1. เพลงSunrise, Sunset จากละครเพลง/ภาพยนตร์เรื่อง Fiddleron the Roof (1964/1871)
- 1 -
เป็นเพลงที่ Tevye(พ่อ) และGolde (แม่) ร้องที่งานแต่งงานของลูกสาวคนโต
บรรยายถึงความรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวจะโตขนาดนี้แล้วส่วน
Hodel (ลูกสาวคนรอง)และ Perchik (แฟนหนุ่ม) ก็มีบทร้องด้วย
คือถามว่าจะมีงานแต่งงานในอนาคตอันใกล้สาหรับเขากับเธอหรือเปล่านะ
- 2 –
(Tevye) Is this the little girl I carried? นี่คือเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆที่ฉัน(เคย)อุ้มหรือนี่
Is this the little boyat play? นี่คือเด็กผู้ชายตัวน้อยๆที่(กาลัง)เล่นอยู่(ตอนนั้น)หรือนี่
(Golde) I don'tremember growing older ฉันจาไม่ได้ว่า(ตัวเอง)อายุมากขึ้น
When did they? (แล้ว)พวกเด็กๆโตขึ้นตอนไหนกัน
(Tevye) When did she get to be a beauty? เธอ(เด็กผู้หญิง)กลายเป็นสาวสวยเมื่อไหร่นี่
When did he growto be so tall? เขา(เด็กผู้ชาย)โตจนสูงขนาดนี้เมื่อไหร่กัน
(Golde) Wasn't ityesterday when they were small? เมื่อวานนี้เองไม่ใช่หรือ ที่พวกเขา
(เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย)ยังเล็กๆอยู่
(Men กลุ่มผู้ชาย)
Sunrise, sunset พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
Sunrise, sunset พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
Swiftly flow the days วันๆ ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
Seedlings turn overnight to sunflowers ต้นอ่อนกลายเป็นดอกทานตะวันชั่วข้ามคืน
2. Blossoming even as we gaze เบ่งบานเติบโตแม้ขณะที่เราจ้องมองอยู่
(Women กลุ่มผู้หญิง)
Sunrise, sunset พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
Sunrise, sunset พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
Swiftly fly the years ปีๆ ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
One season following another ฤดูหนึ่งตามอีกฤดูไป
Laden with happiness and tears เพียบไปด้วยความสุขและน้าตา(ความทุกข์)
(Tevye) Whatwords of wisdom can I give them? ฉันจะมีถ้อยคาอะไรที่จะสั่งสอนเตือนใจ
(ให้เกิดสติปัญญา– wisdom) ให้พวกเขาได้บ้างนะ
How can I help to ease their way?
ฉันจะช่วยให้พวกเขา(ใช้ชีวิต)แบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างรอบคอบได้ยังไงนะ
(Golde) Now they must learn from one another day byday ทีนี้ (ต่อจากนี้) พวกเขาก็ต้องค่อยๆ
เรียนรู้จากกันและกันไป
(Perchik) Theylook so natural together พวกเขาดูไปด้วยกันได้ดีเหลือเกิน
(Hodel) Just like two newlyweds should be อย่างเดียวกับคู่แต่งงานใหม่น่าจะเป็น
(Perchik & Hodel) Is there a canopy in store for me?
มีซุ้ม(แต่งงาน)รอฉันอยู่หรือเปล่านะ (ฉันจะได้แต่งงานหรือเปล่านะ)
- 3 -
day by day แปลว่าทีละน้อยค่อยเป็นค่อยไป
natural แปลว่าเป็นธรรมชาติ จริงใจไม่เสแสร้ง (look so natural together -
น่าจะหมายความว่าไปด้วยกันได้อยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข)
3. in store เป็นสานวนมีความหมายว่ามีอยู่รออยู่ หรือกาลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
canopy (ลองกูเกิ้ลดูรูปเองนะคะ)ในที่นี้ หมายถึง wedding canopy
ซุ้มที่ใช้ในพิธีแต่งงานตามประเพณียิว(ของครอบครัวในละคร/ภาพยนตร์เรื่องนี้)
- 4 -
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เพลงนี้มักร้องกันตามงานแต่งงาน
- เมื่อปี 2011 Sheldon Harnick (1949-2013) ผู้เขียนเพลงนี้เมื่อปี 1964
ปรับเนื้อร้องเล็กน้อยอีกสองเวอร์ชั่นสาหรับงานแต่งงานของเพศเดียวกัน(น่ารักจัง)
หลังจากคนทาพิธีคนหนึ่งไปบอกว่าเวลาคู่ชายชายหรือหญิงหญิงแต่งงานกัน
ก็จะไม่ได้ร้องเพลงนี้ เพราะพูดถึงเด็กหญิงเด็กชายพอไม่มีการร้องเพลงนี้
งานนั้นเลยดูเหมือนขาดอะไรไป
- เนื้อร้องที่ปรับใหม่ก็แน่นอน ต้องใช้คาว่าboy– boy หรือ girl – girl แล้วแต่กรณี
- กรณีชายกับชายส่วนที่บอกว่ากลายเป็นสาวสวยก็ปรับเป็นพูดรวมๆไปได้เลยว่าWhen
did they get to be so handsome? คือใช้they หมายถึงทั้งสองหนุ่ม
- สาหรับหญิงกับหญิงมีให้เลือกด้วยว่าจะร้องว่า Whendid she getto be so handsome? ก็ได้
(ปกติ เราจะใช้คาว่าhandsomeกับผู้ชาย แต่อันที่จริงจะใช้กับผู้หญิงก็ได้)
- สนใจว่า “handsome women” หรือ “beautiful men” น่าจะประมาณไหน
กูเกิ้ลหาภาพตัวอย่างได้ตามอัธยาศัยอย่าลืมใส่หกหก เก้าเก้าด้วยเวลาค้น
คุณกูจะได้ค้นให้เฉพาะเจาะจงขึ้นอีกหน่อย
ป.ล.อ่านเรื่องเพลงทั้งหลายที่พูดถึงแล้วหาฟังเพลงในyoutubeเองนะคะHappylistening!