Waruch Kongkwamsue

1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา33202ง ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร6
ปีการศึกษา2559
ชื่อโครงงานการจัดการกับออฟฟิสซินโดรม
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายวรัชญ์ คงความซื่อเลขที่42 ชั้น 6ม ห้อง.6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2ปีการศึกษา25
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต34

2. ใบงานการจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นายวรัชญ์ คงความซื่อ เลขที่42ชั้น ม.6 ห้อง.6
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การจัดการกับออฟฟิสซินโดรม
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
How to shut down Office syndrome
ประเภทโครงงาน พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายวรัชญ์ คงความซื่อ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบันการทางานในหลายๆวิชาชีพมักจะต้องมีการทางานอยู่กับที่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์
เป็นระยะเวลานาน เช่น พนักงานออฟฟิสเป็นต้น ซึ่งออฟฟิสซินโดรมเกิดจากการที่นั่งเป็นเวลานาน
หรือการนั่งในท่าที่ผิดเป็นเงลานาน ทาให้เกิดอาการยึดเกร็งของกล้ามเนื้อและนามาสู่โรค Office Syndrome ในที่สุด
ซึ่งนักเรียนเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เสี่ยงเป็นโรคนี้เนื่องจากการที่นั่งเรียนติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก
กล้ามเนื้อยังมีความยืดหยุ่นอยู่มากจึงไม่ค่อยพบมากในกลุ่มของเด็กนักเรียน แต่ผมเป็นเด็กที่โชคร้ายที่เคยเป็นโรคนี้
แต่ผมก็สามารถบาบัดด้วยการออกกาลังกายจนอาการดีขึ้นแต่ก็ยังมีอาการปวดในบางครั้ง (ยังมีอาการเรื้อรัง)
ดังนั้นผมจึงมีความสนใจที่จะทาโครงงานในเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

3. วัตถุประสงค์(สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาหาวิธีการป้องกันและบาบัดโรคOffice Syndrome
2.เรียนรู้การจัดการกับOffice Syndrome อย่างถูกต้อง
3.สามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.กลไกการเกิดOffice Syndrome
2.รู้จักOffice Syndrome
3.วิธีการป้องกันOffice Syndrome
4.วิธีรักษาOffice Syndrome
หลักการและทฤษฎี
Office Syndrome
โรคยอดฮิตวัยทางาน เป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยตรงกับพนักงานออฟฟิศด้วยพฤติกรรมส่วนใหญ่ที่ต้องนั่ง
ทางานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับตัว จนทาให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง ก่อให้ กล้ามเนื้ออักเสบได้
จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า “คนวัยทางานร้อยละ 60 มีภาว โรคออฟฟิศซินโดรม”

4. สาเหตุของการเกิดออฟฟิศซินโดรม-Office syndrome
การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทางานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้าๆ
ท่าทางในการทางานที่ไม่เหมาะสม
สภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทางานไม่เหมาะสม
ภาวะเครียดจากงาน การอดอาหาร การพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายต้องแบกรับความตึง
เครียดปราศจากการผ่อนคลาย
การใช้งานกล้ามเนื้องและข้อต่อที่ผิดไปจากภาวะปกติ เกิดจากการทางานในพื้นที่จากัดและขา
เคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ- นั่งไขว่ห้างได้แก่
นั่งหลังงอหลังค่อม
นั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น
ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม
สะพานกระเป๋าหนักข้างเดียว

5. อาการที่พบได้บ่อยในออฟฟิศซินโดรม
กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังMyofascia( pain Syndrome)
เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ/ยกแขนไม่ขึ้นTendinitis)(
อาการปวด/ชาร้าวลงแขน( Nerve tension/C-Spondylosis)
ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม

6. แนวทางการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม–Office syndrome
การปรับเปลี่ยนท่าทางการนั่งที่เหมาะสม อาการเหล่านี้ควรปรับท่าให้ถูกต้อง จากประสบการณ
ตนเอง + ปรึกษานักกายภาพ พบว่า “อาการปวด สาหรับผู้ที่ทางานหน้าคอม หรือ นั่งทางานเป็นเวลานาน”
-ปวดไหล่ เนื่องจากกางศอกเล่นคอม ศอกไม่แนบลาตัว กางศอกจับเมาส์ ไม่ได้วางศอกไว้ข้างลาตัว
-ปวดหลังด้านล่าง เนื่องจากนั่งหลังไม่พิงพนัก ทาให้เราเกร็งกล้ามเนื้อหลังโดยไม่รู้ตัว นั แก้โดย
เปลี่ยนเป็นเก้าอี้ที่มีพนักพิงแผ่นหลังได้จนถึงหัวไหล่หรือหากเก้าอี้ใหญ่เกินไป(ถ้าให้ดีควรถึงคอ) นั่ง พิงพนักไม่ได้
ให้หาหมอนมารองอีกชั้น
-ปวดบ่า เนื่องจากแม้ว่าจะวางศอกไว้ข้างลาตัว แต่ไม่ได้รองศอก ศอกลอยอยู่เหนือที่วางศอก แ หาหมอน
หรือผ้าขนหนูมารองข้อศอก
ปวดคอมาก หันคอไม่ได้ เคี้ยวอาหาร กลืนอาหารก็ปวดเกร็งไปหมดมตัวลงนอนก็ปวดคอมากล้
-นอนไม่หลับ ต้องตื่นกลางดึก ทรมานมากกกก ทางานไม่ได้ เนื่องจากยกศอกเล่นคอม คือ ศอกอยู่แนบลาตั
แต่ที่รองศอกอยู่สูงกว่าระดับศอก หรือวางศอกไว้บนโต๊ะที่สูงกว่าระดับศอกของเรา สังเกตตัวเองหน้า หัวไหล่ข้างที่ยกศอกจะตก
ลู่ลง ไหล่ไม่เท่บอีกข้างหกันกัึึง
-ปวดหลังด้านบน + คอ + บ่า เนื่องจากแม้ว่าเราจะนั่งหลังพิงพนัก แต่ห่อตัวเล่นคอม หรือ โน มองคอม (Notebook)
เนื่องจากจอคอมเล็กเกินไป หรือ จึงต้องก้มตัวไปมองใกล้ๆ
-ปรับเปลี่ยนท่าทาง และ บริหารร่างกายด้วยการหมุนไหล่ไปด้านหลังหากรู้สึกไม่ดีขึ้น อาการปวดยัง เหมือนเดิม
ควรปรึกษาแพทย์ หรือ นักกายภาพบาบัด ฯลฯ นอกจากนี้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อโดยการทา
กายภาพบาบัดก็มีส่วนสาคัญในการปฏิติตัว ควบคู่ไปกับการฝึกพิลาทีส ซึ่งจะช่วยทาให้เกิดการยืดเหยียด
กล้ามเนื้อได้ดีขึ้นร่วมกับการสร้างความแข็งแกร่ง

7. วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-ปรึกษาเลือกหัวข้อ
-นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
-ศึกษารวบรวมข้อมูล
-จัดทารายงาน
-นาเสนอครู
-ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-หนังสือที่เกี่ยวข้อง
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์
งบประมาณ
ไม่มี
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
ที่
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อม
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงง
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน

8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจมากขึ้น
2.สามารถนาไปประยุกต์ใช้กับการเรียนได้จริง
3.สามารถนาความรู้เผยแพร่ให้กับเพื่อนนักเรียนได้
สถานที่ดาเนินการ
1.ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
2.ห้องสมุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.กลุ่มสาระสุขะศึกษา
บรรณานุกรม
https://pilatesbangkok.co/โรคออฟฟิศซินโดรม-office-syndrome/
http://www.stcarlos.com/ออฟฟิศซินโดรม-office-syndrome/
https://www.facebook.com/allplusdrinks/posts/1722519091114169/
https://generali.co.th/wellness-content/office_syndrome/