More Related Content
Similar to ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (20)
ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- 3. องค์ประกอบของระบบสื่อสารข้อมูล
1. ข่าวสาร เป็นข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการส่งเพื่อสื่อสาร ซึ่งจะอยู่ในรูปของ
ข้อความ ตัวเลข รูปภาพ เสียง หรือวีดิทัศน์
2. ผู้ส่ง เป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการส่งข้อมูลข่าวสาร
3. ผู้รับ เป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการรับข้อมูลข่าวสารจากผู้ส่ง
4. สื่อ เป็นสื่อกลางที่ทาหน้าที่ให้ข้อมูลและข่าวสารเดินทางจากผู้ส่งไปยัง
ผู้รับ เช่น ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออพติกหรือ คลื่นไมโครเวฟ คลื่น
ดาวเทียม หรือคลื่นวิทยุ เป็นต้น
5. โพรโทคอลคือ กฎระเบียบ หรือวิธีการใช้เป็นข้อกาหนดสาหรับการ
สื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจกันได้ ซึ่งมีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น
TCP/IP, X.25, SDLC เป็นต้น
- 4. ลักษณะข้อมูลที่ใช้สื่อสารในคอมพิวเตอร์
ข้อความ (Text) ใช้แทนตัวอักขระต่างๆ ซึ่งจะแทนด้วยรหัสต่างๆ เช่น รหัส
แอสกี เป็นต้น
ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่างๆ ซึ่งตัวเลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหัสแอ
สกีแต่จะถูกแปลงเป็นเลขฐานสองโดยตรง
รูปภาพ (Images) ข้อมูลของรูปภาพจะแทนด้วยจุดสีเรียงกันไปตามขนาด
ของรูปภาพ
เสียง (Audio) ข้อมูลเสียงจะแตกต่างจากข้อความ ตัวเลข และรูปภาพ
เพราะข้อมูลเสียงจะเป็นสัญญาณต่อเนื่องกันไป
วิดีโอ (Video) ใช้แสดงภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากการรวมกันของรูปภาพ
หลายรูป
- 6. 2. การสื่อสารข้อมูลสองทิศทางพร้อมกัน
(Full Duplex Transmission)
สามารถส่งข้อมูลในเวลาใดเวลาหนึ่ง ได้ทั้ง2ทิศทาง
ทั้งฝ่ายส่งและฝ่ายรับ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ผู้ส่ง
และผู้รับ สามารถโต้ตอบสวนทางกันได้ในเวลา
เดียวกัน เช่น การส่งสัญญาณโทรศัพท์ สนทนา
msn , facebook
- 7. โพรโทคอล
โพรโทคอลเป็นข้อตกลงร่วมกันเพื่อใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย เสมือนใช้ภาษา
เดียวกันในการสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน โดยมีข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
1. โครงสร้างของข้อมูล (Syntex) ใช้สาหรับการส่งและรับข้อมูล เช่น การกาหนดให้ข้อมูล
ที่ส่งมา 8 บิตแรกนั้น ต้องเป็นเลขข้อมูลที่อยู่ Address ของอุปกรณ์ที่ใช้ส่ง และ 8 บิต
ถัดไปจะต้องเป็นเลขที่อยู่ Addressของเป้ าหมาย และหลังจากนั้นจึงกาหนดให้เป็นบิตที่
เป็นข้อมูลข่าวสารที่ใช้ส่ง
2. การแปลความหมาย (Semantics) เป็นการกาหนดความหมายของข้อมูล ว่าส่วนใดที่
ใช้ระบุเส้นทางในการสื่อสาร และจะเหลือกลุ่มบิตที่จะเป็นข้อมูลที่ต้องการส่งจริง
3. เวลา (Time) เป็นการกาหนดความเร็วในการรับส่งข้อมูลของอุปกรณ์ที่ทางานแตกต่าง
กันให้สามารถทางานและข้อมูลไม่เสียหายขณะรับ-ส่ง เช่น หากอุปกรณ์หนึ่งส่งข้อมูลได้ 100เม
กะบิต/1วินาทีMbps แต่อุปกรณ์ที่รับข้อมูลรับได้เพียง 1เมกะบิต/1วินาทีMbps เท่านั้นซึ่ง
การส่งข้อมูลจะมีจานวนมาก อาจทาให้ข้อมูลที่ส่งมาอาจสูญหายไปได้
- 9. โครงสร้างของเครือข่าย
2. โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว (Star Topology) เป็น
โครงสร้างเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับอุปกรณ์ที่เป็นจุดศูนย์กลาง
ของเครือข่าย โดยการนาสถานีต่างๆมาต่อรวมกัน โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮับ
(Hub) หรือ สวิตช์(Switch) เป็นศูนย์กลางของการติดต่อเชื่อมโยง
ระหว่างสถานีต่างๆ
3. โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส (Bus Topology)เป็นโครงสร้าง
เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยสายเคเบิลยาว
ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
- 10. โครงสร้างของเครือข่าย
4. โครงสร้างแบบเครือข่ายวงแหวน (Ring Topology) เป็น
เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยสายเคเบิลยาวเส้นเดียวในลักษณะวงแหวน
การรับ-ส่งข้อมูลในเครือข่ายวงแหวนจะใช้ในทิศทางเดียว ข้อดีของโครงสร้างนี้คือ
ใช้สายเคเบิลน้อย ถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียออกจากระบบจะไม่ส่งผลต่อการ
ทางานของระบบ และจะไม่มีการชนกันของข้อมูลที่แต่ละเครื่องส่ง
5. โครงสร้างแบบผสม (Hybrid Topology) เป็นโครงสร้างเครือข่าย
ที่ผสมผสานกันทั้งแบบดาว วงแหวน และบัส เช่น องค์กรหรือบริษัทขนาดเล็กที่มี
หลายอาคาร
- 11. ประเภทของระบบเครือข่าย
1.เครือข่ายส่วนบุคคล หรือ แพน (Personal Area Network : PAN) เป็น
เครือข่ายที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย และใช้งานได้ในระยะใกล้ เช่น คอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์เคลื่อนที่
2.เครือข่ายเฉพาะที่ หรือ แลน (Local Area Network : LAN) เป็นเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในท้องถิ่น เช่น ภายในอาคาร หรือ
ภายในองค์กรที่ระยะทางไม่ไกลมากนัก มีอัตราการถูกรบกวนของสัญญาณน้อย สามารถสื่อสาร
ได้ดีกว่าระบบสื่อสารที่กว้างและไกล โดยสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเกิด
ประสิทธิภาพมากที่สุด
3.เครือข่ายนครหลวง หรือ แมน (Metropolitan Area Network :
MAN) เป็นเครือข่ายระดับเมืองที่มีขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายท้องถิ่น อาจเชื่อมต่อกันหลายๆ
แห่งที่อยู่ภายในเมืองเดียวกันหรือหลายเขตเมืองที่อยู่ใกล้กัน เช่น บริการระบบโทรทัศน์ทางสาย
เคเบิล
4.เครือข่ายวงกว้าง หรือ แวน (Wide Area Network : WAN) เป็นเครือข่าย
ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในระยะห่างไกล เช่น เชื่อมโยงเครือข่ายแลนในตาแหน่งต่างๆ ให้
สามารถทางานเป็นเครือข่ายที่ขนาดใหญ่และทางานได้ในระยะที่ไกลมากยิ่งขึ้น
- 12. วิธีการส่งข้อมูลในระบบสื่อสารข้อมูล
1.การส่งข้อมูลแบบอนุกรม (serial transmission) จะ
ใช้วิธีการส่งทีละ 1 บิตในหนึ่งรอบสัญญาณนาฬิกา ทาให้ดูเหมือนว่าบิต
ต่าง ๆ เรียงต่อเนื่องกันไป จากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง ดังรูป
2.การส่งแบบขนาน (parallel transmission) คือการ
ส่งข้อมูลพร้อมกันทีละหลาย ๆ บิตในหนึ่งรอบสัญญาณนาฬิกา โดยการ
ส่งจะรวมบิต 0 และ 1 หลาย ๆ บิตเข้าเป็นกลุ่มจานวน n บิต ผู้ส่งส่งครั้ง
ละ n บิต ผู้รับจะรับครั้งละ n บิตเช่นกัน ซึ่งจะคล้ายกับเวลาที่เราพูดคุย
เราจะพูดเป็นคา ๆ ไม่พูดทีละตัวอักษรกลไกการส่งข้อมูลแบบขนานใช้
หลักการง่าย ๆ เมื่อส่งครั้งละ n บิต ต้องใช้สาย n เส้น แต่ละบิตมีสาย
ของตนเอง ในการส่งแต่ละครั้งทุกเส้นต้องใช้สัญญาณนาฬิกาอันเดียวกัน
ทาให้สามารถส่งออกไปยังอุปกรณ์อื่นพร้อมกันได้
- 15. สื่อกลางนาเข้าข้อมูล
1.3 สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic) การส่ง
ข้อมูลด้วยสายใยแก้วนาแสง ส่งสัญญาณด้วยแสง มี
ความเร็วในการส่งข้อมูลสูง สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็ว
เท่ากับแสง ไม่มีสัญญาณรบกวนจากภายนอก
2. สื่อกลางที่กาหนดเส้นทางไม่ได้
2.1 คลื่นวิทยุ 2.2ดาวเทียม
2.3คลื่นไมโครเวฟ
2.4อินฟราเรด
- 16. อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสาร
ข้อมูลคอมพิวเตอร์
1. โมเด็ม (Modem)ทาหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก
2. การ์ดเชื่อมต่อเครือข่ายหรือแลนการ์ด (NetworkInterface
Card : NIC) การ์ดนี้ช่วยควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล และตรวจสอบข้อผิดพลาดที่
เกิดขึ้น
3. ฮับ(Hub) เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลาง ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์
คอมพิวเตอร์อื่นๆ เข้าด้วยกัน
4. สวิตช์ (Switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณเช่นเดียวกับฮับแต่สวิตช์จะรับ
กลุ่มข้อมูลมาตรวจสอบก่อนว่าเป็นของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครื่องใด จึงจะส่ง
ต่อไปยังเป้ าหมายอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดปัญหาการชนกันของข้อมูล
5. รีพีตเตอร์(Repeater) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนตัวกลาง
นาสัญญณจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง
- 17. อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสาร
ข้อมูลคอมพิวเตอร์
6. บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายแลนเข้าด้วยกัน ทาให้สามารถ
ขยายขอบเขตของเครือข่ายแลนออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ประสิทธิภาพรวมของระบบไม่ลดลง
7. อุปกรณ์จัดเส้นทางหรือเราเตอร์(Router) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย
หลายระบบเข้าด้วยกัน คล้ายกับบริดจ์ แต่มีส่วนการทางานที่ซับซ้อนกว่ามาก
8. เกตเวย์(Gateway) เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถสูงสุดในการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆเข้า
ด้วยกันโดยไม่มีขีดจากัดทั้งระหว่างเครือข่ายต่างระบบ หรือแม้กระทั่งโพรโทคอลที่แตกต่างกัน
9. จุดเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wireless Access Point) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่คล้าย
ฮับของเครือข่ายแบบใช้สาย แต่ใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์แบบไร้สายส่งข้อมูลผ่านคลื่นวิทยุ
ความถี่สูง เช่น คอมพิวเตอร์ เมาส์และคีย์บอร์ด
10. แอร์การ์ด (Aircard)
10.1.แอร์การ์ดแบบยูเอสบี (USB)
10.2.แอร์การ์ดแบบมิฟิ(Mifi: Mobile Wifi)
11. สมาร์ตโฟน(Smart Phone)