SlideShare a Scribd company logo
1 of 34
Download to read offline
Pre-test
Choose the best answer.
1. Can you help me? I _____ a post office.
A. am looking for
B. look for
C. am look for
D. looking for
2. Tomorrow the Queen _____ open a new hospital.
A. is going
B. willgoing to
C. is going to
D. willto
3. What _____? I work in a book shop.
A. are you doing
B. do you
C. are you do
D. do you do
4. Where _____ yesterday?
A. you was
B. are you
C. were you
D. did you were
5. _____ John last week?
A. Did you see
B. Did you saw
C. Do you see
D. Have you see
6. Last month he _____ three large fish.
A. catch
B. catched
C. caught
D. did catch
7. When we went in, they _____ to the radio.
A. listened
B. listening
C. were listening
D. were listen
8. I'm a teacher. I _____ a teacher for twelve
years.
A. was
B. have been
C. am
D. am being
9.. She has been there _____ a long time?
A. since
B. for
C. just
D. over
10. When _____ you go there last night.?
A. do
B. does
C. did
D. were
1.1 ความหมายของ Tense
Tense คือ รูปของคำกริยำที่บอกเวลำของกำรกระทำ ในภำษำอังกฤษกำรกระทำที่
เกิดขึ้นในเวลำที่แตกต่ำงกันจะใช้รูปของคำกริยำที่แตกต่ำงกัน เช่น
1. I am playing football now. ( ฉันกำลังเล่นฟุตบอล )
2. I played football yesterday. ( ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวำนนี้ )
ในประโยคที่ 1 รูปของคำกริยำคือ am playing บอกให้รู้ว่ำกำรเล่นฟุตบอล
กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดประโยคนี้ออกมำ
ในประโยคที่ 2 รูปของคำกริยำคือ played บอกให้รู้ว่ำกำรเล่นฟุตบอลเกิดขึ้น
เมื่อวำนนี้
1.2 ชนิดของ Tense
Tense แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
1. Present Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นปัจจุบัน
2. Past Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นอดีต
3. Future Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นอนาคต
แต่ละ Tense ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 Tense ย่อย จึงมี
ทั้งหมด 12 Tense ดังนี้
Present Tense Past Tense Future Tense
1. Present Simple
Tense
1. Past Simple
Tense
1. Future Simple
Tense
2. Present
Progressive Tense
2. Past Progressive
Tense
2. Future
Progressive
Tense
3. Present Perfect
Tense
3. Past Perfect
Tense
3. Future Perfect
Tense
4. Present Perfect
Progressive Tense
4. Past Perfect
Progressive Tense
4. Future Perfect
Progressive
Tense
2.1 ประโยค Present Simple Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + Verb 1 (s )
( ประธาน + กริยาช่องที่ 1 ( s ) )
( เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 หลังคากริยาจะต้องเติม s )
ตัวอย่าง : 1.I go to school by car. (ฉันไปโรงเรียนโดย
รถยนต์)
2. He walks to school. ( เขาเดินไปโรงเรียน )
3. You play football every day. ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวัน )
4. Somsri and Somsak study English every day .(
สมศรีและสมศักดิ์เรียนภาษาอังกฤษทุกวัน )
2.2 ประโยค Present Simple Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องกำรแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีควำมหมำยเชิงปฏิเสธ ทำได้
ด้วยกำรใช้ Verb to do มำช่วย มีหลักกำรใช้ดังนี้
do ใช้กับประธำนพหูพจน์ และ I กับ you
does ใช้กับประธำนเอกพจน์ ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้
โครงสร้าง : Subject + do / does + not + Verb 1
( ประธำน + do / does + not + กริยำช่องที่ 1 )
ตัวอย่ำง : 1. I do not ( don’t ) go to school by car. ( ฉันไม่ไปโรงเรียนโดย
รถยนต์ )
2. He does not ( doesn’t ) walk to school. ( เขำไม่เดินไปโรงเรียน )
3. You do not play football every day. ( คุณไม่เล่นฟุตบอลทุกวัน )
4. Somsri and Somsak do not study English every day .( สมศรี
และสมศักดิ์ไม่เรียนภำษำอังกฤษทุกวัน )
ข้อสังเกต : เมื่อนำ does มำช่วยในประโยคแล้ว ต้องตัด s ออกด้วย
2.3 ประโยค Present Simple Tense เชิงคาถามและการตอบ
เมื่อต้องกำรแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีควำมหมำยเชิงคำถำม ทำ
ได้ด้วยกำรนำ do หรือ does มำวำงไว้หน้ำประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมี
โครงสร้ำงของประโยคดังนี้
โครงสร้าง : Do / Does + Subject + Verb 1 ?
( Do / Does + ประธำน + กริยำช่องที่ 1 )
ตัวอย่ำง : 1. Does he walk to school ? (เขำเดินไปโรงเรียนใช่หรือไม่ )
-Yes, he does. ( ใช่ เขำเดินไปโรงเรียน )
-No, he doesn’t. ( ไม่ใช่ เขำไม่ได้เดินไปโรงเรียน )
2. Do you play football every day ? ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวันใช่หรือไม่ )
-Yes, I do. ( ใช่ ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน )
-No, I don’t. ( ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เล่นฟุตบอลทุกวัน)
2.4 หลักการใช้ Present Simple Tense
ใช้กับเหตุกำรณ์หรือกำรกระทำที่เป็นควำมจริงตลอดไปหรือเป็นควำมจริงตำมธรรมชำติ เช่น
1. The sun rises in the east.( พระอำทิตย์ขึ้นทำงทิศตะวันออก )
2. Fire is hot. ( ไฟร้อน )
2. ใช้กับกำรกระทำที่กระทำอยู่จนเป็นนิสัย มักจะมีกลุ่มคำที่มีควำมหมำยว่ำ เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ อยู่ด้วย
เช่น
I get up at six o’clock every day. ( ฉันตื่นนอนเวลำ 6 นำฬิกำทุกวัน )
He plays football every day. ( เขำเล่นฟุตบอลทุกวัน)
2.5 หลักการเติม s ที่คากริยา
1.กริยำที่ลงท้ำยด้วย s, ss, sh, ch, o, หรือ x ให้เติม e ก่อนแล้วจึงเติม s เช่น
pass - passes = ผ่ำน
brush - brushes = แปรงฟัน
catch - catches = จับ
go - goes = ไป
box - boxes = ชก
2.กริยำที่ลงท้ำยด้วย y และหน้ำ y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น ie แล้วจึงเติม s
เช่น
cry - cries = ร้องไห้
fry - fries = ทอด
try - tries = พยำยำม
ข้อยกเว้น ถ้ำกริยำนั้นหน้ำ y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย เช่น
play - plays = เล่น
stay - stays = พัก
3. กริยาที่นอกเหนือจากที่กล่าวในข้อ 1 และ ข้อ 2 ให้เติม s
ได้เลย
3.1 ประโยค Present Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb 1 ing.
( ประธาน + is, am, are + กริยาช่อง 1 เติม ing.)
ตัวอย่าง 1. Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลับ )
2. I am playing football. ( ฉัน กาลังเล่น ฟุตบอล )
3. They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทัศน์ )
3.2 ประโยค Present Progressive Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Progressive Tense
ให้มีความหมาย เชิงปฏิเสธให้นา not มาเติมหลัง Verb to be ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + not + Verb 1 ing.
( ประธาน + is, am, are + not + กริยาช่อง 1 เติม ing. )
ตัวอย่าง : 1. Somchai is not ( isn’t ) sleeping. ( สมชายไม่ได้กาลังนอนหลับ )
2. I am not playing football. ( ฉันไม่ได้ กาลังเล่น ฟุตบอล )
3. They are not ( aren’t ) watching TV. ( พวกเขาไม่ได้กาลังดูโทรทัศน์ )
3.3 ประโยค Present Progressive Tense เชิงคาถามและการตอบ
เมื่อต้องกำรแต่งประโยคPresent Progressive Tense ให้มีควำมหมำย
เชิงคำถำมให้นำ Verb to be มำวำงไว้หน้ำประโยค
และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้
โครงสร้าง: Is, Am, Are + Subject + Verb 1 ing. ?
( Is, Am, Are +ประธำน + กริยำช่อง 1 เติม ing. ? )
ตัวอย่ำง : 1. Is Somchai sleeping ? ( สมชำยกำลังนอนหลับใช่หรือไม่ )
-Yes, he is . ( ใช่ เขำกำลังนอนหลับ)
-No, he isn’t. ( ไม่เขำไม่ได้กำลังนอนหลับ )
2. Are they studying English ? (พวกเขำกำลังเรียนภำษำอังกฤษใช่หรือไม่ )
-Yes, they are. ( ใช่พวกเขำกำลังเรียน )
-No, they aren’t . ( ไม่พวกเขำไม่ได้กำลังเรียน )
3. Am I playing football ? ( ฉัน กำลังเล่น ฟุตบอลใช่หรือไม่ )
-Yes, you are. ( ใช่คุณกำลังเล่นฟุตบอล)
-No, you aren’t . ( ไม่คุณไม่ได้กำลังเล่นฟุตบอล)
3.4 หลักการใช้ Present Progressive Tense
1. ใช้กับการกระทาที่กาลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เช่น
1. I am studying English . ( ฉันกาลังเรียน
ภาษาอังกฤษ )
2. Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลับ )
3. They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทัศน์ )
3.5 หลักการเติม ing ท้ายคากริยา
1. คำกริยำธรรมดำ ให้เติม ing ได้เลย เช่น
speak ( พูด ) - speaking
eat (กิน) - eating
2. คำกริยำที่มีพยำงค์เดียว มีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วเติม ing เช่น
sit ( นั่ง ) - sitting
run ( วิ่ง ) - running
3. คำกริยำที่ลงท้ำยด้วย e เพียงตัวเดียวให้ตัด e ทิ้งแล้วเติม ing เช่น
come ( มำ ) - coming
drive ( ขับรถ ) - driving
4. คำกริยำที่ลงท้ำยด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น
die ( ตำย ) - dying
lie ( นอน ) - lying
4.1 ประโยค Present Perfect Tense เชิงบอก
เล่า
โครงสร้าง : Subject + have , has + Verb 3
( ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3 )
ตัวอย่าง : 1. I have studied English for 5
years.( ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว )
2. He has lived in Bangkok since 1990.(
เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
4.2 ประโยค Present Perfect Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มี
ความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมี
โครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + have , has + not + Verb 3
( ประธาน + have , has + not + กริยาช่อง 3 )
ตัวอย่าง : 1. I have not studied English for 5 years.( ฉัน
เรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี )
2. He has not lived in Bangkok since 1990.( เขาไม่ได้
อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
4.3 ประโยค Present Perfect Tense เชิงคาถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย เชิงคาถามให้นา
Verb to have มาวางไว้หน้าประโยค
และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Have, Has + Subject + Verb 3 ?
(Have, Has + ประธาน + กริยาช่อง 3 ? )
ตัวอย่าง : 1.Have you studied English for 5 years ?( คุณเรียนภาษาอังกฤษมา
5 ปีแล้วใช่หรือไม่ )
-Yes, I have. ( ใช่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว )
-No, I haven’t. ( ไม่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี )
2. Has he lived in Bangkok since 1990 ?( เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ.
1990 ใช่หรือไม่ )
-Yes, he has. (ใช่ เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 )
-No, he hasn’t. ( ไม่ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
4.4 หลักการใช้ Present Perfect Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และ
เหตุการณ์นั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น
•Somchai has studied English for 5 years. ( สมชาย
เรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่ )
•I have worked in this company since 1990. ( ฉัน
ทางานในบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 1990 ขณะนี้ก็ยังทาอยู่ )
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เคยหรือไม่เคยทาในอดีต ซึ่งมิได้บ่งบอกเวลาที่
แน่นอนเอาไว้ และมักจะมีคาวิเศษณ์ คือ ever, never, once,
twice
มาใช้ร่วมเสมอ เช่น
- I have never seen him before. ( ฉันไม่เคยเห็นเข้ามาก่อน )
- Have you ever been abroad ?( คุณเคยไปต่างประเทศหรือ
เปล่า )
- She has been to Bangkok twice. ( หล่อนเคยไปกรุงเทพฯ 2
ครั้ง )
5.1 ประโยค Present Perfect
Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + have , has +
been + Verb 1 ing
( ประธาน + have , has + been + กริยา
ช่อง 1 เติม ing )
ตัวอย่าง : 1. He has been speaking
for 3 hours. ( เขาพูดมา 3 ชั่วโมงแล้ว )
2. They have been playing football
for 2 hours. ( เขาทั้งหลายเล่นฟุตบอลมา
2 ชั่วโมงแล้ว )
5.2 ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense ให้มี
ความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + have , has + not + been + Verb 1 ing
(ประธาน+have, has+not + been+ กริยาช่อง 1 เติม ing )
ตัวอย่าง : 1. He has not been speaking for 3 hours. ( เขาพูดมาไม่ถึง 3
ชั่วโมง )
2. They have not been playing football for 2 hours.( เขาทั้งหลายเล่น
ฟุตบอลมาไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
5.3 ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิง
คาถามและการตอบ
เมื่อต้องกำรแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense
ให้มีควำมหมำย เชิงคำถำมให้นำ Verb to have มำวำงไว้หน้ำประโยค
และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้
โครงสร้าง : Have , Has + Subject +been + Verb 1 ing
?
(Have, Has + ประธาน + been + กริยาช่อง 1 เติม ing ?)
ตัวอย่ำง :
1. Has he been speaking for 3 hours ?( เขำพูดมำตลอด 3 ชั่วโมงใช่หรือไม่ )
-Yes , he has. ( ใช่ เขำพูดมำตลอด 3 ชั่วโมง )
- No, he hasn’t . ( ไม่ เขำพูดมำไม่ถึง 3 ชั่วโมง )
2. Have they been playing football for 2 hours ?
( เขำทั้งหลำยเล่นฟุตบอลมำตลอด 2 ชั่วโมงใช่หรือไม่ )
- Yes, they have. ( ใช่ เขำเล่นมำตลอด 2 ชั่วโมง )
- No, they haven’t . (ไม่ เขำเล่นมำไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
5.4 หลักการใช้ Present Perfect Progressive Tense
1. ใช้กับกำรกระทำหรือเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องมำจนถึงปัจจุบัน
2. และจะดำเนินต่อไปอีกในอนำคต(Present Perfect Progressive
Tense ใช้เหมือน Present Perfect Tense
ต่ำงกันแต่เพียงว่ำPresent Perfect Progressive Tense เน้นควำมต่อเนื่องไปถึงอนำคต )
เช่น
Present Perfect Tense Present Perfect Progressive Tense
He has worked for 3 hours. He has been working for 3
hours.
ในประโยคนี้เขาทางานมาแล้ว 3
ชั่วโมง แต่ไม่ทราบว่าจะทาต่อไปอีก
หรือไม่
ในประโยคนี้เขาทางานมาแล้ว 3
ชั่วโมง และจะทาต่อไปอีก
Pre-test
Choose the best answer.
1. Can you help me? I _____ a post office.
A. am looking for
B. look for
C. am look for
D. looking for
2. Tomorrow the Queen _____ open a new hospital.
A. is going
B. willgoing to
C. is going to
D. willto
3. What _____? I work in a book shop.
A. are you doing
B. do you
C. are you do
D. do you do
4. Where _____ yesterday?
A. you was
B. are you
C. were you
D. did you were
5. _____ John last week?
A. Did you see
B. Did you saw
C. Do you see
D. Have you see
6. Last month he _____ three large fish.
A. catch
B. catched
C. caught
D. did catch
7. When we went in, they _____ to the radio.
A. listened
B. listening
C. were listening
D. were listen
8. I'm a teacher. I _____ a teacher for twelve
years.
A. was
B. have been
C. am
D. am being
9.. She has been there _____ a long time?
A. since
B. for
C. just
D. over
10. When _____ you go there last night.?
A. do
B. does
C. did
D. were
Tense by yuwadee wongnoi

More Related Content

What's hot

Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tenseRatty Krutae
 
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12หลักการใช้ Tense ทั้ง 12
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12Arnupab Srisen
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดpitukpong
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องNinew Koonvong
 
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษรู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษJane Suttida
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tenseNokena Na
 
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousสมใจ จันสุกสี
 

What's hot (19)

9.tense
9.tense9.tense
9.tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tense
 
Adverbs
AdverbsAdverbs
Adverbs
 
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12หลักการใช้ Tense ทั้ง 12
หลักการใช้ Tense ทั้ง 12
 
Present Perfect Simple vs Past SImple
Present Perfect Simple vs  Past SImplePresent Perfect Simple vs  Past SImple
Present Perfect Simple vs Past SImple
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมด
 
ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน1
ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน1ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน1
ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน1
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
 
Present continuous tense
Present continuous tensePresent continuous tense
Present continuous tense
 
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษรู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
 
ชุดกิจกรรมที่ 1
ชุดกิจกรรมที่  1ชุดกิจกรรมที่  1
ชุดกิจกรรมที่ 1
 
ใบความรู้เรื่อง past simple
ใบความรู้เรื่อง past simple ใบความรู้เรื่อง past simple
ใบความรู้เรื่อง past simple
 
Ba ch01 grammar
Ba ch01 grammarBa ch01 grammar
Ba ch01 grammar
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Verb to_..
Verb  to_..Verb  to_..
Verb to_..
 
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
 

Viewers also liked

ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน
ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีนขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน
ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีนพัน พัน
 
Regular and irregular verbs from song
Regular and irregular verbs from songRegular and irregular verbs from song
Regular and irregular verbs from songพัน พัน
 
Past perfect Tense & Past Simple Tense
Past perfect Tense & Past Simple TensePast perfect Tense & Past Simple Tense
Past perfect Tense & Past Simple Tenseพัน พัน
 
เนื้อเพลงYou needed me
เนื้อเพลงYou needed meเนื้อเพลงYou needed me
เนื้อเพลงYou needed meพัน พัน
 
การอ่านออกเสียง “一”
การอ่านออกเสียง “一”การอ่านออกเสียง “一”
การอ่านออกเสียง “一”พัน พัน
 
English project work
English project workEnglish project work
English project workparwaritfast
 

Viewers also liked (20)

ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน
ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีนขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน
ขีดพื้นฐานและการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
 
Greeting
GreetingGreeting
Greeting
 
First Condition Clause
First Condition ClauseFirst Condition Clause
First Condition Clause
 
Where, Free Time
Where, Free TimeWhere, Free Time
Where, Free Time
 
British & american english
British  &  american  englishBritish  &  american  english
British & american english
 
อาชีพ
อาชีพอาชีพ
อาชีพ
 
Poem
PoemPoem
Poem
 
Animal Camouflage
Animal Camouflage Animal Camouflage
Animal Camouflage
 
Ba ch01 grammar
Ba ch01 grammarBa ch01 grammar
Ba ch01 grammar
 
Regular and irregular verbs from song
Regular and irregular verbs from songRegular and irregular verbs from song
Regular and irregular verbs from song
 
Past perfect Tense & Past Simple Tense
Past perfect Tense & Past Simple TensePast perfect Tense & Past Simple Tense
Past perfect Tense & Past Simple Tense
 
เนื้อเพลงYou needed me
เนื้อเพลงYou needed meเนื้อเพลงYou needed me
เนื้อเพลงYou needed me
 
การอ่านออกเสียง “一”
การอ่านออกเสียง “一”การอ่านออกเสียง “一”
การอ่านออกเสียง “一”
 
Hotel conversation
Hotel conversationHotel conversation
Hotel conversation
 
Past tense in song
Past tense in songPast tense in song
Past tense in song
 
At the hospital
At the hospitalAt the hospital
At the hospital
 
Katakana kotoba card
Katakana kotoba cardKatakana kotoba card
Katakana kotoba card
 
HOW TO MAKE SANDWICH
HOW TO MAKE SANDWICHHOW TO MAKE SANDWICH
HOW TO MAKE SANDWICH
 
English project work
English project workEnglish project work
English project work
 

Similar to Tense by yuwadee wongnoi

รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2Rachata2190
 
Structer present continuous tense
Structer present continuous tenseStructer present continuous tense
Structer present continuous tenseparichartyommawan
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓vino_3026
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓vino_3026
 
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Nattharika Phumnum
 
12tenses
12tenses12tenses
12tensesmookpps
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tenseKtbcom Huso
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tenseKtbcom Huso
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tenseKtbcom Huso
 
การสอบถามข้อมูล Asking forinformations
การสอบถามข้อมูล Asking forinformationsการสอบถามข้อมูล Asking forinformations
การสอบถามข้อมูล Asking forinformationsPatrickpoo Nothing's Gonna Change
 

Similar to Tense by yuwadee wongnoi (20)

125314023903 81
125314023903 81125314023903 81
125314023903 81
 
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ 2
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Present Simple Tense
Present  Simple  TensePresent  Simple  Tense
Present Simple Tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Structer present continuous tense
Structer present continuous tenseStructer present continuous tense
Structer present continuous tense
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
 
12tenses
12tenses12tenses
12tenses
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tense
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tense
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tense
 
Past simple
Past simplePast simple
Past simple
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Present simple tense
Present simple tensePresent simple tense
Present simple tense
 
การสอบถามข้อมูล Asking forinformations
การสอบถามข้อมูล Asking forinformationsการสอบถามข้อมูล Asking forinformations
การสอบถามข้อมูล Asking forinformations
 

More from พัน พัน

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการพัน พัน
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีพัน พัน
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรพัน พัน
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยพัน พัน
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศพัน พัน
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้พัน พัน
 

More from พัน พัน (20)

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการ
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซี
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
การปริ้น
การปริ้นการปริ้น
การปริ้น
 
Office
OfficeOffice
Office
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
 
ยาเสพติด
ยาเสพติดยาเสพติด
ยาเสพติด
 

Tense by yuwadee wongnoi

  • 1.
  • 2. Pre-test Choose the best answer. 1. Can you help me? I _____ a post office. A. am looking for B. look for C. am look for D. looking for 2. Tomorrow the Queen _____ open a new hospital. A. is going B. willgoing to C. is going to D. willto 3. What _____? I work in a book shop. A. are you doing B. do you C. are you do D. do you do
  • 3. 4. Where _____ yesterday? A. you was B. are you C. were you D. did you were 5. _____ John last week? A. Did you see B. Did you saw C. Do you see D. Have you see 6. Last month he _____ three large fish. A. catch B. catched C. caught D. did catch
  • 4. 7. When we went in, they _____ to the radio. A. listened B. listening C. were listening D. were listen 8. I'm a teacher. I _____ a teacher for twelve years. A. was B. have been C. am D. am being
  • 5. 9.. She has been there _____ a long time? A. since B. for C. just D. over 10. When _____ you go there last night.? A. do B. does C. did D. were
  • 6. 1.1 ความหมายของ Tense Tense คือ รูปของคำกริยำที่บอกเวลำของกำรกระทำ ในภำษำอังกฤษกำรกระทำที่ เกิดขึ้นในเวลำที่แตกต่ำงกันจะใช้รูปของคำกริยำที่แตกต่ำงกัน เช่น 1. I am playing football now. ( ฉันกำลังเล่นฟุตบอล ) 2. I played football yesterday. ( ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวำนนี้ ) ในประโยคที่ 1 รูปของคำกริยำคือ am playing บอกให้รู้ว่ำกำรเล่นฟุตบอล กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดประโยคนี้ออกมำ ในประโยคที่ 2 รูปของคำกริยำคือ played บอกให้รู้ว่ำกำรเล่นฟุตบอลเกิดขึ้น เมื่อวำนนี้
  • 7. 1.2 ชนิดของ Tense Tense แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ 1. Present Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นปัจจุบัน 2. Past Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นอดีต 3. Future Tense ใช้กับกำรกระทำที่เป็นอนาคต แต่ละ Tense ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 Tense ย่อย จึงมี ทั้งหมด 12 Tense ดังนี้
  • 8. Present Tense Past Tense Future Tense 1. Present Simple Tense 1. Past Simple Tense 1. Future Simple Tense 2. Present Progressive Tense 2. Past Progressive Tense 2. Future Progressive Tense 3. Present Perfect Tense 3. Past Perfect Tense 3. Future Perfect Tense 4. Present Perfect Progressive Tense 4. Past Perfect Progressive Tense 4. Future Perfect Progressive Tense
  • 9. 2.1 ประโยค Present Simple Tense เชิงบอกเล่า โครงสร้าง : Subject + Verb 1 (s ) ( ประธาน + กริยาช่องที่ 1 ( s ) ) ( เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 หลังคากริยาจะต้องเติม s ) ตัวอย่าง : 1.I go to school by car. (ฉันไปโรงเรียนโดย รถยนต์) 2. He walks to school. ( เขาเดินไปโรงเรียน ) 3. You play football every day. ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวัน ) 4. Somsri and Somsak study English every day .( สมศรีและสมศักดิ์เรียนภาษาอังกฤษทุกวัน )
  • 10. 2.2 ประโยค Present Simple Tense เชิงปฏิเสธ เมื่อต้องกำรแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีควำมหมำยเชิงปฏิเสธ ทำได้ ด้วยกำรใช้ Verb to do มำช่วย มีหลักกำรใช้ดังนี้ do ใช้กับประธำนพหูพจน์ และ I กับ you does ใช้กับประธำนเอกพจน์ ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้ โครงสร้าง : Subject + do / does + not + Verb 1 ( ประธำน + do / does + not + กริยำช่องที่ 1 ) ตัวอย่ำง : 1. I do not ( don’t ) go to school by car. ( ฉันไม่ไปโรงเรียนโดย รถยนต์ ) 2. He does not ( doesn’t ) walk to school. ( เขำไม่เดินไปโรงเรียน ) 3. You do not play football every day. ( คุณไม่เล่นฟุตบอลทุกวัน ) 4. Somsri and Somsak do not study English every day .( สมศรี และสมศักดิ์ไม่เรียนภำษำอังกฤษทุกวัน ) ข้อสังเกต : เมื่อนำ does มำช่วยในประโยคแล้ว ต้องตัด s ออกด้วย
  • 11. 2.3 ประโยค Present Simple Tense เชิงคาถามและการตอบ เมื่อต้องกำรแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีควำมหมำยเชิงคำถำม ทำ ได้ด้วยกำรนำ do หรือ does มำวำงไว้หน้ำประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมี โครงสร้ำงของประโยคดังนี้ โครงสร้าง : Do / Does + Subject + Verb 1 ? ( Do / Does + ประธำน + กริยำช่องที่ 1 ) ตัวอย่ำง : 1. Does he walk to school ? (เขำเดินไปโรงเรียนใช่หรือไม่ ) -Yes, he does. ( ใช่ เขำเดินไปโรงเรียน ) -No, he doesn’t. ( ไม่ใช่ เขำไม่ได้เดินไปโรงเรียน ) 2. Do you play football every day ? ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวันใช่หรือไม่ ) -Yes, I do. ( ใช่ ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน ) -No, I don’t. ( ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เล่นฟุตบอลทุกวัน)
  • 12. 2.4 หลักการใช้ Present Simple Tense ใช้กับเหตุกำรณ์หรือกำรกระทำที่เป็นควำมจริงตลอดไปหรือเป็นควำมจริงตำมธรรมชำติ เช่น 1. The sun rises in the east.( พระอำทิตย์ขึ้นทำงทิศตะวันออก ) 2. Fire is hot. ( ไฟร้อน ) 2. ใช้กับกำรกระทำที่กระทำอยู่จนเป็นนิสัย มักจะมีกลุ่มคำที่มีควำมหมำยว่ำ เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ อยู่ด้วย เช่น I get up at six o’clock every day. ( ฉันตื่นนอนเวลำ 6 นำฬิกำทุกวัน ) He plays football every day. ( เขำเล่นฟุตบอลทุกวัน)
  • 13. 2.5 หลักการเติม s ที่คากริยา 1.กริยำที่ลงท้ำยด้วย s, ss, sh, ch, o, หรือ x ให้เติม e ก่อนแล้วจึงเติม s เช่น pass - passes = ผ่ำน brush - brushes = แปรงฟัน catch - catches = จับ go - goes = ไป box - boxes = ชก
  • 14. 2.กริยำที่ลงท้ำยด้วย y และหน้ำ y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น ie แล้วจึงเติม s เช่น cry - cries = ร้องไห้ fry - fries = ทอด try - tries = พยำยำม ข้อยกเว้น ถ้ำกริยำนั้นหน้ำ y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย เช่น play - plays = เล่น stay - stays = พัก 3. กริยาที่นอกเหนือจากที่กล่าวในข้อ 1 และ ข้อ 2 ให้เติม s ได้เลย
  • 15. 3.1 ประโยค Present Progressive Tense เชิงบอกเล่า โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb 1 ing. ( ประธาน + is, am, are + กริยาช่อง 1 เติม ing.) ตัวอย่าง 1. Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลับ ) 2. I am playing football. ( ฉัน กาลังเล่น ฟุตบอล ) 3. They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทัศน์ )
  • 16. 3.2 ประโยค Present Progressive Tense เชิงปฏิเสธ เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Progressive Tense ให้มีความหมาย เชิงปฏิเสธให้นา not มาเติมหลัง Verb to be ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้ โครงสร้าง: Subject + is, am, are + not + Verb 1 ing. ( ประธาน + is, am, are + not + กริยาช่อง 1 เติม ing. ) ตัวอย่าง : 1. Somchai is not ( isn’t ) sleeping. ( สมชายไม่ได้กาลังนอนหลับ ) 2. I am not playing football. ( ฉันไม่ได้ กาลังเล่น ฟุตบอล ) 3. They are not ( aren’t ) watching TV. ( พวกเขาไม่ได้กาลังดูโทรทัศน์ )
  • 17. 3.3 ประโยค Present Progressive Tense เชิงคาถามและการตอบ เมื่อต้องกำรแต่งประโยคPresent Progressive Tense ให้มีควำมหมำย เชิงคำถำมให้นำ Verb to be มำวำงไว้หน้ำประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้ โครงสร้าง: Is, Am, Are + Subject + Verb 1 ing. ? ( Is, Am, Are +ประธำน + กริยำช่อง 1 เติม ing. ? ) ตัวอย่ำง : 1. Is Somchai sleeping ? ( สมชำยกำลังนอนหลับใช่หรือไม่ ) -Yes, he is . ( ใช่ เขำกำลังนอนหลับ) -No, he isn’t. ( ไม่เขำไม่ได้กำลังนอนหลับ ) 2. Are they studying English ? (พวกเขำกำลังเรียนภำษำอังกฤษใช่หรือไม่ ) -Yes, they are. ( ใช่พวกเขำกำลังเรียน ) -No, they aren’t . ( ไม่พวกเขำไม่ได้กำลังเรียน ) 3. Am I playing football ? ( ฉัน กำลังเล่น ฟุตบอลใช่หรือไม่ ) -Yes, you are. ( ใช่คุณกำลังเล่นฟุตบอล) -No, you aren’t . ( ไม่คุณไม่ได้กำลังเล่นฟุตบอล)
  • 18. 3.4 หลักการใช้ Present Progressive Tense 1. ใช้กับการกระทาที่กาลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เช่น 1. I am studying English . ( ฉันกาลังเรียน ภาษาอังกฤษ ) 2. Somchai is sleeping. ( สมชายกาลังนอนหลับ ) 3. They are watching TV. ( พวกเขากาลังดูโทรทัศน์ )
  • 19. 3.5 หลักการเติม ing ท้ายคากริยา 1. คำกริยำธรรมดำ ให้เติม ing ได้เลย เช่น speak ( พูด ) - speaking eat (กิน) - eating 2. คำกริยำที่มีพยำงค์เดียว มีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วเติม ing เช่น sit ( นั่ง ) - sitting run ( วิ่ง ) - running 3. คำกริยำที่ลงท้ำยด้วย e เพียงตัวเดียวให้ตัด e ทิ้งแล้วเติม ing เช่น come ( มำ ) - coming drive ( ขับรถ ) - driving 4. คำกริยำที่ลงท้ำยด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น die ( ตำย ) - dying lie ( นอน ) - lying
  • 20. 4.1 ประโยค Present Perfect Tense เชิงบอก เล่า โครงสร้าง : Subject + have , has + Verb 3 ( ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3 ) ตัวอย่าง : 1. I have studied English for 5 years.( ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว ) 2. He has lived in Bangkok since 1990.( เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
  • 21. 4.2 ประโยค Present Perfect Tense เชิงปฏิเสธ เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มี ความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมี โครงสร้างดังนี้ โครงสร้าง : Subject + have , has + not + Verb 3 ( ประธาน + have , has + not + กริยาช่อง 3 ) ตัวอย่าง : 1. I have not studied English for 5 years.( ฉัน เรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี ) 2. He has not lived in Bangkok since 1990.( เขาไม่ได้ อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
  • 22. 4.3 ประโยค Present Perfect Tense เชิงคาถามและการตอบ เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย เชิงคาถามให้นา Verb to have มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้ โครงสร้าง : Have, Has + Subject + Verb 3 ? (Have, Has + ประธาน + กริยาช่อง 3 ? ) ตัวอย่าง : 1.Have you studied English for 5 years ?( คุณเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้วใช่หรือไม่ ) -Yes, I have. ( ใช่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว ) -No, I haven’t. ( ไม่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี ) 2. Has he lived in Bangkok since 1990 ?( เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ใช่หรือไม่ ) -Yes, he has. (ใช่ เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 ) -No, he hasn’t. ( ไม่ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
  • 23. 4.4 หลักการใช้ Present Perfect Tense 1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และ เหตุการณ์นั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น •Somchai has studied English for 5 years. ( สมชาย เรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่ ) •I have worked in this company since 1990. ( ฉัน ทางานในบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 1990 ขณะนี้ก็ยังทาอยู่ ) 2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เคยหรือไม่เคยทาในอดีต ซึ่งมิได้บ่งบอกเวลาที่ แน่นอนเอาไว้ และมักจะมีคาวิเศษณ์ คือ ever, never, once, twice มาใช้ร่วมเสมอ เช่น - I have never seen him before. ( ฉันไม่เคยเห็นเข้ามาก่อน ) - Have you ever been abroad ?( คุณเคยไปต่างประเทศหรือ เปล่า ) - She has been to Bangkok twice. ( หล่อนเคยไปกรุงเทพฯ 2 ครั้ง )
  • 24. 5.1 ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า โครงสร้าง : Subject + have , has + been + Verb 1 ing ( ประธาน + have , has + been + กริยา ช่อง 1 เติม ing ) ตัวอย่าง : 1. He has been speaking for 3 hours. ( เขาพูดมา 3 ชั่วโมงแล้ว ) 2. They have been playing football for 2 hours. ( เขาทั้งหลายเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว )
  • 25. 5.2 ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงปฏิเสธ เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense ให้มี ความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้ โครงสร้าง : Subject + have , has + not + been + Verb 1 ing (ประธาน+have, has+not + been+ กริยาช่อง 1 เติม ing ) ตัวอย่าง : 1. He has not been speaking for 3 hours. ( เขาพูดมาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ) 2. They have not been playing football for 2 hours.( เขาทั้งหลายเล่น ฟุตบอลมาไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
  • 26. 5.3 ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิง คาถามและการตอบ เมื่อต้องกำรแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense ให้มีควำมหมำย เชิงคำถำมให้นำ Verb to have มำวำงไว้หน้ำประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้ำงดังนี้ โครงสร้าง : Have , Has + Subject +been + Verb 1 ing ? (Have, Has + ประธาน + been + กริยาช่อง 1 เติม ing ?)
  • 27. ตัวอย่ำง : 1. Has he been speaking for 3 hours ?( เขำพูดมำตลอด 3 ชั่วโมงใช่หรือไม่ ) -Yes , he has. ( ใช่ เขำพูดมำตลอด 3 ชั่วโมง ) - No, he hasn’t . ( ไม่ เขำพูดมำไม่ถึง 3 ชั่วโมง ) 2. Have they been playing football for 2 hours ? ( เขำทั้งหลำยเล่นฟุตบอลมำตลอด 2 ชั่วโมงใช่หรือไม่ ) - Yes, they have. ( ใช่ เขำเล่นมำตลอด 2 ชั่วโมง ) - No, they haven’t . (ไม่ เขำเล่นมำไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
  • 28. 5.4 หลักการใช้ Present Perfect Progressive Tense 1. ใช้กับกำรกระทำหรือเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องมำจนถึงปัจจุบัน 2. และจะดำเนินต่อไปอีกในอนำคต(Present Perfect Progressive Tense ใช้เหมือน Present Perfect Tense ต่ำงกันแต่เพียงว่ำPresent Perfect Progressive Tense เน้นควำมต่อเนื่องไปถึงอนำคต ) เช่น
  • 29. Present Perfect Tense Present Perfect Progressive Tense He has worked for 3 hours. He has been working for 3 hours. ในประโยคนี้เขาทางานมาแล้ว 3 ชั่วโมง แต่ไม่ทราบว่าจะทาต่อไปอีก หรือไม่ ในประโยคนี้เขาทางานมาแล้ว 3 ชั่วโมง และจะทาต่อไปอีก
  • 30. Pre-test Choose the best answer. 1. Can you help me? I _____ a post office. A. am looking for B. look for C. am look for D. looking for 2. Tomorrow the Queen _____ open a new hospital. A. is going B. willgoing to C. is going to D. willto 3. What _____? I work in a book shop. A. are you doing B. do you C. are you do D. do you do
  • 31. 4. Where _____ yesterday? A. you was B. are you C. were you D. did you were 5. _____ John last week? A. Did you see B. Did you saw C. Do you see D. Have you see 6. Last month he _____ three large fish. A. catch B. catched C. caught D. did catch
  • 32. 7. When we went in, they _____ to the radio. A. listened B. listening C. were listening D. were listen 8. I'm a teacher. I _____ a teacher for twelve years. A. was B. have been C. am D. am being
  • 33. 9.. She has been there _____ a long time? A. since B. for C. just D. over 10. When _____ you go there last night.? A. do B. does C. did D. were