More Related Content
Similar to Lernning 09 (20)
More from Mayuree Janpakwaen
More from Mayuree Janpakwaen (13)
Lernning 09
- 1. ใบความรู้ ที 9
เรือง อินเตอร์ เน็ตคืออะไร
อินเตอร์ เนต : คือ ระบบเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ ทีต่อเชื อมระบบต่างๆ ทัวโลก เข้าด้วยกัน
่
เปรี ยบเสมือนห้องสมุด สาธารณะชน ขนาดมหึ มา ทีใหญ่ทีสุ ด ในโลก ก็วาได้ ทีมีขอมูลต่างๆ ้
มากมาย และสามารถนําไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ไม่วาจะเป็ นการ ค้ นคว้ าวิจัย หรื อ เพือความ
่
บันเทิง เป็ นต้น
อินเตอร์ เนต เป็ นคํา ทีหลายคนคุนหูและเป็ นทีรู ้จกกันดีในขณะนี1 นอกจากนั1นมัน ไม่ใช่
้ ั
เป็ นแค่ระบบ เน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ธรรมดา เท่านั1น แต่มนเป็ น อภิมหาเน็ตเวิร์กโลก ( เน็ตเวิร์ก ทีเชือ
ั
ต่อกันหลายๆ เน็ตเวิร์ก จาก ทัวทุกมุมโลกเข้าไว้ดวยกัน ) ทีๆ เสมือนถนนทีจะพาผูทีเป็ นสมาชิก
้ ้
บน เน็ตเวิร์ก ไปได้ ทุกแห่งทุกหนบนโลก อินเตอร์ เนต
กว่ าจะมาเป็ น อินเตอร์ เนต
อินเตอร์ เนต มีการพัฒนาการมาจาก อาร์ พาเน็ต ( ARPAnet หรื อทีเรี ยกกัน สั1นๆว่า อาร์ พา
ั
ทีตั1งขึ1นในปี พ.ศ. 2512 เป็ นเครื อข่าย คอมพิวเตอร์ ของกระทรวงกลาโหม ทีใช้กนในงานวิจย ั
ทางด้าน การทหาร ( ARPA : Advanced Research Project Agency ) จนกระทัง มาถึงในปี พ.ศ.
2515 หลังจากทีเครื อข่าย ทดลอง ของ อาร์ พา ประสบกับความสําเร็ จเป็ นอย่างมาก ก็ได้มีการ
ปรับปรุ ง หน่วยงาน จาก อาร์ พา มาเป็ น ดาร์ พา ( Defence Comunication Agency ) และ ในปี พ.ศ.
2526 อาร์ พาเน็ต ก็ได้แบ่งออกเป็ น 2 เครื อข่ายด้วยกัน คือ เครื อข่ายด้านงานวิจย ใช้ชือ อาร์ พาเน็ต
ั
เหมือนเดิม ส่ วนเครื อข่ายของกองทัพใช้ มิลเน็ต ( MILNET : Military Network ) ซึ งมีการ
เชือมต่อ โดยใช้ โพรโตคอล TCP / IP ( Transmission Control Protocol / Internet Protocol )
เป็ น ครัPงแรก ในปี พ.ศ. 2528 โดย มูลนิธิวทยาศาสตร์ แห่ งชาติ ของ อเมริ กา NSF ได้ให้เงิน ทุนใน
ิ
การสร้าง ศูนย์ซุปเปอร์ คอมพิวเตอร์ จํานวน 6 แห่ง และให้ใช้ชือว่า NSFNET แลพจนกระทังพอ
มาถึงปี พ.ศ. 2533 อาร์ พาเน็ต รองรับ ภาระทีเป็ น กระดูกสันหลัง ( BackBone ) ของระบบ ไม่ ได้
จึงได้ยติ อาร์ พาเน็ต และเปลียนไปใช้ NSFNET และ เครื อข่ายอืนๆ แทน จนมาเป็ นเครื อข่ายขนาด
ุ
่
มหึ มา จนกระทังถึงทุกวันนี1 และเรี ยก เครื อข่ายนี1วา อินเตอร์ เนต ( Internet ) โดย เครื อข่ายส่ วน
่
ใหญ่จะอยูในประเทศ สหรัฐอเมริกา และ ปั จจุบนนี1ได้มี เครื อข่ายย่อย มากถึง 25,000 เครื อข่ายเลย
ั
ทีเดียว
สิ งทีจําเป็ นต้ องรู้ บนอินเตอร์ เนต
่
ทีอยูบนอินเตอร์ เนต หรื อ Internet Address จะประกอบด้วยชือของผูใช้ คอมพิวเตอร์ (
้
User ) และ ชือของ อินเตอร์ เนต ( Internet Name ) โดยจะมีรูปแบบคือ ....
ชื อผู้ใช้ @ชื อของอินเตอร์ เนต , yourname@domain.xxx
- 2. ตัวอย่างเช่น tick@mail.ksc.net จะหมายถึงว่า ผูใช้ ใช้ชือ tick เป็ นสมาชิก ของศูนย์บริ การ หรื อ
้
ศูนย์คอมพิวเตอร์ ชือ mail ทีมีชืออินเตอร์ เนตเป็ น ksc.net.th หรื อ thanop@thaiware.com หมายถึง
ว่าผูใช้ ใช้ชือ thanop เป็ นสมาชิกของศูนย์คอมพิวเตอร์ ทีมีชือเป็ น thaiware.com หมายเลข
้
อินเตอร์ เนต หรื อ IP Address จะเป็ นรหัสประจําตัวของคอมพิวเตอร์ ทีต่อเข้ากับอินเตอร์ เนต โดย
หมายเลขนี1จะมีรหัสไม่ซ1 ากัน ประกอบไปด้วยตัวเลขจํานวน 4 ชุ ด ด้วยกัน ทีคันด้วย เครื องหมายจุด
ํ
(.) ยกตัวอย่างเช่น 203.151.217.158 ครับ จะเป็ นหมายเลข IP Address ของเครื อง thaiware.com
ชืออินเตอร์ เนต ( DNS : Domain Name Server ) จะเป็ นชือทีอ้างถึง คอมพิวเตอร์ ทีต่อเข้ากับ
อินเตอร์ เนต เนืองจาก IP Address เป็ น ตัวเลข 4 ชุด ซึ งเป็ นทียากในการจําเป็ นอย่างมาก และ ไม่ได้
สะดวกต่อผูใช้ ซึ ง DNS นี1จะทําให้จดจําได้ง่ายยิงขึ1น เป็ น mail.ksc.net.th , comnet3@ksc.net.th (
้
mail คือ ชือ คอมพิวเตอร์ , ksc คือชือ เครือข่ ายท้ องถิน , net คือ ซับโดเมน , th คือ ชื อโดเมน )
ความหมายของโดเมน
สําหรับ ความหมายของโดเมน ในเครื อข่าย อินเตอร์ เนต ก็ได้จาแนกออกมาทั1งหมด 6 ประเภท
ํ
ด้วยกัน คือ :
• .com - กลุ่มองค์การค้า ( Commercial )
• .edu - กลุ่มการการศึกษา ( Education )
• .mit - กลุ่มองค์การทหาร ( Military )
• .net - กลุ่มองค์การ บริ การเครื อข่าย ( Network Services )
• .org - กลุ่มองค์กรอืนๆ ( Organizations )
• .int - หน่วยงานทีตั1งขึ1นโดยสัญญาหรื อข้อตกลงระหว่างประเทศ ( International )
ถ้า สังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ในประเทศ สหรัฐอเมริกา เท่านั1น ทีจะมี โดเมน เป็ นตัวอักษร 3 ตัว ใน
กรณี ที ประเทศอืนๆ เช่น ประเทศไทย ของเรา จะเป็ นเพียงแค่ 2 ตัว เท่ านัPน !!! เช่น microsoft.com
ของประเทศ สหัรฐอเมริ กา กับ ksc.net.th ของไทย นันเอง นอกจากนี1 ในบ้านเรามีการกําหนดชือ
่ ่
โดเมน ขึ1นมา ใหม่ !!! อีก ด้วย อย่างเช่น internet.th.com จะหมายถึงว่า เครื องทีชี1วา internet อยูใน
ประเทศไทย ( th ) และ เป็ นบริ ษททางการค้า ( com )
ั
- 3. โดเมน ทีเป็ นชื อย่ อของประเทศทีน่ าสนใจ
CodeC Name ( Thai ) Name ( English )
.au ออสเตรเลีย Australia
.fr ฝรังเศส France
.hk ฮ่องกง Hong Kong
.jp ญีปุ่ น Japan
.th ไทย Thailand
.sg สิ งค์โปร์ Singapore
.uk สหราชอาณาจักร United Kingdom
.no นอร์ เวย์ Norway
ความหมายของ ซับโดเมน ในไทย
Code Type ( Thai ) Type ( English )
.ac สถาบันการศึกษา Academic
.co องค์กรธุ รกิจ Commercial
.or องค์กรอืนๆ Organizations
.net ผูวางระบบเน็ตเวิร์ก
้ Networking
.go หน่อยงานของรัฐบาล Goverment
.in หน่อยงานอิสระ Individual / Incorporation
การประยุกต์ ใช้ งานอินเทอร์ เน็ต
เมือ เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเชื อมโยงเครื อข่ายทัวโลกให้สามารถติดต่อถึงกันได้ หมดจน
กลายเป็ นเครื อข่ายของโลก ดังนั1นจึงมีผใช้งานบนเครื อข่ายนี1จานวนมาก การใช้งานเหล่านี1เป็ นสิ งที
ู้ ํ
กําลังได้รับการกล่าวถึงกันทัวไป เพราะการเชื อมโยงเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตทําให้โลกไร้พรมแดน
ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถสื อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ ว ตัวอย่างการใช้งานบนอินเทอร์ เน็ตทีจะ
ั
กล่าวต่อไปนี1เป็ นเพียงตัวอย่างที แพร่ หลายและให้กนมากเท่านั1น ยังมีการประยุกต์งานอืนทีได้รับ
การพัฒนาขึ1นมาใหม่ตลอดเวลา
- 4. 1) ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์ (electronoc mail หรือ e-mail ) เป็ นการส่ งข้อความติดต่อกัน
์ ั
ระหว่างบุคคลกับบุคคลก็ได้ หากเปรี ยบเทียบ ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์กบไปรษณี ยธรรมดาจะ ์
พบว่าโดยหลักการนั1นไม่แตกต่าง กันมากนัก ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์เปลียนบุรุษไปรษณี ยให้เป็ น
์ ์
โปรแกรม เปลียนรู ปแบบการจ่าหน้าซองจดหมายให้เป็ นการจ่าหน้าแบบอ้างอิงระบบ
่
อิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ทีอยูของไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์ (email address) การส่ ง
์
ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์น1 นมีรูปแบบทีง่าย สะดวกและรวดเร็ วหากต้องการส่ ง
์ ั
่ ้
ข้อความถึงใครก็สามารถเขียนเอกสาร แล้วจ่าหน้าซองทีอยูขอผูรับ ระบบจะจําส่ ง
่
ทันทีอย่างรวดเร็ ว ลักษณะของอยูทีจะเป็ นขือรหัสให้และขือเครื องประกอบกัน
เช่น sombat@ipst.ac.th การติดต่อบนอินเทอร์ เน็ตนี1 ระบบจะหาตําแหน่งให้เองโดยอัตโนมัติ และ
ํ
นําส่ งไปยังปลายางได้อย่างถูกต้อง การับส่ งไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์กาลังเป็ นทีนิยมกันอย่าง
์
ั ์ ั ่
แพร่ หลาย ปั จจุบนข้อมูลทีส่ งผ่านไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์น1 นเป็ นเป็ นข้อมูลแบบใดก็ ได้ทีอยูใน
รู ปแบบของดิจิทล (digital) และสามารถใช้ภาษาอะไรก็ได้
ั
รู ปที 7.3 ข้อความทีเป็ นภาษาญีปุ่ นทีส่ งผ่านไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์
์
2) การโอนย้ ายแฟมข้ อมูลระหว่ างกัน (File Transfer Protocol : FTP) เป็ นระบบทีทําให้
้
่
ผูใช้สามารถรับส่ งแฟ้ มข้อมูลระหว่างกันหรื อ มีสถานีให้บริ การการเก็บแฟ้ มข้อมูลทีอยูในทีต่างๆ
้
และให้บริ การ ผูใช้สมารถเข้าไปคัดเลือกนําแฟ้ มข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น โปรแกรม cuteFTP
้
โปรแกรม wsFTP เป็ นต้น
- 5. รู ปที 7.4 โปรแกรม CuteFTP
3) การใช้ เครืองคอมพิวเตอร์ ในทีห่ างไกล (telnet) การเชื อมโยงคอมพิวเตอร์ เข้ากับ
เครื อข่าย ทําให้เราสามารถติดต่อเครื องคอมพิวเตอร์ ทีเป็ นสถานีบริ การในทีห่างไกลได้ ถ้าสถานี
่
บริ การนั1นยินยอม ทําให้ผใช้สามารถนําข้อมูลไปประมวลผลยังเครื องคอมพิวเตอร์ ทีอยูในเครื อ ข่าย
ู้
เช่น นักเรี ยนในประเทศไทยส่ งโปรแกรมไปประมวลผลทีเครื องคอมพิวเตอร์ ทีอยูใน บริ ษทใน ่ ั
ประเทศญีปุ่ นผ่านทางระบบเครื อข่ายโดยไม่ตองเดินทางไปเอง
้
4) การเรียกค้ นข้ อมูลข่ าวสาร (search engine) ปั จจุบนมีฐานข้อมูลข่าวสารทีเก็บไว้ให้ใช้
ั
งานจํานวนมาก ฐานข้อมูลบางแห่งเก็บข้อมูลในรู ปส่ งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ทีผูใช้สมารถเรี ยก อ่าน
้
่
หรื อนํามาพิมพ์ ฐานข้อมูลนี1 จึงมีลกษณะเหมือนเป็ นห้องสมุดขนาดใหญ่อยูภายในเครื อข่ายที
ั
สามารถค้นหาข้อมูลใดๆ ก็ได้ ฐานข้อมูลในลักษณะนี1เรี ยกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (Wold Wide Wed :
WWW) ซึ งเป็ นฐานข้อมูลทีเชือมโยงกันทัวโลก
5) การอ่ านจากกลุ่มข่ าว (USENET) ภายในอินเทอร์ เน็ตมีกลุ่มข่าวเป็ นกลุ่มๆ แยกตาม
ความสนใจ แต่ละกลุ่มข่าวอนุญาตให้ผใช้อินเทอร์ เน็ตส่ งข้อความไปได้ และหากผูใดต้องการเขียน
ู้ ้
โต้ตอบก็สามารถเขียนได้ กลุ่มข่าวนี1จึงแพร่ หลายและกระจายข่าวได้รวดเร็ ว
6) การสนทนาบนเครือข่ าย (chat) เมือเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเชื อมต่อถึงกันได้ทวโลกผูใช้
ั ้
จึงสามารถใช้เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเป็ นตัวกลางในการติดต่อสนทนากันได้ ในยุคแรกใช้วธีการ ิ
สนทนากันด้วยตัวหนังสื อ เพือโต้ตอบกันแบบทีนทีทนใดบนจอภาพ ตอมามีผพฒนาให้ใช้เสี ยงได้
ั ู้ ั
จนถึงปั จจุบน ถ้าระบบสื อสารข้อมูลมีความเร็ วพอ ก็สามารถสนทนาโดยทีเห็นหน้ากันและกันบน
ั
จอภาพได้
- 6. รู ปที 7.5 โปรแกรมเพิร์ชใช้สาหลับสนทนาบนเครื อข่ายรู ปที
ํ
7.6 โปรแกรม msn ใช้สาหรับสนทนาบนเครื อข่าย
ํ
7) การบริการสถานีวิทยุและโทรทัศน์ บนเครือข่ าย เป็ นการ ประยุกต์เพือให้เห็นว่าเป็ นสิ งที
เกิดขึ1นได้ ปั จจุบนมีผต1 งสถานีวทยุบนเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตหลายร้อยสถานี ผูใช้สามารถเลือก
ั ู้ ั ิ ้
สถานีทีต้องการและได้ยนเสี ยงเหมือนการฟังวิทยุ ขณะเดียวกันก็มีการส่ งกระจายภาพวีดีทศน์บน
ิ ั
่
เครื อข่ายด้วย แต่ปัญหายังอยูทีความเร็ วของเครื อข่ายทียังไม่สามารถรองรับการส่ งข้อมูล จํานวน
มาก ทําให้คุณภาพของภาพวีดีทศน์ยงไม่ดีเท่าทีควร
ั ั
- 7. รู ปที 7.7 สถานีโทรทัศน์บนเครื อข่าย
8) การบริการบนอินเทอร์ เน็ต ปั จจุบนมีการให้บริ การบนอินเตอร์ เน็ตเกิด ขึ1นมากมายโดย
ั
้ ่
ผูใช้สามารถใช้บริ การโดยอยูทีไหนก็ได้ ซึ งไม่ตองเสี ยเวลาในการเดินทาง การบริ การบน
้
อินเทอร์ เน็ตมีท1 งเผยแพร่ ข่าวสาร ความรู ้ ซื1อข่ายสิ นค้า ธุ รกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ช่วย
ั
สอน และบริ การอืนๆ ซึ งการให้บริ การเหล่านี1ผใช้สามารถโต้ตอบได้
ู้
องค์ ประกอบสํ าหรับการเชื อมต่ อเข้ าสู่ อนเตอร์ เน็ต
ิ
การต่อเข้ากับระบบอินเตอร์ เน็ต ต้องมีองค์ประกอบพื1นฐานดังต่อไปนี1
1. เครื องคอมพิวเตอร์
2. โมเด็ม (modem) เป็ นอุปกรณ์สาหรับแปลงสัญญาณอะนาลอกเป็ นดิจิตอล และแปลงสัญญาณ
ํ
ดิจิตอลเป็ นอะนาล็อก
โมเด็มมี 2 ประเภทคือ
- แบบติดตั1งภายใน (internal)
ั
- แบบติดตั1งภายนอก (external) ใช้เชือมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ กบสายโทรศัพท์
3. คู่สายโทรศัพท์ 1 เลขหมาย
4. ชือบัญชีผใช้อินเตอร์ เน็ต (account) จากองค์กรหรื อบริ ษทผูให้บริ การอินเตอร์ เน็ต (Internet
ู้ ั ้
Service Provider : ISP)
5. ซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบติการ ซอฟต์แวร์ สาหรับติดต่อกับเครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต โปรแกรม
ั ํ
บราวเซอร์ (Browser) และซอฟต์แวร์ อืนๆทีใช้ในการสื อสารผ่านเครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต
6. เครื องพิมพ์ (ในกรณี ทีต้องการพิมพ์ขอมูล)
้