More Related Content
Similar to งานคอมท แก_แล_ว
Similar to งานคอมท แก_แล_ว (20)
More from Supisara Jaibaan
More from Supisara Jaibaan (8)
งานคอมท แก_แล_ว
- 1. โครงงานคอมพิวเตอร์
จัดทา โดย
นายอภิชิต ไชยซาววงค์ชัน้มัธยมศึกษาปีที่6/12 เลขที่23
นางสาวจิตรสินี พงษ์สถิตย์ชัน้มัธยมศึกษาปีที่6/12 เลขที่ 30
- 2. ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคมปัจ
จุบันเทคโนโลยีด้านนี้มี
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ
การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สา คัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่อง พิมพ์ดีด เครื่อง
คิดเลข เป็นต้น
4.คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5.คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
- 3. ความสา คัญของการทา โครงงานคอมพิวเตอร์
การทา โครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณคา่ต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมี
ความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น
หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณคา่อื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
·เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
·เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้อง
ตามปกติ
·ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทัง้การสื่อสารระหว่างกัน
·กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบ
อาชีพทางด้านนี้
·ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
·สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทัง้ส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
·สร้างสา นึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
- 5. ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานมีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทา โครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสัน้ๆ เป็นภาค
เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเรมิ่สร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผล
ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดา เนินงานร่วมกันให้บรรลตุามจุดหมายที่กา หนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทัง้การใช้
จ่ายเงินดา เนินงานด้วย
- 6. โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
• โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อ
ความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมี
หลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้
เล่น พร้อมทัง้ให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา การสา รวจและรวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทัว่ไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่
และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
- 8. โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
• โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริง
ในชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์
สา หรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สา หรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสงิ่ของขึ้นใหม่
หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้อง
ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา
สงิ่ของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทา งานหรือทดสอบคุณภาพของสงิ่ประดิษฐ์แล้วปรับ
ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 10. โครงงานประเภท “ การทดลองทฤษฎี”
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จา ลองการทดลองของสาขาตา่งๆ
ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น
โครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
หรือคา อธิบาย พร้อมทัง้การจา ลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะ
เปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียงิ่ขึ้น การทา โครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสา คัญอยู่ที่ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดีตัวอย่างโครงงานจา ลอง
ทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า
และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 11. ตัวอย่างโครงงานประเภท “ การทดลองทฤษฎี”
1.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
7. โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- 12. โครงงานประเภท “พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
• ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบคุคล
หรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียน
อาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่าง
โครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยะจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อ
การชา กงิ่กุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 14. โครงงานประเภท “ พัฒนาเครอื่งมือ ”
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่
จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ชว่ยการมอง
วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาด
รูป พัฒนาขึ้นเพื่ออา นวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย
สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สา หรับช่วยการออกแบบสงิ่ของ อาทิเช่น ผู้ใช้
วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า
และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 15. ตัวอย่างโครงงานประเภท “ พัฒนาเครอื่งมือ ”
1.โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการด้านEQ
2.โครงงานการส่งสัญญาณควบคมุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3. โครงงานโปรแกรมอ่านอักษรไทย
4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
5. โครงงานโปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล อ้างอิง