การบอกเวลา, ภาษาอังกฤษ telling the time, a.m. vs p.m, การใช้. o'clock, การใช้ half และ a quarter. what time is it? การถามเวลา การตอบคำถามเรื่องเวลา, เวลา 12.00

1. การบอกเวลา

2. การบอกเวลา
• วิธีบอกเวลาที่นิยมกันสองวิธี
• การใชคําวา o’clock
• การบอกเวลา 12:00
• การถามเวลา
• การตอบคําถามเรื่องเวลา
• a.m. VS p.m.

3. การบอกเวลาที่ใชกันโดยทั่วไปมีสองวิธี
• อานตัวเลขบอกชั่วโมง และนาทีตอกัน
• บอกเวลาที่เปนนาทีกอน +
คําวา PAST หรือ TO + เวลาบอกชั่วโมง

4. การบอกเวลาวิธีที่หนึ่ง
อานตัวเลขบอกชั่วโมง และนาทีตอกัน

5. ตัวอยาง
• 7:15 – seven fifteen
(เจ็ดโมงสิบหานาที หรือหนึ่งทุมสิบหานาที)
• 9:05 - nine O-five (เกาโมงหานาที หรือสามทุมหานาที เลขศูนย ใน
ที่นี้ใหออกเสียง วา “โอ”)
• 10:13 – ten thirteen
(สิบโมงสิบสามนาที หรือสี่ทุมสิบสามนาที)
• 3:38 – three thirty-eight
(สามโมงสามสิบแปดนาที หรือตีสามสามสิบแปดนาที)

6. ขอสังเกต
– วิธีนี้ เปนวิธีที่งายมาก คือ อานแตตัวเลขบอกชั่วโมง และนาทีตอกัน
– ใหนึกถึงตัวเลขคูกันที่บอกเวลาโดยทั่วไป
– นิยมใชกับรอบเวลาสิบสองชั่วโมง โดยทั่วไป หากบริบทชัดเจน เชน พูดถึง
เวลาประชุม ก็ไมนาจะเปนเวลากลางคืน เวลาที่จะนัดพบกันก็ไมนาจะเปนตี
สาม เปนตน

7. ขอสังเกต (ตอ)
– หากตองการใหชัดเจน สามารถตอทาย ไดวา in the morning, in
the afternoon หรือ at night เชน His flight
leaves at 8:30 in the morning. เที่ยวบินของเขาออก
เวลาแปดโมงครึ่ง (ในภาษาไทย คงไมจําเปนตองบอกวาตอนเชา เพราะ
มิฉะนั้น เราคงใชวาสองทุมครึ่ง)

8. การบอกเวลา วิธีที่สอง
• บอกเวลาที่เปนนาทีกอน บอกชั่วโมง โดยใชโครงสรางใน
ภาษาอังกฤษดังนี้ คือ จํานวนนาที + คําวา PAST (ซึ่ง
แปลวา “ผาน”) หรือคําวา TO (ซึ่งแปลวา “ถึง”) +
เวลาบอกชั่วโมง

9. ขอใหดูตัวอยาง กอนจะไดอธิบายตอไป
• 10:20 - twenty past ten (สิบโมงยี่สิบนาที)
• 7:17 - seventeen past seven (เจ็ดโมงสิบเจ็ดนาที)
• 6:51 - nine to seven (อีกเกานาทีจะเจ็ดโมง)
• 9:59 - one to ten (อีกหนึ่งนาทีจะสิบโมง)
• 3:35 - twenty-five to four (อีกยี่สิบหานาทีจะสี่โมง
หรือตีสี่)

10. คําอธิบาย
• กอนอื่น ใหนึกถึงภาพ หรือดูนาฬิกาที่มีหนาปทม มีตัวเลขหรือ
เครื่องหมาย บอกเวลา 1 ถึง 12
• แบงนาฬิกาออกเปนสองสวน สวนแรกคือนาทีที่ 1-30 และสวนที่
สองคือนาทีที่ 31-59
• ใหใช คําวา past สําหรับสวนแรก และ คําวา to สําหรับสวนหลัง

11. คําอธิบาย (ตอ)
• กลับไปดูตัวอยางแรกอีกครั้ง - 10:20 - twenty past ten
(สิบโมงยี่สิบนาที) จะเห็นวา ใชคําวา past เพื่อบอกวา ผานเวลาสิบ
นาฬิกาตรงไปแลวยีสิบนาทีนั่นเอง
• สําหรับการใชคําวา to ขอใชตัวอยางสุดทาย - 3:35 - twenty-
five to four (อีกยี่สิบหานาทีจะสี่โมง หรือตีสี่) จะเห็นวา ใชคํา
วา to เพื่อบอกวา อีกกี่นาทีจะถึงเวลาชั่วโมงถัดไป

12. ขอสังเกต
• อาจเติมคําวา minutes หลังตัวเลขบอกจํานวนนาทีดวย
ก็ได เชน twenty minutes past ten และ
twenty-five minutes to four

13. การใชคําวา a quarter
• ถาผานไป 15 นาที ใหใชคําวา a quarter ซึ่งหมายถึง หนึ่งในสี่
(ของจํานวนหกสิบนาทีในหนึ่งชั่วโมงนั่นเอง) เชน
7:15 - a quarter past seven (เจ็ดโมงหรือหนึ่งทุมสิบหา
นาที)
• ถาอีก 15 นาทีจะถึงชั่วโมงถัดไป ใหใชคําวา a quarter
เชนเดียวกัน เชน
10:45 - a quarter to eleven (อีกสิบหานาทีจะสิบเอ็ดโมง
หรือหาทุม)

14. การใชคําวา half
• ถาผานไป 30 นาที ใหใชคําวา half past ซึ่งหมายถึง ครึ่งหนึ่ง
(ของจํานวนหกสิบนาทีในหนึ่งชั่วโมงนั่นเอง) เชน
2:30 - half past two (บายสองโมงครึ่งหรือตีสองครึ่ง) (แต
แนนอน ถาใชวิธีแรกก็บอกงายๆ วา two-thirty ไดเชนกัน)

15. การใชคําวา o’clock
เราจะใชคําวา o'clock เมื่อเปนเวลา ....นาฬิกาตรง (ไมมีนาที)
เชน
• 10:00 - ten o'clock - สิบนาฬิกา
• 6:00 – six o'clock - หกนาฬิกา
• 8:00 – eight o'clock – แปดนาฬิกา
หรือจะใชตัวเลขกับคําวา o’clock เชน 9 o'clock ก็ได
เชนกัน

16. การบอกเวลา 12:00
• เมื่อตัวเลขหนาปทมบอกเวลา 12.00
• ถาเปนเวลาเที่ยงวัน ใหใชคําวา
twelve o’clock หมายถึงสิบสองนาฬิกา หรือ
midday หรือ noon คือเที่ยงวัน
• หากเปนกลางคืน ใหใช midnight หมายถึงเที่ยงคืน

17. การถามเวลา
การถามเวลา “ตอนนี้กี่โมงแลว”
สามารถใชสองคําถามตอไปนี้ไดคือ
• What time is it? หรือ
• What is the time?

18. การถามเวลาที่เหตุการณที่เฉพาะเจาะจงหนึ่งใดจะเกิดขึ้น
ใหใช What time...? หรือ When...?
เชน
• What time does the next flight to Chiang
Mai leave? (เที่ยวบินไปเชียงใหมเที่ยวถัดไปออกกี่โมง)
• When does the concert begin?
• (คอนเสิรตจะเริ่มเมื่อไหร)

19. การตอบคําถามเรื่องเวลา “ตอนนี้กี่โมงแลว”
• ถาตองการประโยคที่สมบูรณ ใหใช It is หรือ It's ในการตอบ
คําถาม เชน
• It is half past two (2:30).
(บายสองโมงครึ่งหรือตีสองครึ่ง)
• It's ten to eight (7:50).
(อีกสิบนาทีจะแปดโมงเชาหรือสองทุม)

20. การตอบคําถาม
เรื่องเวลาที่เหตุการณที่เฉพาะเจาะจงหนึ่งใดจะเกิดขึ้น
• ใหใชคําวา at + เวลา เชน
• The flight arrives at midday (12:00).
เที่ยวบินจะมาถึงตอนเที่ยงวัน
• The train leaves at a quarter to six (5:45).
รถไฟจะออกตอนอีกสิบหานาทีจะหกโมงเชาหรือหกโมงเย็น

21. การตอบคําถาม
เรื่องเวลาที่เหตุการณที่เฉพาะเจาะจงหนึ่งใดจะเกิดขึ้น (ตอ)
• The concert begins at eight o'clock. (8:00)
คอนเสิรตจะเริ่มเวลาสองทุม
• หรือจะใชสรรพนาม ‘it’ แทนคําวา the flight, the train
หรือ the concert ก็ได

22. a.m. VS p.m.
• โดยทั่วไปแลว ในภาษาอังกฤษ มักไมคอยใชรอบเวลา 24 ชั่วโมงใน
แตละวัน
• แตจะแบงออกเปนชวงเชานับตั้งแตเที่ยงคืนเปนตนไป โดยใช ตัวยอวา
a.m.

23. a.m. VS p.m. (ตอ)
• และชวงบายตั้งแตหลังเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน โดยใช ตัวยอวา
p.m.
เชน ถาเขียนวา
• 4 a.m. หมายถึง เวลาสี่นาฬิกา หรือตีสี่นั่นเอง
• 4 p.m. หมายถึง เวลาสิบหกนาฬิกา หรือบายสี่โมงเย็นนั่นเอง

24. หมายเหตุ:
• การใชอักษรตัวเล็ก และมีจุดตามตัวอยาง (a.m. และ p.m.) ที่ให
ไวนี้นาจะเปนที่นิยมเปนสวนใหญ
• แตคูมืออางอิงตางๆ เรื่องสไตลการเขียนอาจเห็นแตกตางไป เชน ใหใช
อักษรตัวใหญบาง บางแหง อาจใหเขียนอักษรติดกันไปเลย โดยไมมีจุด
• จึงยากที่จะบอกวาแบบไหน “ถูกตอง” ที่สุด ที่สําคัญ ตองเขาใจ
ความหมายวาเปนเวลาชวงใด หลังเที่ยงคืน กอนเที่ยงวัน หรือหลังเที่ยง
วัน กอนเที่ยงคืน