นเสมือนเบ้าหลอมพลเมืองให้มีคุณภาพ
2. หลักสูตรเป็นมาตรฐานของการจัดการศึกษา
3. หลักสูตรเป็นโครงการและแนวทางในการให้การจัดการศึกษา
4. ในระดับโรงเรียนหลักสูตรจะให้แนวการปฏิบัติแก่ครู
5.
หลักสูตรแนวทางในการส่งเสริมความเจริญงอกงามและพัฒนาการของเด็กตามจุดมุ่งหมายของการศึกษา
6. ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น เค รื่ อ ง ก า ห น ด แ น ว ท าง ใ น ก า ร จัด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ว่า
ผู้เรียนและสังคมควรจะได้รับสิ่งใดบ้างที่จะเป็นประโยชน์แก่เด็กโดยตรง
7. ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ก า ห น ด ว่ า
เนื้อหาวิชาอะไรบ้างที่จะช่วยให้เด็กมีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างราบรื่น เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ
และบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคม
8. ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ก า ห น ด ว่ า
วิธีการดาเนินชีวิตของเด็กให้เป็นไปด้วยความราบรื่นและผาสุกเป็นอย่างไร
9. หลักสูตรย่อมทานายลักษณะของสังคมในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
- 13. 10. ห ลัก สู ต รก าห น ด แ น ว ท า ง ค ว า มรู้ ค ว าม ส าม าร ถ ค ว าม ป ร ะ พ ฤ ติ
ทั ก ษ ะ แ ล ะ เ จ ต ค ติ ข อ ง ผู้ เ รี ย น ที่ จ ะ อ ยู่ ร่ ว ม กั น ใ น สั ง ค ม
และบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและชาติบ้านเมือง
3.4 องค์ประกอบของหลักสูตร (Curriculum Component)
อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ต า ม ห ลั ก สู ต ร อ า จ จ ะ แ ต ก ต่า ง กัน บ้ าง ใ น ร า ย ล ะ เ อี ย ด
แ ต่ส่ ว น ใ ห ญ่ มี ป ร ะ เ ด็ น ห รื อ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ที่ ส าคั ญ เ ห มื อ น กัน อ ย่า ง ค ร บ ถ้ว น
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้หลักสูตรสามารถไปใช้หลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบที่สาคัญคือ
3.4.1. จุดมุ่งหมายของหลักสูตร (Curriculum Aims)
จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ห ม า ย ถึ ง
ความตั้งใจหรือความคาดหวังที่ต้องการให้เกิดขึ้นในตัวผู้ที่จะผ่านหลักสูตรจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมีความสาคั
ญเพราะเป็นตัวกาหนดทิศทางและขอบเขตในการศึกษาแก่เด็กช่วยในการเลือกเนื้อหาและกิจกรรม
ตลอดจนใช้เป็นมาตรการอย่างหนึ่งในการประเมินผล
จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ข อ ง ก า ร ศึ ก ษ า มี ห ล า ย ข อ ง ร ะ ดั บ ไ ด้ แ ก่
จุดมุ่งหมายหลายระดับหลักสูตรซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่บอกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้เป้าหมายของหลักสูตรนั้นๆ
จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ข อ ง ก ลุ่ ม วิ ช า
วิชาแต่ละกลุ่มจะสร้างคุณลักษณะที่แตกต่างกันให้กับผู้เรียนดั้งนั้นแต่ละกลุ่มวิชาจึงมีจุดมุ่งหมายไว้ต่างกัน
จุดมุ่ง ห มายรายวิช าเป็ น จุด ห มายที่ ล ะ เอี ยดจ าเพ าะ เจาะ จง กว่าจุด มุ่ง ห มายก ลุ่มวิช า
ผู้สอนกลุ่มรายวิชาจะกาหนดจุดมุ่งหมายในการสอนเนื้อหาแต่ละบทแต่ละตอนขึ้นในรูปของจุดมุ่งหมายเชิงพฤ
ติ ก ร ร ม
แม้ว่าจุดมุ่งหมายทางการศึกษาจะมีระดับดังกล่าวแล้วจุดมุ่งหมายหลายระดับย่อมสอดคล้องกันและนาไปสู่จุดห
มายปลายทางเดียวกัน
3.4.2. เนื้อหา(Content)
เมื่ อ ก า ห น ด จุ ด มุ่ง ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร แ ล้ ว กิ จ ก ร ร ม ขึ้ น ต่ อ ไ ป นี้
การเลือกเนื้อหาประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ที่คาดว่าจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาไปสู่จุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้
โดยดาเนิ น การตั้งแต่การเลือกเนื้ อห าสาระ และประ สบการณ์ การเรียงลาดับเนื้ อหาสาระ
พร้อมทั้งการกาหนดเวลาเรียนที่เหมาะสม
3.4.3. การนาหลักสูตรไปใช้ (Curriculum implementation)
- 14. เป็นการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่นการจัดทาวัสดุหลักสูตร
ได้แก่ คู่มือครู เอกสารหลักสูตร แผนการสอน แนวการสอน และแบบเรียน เป็นต้น
การจัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดโต๊ะ เก้าอี้ ห้องเรียน
วัสดุอุปกรณ์ในการเรียน จานวนครูและสิ่งแวดล้อมอานวยความสะดวกต่างๆ การดาเนินการสอน
เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด ใ น ขั้ น ต อ น ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้
เพ ร า ะ ห ลั ก สู ต ร จ ะ ไ ด้ ผ ล ห รื อ ไ ม่ขึ้ น อ ยู่กั บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร ส อ น ข อ ง ค รู
ครูผู้สอนจะต้องมีความรู้ในด้านการถ่ายทอดเนื้อหาความรู้การวัดและประเมินผล จิตวิทยาการสอน
ตลอดทั้งปรัชญาการศึกษาของแต่ละดับ จึงทาให้การเรียนของผู้เรียนบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร
3.4.4. การประเมินผลหลักสูตร (Evaluation)
ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ห ลั ก สู ต ร คื อ ก า ร ห า ค า ต อ บ ว่ า
หลักสูตรสัมฤทธิ์ผลตามที่กาหนดในจุดมุ่งหมายหรือไม่ มากน้อยเพียงใด และอะไรเป็ นสาเหตุ
ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ง า น ใ ห ญ่ แ ล ะ มี ข อ บ เ ข ต ก ว้ า ง ข ว า ง
ผู้ประเมินจาเป็นต้องวางโครงการประเมินผลไว้ล่วงหน้า
3.5 ลักษณะของหลักสูตรที่ดี
ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น แ น ว ท า ง ส า คั ญ ใ น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
ลักษณะของหลักสูตรที่ดีจะนาไปสู่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ และเกิดสัมฤทธิ์ผลทางการศึกษา
หลักสูตรที่ดีควรมีดังนี้
1) ตรงตามความมุ่งหมายของการศึกษา
2) ตรงตามลักษณะของพัฒนาการของเด็กในวัยต่างๆ
3) ตรงตามลักษณะวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีเอกลักษณ์ของชาติ
4.)มีเนื้อหาสาระเรื่องที่สอนเพียงพอที่จะช่วยให้นักเรียนคิดเป็นและมีพัฒนาในการทุกด้าน
5) ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น ข อ ง ผู้ เ รี ย น คื อ จั ด วิ ช า ทั ก ษ ะ
และวิชาเนื้อหาให้เหมาะสมกันในที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนเจริญงอกงามทุกด้าน
6) หลักสูตรที่ดีควรสาเร็จขึ้นด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อจะให้ผลดีควรจัดให้เป็นคณะกรรมการ
7) ห ลั ก สู ต ร ที่ ดี จ ะ ต้ อ ง ใ ห้ นั ก เ รี ย น ไ ด้ เ รี ย น รู้ ต่ อ ไ ป
และจะต้องเรียงลาดับความยากง่ายไม่ให้ขาดตอนจากกัน
8)
หลักสูตรที่ดีจะต้องเป็นประสบการณ์ที่เกี่ยวกับชีวิตประจาวันของเด็กเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสแก้ปัญหาต่างๆ
ในชีวิต เพื่อให้เป็นอยู่อย่างผาสุก
- 15. 9) หลักสูตรที่ดีจะต้องเพิ่มพูนและส่งเสริมทักษะเบื้องต้นที่จาเป็นของเด็ก
10) ห ลัก สู ตร ที่ ดีย่อ มส่ง เส ริ มใ ห้ เด็ก เกิด ค วามรู้ ทั กษ ะ เจต คติ ค วามคิ ดริ เริ่ ม
มีความคิดสร้างสรรค์ในการดาเนินชีวิต
11) ห ลั ก สู ต ร ที่ ดี จ ะ ต้ อ ง ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ เ ด็ ก ท า ง า น เ ป็ น อิ ส ร ะ
และทางานร่วมกันเป็นหมู่คณะเพื่อพัฒนาให้รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย
12) ห ลั ก สู ต ร ที่ ดี ย่ อ ม บ อ ก แ น ว ท า ง วิ ธี ส อ น
และสื่ออุปกรณ์ประกอบเนื้อหาสาระที่สอนไว้อย่างเหมาะสม
13) ห ลั ก สู ต ร ที่ ดี ย่ อ ม มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล อ ยู่ ต ล อ ด เ ว ล า
เพื่อทราบข้อบกพร่องในการที่จะนาไปปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
14) หลักสูตรที่ดีจะต้องจัดประสบการณ์ให้เด็กเกิดความรู้ ความเข้าใจและมีโอกาสแก้ปัญหาต่างๆ
โดยเฉพาะปัญหาครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ
15) หลักสูตรที่ดีต้องส่งเสริมให้เด็กรู้จักแก้ปัญหา
16) หลักสูตรที่ดีต้องจัดประสบการณ์ที่มีความหมายต่อชีวิตของเด็ก
17) ห ลั ก สู ต ร ที่ ดี ต้ อ ง จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ห ล า ย ๆ อ ย่า ง
เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกอย่างเหมาะสมตามความสนใจ ความต้องการ และความสามารถของแต่ละบุคคล
18)
หลักสูตรที่ดีจะต้องวางกฎเกณฑ์ไว้อย่างเหมาะสมแก่การนาไปปฏิบัติและสะดวกแก่การวัดและประเมินผล
สรุป(Summary)
ห ลั ก สู ต ร มี ค ว า ม ส า คั ญ ยิ่ ง ใ น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า
เป็ น สิ่งที่ชี้ ให้เห็ น แน วทางใน การจัดประสบการณ์แก่ผู้เรียน อัน เปรียบเสมือน แผน ที่ห รื อ
เ ข็ ม ทิ ศ ที่ จ ะ น า ท า ง ใ น ก า ร วั ด ก า ร ศึ ก ษ า ใ ห้ บ ร ร ลุ ผ ล
หลักสูตรที่ดีจะต้องมีความชัดเจนเหมาะสมกับผู้เรียนและสังคมซึ่งจะทาให้การนาหลักสูตรไปใช้หรือการจัดกา
รเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพราะฉะนั้นในการจัดทาหรือการพัฒนาหลักสูตรจึงควรถือเป็นงาน
สาคัญ ที่ ทุ ก ฝ่ ายต้อ ง ร่วมมือร่วมใ จกัน ด าเนิ น การเพื่ อ ใ ห้ ได้ห ลัก สู ตรใ น ระ ดับ ต่าง ๆ
ที่ดีเพราะถ้าเรามีหลักสูตรที่ดีถูกต้องเหมาะสมการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางในเรื่องการศึกษาจะเป็นไปโด
ยราบรื่นสามารถสร้างลักษณะสังคมที่ดีในอนาคตโดยใช้การศึกษาเป็นเครื่องมืออย่างเต็มภาคภูมิ
ตรวจสอบทบทวน(Self-Test)
- 16. 1. การศึกษาถือเป็นเครื่องมือการพัฒนามนุษย์ หลักสูตรเกี่ยวข้องกับอย่างไร
2. หลักสูตรมีความสาคัญหรือจาเป็นต่อการศึกษาหรือไม่ อย่างไร
กิจกรรม(Activity)
1. สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรื่อง การพัฒนามนุษย์ การศึกษา
การเรียนรู้และหลักสูตร
2. ศึกษาทาความเข้าใจเพิ่มเติมจาก สุเทพ อ่วมเจริญ การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีและการปฏิบัติ
“การพัฒนาหลักสูตร :นิยาม ความหมาย”
3. อุปมาอุปมัย :เมื่อการศึกษาเปรียบได้กับเครื่องมือการพัฒนามนุษย์ หลักสูตรเปรียบได้กับสิ่งใด
4. แลกเปลี่ยนแนวคิดกับเพื่อนนักศึกษา หรือผู้รู้ในประเด็น กฏหมายการศึกษา ที่เรียกว่า
พระราชบัญญัติการศึกษา การศึกษา และการพัฒนา แนวคิดจากต่างประเทศ