วิธีทำระนาด
- 1. การทำากระพุ้งรางระนาด
กระพุ้งระนาดคือส่วนที่เป็นขอบฝารางระนาด วิธีทำา
กระพุ้งใช้ไม้เนื้อแข็งเช่นเดียวกับการทำาโขนระนาด นำากระสวน
กระพุ้งมาวางทาบบนแผ่นไม้ที่เตรียมไว้ใช้ดินสอวาดตามโค้ง
ของรุปไม้กระสวนแล้วนำาไปเลื่อยออกด้วยเลื่อย ต่อจากนั้นนำา
ไปแต่งให้กระพุ้งด้านในเว้าออกดดยวิธีดกลนท้องหรือขุดท้อง
วิธีทำาใช้สิ่วขุดเนื้อไม้ออกโดยขุดให้ส่วนตรงกลางมีความลึกแลว
ใช้กระดาษทรายละเอียดขัดอีกครั้ง
การทำาฐานระนาด (เท้าระนาด)
ฐานหรือเท้าระนาดทำาด้วยไม้ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำาโขน
และกระพุ้ง นำาไม้มาถากออกทั้ง 4 ด้าน โดยใช้สิ่วถากจากด้าน
บนให้เล็กชันลงไปหาด้านล่างให้ด้านล่างมีขนาดเท่าเดิม ต่อจาก
นั้นใช้สิ่วเล็กขุดเนื้อไม้ออกโดยขุดจากด้านล่างไปหาด้านบนโดย
ขุดเป็นชั้นๆขึ้นไปคล้ายขั้นบันไดประมาณ 4 ขั้น แล้วใช้
กระดาษทรายขัดให้เรียบ
เมื่อทำาโขน กระพุ้ง และฐานระนาดเสร็จแล้ว นำากระดาษ
ทรายขัดให้เรียบทั้งรางเก็บรายละเอียดทั้งหมดให้เรียบร้อย
การเขียนลายและลงรักปิดทอง
ในการทำาลวดลายที่รางระนาดจะต้องขัดตัวรางระนาดให้
เรียบเสมอจากนั้นใช้ฝุ่นแดงผสมนำ้าทาตามเนื้อไม้ แล้วนำาไปผึ่ง
ลมทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วจากนั้นก็วาดลวดลายลงบนกระพุ้ง โขน
และฐาน แล้วจึงใช้ยางรักทาอีกครั้งเมื่อยางรักจวนจะแห้งสนิท
จึงนำาแผ่นทองเปลวมาติด การปิดทองเปลวต้องปิดด้วยความ
ประณีตโดยปิดทีละแผ่น ใช้ภู่กันเป็นเครื่องมือช่วยในการปิด
ทอง
แต่ถ้าเป็นลักษณะของรางระนาดรางทอง วิธีทำาก็คือเขียน
ลวดลายในกระดาษที่ตัดเป็นรูปกระพุ้งระนาดและโขนระนาด
แล้วทากาวบนกระดาษที่วาดลวดลายแล้วนำาไปติดกับกระพุ้ง
โขน และฐาน เมื่อกาวแห้งแล้วใช้สิ่วตอกแซะให้เป็นร่องตาม
ลวดลายทั้งหมดก่อนต่อจากนั้นจึงแกะลาย โดยขุดเนื้อไม้ที่
ไม่ใช่ลวดลายออกให้หมด จากนั้นนำากระดาษทรายมาขัดแล้ว
ใช้ฝุ่นแดงผสมนำ้าทาตามเนื้อไม้ที่แกะแล้วนำาไปผึ่งลม แล้วจึงใช้
ยางรักทาอีกครั้ง เมื่อยางรักจวนจะแห้งนำาแผ่นทองมา
ติดตามลวดลายที่แกะบริเวณที่เป็นลวดลายนูน ส่วนที่เป็น
ร่องจะใช้สีแดงทาหรือติดกระจกสีนำ้าเงิน เพื่อเน้นความเด่น
ชัดของลวดลา
บทนิยาม
ระนาดทุ้ม กำาเนิดในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่ง
เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดย
ประดิษฐ์ขึ้นให้เป็นเครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงทุ้มตำ่า ทั้งนี้เพื่อ
คู่กับระนาดเอกซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงสูง รางระนาด
ทุ้มมีรูปร่างคล้ายหีบไม้ยาว แต่เว้าตรงกลางให้โค้ง
มีโขนปิดหัวท้ายรางเพื่อเป็นที่แขวนผืนระนาดเช่นเดียว
ระนาดเอก แต่แตกต่างกันที่รูปทรง รางระนาดทุ้มทำาด้วย
ไม้ เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้มะเกลือ ไม้มะริด เป็นต้น
โดยที่ส่วนประกอบต่างๆ คล้ายคลึงกับระนาดเอก ส่วนที่มี
ลักษณะแตกต่างออกไป คือ ตัวรางนั้นมีลักษณะคล้ายราง
ข้าวหมู ปลายผายออก โค้งเล็กน้อย ด้านในเจาะรูเพื่อ
ติดตะขอซึ่งทำาด้วยโลหะ ด้านหัวเป็นตะของอ ด้านปลาย
ตีเกลียวแหลม มีแผ่นเหล็กกลมกั้นยึด โขนระนาดทุ้มทั้งสอง
ข้างติดยึดไว้กับไม้ฝาประกบ 2 อัน และมีไม้แผ่นอีกอัน
หนึ่งปิดใต้ท้องรางโดยตลอด เพื่ออุ้มเสียงให้ดังก้องกังวาน
ที่ไม้ปิดท้องรางด้านล่างมีไม้ทำาเป็นขารองรับตัวราง 4 เท้า
ติดอยู่ที่มุมทั้ง 4 ด้าน ที่ไม้ฝาประกบด้านบนและล่างมีไม้ทำา
เป็นคิ้วขอบรางประกบติดโดยตลอด และบนคิ้วขอบรางตอน
บนใช้หวายต้นเล็กๆ พันด้วยผ้าตอกติดเพื่อรองรับผืน
เรียกว่า หมอน และนอกจากจะทานำ้ามันลงแล็กเกอร์แล้ว
ยังตีเส้นสีดำาหรือสีขาวเดินตามขอบคิ้วตลอดถึงโขนทุ้มทั้ง
สองด้วย ผืนระนาดทุ้มนิยมทำาด้วยไม้ไผ่ แม้ภายหลังจะมี
ผู้นำาไม้เนื้อแข็งเช่นเดียวกับที่ใช้ทำาระนาดเอกมาทำา ก็ไม่ได้
รับความนิยมเท่าที่ควร ผืนระนาดทุ้มจะประกอบด้วยลูก
ระนาด 17 - 18 ลูกมีลักษณะคล้ายกับระนาดเอก แต่
- 2. เหลาลูกระนาดให้มีขนาดใหญ่และยาวกว่าลูกระนาดเอกที่ผืนจะ
มีขนาดเล็กสั้น ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้เกิดความแตกต่าง
ระหว่างระดับความสูงตำ่าของเสียงนั่นเอง
ระนาดทุ้มมีลูกต้นยาว 42 ซ.ม. กว้าง 6 ซ.ม.
และลดหลั่นลงมาจนถึงลูกยอดที่มีขนาดยาว 34 ซ.ม. กว้าง
5 ซ.ม. ลูกระนาดทุ้มมีเสียงที่ทุ้มตำ่า และมีวิธีบรรเลงเพื่อให้
ประสานกลมกลืนกับระนาดเอกซึ่งมีเสียงแหลมสูงกว่า แต่ทั้งนี้
ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยของการคว้านท้องลูกระนาดและการถ่วง
ตะกั่วเป็นองค์ประกอบด้วยเช่นกัน สำาหรับไม้ตีของระนาดทุ้ม
คล้ายกับไม้ตีระนาดเอกชนิดไม้นวม แต่มีขนาดใหญ่กว่า 2-3
เท่า
นอกจากนั้นยังมีความอ่อนนุ่มกว่าเล็กน้อย โดยตอนปลาย
ใช้ผ้าพันพอกให้โตและนุ่ม เวลาตีจะได้เสียงทุ้ม
ระนาดทุ้มผสมร่วมอยู่ในวงมโหรี วงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงปี่
พาทย์ไม้นวม วงปี่พาทย์นางหงส์ วงปี่พาทย์ดึกดำาบรรพ์ และวง
ปี่พาทย์มอญ โดยทำาหน้าที่บรรเลงหยอกล้อไปกับระนาดเอก
เดินทำานองรองในทางของตนเองซึ่งจะมีจังหวะโยน ล้อ ขัด ที่
ทำาให้เกิดความไพเราะและเติมเต็มช่องว่างของเสียง อันเป็น
เอกลักษณ์ของระนาดทุ้ม
ลีลาการบรรเลงระนาดทุ้ม หากผู้ฟังไม่ได้ฝึกทักษะในการ
ฟัง จะมีความรู้สึกว่าเป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงแล้วไม่รู้เรื่องมาก
ที่สุด แต่หากพัฒนาทักษะการฟังจะพบว่าระนาดทุ้มเป็นเครื่อง
ดนตรีที่บรรเลงแล้วทั้งผู้ฟังและผู้บรรเลงสามารถสร้างอารมณ์
ร่วมในอรรถรสของทำานองได้มากที่สุด ทั้งสามารถสะท้อนถึง
ภูมิปัญญาของนักดนตรีได้อย่างชัดเจนในการบรรเลงร่วมวงใน
เพลงประเภทลูกล้อ-ลูกขัด
วิธีการผลิตระนาดขนาดย่อส่วน
การทำาราง
รางระนาดมีส่วนประกอบที่สำาคัญได้แก่ โขน กระพุ้ง
ฐาน ท้อง และ คิ้ว ดังนั้นการทำารางระนาดจึงต้องแยกทำาที
ละส่วนให้เสร็จก่อน แล้วนำามาประกอบกันในภายหลัง แต่
สำาหรับวิธีการทำารางระนาดขนาดย่อส่วนนี้เรายังใช้วิธีทำา
แบบโบราณ คือนำาไม้มาขุดให้เป็นรูปร่างรางตามแบบที่เรา
ต้องการ วิธีการทำารางระนาดแบ่งเป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้
- 3. การทำาโขนระนาด
โขนระนาดทำาด้วยไม้เนื้อแข็งมีรูปร่างเป็นแผ่นแบนทรงรีมี
ขอบโค้งมนและมีรอยหยักตามขอบ ไม้ที่ใช้ทำาคือเศษไม้สัก ไม้
ประดู่ ไม้ชิงชัน ที่เหลือจากทำารางใหญ่ นำามาไสด้วยกบ ให้
เรียบเสมอกันแล้วนำาแบบพิมพ์รูปโขนมาวางทาบบนไม้ใช้ดินสอ
ขีดเส้นตามแบบพิมพ์ ต่อจากนั้นนำาไปเลื่อยตามรอยเส้นดินสอ
เมื่อเลื่อยเสร็จใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบและใช้สิ่วตอกลบ
เหลี่ยมตามขอบ จากนั้นจึงทำาคิ้วของโขนระนาดโดยใช้สิ่วเล็ก
แกะเนื้อไม้บริเวณขอบโขนระนาดให้รอบลักษณะดังกล่าวเรียก
ว่า การเดินเส้น แล้วใช้กระดาษทรายขัดตามขอบ
การทำาผืนระนาด
ผืนระนาดเป็นส่วนสำาคัญที่สุดของระนาดเพราะเป็นส่วนที่
ทำาให้เกิดเสียงดนตรีอันไพเราะ เสียงของระนาดจะไพเราะน่า
ฟังหรือไม่นอจากจะขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้บรรเลงแล้วยังขึ้นอยุ่กับ
การทำาผืนระนาดให้ได้คุณภาพเสียงดีและคงทนด้วยในบทนี้จะ
ขอกล่าวถึงขั้นตอนวิธีทำาผืนระนาด
ผืนระนาด คือลูกระนาดหลาย ๆลุกที่นำามาเจาะรูร้อยเชือก
เรียงชิดติดกันในแนวนอนโดยหันส่วนโค้งของผิวลูกระนาดขึ้น
ด้านบนและเรียงลูกระนาดที่ร้อยเชือกติดกันเหล่านี้ว่าผืนระนาด
ไม้ที่นิยมทำาผืนมีอยู่ 2 ชนิดคือ
1. ไม้ไผ่
2. ไม้เนื้อแข็งบางพันธุ์
การเหลาลูกระนาด
การเหลาลูกระนาดให้มีลักษณะสวยงามขึ้นอยู่กับฝีมือของ
ช่างดนตรีส่วนหนึ่ง และขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ในการเหลาอีก
ส่วนหนึ่ง เครื่องมือที่ช่างใช้ในการเหลาลุกระนาดได้แก่
ดินสอ, ไม้บรรทัด, มีดอีโต้ , เลื่อย, สิ่ว, กบเหล็ก, สว่าน, ท่อน
เหล็กกลม
ขั้นตอนในการเหลาลูกระนาด
1) การคัดลูกระนาด การคัดลูกระนาดตั้งแต่ลูกตำ่า
สุดจนถึงลูกที่มีเสียงสูงสุด ลูกที่มีเสียงตำาจะมีขนาดค่อนข้าง
ใหญ่ส่วนลูกที่มีเสียงสูงจะมีขนาดเล็ก ผืนระนาดที่ดีควรมีสี
ผิวคล้ายกัน มีเสี้ยนขนาดเท่ากันเนื้อไม้เรียบไม่โก่ง
2) การไสข้างลูกระนาด เมื่อคัดไม้และนำามาวางเรียง
กันแล้วจึงเริ่มไสข้างให้เรียบและได้ระดับเดียวกันทั้งสองข้าง
วิธีไสคือตีเส้นบนลูกระนาดทั้งสองข้างแล้วใช้มีดโต้ถาก
เข้าไปให้ไกล้เส้นที่ตีไว้แล้วใช้กบไสเนื้อไม้ให้เรียบ
3) การปาดและตัดหัวท้ายลูกระนาด คือการตัดเกลา
หัวและท้ายของลูกระนาดให้มีความยาวและสั้นตามขนาดที่
ต้องการ
4) การเจาะรูสำาหรับร้อยเชือก ก่อนที่จะเจาะรูเพื่อ
ร้อยเชือกระนาดจะต้องวัดขนาดของลูกต้นและลูกยอดโดย
ใช้ไม้บรรทัดตีเส้นแนวสำาหรับจาะรู ใช้ดินสอจุดตรงเส้นที่
เจาะรูไว้บนเส้นที่ตีโดยให้มีระยะห่างจากด้านข้างทั้งสองข้าง
ข้างละ 1 ส่วน เว้นตรงกลางไว้ 2 ส่วน
5) การคว้านพื้นท้องของลูกระนาด การคว้านท้อง
คือการบากพื้นท้องของลูกระนาดตรงกลางลูกเพื่อปรับแต่ง
เสียงให้ได้ระดับตามที่ต้องการโดยปกติจะคว้านลูกระนาด
ตั้งแต่ลูกที่ 5
- 4. หรือ 6 นับจากลูกยอดมา วิธีคว้านท้องคือจะใช้สิ่วค่อย ๆ
แซะพื้นท้องของลูกระนาดให้เนื้อไม้หลุดออกทีละน้อยจน
เป็นรูปเว้าลึก แล้วนำากระดาษทรายมาขัดให้เรียบ
การทำาไม้ระนาด ไม้ระนาดมีทั้งไม้เอกและไม้ทุ้มวัสดุที่
ใช้ก็คือ ตะกั่ว, ผ้าขาว ,เส้นด้าย
แป้งเปียก, ก้านไม้ระนาด จากนั้นก็นำาตะกั่วมาติดที่หัวไม้ให้
ได้ขนาดที่ต้องการ ใช้ผ้าพันรอบ
หัวไม้และใช้แป้งเปียกทาริมผ้าแล้วพันผ้ารอบแกนหัวไม้ นำา
เส้นด้ายมาสักลักษณะตาข่าย