SlideShare a Scribd company logo
1 of 3
Download to read offline
World Pharmacy History
Western pharmacy
-The Prehistoric Age
-ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ
-The Historic Age
- Mesopotamia -> Code of Hammurabi -> ตาต่อตาฟันต่อฟัน Ex. หมอต้องรับผิดชอบ
- Ancient Egypt (1,400 – 1,200 B.C.) ->น้ำยาอาบศพ (ชีวิตหลังความตาย) เก็บรักษาสภาพ
- Medicine in ancient Egypt -จุดเด่น
- Papyrus Edwin Smith (เกี่ยวกับยา) - Imhotep (เทพเจ้าช่วยรักษาโรค)
-Belly
"For the evacuation of the belly:
Cow's milk 1; grains 1; honey 1;
mash, sift, cook; take in four
portions."
- Bowels
"To remedy the bowels: Melilot, 1;
dates, 1; cook in oil; anoint sick
part."
- Cancer
Recounting a "tumor against the
god Xenus", it recommends "do
thou nothing there against".
- Clothing
Clothing may be protected from
mice and rats by applying cat's fat.
- Death
Half an onion and the froth of beer
was considered "a delightful
remedy against death.”
-God
-Spirit
-sorcerer (หมอผี)
-Riligious ritual
-Physical means
-Trephination
- Curative Method
การเจาะกะโหลก
- Ancient India (3,000 B.C.)
ขฬ - World Pharmacy ส่งออกยาสามัญไปประเทศต่างๆ (ในปัจจุบัน)
- ฤคเวท ->ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์
- อายุรเวท ->เรื่องยาและการแพทย์
-Ancient China (2,000 B.C.)
- หยิน-หยาง (ความสมดุลสุขภาพ)
- หวงตี้เน่ยจิง; 黄帝内经 (ตำราการรักษา)
-เป็นอู่อารยธรรม
-มีหลักฐานจารึกเป็นจำนวนมาก
- หลักฐานอื่นๆ (มัมมี่ น้ำยาอาบศพ)
-specialist (มีหมอเฉพาะทาง)
- Ebers Papyrus
<Contains formulas for more than 800
ancient remedies.>
การวินิจฉัยโรค,ตำรับยา 800 รายการ
>< MART
Aspirin (Acetylsalicylic acid) ถูกพัฒนาตั้งแต่ 1838 โดย Rafael Phiria ใช้ใน
การลดการปวด ต้านการแข็งตัวของเลือด ไทยไม่นิยมใช้เพราะมีโรคไข้เลือดออก
- Ancient Greek
คำว่า Pharmakon มี 3 ความหมายได้แก่ Philter (ยาวิเศษ) , Poison , Drug
Jupiter Latona
Apollo Coronis
การแพทย์/การรักษา
Aesculapius ไม้เท้ามีงู ใช้พิษงูรักษา
Chiron
แม่นม
Hygeia
มือข้างหนึ่งมีงู และอีกข้างมีถ้วยใส่พิษงู
Professional Symbol
Hippocrates เป็นบิดาด้านการแพทย์
แนวคิด ->
- การกินอาหารเป็นยา
- เชื่อเรื่องธรรมชาติมากกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติ
- โรคเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ
- หมอมีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายทำงานสู้กับโรค
- Illness  Sin (บาป)
- The Humoral theory of disease
การแพทย์ของกรีก -> มีการนำเอาวิทยาศาสตร์ไปใส่ในความเชื่อจากตำนาน , เริ่มคิดอย่างมีเหตุผลแทนการเชื่อเรื่องเหนือ
ธรรมชาติ , “Open medical marketplace”
- Ancient Roman Medicine -> รับเอามาจากกรีก เรียกว่า Greco-Roman , รักษากันภายในครอบครัวของตนเอง ,
แพทย์กรีกเริ่มเข้ามาภายในกรุงโรม
Asclepiades สงสัยเรื่อง “self-healing(ร่างกายรักษาตัวเอง)” , เชื่อว่าการเจ็บป่วยและสุขภาพ เกิด
จากช่องเปิดต่างๆ ของร่างกาย , Julius Caesar ให้อิสระและเสรีภาพกับหมอชาวกรีก
Galen เป็นแพทย์ นักเขียน นักวิจัย
- ศึกษา Anatomy โดยเริ่มศึกษาจากลิงกับหมู ทำให้หักล้างความคิดทางการแพทย์แบบเดิม
การแพทย์ของโรมัน -> Public Health , บอกว่าความสกปรกเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของโรค , รัฐสร้างท่อระบายน้ำ
โรงอาบน้ำสาธารณะ , รักษาความสะอาดของถนน , จัดตั้งโรงพยาบาล
-The Middle Age (ยุคมืด) - Byzantine Empire - Constantinople
- มีโรคระบาด เช่น leprosy(เรื้อน), scurvy(เลือดออกตามไรฟัน), Black Death(กาฬโรค)
monastic medicine (แพทย์ที่เป็นพระ)
- การแพทย์ถูกควบคุมโดยโบสถ์ได้แก่ a Christian church - โรคใช้ในการวัดความศรัทธาต่อพระเจ้า
- โรคเกิดจากพระเจ้าลงโทษ ปีศาจสิง หรือผลของการร่ายคาถา
- Apotek , Apothecary สถานที่เก็บยา ขายยา
Arab -> King Karib ใส่ใจเรื่องการแพทย์ สร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ เช่น Sandalini , Toledo School ,
Antidotarium
Scholastic medicine
- ครึ่งหลังของยุคกลางสภา Clermont ห้ามพระรักษาคน , มีแพทย์เอกชนและโลกีวิสัย(เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับกามารมณ์)
- มหาลัยมีบทบาทในการศึกษาแพทย์ ในยุโรปได้แก่ The University of Paris , Oxford , Cambridge
- King Frederic II บอกว่าแพทย์และเภสัชกรต้องแยกออกจากกัน แต่คอยทำงานช่วยเหลือกัน
-The Renaissance Age มีแพทย์เฉพาะทางได้แก่ Physician(หมอรักษาโรคโดยใช้ยา),Surgeons(หมอผ่าตัด),
Apothecaries(เภสัชกร)
- หลักมนุษยนิยม -> ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, ความสำคัญของชีวิต, เสรีภาพมนุษย์
Andreas Vesalius
- ทำการผ่าตัดศพมนุษย์
Corpus Hippocraticum บันทึกทางการแพทย์/การรักษา
Hippocratic Oath
- หน้าที่ของหมอต้องถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นด้วย
- คำปฏิญาณตน
>< MART
King Frederic II
Paracelsus
- Astrology & alchemy (เล่นแร่แปรธาตุ)
- Criticized the humoral theory - พัฒนาสูตรยา
Barber surgeons
-The Modern Age
- การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ มีการผสมผสานความรู้และพัฒนาทางการแพทย์ค่อนข้างช้า
- The 18th century มีการพัฒนาการแพทย์ด้าน Pathology(พยาธิวิทยา), หน่วยการแพทย์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ป้องกัน
Miasma theory ว่าด้วยการสูดดมสารพิษทำให้เจ็บป่วย Plague doctor
- The first half 19th century มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนในเมืองได้รับผลกระทบจากอากาศเป็นพิษ,
มีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, มีการจำแนกcommunicable disease(โรคติดต่อ) และ
non-communicable disease(ไม่ติดต่อ;NCD) โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน, ความดัน, ไต
Florence Nightingale
- ดูแลรักษาสุขอนามัย -> วิชาชีพพยาบาล
- The second half 19th century มีการสร้างกล้องจุลทรรศน์ ศึกษาลึกลงไปกว่าระดับอวัยวะ เป็นเหตุให้สามารถไขข้อ
สงสัยสาเหตุของโรค, ค้นพบ Cell , The Germ theory of disease (ทฤษฎีเชื้อโรค) องค์ความรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตจุลชีพที่ก่อ
โรคทำให้ผู้คนป่วย
- เข้าใจถึงการเกิดโรคเฉพาะที่, สามารถที่จะควบคุมความเจ็บของผู้ป่วยในการผ่าตัดและการป้องกันการติดเชื้อ
Epidemiological models of disease
- Biomedicine =ชีวการแพทย์ - Pharmacopoeia =ตำรับยา
(1940-1970)
- Product oriented = ยาได้คุณภาพมาตรฐาน
(1970 to present)
- Patient Oriented = เน้นผู้ป่วยเป็นหลัก
- Pharmaceutical Care (บริบาลเภสัชกรรม)
ทำไมเราถึงเปลี่ยนจาก Product oriented เป็น Patient Oriented กันล่ะ?
การดูแลโดยผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง หรือ Patient-centered medicine คือ การที่แพทย์หรือผู้ให้การรักษาให้ความสำคัญการการ
ทำความเข้าใจบริบทและความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วย และปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายไป แต่ไม่ใช่
การเอาใจผู้ป่วยให้มากๆ ไม่ใช่การยัดเยียด สอนและสั่งให้ผู้ป่วยทำตาม แพทย์ต้องเข้าใจภาพจริงของผู้ป่วยแต่ละราย ให้การวินิจฉัย
ทั้งโรค (Disease) และความเจ็บป่วย (Illness) ไปด้วยกัน และให้การดูแลรักษาเฉพาะราย ไม่เหมาโหล ซึ่งต้องอาศัยทักษะที่แตกต่าง
จากการดูแลแบบ Doctor-centered หรือ Disease-centered care
ข้อดีของ Patient-centered care
1. เพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย และความร่วมมือรักษา 2. ลดความกังวล 3. ลดอาการต่างๆ
4. สภาพทางกายดีขึ้น ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการรักษาทางคลินิกลดลง ไม่เสียเวลานานกว่าวิธีรักษาดั้งเดิม
5. แพทย์ที่ใช้วิธีนี้จะมีความยืดหยุ่นต่อการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย
เอกสารอ้างอิง 1. สายพิณ หัตถีรัตน์, คู่มือหมอครอบครัวฉบับสมบูรณ์, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ, หมอชาวบ้าน, 2549, 348 หน้า.
2. Stewart MA, Brown JB, McWhinney IR. Patient-Centred Medicine : Transforming the clinical method. Second edition. Radcliffe Medical Press Ltd. 2003 4 pts, 21 chapters.
>< MART

More Related Content

More from pitsanu duangkartok

More from pitsanu duangkartok (20)

Carbohydrates และ Glycobiology.pdf
Carbohydrates และ Glycobiology.pdfCarbohydrates และ Glycobiology.pdf
Carbohydrates และ Glycobiology.pdf
 
โครงสร้างและคุณสมบัติของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน.pdf
โครงสร้างและคุณสมบัติของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน.pdfโครงสร้างและคุณสมบัติของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน.pdf
โครงสร้างและคุณสมบัติของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน.pdf
 
มลพิษทางน้ำ (Water pollution).pdf
มลพิษทางน้ำ (Water pollution).pdfมลพิษทางน้ำ (Water pollution).pdf
มลพิษทางน้ำ (Water pollution).pdf
 
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง.pdf
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง.pdfอาหารกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง.pdf
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง.pdf
 
Pharmaceutical Suspensions.pptx
Pharmaceutical Suspensions.pptxPharmaceutical Suspensions.pptx
Pharmaceutical Suspensions.pptx
 
Metabolism and Energy.pdf
Metabolism and Energy.pdfMetabolism and Energy.pdf
Metabolism and Energy.pdf
 
Ecosystem part 2
Ecosystem part 2Ecosystem part 2
Ecosystem part 2
 
ecosystem
ecosystemecosystem
ecosystem
 
Photosynthesis
PhotosynthesisPhotosynthesis
Photosynthesis
 
Cellular Pathology พิษณุ ดวงกระโทก.pdf
Cellular Pathology พิษณุ ดวงกระโทก.pdfCellular Pathology พิษณุ ดวงกระโทก.pdf
Cellular Pathology พิษณุ ดวงกระโทก.pdf
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
 
Common Chemotherapy Drugs.pdf
Common Chemotherapy Drugs.pdfCommon Chemotherapy Drugs.pdf
Common Chemotherapy Drugs.pdf
 
สรีรวิทยา (part 3)
สรีรวิทยา (part 3)สรีรวิทยา (part 3)
สรีรวิทยา (part 3)
 
สรีรวิทยา (part 2).pdf
สรีรวิทยา (part 2).pdfสรีรวิทยา (part 2).pdf
สรีรวิทยา (part 2).pdf
 
สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)
 
การสกัดสารจากพืชสมุนไพร
การสกัดสารจากพืชสมุนไพรการสกัดสารจากพืชสมุนไพร
การสกัดสารจากพืชสมุนไพร
 
Nucleophilic substitution of benzylic halides
Nucleophilic substitution of benzylic halidesNucleophilic substitution of benzylic halides
Nucleophilic substitution of benzylic halides
 
การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ ส่วนที่ 1
การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ ส่วนที่ 1การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ ส่วนที่ 1
การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ ส่วนที่ 1
 
Bacterial nutrition, metabolism, growth & death
Bacterial nutrition, metabolism, growth & deathBacterial nutrition, metabolism, growth & death
Bacterial nutrition, metabolism, growth & death
 
Introduction to bacteriology,morphology and classification of bacteria
Introduction to bacteriology,morphology and classification of bacteriaIntroduction to bacteriology,morphology and classification of bacteria
Introduction to bacteriology,morphology and classification of bacteria
 

World pharmacy history by pitsanu duangkartok

  • 1. World Pharmacy History Western pharmacy -The Prehistoric Age -ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ -The Historic Age - Mesopotamia -> Code of Hammurabi -> ตาต่อตาฟันต่อฟัน Ex. หมอต้องรับผิดชอบ - Ancient Egypt (1,400 – 1,200 B.C.) ->น้ำยาอาบศพ (ชีวิตหลังความตาย) เก็บรักษาสภาพ - Medicine in ancient Egypt -จุดเด่น - Papyrus Edwin Smith (เกี่ยวกับยา) - Imhotep (เทพเจ้าช่วยรักษาโรค) -Belly "For the evacuation of the belly: Cow's milk 1; grains 1; honey 1; mash, sift, cook; take in four portions." - Bowels "To remedy the bowels: Melilot, 1; dates, 1; cook in oil; anoint sick part." - Cancer Recounting a "tumor against the god Xenus", it recommends "do thou nothing there against". - Clothing Clothing may be protected from mice and rats by applying cat's fat. - Death Half an onion and the froth of beer was considered "a delightful remedy against death.” -God -Spirit -sorcerer (หมอผี) -Riligious ritual -Physical means -Trephination - Curative Method การเจาะกะโหลก - Ancient India (3,000 B.C.) ขฬ - World Pharmacy ส่งออกยาสามัญไปประเทศต่างๆ (ในปัจจุบัน) - ฤคเวท ->ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ - อายุรเวท ->เรื่องยาและการแพทย์ -Ancient China (2,000 B.C.) - หยิน-หยาง (ความสมดุลสุขภาพ) - หวงตี้เน่ยจิง; 黄帝内经 (ตำราการรักษา) -เป็นอู่อารยธรรม -มีหลักฐานจารึกเป็นจำนวนมาก - หลักฐานอื่นๆ (มัมมี่ น้ำยาอาบศพ) -specialist (มีหมอเฉพาะทาง) - Ebers Papyrus <Contains formulas for more than 800 ancient remedies.> การวินิจฉัยโรค,ตำรับยา 800 รายการ >< MART Aspirin (Acetylsalicylic acid) ถูกพัฒนาตั้งแต่ 1838 โดย Rafael Phiria ใช้ใน การลดการปวด ต้านการแข็งตัวของเลือด ไทยไม่นิยมใช้เพราะมีโรคไข้เลือดออก - Ancient Greek คำว่า Pharmakon มี 3 ความหมายได้แก่ Philter (ยาวิเศษ) , Poison , Drug Jupiter Latona Apollo Coronis การแพทย์/การรักษา Aesculapius ไม้เท้ามีงู ใช้พิษงูรักษา Chiron แม่นม Hygeia มือข้างหนึ่งมีงู และอีกข้างมีถ้วยใส่พิษงู Professional Symbol
  • 2. Hippocrates เป็นบิดาด้านการแพทย์ แนวคิด -> - การกินอาหารเป็นยา - เชื่อเรื่องธรรมชาติมากกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติ - โรคเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ - หมอมีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายทำงานสู้กับโรค - Illness  Sin (บาป) - The Humoral theory of disease การแพทย์ของกรีก -> มีการนำเอาวิทยาศาสตร์ไปใส่ในความเชื่อจากตำนาน , เริ่มคิดอย่างมีเหตุผลแทนการเชื่อเรื่องเหนือ ธรรมชาติ , “Open medical marketplace” - Ancient Roman Medicine -> รับเอามาจากกรีก เรียกว่า Greco-Roman , รักษากันภายในครอบครัวของตนเอง , แพทย์กรีกเริ่มเข้ามาภายในกรุงโรม Asclepiades สงสัยเรื่อง “self-healing(ร่างกายรักษาตัวเอง)” , เชื่อว่าการเจ็บป่วยและสุขภาพ เกิด จากช่องเปิดต่างๆ ของร่างกาย , Julius Caesar ให้อิสระและเสรีภาพกับหมอชาวกรีก Galen เป็นแพทย์ นักเขียน นักวิจัย - ศึกษา Anatomy โดยเริ่มศึกษาจากลิงกับหมู ทำให้หักล้างความคิดทางการแพทย์แบบเดิม การแพทย์ของโรมัน -> Public Health , บอกว่าความสกปรกเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของโรค , รัฐสร้างท่อระบายน้ำ โรงอาบน้ำสาธารณะ , รักษาความสะอาดของถนน , จัดตั้งโรงพยาบาล -The Middle Age (ยุคมืด) - Byzantine Empire - Constantinople - มีโรคระบาด เช่น leprosy(เรื้อน), scurvy(เลือดออกตามไรฟัน), Black Death(กาฬโรค) monastic medicine (แพทย์ที่เป็นพระ) - การแพทย์ถูกควบคุมโดยโบสถ์ได้แก่ a Christian church - โรคใช้ในการวัดความศรัทธาต่อพระเจ้า - โรคเกิดจากพระเจ้าลงโทษ ปีศาจสิง หรือผลของการร่ายคาถา - Apotek , Apothecary สถานที่เก็บยา ขายยา Arab -> King Karib ใส่ใจเรื่องการแพทย์ สร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ เช่น Sandalini , Toledo School , Antidotarium Scholastic medicine - ครึ่งหลังของยุคกลางสภา Clermont ห้ามพระรักษาคน , มีแพทย์เอกชนและโลกีวิสัย(เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับกามารมณ์) - มหาลัยมีบทบาทในการศึกษาแพทย์ ในยุโรปได้แก่ The University of Paris , Oxford , Cambridge - King Frederic II บอกว่าแพทย์และเภสัชกรต้องแยกออกจากกัน แต่คอยทำงานช่วยเหลือกัน -The Renaissance Age มีแพทย์เฉพาะทางได้แก่ Physician(หมอรักษาโรคโดยใช้ยา),Surgeons(หมอผ่าตัด), Apothecaries(เภสัชกร) - หลักมนุษยนิยม -> ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, ความสำคัญของชีวิต, เสรีภาพมนุษย์ Andreas Vesalius - ทำการผ่าตัดศพมนุษย์ Corpus Hippocraticum บันทึกทางการแพทย์/การรักษา Hippocratic Oath - หน้าที่ของหมอต้องถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นด้วย - คำปฏิญาณตน >< MART King Frederic II Paracelsus - Astrology & alchemy (เล่นแร่แปรธาตุ) - Criticized the humoral theory - พัฒนาสูตรยา Barber surgeons
  • 3. -The Modern Age - การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ มีการผสมผสานความรู้และพัฒนาทางการแพทย์ค่อนข้างช้า - The 18th century มีการพัฒนาการแพทย์ด้าน Pathology(พยาธิวิทยา), หน่วยการแพทย์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ป้องกัน Miasma theory ว่าด้วยการสูดดมสารพิษทำให้เจ็บป่วย Plague doctor - The first half 19th century มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนในเมืองได้รับผลกระทบจากอากาศเป็นพิษ, มีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, มีการจำแนกcommunicable disease(โรคติดต่อ) และ non-communicable disease(ไม่ติดต่อ;NCD) โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน, ความดัน, ไต Florence Nightingale - ดูแลรักษาสุขอนามัย -> วิชาชีพพยาบาล - The second half 19th century มีการสร้างกล้องจุลทรรศน์ ศึกษาลึกลงไปกว่าระดับอวัยวะ เป็นเหตุให้สามารถไขข้อ สงสัยสาเหตุของโรค, ค้นพบ Cell , The Germ theory of disease (ทฤษฎีเชื้อโรค) องค์ความรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตจุลชีพที่ก่อ โรคทำให้ผู้คนป่วย - เข้าใจถึงการเกิดโรคเฉพาะที่, สามารถที่จะควบคุมความเจ็บของผู้ป่วยในการผ่าตัดและการป้องกันการติดเชื้อ Epidemiological models of disease - Biomedicine =ชีวการแพทย์ - Pharmacopoeia =ตำรับยา (1940-1970) - Product oriented = ยาได้คุณภาพมาตรฐาน (1970 to present) - Patient Oriented = เน้นผู้ป่วยเป็นหลัก - Pharmaceutical Care (บริบาลเภสัชกรรม) ทำไมเราถึงเปลี่ยนจาก Product oriented เป็น Patient Oriented กันล่ะ? การดูแลโดยผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง หรือ Patient-centered medicine คือ การที่แพทย์หรือผู้ให้การรักษาให้ความสำคัญการการ ทำความเข้าใจบริบทและความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วย และปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายไป แต่ไม่ใช่ การเอาใจผู้ป่วยให้มากๆ ไม่ใช่การยัดเยียด สอนและสั่งให้ผู้ป่วยทำตาม แพทย์ต้องเข้าใจภาพจริงของผู้ป่วยแต่ละราย ให้การวินิจฉัย ทั้งโรค (Disease) และความเจ็บป่วย (Illness) ไปด้วยกัน และให้การดูแลรักษาเฉพาะราย ไม่เหมาโหล ซึ่งต้องอาศัยทักษะที่แตกต่าง จากการดูแลแบบ Doctor-centered หรือ Disease-centered care ข้อดีของ Patient-centered care 1. เพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย และความร่วมมือรักษา 2. ลดความกังวล 3. ลดอาการต่างๆ 4. สภาพทางกายดีขึ้น ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการรักษาทางคลินิกลดลง ไม่เสียเวลานานกว่าวิธีรักษาดั้งเดิม 5. แพทย์ที่ใช้วิธีนี้จะมีความยืดหยุ่นต่อการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย เอกสารอ้างอิง 1. สายพิณ หัตถีรัตน์, คู่มือหมอครอบครัวฉบับสมบูรณ์, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ, หมอชาวบ้าน, 2549, 348 หน้า. 2. Stewart MA, Brown JB, McWhinney IR. Patient-Centred Medicine : Transforming the clinical method. Second edition. Radcliffe Medical Press Ltd. 2003 4 pts, 21 chapters. >< MART