Present simple tense

1. Present Simple TensePresent Simple Tense
สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้น
มัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนอุดมดรุณี อำาเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
ปีการศึกษา 2553
นวัตถกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาอังกฤษพื้น
ฐาน 1

2. PRETEST:PRETEST: PresentPresent
Simple TenseSimple Tense
1. I sometimes __________ to school.1. I sometimes __________ to school. ((walkwalk,,
walkedwalked,, walkswalks))
2. My friend never __________ to school.2. My friend never __________ to school. ((
comecome,, comescomes,, camecame))
3. They usually ____________ basketball.3. They usually ____________ basketball. ((
playplay,, playsplays,, playedplayed) 4. He often) 4. He often
__________ tennis.__________ tennis. ((playplay,, playedplayed,, playsplays))
5. Sue rarely _________ coffee.5. Sue rarely _________ coffee. ((drinkdrink,, drankdrank
,, drinksdrinks))
6. My father and I always _______ my6. My father and I always _______ my
grandfather. (grandfather. (visitvisit,, visitsvisits,, visitedvisited))
7. Jimmy doesn’t ________ guitar.7. Jimmy doesn’t ________ guitar. ((likelike,,

3. การใช้ Present
Simple Tense
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิด
ขึ้นในปัจจุบัน

4. หลักการใช้
A. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความ
จริง สัจธรรม หรือ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
เช่น
-The sun rises in the
east and sets in

5. B. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจน
เป็นนิสัยในปัจจุบัน
และ Adverb of
Frequency (กริยาวิเศษณ์
บอกความถี่) เช่น always,
sometimes,
usually, etc. อยู่ใน
ประโยคด้วย เช่น
หลักการใช้

6. C:ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกิจวัตรประจำาวัน
และจะมี Adverb of
time (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น
every day, every week,
every ten minutes, etc. อยู่ใน
ประโยคด้วย เช่น
Moss’s father reads the
newspaper every day.
The bus leaves the terminal
every ten minutes.
หลักการใช้

7. Structure = Subject + verb 1 (s,es)
Examples Sunee goes to school
every weekday.
Jenny always drinks milk
before going to bed.
โครงสร้างประโยคบอกเล่า:
(Affirmative Sentence)

8. Structure = Subject +
does/do + not + verb1
(doesn’t/
don’t)
Examples Sunee doesn’t go
to school every
โครงสร้างประโยคปฏิเสธ:
(Negative Sentence)

9. แต่ถ้าประโยคไหนที่มี Verb to be ( is, am,
are) มาเป็นกริยามาในประโยค นักเรียนไม่
ต้องเอาเจ้า Verb to do (do, does) เข้ามา
ช่วยนะขอรับ เดี๋ยวมันจะวางมวย เอ้ย...จะผิด
เอานะครับ ให้นักเรียนเพียงเติม not หลัง
Verb to be (is, am, are) เท่านั้น เช่น
Moss is a policeman. ถ้าจะทำาเป็น
ประโยคปฏิเสธก็เพียงแค่เติม not เข้าไปหลัง
is ก็เป็น Moss is not a policeman. แค่
TipTip

10. Structure = Do / Does +
Subject + Verb1?
Examples Does Sunee go to
school every
weekday?
Does Jenny drink
โครงสร้างประโยคคำาถามโครงสร้างประโยคคำาถาม::
((Interrogative Sentence)Interrogative Sentence)

11. Examples Does Sunee go to
school every
weekday?
Yes, she does.
No, she doesn’t.
การตอบคำาถามใน Present
Simple Tense

12. มีข้อสำาคัญอีกประการหนึ่งที่นักเรียน
ควรใส่ใจในการเรียนรู้เรื่อง
Present Simple Tense คือ การ
ใช้กริยา
ให้สอดคล้องกับประธาน เพราะใน
Present Simple Tense นั้นจะมี
การเติม s, es ที่กริยาของประโยค
Tip

13. เขามีหลักการอยู่ว่า “ใน Present
Simple Tense ถ้าประธานเป็น
เอกพจน์ (Singular) บุรุษที่ 3
(Third Person) กริยาต้องเติม s
หรือ es แฮ่ ๆๆๆ นักเรียนอาจจะ
เริ่มมีมี ง. งู สองตัวซ้อน ( งง ) ใน
สมองกันแล้วล่ะซิ....เอ...อะไรคือ
Tip

14. Tip
Persons
(บุรุษ)
Singular
(เอกพจน์)
Plural (พหูพจน์)
First Person
(บุรุษที่
1)
I We
Second
Person
(บุรุษที่ 2)
You You
Third Person
(บุรุษที่ 3)
He
She
It
They

15. เมื่อดูจากตารางดังกล่าว นักเรียนจะเห็น
ว่าเจ้าบุรุษที่ 3 ที่ครูกล่าวถึงนั้นมีอยู่ 4
ตัวด้วยกัน คือ He, She, It และ They
แต่ตามหลักของการเติม s, es ที่กริยามี
อยู่ว่า “ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3
กริยาต้องเติม s, หรือ es” ดังนั้นเราจะ
เห็นว่า กฎเน้นที่ ประธานเอกพจน์ บุรุษ
Tip

16. Tip
I, We, You,
They
Verb 1
He, She, It
Verb 1 เติม
s, หรือ es

17. A. กริยาธรรมดา ให้เติม s ที่กริยา
ได้เลย เช่น
walk walks
ring rings
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

18. B: กริยาที่ลงท้ายด้วย ss, sh, ch, x, o
ให้เติม es ที่กริยา เช่น
pass passes
wash washes
watch watches
box boxes
go goes
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

19. C: กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็น
พยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es
เช่น
cry cries
try tries
fly flies
หลักในการเติม s และ es ที่กริย

20. D: คำากริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y
เป็น สระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ที่ท้าย
กริยาตัวนั้นได้เลย เช่น
stay stays
play plays
lay lays
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

21. always เสมอ ๆ
usually ตามปกติ
sometimes บางครั้ง.
บางเวลา
often บ่อย ๆ
generally โดยทั่วไป
seldom นาน ๆ ครั้ง,
Adverb of Frequency (กริยา
วิเศษณ์บอกความถี่)

22. every day (week, month, year)
ทุก ๆ วัน
(สัปดาห์, เดือน, ปี)
every hour ทุกชั่วโมง
once a day (week, month, year)
หนึ่งครั้งต่อวัน
(สัปดาห์, เดือน, ปี)
now and again ซำ้าแล้วซำ้า
Adverb of Time กริยาวิเศษณ์
บอกเวลา

23. POST TEST: PresentPOST TEST: Present
Simple TenseSimple Tense1. I sometimes __________ to school.1. I sometimes __________ to school. ((walkwalk,,
walkedwalked,, walkswalks))
2. My friend never __________ to school.2. My friend never __________ to school. ((
comecome,, comescomes,, camecame))
3. They usually ____________ basketball.3. They usually ____________ basketball. ((
playplay,, playsplays,, playedplayed))
4. He often __________ tennis.4. He often __________ tennis. ((playplay,, playedplayed,,
playsplays))
5. Sue rarely _________ coffee.5. Sue rarely _________ coffee. ((drinkdrink,, drankdrank,,
drinksdrinks))
6. My father and I always _______ my6. My father and I always _______ my
grandfather. (grandfather. (visitvisit,, visitsvisits,, visitedvisited))

24. สรุปการประเมิน
ถกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศ
เรื่อง Present Simple Tense
ลำาดั
บ
หัวข้อ
ระดับความพึงพอใจ
ดี
ปาน
กลาง
ควร
ปรับปรุง
1 เนื้อหาสาระ 69.44 %
25.92
%
4.62 %
2 การออกแบบ 54.62 %
28.70
%
16.66 %
3
ความเข้าใจใน
เนื้อหาสาระ
90.74 % 7.40 % 1.85 %
4 ความน่าสนใจ 73.14 % 16.66 10.18