R update

1. การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม R
(DATA ANALYSIS USING R PROGRAMMING LANGUAGE)
ดร. เสาวณิต รัตนรวมการ
สาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ
ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
sauwanit98@yahoo.com
Sunday, March 6, 2016
1

2. OUTLINE
 Introduction to R
 Source แหล่ง download R
 ส่วนประกอบของ R
 การอ่านค่าข้อมูลเข้ามาในโปรแกรม R
 รูปแบบการเก็บข้อมูลใน R และ แป้นลัดทาให้ไม่ต้องพิมพ์ซ้าบ่อยๆ
 function เบื้องต้น เช่น การสั่งเรียกใช้ข้อมูล
 Matrix, Inverse Matrix, Determinant
 eigen value, eigen vector
 แบบฝึกหัด
2

3. INTRODUCTION TO R
 โปรแกรมภาษาที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากในทางสถิติภาษาหนึ่ง
 ดาวน์โหลดได้ฟรี ภายใต้การดูแลขององค์กรที่ไม่แสวงหากาไร ชื่อ R Foundation
 open source
 R พัฒนาขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1990s โดย Robert Gentleman และ
Ross Ihaka มหาวิทยาลัยโอคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
# เป็นไปได้ที่โปรแกรม R จะมาจากชื่อของ Robert และ Ross
 โปรแกรมภาษา R เป็นส่วนที่มีการพัฒนามาจากโปรแกรมภาษา S
3

4. R YOU READY FOR R?
4
Statistics Adjunct professor Robert Gentleman
who helped developed the R programming language.
(Credit: Stuart Isett for The New York Times)

5. 5

6. SOURCE
 ดาวน์โลดได้ฟรี จาก http://cran.r-project.org/
 เลือก Download R รุ่นที่ทันสมัยที่สุด
 คือ R-3.1.2.tar.gz
(52 megabytes, 32/64 bit)
 คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
http://cran.r-project.org/doc/manuals/r-
release/R-intro.html
6

7. DOWNLOAD R 3.1.2 FOR WINDOWS
7
Double click ที่นี่

8. 8

9. ส่วนประกอบของ R
 R Gui ประกอบด้วย 2 วินโดส์ย่อยคือ
R Console ใช้ในการเขียนคาสั่งและแสดงผลลัพธ์
R graph แสดงกราฟต่างๆ
9

10. 10

11. HOW TO READ DATA?
การอ่านค่าข้อมูลเข้ามาในโปรแกรม R
การอ่านค่าข้อมูลโดยใช้คาสั่ง read-table (Using read-table to
read files)
อ่านจาก external HD ตัวอย่างเช่น
>test<- read.table("g:/drug.dat",header=T)
>test<- read.table("g:/grades.txt",header=T)
11
การอ่านค่าข้อมูลชุดgrades.txt แล้วนาไปเก็บไว้ในfile
ชื่อtest ถ้าfileเดิมมีชื่อตัวแปรให้อ่านเข้ามาด้วย

12. การนาข้อมูลเข้าจากโปรแกรม SPSS ในรูป TEXT FILE
12
ให้save as file ที่สนใจในรูป Tab delimited

13. ลักษณะ FILE ที่ SAVE ในโปรแกรม SPSS
13
มีนามสกุลเป็น dat ดังนี้
ชื่อfile.dat

14. การหาตาแหน่งที่อยู่ของ FILE ที่จัดเก็บไว้
14
คลิกที่ Properties เพื่อหาตาแหน่งที่อยู่ของ file ดังกล่าว

15. ที่อยู่ของ FILE ที่จัดเก็บไว้
15
ตาแหน่งที่ file จัดเก็บ

16. HOW TO READ DATA? การอ่านค่าข้อมูลเข้ามาใน
โปรแกรม R
การอ่านค่าข้อมูลโดยใช้คาสั่ง read-table (Using read-table to
read files) อ่านจาก DESKTOP ตัวอย่างเช่น
>test<- read.table
("C:UsersUserDesktopADVStat22558DrPisitreg.
dat” ,header=T)
เราจะต้องเปลี่ยน slash เป็น / Backslash โปรแกรม R จึงจะเข้าใจและหาfile
ดังกล่าวเจอ ดังนี้
>test<- read.table
("C:/Users/User/Desktop/ADVStat22558/DrPisitreg.
dat” ,header=T)
16
การอ่านค่าข้อมูลชุดDrPisitreg.dat แล้วนาไปเก็บไว้
ในfileชื่อtest ถ้าfileเดิมมีชื่อตัวแปรให้อ่านเข้ามาด้วย

17. ชนิดของข้อมูลที่ใช้ในโปรแกรม R
 Numeric เป็นตัวเลข สามารถนามาคานวณได้
 Character เป็นข้อมูลที่เป็นตัวอักษรคล้ายกับค่า string ในโปรแกรม SPSS
 Logical เป็นข้อมูลที่มีค่าเป็นจริงหรือเท็จ โดย R จะให้สัญลักษณ์ T หรือ
True แทน ข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง และ F หรือ False แทนข้อมูลที่มีค่าเป็นเท็จ
17

18. รูปแบบการเก็บข้อมูลใน R
 Vector ข้อมูล
 Matrices
 Arrays (arrays ซึ่งเป็น matrices เฉพาะ – เป็นที่เก็บรวมเครื่องมือกลางขนาดใหญ่เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล - ภาพ
สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจะแสดงผลโดยตรงในคอมพิวเตอร์หรือใน hard copy
 - เป็นภาษาพัฒนาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ )
 data frame
หมายเหตุ ในโปรแกรม R ตัวอักษรใหญ่และเล็กมีความหมายแตกต่างกัน
นั่นคือ A จะแตกต่างจาก a
เราสามารสร้างชุดข้อมูลได้อย่างน้อย 26*2 ตัวอักษรภาษาอังกฤษ
18

19. แป้นลัดทาให้ไม่ต้องพิมพ์ซ้าบ่อยๆ
19

20. FUNCTION เบื้องต้น
 help(“mean”)
 ?mean
 attributes()
 ls() # list object ว่ามีการเก็บชุดข้อมูลอะไรบ้างในworkspace
 q() #quitจากโปรแกรม R โดย R จะถามว่าต้องการsave งานหรือไม่
20
เครื่องหมาย # เป็นการเขียนโน้ตให้เราทาความเข้าใจได้ง่าย เวลามาอ่านทีหลัง
R จะไม่อ่านข้อความหลัง ”#”

21. การสั่งเรียกใช้ข้อมูล
 attach(ชื่อชุดข้อมูล) # การระบุชื่อชุดข้อมูลที่จะใช้
 x$mean #เป็นการเรียกผลลัพธ์ของข้อมูลชุดx ตัวแปรmean มาแสดง
 การให้ค่าตัวแปร ใช้เครื่องหมาย “<-” หรือ “=“ ตัวอย่างเช่น
21
> x<-c(4,7,6,3) หรือ
> x=c(4,7,6,3) ก็ได้

22. ตัวอย่าง
1. จงสร้างเวคเตอร์ x ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4, 7, 6, 3
> x<-c(4,7,6,3)
> x
[1] 4 7 6 3
2. จากเวคเตอร์ x สร้างขึ้นในข้อ 1. จงสร้างเมตริกซ์ y ขนาด 2x2
> y<-matrix(x,2,2)
> y
[,1] [,2]
[1,] 4 6
[2,] 7 3
22

23. 3. จงหาอินเวอร์สของเมตริกซ์ y และให้ชื่อว่าเมตริกซ์ z
> z<-solve(y)
> z
[,1] [,2]
[1,] -0.1000000 0.2000000
[2,] 0.2333333 -0.1333333
23

24. 4, จงแสดงให้เห็นว่า y*z = z*y = identity matrix
> y%*%z
[,1] [,2]
[1,] 1.000000e+00 -5.551115e-17
[2,] -5.551115e-17 1.000000e+00
> round(y%*%z) #ทาให้จุดทศนิยมเป็นจานวนเต็ม#
[,1] [,2]
[1,] 1 0
[2,] 0 1
> z%*%y
[,1] [,2]
[1,] 1.000000e+00 -2.775558e-17
[2,] 2.775558e-17 1.000000e+00
> round(z%*%y)
[,1] [,2]
[1,] 1 0
[2,] 0 1 24

25.  > A<-c(12, 8, 9, 15, 4, 1, 5, 8, 3)
 > A
 [1] 12 8 9 15 4 1 5 8 3
25
6.จากเวคเตอร์ A สร้างขึ้นในข้อ 5. จงสร้างเมตริกซ์ B ขนาด 3x3
> B<-matrix(A,3,3)
> B
[,1] [,2] [,3]
[1,] 12 15 5
[2,] 8 4 8
[3,] 9 1 3
5. จงสร้างเวคเตอร์ A ที่ประกอบด้วยสมาชิก 12, 8, 9, 15, 4, 1, 5, 8, 3

26. 7.จงหาอินเวอร์สของเมตริกซ์ B และให้ชื่อว่าเมตริกซ์ C
 > C<-solve(B)
 > C
 [,1] [,2] [,3]
 [1,] 0.006369427 -0.06369427 0.15923567
 [2,] 0.076433121 -0.01433121 -0.08917197
 [3,] -0.044585987 0.19585987 -0.11464968
26

27. > round(B%*%C)
[,1] [,2] [,3]
[1,] 1 0 0
[2,] 0 1 0
[3,] 0 0 1
> round(C%*%B)
[,1] [,2] [,3]
[1,] 1 0 0
[2,] 0 1 0
[3,] 0 0 1
27
8. จงแสดงให้เห็นว่า B*C = C*B = identity matrix

28. การหา EIGENVALUES และ EIGENVECTORS
28
1
e1

29. ตรวจสอบผลลัพธ์ ของ TRANSPOSE(E1)*E1
29
ผลลัพธ์เป็น 1

30. REFERENCES
 Krause A and Olson M. (1997). The Basics of S and S-Plus. Springer-Verlag.
New York.
 Gentle, James E. (2002). Elements of Computational Statistics. Springer-
Verlag. New York.
30

31. THE END
31