ศาสนาพุทธ.docx
- 1. พระพุทธศาสนา
ในพระพุทธศาสนาพุทธะตามภาษาบาลีพุทฺธแปลว่า"ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" หมายถึงบุคคลผู้ตรัสรู้อริยสัจ๔
แล้วอย่างถ่องแท้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระบรมศาสดาของพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายาน
ต่างก็นับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นศาสดาของตนเหมือนกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน
ฝ่ ายเถรวาทให้ความสาคัญกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือพระโคตมโคดมพุทธเจ้า
และกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตกับในอนาคตบ้างแต่ไม่ให้ความสาคัญเท่า
ฝ่ ายมหายานนับถือพระพุทธเจ้าของฝ่ายเถรวาททั้งหมด
และมีการสร้างพระพุทธเจ้าเพิ่มเติมขึ้นมาจนบางองค์มีลักษณะคล้ายเทพเจ้าของศาสนาฮินดู
ตามคัมภีร์ฝ่ายพุทธถือกันว่าพระพุทธเจ้าพระโคตมโคดมพระองค์ดารงพระชนม์ชีพอยู่ระหว่าง ๘๐ปีก่อนพุทธศักราช
จนถึงเริ่มพุทธศักราชซึ่งเป็นวันปรินิพพานตรงกับ๕๔๓ปีก่อนคริสตกาลตามตาราไทยอ้างอิงปฏิทินสุริยคติไทย
และปฏิทินจันทรคติไทยและ ๔๘๓ปีก่อนคริสตกาลตามปฏิทินสากล
ความหมายและความสาคัญของศาสนา
1. ความหมายของศาสนา
คาว่า" ศาสนา"มาจากคาในภาษาสันสกฤตว่า"ศาสน"แปลว่า" คาสอนข้อบังคับ" ตรงกับคาในภาษาบาลีว่า
"สาสน"แปลว่า" ศาสนาหรือคาสั่งสอนกับศาสดา"
คาว่า"ศาสนา"ในภาษาอังกฤษใช้คาว่า"Religion"มาจากภาษาลาตินว่า"Religare"ตรงกับคาว่า"Together"
แปลว่าการรวมเข้าด้วยกันหรือการรวมตนเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ดังนั้นคาว่า
"Religion"ที่เรานามาแปลเป็นไทยว่าศาสนานั้นจึงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์โดยศรัทธาระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
คาว่า"ศาสนา"มาจากภาษาสันสกฤตว่า"สาสน"ถ้าเป็นภาษาบาลีว่า"สาสน"มีความหมายตามรูปศัพท์ว่า"คาสั่งสอน"
ในภาษาอังกฤษใช้คาว่า"Religion"ซึ่งมีศัพท์เดิมมาจากภาษาละตินว่าReligis
คานี้นักปราชญ์ทางภาษาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่ามาจากคา ๒คาคือ Relegereซึ่งแปลว่าการปฏิบัติต่อ
หรือการเกี่ยวข้องด้วยความระมัดระวังและReligareซึ่งแปลว่าผูกพันเพราะฉะนั้นคาว่า Religion
จึงมีความหมายตามรูปศัพท์ว่าการปฏิบัติต่อการเกี่ยวข้องแต่อย่างไรก็ตาม
การจะพิจารณาความหมายตามรูปศัพท์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถครอบคลุมสารัตถะที่แท้จริงของศาสนาได้
จึงควรจะได้ศึกษาพิจารณาความหมายหรือคาจากัดความตามเนื้อหาที่นักปราชญทางศาสนาได้ให้ไว้ ซึ่งจะแตกต่างกันไป
ทั้งนี้แล้วแต่ประเด็นที่ต้องการเน้นและสภาพแวดล้อม
๑.Max Miller เน้นพุทธิปัญญา(Intellect)กล่าวว่าศาสนาคือ
ความสามารถหรืออตาจทางจิตซึ่งไม่ขึ้นแก่ความรู้สึกทางประสาทสัมผัสหรือเหตุผล
สามารถนาบุคคลให้เข้าถึงพระเจ้าภายใต้พระนามต่างๆ
๒. ImmanuelKant เน้นศีลธรรม(Moral) กล่าวว่าศาสนาคือการยอมรับรู้ถึงหน้าที่ทั้งปวงตามเทวโองการ
๓. Allen Menses เน้นการบูชา(Worship)กล่าวว่าศาสนาคือการบูชาพลังที่สูงกว่า
๔. EdwardScribnerAms เน้นสังคม(Society) กล่าวว่าศาสนาคือความรู้สึกถึงคุณค่าทางสังคมอันสูงสุด
๕. G.W.Stratton เน้นอุดมคติอันสูงส่ง(SupremeIdeal)กล่าวว่าศาสนาคือ
ความนิยมชมชอบถึงโลกและกลุ่มชนที่มองไม่เห็น
- 2. ๖.Adams Brown เน้นชีวิต(Life) กล่าวว่าศาสนา
หมายถึงชีวิตของบุคคลในส่วนที่สัมพันธ์กับท่านผู้เหนือมนุษย์ธรรมดาของเขา
๗. หลวงวิจิตรวาทการเน้นองค์ประกอบของศาสนากล่าวว่า
คาสอนที่จัดเป็นศาสนานั้นต้องเป็นเรื่องที่ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มีคาสอนทางจรรยามีศาสดา
มีคณะบุคคลที่รักษาความศักดิ์สิทธิ์และคาสอนไว้ เช่นพระหรือนักบวชและมีการกวดขันเรื่องความจงรักภักดี
๘. ศ.เสถียรพันธรังสีเน้นลักษณะของศาสนากล่าวว่าลักษณะที่เรียกว่าศาสนาได้ มีหลักดังนี้คือ
ต้องเป็นเรื่องความเชื่อถือได้โดยมีความศักดิ์สิทธิ์มีคาสอนทางธรรมจรรยามีศาสดา
และมีผู้สืบต่อคาสอนที่เรียกว่าพระหรือนักบวช
๙. อาจารย์สุชีพปุญญานุภาพเน้นลักษณะคาสอนกล่าวว่าคาสอนที่นับว่าเป็นศาสนานั้นว่าด้วยเรื่องต่างๆคือ
ความเชื่อในอานาจที่มองเห็นไม่ได้ด้วยตาบางอย่างเช่นอานาจของธรรมหรือ อานาจของพระเจ้ามีหลักศีลธรรม
มีคาสอนว่าด้วยจุดมุ่งหมายสูงสุดแห่งชีวิตและมีพิธีกรรม
๑๐.พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.๒๕๒๕ ได้ให้ความหมายของศาสนาไว้ว่าศาสนาคือ
ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลักแสดงกาเนิดและสิ้นสุดของโลกเป็นต้นอันเป็นไปในง่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง
แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในง่ายศีลธรรมประการหนึ่ง
พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทาตามความเห็นหรือตามคาสั่งสอนในความเชื่อถือนั้นๆ
จากคาจากัดความและทัศนะต่างๆที่กล่าวข้างต้นพอจะสรุปเป็นทัศนะอีกทัศนะหนึ่งได้ว่า
ศาสนาคือคาสั่งสอนที่พระศาสดาได้ค้นพบหรือได้จากเทวโองการซึ่งมีลักษณะศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งทางใจ
ได้ถูกนามาเผยแพร่ให้มวลมนุษยชาติประพฤติปฏิบัติตามและประกอบพิธีกรรม
เพื่อประสบสันติสุขในระดับศีลธรรมจรรยาและสันติภาพอันนิรันดรอันเป็นจุดหมายสูงสุดของชีวิต
พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถานพ.ศ.2525 ได้ให้นิยามคาว่า"ศาสนา"ดังนี้ ศาสนาหมายถึงลัทธิความเชื่อ
ของมนุษย์อันมีหลักคือแสดงกาเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้นอันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง
แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง
พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทาตามความเห็นหรือตามคาสั่งสอนในความเชื่อถือนั้นๆ
"พระพุทธศาสนา"
คาว่าพระพุทธศาสนาประกอบด้วยคาว่าพุทธะซึ่งแปลว่าผู้รู้ กับคาว่าศาสนา ที่แปลว่าคาสั่งสอน รวมกั
นเข้าเป็น พุทธศาสนาแปลว่าคาสั่งสอนของผู้รู้ เมื่อพูดว่าพุทธศาสนาความเข้าใจก็ต้องแล่นเข้าไปถึงลัทธิปฏิบัติ
และคณะบุคลซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติในลัทธิปฏิบัตินั้นไม่ใช่มีความหมายแต่เพียงคาสั่งสอนซึ่งเป็นเสียงหรือเป็นหนังสือ
หรือเป็นเพียงตารับตาราเท่านั้นพระพุทธศาสนาที่เราทั้งหลายในบัดนี้ได้รับนับถือและปฏิบัติเนื่องมาจากอะไร
คือเราได้อะไรจากสิ่งที่เรียกว่าพระพุทธศาสนานั้นมานับถือปฏิบัติในบัดนี้เมื่อพิจารณาดูแล้วก็เห็นว่าเราได้หนังสือ
อย่างหนึ่งบุคคล อย่างหนึ่ง หนังสือนั้นก็คือตาราที่แสดงพระพุทธศาสนา
บุคคนั้นก็คือพุทธศาสนิกที่แปลว่าผู้นับถือพระพุทธศาสนาพุทธศาสนิกนี้มิใช่หมายเพียงแต่คฤหัสถ์
หมายความถึงทั้งบรรพชิตคือนักบวชและคฤหัสถ์คือผู้ซึ่งนับถือพระพุทธศาสนาพูดอีกอย่างหนึ่งได้แก่
พุทธบริษัทคือหมู่ของผู้นับถือพระพุทธเจ้าดังที่เรียกว่าภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกาแต่ในบัดนี้ภิกษุณีไม่มีแล้ว
ก็มีภิกษุกับสามเณรและอุบาสกอุบาสิกาหรือบุคคที่เรียกว่าพุทธมามกะพุทธมามิกา
ก็รวมเรียกว่าพุทธบริษัทหรือพุทธศาสนิกทั้งหมดคือในบัดนี้มีหนังสือซึ่งเป็นตาราพระพุทธศาสนา