More Related Content
Similar to โครงงานคอม (14)
More from naaikawaii (20)
โครงงานคอม
- 5. หมา หรือภาษาทางการว่า สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมหลาย
ชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูกเป็นตัว ลาตัวมีขนปกคลุม มี
เขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ สุนัขแต่ละพันธุ์
จะมีนิสัยแตกต่างกัน สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและล่าเหยื่อ ดังนั้น
วิวัฒนาการของฟันสาหรับเคี้ยวเนื้อ และกระดูกจึงยังคงมีอยู่ รวมทั้งการมี
ประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อ ที่
แข็งแรงทาให้วิ่งได้เร็วและเร่งความเร็วได้เท่าที่ต้องการ แล้วยังมี
สัญชาตญาณในการทางานเป็นกลุ่มอีกด้วย
- 9. 2. ชิสุห์ (Shih-Tzu)
ลักษณะทั่วไป
ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น
บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีนจึงมี
ลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง
ลักษณะนิสัย
ปกติชิสุจะมีนิสัย ดุ เห่าเก่งมากและดัง ขี้ประจบ ตื่นตัว รักสะอาด เป็น
มิตร ทาให้ปรับตัวได้ดี ชิสุชอบวิ่งและรักความสนุกซึ่งเจ้าของจาเป็นจะต้องพา
มันออกไปวิ่งออกกาลังกายบ้าง
- 10. ชิสุเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ผู้เลี้ยงควรจูงเขาเดินเล่นเป็น
ประจาวัน ควรอาบน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งทันที
หลังจากที่อาบน้าเสร็จ กาจัดเห็บหมัดอย่างสม่าเสมอ และเมื่อขนของชิสุ ยาว
ผู้เลี้ยงควรพาไปตัดแต่งขนและดเล็บอย่งสม่าเสมอ ส่วนอาหารนั้นผู้เลี้ยงควร
ให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน ควรให้อาหารตรงเวลา และอาหารที่ให้ควรเป็น
อาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋ อง เพราะชิสุมีขนยาว หากให้กินอาหาร
กระป๋ องจะทาให้เลอะและมีกลิ่นปากได้ ด้านการดูแลสุขภาพผู้เลี้ยงควรพาชิสุ
ไปฉีดวัคซีนป้ องกันโรคสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ ตามตารางที่สัตว์แพทย์ได้
กาหนด และควรดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในบ้านตัวเดียว
นานๆ เพราะสุนัขอาจมีอาการซึมเศร้าได้
การดูแล
- 11. ชิสุ มีบุคลิกกระฉับกระเฉง สามารถให้ความรักกับสุนัขได้ มีเวลาใน
การดูแลเอาใจใส่ เช่น เล่น แปรงขน ฝึกให้เข้าสังคม เป็นต้น ไม่จาเป็นต้องมี
พื้นที่กว้าง สามารถอยู่ได้ที่อพาร์ตเม้นท์ แต่ควรจะมีเวลาพาไปออกกาลังกาย
เผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และให้ได้มีโอกาสพาออกไปรู้จัก
สังคม จะได้ไม่ดุ และอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายเมื่อพบเจอคนแปลกหน้า
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
- 12. 3. พุดเดิ้ล (poodle)
สุนัข พุดเดิ้ล ได้ชื่อว่าเป็น สุนัข ที่มีความนิยมอันดับหนึ่งของโลก และขึ้น
ชื่อว่าฉลาด ฝึกง่าย สอนง่าย ขี้อ้อน และประจบเก่งเป็นที่สุด แถมยังอดทนไม่ขี้แย
เลี้ยงง่าย พูเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมี
ความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์มาตรฐาน ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า
แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทาอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้
เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกาลังกายพอสมควรด้วย
- 13. 1. พุดเดิ้ลทอย (Toy Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 12
นิ้ว หนักประมาณ 6 กิโลกรัม
2. พุดเดิ้ล มินิเจอร์ (Miniture Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาดกลาง
สูงประมาณ 11-15 นิ้ว หนักประมาณ 11 กิโลกรัม
3. พุดเดิ้ล สแตนดาร์ด (Standard Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาด
ใหญ่ สูงประมาณ 18-22 นิ้ว หนักประมาณ 20 กิโลกรัม
แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ของ พุดเดิ้ล ให้เล็กลงไปอีก จนได้ขนาด พุด
เดิ้ล ที่มีชื่อว่า พุดเดิ้ลทีคัพ (Tea-Cup Poodle) เป็นขนาดเล็กที่สุดใน
ตระกูล พุดเดิ้ล จะมีส่วนสูงไม่เกิน 8 นิ้ว และน้าหนักจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.5
กิโลกรัมเมื่อโตเต็มที่
สุนัข พุดเดิ้ล แบ่งได้เป็ น 3 ประเภท ดังนี้
- 14. พูเดิ้ล เหมือนกับสายพันธุ์อื่นที่มีขนสองชั้นเป็นปุย ดูคล้ายขนแกะ มีการ
ผลัดขนเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่จะจับตัวอยู่กับขนชั้นในซึ่งต้องคอยตัดแต่งขน
สม่าเสมอไม่เช่นนั้นขนจะจับตัวกันเป็นก้อน จนดูแลอยาก คุณค่าสารอาหารและ
สมดุล รวมทั้งการออกกาลังกาย เป็นสิ่งจาเป็นกับสุนัขทุกตัวมากที่สุด
การดูแล
เหมาะกับผู้เลี้ยงเกือบจะทุกคน ทอย พูเดิ้ล พัฒนาเพื่อเลี้ยงไว้
เป็นเพื่อนให้กับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยขนาดเล็กหรือมีพื้นที่ไม่มากนัก
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
- 17. 5. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden
Retriever)
โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง ไม่เทอะทะเก้งก้างจนดูเกะกะ
โครงสร้างลาตัวของ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ จะสั้นกระชับได้สัดส่วน อกลึกและกว้าง
ความลึกของอกลึกเสมอข้อศอกขาหน้า ลาตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ สันจมูกเป็น
เส้นตรง จมูกมีสีดาหรือน้าตาลดา ใบหูห้อยปรกลงแนบกับส่วนแก้มและหางอยู่ใน
ตาแหน่งสูงสุดต่อจากเส้นหลังและหางมีขนาดใหญ่โดยเฉพาะที่บริเวณโคนหางเป็น มี
สีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทอง จนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี เป็น
สุนัขที่มีลักษณะ
หัวกว้างและมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้าตาล มีขนปุกปุยหนาแน่น
บริเวณคอ ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว
ลักษณะทั่วไป
- 18. นิสัยสุภาพ น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ และเสียสละรักเจ้าของได้
เท่ากับสุนัขพันธุ์ โกลเด้นฯนี้ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ใจดี ชอบอยู่กับคนและสัตว์
อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค่อนข้างติดคนหรืออยากให้เจ้าของสนใจ โกลเด้นฯ เป็น
สุนัขที่ฝึกง่าย มันชอบเห่าเมื่อมีคนอยู่หน้าประตูบ้าน แต่มีบ่อยครั้งที่การเห่านั้น
เป็นการแสดงการทักทายมิใช่การขู่
ลักษณะนิสัย
- 19. โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่มีขนร่วงมาก จาเป็นจะต้องแปรงและหวีขนให้มัน
สัปดาห์ละหลายๆ ครั้ง เพื่อป้ องกันขนพันกัน การแปรงขนบ่อยๆ จะทาให้
โกลเด้นฯ ดูสวยได้ ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องเห็บ หมัด การระคายเคืองที่ผิวหนัง
ขณะที่ทาการแปรงขนโกลเด้นฯเป็นสุนัขที่ชอบสังคมและ ไม่ชอบถูกทิ้งให้
อยู่ลาพังตัว อย่าปล่อยให้สุนัขออกไปนอกบ้านโดยไม่มีคนไปด้วย ผู้เลี้ยง
ควรพาสุนัขไปเดินเล่นไกลๆ ทุกวันหรือหาสนามโล่งๆ ให้ได้วิ่งเล่นเก็บลูก
บอลหรือว่ายน้ากับสุนัขตัวอื่น เพื่อผ่อนคลายความเครียดและเพื่อนสุขภาพ
ที่ดี
การดูแล
- 20. 6. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ลักษณะทั่วไป
สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้มีขนหนาแน่นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น มีสีและรูปแบบขนที่
หลากหลาย โดยปกติมีสีขาวที่เท้า, ขา, ท้อง, รอบตาหรือเป็นหน้ากากที่หน้า และที่
ปลายหาง ทั่วไปมีสีดา-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว, และขาวปลอด และยังมีแบบที่
เป็นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีอ่อน แต้มจุด แว่นตา ฯลฯ
- 21. อุปนิสัย
เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด อารมณ์ดี ตื่นตัว
ตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลก
ใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ก็ไม่ต่าง
กับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุก
อย่าง นอกจากนี้ไซบีเรียน ฮัสกี้ยังเป็นสุนัขนัก
ประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ไซบีเรียน ฮัส
กี้จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้ าบ้าน แม้ว่า
ลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว
แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ขี้เล่นเป็นที่สุด
- 22. การดูแลเรื่องขน
สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้จะผลัดขนตลอดเวลา ตามพื้น ตามโต๊ะ โซฟา เสื้อผ้า ต่างๆ
สุนัขพันธุ์นี้ไม่เหมาะสาหรับคนเป็นโรคภูมิแพ้ขนสุนัข และควรฝึกให้เค้าคุ้นชินกับการ
แปรงขนตั้งแต่เด็กๆ เขาจะได้มีความสุขสนุกสนานกับการได้แปรงขน การแปรงขน
สามารถช่วยให้ขนสุนัขหลุดออกได้ไว สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ยังมีดีอีกอย่างคือ ไม่จาเป็นต้อง
อาบน้าบ่อยๆ เพราะเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว แล้วก็ดูแลง่ายๆ เสียอย่างเดียวเรื่องขนร่วง
ตลอดเวลา
การให้อาหารสุนัขไซบีเรียนนั้น จะให้ 2-3 ครั้ง/วัน ได้ แต่สุนัขพันธุ์นี้จะ
ค่อนข้างกินอะไรยากอยู่เช่นกันหากไม่ถูกปาก มันจะยอมอดอาหารได้ 3-4 วัน ดังนั้น
วิธีการที่จะกระตุ้นความอยากอาหารได้คือการพาสุนัขไปออกกาลังกาย ส่วนของอาหาร
นั้นผู้เลี้ยงสามารถสามารถนาอาหารสาเร็จรูปมาผสมกับอาหารอื่นได้เพื่อเพิ่มรสชาติและ
อรรถรสในการกินมากขึ้น อาหารที่สุนัขไซบีเรียนโปรดปรานที่สุด คืออาหารที่มีปลาผสม
อยู่ในอาหาร สุนัขจะกินหมดได้อย่างรวดเร็ว
- 23. ส่วนเรื่องของการทาความสะอาดนั้น ไม่ควรอาบน้าบ่อยเกินไป อาบ2-3
สัปดาห์ต่อครั้งก็พอ เพราะไซบีเรียนนั้นเป็นสุนัขสะอาด ไม่มีกลิ่นตัว หากอยู่ใน
สภาพแวดล้อมที่ไม่สกปรกก็ไม่จาเป็นต้องอาบน้าบ่อยๆ ก็ได้ ที่สาคัญเวลาอาบน้าต้อง
ใช้แชมพูอาบน้าสุนัขโดยเฉพาะ ควรมีความอ่อนโยนมากๆ และหลังจากอาบน้าเสร็จ
แล้วจะต้องใช้ไดร์เป่าขนให้แห้งสนิท อาจใช้ระยะเวลานาน แต่เพื่อไม่ทาให้น้องไซบี
เรียนเป็นโรคผิวหนัง
ผู้เลี้ยงจะต้องทราบว่าหากไม่ได้พาสุนัขไปออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ ไซ
บีเรียนจะกลายเป็นตัวยุ่ง ก่อความราคาญในทันที เพราะมันจะเกิดความเบื่อหน่าย จึง
ต้องหาอะไรทาเพื่อลดออาการเบื่อหน่ายลงไป อีกทั้งการออกกาลังกายยังเป็นการ
ช่วยกนะตุ้นให้ไซบีเรียนนั้นอยากอาหารไปในตัวอีกด้วย
- 25. ลักษณะนิสัย
ร่าเริง รักสะอาด ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้
อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว ดัล
เมเชียนเป็นสุนัขรักสนุกที่แม้จะติดตลกด้วย แต่ก็ยังมีความสง่างามในตัวซึ่งเป็น
สัญลักษณ์ ประจาของสุนัขพันธุ์นี้คือ "รอยยิ้ม" ของเขาที่เราเห็นบ่อยมักจะโดน
เข้าใจผิดว่าเป็นการแยกขี้ยวคารามถ้าไม่เหลือบไปเห็นหางระริกระรี้ที่กระดิกอยาง
เป็นมิตรอย่ด้วยวามที่เป็นสุนัขอ่อนไหวเขาจะคอยตามติด และคอยอ้อนขอความ
รักจากผู้เลี้ยงเสมอ
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
ดัลเมเชียน เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม สุนัขเฝ้ ายาม และเป็นสัตว์เลี้ยง
มหัศจรรย์ประจาครอบครัว แต่ด้วยความที่พวกเขาแข็งแรงและร่าเริงจนออกจะ
ซนไปสักหน่อยจึงต้องมั่นใจว่าคุณจะสอนเขาให้อยู่คาสั่งผู้เลี้ยงได้
- 27. ลักษณะนิสัย
บีเกิลเป็นสุนัขที่เป็นมิตร ร่าเริง ไม่ขี้อาย ไม่ขี้กลัว และไม่ก้าวร้าว ต่อคน
หรือสัตว์อื่นๆ ด้วยขนาดที่กระทัดรัด และด้วยที่เค้าชอบคน บีเกิลจึงเป็นสุนัขที่
เข้ากับเด็กๆได้ดี บีเกิ้ลสามารถปรับตัวเข้ากับคนได้เป็นอย่างดีจนเค้าไม่เหมาะ
จะเป็นสุนัขกลางแจ้ง การที่ถูกทิ้งไว้หลังบ้านตลอดเวลา จะทาให้เค้าเบื่อซึ่งจะ
แสดงออกโดย การเห่า หอน ขุด และพยายามหนี้
- 29. 9. อิงลิช บูลล์ด็อก (English Bulldogs)
ลักษณะทั่วไป
อิงลิช บูลล์ด็อกมีรูปร่างใหญ่ปานกลาง มีลักษณะเตี้ย ล่า ศีรษะใหญ่
หน้าหัก หนังย่นโดยเฉพาะบริเวณใต้คอ ปากบนย้อยลงมา กรามล่างเกยกราม
บน ตาห่าง ขนสั้น เรียบแบน เนียนตลอดตัว ขนมีทั้งสีแดง สีน้าตาลเหลือง สี
ขาว สีลายต่างๆ หรือลายสลับสี
- 30. ลักษณะนิสัย
อิงลิช บูลล์ด็อกเป็นน้องหมาที่มีความซื่อสัตย์มากๆ สุขุม ใจเย็น สุภาพ
อ่อนโยน นิสัยดี เฝ้ าบ้าน ปกป้ องดูแลทรัพย์สินได้ดี ฉลาด แต่อาจจะเชื่องช้าต่อ
การตอบรับคาสั่ง พวกเขาเป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์ รักเด็ก และคนในครอบครัว
พวกเขารู้จักเอาใจเจ้าของ เรียนรู้ได้รวดเร็วเพื่อให้เจ้าของพึงพอใจ อิงลิช บูลล์ด็
อกเป็นสุนัขที่ได้รับการผสมพันธุ์เพื่อไว้เป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ ดังนั้น จึงมี
ความผูกพันกับครอบครัวมากเป็นพิเศษ พวกเขาไม่ชอบถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว
และต้องการการใส่ใจจากเจ้าของมากๆ พวกเขาเป็นนักเดินทางตัวยง รักการนั่ง
รถเล่น เดินทางไปไหนมาไหนกับเจ้าของ
- 32. การดูแล
อิงลิช บูลล์ด็อกขนสั้น เกรียน พวกเขาต้องการการดูแลขน แปรงขนเพียง
2 -3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนการอาบน้าควรอาบเฉพาะเมื่อยามจาเป็นเท่านั้น เช่น มี
กลิ่นเหม็น สกปรก ไปเล่นเลอะเทอะ ไม่ควรอาบบ่อยๆ เนื่องจากจะทาให้ผิวแห้ง ตัด
และแพ้ง่าย
การออกกาลังกาย อิงลิช บูลล์ด็อกเป็นสุนัขที่ตื่นตัวมากๆ เวลาได้พาเขา
ไปออกกาลังกาย และเนื่องจากอิงลิช บูลล์ด็อกมีแนวโน้มอ้วนได้ง่ายจึงควรพาไปเดิน
เล่น หรือออกกาลังกายเป็นประจา พวกเขาชอบเดินเล่นหรือทากิจกรรมกับครอบครัว
มากๆ เพราะจะทาให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วม และรู้สึกผูกพัน อย่างไรก็ตามควรพาเขา
เล่น ไม่เช่นนั้นอาจจะทาให้เกิดอาการ ฮีตสโตรก (Heat Stroke) ได้
- 33. 10. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
ลักษณะทั่วไป
เป็นสุนัขที่มีโครงสร้างใหญ่ มีความแข็งแรงมาก กะโหลกใญ่ กล้ามเนื้อ
หนาแน่น และขาหน้าใหญ่ รวมไปถึงจุดสีแทนเหนือตาทั้งสองข้างที่ชาวทิเบตมอง
ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เนื่องจากเปรียบเสมือนตาวิเศษ เวลายืนหาง
จะต้องม้วนตลบขึ้นอยู่บนหลัง มีขนหนา ทนกับสภาพอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี
มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี แบล๊ค แทน แดง
น้าหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-70 กก.
ส่วนสูงเฉลี่ย 61 - 72 เซนติเมตร
มีอายุได้ถึง 18 ปี
- 35. ข้อจากัดของ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์
สามารถผสมพันธุ์ได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น คือช่วงประมาณเดือน
พฤศจิกายน เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่สุด ดุ และแข็งแกร่งที่สุดในโลก
แต่ปัจจุบันนี้ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีขนาดที่เล็กลงเพราะสายเลือด
บรรพบุรุษของทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จืดจางลงทุกที และในบางครั้งมีการผสมข้าม
สายพันธุ์กัน ทาให้สุนัขมีลักษณะเปลี่ยนไป จนทุกวันนี้ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ลด
น้อยลงเป็นอย่างมาก ในไทยมีไม่เกิน 10 ตัว
สาเหตุที่ทาไมสุนัขพันธุ์นี้มีราคาสูง ก็เพราะเป็นสุนัขหายาก ทางประเทศ
จีนได้อนุรักษ์ไว้ และห้ามส่งออกอีกด้วย - แมสทิฟทิเบตนั้นถือกันว่าเป็นพ่อพันธุ์
แม่พันธุ์ชั้นต้น เพราะอดทนอยู่รอดในสภาพภูมิประเทศทิเบต เนปาล อินเดีย และ
ภูฏาน ที่เป็นแต่เขาสูงชันได้
- 37. สุนัขเล่นกีฬา (Sporting Dogs)
เป็นสุนัขพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์โดยเฉพาะ มี
หน้าที่การค้นหาเหยื่อ และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ เราสามารถแบ่งสุนัขเล่น
กีฬาได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1. สเปเนี่ยน เป็นพันธุ์สุนัขที่มีรูปร่างขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เฉลียวฉลาด
จมูกรับกลิ่นได้ดี ลักษณะเด่นคือหูยาวตูบ แบ่งย่อยได้เป็น 2 กลุ่มคือ พันธุ์ที่ใช้ล่า
สัตว์ และพันธุ์ขนาดเล็ก (ปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้ดูเล่น) ในขณะที่มัน
ออกล่าสัตว์ เมื่อมันพบเหยื่อ มันจะพุ่งเข้าโจมตีเหยื่อทันที
2. พอยเตอร์ และเซทเตอร์ เป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสเปเนี่ยน ขายาว หูตูบ
และจมูกรับกลิ่นได้ดี
- 38. 3. รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่เป็นมิตร แข็งแรง มีโครงสร้างดี และ มีความ
เชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ มันถนัด การค้นหา และนาเหยื่อกลับมาให้เจ้าของ มัน
มักจะทางานร่วมกับสุนัขพันธุ์สเปเนี่ยน นอกจากนี้รีทรีฟเวอร์ยังสามารถว่าย
น้าได้ดี มันจึงมักถูกใช้ในการล่าสัตว์ปีกที่บินอยู่เหนือน้า เช่น ห่านป่า เป็นต้น
- 39. สุนัขเทอร์เรีย (Terriers)
เป็นสุนัขขนาดเล็ก ต้นกาเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ มีนิสัยชอบดมกลิ่น
อยากรู้อยากเห็น ตามรอย และขุดหาสิ่งที่สงสัย มันจึงกลายเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์
สุนัขเทอร์เรียจะทาหน้าที่ตามรอยสัตว์ป่า เมื่อพบแหล่งที่อยู่อาศัยของเหยื่อ มันจะ
มุดลงไปในรูนั้น ทาให้สัตว์เหล่านั้นตกใจและวิ่งออกมาจากรัง เพื่อให้คน ตามล่า
ต่อไป แม้เทอร์เรียจะเป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก ขาสั้น แต่เคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว มี
ความมานะอดทน บากบั่น กล้าหาญ ทาให้มันเคยถูกใช้เป็นสุนัขสงคราม แต่
ปัจจุบันนิยมนามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่นในบ้าน
- 40. อาจแบ่งเทอร์เรียเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของขน ได้แก่
1. พันธุ์ขนเรียบและสั้น เช่น ฟอกซ์ เทอร์เรียขนสั้น
2. พันธุ์ขนหยาบและยาว เช่น สก็อตทิช เทอร์เรีย และ เคอรีบลู เทอร์เรีย
บนเกาะอังกฤษนั้น มีสุนัขเทอร์เรียอีกมากมายหลายสายพันธุ์
กระจายไปตามท้องที่ต่าง ๆ แต่ส่วนหนึ่งได้กลายพันธุ์ไป เหลือแต่สายพันธุ์ที่
ได้รับความนิยม เช่น บูล เทอร์เรีย, แบดลิงตัน และ แมนเชสเตอร์
- 41. สุนัขทางาน (Working dogs)
ได้จากการที่มนุษย์พบว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความสามารถ
เกินกว่าที่คาดไว้ มันมีความฉลาด แข็งแกร่ง ว่องไว
มานะอดทน สายตาดี และติดตามกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม
สุนัขจึงถูกคัดเลือกพันธุ์เพื่อใช้งาน จึงได้สายพันธุ์นี้
ที่มีลักษณะเด่น แตกต่างกันไปและมีทักษะที่หลากหลาย
ปัจจุบันยังมีสุนัขที่ถูกฝึกเลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วยตารวจ
นาทางให้กับคนพิการด้านสายตา ตรวจค้นยาเสพติด แก๊สรั่ว วัตถุระเบิด และ
ช่วยเหลือผู้พิการด้านการได้ยินอีกด้วย ตัวอย่างของสายพันธุ์สุนัขตารวจ ได้แก่ บ็อก
เซอร์, พินซ์เช่อร์, โดเบอร์แมน, รอทไวเลอร์ เยอรมันเชพเพิร์ด, เกรดเดน เป็นต้น
- 42. ยังมีสุนัขทางานอีกกลุ่มหนึ่งที่ทาหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชาวไร่ชาวนา เช่น
โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก, เยอรมันเชพเพิร์ด, โดยจะคอยช่วยเหลือในการเฝ้ าดูแลฝูง
ปศุสัตว์ เกือบทุกประเทศที่มีการเลี้ยงสัตว์ จะมีการพัฒนา สายพันธุ์สุนัขต้อนสัตว์
จนได้พันธุ์สุนัขประจาถิ่นของตนเอง เช่น คอลลี จากสก็อตแลนด์ นอกจากนี้
ประเทศในเขตอากาศหนาวมาก ๆ ซึ่งการเดินทาง เป็นไปด้วยความยากลาบาก ยัง
ใช้สุนัข เช่น อะลาสกัน มาลามูท, ไซบีเรียน ฮัสกี้และ ซามอยด์ เพื่อเป็น
พาหนะ
สุนัขบางพันธุ์ถูกฝึกเพื่อทางานเฉพาะอย่าง เช่น สุนัขเซนต์ เบอร์นาร์ดถูก
ฝึกให้ค้นหา และนาบรั่นดีไปให้กับผู้หลงทางในหิมะ เบอร์นีส เมาน์เทน ช่วยลาก
เลื่อนที่บรรทุกนมและเนยไปส่งที่ตลาด โปรตุกีส วอเทอร์ ด็อก ช่วยดาน้างมหา
อวนและเครื่องมือหาปลาที่ตกน้า นอกจากนี้ยังมีสุนัขที่ทาหน้าที่ประหลาดที่สุด
คือ สุนัขพันธุ์นอร์วีเจียน ลุนเดฮันด์ กลายเป็นสุนัขที่ใช้ในการล่านก
- 44. สุนัขตุ๊กตาถือกาเนิดขึ้นมาเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยเมื่อ 4,000 ปี
ก่อน สุนัขสิงโต (Lion Dogs) ที่หน้าตาคล้าย ๆ กับ สุนัขปักกิ่งในจีน และ
พบแลปด็อกส์ ที่โด่งดังในกลุ่มชาวโรมัน ในสมัยก่อนนั้น สุนัขตุ๊กตาเป็นที่นิยม
มากในกลุ่มผู้หญิง และเด็ก ๆ ในสังคมชั้นสูง
แม้ว่าสุนัขตุ๊กตาจะตัวเล็ก แต่มันก็ยังมีสัญชาตญาณของสุนัขอยู่
ครบถ้วน มันพร้อมที่จะปกป้ องเจ้านาย และบ้านที่มันอาศัยอยู่ โดยการเห่าเสียง
ดัง ๆ หรือร้องครวญคราง เพื่อเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก และบางตัวอาจจู่โจมผู้บุกรุกก็
มี
- 45. สุนัขอเนกประสงค์ (Non Sporting)
เป็นสุนัขนานาประโยชน์ตามแต่เจ้าของจะใช้งาน สุนัขพวกนี้หลาย ๆ พันธุ์
มีผู้นิยมซื้อมาเลี้ยงกันมาก อย่างเช่น สุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน เป็นต้น เนื่องจากเป็น
สุนัขที่ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา สุนัขพันธุ์ลาซา แอพโซ่ เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบต
เลี้ยงไว้เพื่อป้ องกันภัย และถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ สาหรับสุนัขพันธุ์เชา
เชา ซึ่งถือกาเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน ในช่วงแรก ๆ เป็นสุนัขที่ถูกใช้ใน
สงคราม แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเพื่อเป็นอาหารและนาเอาขนของมันไปทา
เครื่องนุ่งห่ม
- 48. พวกหูยานก็เก็บสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่ายจึงต้องหมั่นเอาใจใส่เช็ด
ถูสิ่งสกปรกในช่องหูออกให้หมด พวกหูตั้งนี้รักษาง่าย เพราะช่องหู
สามารถถ่ายเทกับอากาศภายนอกได้โดยธรรมชาติ ฉะนั้นสิ่งสกปรกต่าง
ๆ จึงไม่สามารถหมักหมมจนเกิดโรคได้มากนัก ถ้าหูสุนัขสกปรกมากก็ควร
ใช้สาลีหรือผ้านุ่มๆ เช็ดบริเวณใบหูและรูหูส่วนนอก ๆ เป็นประจาทางที่ดี
หลังการอาบน้า เพราะสามารถตรวจสอบว่ามีน้าหลงเหลือเข้าไปในรูหู
หรือไม่ ถ้ามีจะได้เช็ดออกให้แห้ง เป็นการป้ องกันหูอักเสบได้ด้วย แต่
อย่าได้พยายามทาความสะอาดลึกเข้าไปในรูหูเป็นอันขาด บริเวณ
อ่อนไหวดังกล่าวควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์
- 49. การตัดหู
สุนัขบางพันธุ์นิยมตัดหู เช่น บ็อกเซอร์, โดเบอร์แมน, มินิเจอร์
พินเซอร์ และเกรท เดน ซึ่งก็ควรทาการตัดหู เมื่อลูกสุนัขอายุระหว่าง 12-
14 สัปดาห์ เพราะขนาดโตพอที่จะทาการผาตัดได้ง่าย ทนต่อการวาง
ยาสลบ หลังจากตัดแล้วหมอจะต้องดามหูไว้จนกว่าหูจะตั้งตรงตาม
ต้องการ ซึ่งกินเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้เจ้าของจะต้องคอย
ดูและอยู่ให้สุนัขเกาแผลจนไไหมที่เย็บหลุด หรือแผลสกปรก เพราะจะทา
ให้รูปทรงของหูไม่เป็นไปตามต้องการ
- 53. เช่น พวกพุดเดิ้ล มักมีรอยด่างสีน้าตาลที่ขนใต้ตาเสมอ ที่เป็นเช่นนี้เพราะ
ขนบริเวณนั้นเปียกแฉะเนื่องจากหยาดน้าตาของสุนัข คราบน้าตานี้จะติด
แน่นที่หัวตาย้อยลงมา การกาจัดรอยด่างนี้ทาได้โดยการหมั่นเช็ดถูให้
บ่อยๆครั้งทุกวัน เพื่อให้ขนที่ติดคราบน้าตานี้ค่อย ๆหลุดร่วงหมดไปสุนัข
บางตัวตาแฉะ อาจจะเป็นเพราะขนตาขึ้นผิดปกติ แยงเข้าไปในลูกตา การ
รักษาอาการนี้ควรเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์
- 54. การดูแลฟัน
โดยปกติแล้วสุนัขฟันผุได้ยากมาก แต่ที่เห็นบ่อยคือ เหงือกอักเสบ เกิดจากฟัน
สุนัขไม่สะอาด ขี้ฟันหมักหมมจนจับเป็นคราบสีเหลืองเกาะติดที่ผิวฟัน คือ หินปูนนั่นเอง
บางทีหินปูนมีมากและลุกลามไปจนถึงเงือก ทาให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก จนกระทั่ง
ฟันหลุดไปในที่สุดวิธีป้ องกันการจับตัวของหินปูน ควรให้สุนัขกินอาหารสาเร็จรูปที่เป็น
เม็ดแห้ง หรือให้แทะกระดูกเสียบ้างเพื่อขัดฟัน แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรให้สัตวแพทย์
ตรวจฟันทุกปี สุนัขบางพันธุ์ก็มีการจัดเรียงตัวของฟันที่แย่มาก มีเหงือกเป็นหนองและ
ฟันหลุดเสมอการให้แทะกระดูกไม่อาจช่วยได้
- 59. :: วิธีอาบน้าให้สุนัข ::
1. จับสุนัขให้อยู่ในอ่างนิ่งๆ โดยการจับที่ปลอกคอ
เป็นไปได้ควรอุดหูทั้งสองข้าง ของสุนัขด้วยสาลีเพื่อป้ องกัน
มิให้น้าเข้าหู แล้วจึงค่อยเทน้าลง
บนตัวสุนัขให้ทั่วทั้งตัว
2. ใช้แชมพูสุนัขเทลงบนตัวสุนัข แล้วจึงใช้มือถูนวดแชมพูให้ทั่วใน
ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยังจับปลอกคอสุนัขอยู่เพื่อจะให้มันอยู่นิ่งๆ
- 61. การแปรงและหวีขน
สุนัขทุกพันธุ์ต้องการแปรงขนเหมือนกัน ไม่จาเป็นว่าสุนัขตัวนั้นจะ ต้อง
มีขนยาวเพียงเท่านั้น การแปรงหวีขน ของสุนัขบ่อยๆ นอกจากจะ ทา ให้ขนสวย
ขนไม่พันกันแล้ว ยังจะเป็นการทาความสะอาดตัวของสุนัขได้ เพราะเวลาเรา
แปรงขน สิ่งสกปรกจะถูกกาจัดออกมารวมทั้งบรรดาขนเก่า ที่หลุดออกมา
นอกจากนั้นผิวหนังที่ได้รับการ กระตุ้นจากการ หวีหรือแปรงก็จะขับน้ามันมา
เคลือบขนสุนัขทาให้ขนนุ่ม และเป็นเงางาม โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออาหาร
เสริมมาให้มันกินให้สิ้นเปลืองเปล่า ๆ ควรฝึกหวี และแปรงขนสุนัขแต่เล็ก ๆ เพื่อ
จะได้เคยชินและยอมให้เรา เสริมสวยแต่โดยดี
- 63. เทคนิคการหวีและแปรงขนสุนัข
ในขนสุนัข พันธุ์ขนยาว เช่น อาฟกัน ฮาวด์ ชิสุ ควรหวี ทุกวัน ส่วนสุนัข
พันธุ์ขนสั้น เช่น บลูด็อก เกรดเดน แปรงขนเพียง2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ก็พอ ส่วน
สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลต้องใช้การตัดแต่งขน จะหวีให้ตรงแบบสุนัขพันธุ์อื่นไม่ได้
:: การหวีขนสุนัขพันธุ์ขนสั้น
อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงบิสเทิล แปรงหวีสลิดเกอร์ หวีตรง ขั้นตอนการหวี มีดังนี้
- ใช้หวีแปรงสลิดเกอร์หวีก่อน เพื่อจากัดเอาขนที่พันออกไม่ให้เกิดก้อน
สังกะตัง ออกแรงหวีเพียงเบาๆนุ่มๆ หวียาวๆ จากคอถึงลาตัวทาเช่นนี้ทั่วตัว
- ใช้หวีบิสเทิลแปรง เพื่อเอาขนที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากขน
ของสุนัขทั้งตัว
- ใช้หวีตรง หวีบริเวณที่ยาว เช่น ส่วนของหาง เท้า ขา ถ้าพบว่าขนพันกันให้ใช้
กรรไกรตัดออกสุนัขจะได้ไม่เจ็บ
- 64. :: การหวีขนสุนัขที่สั้นเกรียน
อุปกรณ์ที่ใช้มี แปรงรับเบอร์ หนังชามัวร์ แปรงบิสเทิล
- ใช้แปรงรับเบอร์ เพื่อแปรงย้อนขนสุนัขจะทาให้ขนตาย และสะเก็ด
ผิวหนัง สิ่งสกปรกหลุดออกโดยง่าย
- ใช้แปรงบิสเทิล แปรงขนตัวสุนัขอีกครั้งให้ทั่วทั้งตัว เพื่อเอาขนที่ตายและ
สะเก็ดออก
- เช็คขนสุนัขด้วยหนังชามัวร์ เพื่อให้ขนเป็นมันเงางาม
- 65. :: การหวีขนสุนัขที่ขนตรงยา
อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงสลิดเกอร์ แปรงบิสเทิล หวีตรง
กรรไกร
- ใช้แปรงสลิดเกอร์หวีขนก่อน เพื่อทาให้ขนที่
พันกันอยู่คลายตัวออก
- ใช้แปรงบิสเทิลหวีตามอีกครั้ง เพื่อทาให้ขนมัน
เงา และหวีง่ายขี้นไปอีก
- ใช้หวีตรง หวีจัดให้ขนของสุนัขตกลงไปข้างลาตัว
ด้านซ้ายและด้านขวาตามแนวขน
- ใช้กรรไกรตัดแต่งบริเวณเท้าและหู เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูสวยงาม
- 66. การขยายพันธุ์สุนัข
- ทุก ๆ ปี สุนัขเป็นจานวนนับพันนับหมื่นถูกทาลาย เพราะไม่มีที่อยู่อาศัยที่
เพียงพอ
- สุนัขเพศเมียสามารถให้กาเนิดลูกสุนัขได้ เป็น
จานวนหลาย ๆ ตัวในแต่ละปี ภายในระยะเวลา
6 ปี สุนัขแต่ละคู่สามารถผลิตลูกได้ถึง 67,000
ตัว โดยการให้กาเนิดและเลี้ยงลูก
- แม่สุนัขจะมีสุขภาพทรุดโทรมลง
- แม่สุนัขที่ตั้งท้อง ย่อมต้องการอาหารเป็นพิเศษ
- 67. - ลูกสุนัขตามปกติจะกินน้านมจากแม่ประมาณ 3 สัปดาห์ แล้วจะเริ่ม
กิน
อาหารได้ด้วยตัวเอง
- แม่สุนัขตามปกติจะดุและหวงลูก ๆใ นช่วงเวลาดังกล่าว จึงควรจัด
สถานที่
ที่เงียบสงบปราศจากการรบกวนให้แม่สุนัขกับลูก ๆ ได้อยู่
- เพื่อป้ องกันในกรณีที่ไม่ต้องการลูกสุนัข โปรดนาสุนัขของท่านไปตอน/
ทา
- 68. การทาหมัน
- เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์แพทย์สมัยใหม่ทาให้การผ่าตัดปลอดภัย ไม่
เจ็บปวด แต่ฟื้นตัวเร็ว
- โปรดสอบถามกับสัตวแพทย์ว่าเมื่อใดที่เหมาะสมที่จะทาหมันและฉีดยาให้
สุนัข
สุนัขของท่านไม่จาเป็นที่จะรอให้ถึงระยะมีระดูก่อนทาหมัน
- การทาหมันตั้งแต่ต้นอายุ 8 สัปดาห์ ขณะนี้กาลังเป็นที่นิยมโดยทั่วไป
เมื่อสุนัขตัวเมียได้ทาหมัน ก็จะไม่กลับมาเป็นสัดอีก และจะไม่เป็นที่สนใจของ
สุนัขตัวผู้
- การทาหมันสุนัขตัวเมียสามารถช่วยลดความเสี่ยงเนื้องอกในเต้านมสุนัขได้
นอกจากนี้การทาหมันยังช่วยลดอาการดุร้ายและการเตร็ดเตร่ออกนอกบ้าน
- 75. อาการของโรคนี้มักจะแสดงออกทางระบบทางเดินหายใจก่อน คือ
มีขี้มูกไหลย้อยสีเขียว ดูเหมือนปอดบวม มีไข้ เบื่ออาหาร ซึม มีตุ่มหนองขึ้น
ใต้ท้อง มีขี้ตาสีเขียว ๆ เกรอะกรังตลอดเวลา เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะพบว่ามี
อาการทางประสาท คือ ริมฝีปากสั่น กระตุก และจะลามไปที่บริเวณหนังหัว
ใบหน้า ขาหลัง อาจจะพบว่าบริเวณฝ่าเท้ากระด้างขึ้น บางรายพบว่ามี
ท้องร่วงด้วย สุดท้ายของโรคมักจะตาย ยับเป็นภัยใหญ่หลวงชนิดหนึ่งของลูก
สุนัข แต่สามารถป้ องกันได้โดยการพาลูกสุนัขไปรับการฉีดวัคซีนป้ องกันโรค
ไข้หัดตั้งแต่อายุ 2 เดือน เป็นเข็มแรก หลังจากนั้นอีกหนึ่งเข็มที่สองเมื่อผ่าน
ไป1 เดือน เป็นการกระตุ้น และฉีดซ้า ๆ ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
- 77. พร้อมกันนี้ก็เริ่มแสดงอาการท้องร่วงถ่ายออกมาเป็นน้าเหลวสีโอวัลติน หรือสี
แดง เพราะมีเลือดสด ๆ ปนออกมามีกลิ่นเหม็นคาวมาก ไวรัสจะเข้าไปยัง
กล้ามเนื้อหัวใจ ทาให้ช็อคตายได้อย่างรวดเร็ว อัตราการตายลูกสุนัขสูงมาก
ส่วนสุนัขโตแพ้โรคนี้น้อย สุนัขพันธุ์ โดเบอร์แมน เกรท เดนจะแพ้โรคนี้อย่าง
รุนแรง โดยปกติโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรงเพียงแต่รักษาตามอาการที่พบ
เท่านั้น ทางที่ดีควรหาทางป้ องกันไว้ก่อนโดยการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุได้ 2
เดือน และกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 3 เดือนและหลังจากนั้นฉีดกระตุ้นทุก ๆปี
ปีละ 1 ครั้ง
- 80. โรคเรื้อนในชุมชน
เป็นโรคผิวหนังที่รักษายาก ผิวหนังจะเป็นตุ่มแดงๆ และลามขี้นบน
ใบหน้า ขาเท้า และหลังสุนัขที่เป็นโรคนี้เมื่อหนักขึ้นจะมีขนร่วง บริเวณเหนือคิ้ว
แก้ม หน้าผาก จากนั้นจะเกิดตุ่มแดง และกลายเป็นตุ่มหนองมีเลือดภายใน และ
กระจายไปทั่วลาตัว รักษาได้โดยให้ยา ฉีดยา บางตัวรักษาดีๆจะหายเป็นปกติ
บางตัวเมื่อหายแล้วก็จะกลับมาเป็นใหม่อีกป้ องกันได้โดยให้อาหารกินโดย
สมบูรณ์ รักษาความสะอาด บริเวณที่อยู่อาศัยและดูแลให้สุนัขแข็งแรงอยู่เสมอ
- 81. โรคที่เกิดจากเห็บ
โรคติดเชื้อเออร์ลิเซีย
ติดต่อโดยเห็บสีน้าตาลที่กัดดูดเลือดสุนัข สุนัขจะมีไข้สูง เยื่อตาขาว
อักเสบ มีขี้ตา มีน้ามูกมาก มีเลือดออกใต้ผิวหนัง และออกจากจมูกเหมือนเลือด
กาเดา ใต้ท้องจะเป็นจุดแดงๆ เต็มไปหมด เบื่ออาหาร รักษาได้โดยการให้ยาหลาย
ตัว ซึ่งจะต้องปรึกษาสัตวแพทย์ป้ องกันได้โดยกาจัดเห็บสีน้าตาลให้หมดไป
โรคติดเชื้อบาบีเซีย
ติดต่อโดยเห็บสีน้าตาลเช่นเดียวกัน สุนัขจะมีอาการเซื่อมซึม เบื่อ
อาหาร อ่อนเพลีย เป็นไข้ เป็นดีซ่าน สุนัขจะมีน้าหนักลด ผอมแห้ง และทรุดโทรม
รักษาได้โดยฉีดยาฆ่าพยาธิในเม็ดเลือดเข้าไป ป้ องกันได้โดยกาจัดเห็บสีน้าตาล
ให้หมดไปเช่นเดียวกัน
- 83. โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข
เกิดจากพยาธิที่มีตัวยาวมาก อาศัยอยู่ใน หัวใจท้องล่างขวา ถึง
เส้นเลือดใหญ่ไปที่ปอด ติดต่อได้โดยมี ยุง เป็นพาหะนาเอาตัวอ่อนของพยาธิ
ในระยะติดต่อ ปล่อยลงไปที่ตัวสุนัข สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้มักได้แก่สุนัขที่มี
อายุ 3 - 5 ปีขึ้นไปพยาธิชนิดนี้ถ้ามีมากจะทาให้กล้ามเนื้อหัวใจทางาน
หนัก และ ขยายตัวสุนัขจะมีความผิดปกติที่หัวใจแสดงอาการไอแห้งๆ ไม่มี
แรงนอนซม อาจจะมีอาการท้องมาร ตัวซีด หมดแรงล้มตายไปดื้อๆ รักษาได้
โดยการป้ องกันตั้งแต่อายุ 2 - 3 เดือน เป็นการสกัดกั้นไม่ให้ตัวอ่อนของ
มั น โ ต ขึ้ น ทุ ก วั น ๆ
- 84. พยาธิ มีพยาธิอยู่ภายในร่างกายของสุนัข 4 ชนิด ซึ่งอาจทาให้สุนัข
คุณเป็นโรคได้ เหล่านี้คือ
- พยาธิตัวกลม - พยาธิปากขอ
- พยาธิเส้นด้าย - พยาธิตัวแบน
สามชนิดแรกสามารถตรวจพบได้จากการทดสอบในห้องแล็ป
แต่พยาธิตัวแบนนี้จะพบอยู่ในอุจจาระ หรือ ขนแถวๆโคนหาง อย่า
พยายามกาจัดพยาธิด้วยวิธีใดๆก็ตามด้วยตนเอง โดยไม่ปรึกษาสัตว
แพทย์ สุนัข หรือ ลูกสุนัขที่มีสุภาพดีจะไม่ค่อยได้รับผลจากพยาธิ
เท่ากับสุนัขที่มีสุขภาพไม่ดีอ่อนแอ หนึ่งในมาตรการป้ องกันคือ รักษา
ความสะอาดตลอดเวลา ทาให้ที่นอนของสุนัขแห้ง เพื่อปราศจากเห็บ
หรือไข่อ่อนของพวกพยาธิ
- 85. โรคหนาวสั่น หลอดลมอักเสบ นิวเมอเนีย
โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ อาจเกิดกับสุนัขได้ เพราะมัน
ถูกบังคับให้อยู่ภายใต้บรรยากาศ ที่คนสร้างมากกว่า บรรยากาศตาม
ธรรมชาติ ถูกความเย็น หรือ ลมหลังอาบน้า นอนใกล้แอร์ หรือ ทางที่
พัดลมพัดโรคนี้ไม่สามารถติดต่อสู่คนได้ การปฏิบัติก็เหมือนกับที่ทา
กับเด็กยามเป็นโรคเดียวกัน ให้สุนัขอยู่ในที่ซึ่งอบอุ่น เงียบ และ
บารุงรักษามันอย่างดี