More Related Content
Similar to กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Similar to กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (20)
กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- 1. กาเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กาเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วหน่วยเล็กที่สุด
ของสังคมคือครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน ตําบล อําเภอ จนในที่สุดเป็นเมือง และเป็น
ประเทศตามลําดับ มนุษย์แต่ละหมู่เหล่ามีการติดต่อสื่อสารพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร
สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรคที่ชุมชนของตนไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอ ฯลฯ จนเกิด
เป็นการค้าขายระหว่างหมู่บ้าน ตําบล เมือง และประเทศขึ้น การติดต่อในยุคแรก ๆ เป็นการบอก
กันปากต่อปาก ต่อมามีการสื่อสารกันด้วยตัวอักษรที่จารึกบนวัสดุต่าง ๆ ซึ่งกลายมาเป็นการส่งจด
หมายถึงกัน จากนั้นมีการสื่อสารกันด้วยวิธีการที่หลากหลายและมีความรวดเร็วมากขึ้น ทําให้เกิด
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีโทรคมนาคมซึ่งอาศัยหลักวิชาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและ
อิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนคําพูด ข้อความหรือภาพ เป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสาย หรือเปลี่ยนเป็น
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เรียกว่า คลื่นวิทยุกระจายไปในอากาศ เมื่อถึงปลายทาง สัญญาณหรือคลื่นที่
ส่งไปนั้นจะถูกคืนสภาพให้กลับเป็นเป็นคําพูดข้อความหรือภาพเหมือนกับสิ่งที่ส่งออกไปจากต้น
ทาง พัฒนาการของเทคโนโลยีโทรคมนาคมนี้ ทําให้คนที่อยู่คนละซีกโลกกันสามารถรับรู้ข่าวสาร
ของกันและกันได้ภายในชั่วพริบตาเพราะอัตราความเร็วของการเดินทางของสัญญาณไฟฟ้าตาม
สาย หรือของคลื่นวิทยุนั้น อยู่ในระดับเดียวกับความเร็วของแสง เช่น เหตุร้ายจากการก่อ
วินาศกรรมโดยใช้เครื่องบินโดยสารที่ถูกจี้บังคับมาชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่นครนิวยอร์ค เมื่อ
วันที่ 11กันยายน พ.ศ. 2544 นั้น คนทั้งโลกได้เห็นเหตุการณ์สดๆ ผ่านเครือข่ายข่าวโทรทัศน์ของ
ซีเอ็นเอ็น
- 2. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 20 ปีที่ผ่านมานี่เอง
เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการรวมเทคโนโลยี 2 ประเภทเข้าด้วยกัน คือ เทคโนโลยีโทรคมนาคม กับ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คําว่า สารสนเทศ หมายถึง ตัวเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสาร โดยใช้
คอมพิวเตอร์ทําหน้าที่รวบรวม จัดเก็บ ปรับเปลี่ยนรูปแบบของสารสนเทศ และใช้เทคโนโลยี
โทรคมนาคมซึ่งพัฒนามาจากเครือข่ายโทรทัศน์และเครือข่ายวิทยุมาสร้างระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ขึ้น เป็นการนําเอาความสามารถของคอมพิวเตอร์(คํานวณ ประมวลผล เปรียบเทียบ
และตรวจสอบ ได้รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยํา) มารวมกับความสามารถของระบบโทรคมนาคม (ติดต่อ
ได้รวดเร็วและกว้างไกล) ดังนั้น เทคโนโลยีสารสนเทศจึงหมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์มาจัดการเกี่ยวกับสารสนเทศนั่นเอง
ประวัติโดยย่อของเทศโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปัจจุบันมีการใช้คําว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งตรงกับคําภาษาอังกฤษ
ว่า Information and Communication Technology : ICT กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก
เทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาบนพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งกําลังเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว อีก
ด้านหนึ่ง คือ เทคโนโลยีการสื่อสารโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสารไร้สายก็กําลังพัฒนาขึ้นอย่าง
รวดเร็วเช่นกัน ทําให้เกิดการใช้งาน ในรูปแบบใหม่ ๆ มากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยระบบ
คอมพิวเตอร์ ตัวอย่าง เช่น การทําธุรกรรมต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ m-Shopping (การซื้อ
สินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ) m-Banking (การสั่งจ่ายเงินหรือโอนเงินจากธนาคารผ่าน
โทรศัพท์มือถือ) m-commerce (ธุรกิจผ่านมือถือ) เป็นต้น นอกจากนี้บริการสอบถามและแจ้ง
ข้อมูลทางโทรศัพท์ซึ่งใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ที่เรียกว่าศูนย์ให้บริการ (Call Center)เป็นอีก
ตัวอย่างหนึ่งของพัฒนาการใหม่ด้านการสื่อสาร ในกรณีของ Call Center แม้ว่าจะต้องมีระบบ
คอมพิวเตอร์ติดตั้งอยู่ทางด้านผู้ให้บริการแต่ทางด้านผู้รับบริการใช้เพียงโทรศัพท์ ก็สามารถรับ
บริการได้ ซึ่งแตกต่างจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างอินเตอร์เน็ตที่ผู้ใช้บริการต้องมีระบบ
คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ในอนาคตไม่ไกลนัก เทคโนโลยีสารสนเทศและ
เทคโนโลยีการสื่อสารมีแนวโน้มจะรวมเข้าด้วยกัน ดังจะเห็นได้จากโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่
สามารถรับส่งอีเมล์ได้ คอมพิวเตอร์พกพาบางรุ่นก็สามารถใช้เป็นโทรศัพท์มือถือได้ด้วย วิธีการ
ผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสองด้านนี้
http://jackmanoch01.blogspot.com/2011/10/blog-post.html
........................................................................................................
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- 3. Information and CommunicationTechnology แปลว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หมายถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูลและการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนํามา
วิเคราะห์หรือประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนําไปใช้งานใหม่ เทคโนโลยี
เหล่านี้มักจะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนอุปกรณ์ (hardware) ส่วน
คําสั่ง (software) และส่วนข้อมูล (data) และระบบการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์
ระบบสื่อสารข้อมูล ดาวเทียมหรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งมีสายและไร้สาย (ความหมายตามที่ให้
ไว้ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยพ.ศ. 2545-
2549) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความจําเป็นต่อชีวิตประจําวันทุกวันนี้อย่างยิ่ง จึงตั้ง
หน่วยงานขึ้นรองรับและบริการ เกิดเป็นกระทรวงใหม่ชื่อ "กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร Ministry of Information and Communication Technology" หรือกระทรวงไอซี
ที ICT
เทคโนโลยีสารสนเทศ (information technology) , ไอที (IT) หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร (informationand communications technology) , ไอซีที (ICT) หมายถึง
เทคโนโลยีสําหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง, แปลง, จัดเก็บ
, ประมวลผล, และค้นคืนสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูล
และการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนํามาวิเคราะห์หรือประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การ
จัดเก็บและการนําไปใช้งานใหม่ เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบด้วยส่วน
อุปกรณ์ (hardware) ส่วนคําสั่ง (software) และส่วนข้อมูล (data) และระบบการสื่อสารต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ระบบสื่อสารข้อมูล ดาวเทียมหรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งมีสายและไร้
สาย (ครูนายูลา : 2008)
จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง ข้อมูลที่ได้ถูก
ผ่านกระบวนการต่างๆกลั่นกรองมาเป็นข้อมูลสารสนเทศ ซึ่งเป็นทั้งเทคโนโลยีและการสื่อสาร
อาจเรียกได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนับตั้งแต่การสร้าง การนํามาวิเคราะห์หรือ
ประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนําไปใช้งานใหม่
ที่มา: เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร/
2008 /http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=75299dca37d54f8c
........................................................................................................................................
- 4. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีความสําคัญต่อมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน
ซึ่ง (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2552) กล่าวไว้ว่าความก้าวหน้าทางด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทําให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอํานวยความสะดวกสบายต่อการดําชีวิต
เป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดํารงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทําให้
การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทําให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจํานวน
มากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทําให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทาง
เชื่อมโยงถึงกันทําให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา พัฒนาการของ
เทคโนโลยีทําให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกําเนินมา
ประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทําให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกําเนินบนโลก
ประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์
ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่าง
กันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ํา เมื่อ
ประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้
แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อ
ประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้
เมื่อประมาณ 500 ถึง 800ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทําให้การสื่อสารด้วย
ข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียง
ทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพ
โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทําให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่
วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทาง
โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่าง
มาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์
และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไป
เกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลาเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวันของ
แต่ละคน ซึ่ง (พูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล, 2544, หน้า 21) กล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศเป็น
เรื่องเกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของบุคคลในสังคมสมัยใหม่ จึงมีลักษณะเด่นที่สําคัญดังนี้
1) เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน ในการ
ประกอบการ ทางด้านเศรษฐกิจการค้า และการอุตสาหกรรมจําเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต
ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทําให้เกิด
ระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝาก-ถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถ
ให้บริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดําเนินการ และ
การตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทํางาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด
- 5. จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น 2) เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อ
มีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบ
กระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิต
นักศึกษาบางมหาวิทยาลัย สามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้ 3) เทคโนโลยี
สารสนเทศเป็นสิ่งที่จําเป็นสิ่งที่จําเป็นสําหรับการดําเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุก
หน่วยงาน ต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในองค์กร ประเทศไทยมีระบบทะเบียน
ราษฎร์ที่จัดทําด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูล
ภาษี ในองค์กร ทุกระดับเห็นความสําคัญที่จะนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 4) เทคโนโลยี
สารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทําให้ชีวิตความเป็นอยู่
ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคํานวณ
และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น
http://admission2.bu.ac.th/image/self%20development.htm
...........................................................................................................
ปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีความสําคัญต่อมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน
ซึ่ง (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2552) กล่าวไว้ว่าความก้าวหน้าทางด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทําให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอํานวยความสะดวกสบายต่อการดําชีวิต
เป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดํารงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทําให้
การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทําให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจํานวน
มากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทําให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทาง
เชื่อมโยงถึงกันทําให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา พัฒนาการของ
เทคโนโลยีทําให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกําเนินมา
ประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทําให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกําเนินบนโลก
ประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์
ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่าง
กันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ํา เมื่อ
ประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้
แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อ
- 6. ประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้
เมื่อประมาณ 500 ถึง 800ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทําให้การสื่อสารด้วย
ข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียง
ทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพ
โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทําให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่
วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทาง
โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่าง
มาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์
และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไป
เกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลาเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวันของ
แต่ละคน ซึ่ง (พูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล, 2544, หน้า 21) กล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศเป็น
เรื่องเกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของบุคคลในสังคมสมัยใหม่ จึงมีลักษณะเด่นที่สําคัญดังนี้
1) เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน ในการ
ประกอบการ ทางด้านเศรษฐกิจการค้า และการอุตสาหกรรมจําเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต
ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทําให้เกิด
ระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝาก-ถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถ
ให้บริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดําเนินการ และ
การตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทํางาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด
จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
2) เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล
และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อ
สินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัย
สามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
3) เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จําเป็นสิ่งที่จําเป็นสําหรับการดําเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
ปัจจุบันทุกหน่วยงาน ต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในองค์กร ประเทศไทยมีระบบ
ทะเบียนราษฎร์ที่จัดทําด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บ
ข้อมูลภาษี ในองค์กร ทุกระดับเห็นความสําคัญที่จะนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 4) เทคโนโลยี
สารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทําให้ชีวิตความเป็นอยู่
ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคํานวณ
และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น
http://admission2.bu.ac.th/image/self%20development.htm
..........................................................................................................
- 7. กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในปัจจุบันช่วยให้ความ
เป็นอยู่ในชีวิตประจําวันของเราสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับยุคก่อนการเดินทางและ
ติดต่อสื่อสารระหว่างกันสามารถทําได้ง่ายขึ้นมีการนําเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน ในทุก
สาขาอาชีพเช่น การสื่อสาร การธนาคาร
การบิน วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การแพทย์ การศึกษา หรือการเรียนการสอน ซึ่ง
ส่งผลให้วิทยาการต่างๆเจริญก้าวหน้าและทันสมัยอย่างรวดเร็วการติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในส่วน
ต่างๆของโลกได้ทันเหตุการณ์ สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลในเวลาเดียวกันได้ทั้งที่อยู่ห่างไกลกัน
คนละสถานที่ เช่นการถ่ายทอดสด การเสนอข่าวเหตุการณ์สําคัญ รายการแข่งขันกีฬา การ
ถ่ายทอดสัญญาณผ่านระบบดาวเทียมจากประเทศต่างๆ การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พิมพ์รายงาน
สร้างภาพกราฟิก เก็บข้อมูล สืบค้นข้อมูล ฟังเพลง รวมถึงการประยุกต์ใช้ ในการเรียนการ
สอนจึงนับได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สําคัญต่อการดํารงชีวิตการศึกษาและการ
เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยให้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เป็นประโยชน์ต่อการ
พัฒนาในทุกๆด้านช่วยส่งเสริมทักษะและสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กันการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะอาศัยองค์ประกอบต่างๆมากมายเช่น การใช้โทรศัพท์ต้อง
อาศัยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนคลื่นเสียงให้เป็นคลื่นสัญญาณไฟฟ้า และจะถูกเปลี่ยนให้เป็น
สัญญาณเสียงที่เครื่องโทรศัพท์ปลายทาง ส่วนการใช้โทรศัพท์มือถือ ในการสื่อสารคลื่นเสียงจะถูก
เปลี่ยนเป็นคลื่นสัญญาณไฟฟ้าวิ่งผ่านอากาศ ไปยังสถานีแม่ข่าย หรือดาวเทียมเพื่อส่งต่อคลื่น
สัญณาณไฟฟ้าไปยังเครื่องรับโทรศัพท์ปลายทาง ดังนั้น เครื่องโทรศัพท์มือถือทั่วไป จะต้องมี
เครื่องรับและส่งสัญญาณคลื่นเสียงที่เราพูดคุยกันและในปัจจุบันเราสามารถสื่อสารระหว่างกันโดย
การใช้โทรศัพท์มือถือ รุ่นที่สามหรือ3G ส่งสัญญาณเสียง และภาพพร้อมกันโดยใช้เทคโนโลยีการ
สื่อสารและคอมพิวเตอร์ทําให้เราสามารถเห็นภาพของคู่สนทนาไปพร้อมๆ กัน
http://krufine5.blogspot.com/
...........................................
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อสังคม
· เทคโนโลยีสารสนเทศ ทําให้สังคมเปลี่ยนมาเป็นสังคมสารสนเทศ ซึ่งในอดีตสังคมโลกได้
เปลี่ยนแปลงมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกจากสังคมความเป็นอยู่แบบเร่ร่อนมาเป็นสังคมเกษตรที่รู้จัก
กับการเพาะปลูกและสร้างผลิตผลทางการเกษตร ทําให้มีการสร้างบ้านเรือนเป็นหลักแหล่ง ต่อมา
มีความจําเป็นต้องผลิตสินค้าให้ได้ปริมาณมากและต้นทุนถูก จึงต้องหันมาผลิตแบบอุตสาหกรรม
ทําให้สภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงมาเป็นสังคมเมือง มีการรวมกลุ่มอยู่อาศัยเป็น
เมือง มีอุตสาหกรรมเป็นฐานการผลิต จนมาถึงปัจจุบันซึ่งกําลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสารสนเทศ
โดยคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารมีบทบาทมากขึ้น มีการใช้เครือข่าย เช่น อินเทอร์เน็ตเชื่อมโยง
การทํางานต่าง ๆ เกิดคําใหม่ว่า “ไซเบอร์สเปซ (Cyberspace)” มีการดําเนินกิจกรรมต่าง ๆ ใน
ไซเบอร์สเปซ เช่น การพูดคุย การซื้อสินค้าและบริการ การทํางานผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทํา
- 8. ให้เกิดสภาพเสมือนจริงมากมาย อาทิ ห้องสมุดเสมือนจริง ห้องเรียนเสมือนจริง ที่ทํางานเสมือน
จริง
· เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัสและตอบสนองตามความต้องการ ซึ่ง
แต่เดิมการใช้เทคโนโลยีเป็นแบบบังคับ เช่น การดูโทรทัศน์ วิทยุ เมื่อเปิดเครื่องรับโทรทัศน์ จะไม่
สามารถเลือกตามความต้องการได้ ถ้าสถานีส่งสัญญาณใดมาก็จะต้องชม หากไม่พอใจก็ทําได้เพียง
เลือกสถานีใหม่ แนวโน้มจากนี้ไปจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เรียกว่า on demand เช่น
เมื่อต้องการชมภาพยนตร์เรื่องใดก็สามารถเลือกชมและดูได้ตั้งแต่ต้นรายการ หากจะศึกษาหรือ
เรียนรู้ก็มี education on demand คือสามารถเลือกเรียนตามต้องการได้ การตอบสนองตาม
ความต้องการเป็นหนทางที่เป็นไปได้เพราะเทคโนโลยีมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าจนสามารถนํา
ระบบสื่อสารมาตอบสนองตามความต้องการของมนุษย์ได้
· เทคโนโลยีสารสนเทศทําให้เกิดสภาพทางการทํางานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา โดยการ
โต้ตอบผ่านระบบเครือข่าย อาทิ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระบบประชุมบนเครือข่าย ระบบ Tele-
education ระบบการค้าบนเครือข่าย (E-commerce) ลักษณะของการดําเนินกิจกรรมเหล่านี้ทํา
ให้ขยายขอบเขตการทํางานไปทุกหนทุกแห่งและดําเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เห็นได้จาก
ตัวอย่างที่มีมานานแล้ว เช่น ระบบเอทีเอ็ม ทําให้การเบิกจ่ายได้เกือบตลอดเวลา และกระจายไป
ใกล้ตัวผู้รับบริการมากขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น การบริการจะกระจายมากยิ่งขึ้น
จนถึงที่บ้าน ในอนาคตสังคมการทํางานจะกระจายจนงานบางงานอาจนั่งทําที่บ้านหรือที่ใดก็
ได้ และเวลาใดก็ได้
· เทคโนโลยีสารสนเทศทําให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก
ความเกี่ยวโยงของเครือข่ายสารสนเทศทําให้เกิดสังคมโลกาภิวัตน์ ระบบเศรษฐกิจซึ่งแต่เดิมมี
ขอบเขตจํากัดภายในประเทศ ก็กระจายเป็นเศรษฐกิจโลก ทั่วโลกจะมีกระแสการหมุนเวียน
แลกเปลี่ยนสินค้าบริการอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนเอื้ออํานวยให้การ
ดําเนินการมีขอบเขตกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ระบบเศรษฐกิจของโลกจึงผูกพันกับทุกประเทศ และ
เชื่อมโยงกันแนบแน่นขึ้น
· เทคโนโลยีสารสนเทศทําให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน หน่วยงานภายในเป็นแบบเครือข่ายมาก
ขึ้น แต่เดิมการจัดองค์กรมีการวางเป็นลําดับขั้น มีสายการบังคับบัญชาจากบนลงล่าง แต่เมื่อการ
สื่อสารแบบสองทางและการกระจายข่าวสารดีขึ้น มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรผูกพัน
กันเป็นกลุ่มงาน มีการเพิ่มคุณค่าขององค์กรด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดโครงสร้างของ
องค์กรจึงปรับเปลี่ยนจากเดิม และมีแนวโน้มที่จะสร้างองค์กรเป็นเครือข่ายที่มีลักษณะการบังคับ
บัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจจะมีขนาดเล็กลงและเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็น
เครือข่ายสถานะภาพขององค์กรจึงต้องแปรเปลี่ยนไปตามกระแสของเทคโนโลยีเพราะการดําเนิน
ธุรกิจต้องใช้ระบบสื่อสารที่มีความรวดเร็ว ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
- 9. · เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดําเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทําให้การ
ตัดสินใจหรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น แต่เดิมการตัดสินปัญหาอาจมีหนทางให้เลือกได้น้อย
เช่น มีคําตอบเดียว ใช่และไม่ใช่ แต่ด้วยข้อมูลข่าวสารที่สนับสนุนการตัดสินใจ ทําให้วิถีความคิดใน
การตัดสินปัญหาเปลี่ยนไป ผู้ตัดสินใจมีทางเลือกได้มากขึ้น มีความละเอียดอ่อนในการตัดสิน
ปัญหาได้ดีขึ้น
· เทคโนโลยีสารสนเทศ ในปัจจุบันทําให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทั่วโลกทําได้สะดวกมากขึ้น ดัง
จะเห็นได้จากการรับชมข่าวสาร รายการโทรทัศน์ที่ส่งกระจายผ่านดาวเทียมของประเทศต่าง ๆ ได้
ทั่วโลก สามารถรับรู้ข่าวสารได้ทันทีที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสื่อสารระหว่างกันและติดต่อ
กับคนได้ทั่วโลก จึงเป็นที่แน่ชัดว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และ
การเมืองจึงมีลักษณะเป็นสังคมโลกมากขึ้น