More Related Content More from Oui Nuchanart (20) C32. ปฏิกิริยาการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 fixation
หรือ Dark reaction หรือ Calvin cycle)
การทดลองของเมลวิน คัลวิน (Melvin Calvin) และแอนดรู เอ เบนสัน
คลอเรลลา
เติม CO2 ในรูปของ
H14CO3-
ลิ้นควบคุมการปิดเปิดแสง
เทอร์โมมิเตอร์
ภาชนะเก็บคลอเรลลาเป็นระยะ
ภายในบรรจุเมทานอลที่ร้อน
เพื่อนาคลอเรลลาทันที
สารละลาย NaHCO3
3. เมื่อเวลาผ่านไป
- 1 นาที ตรวจสารประกอบแล้วพบ 14C ใน สารประกอบหลาย
ชนิดรวมทั้งน้าตาลกลูโคส (สาร C 3,C5,C6) เช่น
(สาร C3 = PGA ,C5 = RuBP,C6 = กลูโคส)
- แต่เมื่อให้การสังเคราะห์แสงในระยะเวลาสั้นลง
ประมาณ 2 วินาที ตรวจพบ 14C อยู่ในสสาร
ประกอบที่มีคาร์บอน 3 อะตอม (PGA)
4. คัลวินและคณะคิดว่า
สารประกอบ C2 + CO2 = จะได้สาร C3 (PGA)
แต่จากการทดลองไม่พบสารประกอบ C2 อยู่เลย แต่
พบว่ามีสารประกอบ C5 เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้
การสังเคราะห์แสงจะเกิดขึ้นเป็นเวลานาน
C C O O
C
6. The step of Calvin cycle
1. Carbon fixation
2. Reduction
3. Regeneration
11. ข้อสังเกตของวัฏจักรคัลวิน
1. โดยปกติวัฏจักรคัลวินจะต้องเกิด 2 รอบจึงจะได้ PGAL 2 โมเลกุล
ซึ่งเพียงพอต่อการสร้างกลูโคส (6C)1 โมเลกุล
2. ในพืชทั่วๆไป สารชนิดแรกที่คงตัวที่ได้จากการตรึง CO2 คือ PGA
ซึ่งมี 3C จึงเรียกการตรึง CO2 แบบนี้ว่า C3-pathway และเรียกว่าพืช
C-3 ซึ่งก็คือพืชใบเลี้ยงคู่และใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วๆ ไป
(ข้าวสาลี,ถั่วเหลือง)
17. Photorespiration
การตรึง CO2 ของ RuBP ต้องใช้เอนไซม์ Rubisco ซึ่งอยู่ใน
สโตรมาของคลอโรพลาสต์ เอนไซม์นี้นอกจากกระตุ้นให้ RuBP
ตรึง CO2 แล้วยังตรึง O2 ได้ด้วย
เมื่อพืช ตรึง O2 ด้วย RuBP ซึ่ง RuBP จะถูกสลายเป็นสารประกอบ
คาร์บอน 2 อะตอม เพราะฉะนั้นการจะสร้าง RuBP
จึงเสีย CO2 ไปบางส่วน
การตรึง O2 และคาย CO2 ในเวลาที่พืชได้รับแสง จึงเรียกว่า
โพโตเรสไพเรชัน (Photorespiration)