Introduction to bacteriology,morphology and classification of bacteria
World pharmacy history by pitsanu duangkartok
1. World Pharmacy History
Western pharmacy
-The Prehistoric Age
-ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ
-The Historic Age
- Mesopotamia -> Code of Hammurabi -> ตาต่อตาฟันต่อฟัน Ex. หมอต้องรับผิดชอบ
- Ancient Egypt (1,400 – 1,200 B.C.) ->น้ำยาอาบศพ (ชีวิตหลังความตาย) เก็บรักษาสภาพ
- Medicine in ancient Egypt -จุดเด่น
- Papyrus Edwin Smith (เกี่ยวกับยา) - Imhotep (เทพเจ้าช่วยรักษาโรค)
-Belly
"For the evacuation of the belly:
Cow's milk 1; grains 1; honey 1;
mash, sift, cook; take in four
portions."
- Bowels
"To remedy the bowels: Melilot, 1;
dates, 1; cook in oil; anoint sick
part."
- Cancer
Recounting a "tumor against the
god Xenus", it recommends "do
thou nothing there against".
- Clothing
Clothing may be protected from
mice and rats by applying cat's fat.
- Death
Half an onion and the froth of beer
was considered "a delightful
remedy against death.”
-God
-Spirit
-sorcerer (หมอผี)
-Riligious ritual
-Physical means
-Trephination
- Curative Method
การเจาะกะโหลก
- Ancient India (3,000 B.C.)
ขฬ - World Pharmacy ส่งออกยาสามัญไปประเทศต่างๆ (ในปัจจุบัน)
- ฤคเวท ->ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์
- อายุรเวท ->เรื่องยาและการแพทย์
-Ancient China (2,000 B.C.)
- หยิน-หยาง (ความสมดุลสุขภาพ)
- หวงตี้เน่ยจิง; 黄帝内经 (ตำราการรักษา)
-เป็นอู่อารยธรรม
-มีหลักฐานจารึกเป็นจำนวนมาก
- หลักฐานอื่นๆ (มัมมี่ น้ำยาอาบศพ)
-specialist (มีหมอเฉพาะทาง)
- Ebers Papyrus
<Contains formulas for more than 800
ancient remedies.>
การวินิจฉัยโรค,ตำรับยา 800 รายการ
>< MART
Aspirin (Acetylsalicylic acid) ถูกพัฒนาตั้งแต่ 1838 โดย Rafael Phiria ใช้ใน
การลดการปวด ต้านการแข็งตัวของเลือด ไทยไม่นิยมใช้เพราะมีโรคไข้เลือดออก
- Ancient Greek
คำว่า Pharmakon มี 3 ความหมายได้แก่ Philter (ยาวิเศษ) , Poison , Drug
Jupiter Latona
Apollo Coronis
การแพทย์/การรักษา
Aesculapius ไม้เท้ามีงู ใช้พิษงูรักษา
Chiron
แม่นม
Hygeia
มือข้างหนึ่งมีงู และอีกข้างมีถ้วยใส่พิษงู
Professional Symbol
2. Hippocrates เป็นบิดาด้านการแพทย์
แนวคิด ->
- การกินอาหารเป็นยา
- เชื่อเรื่องธรรมชาติมากกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติ
- โรคเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ
- หมอมีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายทำงานสู้กับโรค
- Illness Sin (บาป)
- The Humoral theory of disease
การแพทย์ของกรีก -> มีการนำเอาวิทยาศาสตร์ไปใส่ในความเชื่อจากตำนาน , เริ่มคิดอย่างมีเหตุผลแทนการเชื่อเรื่องเหนือ
ธรรมชาติ , “Open medical marketplace”
- Ancient Roman Medicine -> รับเอามาจากกรีก เรียกว่า Greco-Roman , รักษากันภายในครอบครัวของตนเอง ,
แพทย์กรีกเริ่มเข้ามาภายในกรุงโรม
Asclepiades สงสัยเรื่อง “self-healing(ร่างกายรักษาตัวเอง)” , เชื่อว่าการเจ็บป่วยและสุขภาพ เกิด
จากช่องเปิดต่างๆ ของร่างกาย , Julius Caesar ให้อิสระและเสรีภาพกับหมอชาวกรีก
Galen เป็นแพทย์ นักเขียน นักวิจัย
- ศึกษา Anatomy โดยเริ่มศึกษาจากลิงกับหมู ทำให้หักล้างความคิดทางการแพทย์แบบเดิม
การแพทย์ของโรมัน -> Public Health , บอกว่าความสกปรกเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของโรค , รัฐสร้างท่อระบายน้ำ
โรงอาบน้ำสาธารณะ , รักษาความสะอาดของถนน , จัดตั้งโรงพยาบาล
-The Middle Age (ยุคมืด) - Byzantine Empire - Constantinople
- มีโรคระบาด เช่น leprosy(เรื้อน), scurvy(เลือดออกตามไรฟัน), Black Death(กาฬโรค)
monastic medicine (แพทย์ที่เป็นพระ)
- การแพทย์ถูกควบคุมโดยโบสถ์ได้แก่ a Christian church - โรคใช้ในการวัดความศรัทธาต่อพระเจ้า
- โรคเกิดจากพระเจ้าลงโทษ ปีศาจสิง หรือผลของการร่ายคาถา
- Apotek , Apothecary สถานที่เก็บยา ขายยา
Arab -> King Karib ใส่ใจเรื่องการแพทย์ สร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ เช่น Sandalini , Toledo School ,
Antidotarium
Scholastic medicine
- ครึ่งหลังของยุคกลางสภา Clermont ห้ามพระรักษาคน , มีแพทย์เอกชนและโลกีวิสัย(เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับกามารมณ์)
- มหาลัยมีบทบาทในการศึกษาแพทย์ ในยุโรปได้แก่ The University of Paris , Oxford , Cambridge
- King Frederic II บอกว่าแพทย์และเภสัชกรต้องแยกออกจากกัน แต่คอยทำงานช่วยเหลือกัน
-The Renaissance Age มีแพทย์เฉพาะทางได้แก่ Physician(หมอรักษาโรคโดยใช้ยา),Surgeons(หมอผ่าตัด),
Apothecaries(เภสัชกร)
- หลักมนุษยนิยม -> ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, ความสำคัญของชีวิต, เสรีภาพมนุษย์
Andreas Vesalius
- ทำการผ่าตัดศพมนุษย์
Corpus Hippocraticum บันทึกทางการแพทย์/การรักษา
Hippocratic Oath
- หน้าที่ของหมอต้องถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นด้วย
- คำปฏิญาณตน
>< MART
King Frederic II
Paracelsus
- Astrology & alchemy (เล่นแร่แปรธาตุ)
- Criticized the humoral theory - พัฒนาสูตรยา
Barber surgeons
3. -The Modern Age
- การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ มีการผสมผสานความรู้และพัฒนาทางการแพทย์ค่อนข้างช้า
- The 18th century มีการพัฒนาการแพทย์ด้าน Pathology(พยาธิวิทยา), หน่วยการแพทย์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ป้องกัน
Miasma theory ว่าด้วยการสูดดมสารพิษทำให้เจ็บป่วย Plague doctor
- The first half 19th century มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนในเมืองได้รับผลกระทบจากอากาศเป็นพิษ,
มีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, มีการจำแนกcommunicable disease(โรคติดต่อ) และ
non-communicable disease(ไม่ติดต่อ;NCD) โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน, ความดัน, ไต
Florence Nightingale
- ดูแลรักษาสุขอนามัย -> วิชาชีพพยาบาล
- The second half 19th century มีการสร้างกล้องจุลทรรศน์ ศึกษาลึกลงไปกว่าระดับอวัยวะ เป็นเหตุให้สามารถไขข้อ
สงสัยสาเหตุของโรค, ค้นพบ Cell , The Germ theory of disease (ทฤษฎีเชื้อโรค) องค์ความรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตจุลชีพที่ก่อ
โรคทำให้ผู้คนป่วย
- เข้าใจถึงการเกิดโรคเฉพาะที่, สามารถที่จะควบคุมความเจ็บของผู้ป่วยในการผ่าตัดและการป้องกันการติดเชื้อ
Epidemiological models of disease
- Biomedicine =ชีวการแพทย์ - Pharmacopoeia =ตำรับยา
(1940-1970)
- Product oriented = ยาได้คุณภาพมาตรฐาน
(1970 to present)
- Patient Oriented = เน้นผู้ป่วยเป็นหลัก
- Pharmaceutical Care (บริบาลเภสัชกรรม)
ทำไมเราถึงเปลี่ยนจาก Product oriented เป็น Patient Oriented กันล่ะ?
การดูแลโดยผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง หรือ Patient-centered medicine คือ การที่แพทย์หรือผู้ให้การรักษาให้ความสำคัญการการ
ทำความเข้าใจบริบทและความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วย และปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายไป แต่ไม่ใช่
การเอาใจผู้ป่วยให้มากๆ ไม่ใช่การยัดเยียด สอนและสั่งให้ผู้ป่วยทำตาม แพทย์ต้องเข้าใจภาพจริงของผู้ป่วยแต่ละราย ให้การวินิจฉัย
ทั้งโรค (Disease) และความเจ็บป่วย (Illness) ไปด้วยกัน และให้การดูแลรักษาเฉพาะราย ไม่เหมาโหล ซึ่งต้องอาศัยทักษะที่แตกต่าง
จากการดูแลแบบ Doctor-centered หรือ Disease-centered care
ข้อดีของ Patient-centered care
1. เพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย และความร่วมมือรักษา 2. ลดความกังวล 3. ลดอาการต่างๆ
4. สภาพทางกายดีขึ้น ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการรักษาทางคลินิกลดลง ไม่เสียเวลานานกว่าวิธีรักษาดั้งเดิม
5. แพทย์ที่ใช้วิธีนี้จะมีความยืดหยุ่นต่อการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย
เอกสารอ้างอิง 1. สายพิณ หัตถีรัตน์, คู่มือหมอครอบครัวฉบับสมบูรณ์, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ, หมอชาวบ้าน, 2549, 348 หน้า.
2. Stewart MA, Brown JB, McWhinney IR. Patient-Centred Medicine : Transforming the clinical method. Second edition. Radcliffe Medical Press Ltd. 2003 4 pts, 21 chapters.
>< MART