K2
- 1. ใบงานที 2 เรือง ความหมายและความสํ าคัญของโครงงาน
ความหมายของโครงงาน
โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมทีเปิ ดโอกาสให้ ผู้เรี ยนได้ ทําการศึกษาค้ นคว้ าและฝึ กปฏิบติด้วยตนเองตาม
ั
ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรื อกระบวนการอืนๆ ไปใช้ ในการศึกษาหา
คําตอบ โดยมีครูผ้ สอนคอยกระตุ้นแนะนําและให้ คาปรึกษาแก่ผ้ เู รียนอย่างใกล้ ชิด ตังแต่การเลือกหัวข้ อทีจะศึกษา ค้ นคว้ า
ู ํ <
ดําเนินงานตามแผน กําหนดขันตอนการดําเนินงานและการนําเสนอผลงาน ซึงอาจทําเป็ นบุคคลหรื อเป็ นกลุม
< ่
โครงงาน คือ การศึกษาค้ นคว้ าเกียวกับสิงใดสิงหนึง หรื อหลายๆสิงทีอยากรู้คําตอบให้ ลกซึ <ง ึ
หรื อเรี ยนรู้ในเรื องนันๆให้ มากขึ <น โดยใช้ กระบวนการ วิธีการทีศึกษาอย่างมีระบบ เป็ นขันตอน
< <
มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบติงานตามแผนทีวางไว้ จนได้ ข้อสรุปหรื อผลสรุปทีเป็ นคําตอบในเรื องนันๆ
ั <
ความสําคัญของการทําโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานทีได้ จากการศึกษาค้ นคว้ าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรี ยน โดย
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็ นกิจกรรมการเรี ยนรู้ทีมีการเน้ นผู้เรี ยนเป็ นสําคัญ โดยผู้เรี ยนจะหาหัวข้ อโครงงานที
ตนเองสนใจ รวมทังเชือมโยงความรู้ตาง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพือสร้ างผลงานตามความ
< ่
ต้ องการได้ อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็ นทีปรึกษาและให้ คําแนะนํา
ความสามารถทีเกิดจากการทําโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนรู้ทีทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดความสามารถในด้ านต่าง ๆ ทีสําคัญ 5 ประการ ดังนี <
1.ความสามารถในการสือสาร เป็ นความสามารถทีเกิดจากการทีนักเรี ยนเป็ นผู้ทาโครงงานต้ องนําเสนอผลงานให้ ครูและเพือน
ํ
นักเรี ยนให้ เข้ าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้ อย่างชัดเจน ดังนัน ผู้ทําโครงงานต้ องสือสารความคิดในการสร้ างสรรค์โครงงานด้ วย
<
การเขียน หรื อด้ วยปากเปล่า รวมทังเลือกใช้ รูปแบบของสืออย่างมีประสิทธิภาพเพือนําเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ ผ้ อืน
< ู
ได้ เข้ าใจ
2.ความสามารถในการคิด ซึงผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี <
1. การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการทีผู้เรี ยนต้ องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุวาเกิดเนืองจากอะไร
่
2. การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการทีผู้เรี ยนต้ องนําความรู้ตาง ๆ ทีเรี ยนมา รวมทังความรู้จากการค้ นหาข้ อมูล เพือใช้ ใน
่ <
การแก้ ปัญหาหรื อการสร้ างสรรค์โครงงาน
3. การคิดอย่างสร้ างสรรค์ เกิดจากการทีผู้เรี ยนนําความรู้มาสร้ างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
4. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการทีผู้เรี ยนได้ มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทําโครงงานใดและไม่ควรทําโครง งานใด
เนืองจากโครงงานทีสร้ างขึ <นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคํานวณเลขหวย สําหรับหาเลขที
คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทําให้ คนในสังคมเกิดความหมกมุนในกับ ่
การใช้ เงินเล่นหวยมากขึ <น
5. การคิดอย่างเป็ นระบบ เกิดจากการทีผู้เรี ยนคิดแก้ ปัญหาอย่างเป็ นขันตอน โดยใช้ ขนตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ
< ั<
ผู้เรี ยนเป็ นผู้วางแผนในการศึกษา ค้ นคว้ า เก็บรวบรวมข้ อมูล พัฒนา หรื อประดิษฐ์ คิดค้ นผลงาน รวมทังการสรุปผล
<
และการนําเสนอผลการศึกษาค้ นคว้ าด้ วยตนเอง โดยมีผ้ สอนและผู้ทรงคุณวุฒเิ ป็ นผู้ให้ คาปรึกษา
ู ํ
- 2. 3.ความสามารถในการแก้ ปัญหา เกิดจากการทีผู้เรี ยนวิเคราะห์ปัญหา เข้ าใจ และอธิบายปั ญหาทางด้ านคอมพิวเตอร์ รวมทัง<
ประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ เครื องมือทีเหมาะสมกับการแก้ ไขปั ญหา
4.ความสามารถในการใช้ ทกษะชีวิต เกิดจากการทีผู้เรียนได้ นําความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการพัฒนาโครงงาน และ
ั
นําไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจําวันได้ อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้ เกิดการเรี ยนรู้ด้วยตนเอง อันนําไปสูการ
่
เรี ยนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เกิดจากการทีผู้เรี ยนสามารถเลือกใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ ปัญหาได้ อย่าง
ถูกต้ องเหมาะสม และมีคณธรรม
ุ
แหล่ งทีมา
http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/tech04/22/standard/p01.html
http://krudarin.wordpress.com/%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%
88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8
%9E%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%
B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B4/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E
0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82
%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%
87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
สื บค้ นเมือวันที 27 สิ งหาคม 2555 เวลา 11:43 น