SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
หน่วยที 3: ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน และการพ ัฒนาชุมชน


   ั
ผลสมฤทธิจากการศึกษา

คําชีแจง

3.1 การนิยามความหมายของการพัฒนาชุมชน

3.2 การประเมินความต ้องการของชุมชน

3.3 การประเมินสินทรัพย์ของชุมชน

บทสรุปย่อ

การประเมินผล

รายการอ้างอิง

       ั
    ผลสมฤทธิจากการศึกษา


หล ังจากเรียนจบแล้ว ผูเรียนควรจะมีความสามารถด ังนี:
                      ้

1.   นิยามความหมายของการพัฒนาชุมชน
2.   ระบุบทบาทของศูนย์การเรียนรู ้ไอซีท ี ทีมีตอชุมชน
                                               ่
3.   ระบุขนตอนการประเมินความต ้องการของชุมชน
          ั
4.                ่
     จําแนกผู ้มีสวนเกียวข ้องในการพัฒนาชุมชน

    คําชีแจง


        ใน หน่วย ทีผ่านมา ผู ้เรียนได ้เห็นขันตอนต่าง ๆ ตังแต่เริมจัดตัง ไปจนถึงขันตอนการปฎิบัตงานของ ศูนย์
                                                                                               ิ
                                                            ่
การเรียนรู ้ ICT ชุมชน รวมทังได ้ตระหนักถึงบทบาทของผู ้มีสวนเกียวข ้องประเภทต่าง ๆ

        ใน หน่ วย นี ผู ้เรียนจะได ้เรียนรู ้แนวคิดของการพั ฒนาชุมชน การประเมินความต ้องการของชุมชน และ
ประเมินสินทรัพย์ในชุมชน อย่างไรก็ตาม ผู ้เรียนต ้องทราบก่อนว่า ชุมชน คือ อะไร

                                                                         ั      ึ
       ชุมชน คือ กลุมของผู ้คนทีอาศัยอยูร่วมกัน ในพืนทีเดียวกัน และมีปฎิสมพันธ์ซงกันและกัน โดยชุมชน
                    ่                   ่
อาจจะหมายรวมถึง

•         ครอบครัวเดียว (พ่อแม่ พีชาย น ้องชาย พีสาว น ้องสาว)
•         ครอบครัวขยาย (ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้ า น ้า อา หลานชาย หลานสาว ญาติพน ้อง)
                                                                             ี
•         เพือน




                                                                                                   Page 1
•          เพือนบ ้าน
•          คนในชุมชนของผู ้เรียน

        บางครั ง คําว่า “ชุมชน” ถูกใช ้เพืออธิบายถึงประชาชนและกลุ่มคนทีมีความเชือเหมือนกัน (ศาสนา) มี
ความสนใจในบางสิงบางอย่างร่วมกัน (กีฬา) มีอาชีพเดียวกัน (เกษตรกร ช่างฝี มอ) เป็ นต ้น
                                                                        ื
        ในประเทศอินเดีย แผนการพัฒนาต่าง ๆ ทังในระดับชุมชนและระดับชาติ จะเน ้นการให ้ความสําคัญกับการ
พัฒนาชุมชนทีห่างไกลหรือชนบท

    3.1 ความหมายของการพ ัฒนาชุมชน


        เมื อเราพิ จ ารณาถึง ชุ ม ชน เราก็ มั ก จะมองในภาพของสภาพภู ม ิป ระเทศ เช่ น เมือ ง หรื อ หมู่ บ า น
                                                                                                         ้
แต่อย่างไรก็ตาม คําว่าชุมชน สามารถอธิบายในมิตของ ประเพณีทางวัฒนธรรม อาชีพ ภาษา ความเชือ ได ้ด ้วย
                                                    ิ
ซึงโดยส่วนใหญ่ คนในชุมชนมักจะอยู่ในสังคมทีมากกว่า 1 สังคม ขึนไป ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนสามารถเป็ นส่วน
หนึงของหมูบ ้านและยังเป็ นส่วนหนึงของสังคมภาคเกษตรในเวลาเดียวกันได ้ด ้วย
            ่

3.1.1 การพ ัฒนาชุมชน คืออะไร?

      การพั ฒนาชุมชน คือ แผนการพั ฒนาชุมชนทังทางด ้านเศรษฐกิจ สังคม สิงแวดล ้อม และวัฒนธรรม ซึง
แผนพัฒนาต่าง ๆ เป็ นแผนการทีสมาชิกในชุมชนมีการดําเนินการร่วมกันเพือแก ้ปั ญหาของชุมชน

         ผลทีได ้จากการพั ฒ นาชุม ชน คือ คนในชุม ชนจะมีผู ้เรีย นภาพชีว ต ทีดีข น ซึงเป็ นการทีชุม ชนได ้รั บ
                                                                        ิ       ึ
ผลประโยชน์ร่วมกันและเป็ นการแสดงบทบาทความรั บผิดชอบต่อชุมชนร่วมกัน อาจกล่าวได ้ว่า การพั ฒนาต ้อง
พัฒนาทุกภาคส่วนของชุมชน ได ้แก่ ภาคประชาชน (ผู ้ชาย ผู ้หญิง และเด็ก) ภาคการเงิน (การระดมทุน) และภาค
โครงสร ้างพืนฐาน (โรงเรียน เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การธนาคาร สาธารณสุข ไฟฟ้ า นํ าประปา ถนน การสือสาร
อืน ๆ)

3.1.2 กรอบการพ ัฒนาชุมชน

การพัฒนาชุมชน คือ กระบวนการทีมีความต่อเนืองและเปลียนแปลงได ้ โดยมีองค์ประกอบทีสําคัญ 4 ประการ ดังนี

      1.   การสร ้างแรงสนับสนุน
      2.   การจัดทําแผน
      3.   การประเมินแผน
      4.   การดํารงรักษาแรงกระตุ ้น


การสร้างแรงสนบสนุน: ขันตอนแรก คือ การคิดค ้น การทําความเข ้าใจ และการสนั บสนุ นกระบวนการพั ฒนา
             ั
ชุมชน         ในขันตอนนี จะเป็ นการช่ว ยเสริมสมรรถภาพของชุมชนให ้สามารถเผชิญกับ ความท ้าทายหรือฉกฉวย
โอกาสทีสําคัญ           ต่าง ๆ ทีเป็ นประโยชน์ต่อชุมชนให ้ได ้ ตัวอย่างเช่น หากในชุมชนของผู ้เรียนไม่มโรงเรียน
                                                                                                      ี
ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องสร ้างแรงสนับสนุนจากคนในชุมชนผู ้เรียน โดยผู ้เรียนอาจจะพยายามสร ้างความเชือมันให ้กับคน
ในชุมชนเห็นว่าโรงเรียนมีความสําคัญต่อชุมชนอย่างไร




                                                                                                      Page 2
การจ ัดทําแผน: แผนการพัฒนาชุมชน ประกอบด ้วย การดําเนินการแก ้ปั ญหาของชุมชนอย่างเป็ นระบบ และสร ้าง
 ทางเลือกแบบต่าง ๆ มาจัดการกับปั ญหาทีเกิดขึน ตัวอย่างเช่น เมือผู ้เรียนต ้องการสร ้างโรงเรียนในชุมชนของ
 ผู ้เรียน          ผู ้เรียนอาจจะต ้องปรับปรุงแผนการหรือแก ้ปั ญหาต่าง ๆ ทีเกิดขึน โดยทดลองวิธแก ้ปั ญหาหลาย
                                                                                               ี
 ๆ วิธ ี เพือให ้การก่อสร ้างโรงเรียนของชุมชน ดําเนินไปอย่างราบรืน

 การประเมินแผน: กระบวนการประเมินจะต ้องมีการวางแผนและการจัดการทีดี ซึงการประเมินทีมีประสิทธิภาพ
 จํ า เป็ นต ้องอาศัย ผู ้นํ าทีเข ้มแข็ ง รวมทังกระบวนการและโครงสร ้างต่า ง ๆ ต ้องมีบ ทบาทและความรั บ ผิด ชอบที
 ชัดเจน ตัว อย่างเช่น ผู ้เรียนต ้องจัดการกับต ้นทุน ทรั พ ยากรมนุ ษย์ และระยะเวลา ในการก่อสร ้างโรงเรีย นใน
 ชุมชนของผู ้เรียน

 การดํารงร ักษาแรงกระตุน: หลังจากกระบวนการประเมินแผนเบืองต ้น ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องรักษาผลประโยชน์ของ
                            ้
                                                                  ่
 ชุมชน ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนอาจจะต ้องกระตุ ้นให ้ชุมชนเข ้ามามีสวนร่วมและพยายามให ้ชุมชนมันใจว่าโรงเรียนมี
 บทบาทสําคัญต่อชุมชน

 3.1.3 ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน ก ับการพ ัฒนาชุมชน

           ชุม ชนส่ว นใหญ่ มั กจะเห็ น ด ้วยกับแผนการพั ฒนาชุม ชน แต่ก็ ยัง ไม่มก ารคิด ริเ ริมหรือจั ดทํ าแผนพั ฒ นา
                                                                                ี
 ชุมชนของตนเองทีเป็ นรูปธรรมชัดเจน เหตุผล คือ ชุมชนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงศักยภาพของชุมชนตนเอง หรือ
 ยังขาดผู ้นํ าชุมชนทีตระหนักถึงเรืองการพัฒนาชุมชนทีมากพอ

          ในฐานะผู ้จัดการศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน ผู ้เรียนต ้องเป็ นผู ้คิดริเริมในการพัฒนาชุมชนได ้ โดยผู ้เรียน
 อาจจะต ้องเข ้าไปมีบทบาทในฐานะองค์กรพัฒนาทีต ้องการเห็นการเปลียนแปลงในชุมชน

             ในฐานะองค์ก รพั ฒ นาทีต ้องการเห็ น การเปลียนแปลง ผู ้เรีย นสามารถแนะนํ าบริก ารด ้านต่า ง ๆ ทีเป็ น
 ประโยชน์ ต่อการพั ฒนาให ้กับ ชุมชนของผู ้เรียน เช่น บริการด ้านการศึกษา สาธารณสุข โครงการของภาครั ฐ
 การเกษตรกรรม เป็ นต ้น          ซึงจะอธิบายรายละเอียดของการให ้บริการด ้านต่าง ๆ ต่อชุมชนผ่านทางศูนย์การ
 เรียนรู ้ ICT ชุมชน ในบทที 8 ต่อไป

          อย่างไรก็ตาม มีความเป็ นไปได ้ว่าผู ้เรียนอาจจะไม่สามารถเข ้าไปเกียวพันกับทุก ๆ กิจกรรมของชุมชนได ้
 ทังหมด ดัง นั น ผู ้เรียนอาจจะให ้คนทีเหมาะสมในแต่ละด ้านของงานพั ฒนาชุม ชนมาช่ว ยทํ า กิจ กรรมการพั ฒ นา
 สังคมด ้วย

  คําถาม 3.1

    1. ระบุองค์ประกอบของกรอบการพัฒนาชุมชน 4 ประการ
  i._____________________________
 ii._____________________________
iii._____________________________
iv._____________________________


  3.2 การประเมินความต้องการของชุมชน




                                                                                                             Page 3
การประสบความสําเร็จของการจัดตังศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน จะขึนอยู่กับสินค ้าและบริการด ้านต่าง ๆ ที
ผู ้เรียนจะให ้กับชุมชน เพือเติมเต็มความต ้องการของคนในชุมชนของผู ้เรียน ซึงผู ้เรียนจะรู ้ได ้อย่า งไรว่าชุมชน
ต ้องการอะไร ?

        การเข ้าใจความต ้องการของชุมชน เป็ นสิงแรกทีผู ้เรียนควรจะรู ้ เพือทีจะนํ าไปช่วยในการวางแผนว่าศูนย์
การเรียนรู ้ไอซีทของชุมชนควรมีลัก ษณะอย่า งไร ซึงการทํ าความเข ้าใจความต ้องการของชุมชน เรีย กว่า ‘การ
                 ี
ประเมินความต ้องการของชุมชน’

          ในการประเมิน ความต ้องการของชุม ชน ผู ้เรีย นจํ า เป็ นต ้องเข ้าใจว่า ทรั พ ยากรด ้านต่า ง ๆ ในชุม ชน มี
อะไรบ ้าง     ไม่วาจะเป็ น ทรัพยากรมนุษย์ เงิน สินค ้า และบริการ นอกจากนีผู ้เรียนต ้องรู ้ว่าชุมชนต ้องการอะไร
                  ่
มีความหวัง ความฝั น และความกลัว อะไรบ ้าง

           เมือผู ้เรียนรู ้ว่าชุมชนต ้องการอะไร มีทรัพยากรอะไรในชุมชนบ ้าง เมือนั นผู ้เรียนก็จะสามารถออกแบบได ้ว่า
ผู ้เรียนจะดําเนินการอย่างไรเพือสนองตอบความต ้องการของชุมชนได ้ดีทสุด      ี

3.2.1 วิธการการประเมินความต้องการของชุมชน
         ี

วิธการประเมินความต ้องการของชุมชนสามารถทําได ้หลายวิธ ี โดยแสดงดังตาราง 3.1 ดังนี
   ี

วิธการ
   ี                                       ใคร/อะไร

การสัมภาษณ์                                หัวหน ้ากลุมของชุมชนและเจ ้าหน ้าทีส่วนท ้องถิน
                                                      ่

การวิเคราะห์ข ้อมูล                        รายงาน โครงการ และเอกสารทีบันทึกไว ้ของภาครัฐ

การสํารวจ                                  การจัดทําแบบสอบถามในประเด็นทีชุมชนเผชิญหรือกังวล

การอภิปรายเฉพาะรายกลุม
                     ่                     การสัมภาษณ์รายกลุ่มในประเด็นเกียวกับความต ้องการและความกังวล
                                           ของชุมชน
การสัมมนา                                                   ่
                                           อภิปรายกับผู ้มีสวนเกียวข ้องในประเด็นเกียวกับความต ้องการของชุมชน


                           ตาราง 3.1: วิธการการประเมินความต้องการของชุมชน
                                         ี

โดยจะพิจารณาในแต่ละวิธการอย่างละเอียด ดังต่อไปนี
                      ี

       ั
การส มภาษณ์: ผู ้เรียนอาจจะเริมพูด คุยกับกลุ่ม คนทีมีบทบาทในชุมชนกลุ่ม เล็ ก ๆ เช่น กลุ่มผู ้นํ า ชุม ชน หรือ
เจ ้าหน ้าทีส่วนท ้องถิน โดยจะเป็ นการซักถามว่าอะไรเป็ นประเด็นทีมีความสําคัญต่อการพัฒนาชุมชน

การวิเคราะห์ขอมูล: ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องเช็คข ้อมูลว่ามีประเด็นใดบ ้างทีภาครัฐหรือหน่วยงานอืน ๆ มีการจัดทําไว ้
                 ้
แล ้วเกียวกับชุมชนของผู ้เรียน ซึงแหล่งข ้อมูลต่าง ๆ ประกอบด ้วย:


    •    ข ้อมูลทีภาครัฐบันทึกไว ้




                                                                                                            Page 4
•    การสืบค ้นรายงานหรือโครงการ จากอินเตอร์เน็ ต
    •    การหาข ้อมูลจากหนังสือพิมพ์ท ้องถินในประเด็นการพัฒนาชุมชน

การสํารวจ: หากในชุมชนของผู ้เรียนไม่มงานวิจัยหรือข ้อมูลทีสําคัญใด ๆ ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องทําการสํารวจเองโดย
                                     ี
การสอบถามประชาชนในชุมชนโดยใช ้แบบสอบถาม ซึงการสํารวจจะช่วยให ้ผู ้เรียนได ้แนวคิดว่าชุมชนรู ้สึกอย่างไร
กับประเด็นทีพวกเค ้ากังวล

การอภิปรายเฉพาะรายกลุม: ผู ้เรียนสามารถอภิปรายกับกลุมคนในชุมชน โดยการเริมระบุประเด็นต่าง ๆ แล ้วนํ า
                          ่                             ่
ประเด็นเหล่านีไปอภิปรายร่วมกับกลุมชาวบ ้าน ซึงคําถามจะประกอบด ้วย
                                 ่

•        อะไรคือความต ้องการหลักของชุมชน?
•        ชาวบ ้านกลุมใดประสบกับปั ญหาทีชุมชนกังวลอยู?
                      ่                                  ่
•        ผู ้เรียนจัดการกับประเด็นทีชาวบ ้านกังวลอย่างไร ?

          ั                                                    ่
การสมมนา: ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องให ้ประชาชนในพืนทีเข ้ามามีสวนร่วมกับแผนการพัฒนาทีผู ้เรียนต ้องการจะทํา โดย
ผู ้เรีย นต ้องให ้กลุ่ม ชาวบ ้านกลุ่ม ต่า ง ๆ และองค์กรเอกชนมาอภิปรายร่ วมกัน ว่าชุมชนต ้องการอะไร และทุกฝ่ าย
สามารถทํางานร่วมกันได ้อย่างไร ไปในทิศทางไหน

    ตัวอย่างคําถามทีผู ้เรียนสามารถนํ าไปถาม ดังนี

    1. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นความต ้องการของคนส่วนใหญ่ในชุมชนหรือไม่ ?

    2. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นเรืองเร่งด่วนหรือไม่ ?

    3. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นสิงทีมีความเป็ นไปได ้ทีจะสนองตอบความต ้องการของคนในชุมชนหรือไม่ ?

       เมือเสร็จสินกระบวนการดังกล่าว ผู ้เรียนควรจะสามารถวาดภาพคร่าว ๆ ได ้ว่า ผู ้เรียนจะทําอะไรเพือพัฒนา
ชุมชนของผู ้เรียนได ้บ ้าง รวมทังร่างแผนงานว่าผู ้เรียนจะดําเนินการอย่างไร โดยผู ้เรียนสามารถนํ าแผนร่างดังกล่าว
                                                              ่
ไปเสนอ กระตุ ้น หรือสร ้างแรงจูงใจ ให ้คนในชุมชนเข ้ามามีสวนร่วมกับศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทของผู ้เรียน
                                                                                          ี

ขนตอนต่อไป:
   ั               เมือผู ้เรียนต ้องการจัดตังศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทในชุมชนของผู ้เรียน ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องนํ าความ
                                                                    ี
ต ้องการของ        คนในชุมชนทีผู ้เรียนค ้นพบมาวางในเป้ าหมายและยุทธศาสตร์ของแผนจัดตังศูนย์ฯ ด ้วย

3.2.2 การประเมินความต้องการของชุมชน

        การประเมินความต ้องการของชุมชน เป็ นวิธการทีช่วยให ้ผู ้เรียนรู ้ว่าชาวบ ้านในชุมชนของผู ้เรียนต ้องการ
                                                            ี
อะไร ซึงจะช่วยให ้ผู ้เรียนเข ้าใจว่าบริการด ้านใดทีผู ้เรียนควรจะนํ ามาให ้ชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทของผู ้เรียน
                                                                                                           ี

           ผู ้เรียนต ้องแน่ใจว่ากลุมเป้ าหมายทีผู ้เรียนต ้องการพูดคุยด ้วยมีความสมดุลทังทางด ้านอายุและเพศ โดย
                                    ่
ผู ้เรียนสามารถทําการสัมภาษณ์ตวต่อต่อกับบุคคล ดังต่อไปนี
                                      ั

•        บุคคลคนเดียว คล ้ายกับการสนทนาหรือพูดคุยกัน
•        กลุมบุคคล (5-10 คน) ซึงสถานทีจะต ้องมีความสะดวกสบายต่อการอภิปรายกลุม
            ่                                                               ่




                                                                                                              Page 5
บุคคลและกลุมคนเปาหมาย ควรจะเปน:
           ่    ้            ็

1.   ตัวแทนฝ่ ายปกครองท ้องถิน
2.    ครู อาจารย์
3.    นักธุรกิจท ้องถิน
4.    ผู ้หญิง
5.    บุคคลทีมีความชํานาญในด ้านต่าง ๆ
6.    ผู ้สูงอายุ
7.    นักเรียน

แบบฟอร์มข ้างล่าง เป็ นแบบฟอร์มสําหรับใช ้ประเมินความต ้องการของชุมชน โดยผู ้เรียนสามารถเพิมข ้อคําถามอืน
ๆ ทีผู ้เรียนเห็นว่าเกียวข ้องกับชุมชนผู ้เรียนลงไปได ้

 การประเมินความต้องการของชุมชน


ข้อมูลการตอบแบบสอบถาม: (สอบถามเป็ นรายบุคคลตามข ้อคําถามในตาราง หากบุคคลใดไม่สามารถอ่านออก
เขียนได ้ ผู ้เรียนหรืออาสาสมัครสามารถกรอกข ้อมูลลงแบบฟอร์มให ้แก่พวกเค ้าได)
                                                                            ้

I. ข้อมูลทวไป
          ั
 1 ชือ

 2      อายุ

 3      อาชีพ

 4      ทีอยู่

 5      ระยะเวลาทีอาศัยอยูในชุมชน
                          ่

 6      ระดับการศึกษา

 7      รายได ้ต่อเดือน

 8             ิ
        ทรัพย์สนส่วนบุคคล (บ ้าน ทีดิน ฯลฯ)
 9      ขนาดครอบครัว (มีสมาชิกอืนอาศัยอยูใน
                                         ่
        บ ้านด ้วยหรือไม่)




                                                                                                 Page 6
ิ
II. ข้อมูลด้านทร ัพย์สนส่วนต ัว
                 ิ
         ทร ัพย์สน                                 ใช่   ไม่   คําอธิบาย

 i.       รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์
          รถแทรคเตอร์
 ii.      โทรทัศน์
 iii.     วิทยุ
 iv.      ระบบประปา

 v.       ไฟฟ้ า

 vi.      ถนนทางเข ้าบ ้าน

 vii.     บ ้านส่วนตัวหรือบ ้านเช่า
 viii.    คอมพิวเตอร์

 ix.      การเชือมต่ออินเตอร์เน็ ต
 x.       โทรศัพท์เคลือนที
 xi.      บัญชีธนาคาร

 xii.     การประกันภัย
 xiii.    ผู ้เรียนได ้รับประโยชน์จากโครงการ
          ของรัฐบาลหรือไม่? ถ ้าใช่,
          โครงการอะไร? ถ ้าไม่, ทําไม ไม่?
 xiv.     ผู ้เรียนมีเรชันการ์ดหรือไม่ ? (เรชัน
          การ์ด คือบัตรทีรัฐบาลอินเดียให ้กับ
          ผู ้มีรายได ้ตํา)
 xv.      โรงเรียนทีใกล ้ทีสุดอยูห่างจากบ ้าน
                                      ่
          ผู ้เรียนเท่าไร?
 xvi.     สถานพยาบาลทีใกล ้ทีสุดอยูหาง    ่ ่
          จาก       บ ้านผู ้เรียนเท่าไร?
 xvii.    ผู ้เรียนได ้ไปเลือกตังครังล่าสุดทีพึง
          เกิดขึน หรือไม่?
 xviii.   ผู ้เรียนมีประเด็นสําคัญอืน ๆ ที
          ผู ้เรียนต ้องการถามหรือไม่?




                                                                           Page 7
III. ความคิดเห็ น และ การสํารวจ


    1. อะไร คือ ปั ญหาทีสําคัญ 3 ประการ ในชุมชนของผู ้เรียน ?
  i._________________________________________
 ii._________________________________________
iii._________________________________________

  2. บุคคลกลุมใดของชุมชนทีได ้รับผลกระทบมากทีสุดจากปั ญหาเหล่านี ?
             ่
    ___________________________________________

    3. ผู ้เรียนคิดว่าขณะนีชุมชุนของผู ้เรียนต ้องการอะไรมากทีสุด ระบุมา 3 ประการ
  i.______________________________________________
 ii.______________________________________________
iii.______________________________________________

  4. ผู ้เรียนคิดว่าการเปลียนแปลงอะไรทีเกิดขึนในชุมชน ทีผู ้เรียนมีความกังวลมากทีสุด ระบุมา 2 ประการ พร ้อม
  ทังเสนอแนวทางแก ้ไข

  การเปลียนแปลง
 i.______________________________________________
ii.______________________________________________
   แนวทางแก้ไข
 i._____________________________________________
ii._____________________________________________

          ื
  5. ระบุชอสิงทีผู ้เรียนกังวลมากทีสุดเกียวกับชุมชนของผู ้เรียน 3 ประการ พร ้อมทังเสนอวิธการแก ้ปั ญหา 3
                                                                                         ี
  ประการ
   ความก ังวล
  i.______________________________________________
 ii.______________________________________________
iii.______________________________________________

  วิธการแก้ปญหา
     ี      ั
  i._____________________________________________
 ii._____________________________________________
iii._____________________________________________

  6. ผู ้ทีมีอํานาจมากทีสุดในชุมชน คือใคร ?
   _________________________________________________

  7. กลุมบุคคลทีมีอํานาจมากทีสุดในชุมชน คือใคร ?
        ่
   _________________________________________________




                                                                                                      Page 8
8. บุคคลหรือกลุมบุคคล ทีมีอํานาจมากกว่ากัน ?
                 ่

    บุคคล _______________ กลุมบุคคล __________________
                             ่

            ิ
    9. ระบุสงทีผู ้เรียนภูมใจทีสุดในชุมชนของผู ้เรียนมา 3 ประการ
                           ิ
  i.__________________________________________
 ii.__________________________________________
iii.__________________________________________

             ิ
    10. ระบุสงทีผู ้เรียนปรารถนาทีจะเห็นในชุมชนของผู ้เรียน ในอีก 5 ปี ข ้างหน ้า (ในประเด็นการพัฒนา) ?
  i.____________________________________________
 ii.____________________________________________
iii.____________________________________________

  11. ผู ้เรียนต ้องการทีจะเห็นชุมชนของผู ้เรียนเป็ นอย่างไร ?
    ________________________________________________
    ________________________________________________
  ก. มันจะมีทางเป็ นไปได ้ไหมในชัวชีวตของผู ้เรียน ?
                                       ิ
    _________________________________________________
  ข. อะไร คือ สิงทีจะทําให ้ความฝั นนีของผู ้เรียนเป็ นจริง ?
    _________________________________________________
  ค. ผู ้เรียนจะแสดงบทบาทอะไรเพือให ้ความฝั นนีของผู ้เรียนเป็ นจริง ?
    _________________________________________________


 ทีมา: Anita Anand


  คําถาม 3.2

    1. ระบุวธการประเมินความต ้องการของชุมชนมา 5 ประการ
            ิ ี
  i._____________________________________________________
 ii._____________________________________________________
iii._____________________________________________________
iv._____________________________________________________
 v._____________________________________________________




 3.3 การประเมินสินทร ัพย์ของชุมชน




                                                                                                          Page 9
ในปั จ จุ บั น มีข ้อถกเถีย งมากมาย ว่า เกิด อะไรขึนกั บ ชุม ชน และชุม ชนยั ง ขาดแคลนอะไร ซึงผู เ รีย น  ้
จําเป็ นต ้องให ้ความสําคัญกับสินทรัพย์ตาง ๆ ของชุมชนด ้วย กล่าวคือ ผู ้เรียนควรรู ้ว่าชุมชนของผู ้เรียนมีอะไร เพือที
                                               ่
ผู ้เรีย นจะได ้รู ้ว่าชุม ชนผู ้เรีย นยัง ขาดแคลนอะไรอีกบ ้าง ซึงถือ เป็ นวิธ ีการทีดีมากทีจะเก็บ รวบรวมข ้อมูล เกียวกับ
สินทรัพย์ของชุมชนตนเอง

        เป้ าหมายของการประเมินสินทรั พย์ของชุมชน คือ เป็ นตัวช่วยให ้ผู ้เรียนวางกรอบการดําเนินงานด ้านการ
พั ฒนาชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทได ้อย่า งมีประสิท ธิภาพ ผู ้เรียนจะได ้รู ้ว่าศูนย์ฯ ควรทํา อะไรบ ้าง ซึงการ
                                          ี
ประเมินดังกล่าวจะช่วยให ้ผู ้เรียนมีฐานข ้อมูลทีมีประโยชน์ตอศูนย์ฯ และองค์กรพัฒนาสังคมอืน ๆ
                                                           ่

การบ ันทึกสินทร ัพย์ของชุมชน

          การบันทึกสินทรัพย์ของชุมชน เป็ นวิธทช่วยเก็บข ้อมูลด ้านสินทรัพย์ของชุมชน ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนอาจ
                                             ี ี
บันทึกข ้อมูลเกียวกับพืนทีเพาะปลูก พืนทีป่ าไม ้ สถานทีราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล และสินทรัพย์อน ๆ ของ ื
ชุมชน

                                                                                    ิ
           การบันทึกจะเป็ นตัวช่วยเก็บข ้อมูลทีแท ้จริงว่าชุมชนของผู ้เรียนมีสนทรัพย์อะไรบ ้าง และเมือใดทีองค์กร
ต่า ง ๆ ต ้องการมาร่ ว มงานกับ ผู ้เรีย น หรือ เมือผู ้เรีย นต ้องการสร ้างศูน ย์การเรีย นรู ้ไอซีท ข นในชุม ชนของผู ้เรีย น
                                                                                                    ี ึ
ผู ้เรียนจะพบว่าข ้อมูลดังกล่าวมีป ระโยชน์อย่า งมาก ยิงไปกว่านั น ผู ้เรียนยัง สามารถนํ าข ้อมูลดังกล่าวไปทํา เป็ น
ฐานข ้อมูลออนไลน์ ทีสามารถแบ่งปั นกับองค์กรอืน ๆ ได ้ด ้วย

คําถาม 3.3

 1. การบันทึกข ้อมูลสินทรัพย์ของชุมชน สามารถนํ าไปใช ้ทําอะไรได ้บ ้าง ระบุ 3 ประการ
._________________________________________________
._________________________________________________
._________________________________________________

 บทสรุปย่อ
        ใน หน่ วยนี ช่วยให ้ผู ้เรียนเข ้าใจว่าแนวคิดการพั ฒนาชุมชนคืออะไร มีความเกียวโยงกับศูนย์การเรียนรู ้
                                                                               ิ
 ICT ชุมชนอย่างไร การประเมินความต ้องการของชุมชนคืออะไร และสามารถระบุสนทรัพย์ของชุมชนได ้
 ประเด็นหลัก คือ:
     • ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน เป็ นสถานทีทีปฎิบตงานด ้านการพัฒนาชุมชน
                                                        ั ิ
     • ชุมชนมีความต ้องการและมีสนทรัพย์    ิ
     • การทําความเข ้าใจความต ้องการของชุมชนและสินทรัพย์ของชุมชน มีความสําคัญต่อความประสบ
          ความสําเร็จของศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน
     • การประเมินความต ้องการของชุมชนและการบันทึกสินทรัพย์ของชุมชน มีความสําคัญต่อการวางแผนให ้
          ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชนประสบผลสําเร็จ

  การประเมินผล


ทําการประเมินความต ้องการของชุมชนผู ้เรียนเอง จากครู อาจารย์ เจ ้าหน ้าทีภาครั ฐ และเจ ้าหน ้าทีองค์กรพั ฒนา
เอกชน เพือค ้นหาว่ากลุมคนเหล่านีคิดถึงอะไรมากทีสุดในปรับปรุงผู ้เรียนภาพชีวตของคนในชุมชน
                      ่                                                    ิ




                                                                                                                 Page 10
การนําเสนอ ประกอบไปด้วย :
1.   บันทึกเทปหรือซีด ี (5-7 นาที)
2.   วีดโอเทป (5 นาที)
        ี
3.   เขียนบทความ (2 หน ้า A4)
4.   การวาดภาพ
5.   คํากลอน
6.   บทความประกอบภาพ (ประกอบด ้วยภาพ 10 ภาพ และข ้อความ)


 รายการอ้างอิง


Frank, Flo and Smith, Anne (2005), “The Community Development Handbook”, Human Resources
Development Canada: Canada, URL: http://www.hrdc-drhc.gc.ca/community

Harris, Roger (2007), “A Framework for Designing Telecentres”, Roger Harris Associates, Hong Kong

Hegde N G (2000), “Community Development in India: An Overview”, India, URL:
http://www.baif.org.in/aspx_pages/pdf/Agriculture/Community%20Devt%20in%20India.pdf

B S, Aparna Sharma, et al (2000), “A Community Needs Assessment Guide”, Loyola University
Chicago, Chicago: USA, URL:
http://www.luc.edu/curl/pdfs/A_Community_Needs_Assessment_Guide_.pdf

ข้อมูลเพิมเติม ดูได้จากเว็บไซต์ ด ังนี:

Theory and practice of community development (www.infed.org/guides/community)




                                                                                          Page 11

More Related Content

What's hot

วิจัยบทที่ 1 5
วิจัยบทที่ 1 5วิจัยบทที่ 1 5
วิจัยบทที่ 1 5Kongkrit Pimpa
 
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชนแนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชนTasanan Aboonma
 
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐsiriporn pongvinyoo
 
12.ส่วนที่ 8
12.ส่วนที่ 812.ส่วนที่ 8
12.ส่วนที่ 8Junior Bush
 
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรี
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรีเมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรี
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรีFURD_RSU
 
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003peter dontoom
 
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2พัน พัน
 

What's hot (8)

วิจัยบทที่ 1 5
วิจัยบทที่ 1 5วิจัยบทที่ 1 5
วิจัยบทที่ 1 5
 
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชนแนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน
แนวข้อสอบอาสาพัฒนาชุมชน เกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน
 
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
ภาพรวมของการนำเอา Social network มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
 
12.ส่วนที่ 8
12.ส่วนที่ 812.ส่วนที่ 8
12.ส่วนที่ 8
 
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรี
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรีเมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรี
เมืองยะลา กับแนวคิดการจัดการเมืองของนายกเทศมนตรี
 
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003
การพัฒนาตนเอง ชุมชน 31003
 
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is3 การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ กลุ่ม2
 
Social reform
Social reformSocial reform
Social reform
 

Similar to หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 3: ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน และการพัฒนาชุมชน

บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8nattawad147
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8benty2443
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8wanneemayss
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8kanwan0429
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8kanwan0429
 
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่น
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่นการวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่น
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่นKorawan Sangkakorn
 
โรงเรียนและชุมชน
โรงเรียนและชุมชนโรงเรียนและชุมชน
โรงเรียนและชุมชนTwatchai Tangutairuang
 
เสริมสร้างคุณธรรม
เสริมสร้างคุณธรรมเสริมสร้างคุณธรรม
เสริมสร้างคุณธรรมchanhom357
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5kanwan0429
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5kanwan0429
 
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชนWatcharin Chongkonsatit
 
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมโครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมJustarn Pd
 
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคม
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคมหน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคม
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคมChalit Arm'k
 

Similar to หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 3: ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน และการพัฒนาชุมชน (20)

บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
 
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่น
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่นการวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่น
การวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่น
 
โรงเรียนและชุมชน
โรงเรียนและชุมชนโรงเรียนและชุมชน
โรงเรียนและชุมชน
 
เสริมสร้างคุณธรรม
เสริมสร้างคุณธรรมเสริมสร้างคุณธรรม
เสริมสร้างคุณธรรม
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๕
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๕แผนการจัดการเรียนรู้ที่๕
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๕
 
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการบทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
2 แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
 
41. social 3. 21003
41. social  3. 2100341. social  3. 21003
41. social 3. 21003
 
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมโครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
 
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคม
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคมหน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคม
หน่วยที่ 1 ลักษณะและการจัดระเบียบทางสังคม ความหมายทางสังคม
 
พัฒนาชุมชน
พัฒนาชุมชนพัฒนาชุมชน
พัฒนาชุมชน
 

More from thanathip

Joomla O public version
Joomla O public versionJoomla O public version
Joomla O public versionthanathip
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลา
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลาหลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลา
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลาthanathip
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...thanathip
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...thanathip
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจthanathip
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบthanathip
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...thanathip
 
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนหลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนthanathip
 
FUNDAMENTALS OF COMPUTER
FUNDAMENTALS OF COMPUTERFUNDAMENTALS OF COMPUTER
FUNDAMENTALS OF COMPUTERthanathip
 

More from thanathip (9)

Joomla O public version
Joomla O public versionJoomla O public version
Joomla O public version
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลา
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลาหลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลา
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 4: การบริหารเวลา
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
 
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
หลักสูตรที่ 3 หน่วยที่ 2: กระบวนการและการปฏิบัติงานสำหรับศูนย์การเรียนรู้ ICT...
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 3: การวางแผนด้านวัสดุอุปกรณ์และระบบ
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 2: การบริหารจัดการหรือการวางแผนทางกายภาพของศูนย์การเรี...
 
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนหลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน
หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน
 
FUNDAMENTALS OF COMPUTER
FUNDAMENTALS OF COMPUTERFUNDAMENTALS OF COMPUTER
FUNDAMENTALS OF COMPUTER
 

หลักสูตรที่ 1 หน่วยที่ 3: ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน และการพัฒนาชุมชน

  • 1. หน่วยที 3: ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน และการพ ัฒนาชุมชน ั ผลสมฤทธิจากการศึกษา คําชีแจง 3.1 การนิยามความหมายของการพัฒนาชุมชน 3.2 การประเมินความต ้องการของชุมชน 3.3 การประเมินสินทรัพย์ของชุมชน บทสรุปย่อ การประเมินผล รายการอ้างอิง ั ผลสมฤทธิจากการศึกษา หล ังจากเรียนจบแล้ว ผูเรียนควรจะมีความสามารถด ังนี: ้ 1. นิยามความหมายของการพัฒนาชุมชน 2. ระบุบทบาทของศูนย์การเรียนรู ้ไอซีท ี ทีมีตอชุมชน ่ 3. ระบุขนตอนการประเมินความต ้องการของชุมชน ั 4. ่ จําแนกผู ้มีสวนเกียวข ้องในการพัฒนาชุมชน คําชีแจง ใน หน่วย ทีผ่านมา ผู ้เรียนได ้เห็นขันตอนต่าง ๆ ตังแต่เริมจัดตัง ไปจนถึงขันตอนการปฎิบัตงานของ ศูนย์ ิ ่ การเรียนรู ้ ICT ชุมชน รวมทังได ้ตระหนักถึงบทบาทของผู ้มีสวนเกียวข ้องประเภทต่าง ๆ ใน หน่ วย นี ผู ้เรียนจะได ้เรียนรู ้แนวคิดของการพั ฒนาชุมชน การประเมินความต ้องการของชุมชน และ ประเมินสินทรัพย์ในชุมชน อย่างไรก็ตาม ผู ้เรียนต ้องทราบก่อนว่า ชุมชน คือ อะไร ั ึ ชุมชน คือ กลุมของผู ้คนทีอาศัยอยูร่วมกัน ในพืนทีเดียวกัน และมีปฎิสมพันธ์ซงกันและกัน โดยชุมชน ่ ่ อาจจะหมายรวมถึง • ครอบครัวเดียว (พ่อแม่ พีชาย น ้องชาย พีสาว น ้องสาว) • ครอบครัวขยาย (ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้ า น ้า อา หลานชาย หลานสาว ญาติพน ้อง) ี • เพือน Page 1
  • 2. เพือนบ ้าน • คนในชุมชนของผู ้เรียน บางครั ง คําว่า “ชุมชน” ถูกใช ้เพืออธิบายถึงประชาชนและกลุ่มคนทีมีความเชือเหมือนกัน (ศาสนา) มี ความสนใจในบางสิงบางอย่างร่วมกัน (กีฬา) มีอาชีพเดียวกัน (เกษตรกร ช่างฝี มอ) เป็ นต ้น ื ในประเทศอินเดีย แผนการพัฒนาต่าง ๆ ทังในระดับชุมชนและระดับชาติ จะเน ้นการให ้ความสําคัญกับการ พัฒนาชุมชนทีห่างไกลหรือชนบท 3.1 ความหมายของการพ ัฒนาชุมชน เมื อเราพิ จ ารณาถึง ชุ ม ชน เราก็ มั ก จะมองในภาพของสภาพภู ม ิป ระเทศ เช่ น เมือ ง หรื อ หมู่ บ า น ้ แต่อย่างไรก็ตาม คําว่าชุมชน สามารถอธิบายในมิตของ ประเพณีทางวัฒนธรรม อาชีพ ภาษา ความเชือ ได ้ด ้วย ิ ซึงโดยส่วนใหญ่ คนในชุมชนมักจะอยู่ในสังคมทีมากกว่า 1 สังคม ขึนไป ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนสามารถเป็ นส่วน หนึงของหมูบ ้านและยังเป็ นส่วนหนึงของสังคมภาคเกษตรในเวลาเดียวกันได ้ด ้วย ่ 3.1.1 การพ ัฒนาชุมชน คืออะไร? การพั ฒนาชุมชน คือ แผนการพั ฒนาชุมชนทังทางด ้านเศรษฐกิจ สังคม สิงแวดล ้อม และวัฒนธรรม ซึง แผนพัฒนาต่าง ๆ เป็ นแผนการทีสมาชิกในชุมชนมีการดําเนินการร่วมกันเพือแก ้ปั ญหาของชุมชน ผลทีได ้จากการพั ฒ นาชุม ชน คือ คนในชุม ชนจะมีผู ้เรีย นภาพชีว ต ทีดีข น ซึงเป็ นการทีชุม ชนได ้รั บ ิ ึ ผลประโยชน์ร่วมกันและเป็ นการแสดงบทบาทความรั บผิดชอบต่อชุมชนร่วมกัน อาจกล่าวได ้ว่า การพั ฒนาต ้อง พัฒนาทุกภาคส่วนของชุมชน ได ้แก่ ภาคประชาชน (ผู ้ชาย ผู ้หญิง และเด็ก) ภาคการเงิน (การระดมทุน) และภาค โครงสร ้างพืนฐาน (โรงเรียน เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การธนาคาร สาธารณสุข ไฟฟ้ า นํ าประปา ถนน การสือสาร อืน ๆ) 3.1.2 กรอบการพ ัฒนาชุมชน การพัฒนาชุมชน คือ กระบวนการทีมีความต่อเนืองและเปลียนแปลงได ้ โดยมีองค์ประกอบทีสําคัญ 4 ประการ ดังนี 1. การสร ้างแรงสนับสนุน 2. การจัดทําแผน 3. การประเมินแผน 4. การดํารงรักษาแรงกระตุ ้น การสร้างแรงสนบสนุน: ขันตอนแรก คือ การคิดค ้น การทําความเข ้าใจ และการสนั บสนุ นกระบวนการพั ฒนา ั ชุมชน ในขันตอนนี จะเป็ นการช่ว ยเสริมสมรรถภาพของชุมชนให ้สามารถเผชิญกับ ความท ้าทายหรือฉกฉวย โอกาสทีสําคัญ ต่าง ๆ ทีเป็ นประโยชน์ต่อชุมชนให ้ได ้ ตัวอย่างเช่น หากในชุมชนของผู ้เรียนไม่มโรงเรียน ี ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องสร ้างแรงสนับสนุนจากคนในชุมชนผู ้เรียน โดยผู ้เรียนอาจจะพยายามสร ้างความเชือมันให ้กับคน ในชุมชนเห็นว่าโรงเรียนมีความสําคัญต่อชุมชนอย่างไร Page 2
  • 3. การจ ัดทําแผน: แผนการพัฒนาชุมชน ประกอบด ้วย การดําเนินการแก ้ปั ญหาของชุมชนอย่างเป็ นระบบ และสร ้าง ทางเลือกแบบต่าง ๆ มาจัดการกับปั ญหาทีเกิดขึน ตัวอย่างเช่น เมือผู ้เรียนต ้องการสร ้างโรงเรียนในชุมชนของ ผู ้เรียน ผู ้เรียนอาจจะต ้องปรับปรุงแผนการหรือแก ้ปั ญหาต่าง ๆ ทีเกิดขึน โดยทดลองวิธแก ้ปั ญหาหลาย ี ๆ วิธ ี เพือให ้การก่อสร ้างโรงเรียนของชุมชน ดําเนินไปอย่างราบรืน การประเมินแผน: กระบวนการประเมินจะต ้องมีการวางแผนและการจัดการทีดี ซึงการประเมินทีมีประสิทธิภาพ จํ า เป็ นต ้องอาศัย ผู ้นํ าทีเข ้มแข็ ง รวมทังกระบวนการและโครงสร ้างต่า ง ๆ ต ้องมีบ ทบาทและความรั บ ผิด ชอบที ชัดเจน ตัว อย่างเช่น ผู ้เรียนต ้องจัดการกับต ้นทุน ทรั พ ยากรมนุ ษย์ และระยะเวลา ในการก่อสร ้างโรงเรีย นใน ชุมชนของผู ้เรียน การดํารงร ักษาแรงกระตุน: หลังจากกระบวนการประเมินแผนเบืองต ้น ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องรักษาผลประโยชน์ของ ้ ่ ชุมชน ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนอาจจะต ้องกระตุ ้นให ้ชุมชนเข ้ามามีสวนร่วมและพยายามให ้ชุมชนมันใจว่าโรงเรียนมี บทบาทสําคัญต่อชุมชน 3.1.3 ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน ก ับการพ ัฒนาชุมชน ชุม ชนส่ว นใหญ่ มั กจะเห็ น ด ้วยกับแผนการพั ฒนาชุม ชน แต่ก็ ยัง ไม่มก ารคิด ริเ ริมหรือจั ดทํ าแผนพั ฒ นา ี ชุมชนของตนเองทีเป็ นรูปธรรมชัดเจน เหตุผล คือ ชุมชนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงศักยภาพของชุมชนตนเอง หรือ ยังขาดผู ้นํ าชุมชนทีตระหนักถึงเรืองการพัฒนาชุมชนทีมากพอ ในฐานะผู ้จัดการศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน ผู ้เรียนต ้องเป็ นผู ้คิดริเริมในการพัฒนาชุมชนได ้ โดยผู ้เรียน อาจจะต ้องเข ้าไปมีบทบาทในฐานะองค์กรพัฒนาทีต ้องการเห็นการเปลียนแปลงในชุมชน ในฐานะองค์ก รพั ฒ นาทีต ้องการเห็ น การเปลียนแปลง ผู ้เรีย นสามารถแนะนํ าบริก ารด ้านต่า ง ๆ ทีเป็ น ประโยชน์ ต่อการพั ฒนาให ้กับ ชุมชนของผู ้เรียน เช่น บริการด ้านการศึกษา สาธารณสุข โครงการของภาครั ฐ การเกษตรกรรม เป็ นต ้น ซึงจะอธิบายรายละเอียดของการให ้บริการด ้านต่าง ๆ ต่อชุมชนผ่านทางศูนย์การ เรียนรู ้ ICT ชุมชน ในบทที 8 ต่อไป อย่างไรก็ตาม มีความเป็ นไปได ้ว่าผู ้เรียนอาจจะไม่สามารถเข ้าไปเกียวพันกับทุก ๆ กิจกรรมของชุมชนได ้ ทังหมด ดัง นั น ผู ้เรียนอาจจะให ้คนทีเหมาะสมในแต่ละด ้านของงานพั ฒนาชุม ชนมาช่ว ยทํ า กิจ กรรมการพั ฒ นา สังคมด ้วย คําถาม 3.1 1. ระบุองค์ประกอบของกรอบการพัฒนาชุมชน 4 ประการ i._____________________________ ii._____________________________ iii._____________________________ iv._____________________________ 3.2 การประเมินความต้องการของชุมชน Page 3
  • 4. การประสบความสําเร็จของการจัดตังศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน จะขึนอยู่กับสินค ้าและบริการด ้านต่าง ๆ ที ผู ้เรียนจะให ้กับชุมชน เพือเติมเต็มความต ้องการของคนในชุมชนของผู ้เรียน ซึงผู ้เรียนจะรู ้ได ้อย่า งไรว่าชุมชน ต ้องการอะไร ? การเข ้าใจความต ้องการของชุมชน เป็ นสิงแรกทีผู ้เรียนควรจะรู ้ เพือทีจะนํ าไปช่วยในการวางแผนว่าศูนย์ การเรียนรู ้ไอซีทของชุมชนควรมีลัก ษณะอย่า งไร ซึงการทํ าความเข ้าใจความต ้องการของชุมชน เรีย กว่า ‘การ ี ประเมินความต ้องการของชุมชน’ ในการประเมิน ความต ้องการของชุม ชน ผู ้เรีย นจํ า เป็ นต ้องเข ้าใจว่า ทรั พ ยากรด ้านต่า ง ๆ ในชุม ชน มี อะไรบ ้าง ไม่วาจะเป็ น ทรัพยากรมนุษย์ เงิน สินค ้า และบริการ นอกจากนีผู ้เรียนต ้องรู ้ว่าชุมชนต ้องการอะไร ่ มีความหวัง ความฝั น และความกลัว อะไรบ ้าง เมือผู ้เรียนรู ้ว่าชุมชนต ้องการอะไร มีทรัพยากรอะไรในชุมชนบ ้าง เมือนั นผู ้เรียนก็จะสามารถออกแบบได ้ว่า ผู ้เรียนจะดําเนินการอย่างไรเพือสนองตอบความต ้องการของชุมชนได ้ดีทสุด ี 3.2.1 วิธการการประเมินความต้องการของชุมชน ี วิธการประเมินความต ้องการของชุมชนสามารถทําได ้หลายวิธ ี โดยแสดงดังตาราง 3.1 ดังนี ี วิธการ ี ใคร/อะไร การสัมภาษณ์ หัวหน ้ากลุมของชุมชนและเจ ้าหน ้าทีส่วนท ้องถิน ่ การวิเคราะห์ข ้อมูล รายงาน โครงการ และเอกสารทีบันทึกไว ้ของภาครัฐ การสํารวจ การจัดทําแบบสอบถามในประเด็นทีชุมชนเผชิญหรือกังวล การอภิปรายเฉพาะรายกลุม ่ การสัมภาษณ์รายกลุ่มในประเด็นเกียวกับความต ้องการและความกังวล ของชุมชน การสัมมนา ่ อภิปรายกับผู ้มีสวนเกียวข ้องในประเด็นเกียวกับความต ้องการของชุมชน ตาราง 3.1: วิธการการประเมินความต้องการของชุมชน ี โดยจะพิจารณาในแต่ละวิธการอย่างละเอียด ดังต่อไปนี ี ั การส มภาษณ์: ผู ้เรียนอาจจะเริมพูด คุยกับกลุ่ม คนทีมีบทบาทในชุมชนกลุ่ม เล็ ก ๆ เช่น กลุ่มผู ้นํ า ชุม ชน หรือ เจ ้าหน ้าทีส่วนท ้องถิน โดยจะเป็ นการซักถามว่าอะไรเป็ นประเด็นทีมีความสําคัญต่อการพัฒนาชุมชน การวิเคราะห์ขอมูล: ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องเช็คข ้อมูลว่ามีประเด็นใดบ ้างทีภาครัฐหรือหน่วยงานอืน ๆ มีการจัดทําไว ้ ้ แล ้วเกียวกับชุมชนของผู ้เรียน ซึงแหล่งข ้อมูลต่าง ๆ ประกอบด ้วย: • ข ้อมูลทีภาครัฐบันทึกไว ้ Page 4
  • 5. การสืบค ้นรายงานหรือโครงการ จากอินเตอร์เน็ ต • การหาข ้อมูลจากหนังสือพิมพ์ท ้องถินในประเด็นการพัฒนาชุมชน การสํารวจ: หากในชุมชนของผู ้เรียนไม่มงานวิจัยหรือข ้อมูลทีสําคัญใด ๆ ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องทําการสํารวจเองโดย ี การสอบถามประชาชนในชุมชนโดยใช ้แบบสอบถาม ซึงการสํารวจจะช่วยให ้ผู ้เรียนได ้แนวคิดว่าชุมชนรู ้สึกอย่างไร กับประเด็นทีพวกเค ้ากังวล การอภิปรายเฉพาะรายกลุม: ผู ้เรียนสามารถอภิปรายกับกลุมคนในชุมชน โดยการเริมระบุประเด็นต่าง ๆ แล ้วนํ า ่ ่ ประเด็นเหล่านีไปอภิปรายร่วมกับกลุมชาวบ ้าน ซึงคําถามจะประกอบด ้วย ่ • อะไรคือความต ้องการหลักของชุมชน? • ชาวบ ้านกลุมใดประสบกับปั ญหาทีชุมชนกังวลอยู? ่ ่ • ผู ้เรียนจัดการกับประเด็นทีชาวบ ้านกังวลอย่างไร ? ั ่ การสมมนา: ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องให ้ประชาชนในพืนทีเข ้ามามีสวนร่วมกับแผนการพัฒนาทีผู ้เรียนต ้องการจะทํา โดย ผู ้เรีย นต ้องให ้กลุ่ม ชาวบ ้านกลุ่ม ต่า ง ๆ และองค์กรเอกชนมาอภิปรายร่ วมกัน ว่าชุมชนต ้องการอะไร และทุกฝ่ าย สามารถทํางานร่วมกันได ้อย่างไร ไปในทิศทางไหน ตัวอย่างคําถามทีผู ้เรียนสามารถนํ าไปถาม ดังนี 1. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นความต ้องการของคนส่วนใหญ่ในชุมชนหรือไม่ ? 2. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นเรืองเร่งด่วนหรือไม่ ? 3. สิงทีชุมชนต ้องการ เป็ นสิงทีมีความเป็ นไปได ้ทีจะสนองตอบความต ้องการของคนในชุมชนหรือไม่ ? เมือเสร็จสินกระบวนการดังกล่าว ผู ้เรียนควรจะสามารถวาดภาพคร่าว ๆ ได ้ว่า ผู ้เรียนจะทําอะไรเพือพัฒนา ชุมชนของผู ้เรียนได ้บ ้าง รวมทังร่างแผนงานว่าผู ้เรียนจะดําเนินการอย่างไร โดยผู ้เรียนสามารถนํ าแผนร่างดังกล่าว ่ ไปเสนอ กระตุ ้น หรือสร ้างแรงจูงใจ ให ้คนในชุมชนเข ้ามามีสวนร่วมกับศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทของผู ้เรียน ี ขนตอนต่อไป: ั เมือผู ้เรียนต ้องการจัดตังศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทในชุมชนของผู ้เรียน ผู ้เรียนจําเป็ นต ้องนํ าความ ี ต ้องการของ คนในชุมชนทีผู ้เรียนค ้นพบมาวางในเป้ าหมายและยุทธศาสตร์ของแผนจัดตังศูนย์ฯ ด ้วย 3.2.2 การประเมินความต้องการของชุมชน การประเมินความต ้องการของชุมชน เป็ นวิธการทีช่วยให ้ผู ้เรียนรู ้ว่าชาวบ ้านในชุมชนของผู ้เรียนต ้องการ ี อะไร ซึงจะช่วยให ้ผู ้เรียนเข ้าใจว่าบริการด ้านใดทีผู ้เรียนควรจะนํ ามาให ้ชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทของผู ้เรียน ี ผู ้เรียนต ้องแน่ใจว่ากลุมเป้ าหมายทีผู ้เรียนต ้องการพูดคุยด ้วยมีความสมดุลทังทางด ้านอายุและเพศ โดย ่ ผู ้เรียนสามารถทําการสัมภาษณ์ตวต่อต่อกับบุคคล ดังต่อไปนี ั • บุคคลคนเดียว คล ้ายกับการสนทนาหรือพูดคุยกัน • กลุมบุคคล (5-10 คน) ซึงสถานทีจะต ้องมีความสะดวกสบายต่อการอภิปรายกลุม ่ ่ Page 5
  • 6. บุคคลและกลุมคนเปาหมาย ควรจะเปน: ่ ้ ็ 1. ตัวแทนฝ่ ายปกครองท ้องถิน 2. ครู อาจารย์ 3. นักธุรกิจท ้องถิน 4. ผู ้หญิง 5. บุคคลทีมีความชํานาญในด ้านต่าง ๆ 6. ผู ้สูงอายุ 7. นักเรียน แบบฟอร์มข ้างล่าง เป็ นแบบฟอร์มสําหรับใช ้ประเมินความต ้องการของชุมชน โดยผู ้เรียนสามารถเพิมข ้อคําถามอืน ๆ ทีผู ้เรียนเห็นว่าเกียวข ้องกับชุมชนผู ้เรียนลงไปได ้ การประเมินความต้องการของชุมชน ข้อมูลการตอบแบบสอบถาม: (สอบถามเป็ นรายบุคคลตามข ้อคําถามในตาราง หากบุคคลใดไม่สามารถอ่านออก เขียนได ้ ผู ้เรียนหรืออาสาสมัครสามารถกรอกข ้อมูลลงแบบฟอร์มให ้แก่พวกเค ้าได) ้ I. ข้อมูลทวไป ั 1 ชือ 2 อายุ 3 อาชีพ 4 ทีอยู่ 5 ระยะเวลาทีอาศัยอยูในชุมชน ่ 6 ระดับการศึกษา 7 รายได ้ต่อเดือน 8 ิ ทรัพย์สนส่วนบุคคล (บ ้าน ทีดิน ฯลฯ) 9 ขนาดครอบครัว (มีสมาชิกอืนอาศัยอยูใน ่ บ ้านด ้วยหรือไม่) Page 6
  • 7. ิ II. ข้อมูลด้านทร ัพย์สนส่วนต ัว ิ ทร ัพย์สน ใช่ ไม่ คําอธิบาย i. รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถแทรคเตอร์ ii. โทรทัศน์ iii. วิทยุ iv. ระบบประปา v. ไฟฟ้ า vi. ถนนทางเข ้าบ ้าน vii. บ ้านส่วนตัวหรือบ ้านเช่า viii. คอมพิวเตอร์ ix. การเชือมต่ออินเตอร์เน็ ต x. โทรศัพท์เคลือนที xi. บัญชีธนาคาร xii. การประกันภัย xiii. ผู ้เรียนได ้รับประโยชน์จากโครงการ ของรัฐบาลหรือไม่? ถ ้าใช่, โครงการอะไร? ถ ้าไม่, ทําไม ไม่? xiv. ผู ้เรียนมีเรชันการ์ดหรือไม่ ? (เรชัน การ์ด คือบัตรทีรัฐบาลอินเดียให ้กับ ผู ้มีรายได ้ตํา) xv. โรงเรียนทีใกล ้ทีสุดอยูห่างจากบ ้าน ่ ผู ้เรียนเท่าไร? xvi. สถานพยาบาลทีใกล ้ทีสุดอยูหาง ่ ่ จาก บ ้านผู ้เรียนเท่าไร? xvii. ผู ้เรียนได ้ไปเลือกตังครังล่าสุดทีพึง เกิดขึน หรือไม่? xviii. ผู ้เรียนมีประเด็นสําคัญอืน ๆ ที ผู ้เรียนต ้องการถามหรือไม่? Page 7
  • 8. III. ความคิดเห็ น และ การสํารวจ 1. อะไร คือ ปั ญหาทีสําคัญ 3 ประการ ในชุมชนของผู ้เรียน ? i._________________________________________ ii._________________________________________ iii._________________________________________ 2. บุคคลกลุมใดของชุมชนทีได ้รับผลกระทบมากทีสุดจากปั ญหาเหล่านี ? ่ ___________________________________________ 3. ผู ้เรียนคิดว่าขณะนีชุมชุนของผู ้เรียนต ้องการอะไรมากทีสุด ระบุมา 3 ประการ i.______________________________________________ ii.______________________________________________ iii.______________________________________________ 4. ผู ้เรียนคิดว่าการเปลียนแปลงอะไรทีเกิดขึนในชุมชน ทีผู ้เรียนมีความกังวลมากทีสุด ระบุมา 2 ประการ พร ้อม ทังเสนอแนวทางแก ้ไข การเปลียนแปลง i.______________________________________________ ii.______________________________________________ แนวทางแก้ไข i._____________________________________________ ii._____________________________________________ ื 5. ระบุชอสิงทีผู ้เรียนกังวลมากทีสุดเกียวกับชุมชนของผู ้เรียน 3 ประการ พร ้อมทังเสนอวิธการแก ้ปั ญหา 3 ี ประการ ความก ังวล i.______________________________________________ ii.______________________________________________ iii.______________________________________________ วิธการแก้ปญหา ี ั i._____________________________________________ ii._____________________________________________ iii._____________________________________________ 6. ผู ้ทีมีอํานาจมากทีสุดในชุมชน คือใคร ? _________________________________________________ 7. กลุมบุคคลทีมีอํานาจมากทีสุดในชุมชน คือใคร ? ่ _________________________________________________ Page 8
  • 9. 8. บุคคลหรือกลุมบุคคล ทีมีอํานาจมากกว่ากัน ? ่ บุคคล _______________ กลุมบุคคล __________________ ่ ิ 9. ระบุสงทีผู ้เรียนภูมใจทีสุดในชุมชนของผู ้เรียนมา 3 ประการ ิ i.__________________________________________ ii.__________________________________________ iii.__________________________________________ ิ 10. ระบุสงทีผู ้เรียนปรารถนาทีจะเห็นในชุมชนของผู ้เรียน ในอีก 5 ปี ข ้างหน ้า (ในประเด็นการพัฒนา) ? i.____________________________________________ ii.____________________________________________ iii.____________________________________________ 11. ผู ้เรียนต ้องการทีจะเห็นชุมชนของผู ้เรียนเป็ นอย่างไร ? ________________________________________________ ________________________________________________ ก. มันจะมีทางเป็ นไปได ้ไหมในชัวชีวตของผู ้เรียน ? ิ _________________________________________________ ข. อะไร คือ สิงทีจะทําให ้ความฝั นนีของผู ้เรียนเป็ นจริง ? _________________________________________________ ค. ผู ้เรียนจะแสดงบทบาทอะไรเพือให ้ความฝั นนีของผู ้เรียนเป็ นจริง ? _________________________________________________ ทีมา: Anita Anand คําถาม 3.2 1. ระบุวธการประเมินความต ้องการของชุมชนมา 5 ประการ ิ ี i._____________________________________________________ ii._____________________________________________________ iii._____________________________________________________ iv._____________________________________________________ v._____________________________________________________ 3.3 การประเมินสินทร ัพย์ของชุมชน Page 9
  • 10. ในปั จ จุ บั น มีข ้อถกเถีย งมากมาย ว่า เกิด อะไรขึนกั บ ชุม ชน และชุม ชนยั ง ขาดแคลนอะไร ซึงผู เ รีย น ้ จําเป็ นต ้องให ้ความสําคัญกับสินทรัพย์ตาง ๆ ของชุมชนด ้วย กล่าวคือ ผู ้เรียนควรรู ้ว่าชุมชนของผู ้เรียนมีอะไร เพือที ่ ผู ้เรีย นจะได ้รู ้ว่าชุม ชนผู ้เรีย นยัง ขาดแคลนอะไรอีกบ ้าง ซึงถือ เป็ นวิธ ีการทีดีมากทีจะเก็บ รวบรวมข ้อมูล เกียวกับ สินทรัพย์ของชุมชนตนเอง เป้ าหมายของการประเมินสินทรั พย์ของชุมชน คือ เป็ นตัวช่วยให ้ผู ้เรียนวางกรอบการดําเนินงานด ้านการ พั ฒนาชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู ้ไอซีทได ้อย่า งมีประสิท ธิภาพ ผู ้เรียนจะได ้รู ้ว่าศูนย์ฯ ควรทํา อะไรบ ้าง ซึงการ ี ประเมินดังกล่าวจะช่วยให ้ผู ้เรียนมีฐานข ้อมูลทีมีประโยชน์ตอศูนย์ฯ และองค์กรพัฒนาสังคมอืน ๆ ่ การบ ันทึกสินทร ัพย์ของชุมชน การบันทึกสินทรัพย์ของชุมชน เป็ นวิธทช่วยเก็บข ้อมูลด ้านสินทรัพย์ของชุมชน ตัวอย่างเช่น ผู ้เรียนอาจ ี ี บันทึกข ้อมูลเกียวกับพืนทีเพาะปลูก พืนทีป่ าไม ้ สถานทีราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล และสินทรัพย์อน ๆ ของ ื ชุมชน ิ การบันทึกจะเป็ นตัวช่วยเก็บข ้อมูลทีแท ้จริงว่าชุมชนของผู ้เรียนมีสนทรัพย์อะไรบ ้าง และเมือใดทีองค์กร ต่า ง ๆ ต ้องการมาร่ ว มงานกับ ผู ้เรีย น หรือ เมือผู ้เรีย นต ้องการสร ้างศูน ย์การเรีย นรู ้ไอซีท ข นในชุม ชนของผู ้เรีย น ี ึ ผู ้เรียนจะพบว่าข ้อมูลดังกล่าวมีป ระโยชน์อย่า งมาก ยิงไปกว่านั น ผู ้เรียนยัง สามารถนํ าข ้อมูลดังกล่าวไปทํา เป็ น ฐานข ้อมูลออนไลน์ ทีสามารถแบ่งปั นกับองค์กรอืน ๆ ได ้ด ้วย คําถาม 3.3 1. การบันทึกข ้อมูลสินทรัพย์ของชุมชน สามารถนํ าไปใช ้ทําอะไรได ้บ ้าง ระบุ 3 ประการ ._________________________________________________ ._________________________________________________ ._________________________________________________ บทสรุปย่อ ใน หน่ วยนี ช่วยให ้ผู ้เรียนเข ้าใจว่าแนวคิดการพั ฒนาชุมชนคืออะไร มีความเกียวโยงกับศูนย์การเรียนรู ้ ิ ICT ชุมชนอย่างไร การประเมินความต ้องการของชุมชนคืออะไร และสามารถระบุสนทรัพย์ของชุมชนได ้ ประเด็นหลัก คือ: • ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน เป็ นสถานทีทีปฎิบตงานด ้านการพัฒนาชุมชน ั ิ • ชุมชนมีความต ้องการและมีสนทรัพย์ ิ • การทําความเข ้าใจความต ้องการของชุมชนและสินทรัพย์ของชุมชน มีความสําคัญต่อความประสบ ความสําเร็จของศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชน • การประเมินความต ้องการของชุมชนและการบันทึกสินทรัพย์ของชุมชน มีความสําคัญต่อการวางแผนให ้ ศูนย์การเรียนรู ้ ICT ชุมชนประสบผลสําเร็จ การประเมินผล ทําการประเมินความต ้องการของชุมชนผู ้เรียนเอง จากครู อาจารย์ เจ ้าหน ้าทีภาครั ฐ และเจ ้าหน ้าทีองค์กรพั ฒนา เอกชน เพือค ้นหาว่ากลุมคนเหล่านีคิดถึงอะไรมากทีสุดในปรับปรุงผู ้เรียนภาพชีวตของคนในชุมชน ่ ิ Page 10
  • 11. การนําเสนอ ประกอบไปด้วย : 1. บันทึกเทปหรือซีด ี (5-7 นาที) 2. วีดโอเทป (5 นาที) ี 3. เขียนบทความ (2 หน ้า A4) 4. การวาดภาพ 5. คํากลอน 6. บทความประกอบภาพ (ประกอบด ้วยภาพ 10 ภาพ และข ้อความ) รายการอ้างอิง Frank, Flo and Smith, Anne (2005), “The Community Development Handbook”, Human Resources Development Canada: Canada, URL: http://www.hrdc-drhc.gc.ca/community Harris, Roger (2007), “A Framework for Designing Telecentres”, Roger Harris Associates, Hong Kong Hegde N G (2000), “Community Development in India: An Overview”, India, URL: http://www.baif.org.in/aspx_pages/pdf/Agriculture/Community%20Devt%20in%20India.pdf B S, Aparna Sharma, et al (2000), “A Community Needs Assessment Guide”, Loyola University Chicago, Chicago: USA, URL: http://www.luc.edu/curl/pdfs/A_Community_Needs_Assessment_Guide_.pdf ข้อมูลเพิมเติม ดูได้จากเว็บไซต์ ด ังนี: Theory and practice of community development (www.infed.org/guides/community) Page 11