SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Present Continuous Tense (Tense ปัจจุบันกำลังทำ) 
Present เพร๊เซินท= ปัจจุบัน 
Continuous คอนทินิวอัส = ต่อเนื่อง 
Present Continuous Tense มีชื่อเรียกอีกอยา่งหนึ่งคือ Present Progressive Tense 
โครงสร้ำง Subject + is,am,are + Verbเติม ing 
I am eating 
He, She, It, A cat is eating 
You, We, They, Cats are eating 
หลักกำรใช้ 
 การยอ่รูปกริยา คลิกศึกษำเรื่อง is am are 
1. ใช้กล่ำวเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้นขณะทพีู่ดอยู่ หรือในระหว่ำงอำทิตย์นั้น เดือนนั้นก็ได้ 
ซึ่งอำจจะมีคำเหล่ำนี้อยู่ด้วยก็ได้ 
now / right now ตอนนี้ 
at the moment ตอนนี้ 
หลักการแปล ให้แปลรวบ is am are กบักริยาที่เติม ing วา่ ” กำลัง….” 
 I am studying hard, John. จอห์น ฉันกา ลังเรียนหนักนะ (ไมใ่ชข่ณะนี้ แตเ่ป็นพักนี้) 
 Most students are using mobile phones. นักเรียนส่วนใหญก่า ลัง(นิยม)ใช้โทรศัพท์มือถือ (ไมใ่ชข่ณะนี้ 
แตเ่ป็นปัจจุบันนี้) 
 He is driving a car. เขากำลังขับรถ 
 She‘s eating an apple. หลอ่นกำลังกินแอปเปิ้ล 
 It is raining at the moment. มนักำลังฝนตกขณะนี้ (ฝนกา ลังตก) 
 A cat is sleeping in the room. แมวกำลังนอนหลับในห้อง 
 You are sitting on my book. คุณกำลังนั่งบนหนังสือของฉัน 
 We are running right now. พวกเรากำลังวิ่งขณะนี้ 
 They are going to school. พวกเขากำลังไปโรงเรียน 
2. ใช้กล่ำวถึงเหตุกำรณ์ทกี่ำลังจะเกิดขึ้นในอนำคต (แน่ๆ) และมักจะมีคำทบี่่งบอกอนำคตกำกับอยู่ด้วย 
this evening เย็น tonight คืนนี้ 
tomorrow พรุ่งนี้ this weekend สุดสัปดาห์นี้ 
next week สัปดาห์หน้า next month เดือนหน้า
หลักการแปล ให้แปลรวบ is am are กบักริยาที่เติม ing วา่ ” กำลังจะ….” หรือจะแปลวา่ ” จะ” ก็ได้ 
 I’m studying English this weekend. ผมกำลังจะเรียนภาษาอังกฤษสุดสัปดาห์นี้ (เรียนแน่เพราะจา่ยเงินแล้ว) 
 She is going to the market tomorrow. หลอ่นกำลังจะไปตลาดวนัพรุ่งนี้ (ของหมด ต้องไปซื้อ) 
 He‘s coming to my house for lunch this Friday. เขากำลังจะมำบ้านผมเพื่อ(กิน)อาหารเที่ยงในวนัศุกร์นี้ 
 We‘re moving to New York next year. พวกเรากำลังจะย้ำยไปนิวยอร์คปีหน้า 
 They are seeing the doctor next month. พวกเขากำลังจะพบหมอเดือนหน้า (ไมไ่ด้แปลวา่เห็นนะครับ) 
Time Line เส้นเวลำ 
หลังจากที่ได้อา่นหลักการใช้แล้ว ทีนี้มาดูไทม์ไลน์กนัวา่จะเป็นจริงอยา่งที่บอกไวห้รือไหม่ทีบอกวา่ tense 
นี้ใช้บอกกล่ำวเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้น 
 สีดา คือ อดีตที่หมองหมน่ 
 สีส้มคือปัจจุบันที่สดใส 
 สีชมพู คือ อนาคตที่เรืองรองผอ่งอา ไพ 
 ลูกศรสีขาวไซร้คือเหตุการณ์ (ณ ตอนนี้) 
 เส้นประหมายถึงระยะเวลาสั้นๆ (สาหรับ Continuous Tense) 
 เส้นประสีขาวคือชว่งระยะเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว 
 เส้นประสีเหลืองคือชว่งระยะเวลาที่เหตุการณ์ที่ยังดา เนินต่อไป 
ให้สังเกตุที่ลูกศรนะครับ มันคือเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้นขณะนั้น มีตัวเดียวนะครับ 
นั่นหมายความวา่เป็นเหตุการที่เรากา ลังพบเจออยู่ส่วนเส้นประสีเหลืองนั้นหมายถึงระยะเวลาของเหตุการณ์ 
A girl is running now. ขณะนี้เด็กคนหนึ่งกา ลังวิ่ง 
ถ้าดูจากเส้นเวลาแล้วสามารถเดาได้วา่ วิ่งมาพักหนึ่งแล้ว (ประสีขาว) ตอนนี้กา ลังวิ่งอยู่(ลูกศรสีขาว) 
และน่าจะวิ่งตอ่อีกสักพักคงอยุดแน่นอน (ประสีเหลือง) 
ระยะเวลำของเหตุกำรณ์ใน Present Continuous Tense นานแคไ่หน 
ตรงนี้ขอให้นักเรียนทา ความเข้าใจวา่มนัเป็น ระยะเวลำสั้นๆของเหตุกำรณ์ อาจจะสักสิบนาที 
ยี่สิบนาทีหรือสามสิบนาที เพราะถ้าจะพูดถึงเหตุการที่เกิดขึ้นนานๆ ตั้งแตเ่ป็นชั่วโมงขึ้นไปเนี่ย
จะใช้ perfect กบั perfect continuous แทน เพราะสอง tense ดังกลา่วจะมีการระบุเวลาด้วยวา่กี่ชั่วโมง 
กวี่นั กเี่ดือน หรือกปีี่เป็นต้น 
Continuous Tense ไมว่า่จะเป็น Past Continuous Tense (อดีต) Present Continuous Tense (ปัจจุบัน )หรือ 
Future Continuous Tense (อนาคต) ก็ดี หมายถึงเหตการณ์ที่เกิดไมน่านเทา่ไหร่ ขอให้จา ตรงนี้เอาไวน้ะครับ 
เผื่อเจอ Continuous Tense อีกสองตัวที่เหลือจะได้เข้าใจง่ายขึ้น 
สรุปวา่ถ้านักเรียนต้องการสื่อเรื่องราวอะไรสักอยา่ง ที่เป็น “เหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น” 
ให้ใช้โครงสร้ำง 
ประธำน + is am are + กริยำช่องที่1 เติม ing (สู้ๆ) 
หลักกำรเติม ing ทที่้ำยคำกริยำใน Present Continuous Tense มีหลักกำรสำคัญๆดังนี้ 
โดยปกติแล้ว กริยาทั่วๆไป เติม ing ได้เลย ยกเวน้บางคา เทา่นั้น 
 sleep >> sleeping นอนหลับ 
 eat >> eating กิน 
 drink >> drinking ดื่ม 
 go >> going ไป 
 fly >> flying บิน 
1. กริยาที่มีสระเสียงสั้นตัวเดียว (เสียง อะ อิ อุ โอะ เอาะ เป็นต้น) ตัวสะกดตัวเดียว 
ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ing 
 sit >> sitting นั่ง 
 run >> running วิ่ง 
 swim >> swimming วา่ยน้า 
 cut >> cutting ตัด 
 get >> getting ได้รับ 
 put >> putting วาง 
 stop >> stopping หยุด 
2. กริยาที่ลงท้ำยด้วย e ให้ตัด e ทิ้ง แล้วเติม ing 
 ride >> riding ขี่ 
 drive >> driving ขับ 
 give >> giving ให้ 
 come >> coming มา 
 make >> making ทา 
 take >> taking เอา 
 write >> writing เขียน
 dance >> dancing เต้นรา 
 ยกเวน้ลงท้ายด้วย ee ห้ามตัด เชน่ see >> seeing 
3. กริยาที่ลงท้ำยด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing 
 die >> dying ตาย 
 lie >> lying นอน 
 tie >> tying มดั 
4. (สาหรับคนที่เกง่ขึ้นมาหน่อย) กริยาที่มีสองพยางค์ขึ้นไป ถ้า stress 
พยางค์หลัง ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ing แตถ่้า stress พยางค์หน้า ไมต่้องเติมตัวสะกด 
stress พยำงค์หน้ำ 
 visit >> visiting 
 deliver >> delivering 
Stress พยำงค์หลัง 
 admit >> admitting 
 refer >> referring 
ประโยคบอกเล่ำ 
 ประโยคบอกเลา่จะเป็นโครงสร้างธรรมดา คือ ประธาน + is, am, are + กริยา เติม ing 
โครงสร้ำง 
I am singing 
He, She, It, A cat is singing 
You, We, They, Cats are singing 
I am singing. ผมกา ลังร้องเพลง 
He is swimming. เขากา ลังวา่ยน้า 
She is riding a bike. หลอ่นกา ลังขี่จักรยาน 
It is raining. มนักา ลังฝนตก 
A cat is eating a fish. แมวกา ลังกินปลา 
You are listening to the radio. คุณกา ลังฟังวิทยุ 
We are watching TV. พวกเรากา ลังดูทีวี 
They are cutting trees. พวกเขากา ลังตัดต้นไม้ 
Cats are drinking water. แมวกา ลังดื่มน้า
ประโยคบอกปฏิเสธ 
 โครงสร้างปฏิเสธคล้ายประโยคบอกเลา่ เพียงแคเ่อาคา วา่ not มาวางหลัง is, am, are 
I am not singing 
He, She, It, A cat is not singing 
You, We, They, Cats are not singing 
I’m not singing. ผมไมไ่ด้กา ลังร้องเพลง 
He isn’t swimming. เขาไมไ่ด้กา ลังวา่ยน้า 
She is not riding a bike. หลอ่นไมไ่ด้กา ลังขี่จักรยาน 
It’s not raining. มนัไมไ่ด้กา ลังฝนตก 
A cat is not eating a fish. แมวไมไ่ด้กา ลังกินปลา 
You are not listening to the radio. คุณไมไ่ด้กา ลังฟังวิทยุ 
We aren’t watching TV. พวกเราไมไ่ด้กา ลังดูทีวี 
They’re not cutting trees. พวกเขาไมไ่ด้กา ลังตัดต้นไม้ 
Cats are not drinking water. แมวไมไ่ด้กา ลังดื่มน้า 
ประโยคคำถำม Yes / No Question 
การทา ประโยคคา ถามง่ายๆเอง เพียงแคเ่อาคา วา่ Is, Am, Are 
มาวางไวห้น้าประโยคแคน่ั้นเองและอยา่ลืมเติมเครื่องหมายคาถามท้ายประโยคด้วย นะครับ 
ประโยคคำถำมแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถำมในรูปแบบบอกเล่ำ และถำมรูปแบบปฏิเสธ 
1. กำรถำมในรูปแบบบอกเล่ำ 
Am I singing 
Is he, she, it, a cat singing 
Are you, we, they, cats singing 
 Am I singing? ผมกา ลังร้องเพลงใชไ่หม 
Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Is he swimming? เขากา ลังวา่ยน้าใชไ่หม 
Yes, he is. / No, he isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Is she riding a bike? หลอ่นกา ลังขี่จักรยานใชไ่หม 
Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
 Is it raining? มนักา ลังฝนตกใชไ่หม 
Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่
 Is a cat eating a fish? แมวกา ลังกินปลาใชไ่หม 
Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Are you listening to the radio? คุณกา ลังฟังวิทยุใชไ่หม 
Yes, I am. / No, I’m not. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Are we watching TV? พวกเรากา ลังดูทีวีใชไ่หม 
Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Are they cutting trees? พวกเขากา ลังตัดต้นไมใ้ชไ่หม 
Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใช่ 
 Are cats drinking water? แมวกา ลังดื่มน้าใชไ่หม 
Yes, cats are./ No, cats aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
2. กำรถำมในรูปแบบปฏิเสธ 
การถามในรูปปฏิเสธแบง่ออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบยอ่ 
 รูปแบบเต็ม 
Am I not singing 
Is he, she, it, a cat not singing 
Are you, we, they, cats not singing 
 รูปแบบยอ่ 
Am I not singing 
Isn’t he, she, it, a cat 
singing 
Aren’t you, we, they, cats 
singing 
 Am I not singing? ผมไมไ่ด้กา ลังร้องเพลงใชไ่หม 
Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Isn’t he swimming? เขาไมไ่ด้กา ลังวา่ยน้าใชไ่หม 
Yes, he is. / No, he isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Is she not riding a bike? หลอ่นไมไ่ด้กา ลังขี่จักรยานใชไ่หม 
Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
 Isn’t it raining? มนัไมไ่ด้กา ลังฝนตกใชไ่หม 
Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่
 Is a cat not eating a fish? แมวไมไ่ด้กา ลังกินปลาใชไ่หม 
Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Are you not listening to the radio? คุณไมไ่ด้กา ลังฟังวิทยุใชไ่หม 
Yes, I am. / No, I’m not. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Aren’t we watching TV? พวกเราไมไ่ด้กา ลังดูทีวีใชไ่หม 
Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่ 
 Are they not cutting trees? พวกเขาไมไ่ด้กา ลังตัดต้นไมใ้ชไ่หม 
Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใช่ 
 Aren’t cats drinking water? แมวไมไ่ด้กา ลังดื่มน้าใชไ่หม 
Yes, cats are./ No, cats aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 
ประโยคคำถำม Wh- Question 
ให้เอาคา เหลา่นี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นาหน้าประโยค ตามด้วย is, am, are 
Who is sitting on my chair? ใครกา ลังนั่งอยูบ่นเกา้อี้ของฉัน 
Jane is. เจน 
What am I eating? ฉันกา ลังกินอะไร 
You is eating rice. คุณกา ลังกินข้าว 
Where is she sleeping? หลอ่นกา ลังนอนที่ไหน 
She’s sleeping in the bedroom. หลอ่นกา ลังนอนในห้องนอน 
When are they going to London. พวกเขากา ลังจะไปลอนดอนเมอื่ไหร่ 
They are going to London next month. พวกเขากา ลังจะไปลอนดอนเดือนหน้า 
Why is that boy crying? เด็กชายคนนั้นร้องไห้ทา ไม 
He wants a toy. เขาอยากได้ของเลน่ 
How fast are you running? คุณกา ลังวิ่งเร็วแคไ่หน 
About 30 miles per hour. ประมาณ 30 ไมล์ตอ่ชั่วโมง

More Related Content

What's hot

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2Kruphat SriSuk
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดpitukpong
 
การใช้ Will และ shall
การใช้  Will และ shallการใช้  Will และ shall
การใช้ Will และ shallPam1993
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tbl
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tblแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tbl
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ TblWanida Keawprompakdee
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพProud N. Boonrak
 
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน Utai Sukviwatsirikul
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓Mameaw Mameaw
 
แผน Some และany
แผน Some และanyแผน Some และany
แผน Some และanynumnim1234
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยLilrat Witsawachatkun
 
การใช้ Present continuous tense
การใช้ Present continuous tenseการใช้ Present continuous tense
การใช้ Present continuous tenseพัน พัน
 
บทที่ 5 pronous and possessives
บทที่ 5 pronous and possessivesบทที่ 5 pronous and possessives
บทที่ 5 pronous and possessivesKruthai Kidsdee
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำLadawan Munchit
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านWanida Keawprompakdee
 

What's hot (20)

Future simple tense
Future simple tenseFuture simple tense
Future simple tense
 
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
 
Tense12
Tense12Tense12
Tense12
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมด
 
การใช้ Will และ shall
การใช้  Will และ shallการใช้  Will และ shall
การใช้ Will และ shall
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tbl
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tblแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tbl
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Tbl
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชีพ
 
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน
คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สู่ประชาคมอาเซียน
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
 
แผน Some และany
แผน Some และanyแผน Some และany
แผน Some และany
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทย
 
Subject & object pronoun
Subject & object pronounSubject & object pronoun
Subject & object pronoun
 
คำบุพบท
คำบุพบทคำบุพบท
คำบุพบท
 
คำนาม
คำนามคำนาม
คำนาม
 
การใช้ Present continuous tense
การใช้ Present continuous tenseการใช้ Present continuous tense
การใช้ Present continuous tense
 
็How much is it?
็How much is it?็How much is it?
็How much is it?
 
บทที่ 5 pronous and possessives
บทที่ 5 pronous and possessivesบทที่ 5 pronous and possessives
บทที่ 5 pronous and possessives
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำ
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
 
Verb to_..
Verb  to_..Verb  to_..
Verb to_..
 

Viewers also liked

Viewers also liked (7)

Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Gram
GramGram
Gram
 
โครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseโครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tense
 
การใช้ While as
การใช้ While asการใช้ While as
การใช้ While as
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Grammar
GrammarGrammar
Grammar
 
Past simple - past continuous
Past simple - past continuousPast simple - past continuous
Past simple - past continuous
 

Similar to Present continuous tense

Similar to Present continuous tense (10)

Present simple tense [compatibility mode]
Present simple tense [compatibility mode]Present simple tense [compatibility mode]
Present simple tense [compatibility mode]
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
กริยาช่วย
กริยาช่วยกริยาช่วย
กริยาช่วย
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present Simple Tense
Present  Simple  TensePresent  Simple  Tense
Present Simple Tense
 
เพลงคณิตศาสตร์
เพลงคณิตศาสตร์เพลงคณิตศาสตร์
เพลงคณิตศาสตร์
 

Present continuous tense

  • 1. Present Continuous Tense (Tense ปัจจุบันกำลังทำ) Present เพร๊เซินท= ปัจจุบัน Continuous คอนทินิวอัส = ต่อเนื่อง Present Continuous Tense มีชื่อเรียกอีกอยา่งหนึ่งคือ Present Progressive Tense โครงสร้ำง Subject + is,am,are + Verbเติม ing I am eating He, She, It, A cat is eating You, We, They, Cats are eating หลักกำรใช้  การยอ่รูปกริยา คลิกศึกษำเรื่อง is am are 1. ใช้กล่ำวเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้นขณะทพีู่ดอยู่ หรือในระหว่ำงอำทิตย์นั้น เดือนนั้นก็ได้ ซึ่งอำจจะมีคำเหล่ำนี้อยู่ด้วยก็ได้ now / right now ตอนนี้ at the moment ตอนนี้ หลักการแปล ให้แปลรวบ is am are กบักริยาที่เติม ing วา่ ” กำลัง….”  I am studying hard, John. จอห์น ฉันกา ลังเรียนหนักนะ (ไมใ่ชข่ณะนี้ แตเ่ป็นพักนี้)  Most students are using mobile phones. นักเรียนส่วนใหญก่า ลัง(นิยม)ใช้โทรศัพท์มือถือ (ไมใ่ชข่ณะนี้ แตเ่ป็นปัจจุบันนี้)  He is driving a car. เขากำลังขับรถ  She‘s eating an apple. หลอ่นกำลังกินแอปเปิ้ล  It is raining at the moment. มนักำลังฝนตกขณะนี้ (ฝนกา ลังตก)  A cat is sleeping in the room. แมวกำลังนอนหลับในห้อง  You are sitting on my book. คุณกำลังนั่งบนหนังสือของฉัน  We are running right now. พวกเรากำลังวิ่งขณะนี้  They are going to school. พวกเขากำลังไปโรงเรียน 2. ใช้กล่ำวถึงเหตุกำรณ์ทกี่ำลังจะเกิดขึ้นในอนำคต (แน่ๆ) และมักจะมีคำทบี่่งบอกอนำคตกำกับอยู่ด้วย this evening เย็น tonight คืนนี้ tomorrow พรุ่งนี้ this weekend สุดสัปดาห์นี้ next week สัปดาห์หน้า next month เดือนหน้า
  • 2. หลักการแปล ให้แปลรวบ is am are กบักริยาที่เติม ing วา่ ” กำลังจะ….” หรือจะแปลวา่ ” จะ” ก็ได้  I’m studying English this weekend. ผมกำลังจะเรียนภาษาอังกฤษสุดสัปดาห์นี้ (เรียนแน่เพราะจา่ยเงินแล้ว)  She is going to the market tomorrow. หลอ่นกำลังจะไปตลาดวนัพรุ่งนี้ (ของหมด ต้องไปซื้อ)  He‘s coming to my house for lunch this Friday. เขากำลังจะมำบ้านผมเพื่อ(กิน)อาหารเที่ยงในวนัศุกร์นี้  We‘re moving to New York next year. พวกเรากำลังจะย้ำยไปนิวยอร์คปีหน้า  They are seeing the doctor next month. พวกเขากำลังจะพบหมอเดือนหน้า (ไมไ่ด้แปลวา่เห็นนะครับ) Time Line เส้นเวลำ หลังจากที่ได้อา่นหลักการใช้แล้ว ทีนี้มาดูไทม์ไลน์กนัวา่จะเป็นจริงอยา่งที่บอกไวห้รือไหม่ทีบอกวา่ tense นี้ใช้บอกกล่ำวเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้น  สีดา คือ อดีตที่หมองหมน่  สีส้มคือปัจจุบันที่สดใส  สีชมพู คือ อนาคตที่เรืองรองผอ่งอา ไพ  ลูกศรสีขาวไซร้คือเหตุการณ์ (ณ ตอนนี้)  เส้นประหมายถึงระยะเวลาสั้นๆ (สาหรับ Continuous Tense)  เส้นประสีขาวคือชว่งระยะเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว  เส้นประสีเหลืองคือชว่งระยะเวลาที่เหตุการณ์ที่ยังดา เนินต่อไป ให้สังเกตุที่ลูกศรนะครับ มันคือเหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้นขณะนั้น มีตัวเดียวนะครับ นั่นหมายความวา่เป็นเหตุการที่เรากา ลังพบเจออยู่ส่วนเส้นประสีเหลืองนั้นหมายถึงระยะเวลาของเหตุการณ์ A girl is running now. ขณะนี้เด็กคนหนึ่งกา ลังวิ่ง ถ้าดูจากเส้นเวลาแล้วสามารถเดาได้วา่ วิ่งมาพักหนึ่งแล้ว (ประสีขาว) ตอนนี้กา ลังวิ่งอยู่(ลูกศรสีขาว) และน่าจะวิ่งตอ่อีกสักพักคงอยุดแน่นอน (ประสีเหลือง) ระยะเวลำของเหตุกำรณ์ใน Present Continuous Tense นานแคไ่หน ตรงนี้ขอให้นักเรียนทา ความเข้าใจวา่มนัเป็น ระยะเวลำสั้นๆของเหตุกำรณ์ อาจจะสักสิบนาที ยี่สิบนาทีหรือสามสิบนาที เพราะถ้าจะพูดถึงเหตุการที่เกิดขึ้นนานๆ ตั้งแตเ่ป็นชั่วโมงขึ้นไปเนี่ย
  • 3. จะใช้ perfect กบั perfect continuous แทน เพราะสอง tense ดังกลา่วจะมีการระบุเวลาด้วยวา่กี่ชั่วโมง กวี่นั กเี่ดือน หรือกปีี่เป็นต้น Continuous Tense ไมว่า่จะเป็น Past Continuous Tense (อดีต) Present Continuous Tense (ปัจจุบัน )หรือ Future Continuous Tense (อนาคต) ก็ดี หมายถึงเหตการณ์ที่เกิดไมน่านเทา่ไหร่ ขอให้จา ตรงนี้เอาไวน้ะครับ เผื่อเจอ Continuous Tense อีกสองตัวที่เหลือจะได้เข้าใจง่ายขึ้น สรุปวา่ถ้านักเรียนต้องการสื่อเรื่องราวอะไรสักอยา่ง ที่เป็น “เหตุกำรณ์ทกี่ำลังเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น” ให้ใช้โครงสร้ำง ประธำน + is am are + กริยำช่องที่1 เติม ing (สู้ๆ) หลักกำรเติม ing ทที่้ำยคำกริยำใน Present Continuous Tense มีหลักกำรสำคัญๆดังนี้ โดยปกติแล้ว กริยาทั่วๆไป เติม ing ได้เลย ยกเวน้บางคา เทา่นั้น  sleep >> sleeping นอนหลับ  eat >> eating กิน  drink >> drinking ดื่ม  go >> going ไป  fly >> flying บิน 1. กริยาที่มีสระเสียงสั้นตัวเดียว (เสียง อะ อิ อุ โอะ เอาะ เป็นต้น) ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ing  sit >> sitting นั่ง  run >> running วิ่ง  swim >> swimming วา่ยน้า  cut >> cutting ตัด  get >> getting ได้รับ  put >> putting วาง  stop >> stopping หยุด 2. กริยาที่ลงท้ำยด้วย e ให้ตัด e ทิ้ง แล้วเติม ing  ride >> riding ขี่  drive >> driving ขับ  give >> giving ให้  come >> coming มา  make >> making ทา  take >> taking เอา  write >> writing เขียน
  • 4.  dance >> dancing เต้นรา  ยกเวน้ลงท้ายด้วย ee ห้ามตัด เชน่ see >> seeing 3. กริยาที่ลงท้ำยด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing  die >> dying ตาย  lie >> lying นอน  tie >> tying มดั 4. (สาหรับคนที่เกง่ขึ้นมาหน่อย) กริยาที่มีสองพยางค์ขึ้นไป ถ้า stress พยางค์หลัง ให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ing แตถ่้า stress พยางค์หน้า ไมต่้องเติมตัวสะกด stress พยำงค์หน้ำ  visit >> visiting  deliver >> delivering Stress พยำงค์หลัง  admit >> admitting  refer >> referring ประโยคบอกเล่ำ  ประโยคบอกเลา่จะเป็นโครงสร้างธรรมดา คือ ประธาน + is, am, are + กริยา เติม ing โครงสร้ำง I am singing He, She, It, A cat is singing You, We, They, Cats are singing I am singing. ผมกา ลังร้องเพลง He is swimming. เขากา ลังวา่ยน้า She is riding a bike. หลอ่นกา ลังขี่จักรยาน It is raining. มนักา ลังฝนตก A cat is eating a fish. แมวกา ลังกินปลา You are listening to the radio. คุณกา ลังฟังวิทยุ We are watching TV. พวกเรากา ลังดูทีวี They are cutting trees. พวกเขากา ลังตัดต้นไม้ Cats are drinking water. แมวกา ลังดื่มน้า
  • 5. ประโยคบอกปฏิเสธ  โครงสร้างปฏิเสธคล้ายประโยคบอกเลา่ เพียงแคเ่อาคา วา่ not มาวางหลัง is, am, are I am not singing He, She, It, A cat is not singing You, We, They, Cats are not singing I’m not singing. ผมไมไ่ด้กา ลังร้องเพลง He isn’t swimming. เขาไมไ่ด้กา ลังวา่ยน้า She is not riding a bike. หลอ่นไมไ่ด้กา ลังขี่จักรยาน It’s not raining. มนัไมไ่ด้กา ลังฝนตก A cat is not eating a fish. แมวไมไ่ด้กา ลังกินปลา You are not listening to the radio. คุณไมไ่ด้กา ลังฟังวิทยุ We aren’t watching TV. พวกเราไมไ่ด้กา ลังดูทีวี They’re not cutting trees. พวกเขาไมไ่ด้กา ลังตัดต้นไม้ Cats are not drinking water. แมวไมไ่ด้กา ลังดื่มน้า ประโยคคำถำม Yes / No Question การทา ประโยคคา ถามง่ายๆเอง เพียงแคเ่อาคา วา่ Is, Am, Are มาวางไวห้น้าประโยคแคน่ั้นเองและอยา่ลืมเติมเครื่องหมายคาถามท้ายประโยคด้วย นะครับ ประโยคคำถำมแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถำมในรูปแบบบอกเล่ำ และถำมรูปแบบปฏิเสธ 1. กำรถำมในรูปแบบบอกเล่ำ Am I singing Is he, she, it, a cat singing Are you, we, they, cats singing  Am I singing? ผมกา ลังร้องเพลงใชไ่หม Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Is he swimming? เขากา ลังวา่ยน้าใชไ่หม Yes, he is. / No, he isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Is she riding a bike? หลอ่นกา ลังขี่จักรยานใชไ่หม Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่/ ไมใ่ช่  Is it raining? มนักา ลังฝนตกใชไ่หม Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่
  • 6.  Is a cat eating a fish? แมวกา ลังกินปลาใชไ่หม Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Are you listening to the radio? คุณกา ลังฟังวิทยุใชไ่หม Yes, I am. / No, I’m not. ใช่ / ไมใ่ช่  Are we watching TV? พวกเรากา ลังดูทีวีใชไ่หม Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Are they cutting trees? พวกเขากา ลังตัดต้นไมใ้ชไ่หม Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใช่  Are cats drinking water? แมวกา ลังดื่มน้าใชไ่หม Yes, cats are./ No, cats aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ 2. กำรถำมในรูปแบบปฏิเสธ การถามในรูปปฏิเสธแบง่ออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบยอ่  รูปแบบเต็ม Am I not singing Is he, she, it, a cat not singing Are you, we, they, cats not singing  รูปแบบยอ่ Am I not singing Isn’t he, she, it, a cat singing Aren’t you, we, they, cats singing  Am I not singing? ผมไมไ่ด้กา ลังร้องเพลงใชไ่หม Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Isn’t he swimming? เขาไมไ่ด้กา ลังวา่ยน้าใชไ่หม Yes, he is. / No, he isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Is she not riding a bike? หลอ่นไมไ่ด้กา ลังขี่จักรยานใชไ่หม Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่/ ไมใ่ช่  Isn’t it raining? มนัไมไ่ด้กา ลังฝนตกใชไ่หม Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่
  • 7.  Is a cat not eating a fish? แมวไมไ่ด้กา ลังกินปลาใชไ่หม Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่ Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Are you not listening to the radio? คุณไมไ่ด้กา ลังฟังวิทยุใชไ่หม Yes, I am. / No, I’m not. ใช่ / ไมใ่ช่  Aren’t we watching TV? พวกเราไมไ่ด้กา ลังดูทีวีใชไ่หม Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใ่ช่  Are they not cutting trees? พวกเขาไมไ่ด้กา ลังตัดต้นไมใ้ชไ่หม Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่ / ไมใช่  Aren’t cats drinking water? แมวไมไ่ด้กา ลังดื่มน้าใชไ่หม Yes, cats are./ No, cats aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่/ ไมใ่ช่ ประโยคคำถำม Wh- Question ให้เอาคา เหลา่นี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นาหน้าประโยค ตามด้วย is, am, are Who is sitting on my chair? ใครกา ลังนั่งอยูบ่นเกา้อี้ของฉัน Jane is. เจน What am I eating? ฉันกา ลังกินอะไร You is eating rice. คุณกา ลังกินข้าว Where is she sleeping? หลอ่นกา ลังนอนที่ไหน She’s sleeping in the bedroom. หลอ่นกา ลังนอนในห้องนอน When are they going to London. พวกเขากา ลังจะไปลอนดอนเมอื่ไหร่ They are going to London next month. พวกเขากา ลังจะไปลอนดอนเดือนหน้า Why is that boy crying? เด็กชายคนนั้นร้องไห้ทา ไม He wants a toy. เขาอยากได้ของเลน่ How fast are you running? คุณกา ลังวิ่งเร็วแคไ่หน About 30 miles per hour. ประมาณ 30 ไมล์ตอ่ชั่วโมง