More Related Content
Similar to Chapter10mii (16)
Chapter10mii
- 4. ครูสายใจ
วิธีที่เหมาะสมกับการประเมิน คือ วิธีประเมินโดยอาศัยเกณฑ์
เนื่องจากวิธีนี้ เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อประเมิน
ประสิทธิภาพของบทเรียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจากการ
เรียนรู้แบบรอบรู้ (Mastery learning) ซึ่งวิธีนี้
สอดคล้องกับการพัฒนาชุดการสอนของผู้สอน เพราะการ
พัฒนาชุดการสอนของผู้สอนนั้นเน้นผู้เรียนให้เรียนรู้ด้วย
ตัวเอง
- 5. ครูสายใจ
เป็นวิธีการเปรียบเทียบผลในสองช่วงเวลา คือ ระหว่าง
จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด เช่น ระหว่างก่อนเรียนและหลัง
สิ้นสุดการเรียนเพื่อให้เห็นพัฒนาการตามวัตถุประสงค์ที่
มุ่งหวัง ซึ่งผู้สอนจะต้องสร้างเครื่องมือวัดค่าของตัวแปรที่
สนใจศึกษา อาจจะเป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อวัดผลการเรียนรู้
หลังจากที่เรียนหรือทดลองเรื่องนั้น
- 6. ครูสมหญิง
วิธีที่เหมาะสมกับการประเมิน คือ วิธีประเมินโดยการ
เปรียบเทียบค่าทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (ค่าดัชนี
ประสิทธิผล: EI) เพราะวิชาที่ผู้สอนนั้นเป็นวิชาวิทยาศาสตร์
และได้มีการพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้และวิธีนี้จะ
สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ดีที่สุด เพราะมีการเปรียบเทียบให้เห็น
ถึงความแตกต่างของผู้เรียนก่อนเรียนและหลังเรียนได้อย่าง
ชัดเจน และทาให้ทราบถึงความก้าวหน้าของผู้เรียนได้อีกด้วย
- 7. ครูมาโนช
วิธีที่เหมาะสมกับการประเมิน คือ วิธีประเมินโดยอาศัยเกณฑ์
เนื่องจากวิธีนี้ เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อประเมิน
ประสิทธิภาพของบทเรียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้แบบ
รอบรู้ (Mastery learning) ซึ่งวิธีนี้สอดคล้องกับการพัฒนาชุด
สร้างความรู้ เนื่องจากชุดความรู้นั้นผู้เรียนสามารถศึกษาหาความรู้
ได้ด้วยตนเอง
- 8. ครูประพาส
วิธีที่เหมาะสมกับการประเมิน คือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เกณฑ์มาตรฐาน 90/90 เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อ
ประเมินประสิทธิภาพของบทเรียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจากการ
เรียนรู้แบบรอบรู้(Mastery learning) นิยามของเกณฑ์
มาตรฐาน 90/90 นั้นได้อธิบายไว้ว่า 90 ตัวแรกเป็นคะแนนของ
ทั้งกลุ่ม
- 9. ครูประพาส
ซึ่งหมายถึงนักเรียนทุกคน เมื่อสอนครั้งหลังเสร็จให้คะแนน
เสร็จ นาคะแนนมาหาค่าร้อยละให้หมดทุกคะแนน แล้วหา
ค่าร้อยละเฉลี่ยของทั้งกลุ่ม ถ้าบทเรียนโปรแกรมถึงเกณฑ์ค่า
ร้อยละเฉลี่ยของกลุ่มจะต้องเป็น 90 หรือสูงกว่า 90 ตัวที่
สองแทนคุณสมบัติที่ว่า ร้อยละ 90 ของนักเรียนทั้งหมด
ได้รับผลสัมฤทธิ์ตามมุ่งหมายแต่ละข้อและทุกข้อของ
บทเรียนโปรแกรม
- 11. การประเมินประสิทธิภาพของสื่อการสอนมีขั้นตอนการ
หาประสิทธิภาพเริ่มตั้งแต่ การทดลองแบบกลุ่มต่อหนึ่ง (One
to one testing) แล้วนาสื่อมาทดลองกับกลุ่มเล็ก
(Small group testing) และท้ายสุดทาการทดลอง
ภาคสนาม (Field testing) และอาจใช้วิธีการหาค่า
ประสิทธิภาพกระบวนการ (E1)/ผลลัพธ์ (E2) หรืออาจใช่
วิธีการหาค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness index
หรือ E.I.) ค่าประสิทธิภาพดังกล่าว ล้วนแต่เป็นค่าที่ได้จาก
การทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ซึ่งจะได้เป็นเพียงเฉพาะค่า
คะแนนที่เป็นตัวเลขเชิงปริมาณเท่านั้น
- 13. การประเมินประสิทธิภาพของสื่อการสอนมีขั้นตอน
การหาประสิทธิภาพเริ่มตั้งแต่ การทดลองแบบกลุ่มต่อหนึ่ง (One
to one testing) แล้วนาสื่อมาทดลองกับกลุ่มเล็ก (Small
group testing) และท้ายสุดทาการทดลองภาคสนาม
(Field testing) และอาจใช้วิธีการหาค่าประสิทธิภาพ
กระบวนการ (E1)/ผลลัพธ์(E2) หรืออาจใช่วิธีการหาค่าดัชนี
ประสิทธิผล (Effectiveness index หรือ E.I.) ค่า
ประสิทธิภาพดังกล่าว ล้วนแต่เป็นค่าที่ได้จากการทาแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ซึ่งจะได้เป็นเพียงเฉพาะค่าคะแนนที่เป็นตัวเลขเชิง
ปริมาณเท่านั้น
- 15. จัดทาโดย
สมาชิกกลุ่ม
นายพุฒิพงศ์ วันภูงา
563050119-7
นายอดิศักดิ ์ บือทอง 563050405-
6
นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตรศึกษา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น