บรรยาย
- 1. Page |1
เรียน ท่านรองผู้บัญชาการตำารวจห่งชาติ , ท่านผู้ช่วยผู้
บัญชาการตำารวจแห่งชาติ
,ผู้บัญชาการศึกษา และ ผู้บังคับการ และ ท่านผู้มี
เกียรติ ทุกท่าน
กระผมขอถือโอกาสซึ่งงมีระยะเวลาในช่วงเวลาที่มี
โอกาสเข้ามาพบปะท่านและบรรยายพิเศษในโครงการ
เพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่
ทำาการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “นโยบาย ตร. กับผู้
บังคับการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่” ซึ่งการบรรยายจะแบ่ง
ออกเป็น ๓ ส่วนหลัก คือหัวข้อแรกเป็นเรื่องนโยบายการ
ทำางานที่ผมมอบให้กับตำารวจ หัวข้อที่สองจะเป็นแนวทาง
ในการนำานโยบายไปสู่การปฏิบัติ ส่วนหัวข้อสุดท้ายจะ
เป็นการเน้นยำ้ามาตรการต่าง ๆ ของสำานักงานตำารวจแห่ง
ชาติที่ได้ออกไปเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว
ในส่วนที่ ๑ นโยบายที่กำาหนดได้มีการแบ่งออกตามห้วง
ระยะเวลาที่กำาหนดไว้ ๔ ห้วงระยะเวลา คือ นโยบาย
เฉพาะหน้าที่ต้องการให้เกิดผลทันทีและต่อเนื่อง
นโยบายเร่งด่วน (ระยะ ๖ เดือน) “ปัดกวาดบ้าน ร่วมใจ
พัฒนา” นโยบายสำาคัญภายใน ระยะ ๑ ปี “เสริมสร้าง
พัฒนาประสิทธิภาพ” และนโยบายภายในระยะ ๓ ปี “
เดินหน้าอย่างมีทิศทาง”
โดยนโยบายที่ ๑ นโยบายเฉพาะหน้าที่ต้องการ
และเห็นผลทันทีและต่อเนื่อง จะมีประเด็นนโยบายหลัก ๆ
อยู่ ๒ เรื่อง คือ ประเด็นนโยบายที่ ๑ ถวายความปลอดภัย
- 2. Page |2
และถวายพระเกียรติอย่างสูงสุด และการป้องกันและ
ปราบปรามการล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพ และ
ประเด็นนโยบายที่ ๒ การให้บริการที่ดีและเปลี่ยน
พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขอให้นึกถึงคำาขวัญของผมที่
พบเห็นอยู่ที่ว่า “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราฎร์ดุจ
ครอบครัว” ซึ่งจะมีการเน้นยำ้าใน ๒ หัวข้อหลัก คือ การ
ใส่ใจการให้บริการ ประชาชนทุกคนเสมือนญาติของตัว
เอง และการเลิกพฤติกรรมที่ใช้อำานาจหน้าที่ที่ผิด
กฎหมายและไม่เหมาะสม
นโยบายในห้วงระยะเวลาต่อไป ห้วงระยะเวลา ๖
เดือน เป็นห้วงของ “ปัดกวาดบ้าน ร่วมใจพัฒนา” จะมี
ประเด็นนโยบายอยู่ ๒ หัวข้อใหญ่ คือ
๑.การปรับปรุงพัฒนาการปฎิบัติงานของสถานีตำารวจ
โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำารวจจะต้องมีกิริยาวาจาสุภาพ ยิม
้
แย้มแจ่ใส พร้อมใจช่วยเหลือ ไม่อยู่เหนือ กฎหมาย
ขยายบริการ ทำางานว่องไว ใส่ใจประชาชน และ
๒. การสร้างความสามัคคีกลมเกลียวของข้าราชการ
ตำารวจทุกระดับชั้น ด้วยการเปิดอกคุย มีการพบปะระหว่าง
ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน โดย
ยึดถือระเบียบปฏิบัติของการฝึกประจำาสัปดาห์ สุดท้ายก็
คือ การสร้างสำานึกส่วนรวมโดยการจัดกิจกรรมจิตอาสา
ในห้วงระยะเวลาต่อไปจะเป็นนโยบายสำาคัญภายใน
๑ ปี เป็นขั้นตอนของการเสริมสร้างพัฒนาประสิทธิภาพ
ซึ่งจะประกอบด้วยประเด็นนโยบาย ๔ ข้อหลัก
- 3. Page |3
๑. การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด
๒. การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้
๓. ปรับปรุงกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนให้เกิด
ผลในทางปฏิบัติ
๔. พัฒนาทรัพยากรบุคคลของข้าราชการตำารวจทั้ง
ระบบ
สุดท้ายคือนโยบายภายในระยะเวลา ๓ ปี เป็นขั้น
ตอน “เดินหน้าอย่างมีทิศทาง” ซึ่งมีรายละเอียดประเด็น
นโยบาย ดังนี้
๑. การใช้ยุทธศาสตร์นำาการเปลี่ยนแปลงระบบการ
ทำางาน การจัดสรรงบประมาณจะต้องสอดคล้องกับ
ภารกิจที่เสนอทำาและรองรับแต่ละยุทธศาสตร์
๒. มีคู่มือการปฏิบัติราชการ สำาหรับการปฏิบัติ
ราชการในสถานีตำารวจแต่ละด้าน รวมทั้งคู่มือการปฏิบัติ
งานในสถานีตำารวจด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นใน
เรื่องของการเงิน สวัสดิการ งบประมาร พัสดุ
๓. การพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง ของสำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ เนื่องจากปัจจุบันเป็นเรื่องของการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยให้มีการแชร์และใช้ประโยชน์
ร่วมกันให้มากที่สุด ซึ่งข้อมูลที่ดีที่สุดในเรื่องของการแชร์
ข้อมูลสารสนเทศคือเทคโนโลยี
- 4. Page |4
๔. การเสริมสร้างขีดความสามารถตลอดจนขวัญ
และกำาลังใจข้าราชการตำารวจ
๕. การเตรียมพร้อมสำาหรับการจัดกำาลังและเสริม
สร้างประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยและความ
มั่นคงตามแนวชายแดนรวมถึงการพัฒนาระบบและบูรณา
การงานของ ตร. เพื่อเตรียมพร้อมสำาหรับการเข้าร่วมเป็น
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๘
ในส่วนที่ ๒ แนวทางการนำานโยบายไปสู่การปฏิบัติ ใน
ส่วนนี้ท่าน ผู้บังคับการทั้งหลาย ต้องศึกษาคู่มือ นโยบาย
ผู้บัญชาการตำารวจแห่งชาติ และ ท่านจะต้องมีคู่มือ
การนำานโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อไปทำาการศึกษาเรื่อง
แนวทางปฏิบัติที่จะให้สอดคล้องกับนโยบาย หน่วยที่รับ
ผิดชอบมีหน่วยใดบ้าง มีมาตรการ วิธีการในการปฏิบัติ
อย่างไร รวมถึงวิธีการและขั้นตอนในการตรวจสอบและ
ประเมินผล ซึ่งทางท่าน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง
จเรตำารวจแห่งชาติ ได้กำาหนดแนวทางการตรวจการ
ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการตำารวจแห่งชาติ และ
ได้นำาเสนอผมให้ความเห็นชอบ รายละเอียดตั้งแต่
แผนการตรวจ ตัวชี้วัด ซึ่งท่านผู้บังคับการจะต้องไป
ศึกษาว่า หน่วยงานของท่านมีหน้าที่ที่จะต้องทำาอะไร
และเตรียมอะไรให้ จเร ไปตรวจบ้าง
ส่วนที่ ๓ ต่อจากนี้ขออธิบายถึงการดำาเนินการในส่วนที่
เกี่ยวข้องกับคำาสั่ง หรือมาตรการต่าง ๆ ของสำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ ที่ได้ออกไปแล้วเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติ
- 5. Page |5
งานตามนโยบายและการนำานโยบายไปสู่การปฏิบัติ ดัง
ได้กล่าวมาแล้ว ดังนี้
๑ ประกาศสำานักงานตำารวจแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๘
ม.ค. พ.ศ. ๒๕๕๔ เรื่องให้ใช้แผนผังแสดงขั้นตอนและ
ระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ซึงการออก
่
ประกาศดังกล่าวเป็นไปตาม พระรากฤษฎีกาการบริหาร
กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๔๖ หมวด ๕ เรื่องการลด
ขั้นตอนการปฏิบัติราชการ มาตรา ๒๙ ที่กำาหนดว่า “ใน
การปฏิบัติงานซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชนหรือการติดต่อ
ประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน ให้ส่วนราชการ
จัดทำาภูมิขั้นตอนและระยะเวลาการดำาเนินการรวมทั้งราย
ละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแต่ละขั้นตอนเปิดเผยไว้ ณ
ส่วนราชการ และในระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วน
ราชการที่สามารถตรวจดูได้ ซึ่ง สำานักงานตำารวจ
แห่งชาติ ได้ออกประกาศดังกล่าว ฯ รวมทั้งสิ้น ๘
กระบวนงาน ประกอบด้วยกระบวนงานที่ ๑ เรื่องของการ
การประกันตัวผู้ต้องหาของ บช.น. ,ภ.๑- ๙ และ ศชต.
กระบวนงานที่ ๒ การอนุญาตให้เยี่ยมผู้ต้องหาที่ห้อง
ควบคุมของ บช.ปส. กระบวนงานที่ ๓ การขออยู่ต่อใน
ราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของ สตม. กระบวนงานที่
๔ การคืนของกลางกรณีของศาลสั่งและพนักงานอัยการ
มีหนังสือแจ้งให้จัดการเกี่ยวกับของกลาง ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.๘๕ กระบวนงานที่
๕ การขอรับศพจากสถาบันนิติเวชของโรงพยาบาลตำารวจ
กระบวนงาน ๖ การขออนุญาตนำาเข้าหรืออกเครื่องมือ
- 6. Page |6
สื่อสารหรืออุปกรณ์อะไหล่ของ สทส. กระบวนงานที่ ๗
การรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียนจากประชาชนที่มาร้องเรียน
ด้วยตนเอง ของ สำานักงานจเรตำารวจ กระบวนงานที่ ๘
การรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน ที่มาจากหน่วยงานอื่น เช่น
สำานักนายกรัฐมนตรี สำานักงานผู้บังคับบัญชา หรือร้อง
เรียนทางไปรษณีย์ ของสำานักงานจเรตำารวจ ซึ่งใน
ประกาศดังกล่าว จะมีผัง ขันตอน ระยะเวลาในการปฏิบัติ
้
ไว้ทั้งหมด ที่กล่าวมาแล้วเป็นประกาศสำานักงานตำารวจ
แห่งชาติ ซึงจะลงนามในวันนี้ ๑๘ ม.ค. ๕๔ หลังจาก
่
นั้นจะมีการแจ้งเวียนให้ทุกหน่วยทุกท่านทราบ และท่าน
ในฐานะหัวหน้าหน่วยจะต้องไปศึกษา ว่ากระบวนงาน
ต่าง ๆ กำาหนดขั้นตอนและระยะเวลาไว้อย่างไรบ้าง ต้อง
ดำาเนินงานไปอย่างไร ให้เป็นไปตามห้วงระยะเวลาซึ่ง
สำานักงานตำารวจแห่งชาติได้กำาหนดไว้
ในเรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและ
แก้ไขปัญหายาเสพติด ก็ขอเรียนให้ทราบว่า เพื่อให้
สอดคล้องกับ คำาสั่งสำานักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๐๖/๒๕๕๓
ลงวันที่ ๑๘ พ.ย. พ.ศ. ๒๕๕๓ เรื่อง ปฏิบัติการ
ประเทศไทยเข้มไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้
ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกันระยะที่ ๓ สำานักงานตำารวจแห่ง
ชาติได้ดำาเนินการออกแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไข
ปัญหายาเสพติดประจำาปี ๒๕๕๔ ของสำานักงานตำารวจ
แห่งชาติ โดยในเนื้อหาของแผน ฯ กำาหนดให้หน่วยงาน
ในระดับรองลงไปต้องไปออกแผนในระดับ บช. ,บก. เพื่อ
รองรับแผน ฯ ดังกล่าว โดยมีเนื้อหาสาระและประเด็น
- 7. Page |7
ต่างๆ อยู่ที่การประสานงาน โดยแผนปฏิบัติการรองรับ ใน
แต่ละระดับจะต้องมีรายละเอียดของการจัดชุดปฏิบัติการ
ด้านยาเสพติดโดยเฉพาะ ลงไปถึง หน่วยงานระดับสถานี
และบูรณาการเป้าหมายการปฏิบัติร่วมกับ กอ.รมน.ภาค
กอ.รมน.จังหวัด กระทรวงมหาดไทย สำานักงาน ปปส.
และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ นอกจากนั้นต้องมี
รายละเอียดของการปฏิบัติงานร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัด
หรือ กอ.รมน.ภาค โดยเน้นการประสานงานอย่างใกล้ชิด
และการพัฒนาข่าวกรองงานข่าวกรองยาเสพติด ที่เน้นไป
ในเรื่อง ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ผู้หวังผล
ในการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและเครือข่ายในการค้ายาเสพ
ติด นอกจากนั้นยังจะต้องมีการบูรณาการด้านงบ
ประมาณในส่วนของการปฏิบัติการจากงบประมาณจาก
ทุกแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นของสำานักงานตำารวจแห่งชาติ สำา
นกังาน ปปส.ที่สนับสุนให้กับ ตร. งปบระมาณของจังหวัด
หรืองบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
ส่วนสำาคัญให้ดำาเนินการด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุกเมื่อมี
การจับกุมยาเสพติดทั้งรายย่อยและรายสำาคัญ เพื่อให้
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดได้
ทราบถึงการปฏิบัติงาน อย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่ตำารวจ
โดยกำาหนดให้มีผู้รับผิดชอบการข่าวสารและการ
ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ซึ่งใน
เรื่องนี้เพื่อเป็นการสนับสนุน สำานักงานตำารวแห่งชาติ ได้
มีหนังสือ ที่ ๐๐๑๑.๒๕/๖๒ ลงวันที่ ๖ ม.ค. พ.ศ.
๒๕๕๔ เรื่องแนวทางการปฏิบัติการและป้องกันและ
- 8. Page |8
แก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล
ที่มีประเด็นการปฏิบัติคือ หัวหน้าสถานีตำารวจดำาเนินการ
ในเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำารายชื่อผู้
ใช้ยาเสพติดในพื้นที่ บัญชีรายชื่อผู้มีพฤติการณ์เป็นผู้ค้า
ยาเสพติดในพื้นที่ รวมทั้งการจัดทำาสมุดคุมสำานวนการ
สืบสวนคดียาเสพติดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อ
ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบได้ นอกจานั้นเมื่อมีการจับกุม
ผู้กระทำาความผิดฐานเสพยาเสพติดแล้ว เป็นหน้าที่ของ
หัวหน้าสถานีที่ต้องซักถามผู้กระทำาความผิดด้วยตนเอง
เพื่อให้ทราบถึงผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย หรือเครือข่ายกลุ่ม
ผู้ค้ายาเสพติด ซึงในเรื่องนี้ในภาคผนวกของหนังสือดัง
่
กล่าวจะมีแบบบันทึกซักถาม เป็นหน้าต้องศึกษาและ
ขยายผล ผู้บังคับการต้องลงไปตรวจสอบว่าหน่วยงานที่
รับผิดชอบได้มีแผนปฏิบัติการอกแผนรองรับ หรือมีการ
จัดทำางานตามแนวทางการปฏิบัติดังกล่าวไว้หรือไม่
เรื่องต่อไปเป็นมาตรการเกี่ยวข้องกับการรักษาความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่ง
สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของนโยบายประชา
วิวัฒน์ ซึงเริ่มต้นในพื้นที่ ของกรุงเทพ ฯ สำานักงาน
่
ตำารวจแห่งชาติได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่
ดำาเนินโครงการดังกล่าว โดยได้ร่วมเสนอโครงการเพิ่ม
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนใน
กรุงเทพมหานครเป็นอันดับแรกก่อน มีแนวคิดในการ
ดำาเนินโครงการอยากให้ท่านทราบ คือ
- 9. Page |9
1. กำาหนดจุดที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง
ในพื้นที่มาวิเคราะห์ในรูปแบบของการเกิด
อาชญากรรมมากำาหนดเป็นจุดล่อแหลม
หรือจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
2.การแสวงหาความร่วมมือทำาได้ด้วกยารบู
รณาการกำาลังพลของเจ้าหน้าที่และการ
ปราบปรามอาชญากรรมโดยไม่จำาเป็นต้อง
เป็นตำารวจฝ่ายเดียว โดยอาจจะบูรณาการ
กับหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ทหาร กทม. หรือ จังหวัดเป็นต้น
3. การนำา เทคโนโลยีสารสนเทศ มาช่วยใน
การป้องกันอาชยากรรมโดยการ ติดตั้ง
กล้องวงจรปิด CCTV ในบริเวณ Hot
spot และการจัดทำาโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย โครงการฝาก
บ้านไว้กับตำารวจ โครงการสายตรวจอาสา
4. การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์
ในเรื่องของภูมิทัศน์และความเหมาะสมเพื่อ
ลดโอกาสในการก่ออาชญากรรมในพื้นที่
ปฐมภิมและทุติยภูมิและพื้นที่สาธารณะ
5. และดำาเนินการมาตรการเชิงรุกในการ
ป้องกันอาชญากรรม เช่น การยึดรถต้อง
สงสัย มาตรการตีวงสุรา มาตรการป้องกัน
เหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท มาตรการถ่ายรูป
- 10. P a g e | 10
ทำาประวัติบุคคลต้องสงสัย มาตรการตั้งจุด
ว ๔๓ เคลื่อนที่ และการปิดล้อมตรวจค้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างของมาตรการ
ต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมได้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ว
ประเทศไม่จำาเป็นว่าเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพ ฯ
มาตรการต่อไปที่ท่าน ผู้บังคับการจะต้องไปทำาการ
ศึกษาคือ คำาสั่ง ตร.ที่ ๑๒๑๒/๒๕๓๗ ลง ๑ ต.ค.
พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึงเป็นมาตรการควบคุมและเสริมสร้าง
่
ความประพฤติและวินัยข้าราชการตำารวจ ที่เน้นยำ้าให้ผู้
บังคับบัญชา จะต้องลงไปตรวจสอบและดูแลผู้ใต้บังคับ
บัญชาลงไปถึงระดับครอบครัว และถ้าเกิดการประพฤติ
ปฏิบัติไม่ชอบหรือกระทำาผิดวินัย หากผู้บังคับบัญชาตาม
ลำาดับชั้นละเลย จะต้องรับผิดหรือรับโทษทางวินัยร่วม
ด้วย ลดหลั่นลงไปตามความดูแลใส่ใจของท่าน ในส่วน
ของการแก้ปัญหาอบายมุข ตร. มีคำาสั่งที่ ๒๓๔/๒๕๔๘
ลงวันที่ ๒๙ มี.ค. พ.ศ. ๒๕๔๘ เรื่อง การพิจารณาเจ้า
หน้าที่ตำารวจที่บกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุข
โดยเนื้อหาของคำาสั่งดังกล่าว ฯ จะมีการกำาหนดลักษณะ
ของอบายมุขแยกเป็น อบายมุขทั่วไป กับอบายมุขเป้า
หมาย เช่น ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ความผิดเกี่ยวกับ
การค้าประเวณี ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ ซึงหน่วย
่
ปฏิบัติหลักจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้แก่
บช.น. ,บช.ภ.๑- ๙ ,บช.ก. ซึ่งจะต้องมีมาตรการในการ
ดำาเนินการต่าง ๆ ทั้งมาตรการด้านป้องกัน มาตรการด้าน
- 11. P a g e | 11
การปราปราม ซึงหากมีกรณีที่มีการละเลย หรือไม่ปฏิบัติ
่
การตามคำาสั่งดังกล่าว ก็จะมีการกำาหนดไว้ถึงผู้รับผิด
ชอบที่จะต้องถูกพิจารณาความบกพร่องตั้งแต่ เจ้าหน้าที่
สายตรวจ ไปจนถึง ผู้บัญชาการหน่วย กองบัญชการ
ตำารวจสอบสวนกลางก็จะไล่ไปตั้งแต่ สารวัตรแผนก ไป
ถึง ผู้บัญชาการ รวมทั้งข้าราชการตำารวจทุกนายที่มีส่วน
พัวพันเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์โดยทุจริตจาก
แหล่งอบายมุข โดยมีการกำาหนดลักษณะความบกพร่อง
ไว้ ๔ ลักษณะ ได้แก่ ลักษณะที่ ๑ การปล่อยปะละเลย
ไม่สนใจในการสืบสวนปราบปรามจับกุม ลักษณะที่ ๒ ไม่
สามารถปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการประทำาผิด
เกี่ยวกับอบายมุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะที่ ๓
การมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับแหล่งอบายมุขที่กระทำา
ความผิด ลักษณะสุดท้าย การเรียก รับ หรือ มี
ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับแหล่งอบายมุข ซึ่งในคำาสั่งนี้
ได้กำาหนดหลักเกณฑ์การลงโทษไว้ด้วย ในกรณีต่าง ๆ
ทั้ง ๔ กรณี และขอให้ท่านไปศึกษาและวางมาตรการให้
สอดคล้องกับคำาสั่งดังกล่าว และสืบเนื่องจากคำาสั่งดัง
กล่าว สำานักงานตำารวจแห่งชาติได้เน้นยำ้าการปฏิบัติใน
มาตรการดังกล่าวตามหนังสือ ตร.ที่ ๐๐๐๗.๒๒/๔๘๑๒
ลงวันที่ ๑๕ ธ.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ เรื่องมาตรการควบคุม
และกวดขัน จับกุมสถานบริการและสถานประกอบการที่มี
ลักษณะคล้ายสถานบริการ โดยจะมีรายละเอียดเน้นยำ้า
ไปที่แนวทางการพิจารณาความบกพร่องของเจ้าหน้าที่
ตำารวจ ซึ่งตามบันทึกดังกล่าวจะกำาหนดให้ จเรตำารวจ
- 12. P a g e | 12
และ สันติบาล สืบสวนหาข่าวว่ามีพื้นที่ใดมีการปล่อยปะ
ละเลยหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากผู้ประกอบ
ธุรกิจเกี่ยวกับสถานบริหารหรือสถานประกอบการที่มีลัก
าณะคล้ายสถานบริหาร หากพบพฤติการณ์ดังกล่าวก็จะ
รายงานให้ผุ้บังคับบัญชาระดับ ตร. ที่ได้รับมอบหมายจาก
ผมให้รับผิดชอบพื้นที่ทราบโดยตรงเพื่อจะได้ดำาเนินการ
ไปตามอำานาจหน้าที่ ตามที่ได้มอบหมายไว้ตามคำาสั่ง
ตร.ที่ ๕๑๕/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๑๔ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่ง
เป็นสายงานป้องกันปราบปรามมีตั้งแต่ ปป.๑- ปป.๕ จึง
ขอให้ท่านไปศึกษาและปฏิบัติงานตามประกาศ คำาสั่ง
หนังสือสั่งการที่ได้ออกไปแล้ว
ในวันนี้ขออนุญาตใช้เวลาพบปะกับพวกท่าน และ
ก็ได้บรรยายพิเศษในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย โดย
เน้นการนำานโยบายไปสู่การปฏิบัติในเรื่องของมาตรการ
ต่างๆ บัดนี้ได้บรรยายมาพอสมควรแล้ว กระผมขอยุติ
การบรรยาย และอวยพรให้การสัมมนาดำาเนินลุล่วงไป
ด้วยดี บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และขอให้ทุกท่านที่อยู่
พร้อม ณ ที่นี้ ประสบแต่ความสุขความเจริญ โดยทั่วกัน
ขอบคุณครับ
