SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน ชาเขียว....เครื่องดื่มยอดนิยม
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาวสุธรี ย่างไพบูลย์เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง 3
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ชาเขียว...เครื่องดื่มยอดนิยม
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The Popular of Matcha Green tea
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุธรี ย่างไพบูลย์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 – 2 ปีการศึกษา 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันความนิยมของเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็คงจะเป็น ชาเขียว ที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น เพราะดื่มร้อนก็
ได้ดื่มเย็นก็ดี และรสชาติก็อร่อยถูกปากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย ตลาดชาเขียวก็เพิ่มจานวนขึ้นมาตามๆกัน บางคน
ชอบดื่มแบบชาเขียวสาเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อ หรือบางคนชอบดื่มตามร้านกาแฟ ก็จะได้กลิ่นและบรรยากาศ
มากขึ้น เมื่อดื่มกันบ่อยๆ
ชาเขียวถูกนามาพัฒนา สร้างสรรค์ออกมาหลายเมนู หลายแบบ ทั้งในรูปแบบขนมเค้ก ขนมปัง มา
การูน คุ้กกี้ ไอศกรีม หรือเบเกอรี่อื่นๆ เพราะชาเขียวดัดแปลงง่าย สีสันทาให้ขนมน่ารับประทานและรสชาติอร่อย
ทาให้ชาเขียวเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในยุคที่โซเชียลเข้าถึงง่าย ทาตามกระแสสังคมจึงเป็นเรื่องง่ายที่ชาเขียวจะ
เป็นความนิยมอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว แต่ผู้บริโภครู้หรือไม่ว่า ชาเขียวมีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีโทษ
และประโยชน์หรือไม่ เราจึงควรศึกษาว่าชาเขียวที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้เป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของชาเขียว ศึกษาประโยชน์และโทษของชาเขียวที่เป็นเรื่องใกล้ตัว
2. เพื่อเป็นสื่อเป็นสื่อในการศึกษา ให้กับผู้ที่สนใจในเรื่อง ของชาเขียว
3
ขอบเขตโครงงาน
1. ขอบเขตด้านเนื้อหา เรื่อง ชาเขียว...เครื่องดื่มยอดนิยม ประกอบด้วย ประวัติความเป็นมา และศึกษา ความ
นิยมของชาเขียวในยุคปัจจุบัน ประโยชน์และโทษของชาเขียว
2.โปรแกรมที่ใช้ในการดาเนินงาน
2.1 Microsoft Word
2.2 PowerPoint
หลักการและทฤษฎี
ประวัติความเป็นมาของชาเขียว
ยุคนี้ถ้ากล่าวถึงเครื่องดื่มยอดฮิตที่แล้วดื่มแล้วสดชื่น อีกทั้งยังได้ประโยชน์ คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงชา
เขียว เพราะดื่มเย็นได้ดื่มร้อนก็ดี แถมรสชาติยังอร่อยถูกปากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย
ก่อนจะเป็นที่นิยมของผู้คน ชาเขียวมีต้นกาเนิดมาจากประเทศจีนกว่า 4,000 ปีมาแล้ว กล่าวคือเมื่อ 2,737 ปีก่อน
คริสต์ศักราช ชาได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดินามว่า เสินหนง ซึ่งเป็นบัณฑิตและนักสมุนไพร ผู้รักความสะอาดเป็น
อย่างมาก ดื่มเฉพาะน้าต้มสุกเท่านั้น วันหนึ่งขณะที่เสินหนงกาลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาในป่า และกาลังต้มน้าอยู่นั้น
ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้เป็นเหตุให้ใบชาร่วงหล่นลงในน้าซึ่งใกล้เดือดพอดี เมื่อเขาลองดื่มก็เกิดความรู้สึก
กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ชาเขียวถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในช่วงศตวรรษต่างๆดังนี้
ช่วงศตวรรษที่ 3 ชาเป็นยา เป็นเครื่องบารุงกาลังที่ได้รับความนิยมมากในช่วงศตวรรษที่3ชาวบ้านก็เริ่มหันมา
ปลูกชากันและพัฒนาขั้นตอนการผลิตมาเรื่อยๆ
ช่วงศตวรรษที่ 4 และ 5
ชาในประเทศจีนได้รับความนิยมมากขึ้นและได้ผลิตชาในรูปของการอัดเป็นแผ่นคือ การนาใบชามานึ่งก่อน แล้วก็
นามา กระแทก ในสมัยนี้ได้นาน้าชาถึงมาถวายเป็นของขวัญแด่พระจักรพรรดิ
สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 - 906)
ถือเป็นยุคทองของชา ชาไม่ได้ดื่ม เพื่อเป็นยาบารุงกาลังอย่างเดียว แต่มีการดื่มเป็นประจาทุกวัน เป็นเครื่องมือ
เพื่อสุขภาพ
สมัยราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ. 960 - 1279)
ชาได้เติมเครื่องเทศแบบใน สมัยราชวงศ์ถังแต่จะเพิ่มรสบางๆ เช่น น้ามันจากดอกมะลิ ดอกบัว และดอก
เบญจมาศ
สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 - 1644)
ชาที่ปลูกในจีนทั้งหมดเป็นชาเขียว สมัยนั้นกระบวนการผลิตชาได้พัฒนาขึ้นไปอีก ไม่อัดเป็นแผ่น แต่มี การ
รวบรวมใบชา นามานึ่ง และอบแห้ง ซึ่งจะเก็บได้ไม่ดีนัก สูญเสียกลิ่นได้ง่าย และรสชาติไม่ดี ในช่วงศตวรรษที่
4
17 มีการค้าขายกับชาวยุโรป การผลิตเพื่อจะรักษาคุณภาพชาให้นานขึ้น โดยได้คิดค้นกระบวนการที่ เราเรียกว่า
การหมัก เมื่อหมักแล้วก็จะนาไปอบ ซึ่งก็เป็นที่มาของชาอูหลง และชาดา ในประเทศจีน มีการแต่งกลิ่นด้วย
โดยเฉพาะกลิ่นดอกไม้
เรื่องน่ารู้ของชาเขียว
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชาตอนที่ 5 นี้ ผู้เขียนขอนาเสนอเรื่อง การผลิตชาเขียว ชาเขียว (green tea) เป็นชา
ที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก (non-fermented tea) การผลิตชาเขียวของไทยนิยมผลิตจากชากลุ่มพันธุ์อัสสัม และ
กลุ่มพันธุ์จีนจากพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 กรรมวิธีการผลิตเริ่มจากการเก็บใบชาสด 1 ยอดตูมและ 2-3 ใบ
บาน จากนั้นใบชาจะถูกลาเลียงเข้าโรงงาน อาจมีการผึ่งในกรณีที่ใบชามีความชื้นสูงเพื่อให้ใบชาเกิดการคาย
น้า จากนั้นใบชาจะถูกนาไปคั่วด้วยเครื่องคั่ว (pan-firing) เพื่อหยุดการทางานของเอนไซม์พอลิฟีนอลออกซิเดส
(polyphenol oxidase) ที่อยู่ในใบชาสด ทาให้เอนไซม์พอลิฟีนอลออกซิเดสไม่สามารถเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ของสารประกอบฟีนอลที่อยู่ในใบชาได้ ใบชาจะถูกคั่วที่อุณหภูมิประมาณ 250-300˚C เป็นเวลาประมาณ 3-5
นาที จากนั้นนาไปนวด (rolling) ให้เป็นเส้นด้วยเครื่องนวด การนวดเป็นการทาให้เซลล์แตก เมื่อเซลล์แตกจะ
ทาให้สารประกอบต่างๆ ที่อยู่ในเซลล์ไหลออกมานอกเซลล์และเคลือบอยู่บนส่วนต่างๆของใบชา จากนั้นนาไป
อบแห้ง (drying) ด้วยเครื่องอบแห้งเพื่อลดปริมาณความชื้นในผลิตภัณฑ์ ตามด้วยการคัดขนาด (sorting) คัด
เกรด (grading) และบรรจุ (packaging) เพื่อส่งขาย (ภาพที่ 1) ผลิตภัณฑ์ชาเขียวของไทยจะมีลักษณะเป็น
เส้น มีสีเขียวเข้มอมน้าตาล (ภาพที่ 2) เมื่อชงชาเขียวด้วยน้าร้อนสีของน้าชาเขียวจะมีสีเขียวอ่อนๆ ถึงสีเขียว
อมเหลือง (ภาพที่ 3) ชาเขียวของไทยที่ผลิตเพื่อการค้าจะเรียกชื่อตามกลุ่มพันธุ์ชา ได้แก่ ชาเขียวอัสสัม และ
ชาเขียวอู่หลง โดยชาเขียวอัสสัมหมายถึงผลิตภัณฑ์ชาเขียวที่ผลิตจากชากลุ่มพันธุ์อัสสัม และชาเขียวอู่หลง
หมายถึงผลิตภัณฑ์ชาเขียวที่ผลิตจากชากลุ่มพันธุ์จีนสายพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 แม้ว่าชาเขียวอัสสัมและชาเขียว
อู่หลงจะเป็นชาเขียวเหมือนกันแต่กลิ่นรสของน้าชาเขียวทั้งสองชนิดจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ประโยชน์ของชาเขียว
ชาเขียว มีคุณสมบัติลดและต้านอนุมูลอิสระที่เป็นพิษในร่างกายของคน โดยจะขับออกมาทางอุจจาระ
และขับไขมันส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะและอุจจาระ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นเป็นคุณสมบัติเฉพาะของชาเขียวร้อน ที่
คนญี่ปุ่นนิยมดื่มกันตั้งแต่เด็กจนแก่แต่คนไทยส่วนมากด้วยความที่ไม่รู้จักคุณสมบัติที่แท้จริงของชาเขียว เลยทา
ให้คิดเอาเองว่าแค่ดื่มชาเขียวก็ได้ประโยชน์แล้ว
ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งชาเขียวญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับความ
นิยม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันมีการผลิตชาเขียวในรูปแบบของเครื่องดื่มสาเร็จรูปกัน
อย่างแพร่หลายทาให้สะดวกต่อการบริโภค และด้วยรสชาติความอร่อยของชาเขียว แก้กระหายทาให้รู้สึกสดชื่น
รวมไปถึงเทคนิคการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียว หรือข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสรรพคุณของชาเขียวที่มีต่อ
ร่างกาย เช่น ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดความอ้วน และป้องกันโรคมะเร็ง เป็นต้น เป็นแรงจูงใจทาให้กระแส
การบริโภคชาเขียวเพิ่มขึ้น แต่อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม หรือบริโภคชาเขียวในปริมาณสูง
5
เกินไปโดยไม่ทราบถึงผลกระทบต่อร่างกาย เราจึงควรทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาเขียวเพื่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุดและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ชาเขียวช่วยเรื่องลดน้าหนักเพียงได้ดีเพราะคาเทชินในชาเขียว เป็นสารประกอบที่สาคัญในชาเขียวเป็นสารในกลุ่ม
โพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีสี ละลายได้ในน้า และมีสาร
epigallocatechin gallate หรือ EGCG ที่มีความสาคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีสรรพคุณเป็นสาร
แอนติออกซิแด็นซ์ (Anti-Oxidant) หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมากกว่าวิตามินซี และวิตามินอีถึง 25
เท่า โดยใบชาเขียวแห้ง 1 ซอง (1.5 กรัมต่อซอง) จะให้EGCG ประมาณ 35 – 110 mg
นอกจากชาเขียวจะมีสาร EGCG แล้ว ชาเขียวญี่ปุ่นยังมีสารอื่นๆ ที่สาคัญอีกมากมาย เช่น
สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ที่มีประโยชน์ต่อขบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยในการจับสารพิษ
ตกค้างออกจากร่างกาย
คาเฟอีน แม้ว่าชาเขียวจะมีคาเฟอีน แต่ก็น้อยกว่ากาแฟมาก ซึ่งคาเฟอีนก็มีประโยชน์และลดความอ้วนได้เช่นกัน
คือ ช่วยกระตุ้นการทางานของเนื้อเยื่อไขมันสีน้าตาลในร่างกาย ทาให้อุณหภูมิร่างการสูงขึ้น และกระตุ้นการเผา
ผลาญไขมันในร่างกายด้วยครับ และคาเฟอีนจะจะออกมามากเมื่ออยู่ในน้าร้อน
ช่วยลดความอ้วน และช่วยลดไขมันในเลือด ชนิด ไตรกลีเซอไรด์ลงได้อย่างมีนัยสาคัญ ด้วยกลไกของการ
กระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน (มีรายงานวิจัยที่มีข้อมูลสนับสนุนว่า EGCG ช่วยเพิ่มกระบวนการ การเผา
ผลาญพลังงานของเนื้อเยื่อไขมัน)
ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเส้นเลือดอุดตัน มีรายงานวิจัยว่า สารสาคัญในชาเขียว คือ EGCG เป็นตัวยับยั้งการเกิด
การสันดาป Oxidation ของโคเลสเตอรอล ทาให้ลดการเกิด การสะสมสร้างตะกอน (Plaque) ในเส้นเลือดจาก
โคเลสเตอรอล ทาให้ลดการเกิด เส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน ผู้ที่ดื่มชาเขียว จะลดการเกิดโรคเส้นเลือดทางสมองทั้ง
โรคเส้นโลหิตในสมอง แตก และเส้นเลือดสมองตีบได้
มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ชาเขียวมีผลต่อการยับยั้งและลดการเกิดมะเร็งได้หลายชนิดทั้งในคนและ
สัตว์ เพราะมีฤทธิ์ทางด้านการต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก จากการวิเคราะห์งานวิจัยที่เชื่อถือได้แม้จะมีจานวน
งานวิจัยที่จากัด แต่ก็พบว่าการดื่มชาเขียว ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งต่อม
ลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลาไส้และมะเร็งตับอ่อน
ช่วยทาให้เจริญอาหาร และช่วยบรรเทาอาการเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทาให้สร่างเมาได้เร็วขึ้น
ชาเขียวไม่ได้นิยมในรูปแบบเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีขนมอย่างอื่นมากมายหลายอย่างที่ทาจากชาเขียวเช่น เค้ก
ลาวาชาเขียว มินิเค้กชาเขียว ทาร์ตชาเขียว มูสเค้กชาเขียว สปันจ์เค้กชาเขียว คุกกี้ชาเขียวคอร์นเฟล็กส์ มัฟฟิน
ชาเขียว มาการองรสชาเขียว สโคนชาเขียวแครนเบอร์รี่ เครปเค้กชาเขียว เป็นต้นซึ่งมีการจัดทาสูตรขนม เป็น
หนังสือ เพื่อให้คนที่นิยมชาเขียวลองทากันดู
6
ชาเขียวมีประโยชน์มากมายยังไง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน เนื่องจากชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่มันร้อนอยู่
เท่านั้น ในทางกลับกัน หากดื่มชาเขียวตอนที่มันเย็นแล้วจะทาให้เกิดโทษ เนื่องจากชาเขียวเย็นไม่ช่วยในการลด
อนุมูลอิสระสารพิษออกจากร่างกาย แล้วยังทาให้สารพิษเกาะตัวกันแน่น อันเป็นสาเหตุของ "มะเร็ง"
โทษของชาเขียว
1.ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์ จะมีอาการกระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว มือสั่นอยู่แล้ว การดื่มชาจะทาให้มีอาการ
เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น
2.หญิงมีครรภ์ ควรงดดื่มเพราะจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
3.ในรายที่เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรงดดื่มชา เพราะกาเฟอีนจะทาให้หัวใจทางานไม่ปกติ คือเต้นเร็วขึ้น
4.คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา เพราะชาจะกระตุ้นให้ผนังกระเพราะอาหารหลั่ง
น้าย่อยซึ่งมีสภาวะเป็นกรดมามากกว่าปกติ ทาให้อาการอักเสบยิ่งรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นโรค
กระเพาะแต่เลิกดื่มชาไม่ได้การเติมนมก็มีประโยชน์ เพราะนมยับยั้งแทนนินไม่ให้ออกฤทธิ์กระตุ้นน้าย่อยในกระ
เพราะอาหาร
5.การดื่มชาแทนอาหารเช้าจะทาให้ร่างกายขาดสารอาหาร จึงควรเติมนมหรือน้าตาลอาจเพิ่มเพิ่มคุณค่าได้บ้าง
และควรกินอาหารชนิดอื่นร่วมด้วย
6.การดื่มชาในปริมาณที่เข้มข้นมากๆจะทาให้เกิดอาการท้องผูก และนอนไม่หลับ
7.ไม่ควรดื่มชาที่ร้อนจัดมากๆเพราะจะทาให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ระคายเคืองต่อเซลล์ จะทาให้
เกิดโรคมะเร็งสูง
8.การดื่มชาเขียวในปริมาณสูงอาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามิน B1 และ ธาตุเหล็กได้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- ใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล
- อ่านและทาความเข้าใจ ประเมินความน่าเชื่อถือของเนื้อหา
- หาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือ
- อ่านข้อมูลหลายๆเว็บแล้วนามาสรุปรวบยอดออกมาเป็นความเนื้อเดียวกัน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- หนังสือ
- กระดาษ และปากกา
7
งบประมาณ
ไม่มี
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ
บ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน สุธรี
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
สุธรี
3 จัดทาโครงร่างงาน สุธรี
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
สุธรี
5 ปรับปรุงทดสอบ สุธรี
6 การทาเอกสารรายงาน สุธรี
7 ประเมินผลงาน สุธรี
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องชาเขียว ซึ่งเป็นเรื่องราวรอบตัวที่ควรรู้
2. ได้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ในการค้นคว้าข้อมูล
3. สามารถนาความรู้ที่ได้จากเรื่องที่ค้นคว้ามาใช้ในชีวิตประจาวันได้
สถานที่ดาเนินการ
- โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้านคหกรรม และด้านคอมพิวเตอร์
- วิทยาศาสตร์ ด้านชีววิทยา
8
แหล่งอ้างอิง
 1. วรนันท์ศุภพิพัฒน์. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับชาเขียว สารออกฤทธิ์ที่สาคัญและปริมาณการ
บริโภคที่เหมาะสม, สรุปการประชุม/สัมมนาเรื่อง การดื่มชาเขียวในประเทศไทย; สิงหาคม
2548; สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท).
2. http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/
3. travel.truelife.com
4. campus.sanook.com
 5. http://www.mfu.ac.th/school/agro2012
 6. http://www.dek-d.com/

More Related Content

What's hot

โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียนแบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียนKruthai Kidsdee
 
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58renusaowiang
 
กล่องนม
กล่องนมกล่องนม
กล่องนมNIng Bussara
 
โครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะโครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะPang Pond
 
การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์Issara Mo
 
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน211.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2Wichai Likitponrak
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืชWichai Likitponrak
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่Benjapron Seesukong
 
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์ธนิสร ยางคำ
 
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรโครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรNattakarntick
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือดบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือด
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือดPinutchaya Nakchumroon
 
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdf
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdfแผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdf
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdfssuser6a0d4f
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1KruKaiNui
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีWarodom Techasrisutee
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2Weerachat Martluplao
 
แนวคิดเสรีนิยม
แนวคิดเสรีนิยมแนวคิดเสรีนิยม
แนวคิดเสรีนิยมGolfzie Loliconer
 

What's hot (20)

โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียนแบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน
แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน
 
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
 
กล่องนม
กล่องนมกล่องนม
กล่องนม
 
โครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะโครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะ
 
แบบประเมินโครงการ
แบบประเมินโครงการ แบบประเมินโครงการ
แบบประเมินโครงการ
 
การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์
 
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน211.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
 
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
 
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรโครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
 
Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือดบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือด
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
 
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdf
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdfแผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdf
แผนGPAS 5 STEPส่งโรงเรียน มารยาทชาวพุทธพระพุทธม. 5 เทอม1 ปี65.pdf
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2
 
แนวคิดเสรีนิยม
แนวคิดเสรีนิยมแนวคิดเสรีนิยม
แนวคิดเสรีนิยม
 

Similar to ชาเขียว..เครื่องดื่มยอดนิยม

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ Pukkad Kcn
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Daranpop Doungdetch
 
Coffee & Health
Coffee & HealthCoffee & Health
Coffee & Healthnewwy1
 
ผักอินทรีย์
ผักอินทรีย์ผักอินทรีย์
ผักอินทรีย์Mari Sa
 
งานเทอมสอง
งานเทอมสอง งานเทอมสอง
งานเทอมสอง Chalita Jommoon
 
งานคอมโครงงาน
งานคอมโครงงานงานคอมโครงงาน
งานคอมโครงงานorrayaKawichai
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Permtrakul Khammoon
 
2558 project อต.
2558 project  อต.2558 project  อต.
2558 project อต.artaphs
 
โครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมโครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมnoeiinoii
 
ใบงาน6 โครงร่างรายงาน
ใบงาน6 โครงร่างรายงานใบงาน6 โครงร่างรายงาน
ใบงาน6 โครงร่างรายงานTeerawat Punyadang
 
2561 project com-02
2561 project  com-022561 project  com-02
2561 project com-02capess
 
แบบโครงงาน Primrata
แบบโครงงาน Primrataแบบโครงงาน Primrata
แบบโครงงาน Primratachayanit kaewjankamol
 

Similar to ชาเขียว..เครื่องดื่มยอดนิยม (20)

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Healthy by-juice
Healthy by-juiceHealthy by-juice
Healthy by-juice
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Coffee & Health
Coffee & HealthCoffee & Health
Coffee & Health
 
ผักอินทรีย์
ผักอินทรีย์ผักอินทรีย์
ผักอินทรีย์
 
taksaorn
taksaorntaksaorn
taksaorn
 
งานเทอมสอง
งานเทอมสอง งานเทอมสอง
งานเทอมสอง
 
2560 project 34
2560 project 342560 project 34
2560 project 34
 
งานคอมโครงงาน
งานคอมโครงงานงานคอมโครงงาน
งานคอมโครงงาน
 
สบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพรสบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพร
 
Fruit juice
Fruit juiceFruit juice
Fruit juice
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Projectm6 2-2554
Projectm6 2-2554Projectm6 2-2554
Projectm6 2-2554
 
2558 project อต.
2558 project  อต.2558 project  อต.
2558 project อต.
 
โครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมโครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอม
 
ใบงาน6 โครงร่างรายงาน
ใบงาน6 โครงร่างรายงานใบงาน6 โครงร่างรายงาน
ใบงาน6 โครงร่างรายงาน
 
2561 project com-02
2561 project  com-022561 project  com-02
2561 project com-02
 
Project
ProjectProject
Project
 
แบบโครงงาน Primrata
แบบโครงงาน Primrataแบบโครงงาน Primrata
แบบโครงงาน Primrata
 
Jirapon
JiraponJirapon
Jirapon
 

ชาเขียว..เครื่องดื่มยอดนิยม

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน ชาเขียว....เครื่องดื่มยอดนิยม ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาวสุธรี ย่างไพบูลย์เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง 3 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ชาเขียว...เครื่องดื่มยอดนิยม ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) The Popular of Matcha Green tea ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุธรี ย่างไพบูลย์ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม - ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 – 2 ปีการศึกษา 2558 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ปัจจุบันความนิยมของเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็คงจะเป็น ชาเขียว ที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น เพราะดื่มร้อนก็ ได้ดื่มเย็นก็ดี และรสชาติก็อร่อยถูกปากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย ตลาดชาเขียวก็เพิ่มจานวนขึ้นมาตามๆกัน บางคน ชอบดื่มแบบชาเขียวสาเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อ หรือบางคนชอบดื่มตามร้านกาแฟ ก็จะได้กลิ่นและบรรยากาศ มากขึ้น เมื่อดื่มกันบ่อยๆ ชาเขียวถูกนามาพัฒนา สร้างสรรค์ออกมาหลายเมนู หลายแบบ ทั้งในรูปแบบขนมเค้ก ขนมปัง มา การูน คุ้กกี้ ไอศกรีม หรือเบเกอรี่อื่นๆ เพราะชาเขียวดัดแปลงง่าย สีสันทาให้ขนมน่ารับประทานและรสชาติอร่อย ทาให้ชาเขียวเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในยุคที่โซเชียลเข้าถึงง่าย ทาตามกระแสสังคมจึงเป็นเรื่องง่ายที่ชาเขียวจะ เป็นความนิยมอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว แต่ผู้บริโภครู้หรือไม่ว่า ชาเขียวมีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีโทษ และประโยชน์หรือไม่ เราจึงควรศึกษาว่าชาเขียวที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้เป็นอย่างไร วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของชาเขียว ศึกษาประโยชน์และโทษของชาเขียวที่เป็นเรื่องใกล้ตัว 2. เพื่อเป็นสื่อเป็นสื่อในการศึกษา ให้กับผู้ที่สนใจในเรื่อง ของชาเขียว
  • 3. 3 ขอบเขตโครงงาน 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา เรื่อง ชาเขียว...เครื่องดื่มยอดนิยม ประกอบด้วย ประวัติความเป็นมา และศึกษา ความ นิยมของชาเขียวในยุคปัจจุบัน ประโยชน์และโทษของชาเขียว 2.โปรแกรมที่ใช้ในการดาเนินงาน 2.1 Microsoft Word 2.2 PowerPoint หลักการและทฤษฎี ประวัติความเป็นมาของชาเขียว ยุคนี้ถ้ากล่าวถึงเครื่องดื่มยอดฮิตที่แล้วดื่มแล้วสดชื่น อีกทั้งยังได้ประโยชน์ คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงชา เขียว เพราะดื่มเย็นได้ดื่มร้อนก็ดี แถมรสชาติยังอร่อยถูกปากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย ก่อนจะเป็นที่นิยมของผู้คน ชาเขียวมีต้นกาเนิดมาจากประเทศจีนกว่า 4,000 ปีมาแล้ว กล่าวคือเมื่อ 2,737 ปีก่อน คริสต์ศักราช ชาได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดินามว่า เสินหนง ซึ่งเป็นบัณฑิตและนักสมุนไพร ผู้รักความสะอาดเป็น อย่างมาก ดื่มเฉพาะน้าต้มสุกเท่านั้น วันหนึ่งขณะที่เสินหนงกาลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาในป่า และกาลังต้มน้าอยู่นั้น ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้เป็นเหตุให้ใบชาร่วงหล่นลงในน้าซึ่งใกล้เดือดพอดี เมื่อเขาลองดื่มก็เกิดความรู้สึก กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ชาเขียวถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในช่วงศตวรรษต่างๆดังนี้ ช่วงศตวรรษที่ 3 ชาเป็นยา เป็นเครื่องบารุงกาลังที่ได้รับความนิยมมากในช่วงศตวรรษที่3ชาวบ้านก็เริ่มหันมา ปลูกชากันและพัฒนาขั้นตอนการผลิตมาเรื่อยๆ ช่วงศตวรรษที่ 4 และ 5 ชาในประเทศจีนได้รับความนิยมมากขึ้นและได้ผลิตชาในรูปของการอัดเป็นแผ่นคือ การนาใบชามานึ่งก่อน แล้วก็ นามา กระแทก ในสมัยนี้ได้นาน้าชาถึงมาถวายเป็นของขวัญแด่พระจักรพรรดิ สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 - 906) ถือเป็นยุคทองของชา ชาไม่ได้ดื่ม เพื่อเป็นยาบารุงกาลังอย่างเดียว แต่มีการดื่มเป็นประจาทุกวัน เป็นเครื่องมือ เพื่อสุขภาพ สมัยราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ. 960 - 1279) ชาได้เติมเครื่องเทศแบบใน สมัยราชวงศ์ถังแต่จะเพิ่มรสบางๆ เช่น น้ามันจากดอกมะลิ ดอกบัว และดอก เบญจมาศ สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 - 1644) ชาที่ปลูกในจีนทั้งหมดเป็นชาเขียว สมัยนั้นกระบวนการผลิตชาได้พัฒนาขึ้นไปอีก ไม่อัดเป็นแผ่น แต่มี การ รวบรวมใบชา นามานึ่ง และอบแห้ง ซึ่งจะเก็บได้ไม่ดีนัก สูญเสียกลิ่นได้ง่าย และรสชาติไม่ดี ในช่วงศตวรรษที่
  • 4. 4 17 มีการค้าขายกับชาวยุโรป การผลิตเพื่อจะรักษาคุณภาพชาให้นานขึ้น โดยได้คิดค้นกระบวนการที่ เราเรียกว่า การหมัก เมื่อหมักแล้วก็จะนาไปอบ ซึ่งก็เป็นที่มาของชาอูหลง และชาดา ในประเทศจีน มีการแต่งกลิ่นด้วย โดยเฉพาะกลิ่นดอกไม้ เรื่องน่ารู้ของชาเขียว เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชาตอนที่ 5 นี้ ผู้เขียนขอนาเสนอเรื่อง การผลิตชาเขียว ชาเขียว (green tea) เป็นชา ที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก (non-fermented tea) การผลิตชาเขียวของไทยนิยมผลิตจากชากลุ่มพันธุ์อัสสัม และ กลุ่มพันธุ์จีนจากพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 กรรมวิธีการผลิตเริ่มจากการเก็บใบชาสด 1 ยอดตูมและ 2-3 ใบ บาน จากนั้นใบชาจะถูกลาเลียงเข้าโรงงาน อาจมีการผึ่งในกรณีที่ใบชามีความชื้นสูงเพื่อให้ใบชาเกิดการคาย น้า จากนั้นใบชาจะถูกนาไปคั่วด้วยเครื่องคั่ว (pan-firing) เพื่อหยุดการทางานของเอนไซม์พอลิฟีนอลออกซิเดส (polyphenol oxidase) ที่อยู่ในใบชาสด ทาให้เอนไซม์พอลิฟีนอลออกซิเดสไม่สามารถเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน ของสารประกอบฟีนอลที่อยู่ในใบชาได้ ใบชาจะถูกคั่วที่อุณหภูมิประมาณ 250-300˚C เป็นเวลาประมาณ 3-5 นาที จากนั้นนาไปนวด (rolling) ให้เป็นเส้นด้วยเครื่องนวด การนวดเป็นการทาให้เซลล์แตก เมื่อเซลล์แตกจะ ทาให้สารประกอบต่างๆ ที่อยู่ในเซลล์ไหลออกมานอกเซลล์และเคลือบอยู่บนส่วนต่างๆของใบชา จากนั้นนาไป อบแห้ง (drying) ด้วยเครื่องอบแห้งเพื่อลดปริมาณความชื้นในผลิตภัณฑ์ ตามด้วยการคัดขนาด (sorting) คัด เกรด (grading) และบรรจุ (packaging) เพื่อส่งขาย (ภาพที่ 1) ผลิตภัณฑ์ชาเขียวของไทยจะมีลักษณะเป็น เส้น มีสีเขียวเข้มอมน้าตาล (ภาพที่ 2) เมื่อชงชาเขียวด้วยน้าร้อนสีของน้าชาเขียวจะมีสีเขียวอ่อนๆ ถึงสีเขียว อมเหลือง (ภาพที่ 3) ชาเขียวของไทยที่ผลิตเพื่อการค้าจะเรียกชื่อตามกลุ่มพันธุ์ชา ได้แก่ ชาเขียวอัสสัม และ ชาเขียวอู่หลง โดยชาเขียวอัสสัมหมายถึงผลิตภัณฑ์ชาเขียวที่ผลิตจากชากลุ่มพันธุ์อัสสัม และชาเขียวอู่หลง หมายถึงผลิตภัณฑ์ชาเขียวที่ผลิตจากชากลุ่มพันธุ์จีนสายพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 แม้ว่าชาเขียวอัสสัมและชาเขียว อู่หลงจะเป็นชาเขียวเหมือนกันแต่กลิ่นรสของน้าชาเขียวทั้งสองชนิดจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ประโยชน์ของชาเขียว ชาเขียว มีคุณสมบัติลดและต้านอนุมูลอิสระที่เป็นพิษในร่างกายของคน โดยจะขับออกมาทางอุจจาระ และขับไขมันส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะและอุจจาระ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นเป็นคุณสมบัติเฉพาะของชาเขียวร้อน ที่ คนญี่ปุ่นนิยมดื่มกันตั้งแต่เด็กจนแก่แต่คนไทยส่วนมากด้วยความที่ไม่รู้จักคุณสมบัติที่แท้จริงของชาเขียว เลยทา ให้คิดเอาเองว่าแค่ดื่มชาเขียวก็ได้ประโยชน์แล้ว ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งชาเขียวญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับความ นิยม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันมีการผลิตชาเขียวในรูปแบบของเครื่องดื่มสาเร็จรูปกัน อย่างแพร่หลายทาให้สะดวกต่อการบริโภค และด้วยรสชาติความอร่อยของชาเขียว แก้กระหายทาให้รู้สึกสดชื่น รวมไปถึงเทคนิคการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียว หรือข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสรรพคุณของชาเขียวที่มีต่อ ร่างกาย เช่น ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดความอ้วน และป้องกันโรคมะเร็ง เป็นต้น เป็นแรงจูงใจทาให้กระแส การบริโภคชาเขียวเพิ่มขึ้น แต่อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม หรือบริโภคชาเขียวในปริมาณสูง
  • 5. 5 เกินไปโดยไม่ทราบถึงผลกระทบต่อร่างกาย เราจึงควรทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาเขียวเพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ชาเขียวช่วยเรื่องลดน้าหนักเพียงได้ดีเพราะคาเทชินในชาเขียว เป็นสารประกอบที่สาคัญในชาเขียวเป็นสารในกลุ่ม โพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีสี ละลายได้ในน้า และมีสาร epigallocatechin gallate หรือ EGCG ที่มีความสาคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีสรรพคุณเป็นสาร แอนติออกซิแด็นซ์ (Anti-Oxidant) หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมากกว่าวิตามินซี และวิตามินอีถึง 25 เท่า โดยใบชาเขียวแห้ง 1 ซอง (1.5 กรัมต่อซอง) จะให้EGCG ประมาณ 35 – 110 mg นอกจากชาเขียวจะมีสาร EGCG แล้ว ชาเขียวญี่ปุ่นยังมีสารอื่นๆ ที่สาคัญอีกมากมาย เช่น สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ที่มีประโยชน์ต่อขบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยในการจับสารพิษ ตกค้างออกจากร่างกาย คาเฟอีน แม้ว่าชาเขียวจะมีคาเฟอีน แต่ก็น้อยกว่ากาแฟมาก ซึ่งคาเฟอีนก็มีประโยชน์และลดความอ้วนได้เช่นกัน คือ ช่วยกระตุ้นการทางานของเนื้อเยื่อไขมันสีน้าตาลในร่างกาย ทาให้อุณหภูมิร่างการสูงขึ้น และกระตุ้นการเผา ผลาญไขมันในร่างกายด้วยครับ และคาเฟอีนจะจะออกมามากเมื่ออยู่ในน้าร้อน ช่วยลดความอ้วน และช่วยลดไขมันในเลือด ชนิด ไตรกลีเซอไรด์ลงได้อย่างมีนัยสาคัญ ด้วยกลไกของการ กระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน (มีรายงานวิจัยที่มีข้อมูลสนับสนุนว่า EGCG ช่วยเพิ่มกระบวนการ การเผา ผลาญพลังงานของเนื้อเยื่อไขมัน) ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเส้นเลือดอุดตัน มีรายงานวิจัยว่า สารสาคัญในชาเขียว คือ EGCG เป็นตัวยับยั้งการเกิด การสันดาป Oxidation ของโคเลสเตอรอล ทาให้ลดการเกิด การสะสมสร้างตะกอน (Plaque) ในเส้นเลือดจาก โคเลสเตอรอล ทาให้ลดการเกิด เส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน ผู้ที่ดื่มชาเขียว จะลดการเกิดโรคเส้นเลือดทางสมองทั้ง โรคเส้นโลหิตในสมอง แตก และเส้นเลือดสมองตีบได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ชาเขียวมีผลต่อการยับยั้งและลดการเกิดมะเร็งได้หลายชนิดทั้งในคนและ สัตว์ เพราะมีฤทธิ์ทางด้านการต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก จากการวิเคราะห์งานวิจัยที่เชื่อถือได้แม้จะมีจานวน งานวิจัยที่จากัด แต่ก็พบว่าการดื่มชาเขียว ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งต่อม ลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลาไส้และมะเร็งตับอ่อน ช่วยทาให้เจริญอาหาร และช่วยบรรเทาอาการเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทาให้สร่างเมาได้เร็วขึ้น ชาเขียวไม่ได้นิยมในรูปแบบเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีขนมอย่างอื่นมากมายหลายอย่างที่ทาจากชาเขียวเช่น เค้ก ลาวาชาเขียว มินิเค้กชาเขียว ทาร์ตชาเขียว มูสเค้กชาเขียว สปันจ์เค้กชาเขียว คุกกี้ชาเขียวคอร์นเฟล็กส์ มัฟฟิน ชาเขียว มาการองรสชาเขียว สโคนชาเขียวแครนเบอร์รี่ เครปเค้กชาเขียว เป็นต้นซึ่งมีการจัดทาสูตรขนม เป็น หนังสือ เพื่อให้คนที่นิยมชาเขียวลองทากันดู
  • 6. 6 ชาเขียวมีประโยชน์มากมายยังไง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน เนื่องจากชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่มันร้อนอยู่ เท่านั้น ในทางกลับกัน หากดื่มชาเขียวตอนที่มันเย็นแล้วจะทาให้เกิดโทษ เนื่องจากชาเขียวเย็นไม่ช่วยในการลด อนุมูลอิสระสารพิษออกจากร่างกาย แล้วยังทาให้สารพิษเกาะตัวกันแน่น อันเป็นสาเหตุของ "มะเร็ง" โทษของชาเขียว 1.ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์ จะมีอาการกระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว มือสั่นอยู่แล้ว การดื่มชาจะทาให้มีอาการ เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น 2.หญิงมีครรภ์ ควรงดดื่มเพราะจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ 3.ในรายที่เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรงดดื่มชา เพราะกาเฟอีนจะทาให้หัวใจทางานไม่ปกติ คือเต้นเร็วขึ้น 4.คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา เพราะชาจะกระตุ้นให้ผนังกระเพราะอาหารหลั่ง น้าย่อยซึ่งมีสภาวะเป็นกรดมามากกว่าปกติ ทาให้อาการอักเสบยิ่งรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นโรค กระเพาะแต่เลิกดื่มชาไม่ได้การเติมนมก็มีประโยชน์ เพราะนมยับยั้งแทนนินไม่ให้ออกฤทธิ์กระตุ้นน้าย่อยในกระ เพราะอาหาร 5.การดื่มชาแทนอาหารเช้าจะทาให้ร่างกายขาดสารอาหาร จึงควรเติมนมหรือน้าตาลอาจเพิ่มเพิ่มคุณค่าได้บ้าง และควรกินอาหารชนิดอื่นร่วมด้วย 6.การดื่มชาในปริมาณที่เข้มข้นมากๆจะทาให้เกิดอาการท้องผูก และนอนไม่หลับ 7.ไม่ควรดื่มชาที่ร้อนจัดมากๆเพราะจะทาให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ระคายเคืองต่อเซลล์ จะทาให้ เกิดโรคมะเร็งสูง 8.การดื่มชาเขียวในปริมาณสูงอาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามิน B1 และ ธาตุเหล็กได้ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน - ใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล - อ่านและทาความเข้าใจ ประเมินความน่าเชื่อถือของเนื้อหา - หาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือ - อ่านข้อมูลหลายๆเว็บแล้วนามาสรุปรวบยอดออกมาเป็นความเนื้อเดียวกัน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ - คอมพิวเตอร์ - หนังสือ - กระดาษ และปากกา
  • 7. 7 งบประมาณ ไม่มี ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ บ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน สุธรี 2 ศึกษาและค้นคว้า ข้อมูล สุธรี 3 จัดทาโครงร่างงาน สุธรี 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน สุธรี 5 ปรับปรุงทดสอบ สุธรี 6 การทาเอกสารรายงาน สุธรี 7 ประเมินผลงาน สุธรี 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องชาเขียว ซึ่งเป็นเรื่องราวรอบตัวที่ควรรู้ 2. ได้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ในการค้นคว้าข้อมูล 3. สามารถนาความรู้ที่ได้จากเรื่องที่ค้นคว้ามาใช้ในชีวิตประจาวันได้ สถานที่ดาเนินการ - โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง - การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้านคหกรรม และด้านคอมพิวเตอร์ - วิทยาศาสตร์ ด้านชีววิทยา
  • 8. 8 แหล่งอ้างอิง  1. วรนันท์ศุภพิพัฒน์. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับชาเขียว สารออกฤทธิ์ที่สาคัญและปริมาณการ บริโภคที่เหมาะสม, สรุปการประชุม/สัมมนาเรื่อง การดื่มชาเขียวในประเทศไทย; สิงหาคม 2548; สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท). 2. http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/ 3. travel.truelife.com 4. campus.sanook.com  5. http://www.mfu.ac.th/school/agro2012  6. http://www.dek-d.com/